A'Thousand the series รักวัยรุ่นพุ่งกระฉูด

10.0

เขียนโดย กระโปรงดำ

วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.00 น.

  2 ตอน
  5 วิจารณ์
  5,356 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 กันยายน พ.ศ. 2557 18.26 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) Need your fin (ต้องการ)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

(กรุณาอ่านตัวละครให้ครบก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ)จะมีตอนอยู่ 5 ตอน 5 ความรัก 

ความรักของคุณเป็นอย่างไร? ความรักที่คุณเข้าใจแตกต่างกันไหม?

นี่ไม่ใช่เรื่องราวของปัญหาวัยรุ่น แต่นี่เป็นเรื่องราวของความรักของวัยรุ่น

ความรัก..อาจจะเหมือนชีวิตคุณ มาพบกับ 5 เรื่องราวความรักที่แตกต่างกัน

ไม่แน่ความรักของคุณอาจจะตรงกับพวกเขาเหล่านี้

ตอนที่ 1 ต้องการ

พี่ทิวส์...

   เย็นวันนี้ก็เหมือนกับทุกๆครั้ง เสียงออดโรงเรียนดังขึ้นเหมือนเสียงจากสวรรค์ ว่าต้องทำภารกิจบางอย่าง ที่ทำแบบไม่เคยถูกจับได้ ในตอนเย็นมันเหมือนพิธีกรรมสารภาพบาป แต่ที่จะทำไม่ใช่การสารภาพในสิ่งที่ผิดแต่มันคือการบอกเรื่องที่กักเก็บภายในใจอย่างไม่อาจที่จะบอกใครได้

ฉันเดินหยุดหน้าห้องๆหนึ่ง ประตูสีครีมที่รอใครสักคนตอบมัน ฉันสูดลมหายใจเข้าไป

"ปังชอบ....."

"เฮี้ย!"

ฉันหันหน้าไปมองบุคคลที่ขัดจังหวะในการสารภาพของฉันเสียจริง

เด็กหนุ่มร่างสูงเดินเตะพื้นอย่างหงุดหงิดใจ เฮอะคงเฮิร์ทมาสิท่า

"ฉันมันไม่ดีตรงไหนว่ะแม่มเอ้ย!!!"

เด็กหนุ่มหน้าตาคมเข้มทิ้งตัวลงนั่งพิงกำแพง ฉันหันหน้ามองเขาอย่างตรงๆ 

"มองหน้าหาบะหมี่อะไร ไม่เห็นเหรอว่าคนกำลังอกหัก"

ฉันส่ายหัวอย่างหงุดหงิดแล้วหันมามองประตูที่วันนี้มันควรจะได้รับตำตอบจากหัวใจของฉันไม่ใช่หรือ ทำไมต้องมีคนๆนี้มาขัดจังหวะด้วย ฉันเดินหนีไปโดยไม่สนใจคนที่กำลังร้องห่มร้องไห้อ้อนวอนหาคนรักเก่า สมน้ำหน้าทีตอนคบล่ะไม่สนใจ!

อุ๊บ่ะ! ฉันลืมแนะนำตัวไปฉันชื่อ ปัง แค่ปังเฉยๆไม่มีเติมท้าย อย่าคิดจะเติมให้แก่ฉันเด็ดขาดดดด ส่วนอีตาที่นั่งร้องห่มร้องไห้เป็นชายรอรักคือ อีตาพี่ฟิวส์ น้องชายฝาแฝดของพี่ทิวส์คนที่ฉันแอบชอบอยูุ่ และประตูที่ฉันชอบมายืนพูดทุกวันเป็นประตูของห้องเรียนพี่ทิวส์ พี่ฟิวส์และพี่ทิวส์เรียนอยู่คนละห้องกัน จบเรื่องนี้ มาเข้าเรื่องของฉันอย่างจริงๆจังๆเลยดีกว่า

เพราะเรื่องนี้.....มาจากเค้าโครงจริงของชีวิต เชื่อเถอะฉันพูดจริง!

เรื่องของ เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เด็กผู้หญิงที่ขอให้ได้ความรักจากเขาคนนั้น...

  เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเตือน(เสียงหมาเห่า)ดัง เจ้าโดโด้เป็นสัตว์ที่เจ้าของรักมากที่สุด ปังลุกขึ้นหยิบแว่นตามาใส่แล้วมองกระจกจากโต๊เครื่องแป้งก่อนที่จะยิ้มออกมา

วันนี้สินะ...วันแรกที่ปังจะเข้าเรียนในระดับชั้นมอปลาย ตั้งแต่ปิดเทอมไปก็ไม่ได้เจอพี่ทิวส์เลย ตอนนี้พี่ทิวส์อยู่มอห้า เขาจะหล่อขึ้นหรือปล่านะ...

"ปัง! นี่มันเจ็ดโมงครึ่งแล้วนะ!!!"

อุ๊ไบ๊! นี่เจ็ดโมงครึ่ง ต้องไปโรงเรียนเช้าในวันแรกกว่าปกติมิใช่หรือ ปังรีบวิ่งเข้าห้องน้ำแต่งตัวแล้วรีบลงมานั่งโซฟาใส่ถุงเท้าอย่างรวดเร็ว เรียกได้ง่ายๆอย่างเห็นภาพว่ายิ่งกว่าคาบมันลงมาเชียว สาวน้อยผิวขาวผ่องลุกขึ้นคว้ากระเป๋านักเรียนแล้วเร่งฝีเท้ายัดลงรองเท้านักเรียนของรวดเร็ว

"ปัง..ลูกไม่ทาน..."

"ไม่ละค่ะแม่ ไว้ตอนเย็นแลวกันนะ!!!"

ปังวิ่งออกนอกบ้านไป แต่คงเดินไปโรงเรียนแบบปกติตอนมอต้นคงไม่ได้ จึงรีบกวักมือเรียกแท๊กซี่ไป เอาไงเอากันดีกว่าสายล่ะว่ะ! เงินไม่มีข้าวเที่ยงก็ไม่ต้องแด_(คำหยาบคายนะเค่อะ)

พอรถแท๊กซี่มาจอดหน้าโรเงรียน ปังรีบจ่ายเงินโดนไม่เอาเงินทอนก่อนที่จะวิ่งลงมาจากรถเข้าโรงเรียนอย่างรวดเร็วเพลงมาร์ชโรงเรียนดังขึ้นเตือนว่าได้เวลาเข้าแถว ปังยิ่งรีบวิ่งเพื่อจะไปถึงแถว โรงเรียนอยู่ด้านหน้า รอฉันก่อน รอฉัน รอฉ้านนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!

"เฮ้ย! เหี้_ทิวส์เมิงกลับมาเลยนะ!!!!"

ปั๊ก! อั๊ก! ตุบ! (เสียงแรกเสียงสิ่งของโดน เสียงที่สองเสียงเลือดแทบพุ่ง เสียงที่สามเสียงล้มลง)

ปังทรุดตัวลงแทบกับพื้น จะไม่ให้ล้มลงสลบคาที่ได้อย่างไรในเมื่อ รองเท้านันยางสีดำเบอร์อะไรไม่ทราบชื่อ แต่ทุกคนรู้ดีว่าคือเรียกสั้นๆว่า

"เชี่ย! ฟิวส์"

รองเท้าของฟิวส์ที่โยนใส่หมายจะให้โดนพี่ชายฝาแฝดตัวดีใครจะไปรู้เล่าว่าจะโดนคนอื่นแทน

ทิวส์วิ่งตรงเข้าไปพร้อมกับฟิวส์ เพื่อพยุงเด็กสาวให้ลุกขึ้นแต่สลบเช่นนี้ใครจะยืนได้ ปังยังคงงัวเงียแต่ก็เห็นเด็กหนุ่มทั้งสอง เพราะหัวโดนอัดเต็มๆจึงไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แต่ที่ปังรู้สึกได้อย่างเดียวคือ....

มันมีสี่มือ!

#ปัง เด็กมอสี่

ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้คนน่ารักอย่างฉันยังรอดชีวิตอยู่ อุต๊ะ! มโนแป๊บบบบ

"ตื่นแล้วเหรอ"

เสียงนุ่มทุ้มหน้าฟังเป็นเอกลักษณ์ของใครบางคนฉุดฉันให้ลืมตามองเขาช้าๆ ภาพด้านหน้าเริ่มชัดแต่ก็ยังมัว

"อ้อ..อ่ะนี่"

คนตรงหน้าหยิบอะไรบางอย่างมาสวมให้กับฉัน มันคงเป็นแว่นสินะ พอฉันสวมเสร็จภาพตรงหน้าก็ยิ่งชัดเจนเข้าไปใหญ่ ชัดมากกกกกกกกกกกกก ชัดยิ่งกว่าระบบ HD โอ้แม่เจ้า ใครจะไปรู้ว่า คนที่ฉันแอบปลื้ม จากปลื้มมาเป็นชอบ จากชอบมาเป็นรัก แอบรัก! จะมาอยู่ตรงหน้าฉัน เป็นใครก็ดีใจ หรือว่าไม่จริงล่ะ?

"ไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ"

"เขาถามว่าตื่นแล้วเหรอ ตอบคำตอบให้ตรงคำถามหน่อยเซ้!"

ฟิวฉันขาด เข้าใจไหมว่ามันฟิวลิ่งเยอะมันเป็นอย่างไร อีตานี่ยังกวนประสาทอยู่ได้ ฉันไม่คิดแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปมองด้วยซ้ำ ใครอยากจะไปมองเล่า ถึงหน้าเหมือนกนแต่ฉันก็แยกออกนะว่าใครเป็นใคร!

"ปังดีมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ ปังขอตัวกลับไปเรียนต่อนะคะ เดี๋ยวเรียนตามเพื่อนไม่ทัน"

"อื้อ..พูดถึงเพื่อนเมื่อกี้มีเพื่อนปังมาหา รู้สึกจะเป็นเด็กตัวเล็กๆ"

"อ้อ..ยัยก๊อบมั้งคะ งั้น..ปังขอตัวก่อนนะ"

ฉันลุกขึ้น แต่เพราะอาการยังมึนๆจึงเซล้มแต่ พี่ทิวส์ก็เข้ามาช่วย อ๊ายย ถึงไม่สบายแต่ก็ฝาดเรียบนะคะ (ไม่ใช่แล้ว อย่างคิดลึก)

"ไปไหวไหมเนี่ย ถ้าไม่ไหวพักในห้องพยาบาลนี้ก่อนก็ได้นะ พึ่งเก้าโมงเอง"

"ไม่เป็นไรค่ะ ปังไปเองไหว"

"ไหวจริงหรา"

หมอนี่มันจะกวนบาทาฉันอีกนานไหมเนี่ย -..- ฉันก็หงุดหงิดเป็นนะเฟ้ย

"ให้พี่ไปส่งที่ห้องไหม"

"ห้องไรอ่ะ?"

"ไอ้ฟิวส์...."

พี่ทิวส์หันหน้าไปข่มเสียงเข้มใส่เขา โดนเสียบ้างจะได้รู้วาพระเอกของฉันนั้น แข็งแกร่งแค่ไหน

"ไม่ดีกว่าค่ะพี่ทิวส์ ห้องเรียนปังอยู่อาคารนี้เอง"

"ไปได้จริงอ่ะ"

"จริงค่ะ"

"ปล่อยยัยคนเก่งไปเหอะ! เดี๋ยวตกลงบันไดมาแข้งขาหักโทษพวกฉันไม่ได้นะ ขนมปังปอนทอดกรอบไส้มะพร้าวววว"

ขอบคุณที่ตั้งชื่อให้ฉัน ถุ้ยยยย!!! มากค่ะ ตลกรึไงย่ะ ไอ้คนสองพิเรนเฉโป

พี่ทิวส์ยอมปล่อยแขนฉันแล้วปล่อยฉันเดินขึ้นบันได้เอง ก็แหมจะรั้งไว้หน่อยก็ไม่ได้ ไอ้เราถ้ายอมให้เขาไปส่งง่ายๆก็ไม่สมน้ำสมเนื้อสิคะ จริงป่ะ!

ฉันเดินจับราวขึ้นมาได้ถึงชั้นสองก็เกิดเวียนหัวขึ้นหรือเพราะเมื่อวานฉันพึ่งเป็นหวัดแล้ววันนี้ยังต้องมาโดนรองเท้านันยางอัดเข้ากลางหน้าผากอีก คิดแล้วเจ็บจี๊ด

พึ่บ! ในขณะที่ฉันกำลังล้มลงก็มีมือแข็งแกร่งฉุดฉันขึ้นมาแทบหน้าชนกัน

"เดินไม่ดี ระวังจะตกหลุมรักนะเตงงง"

ฉันรีบผละออกแต่ก็โดนจับแขนไว้แน่น
"จะแกล้งอะไรอีกล่ะเนี่ย"

"แกล้งๆเกลิ้งๆไร ไม่มี๊!"

แหม..เสียงสูงเลยนะย่ะ ไอ้แฝดนรกเจ้าเล่ห์

"จริเหรอออออ"

"เอ่อออออออออ"

ยาวกว่าด้วย 
"เดินคนเดียวแบบนี้เดี๋ยวก็ตกบันไดหรอก พี่ชายฉันอุส่าจะช่วยพามาส่งห้องก็ทำเป็นมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งซิ้งก่ะแบ๊วไปได้"

"แล้วตามมาทำไมเนี่ย"

"ก็ถ้าเกิดเธอตกบันไดไปทำไง ฉันก็ผิดนะ ผิดที่เอารองเท้...."

"หา.."

"ไม่มีไร"

พี่ฟิวส์ยังคงหันหน้าหนี คงอายล่ะสิถ้าที่ทำผิด แต่ก็ไม่เป็นไร ปังคนนี้อภัยให้ โฮ่ๆๆๆๆ

"แต่พี่ก็ตามมาช่วยนี่หน่า"

"ใช่ที่ไหนเล่า ไอ้ทิวส์มันขอต่างหากเพราะมันรีบไปเรียนศิลปะต่อ"

"แล้วพี่ไม่มีเรียนเหรอไง"

"มี..."

"......."

"แต่ไม่เรียน..จบปิ้งนะ!"

ค่ะ จบก็จบ... -..- 

 

ฉันสะพายกระเป๋าและเดินไปรวมที่มีล๊อกเกอร์ชั้นสาม เป็นของมอสี่ทั้งหมด ทำไมตอนเย็นมันโคตรวังเวงเลยว่ะ ฉันเปิดล๊อกเกอร์ดังแอ๊ดดด เสียงพัดลมในห้องหมุนส่งเสียงดังจรแสบแก้วหู ฉันมองรูปของพี่ทิวส์ที่ติดเต็มฝาล๊อกเกอร์ได้เห็นหน้าเขาในยามเปล่าเปลี่ยวแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

ปัง!

อะเฮือกกก ใครว่ะ ใครผู้ใด ฉันรีบหยิบสมุดจดการบ้านแล้วปิดล๊อกเกอร์แล้วเดินไปอย่างเร็ว

พรึ่บ! 

"กรี๊ดดดดดดดดดดดด"

ฉันแหกปากร้องวิ่งเมื่อไฟดวงหลังสุดปิดพรึ่บอย่างงไม่มีปี่มีขลุ่ย เดินเอามือปิดหูวิ่งออกไปจากห้องรวมอย่างรวดเร็วแตฺ่...

ในชนใครเข้าว่ะคะเนี่ยในใจขอให้เป็นพี่ทิวส์อีกหนึ่งใจก็ขอให้อย่าเป็นผี

"ว้าย!"

ทำไมเสียงสาวจังว่ะ แถมหน้าอกแม่ม นุ่มเหมือนหมอนที่บ้าน หรือยิ่งกว่าอีก

"เดินไม่ดูตาม้าตาเรือรึไงย่ะ"

ฉันลุกขึ้นจากหน้าอกของแคนดี้ ฉันปัดกระโปรงเล็กน้อย

"นี่เธอเองเหรอปัง หัดเดินให้มันตรงๆบ้างชนฉันไม่รู้หรือไงย่ะ"

"ฉันขอโทษจริงๆนะแคนดี้ คือไฟมันดับแล้ว...."

"อย่ามาแก้ตัวเลยนะ แล้วเมื่อเช้าอย่าคิดว่าฉันไม่เห็นนะ"

"เห็น....เห็นอะไร?"

ยัยนี่มันยังไง -..-"

"ก็เห็นเธอกับพี่ทิวส์ คิดว่าอ่อยแบบนั้นแล้วจะได้ง่ายๆเหรอ"

"เธอเลิกพูดว่าฉันเสียๆหายๆได้แล้ว"

"ฉันพูดความจริง! ถ้ายังหน้าหนาอยู่ล่ะก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน ต่อไปนี้ห้ามมายุ่งย่ามกับแฟนฉันอีก"

"แล้วทำไมฉันต้องเชื่อเธอด้วยเล่า!"

"แกกล้าเหรอปัง!!!"

แคนดี้ง้างมือขึ้น ฉันหลับตาแน่นใจเต้นพร้อมรับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นอีกไม่กี่วินาที

แม่จ๋าาาา ช่วยปังด้วยยยยย!!!

เพี๊ยะ!!!!!!

ยัยโรคจิตอกฟูตบหน้าจน....เอ๊ะ! ทำๆมหน้าฉันควรจะชาหรือไม่ก็เจ็บแปลบมิใช่หรือ แล้วเสียงเพี๊ยะเมื่อกี้แคนดี้คงไม่ตบหน้าตัวเองหรอกนะ แล้วใครว่ะ

"ซี้ดดดดด อะโอ้ย"

ฉันลืมตาดูผู้รับกรรมแทนฉันแค่มองด้านหลังฉันก็รู้ว่าใคร แต่พอพูดเท่านั้นแหละรู้เลย

"เล่นแรงนะแคนดี้"

"พี่ฟิวส์ แคนดี้ขอโทษ แคนดี้ไม่ได้ตั้งใจ แคนดี้ขอโทษจริงๆ"

ฉันยืนอึ้งนิ่งกัดปากมองดูพี่ฟิวส์ที่หน้าด้านขวาแดงแปลบ เห็นแล้วเจ็บจริงๆ 

"คือแคนดี้แค่จะสั่งสอนยัยปังเท่านั้นเอง แล้ว..."

"พี่ไม่บอกทิวส์หรอกน่า"

แคนดี้ทำหน้าตาไม่ถูก แต่พี่ฟิวส์ก็ไม่ถือสาเขาใช้นิ้วโป้งปาดคราบเลือดที่มุมปากตัวเองออกแล้วจับแขนฉันลากออกมาจากจุดนั้น โดนลากไม่ใช่เลือกตลกเลยนะ ไม่เหมทอนในหนังที่พระเอกลากนางเอก แต่มันเหมือนลากกระเป๋าเดินทางมากกว่า 

ว่าแต่พี่แกเขาลากฉันมาเพื่อ?

"เดี๋ยวๆพี่ฟิวส์พี่จะไป..."

ตุบ! ฉันหน้าชนแผ่นหลังกว้างๆของพี่ฟิวส์อย่างแรง ก็เจ้าตัวเล่นหยุดไม่บอกกล่าวประชาชีนี่คะ -..-

ฉันทิ่งให้หน้าแนบชนอยู่ที่หลังอย่างนิ่งๆ กลิ่นไอซ์บลูมิ้นแตะจมูกฉันแทบกลายเป็นน้ำแข็งให้ได้

"ขอโทษนะ..."

"หืม.."

"ที่ลากเธอออกมาแบบนี้"

ฉันเงียบสักพักหรือเพราะพี่ฟิวส์ไม่อยากเจอแคนดี้นะถึงได้ลากฉันออกมาแบบนี้ ฉันเอื้อมมือไปแกะมือของพี่ฟิวส์ที่กำแขนฉันอีกข้างอยู่แล้วเดินอ้อมมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา

พี่ฟิวส์ไม่แม้แต่จะสบตาหรือมองฉันด้วยซ้ำ

"พี่ฟิวส์..."

"......"

"ขอบคุณนะ"

"เรื่องอะไร?"

"ก็เรื่อง...ที่เอาหน้ามารับแทนไง"

ฉันพูดแล้วใช้นิ้วไปจิ้มที่หน้าด้านขวาของเขา ที่พึ่งโดนตบมาหมาดๆ

"ดูก็รู้ว่าเจ็บแดงซะขนาดนั้นถ้าพี่ฟิวส์ไม่เอาหน้ามารับกรรมไม่รู้ป่านนี้หน้าของปังแหกพอดี"

"บ้าน่าแค่บังเอิญเท่านั้นเอง"

"หราาาาาาาา"

"เอ่ออออออ"

"เขินก็บอกดิ กิ้วๆ"

"เฮ้ย! พูดบ้าไรใครเขินไม่มี๊โว้ย"

"เนะๆเสียงสูงเชียวนะ"

"สูงๆเสียวๆไร จะกลับบ้านแล้วเดี๋ยวแม่ด่า"

พี่ฟิวส์เดินเอามือลูบแก้มแล้ววิ่ออกไปหน้าตาเฉย ฉันมองตามแล้วก็เผลออดยิ้มไปไม่ได้คนอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้จักยอมรับความจริง..เอ๊ะ! ฉันพูดไรเนี่ย บ้าๆๆๆๆ

 

 

     อรุณสวัสดิ์แสงอาทิตย์ วันนี้ฉันตื่นเช้าผิดปกติ ก็ได้ข่าวว่าพี่ทิวส์ไปโรงเรียนเช้าฉันก็อยากมีโมเม้นไปโรงเรียนด้วยไรงี้ (เหรอ) แต่ก็ชั่งเหอะ ต่อให้ตื่นเช้าแค่ไหน ก็ไปไม่ทันพี่ทิวส์อยู่ดี ไม่รู้จะไปเช้าไก่โห่อะไรนักหนา แต่ถึงยังงั้นก็เถอะค่ะฉันก็ต้องแอบไปวนเวียนอยู่รอบๆชุมชุมเปียโนอยู่ดีขอแค่ไปทำตัวเด่นให้พี่ทิวส์เห็นก็ดีใจแทบตายแล้ว ส่วนข้ออ้างน่ะหรือ ฉันก็อ้างว่าไปหายัยก๊อบสิจะไปยากไร อ้อ!อยากบอกว่าบ้านยัยนี่ขายน้ำเต้าหู้อร่อยมากกกกก (รู้สึกว่าจะนอกเรื่อง)

ปา ปา ปา ปา ปู้ววววว!!!

แค่ฉันย่างก้าวเข้าไปกลิ่นไอของความหน้าตาดีก็เกิด ชุมนุมนี้มีแต่คนหน้าตาดีรึไงย่ะ ถ้าฉันเป็น ผ.อ จะเปลี่ยนชุมนุม ไอดอลคลับ เสียนี่

"ปังแมนนนนนน!!!"

อะเฮือก -..- จะเรียกครั้งหนึ่งไม่ปรึกษาฉันเลยหรือไงย่ะ พี่ทิวส์เขาเห็นฉันแล้ว เฮอะ! เห็นก็ดีฉันก็ต้องการแบบนั้นอยู่แล้วนี่

"พี่ทิวส์!!!"

ใครอีกว่ะ คงไม่มีใครนอกจากยัยอกฟูนั่น เจ้าหล่อนเดินชนไหล่ฉันแล้วไปนั่งข้างๆพี่ทิวส์

"แคนดี้ซื้อปาท่องโก๋มากฝากพี่ทิวส์ด้วยค่ะ"

ก๊อบเดินมาข้างๆฉันแล้วยืนมองหน้าแคนดี้

"มองไรยัยก๊อบ ฉันไม่ไปซื้อปาท่องโก๊ร้านอาแปะของแกหรอกย่า เค็มจะตายยยย"

"นี่แกด่าปาท่องโก๋ร้านอาแปะของฉันเหรอ"

"แล้วทำไมล่ะ"

"เธอนี่มันจริงๆเลยนะด่าคนอื่นเขาไปทั่ว แล้วยังมาชนไหล่เพื่อนฉันแล้วยังไม่ขอโทษอีก"

"แล้วจะทำไมย่ะ! ก็อยากเดินขวางทางเองช่วยไม่ได้"

"นี่!"

ก๊อบทำท่าจะเข้าไปสั่งสอนยัยปากร้ายแต่ฉันก็ดึงแขนไว้ซะก่อน แม่พระเข้าไว้ปัง

"แคนดี้พี่ว่าเรา...."

ยังไม่ทันที่พี่ทิวส์จะพูดจบแคนดี้ก็ จับหน้าของพี่ทิวส์ก่อนที่จะประทับจูบอันหอมหวานลงบนแก้มของเขาอย่างไม่มีปี่มี่ขลุ่ยซะล้อ ซอซึงที่ไหน วินาทีนั้นใจของฉันเหมือนหลุดออกจากทรวงอกไปชั่วขณะ

"แคน.."

ก๊อบกำลังจะพูดออกมาแต่ฉันคว้าแขนแล้วดึงออกมา

"แก..กลับเหอะ!"

ฉันพูดเสียงสั่นแล้วลากก๊อบออกมา ตอนแรกยัยเตี้ยเป็นคนโดนฉันลากนะแต่เอาไปเอามาฉันเป็นคนถูกลากแทน ก๊อบจับมือฉันเดินมาที่โรงอาหารซึ่งไม่ค่อยมีคนในตอนเช้าสักเท่าไร

"แกโอเคไหมอ่ะปัง"

ฉันเม้มปากเข้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาสุดท้ายฉันก็ปล่อยหน้าตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

"แก..."

ฉังพยักหน้าว่าโอเคแต่ใบหน้ามันฟ้องออกมาอย่างนั้น ก๊อบจับมือฉันสองข้างไว้มั่น

"ใจเย็นๆนะแก"

"ก๊อบ.."

ฉันโผเข้ากอดเพื่อนรักแน่นแล้วร้องไห้ออกมาไม่หยุดเสียงร้องไห้ของฉันมันดังจนแทบไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงของตัวเอง

"ฮื่อออออออออออออออออออ ฮึกๆ ฮื่อออออออออ" (ร้องแบบโคตรๆอ่ะ)

"ไม่เป็นไรปัง.."

ก๊อบพูดไปด้วยลูบหัวฉันไปด้วย

"ฉะ..ฉันไม่เสีย..ใจ..ละ..เลย แก..ฉันไม่...สะ..เสียใจเลยย ฮื่อออออออออ"

"ห่ะ" = =

"ฉัน.."

ฉันผละออกมาจาก๊อบแล้วเอามือถอดแแว่นพร้อมกับปาดน้ำตาออก

"ฉัน..ไม่..เสียใจเลยแม้แต่นิดเลยแก..ไม่เสียใจจริงๆนะ"

"อ่าๆ ไม่เสียใจก็ไม่เสียใจ ร้องไห้ซะขนาดเนี่ยยย"

ก๊อบพูดแล้วเอามือมาจับแก้มฉันส่ายไปมา

"เลิกร้องได้แล้วเพื่อนปัง..เดี๋ยวไม่สวยนะคะ"

ฉันยิ้มออกมาแล้วพยักหน้ารับช้าๆ 

 

 

   สวัสดีความเหงา สวัสดีต้นไม้ สวัสดีท้อฟ้า นี่ฉันทักมายไปมั่วแล้วใช่ไหม สวัสดีตอนเย็น ส่วนเพื่อนๆอันเป็นที่รักของฉันทั้งหลายก็ไปดีด้าอยู่สยามกันหมด ทิ้งฉันไว้คนเดียวความจริงไม่ได้ทิ้งหรอก ฉันเลือกที่จะไม่ไปเองแหละ

 "ปัง..."

ฉันเงยหน้ามองคนตัวสูงที่ยืนโด่วอยูตรงกลางข้างๆมีกัปตันและเบสยืนควบอยู่ มาได้เวลาเสียจริงๆ

"เฮ้ย...พี่ทิวส์งั้นผมกับพี่เบสไปก่อนนะพอดีมีเรียนพิเศษต่อที่สยามอ่ะ"

พี่ทิวส์พยักหน้ารับน้อยๆก่อนที่สองคนจะวิ่งไปปล่อยฉันทิ้งไว้กับพี่ทิวส์ มันอึดอัดนะโว้ยแบบนี้

"ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ"

ฉันลุกขึ้นสะพายกระเป๋า

"กำลังจะกลับค่ะ"

ฉันเดินหนีแต่พี่ทิวส์คว้าแขนไว้ก่อน ฉันเม้มปากเข้านิ่งๆ อย่าร้องไห้ออกมาเชียวนะยัยปัง!

"เดี๋ยวปัง"

"พี่ทิวส์มีอะไรอีกหรือเปล่าคะ"

"เรื่องเมื่อเช้า..พี่อธิบายได้นะ"

"พี่ทิวส์ไม่เห็นจะต้องอธิบายให้ปังฟังเลย ปังไม่ได้สำคัญขนาดนั้นแล้วอีกอย่างพี่ทิวส์ปล่อยปังเถอะค่ะถ้าแคนดี้มาเห็นเข้าเดี๋ยวจะหาว่าปังแย่งแฟนชาวบ้านอีก"

"ปัง..."

"ปังขอตัวก่อนนะคะ"

ฉันแกะมือพี่ทิวส์ออกทั้งที่ไม่หันหน้ามองไปหาพี่เขาด้วยซ้ำ แล้วรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นทั้งที่น้ำตามันไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ฉันเอามือปาดน้ำตาออก ฉันไม่น่าเกิดมาเจอพี่ทิวส์ด้วยซ้ำไป!

   ยังไม่ทันที่จะเดินถึงบ้านฝนก็เทลงมา ฉันรบวิ่งเข้าไปหลบฝนในตู้โทรศัพท์ข้างเซเว่่นอย่างรวดเร็ว ว่าแต่..ทำไมฉันไม่เข้าเซเว่นแทนว่ะคะ - -

"ร้อนก็ร้อนฝนยังมาตกอีกฮุ้ย!"

ฉันสะดุ้งเงยหน้าไปมองบุคคลที่สองที่เข้ามาหลบฝนด้วย นี่ก็อีกคนเซเว่นมีให้เข้าไม่เข้า

"โธ่เว้ย!ทำไมวันนี้มันซวยจังว่ะ!"

ฉันตะโกนออกมาอย่างไม่ต้องมีใครสั่ง คนนิรานามสะดุ้งโหยงหันหน้ามามองฉัน

"ฮื่ออออออออออออออออออออออออออออออออ"

"เฮ้ย! ใจเย็นๆ"

ฉันมองหน้าคนตรงหน้าอย่างตรงๆ 

"นี่เธอเองเหรอยัยขนมปังไส้มะพร้าว"

"ฮื่อออออออออออออออ"

เดี๋ยวๆอย่าพึ่งร้องเซ้! แล้วทำไมมาร้องห่มร้องไห้ในนี้เนี่ยแม่คู๊นนนน!!"

"ไม่รู้อ่ะ! อยากร้อง! เข้าใจว่ามันอึดอัด อึดอัด!"

ฉันไม่รอให้พี่ฟิวส์ ก็ไปคว้าชายเสื้อนักเรียนเขามา

ปึ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!

O O <<< เขา

-,.- <<< ฉัน

"เสื้อฉ้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!"

"คะ..คือไม่ได้ตั้งใจอ่าาา"

"เธอสั่งน้ำมูกใส่เสื้อฉันยัยคนใจร้าย"

ห่ะ = = ใจร้าย

"ก็ปังไม่ได้ตั้งใจอ่ะ" 

ตืดดด ตืดดดด ฉันเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเห็นว่าเป็นเยอร์แม่จึงรับอย่างรวดเร็ว

"ฮัลโลค่ะแม่....ห่ะ!แม่ว่าอะไรนะ เดี๋ยวปังจะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ"

(ปัง..แต่ฝนมันยังตกอยู่นะลูก)

"ชั่งมันเถอะค่ะ!"

(ปัง...ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆ)

ฉันรีบวางสายไป เพราะอะไรฉันจะอยู่เฉยได้ก็เจ้าโดโด้หมาสุดรักของฉันมันหายไป ฉันรักมันมาก มันเป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวเลยก็ว่าได้

ฉันมองหน้าพี่ฟิวส์ที่ยืนขยี้เสื้อกับน้ำฝนที่หยดลงมา เขามองหน้าฉันอย่าง งงๆแล้วเลิกคิ้วขึ้น

"เธอมองหน้าฉันทำไมเนี่ย"

ฉันสูดลมหายใจเข้าแล้วเปิดตู้โทรศัพท์วิ่งฝ่าฝนออกไป

"เฮ้ย!ปังเธอจะไหนน่ะ!"

ฉันวิ่งออกมาอย่างไม่ฟังใครทั้งสิ้น 

"เดี๋ยวปัง! ปัง!"

พี่ฟิวส์มาดักหน้าฉันทั้งที่ฝนตกลงมาจนทำให้มองอะไรไม่ชัด

"พี่ตามปังมาทำไม"

"ก็ใครจะไปรู้เล่าอยู่ดีๆก็วิ่งออกมาแบบนี้ กลับไปที่ร่มเลยนะเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก"

"หมาปังหายไปทั้งทีจะให้ปังอยู่เฉยเหรอ"

"ก็แค่หมาอ่ะ"

"พี่ไม่เคยเลี้ยงหมาจะไปรู้ได้ยังไง"

ฉันตะโกนแข่งฝนที่ตกลงมาจนร่างเปียกยิ่งกว่าดำน้ำเสียอีก ฉันเดินชนไหล่พี่ฟิวส์ไป

"เดี๋ยว! ถ้าปังจะตามหามันอ่ะ พี่ช่วยด้วยก็ได้"

ฉันเดินนำเขาไปตามหามันต่อให้ยากแค่ไหนก็จะตามหามัน โดโด้อย่าเป็นอะไรนะ!

 

 

 

  ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้กีโมงกี่ยามแต่ฝนพึ่งตกไปหมาด แสงอาทิตย์เริ่มตกดิน รุ้งกินน้ำทอเป็นเส้นทางยาวแต่ฉันไม่มีเวลามาชื่นชมพิงไหล่ดูนักหรอก ตอนนี้หามาในหมู่บ้านที่ฉันอยู่มันคงอยู่แถวๆนี้แหละ

"ปัง!"

"หา!"

"หาโดโด้เจอแล้ว"

ฉันหันหน้าไปหาพี่ฟิวส์ที่อุ้มหมาสีขาวที่แปดเปื้อนไปด้วยโคลน 

"โดโด้!"

ฉันวิ่งเข้าไปจะอุ้มมันแต่พี่ฟิวส์ยกมันสูงขึ้น

"เฮ้ย!เดี๋ยวเสื้อก็เปื้อนหรอก"

"นี่ยังไม่เื้อนอีกเหรอทั้งเปียกทั้งค้านสารพัดแล้วเนี่ย"

"รีบพามันกลับบ้านดีกว่าบ้านปังอยู่ในหมู่บ้านนี้ไม่ใช่เหรอ"

"ก็ได้..."

ฉันกับพี่ฟิวส์เดินพาเจ้าโดโด้กลับมา พอแม่เปิดประตูบ้านปุ๊บ ก็แทบเป็นลมพับ

"สวัสดีครับ"

"จ๊ะ...ปังทำไมเปียกแบบนี้แม่บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วเรายิ่งไม่สบายง่ายๆอยู่ด้วย"

"เถอะน่าแม่กินยาเดี๋ยวก็หาย"

"ผมกับปังเจอโดโด้แล้วนะครับ"

"ขอบคุณมากเลยนะจ๊ะ ปังชวนพี่เขาเข้าบ้านก่อนสิ"

"ไม่ดีกว่าครับตัวเปียกแบบนี้เดี๋ยวรีบกลับบ้านไปอาบน้ำดีกว่า กลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ"

"จ๊ะๆ โชคดีนะกลับดีๆ ยัยปัง.."

"ค่า..."

"ไปส่งพี่เขาหน้าบ้านเร็วๆ เดี๋ยวแม่เอาโดโด้ไปอาบน้ำก่อน"

"ค่า..."

แม่รับเจ้ามาหลงทางเข้าบ้านไป ปล่อยฉันฉันไปยืนส่งพี่ฟิวส์ที่หน้ารั้วบ้าน

"ขอบคุณพี่ฟิวส์มากนะที่...ช่วยปังตามหาโดโด้วันเนี่ย"

"ไม่เป็นไรที่หลังก็อย่าคิดอะไรตื้นๆมาวิ่งฝ่าฝนอีกล่ะ"

"รู้แล้วน่าาา"

พี่ฟิวส์ถอนหายใจแล้วก็ยิ้มออกมา

"กลับบ้านดีๆนะ"

"อื้ม! เดี๋ยวโทรให้ไอทิวส์มารับหน้าหมู่บ้าน"

ฉันพยักหน้าแล้วเดินเข้าบ้านปิดรั้วไป

"เอ้อ!ปัง..."

"......"

"รีบอาบน้ำนะเดี๋ยวไม่สบาย"

ฉันพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปบ้าน ทำไมใจมันเต้นแบบนี้ว่ะคะ -..-

 

 

 

"ฮั๊ดชิ่ววววววววว!!!!"

"เห็นไหมแม่บอกแล้วว่าอย่าตากฝนก็ไม่เชื่อผลออกมาเป็นไข้แบบนี้"

"แม่ไปทำงานเถอะค่ะไม่ต้องห่วงปัง"

"ก็เราเป็นซะแบบนี้จะให้แม่เชื่อใจได้ยังไงว่าเราจะดูแลตัวเองได้แล้วนี่แม่ก็ฝากให้เพื่อนๆลูกอยู่เป็นเพื่อนในสองสามวันที่แม่ไม่อยู่เนี่ยแม่โทรไปบอกพ่อแม่ก๊อบ ป้ายแล้วก็ตูนณ์แล้วนะ"

ฉันพยักหน้าแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำมูกออกฉันนี่มันอุบาจที่สุดเลย แม่เดินไปรินเหยือกน้ำลงในแก้วก่อนที่จะยื่นยากับน้ำให้ฉัน

"กินซะเดี๋ยวแม่จะไปแล้วนะลูกอยู่คนเดียวปิดบ้านด้วยอย่าเปิดให้ใครเข้ามาเข้าใจไหมปัง...."

"เข้าใจค่ะแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงปังนะคะเดี๋ยวตอนเย็นๆปังก็มีพวกยัยก๊อบมาเฝ้าแล้ว"

"แม่ค่อยหมดห่วงหน่อยดูแลตัวเองดีๆนะ"

"ค่าาาาหวัดดีค่ะแม่"

"จ๊ะๆ"

แม่เดินออกบ้านแล้วขับรถออกไปฉันปิดรั้วบ้านแล้วโบกไม้โบกมือให้ก่อนที่ตะหันหลังกลับเข้าไปอย่าลืมล๊อกประตูแม่บอกกกกก

 

ครืนนนนนนนนน! ฉันลืมตาขึ้นแล้วขยี้ตาใครมันมาทำอะไรแถวนี้ว่ะฉันเดินเปิดระตูห้องนอนออกแล้วเดินลงไปชั้นล่าง

โครม!!!!! ฮึ่ย! ไผผู้ใดเนะ เอ่ยหรือว่าจะเป็นขโมยพอคิดได้ดั่งนั้นฉันรีบวิ่งไปที่ข้างบันได้คว้าเอาร่มในตะกร้าออกมา ความจริงทำไมฉันไม่ไปในห้องครัวเพื่อเอามีด -..-

ตุ๊บ! เฮ้ย! ฉันรีบย่องไปที่ด้านหลังใช่แน่ๆ เสียงมันมากจากห้องครัว ฉันค่อยก้าวไปอย่างช้าๆแล้วพุ่งตัวเข้าไปในห้องครัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับ

"แกเป็นใครว่ะ!!!!"

ฉันใช้ร่มฟาดเข้าไปที่ร่างของขโมยไม่ยั้งๆ 

"เฮ้ย! ปัง ปัง! ปัง! นี่พี่เอง!"

"อย่าคิดจะหลอกฉันนะ ฉันไม่มีพี่โว้ยยยยย!!!"

"พี่เอง! ปังฟังก่อนเซ้!!!"

ฉันหยุดตีร่มแล้วมองหน้าที่นอนกองกับพื้นแล้วขยี้ตาเพื่อให้เห็นชัดๆ

"พี่...พี่ทิวส์!!"

"เจ็บนะเนี่ยยยย"

"ปังขอโทษค่ะ!"

ฉันถลาเข้าพยุงพี่ทิวส์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทำไมฉันมันแย่แบบนี้นะ! โมโหตัวเองเป็นบ้า

"ปังไม่ได้ตั้งใจอ่ะ นึกว่าเป็นขโมยเลยฟาดไปซะขนาดนั้นอ่ะ"

"นี่ถ้าปังใช้มีดพี่ไม่ไปเฝ้าพระอินท์เลยหรอไง"

"บ้า!"

ฉันตีเข้าที่แขนพี่ทิวส์

"โอ้ย!"

"อ๊ายยยปังขอโทษษษษ"

"พอๆพี่ไม่เจ็บหรอกแค่แกล้งไปเท่านั้นเอง"

ฉันเบ้ปากออกมาอย่างหมั่นไส้ ผู้ชายอะไรแกล้งได้แกล้งดี!
"แล้ว...พี่ทิวส์ทำไงมาเนี่ยวันนีี้วันอังคารนะมีเรียนไม่ใช่เหรอ"

"ก็พี่เป็นห่วงปังอ่ะ เห็นว่าอยู่คนเดียวเลยโดดเรียนมา"

"แหม...ปังไม่ได้สำคัญซะขนาดนั้นนี่คะ"

"ถ้าไม่สำคัญพี่จะมาทำไมล่ะ"

อุ๊ต๊ะ! คมเฉียบบบ เราสองคนนิ่งเงียบจนได้ยินแต่เสียงนกและเสียงลมหายใจ ฉันมองตาพี่ทิวส์ที่แสนอบอุ่น อย่ามองฉันแบบนั้นนะ! ใจแม่เจ้าโว้ยจะละลายยย

"เฮ้ย!"

"หา!"

"ฮ่าๆๆๆๆ เหม่ออะไรเนี่ย"

"เปล่าาาา"

ฉันหลบหน้าหันออกไปทางอื่น ก็คนมันเขินนี่หน่าคนที่แอบชอบมานานนับปีมาทำให้หวั่นไหวแบบนี้มีหรือคะจะไม่ใจเต้น เป็นไปไม่ได้! อิมพอสสิเบิ้ล! 

"ปังหิวหรือยัง"

"ก็หิวนะแต่ไม่รู้จะกินไรอ่ะ"

"นี่..มานี่"

พี่ทิวส์ดันหลังฉันให้ไปนั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วกำชับฉันอย่างแน่นหนา

"อย่าไปไหนนั่งอยู่ตรงนี้เดี๋ยวพี่มา"

"พี่ทิวส์จะทำอะไรเหรอคะ"

"นั่งรออยู่นี่เหอะน่าถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เองแหละ"

พี่ทิวส์ยิ้มให้เล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องครัว แต่ก็ดีอยู่หรอกนะถ้าไม่มีเสียงดังตู้มต้าม ของโครมครามตามมาน่ะ ใจหนึ่งก็อยากลุกไปช่วยนะแต่พี่ทิวส์มักตอบกลับมาเสมอว่า

"อย่ามาอยู่ตรงนั้นแหละ!!"

ยิ่งกว่าแม่ฉันอีกนะเนี่ย ใครมันจะมีความสุขเท่าฉันนะ ><

 

30 นาทีผ่านไป...

ตู้ม!!! อะเฮือกกกก ฉันลุกเดินเข้าไปในห้องครัวอย่างรวดเร็ว ในห้องครัวเต็มอบอวลไปด้วยควันจนฉันสำลักออกมา มือของฉันปัดควันให้จางลงไม่นานก็เห็นพี่ทิวส์ปัดควันหน้าเตาแก๊สอยู่

"พี่ทิวส์ทำไรคะเนี่ย.."

"ปังมาทำไมเนี่ย"

"ก็ปังได้ยินเสียงเหมือนอะไรระเบิดเลยเข้ามาดู"

"พี่ทำไข่ไหม้ไปหลายฟองแล้วอ่ะ"

ฉันหัวเราะออกมาแล้วหยิบจานในมือที่เป็นไขดาวไหม้เกรียมหลายฟอง

"พี่คงแย่มากใช่ไหม.."

"ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ พี่ทิวส์พยายามก็ดีแล้ว เกิดมายังไม่เคยมีใครที่พยายามให้ปังเท่ากับพี่ทิวส์เลย"

"จริงดิ"

"ยกเว้นแม่นะ"

"ก็มีอยู่ดีอ่ะ"

"ฮ่าๆๆดูทำหน้าเข้าดูสิ! หน้าเป็นหมิ่นหมดแล้วววว"

ฉันเอื้อมมือเข้าไปถูเอาขี้หมิ่นที่หน้าพี่ทิวส์ออก เขาจับแขนฉนหมับจนแทบสะดุ้ง ทำไรอีกเนี่ยยย คนมันเขินเป็นนะย่ะ -/////-

"ปังยังโกรธพี่อยู่ไหม.."

"ระ...เรื่องอะไรเหรอคะ"

"ก็...เรื่องที่พี่กับแคนดี้ในห้องชุมนุมเปียโนวันนั้น"

"เอ่อ..."

ฉันเอามืออกจากหน้าเขา แต่พี่แกก็จับไว้แน่น โอ้ยๆจะบ้าตายขายถั่วค่ะ 

"ตอบพี่มาก่อน.."

"คือ..ปังจะไปโกรธพี่ทิวส์ไปยังไงล่ะคะ พี่ทิวส์ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย"

"ตกลง..ปังหายโกรธแล้วใช่ไหม"

ฉันพยักหน้าช้าๆ แล้วพี่ทิวส์ก็ยิ้มออกมา

"แล้ว..ปังต้องชิมไข่ดาวฝีมือพี่ทิวส์อยู่ไหมคะ"

"เอ่อ...เรื่องนั้น"

พี่ทิวส์หันหน้าไปมองไข่ดาวไหม้ๆหลายฟองที่ทอดอยู่ในจาน

"พี่ว่าอย่าชิมเลยเดี๋ยวปังจะอร่อยเกินไป"

ฉันหัวเราะออกมาแล้วมองหน้าพี่ทิวส์ที่หัวเราะออกมาไม่ต่างกัน ทำไมฉันถึงมีความสุขเช่นนี้นะ

 

 

#ฟิวส์ ราชาเด็กนรก

ผมยืนแอบมองปังกับไอ้ทิวส์อย่างแอบๆที่ด้านหลังประตูหลังบ้าน ดูสองคนนั้นเขามีความสุขและปังก็ชอบพี่ทิวส์ยัยนั่นคงจะรื่นรมเปรมปรีดวงใจ เรื่องอะไรผมจะกล้าเข้าไปขัดเขาทั้งสองกันเล่า ผมมาไม่ทันไอ้พี่ชายฝาแฝดตัวดีสินะ อุส่าโดดรั้วข้ามโรงเรียนมาเชียวถึงจะทำบ่อยตอนออกไปร้านเกมส์ข้างโรงเรียนก็เถอะแต่ผมก็ไม่ให้ว่ามันจะสำคัญเท่าเลยนี่..เอ๊ะ! สำคัญหรือ ไม่น่าาา ผมก็แค่สงสารยัยไส้มะพร้าวอ่อนก็เท่านั้นเอง ผมก้มมองดูกระปุกยาพาราที่รีบเอาตังค่าขนมวันนี้รวมกับค่าเกมส์ไปซื้อเชียวนะ..แต่ปังคงไม่ต้องการหรอก เขามีคนดูแลแล้วนี่และอีกอย่างเรืองรักๆแบบนี้คนนอกอย่างผมก็ไม่ควรไปยุ่งที่สินะ 

เฮ้อ...ฟิวส์ตัดจะใจซะเถอะยังไง...เขาก็ไม่มามองตัวเองหรอก ถึงผมจะหล่อกว่าทิวส์ก็เหอะ!

หืมมม(เราเป็นฝาแฝดกันไม่ใช่เหรออออ) แต่ก็ชั่งเถอะครับผมไม่ใส่ใจอยู่แล้ว ผมตัดสินใจเดินปีนรั้วบ้านปังออกไปแล้วคว้างกระปุกยาพาราไปไกลๆ แต่โชคไม่เข้าข้างขวดยาพารากระเด็นไปติดต้นไม้แล้วเด้งกลับมา

โป๊กกกกก!!!

"ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดด"

โอ้ยยยย เจ็บเช้ๆเลย ผมเอามือกุมหน้าผากไว้แทบดิ้นเจียนตาย หน้าผากโผ้มมมมม

ผมก้มเก็บกระปุกยาพาราแล้วจะขว้างไปใหม่แต่อีกใจ..ไม่ขว้างดีกว่า เสียดายโว้ย! - -

"ฮ่วย! หงุดหงิด! หงิดหงิดๆๆๆๆ"

หงุดหงิด!

 

 

#ปัง เด็กมอสี่

พี่ทิวส์เป็นเพื่อนดูแลฉันจนถึงสี่โมงเย็น เขาถึงเผ่นแนบกลับบ้านไป ฉันมีความสุขที่สุดที่มีคนที่ฉันแอบชอบมานานนับปีทำอะไรดีๆให้แก่ฉัน แต่คิดไปคิดว่าพี่ทิวส์ยังเป็นแฟนแคนดี้อยู่นี่ถ้าฉันเข้าไปแทรกคือฉันเป็นคนทำลายความรักของเขาทั้งสองเชียวนะ ถ้าฉันไปโผล่ในใจพี่เขาสักครั้งก็ยังดี

ตืดๆๆๆ

"ฮัลโลค่ะแม่"

ฉันรับโทรศัพท์จากแม่อย่างรวดเร็ว

(เป็นไงบ้างปังดีขึ้นรึยังกินยาบ้างไหมแล้วนี่เพื่อนลูกมายัง)

"แหม..แม่ไม่ต้องห่วงปังขนาดนั้นก็ได้ ปังดีมากขึ้นแล้วค่ะไม่ค่อยปวดหัวแล้วก็กินยาตามหมอและแม่สั่งแล้วค่ะ ส่วนเรื่องเพื่อนเมื่อกี้ยัยป้ายโทรมาบอกปังแล้วค่ะว่าอีกสักชั่วโมงหลังเลิกเรียนจะรีบมาหาปังที่บ้านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะปังดูแลตัวเองได้"

(จ๊ะๆ หายไวๆนะลูกกินข้าวบ้างผอมยังกับผีเสียบไม้แล้ว)

"ค่าาาา"

(ไว้แม่จะโทรไปหาใหม่นะปัง)

"ค่ะ ไว้กันแม่ สวัสดีค่ะ"

ฉันวางสายจากแม่แล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา พร้อมกับนึกถึงเรื่องของวันนี้ จะมีใครไหมนะที่จะยอมเสียสละการเรียนเพื่อใครสักคน หรือว่าพี่ทิวส์จะแอบชอบฉัน บ้าแล้วค่ะ! ถ้าเป็นแบบนั้นเป็นเรื่องที่โคตรท๊อกออฟเดอะทาร์วแล้ว พี่ทิวส์ออกจะดังซะขนาดนั้น แต่เค้ามากดไลค์ให้ฉันในเฟสฉันก็แทบครั่งอวดพวกยัยก๊อบไม่รู้จะกี่หน แต่ครั้งนี้เขามาถึงบ้านเลยนะ บ้านฉัน มาเพราะเป็นห่วง

ถึงพี่เขาจะไม่ชอบ แต่ใช่ว่าฉันจะไม่มีความหวังเลยนี่หน่า....

ตราบใดมีรัก....ย่อมมีหวัง

"ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงปอนนนนนนนนนนนนนนนน"

เมื่อไรจะเลิกเรียกฉันเป็นเด็กชายผมสามเส้นสักทีนะ คิดแล้วเฟล

"พวกเขามาได้ไงเนี่ย" = =

"ฉันมีกุญแจสำรอง นี่ซื้อขนมมาให้เยอะแยะเลยยย"

แม่คงให้ไว้สินะ ฮึๆ ป้ายกับตูนณ์มานั่งๆฉัน พร้อมกับข้าวของจากเทสโก้โลตัลเต็มไม้เต็มมือ

"แล้วยัยก๊อบไปไหนอ่ะ"

"อ้อยัยก๊อบแก๊บน่ะเหรอนู่นกำลังเดินมา"

ไม่นานผู้ที่ตายยากสุดก็ย่างก้าวเปิดประตูกระจกบ้านเข้ามา ด้วยหน้าตาอาการไม่สบอารมณ์ เจ้าหล่อนทิ้งตัวนั่งเก้าอี้โต๊ะกับข้าวซึ่งอยู่ใกล้ๆกับโซฟามากที่สุด นั่งธรรมดาไม่ว่านะแต่เอาพนักพิงมาไว้ข้าหน้าแล้วเกยคางแบบนี้ต้องมึเรื่องเซ็งๆแน่ๆ

"เฮ้ออออออออออออออ"

"ก๊อบ...แกเป็นไรเนี่ยสร้างแลนมาร์คแล้วล้มละลายเหรออออ"

"แกเคยเห็นมันเล่นเกมส์ในไลน์เหรอ ขนาดคุกกี้รันมันยังบอกว่าเชยเลย"

"งั้นเป็นไรว่ะ"

"โคตรเซ็งเลยแก นี่ฉันจะบอกให้นะอีตาหน้าหยกนั่นมันมายุ่งกับกัปตันของฉันอีกแล้วอ่ะแก ขนาดฉันจะจีบอยู่แล้วเชียว มันก็เข้ามาทำให้ที่รักฉันเทให้มันหมด นี่ยังไม่หมดแค่นี้นะ ฉันเป็นผู้หญิงนะแกฉันสวยกว่าอีตานั่นตั้งเยอะทำไมไม่เลือกฉันว่ะไปเลือกผู้ชาย ผู้ชายอ่ะแก ฮ้วย! ทำไมโลกใบนี้แม่มอยู่ยากขึ้นทุกวันว่ะ"

"ใจเย็นๆแกเอ้ย สักวันกัปตันเขาอาจจะมาสนใจแกบ้างก็ได้ใครจะไปรู้"

"เฮอะ!" 

ก๊อบลุกขึ้นเดินออกอย่างรวดเร็ว

"แกจะไปไหนอ่ะ"

"รดน้ำต้นไม้ แม่แกสั่งไว้!!!"

"ถ้าจะเป็นเอามากกกก"

"มาก..มากเลยแหละ"

ฉันส่ายหัวอย่างขำขันช้าๆ 

 

22:00

ฉันมองดูนาฬิกาตั้งโต๊ะที่ข้างเตียงแล้วพริ้มหลับตาลง ตั้งทานอาหารเย็นอาบน้ำดูทีวีกันได้สักพักฉันก็ง่วงนอนเลยแยกย้ายกันไปนอนหมด

แอ๊ดดดดดดดดดดด

ฉันมองดูเงาร่างของบางคนเปิดประตูห้องนอนเขามาเป็นเงาสูงๆ หรือว่าจะเป็นพี่ทิวส์นะ ไม่น่าใครจะมาดึกๆดื่นๆป่านนี้ แต่สุดท้ายฉันก็หลับตาลงในที่สุด ถ้ามันเป็นความฝัน มันคงเป็นฝันดีที่ดีมาก

 

#ฟิวส์ ราชาเด็กนรก

ผมนั่งลงบนเตียงข้างๆหมอนของปังที่นอนอยู่ นี่ผมอุส่าแอบปีนออกนอกบ้านมาเชียวนะ(ถนัดจังไอ้เรื่องปีนเนี่ย) ผมค่อยๆเอื้อมมือมาสัมผัสหน้าปังช้าๆ ตัวเธอร้อนจี๋จนผมต้องเอามืออก ผมเดินออกไปหาน้ำอุณภมูิห้องมาเช็ดตัวให้กับปัง ผมเริ่มเช็ดที่หน้าช้าๆแล้วลงมาเช็ดที่แขน ในวินาทีนั้นปังจับหมับเข้าที่แขนผมจนแทบสะดุ้ง

"หนาว..."

"หนาวเหรอปัง"

เธอพยักหน้าช้าๆผมหรี่แอร์ลงก่อนที่จะเเกะเจลลดไข้ที่พึ่งซื้อเมื่อตอนเย็นมาแปะที่หัวของปังอย่างเบามือ ผมเอามือลูบหัวเธอช้าๆอย่างแแผ่วเบา ทำไมผมต้องทำดีกับด้วยทำไมผมต้องทำเพื่อปังขนาดนี้ทั้งที่ผมก็รู้อยู่แกใจว่าปังชอบใคร..แต่ผมก็อยากจะทำเพื่อใครสักคนก็เท่านั้นเอง

ผมมองหน้าปังที่หลับตาพริ้มอย่างเนิ่นนานก่อนที่ผมจะค่อยๆก้มลงไปช้าๆจนลมหายใจของเราผสมกันจนร้อนผ่าว ใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ จะผละออกทำไม่ได้ สุดท้าย...

"ปังชอบพี่ทิวส์นะ"

ผมหยุดกึกทันทีในท่าที่เราทั้งสองหน้าใกล้กัน ผมมันโง่จริงๆที่ทำแบบนี้คิดได้ดังนั้นผมก็ลุกขึ้นมองหน้าปังที่นอนหลับอยู่

ขอแค่ได้อยู่แลปังอยู่ตรงนี้ก็พอใจแล้วสำหรับคนอย่างผม...

 

 

#ปัง เด็กมอสี่

ฉันตืนขึ้นแล้วอาบน้ำแต่งตัว ฉันมองเจลลดไข้ที่อยู่ในถังขยะทีทิ้งเมื่อเช้า มันของใครกันนะหรือว่าจะเป็นยัยสามคนนั้นเอามาแปะให้เพื่อจะให้ไข้ฉันลดต้องไปขอบคุณเสียหน่อยแล้ว ฉันมัดผมรวบๆธรรมดา คงไม่มานั่งเปียสองข้างอย่างยัยก๊อบหรอก มันแอ๊บแบ๊วเกิ๊นนนน

"แก...ขอบคุณพวกแกมากนะที่เอาเจลลดไข้มาแปะให้ฉันเมื่อคืนอ่ะ"

"หืม...เจลลดไข้อะไรว่ะ"

ป้ายถามขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉย

"เอ่อเจลไรอ่ะ"

ตูณน์เสริมขึ้นมมาอย่างสงสัย

"ก็เจลลดไข้มันแปะที่หน้าผากฉันตั้งแต่เมื่อคืนเมื่อตื่นมาเข้าห้องน้ำพึ่งเห็นเนี่ย ถ้าไม่ใช่แกสองคนก็ต้องเป็นแกใช่ไหมก๊อบ.."

"เฮ้ยๆ แกมั่วเปล่าเนี่ย เมาไข้เหรอฉันไม่ได้เอาเจลกระดึ้บไปแปะหน้าผากหรือส่วนไหนของร่างกายแกเลยโว้ยจะบอกให้แล้วอีกอย่างนะ...ฉันหลับยาวยันเช้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย"

"ถ้าไม่ใช่พวกแกสองคนแล้วใครว่ะ"

เคร้ง! ก๊อบปล่อยช้อนลงมองหน้าฉันอย่างเหวอๆ คงไม่คิดว่าฉันหมายถึงผีอีกสินะ

"หรือว่าจะเป็น..."

"เงียบไปเลยแก๊บ!"

"ฉันก๊อบโว้ย = ="

"เอ่อชื่อไรชั่งเหอะ แกละเมอหรือเปล่าแบบว่าตืนไปแกะเจลลดไข้มาแปะหัวไรงี้"

"แกจะบ้าเหรอฉันไม่ได้เป็นคนขี้ละเมอขนาดนั้นแล้วอีกอย่างนะบ้านฉันไม่เคยซื้อเจลลดไข้"

"จบๆเรื่องนี้กันดีกว่าชั่งมันเหอะดีออกจะตายไปแกหายไข้แล้วด้วยเห็นไหมไปโรงเรียนได้ปกติไม่มีติดขัดเพราะฉะนั้นกินข้าวต่อค่ะ อ่ะปังฉันตักปลาให้แกจะได้เตือนความจำว่าเมื่อคืนแกละเมอ"

ฉันยิ้มเหยๆออกมา คงจะละเมอจริงแต่เงาเมื่อคืนที่ฉันเห็นนั้นเป็นใครถ้าเป็นพี่ทิวส์คงไม่ใช่เพราะเมื่อคืนเขายังคุยเฟสกับฉันว่าฝันดีอยู่เลยนี่พี่ทิวส์ก็น่าจะอยู่บ้าน ส่วนถ้าเป็นพี่ฟิวส์รายนั้นยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลยเมื่อคืนก่อนที่ฉันจะนอนพึ่งโพสสเตตัสว่านอนไม่หลับเล่นเกมส์ดีกว่า คงไม่แยกร่างมาหาฉันได้หรอก แต่ก็ชั่งเหอะอาจจะเป็นเทวดาก็ได้.....(จริงเหรอว่ะ) -..-

 

 

"ขอบคุณค่ะแปะ"

"ม้ายเป็งรายแค่ลื้อพาเพื่อนลื้มมาร้านอั๊ว ก็ลีใจแล้วหน่า"

อาแปะเสริฟแก้วที่ใส่น้ำเต้าฮู้มาเต็มแก้ววางเรียงตรงหน้าพวกฉันห้าคน

"เอ้อแกๆได้ข่าวว่าพี่ชาร์ปเขาจะกลับมาอีกสามเดือนหน้านี่ไม่ใช่เหรอว่ะ"

"พี่ชาร์ปไหนว่ะ"

"แกไปมุดหัวอยู่ไหนห่ะก๊อบ ก็พี่ชาร์ปที่ไปเรียนต่างประเทศหนึ่งปีนี่ๆเขายังบอกนะว่าพี่แกไปดามใจด้วยว่ะ"

"เฮ้ยจริงเหรอ สุดยอดว่ะ ว่าแต่แฟนพี่เขาเป็นใครว่ะ"

"ก็เป็นพี่...."

"เฮ้ยก๊อบ! กัปตันหว่ะ"

ฉันหันหน้ามองตามที่ตูนณ์ทักก๊อบให้หน้าไปมอง เจ้าตัวดี๊ด๊าผิดปกติ ก็แหงล่ะ

"หล่อ ขาว ตี๋ ดัดฟัน น่ารัก สเปคฉันเลยอ่ะแก"

แต่กระจกบนใบหน้าก็ต้อแตกหักลงเมื่อข้างๆของกัปตันมีเพื่อนชายร่วมห้องที่เขาจิ้นทั้งโรงรียน อยากจะบอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่ก๊อบโคตรจะเกลียดจะไม่ให้เกลียดได้อย่างไรในเมื่อ เขาทั้งคู่ต่างเป็นผู้ชาย ยัยเตี้ยนี่มักบอกเสมอว่า (ฉันเกลียดผู้ชายยยยยที่มันแย่งผู้ชายยยยของฉ้านนน)

แต่ก็เอาเหอะ ฮึ้ย! นี่มันสี่โมงเย็นแล้วนี่ได้เวลาทำภารกิจบอกความในใจประจำวันของฉันแล้ว

"เฮ้ยพวกแกไปรอที่บ้านฉันก่อนเลยนะ พอดีว่าฉันลืมการบ้านไว้ที่โรงเรียนหว่ะ"

"ให้ไปส่งไหมปัง"

"ไม่เป็นไรวิ่งไปแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ถึง"

ฉันไม่รอให้ใครพูดก็วิ่งออกมาจากร้านปาท่องโก๋อย่างรวดเร็ว ฉันวิ่งหอบจนถึงอาคารเรียนที่เป็นเป้าหมายมีแค่นักเรียนที่เรียนพิเศษด้านล่างกับพวกเด็กผู้ชายที่เล่นบาสกับบอลเล็กน้อยแต่คนพวกนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของฉันเลยสักนิดเพราะที่ฉันหมายตาคือสิ่งที่อยู่ด้านหน้าไงล่ะ

ฉันยืนหอบหน้าห้องๆหนึ่ง ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าทั้งที่ทำบ่อยๆแทบจะทุกวันแต่ทำไมวันนี้ใจมันเต้นแรงผิดปกติ

"พี่..ทิวส์คะ...ปังชอบพี่ทิวส์ค่ะ!!!!!!"

ฉันตะโกนใส่ประตูอย่างเสียงดังแล้วยิ้มออกมาได้ทำมันเหมือนโล่งใจอย่างไรบอกไม่ถูกขอแค่ให้ฉันได้พูด ฉันก็มีความสุขแทบจะแย่อยู่แล้ว 

แอ๊ดปัง!

O O!!! 

-..-!!!

"น้องเองสินะที่มายืนตะโกนหน้าห้องเรียนนี้ทุกวัน ฉลาดนักนะสาวน้อย"

"เฮ้ย!"

ฉันหันหลังใส่บุคคลที่ยืนพิงประตูมองหน้าฉันอยู่ มีคนรู้ควาลับฉัน! มีคนรู้ความลับอันมีค่าของฉันแล้ว! มีคนรู้แล้วหรือนี่ อุส่าวิ่งมาเชียวนะ ม้ายยยยย!!! ทำไมสวรรค์มันถึงกลั่นแกล้งคนน่ารักแบบฉันได้ขนาดนี้

ถ้าเป็นคนอื่นไ่ว่าแต่นี่มันเป็นนนน

"โถ่เอ้ย!"

"โอ๊ะโอ๋ทำไงดีน้าาาาาา"

เจ้าของเสียงลากยากเสียงยาวกวนบาทาฉัน โอ้พระเจ้าถ้าเป็นอกฟูแคนดี้เกิลนั่นยังจะดีกว่านะ อย่างน้อยมันก็ดีกว่าคนที่อยู่กับพี่ทิวส์ตลอดเวลาอย่างพี่ฟิวส์!

"ปังไม่รู้ปังโคตรจะเมาเลยยยย"

ฉันหน้าแดงวิ่งออกมาจากตรงนั้นลงอาคารโดยไม่ทันระวังไปชนใส่ใครบางคนเข้าจนกลิ้งตกบันไดทั้งคู่ ฉันทับร่างนั้นอยู่แล้วรีบเด้งตัวออกมารู้สึกเจ็บแปลบที่แขน

"ปัง!"

"เอ่อ..."

พี่ทิวส์พยุงฉันขึ้นมานั่งที่ขั้นบันไดช้าๆ 

"รีบไปไหนเห็นไหมตกบันไดลงมามันเจ็บดูแขนเราสิเป็นเลือดหมดแล้ว"

"ปังไมเป็นอะไรมากหรอก"

"จะไม่เป็นได้ไงมานี่ไปห้องพยาบาลกัน"

"แต่ครูห้องพยาบาลชีเรื่องมากอ่ะปังไม่อยากไป"

"ครูกลับแล้วล่ะเหลือแต่พี่เพราะเมื่อกี้พี่พึ่งไปขนของมาไว้เอง"

"แต่ปังว่าแผลแค่นี้ไกลหัวใจออกนะคะ"

"ไกลไม่ไกลมันก็จเ็บเหมือนกัน..มานี่มา"

พี่ทิวส์จับมือฉันเดินลงอาคารมาในระหว่างทางฉันมองมือของเราที่จับกันตลอดเวลา มือของพี่ทิวส์มันอุ่นมากอุ่นจนถึงใจของฉันเชียวล่ะ ถึงอากาศจะร้อนสุดๆแต่ทำไมฉันอยากจะจับมันไว้โดยไม่อยากที่จะปล่อยมันไปเหมือนกลัวว่าจะไม่ได้จับมันอีก...

"ปังนั่งตรงนี้นะเดี๋ยวพี่ไปเปิดตู้ยาดูก่อน"

"ค่ะ.."

ฉันตอบพี่ทิวส์เพียงแค่นั้นก่อนที่พี่เขาจะเดินไปอีกห้องหนึ่ง...

 

 

 

"อะ..โอ้ยๆ เจ็บ"

"แป๊บเดียวเดี๋ยวก็หายเจ็บแล้ว"

"ทำไมมันแสบแบบนี้อ่ะ ปังไม่ทายาแล้วได้ไหม"

"เดี๋ยวก็ไม่แสบแล้ว"

"งั้นปังว่าเราใส่ยาเลยจะได้แสบๆแล้วหายเร็วๆ"

ฉันคว้้าทิงเจอร์วางอยู่ขึ้นมาแต่พี่ทิวส์ก็แย่งไป

"จะบ้าเหรอปังรีบร้อนไปได้มานี่เดี๋ยวพี่ทำเอง"

"อะ..โอ้ย...ค่อยๆ"

 

 

19:00

พี่ทิวส์ยิ้มออกมาแล้วพันแผลให้กับฉันอย่างเบามือ

"อ่ะเสร็จแล้ว..อย่าใหเแผลโดนน้ำนะเดี๋ยวมันอักเสบ พอมันอักเสบ.."

"ก็จะต้องไปหาหมอ"

"ไม่ใช่สักหน่อย"

"อ้าวแล้วอะไรล่ะคะ"

"ก็..พี่ก็จะเป็นห่วงปังไง"

ฉันหุบยิ้มลงแล้วมองหน้าพี่ทิวส์อย่างเนิ่นนานเราสองคนมองหน้าเพื่อหาความหมายในดวงตาคู่นั้น ดวงตาที่แสนจะบริสุทธิ์แต่ไม่เคยฉายอะไรออกมาให้ฉันเห็น ฉันอยากรู้และอยากดูเหมือนหนังกลางแปลงความรู้สึกที่แท้จริงของพี่ทิวส์มันคืออะไรกันแน่ ทำไมถึงไม่ฉายมันออกมาให้ปังเห็นสักทีล่ะ ให้ได้รับรู้เพียงน้อยนิดก็ยังดี...

"ปัง..."

"....."

"ปัง..ชอบพี่หรือเปล่า.."

"หืม..."

"ปังชอบพี่บ้างไหม"

ฉันเงียบโดยไม่รู้ว่าจะตอบอะไร ทำไมฉันไม่ตอบออกไปทั้งที่ใจมันตอบไปนานแล้ว บอกออกไปสิปังนี่อาจจะเป็นทางเดียวก็ได้ที่จะสมหวังกับคนที่แอบชอบมานานแสนนาน นานจนคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้มันมาอยู่ในอุ้งมือของตัวเอง แต่ตอนนี้มันอยู่ตรงหน้าฉันแล้วรอที่จะให้แค่ฉันคว้ามันมาก็เท่านั้น

"คือปัง...."

"......"

"คือว่าปัง...."

"....."

"ปังชอบ..."

"ทำไมยังไม่กลับบ้านฮะ!!!!!"

เฮือก!  มาได้เวลานาฬิกาเดินเร็วพอดีค่ะ = = จะมาเวลาอื่นที่ไม่ใช่เวลาติดขัดแบบนี้ไม่ได้หรือไง พี่ฟิวส์เดินเข้ามาอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยคนอะไรขี้ขัดจังหวะเป็นบ้า อยู่กับพี่ทิวส์สองต่อสองทีไรต้องมาอีตาพี่บ้านี่มาทุกที

"แม่โทรมาบอกว่าเรากลับบ้านได้แล้วใช่ว่าอยู่มอห้าแล้วจะเฉไฉได้นะอีกอย่างยัยปังไส้ถั่วนี่อยู่แค่มอสี่เองมาอยู่แบบนี้ดึกๆดื่นๆในโรงเรียนเนี่ยมันม้ายยยยดีเลย!"

"จะอารมณ์เสียอะไรว่ะไอ้ฟิวส์ถ้าเมิงอยากกลับบ้านก็กลับไปก่อนสิอ้างว่ากรูติวหนังสือก็ได้"

"เมิงคิดว่าแม่จะไม่ฉลาดเหรอว่ะ แม่เราแม่มฉลาดกว่างูแมมบ้าดำอีก นี่พูดเลย..หรือจะเถียง"

"เอ่อเรื่องนั่นไม่เถียงก็ได้แต่พี่เป็นคนชนปังล้มพี่ก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบสิ"

เอ่อเรื่องนั้นได้ข่าวว่าฉันรีบวิ่งลงมาชนใส่มิใช่รึ แต่ก็ชั่งเหอะ ฮึๆ

พี่ฟิวส์เลื่อนสายตามามองฉันอย่างไม่เป็นมิตรสักเท่าไรก่อนที่จะเผยยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ออกมา เฮ้ย!อยากบอกนะว่าจะบอกความลับของฉันที่อุส่าดองมาเลยเชียวนะ

"อ้อ!ที่ยัยปังตื่นกลัววิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือก็เพราะว่าปังมันชะ...อุ๊บ!!!"

ฉันรีบกระโดดขึ้นยืนบนโซฟาปิดปากพี่ฟิวส์ที่ร้องอู้อี้ก่อนที่ไอ้พี่นี่จะพูดอะไรออกไป ไม่ได้นะ!ถ้าพี่ทิวส์รู้เขาอาจจะไม่คุยกับฉันไปตลอดเลยก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงต้องเสียใจกับรักแรกไปตลอดชีวิตแค่คิดชีวิตก็ดับสูญ

แต่เดี๋ยวนะ ไม่รู้ว่าเพราะพี่ฟิวส์ดิ้นหรือโซฟามันนิ่มเกินไปฉันจึง...เฮ้ย!

"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก"

ตุ๊บ!

"เฮ้ย!"

"ชิหาแล้วไอ้เหี้_ฟิวส์"

เง็กๆๆๆ เง็กๆๆๆ (สลบคาพื้นที่)

 

 

20:00

รู้สึกว่าฉันจะสลบบ่อยมากจะเป็นลมไปถึงไหนว่ะ ไอ้คนแต่งนี่ก็เหลือเกินนนน ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือโชคดีที่ได้มาอยู่ในสภาพนี้ โชคดีก็คือได้มีสองหนุ่มสุดฮอตของโรงเรียนที่หน้าตาเหมือนกันเด๊ะมาดูแลแบบนี้ โชคร้ายก็คือ ฉันทั้งตกโซฟาข้อเท้าพลิก ตกบันไดทับพี่ทิวส์แขนถลอกเลือดออก ไม่ได้ดูละครสั้นเรื่องชมพูทวีปและ.....มีคนรู้ความลับของฉ้านนนนน!!! พูง่ายๆก็คือ ซวย!

"อ่ะเสร็จแล้ว..ดีขึ้นหรือยัง"

พี่ฟิวส์วางเท้าฉันเบาๆหลังจากนวดที่ข้อเท้าฉันก็ดีขึ้นมากเลยล่ะดีแค่เท้าพลิกไม่ได้หัก ถ้าหักจะเจ็บปวดปานใดล่ะนี่ ทำไมฉันขี้โรคจังเลยว่ะ

"แล้วจะกลับบ้านยังไงเนี่ย"

"ถึงแม่จะด่าจนหูฉีกเราก็ต้องไปส่งปังอยู่ดี"

"เอ่อ..ถ้าเป็นแบบนั้นปังกลับเองได้ค่ะบ้านก็ไม่ได้ไกลแค่ City home Village นี่เองค่ะ"

"จะกลับเองได้ไงถึงใกล้ก็เหอะยามหน้าหมู่บ้านไว้ใจได้ที่ไหนกัน ปังเป็นผู้หญิงด้วยข้อเท้าใช่ว่าจะหายทันที"

ขนาดนั้นเลยรึ -..-

"แต่พวกยัยก๊อบ..."

"ไม่ต้องมีแต่...ขึ้นหลังพี่ม่ะ"

"ห่ะ"

"ขึ้นมาเหอะน่าาา"

อ๊ายยยยย ทำแบบนั้นใจฉันวายคาหลังพอดีสิย่ะใครจะไปรู้ว่าเกิดมาจะได้มีโม้เม้นอันประเสริฐเลิศล้ำแบบนี้กับเขาบ้างงง แต่ปังคนนี้ที่รอคอยสิ่งนี้มานานจะรอช้าอยู่ใยก็รีบกระโดดเกาะหลังแผ่นกว้างๆของพี่เขาสิย่ะ โอกาสดีโอกาสทอง 555 กลิ่นวนิลาที่แตะจมูกฉันจนแทบน้ำลาย..เย้ย! ไม่ใช่ๆ อย่าเข้าใจผิด อย่า!

"ไอ้ฟิวส์มือว่างเมิงก็ถือรองเท้าให้ปังด้วย"

พี่ฟิวส์เบ้นิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ยอมก้มลงเอาถุงเท้าของฉันยัดๆลงในรองเท้าแล้วหิ้วขึ้นมา 

"กลิ่นเท้าเธอนี่ยิ่งกว่าขี้ที่บ้านอีกนะ" -"-

"+#@%+!*=&^%#$@!" (แทบไม่เป็นภาษา)

 

 

ในระหว่างทางมันเงียบมากจนพวกเราสามคนมาถึงหน้าหมู่บ้าน พี่ทิวส์เคาะกระจกให้ยามทางเข้าให้หน่อยเพราะแบกฉันแบบนี้คงไม่รอดหน้าข้ามไปได้หรอก พอเข้ามาก็มีแต่โหคมหลอดไฟกลมๆที่ประดับอยู่หน้าบ้านจัดสรรแต่ละหลังเท่านั้น นี่พึ่งสองทุ่มกว่าเองนะทำไมหลับเร็วกันจัง

ฉันเลื่อนแขนจากการปล่อยสบายๆมากอดคอพี่ทิวส์แทน

"หนาวเหรอปัง"

"ก็นิดหน่อยอ่ะค่ะ"

"แหมมมมก็นิดหน่อยค่ะ"

ฉันหน้าไปแยกเขี้ยวใส่พี่ฟิวส์พร้อมกับแลบลิ้นคืน แถมเลียนเสียงฉันอีกต่างหาก หึๆ จ้างให้ก็ไม่เหมือนหรอกย่ะ!

"ปังแล้วบ้านปังหลังไหน"

"เอ่อ..เดี๋ยวเดินไปเลี้ยวซ้ายข้างๆสนามเด็กเล่นน่ะค่ะใกล้ๆกัน"

ลมพัดอ่อนๆมามันทำให้ฉันยิ่งกอดพี่ทิวส์แน่นขึ้นพอเห็นหน้าไปหาพี่ฟิวส์ฉันก็เห็นแผลที่หน้ามุมขวาหน้าผากของเขาเพราะลมพัดเลยทำให้ผมมันถูกพัดจนเผยให้เห็น

"เดี๋ยวๆนะพี่ทิวส์เขยิบไปใกล้ๆพี่ฟิวส์หน่อยได้ไหมคะ"

"ได้.."

"พี่ทิวส์ออุ้ปังดีนะๆรอแป๊บ"

ฉันเอามืออกคอพี่ทิวส์แล้วล้วงเอาพาสเตอร์ยาลายโดราเอมอนออกมาก่อนที่จะติดเข้าหน้าผากของพี่ฟิวส์

"เธอทำอะไรเนี่ย"

"หัวไปโดนไรมาถึงได้เป็นแผลแบบนั้นถ้าไม่แปะพาสเตอร์ยาไว้จะอักเสบเอานะ"

พี่ฟิวส์เอามือข้างซ้ายลูบเล็กน้อยแต่ก็ไม่สนใจ

"ไม่ต้องสนใจหรอกน่าาา"

"นี่ไอ้ฟิวส์ปังอุส่าสละพาสเตอร์ยาให้นี่ยังไม่ขอบคุณสักคำเลยเหรอ"

"พี่นี่ก็ยุ่งจัง..ขอบใจนะ"

"ไม่เป็นไร.."

ฉันยิ้มออกมาให้พี่ฟิวส์เล็กน้อย แต่มีแค่แว็บหนึ่งที่ฉันเห็นแววตาอะไรบางอย่างที่บอกไม่ถูกของฟิวส์แล้วมันก็หายไป ขอย้ำว่าแค่แว็บเดียวเท่านั้นเอง...

"ปังหลังนั้นใช่ไหม"

"อ้อค่ะๆหลังนั้นแหละค่ะ"

ในที่สุดเราสามคนก็มาถึงอาณาจักรของบ้านฉัน โฮ่ๆ พี่ทิวส์วางฉันลงจากหลังช้าๆก่อนที่ฉันจะยื่นกระเป๋าถือของโรงเรียนให้พี่เขาไป

"ขอบคุณพี่ทิวส์แล้วก็..พี่ฟิวส์นะคะที่มาส่งปังถึงที่บ้านเลย"

"ไม่เป็นไร..งั้นพี่กลับก่อนนะเดี๋ยวแม่เป็นห่วงนี่แล้วแม่ปังล่ะ"

"อ้อ..แม่ปังไปงานที่ต่างจังหวัดอาจจะกลับพรุ่งนี้เช้าอ่ะค่ะส่วยพวกก๊อบ ป้าย ตูนณ์ก็อยู่ที่หมู่บ้านนี้ไม่ได้ไกลกันนัก"

"อยู่คนเดียวดูแลตัวเองดีๆด้วยนะปัง"

"ค่ะ..พี่ทิวส์ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะปังอยู่เองได้สบายมาก"

"ได้แน่นะ"

"แน่ค่ะ"

"งั้นไปละ บาย"

"บายค่ะ..."

ฉันโบกให้พี่ทิวส์ที่เดินกอดคอพี่ฟิวส์ไปความจริงสองพี่น้องนี่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะยิ่งตอนที่พี่ทิวส์แข่งบาสตอนอยู่มอต้นก็มีพี่ฟิวส์นี่แหละที่ถอดรองเท้าจากเท้าของพี่ทิวส์ไปขัดเงาคิดแล้วยิ่งฟินสุดๆ เหฮยยยยจะบ้าหราพี่เขาเป็นฝาแฝดกันนะ -..-

 

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันตื่นเช้าผิดปกติแต่ก็เอาเถอะถึงยังไงฉันก็วิ่งป่าราบเข้าโรงเรียนเหมือนเช่นเคยทุกที ฉันเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเอาชุดนักเรียนที่แขวนออกวางบนเตียง

"ปัง!"

แม่เจ้าแทบบ้านแตกใครมาเรียกเอาเช้าตรู่แบบนี้ว่ะ ฉันเดินเปิดประตูกระจกเลื่อนออกไปนอกระเบียง แล้วขยี้ตาดูแน่ๆชัดๆว่าเป็นพี่แกจริงๆนะ แถมใส่ชุดนักเรียนเรียบร้อย

"นี่ๆฉันไม่ใช่ผีที่ขยี้ตาแล้วจะหายไปน่ะ เอ้า!รับนะ!"

ยังไม่ทันได้ตั้งเนื้อตั้งตัวพี่ฟิวส์ก็เหวี่ยงแขนสองสามครั้งขว้างตุ๊กตาหมียักษ์ขึ้นมา (ขึ้นมาได้ไง)

ฉันรับได้แต่ก็แทบจะล้มหงายอยู่เหมือนกัน

"แต่งตัวเร็วล่ะไอ้ทิวส์มันรออยู่หน้าโรงเรียนส่วนตุ๊กตาตัวนี้ไอ้ทิวส์มันฝากมาให้นะรักษาด้วย"

ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรพี่ฟิวส์วิ่งไปทันทีจะรีบไปไหนฟะเช้าแบบนี้โรงเรียนมันคงเปิดให้เข้าหรอกย่ะ!

 

 

ถึงจะมาโรงเรียนเช้าเพียงใดก็โดนป้ายลากไปร้านเค้กข้างๆอยู่ดี

"อู้วว..น่ากินทั้งนั้นเลย ปังๆฉันว่าเอาอันนี้ดีไหม"

"แกพี่ปอยเค้าชอบเหรอว่ะรสมะพร้าวเนี่ยนะ"

"งั้น..เอาเป็นช๊อกโกแลตดีไหมดั้งเดิมๆ"

"ก็ดีนะ..แล้วแต่แกเลย"

"งั้น..พีคะเอาช๊อกโกแลตค่ะ"

"รอสักครู่นะคะ"

"ค่ะ"

ในขณะที่รอเค้กอยู่นั้นโทรศัพท์ก็ดัง ฉันล้วงมันออกมาจากกระเป๋ากระโปรงแล้วดู

"ใครโทรมาอ่ะแก"

"ก๊อบโทรมาหว่ะ..สงสัยมันจะมาถึงโรเงรียนแล้วไม่เจอใครมั้ง"

"งั้นก็รีบรับแล้วบอกให้มันมาหาที่ร้านเค้ก"

ฉันพยักหน้าแล้วรับสาย ปลยสายรัวเสียงมาจนฉันแทบฟังไม่รู้เรื่อง

"ใจเย็นๆ แกว่าอะไรนะ"

(ปัง...แกทำใจดีๆนะเว้ย เมื่อกี้พี่เนย์พี่ชายฉันโทรมาหว่ะ)

"แล้ว..."

(พีเนย์บอกว่าพี่ทิวส์ถูกรถชนตอนนี้อาการสาหัสมากถูกส่โรงเรียนบาลใกล้ๆโรงเรียนเราแต่เมื่อห้านาทีที่แล้วอ่ะแม่เขาโทรมาบอกพี่เนย์ว่า...)

"ว่าอะไรก๊อบ!"

ฉันตะโกนเสียงดังจนคนในร้านหันมามองฉันแต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่จะสนใจนัก ป้ายหันหน้ามามองฉันแล้วขมวดคิ้ว

(แกใจเย็นๆสิว่ะ...คือ...พี่ทิวส์เสียชีวิตแล้วหว่ะ)

O O!!!!!

"ปัง...ปัง...ก๊อบว่าไงบ้าง..ปัง!"

ฉันได้ยินแต่เสียงสะท้อนของป้ายแต่ไม่ได้ยินอะไรรอบข้างฉันได้แต่นิ่งยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น สุดท้ายฉันก็รีบปล่อยโทรศัพท์ปล่อยกระเปานักเรียนวิ่งออกจากร้านไปอย่างรวเร็ว น้ำตาฉันไหลออกมาแต่ฉันก็ต้องอดทนวิ่งต่อไป ฉันทั้งวิ่งและปาดน้ำตาออก พี่ทิวส์ต้องตื่นสิ เขาต้องตื่นขึ้นมาคุยกับฉัน มารับฟังสิ่งที่ฉันยังไม่ได้บอกกับเขา ฉันต้องบอกให้ได้ พีทิวส์จะยังต้องตื่นมาฟังฉันสิ เขาต้องลุก!

ในที่สุดฉันก็มาถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว หน้าห้องฉุกเฉินมีนักเรียนชายกลุ่มหนึ่งยืนอยู่เต็มหนึ่งในนั้นก็มี*พี่เนย์พี่ชายของก๊อบด้วย (*พบกับเรื่องราวของเนย์ได้ในเรื่องต่อไปเป็นเรื่องเดียวเพียวๆเลย)

"พี่เนย์...."

"ปัง..."

"พี่ทิวส์ล่ะคะ"

"ปังใจเย็นๆนะ..คือพี่ทิวส์"

"พี่ทิวส์ตายแล้วใช่ไหมคะ! พี่ทิวส์จากปังไปแล้วใช่ไหม"

"ปัง...คือ.."

ฉันไม่ฟังพี่เนย์แต่กลับวิ่งไปทางห้องดับจิตอย่างรวดเร็ว

"ปัง! เดี๋ยวปัง!"

ฉันไม่ฟังเสียงใครเสียงทั้งนั้นก่อนที่จะวิ่งเปิดประตูเข้าไปโยไม่กลัวอะไร นี่ฉัยบ้าหรือเปล่านี่มันห้องเก็บศพเลยนะ กลิ่ของฟอร์มาลีนแตะจมูกฉันจนต้องย่นจมูก ภายในห้องเย็นฉ่ำจากแอร์ที่องศาติดลบ ฉันมองหาร่างของพี่ทิวส์อย่างทั่วๆแต่ก็ไม่เจอ เคร้ง!

"กรี๊ดดดดดดดดด!!!"

ฉันร้องออกมาแล้วเอามือปิดหน้าจะไม่ให้ปิดได้อย่างไรในเมื่อเตียงที่อยู่ข้างๆฉันมันมีมือของศพหล่นออกมา ฉันค่อยๆเอามือออกจากหน้าแล้วมองดูมือที่ห้อยออกมา

ผลุ่บ! ฉันยืนแข็งนิ่งเมื่อมีมือเย็นๆมาจับเข้าที่ไหล่ของฉัน จะทำไยังไงดีพระก็ไม่ได้ใส่มา สุดท้ายฉันก็ใจดีสู้เสือหันไปมอง

"กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!ผีพี่ทิวส์! พี่ทิวส์อย่ามาหลอกปังเลยนะ ปังกลัวแล้วปังเสียใจนะที่พี่ทิวส์ตายแต่ปังก็กลัวผีนะอย่าลืมสิไว้ปังจะอุทิศส่วนกุศลไปให้นะพี่ทิวส์ ไปที่ชอบที่ชะ.."

"นี่เธอผีเข้าหรือไงฮะ! กล้าดียังไงมาแช่งพี่ฉันเนี่ยยัยขนมปังไส้ถั่ว"

"ฮะ.."

ฉันรดมือที่ไหว้แล้วมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าชัดๆทั้งตัวใส่ชุดนักเรียนดั่งเดิมหัวมีผ้าพันแผลพันรอบหัว

"พะ..พี่ฟิวส์เหรอ?"

"ก็เอ่อน่ะสิคิดว่าไอ้ทิวส์เหรอ"

"ก็ปังจะไปรู้ได้ไง...ใช่!พี่ทิส์ตายแล้ว"

ฉันร้องไห้ออกมาอีกรอบหนึ่งแล้วเข้าไปกอดพี่ฟิวส์ไว้ พี่ฟิวส์สะดุ้งเล็กน้อยกอนที่จะมาลูบหัวฉันเบาๆ

"ร้องไห้ขนาดนี้น่าสงสารจัง..เอาเป็นว่า...บอกให้ก็ได้ ไอ้ทิวส์มันเป็นอะไรซะที่ไหนเล่ามันสบายดีอยู่กับพวกเพื่อนๆนู้น"

ฮะ! = = ฉันผละออกมาจากพี่ฟิวส์แล้วปาดน้ำตาออกให้หมด

"พี่ฟิวส์หมายความว่ายังไง"

"ก็...."

 

เมื่อตอนเช้าที่แล้ว...

หลังจากที่ฟิวส์ไปบ้านปังตอนเช้าเขาก็เดินวิ่งไปเพื่อไปสลับตัวกับทิวส์ที่รอหน้าโรงเรียนอยู่พอถึงหน้าโรงเรียนฟิวส์ก็วิ่งข้ามถนนไปหาพี่ชายฝาแฝด

"จะเหรอว่ะไอ้ทิวส์"

"ดีสิว่ะเมิงล้วงความลับปังมาให้ได้นะเว้ยว่าเขาชอบฉันไหม"

"ถ้าเมิงอยากรู้ทำไมไม่ไปถามปังเองว่ะ"

"ใครจะไปกล้าว่ะแค่ตอนนั้นใจก็สั่นชิบหายละ แล้วเมิงเปลี่ยนตัวกับกรูแล้วก็ทำเป็นกรูให้มันเหมือนๆนะ"

"เมิงอย่าลืมสิว่าหน้าผากกรูเป็นแผลน้องเขาก็จำได้สิ ฉลาดรึเปล่าเนี่ยไอ้ทิวส์"

"เอ่อจริงหว่ะ...."

ปื้นๆๆๆๆ

"เฮ้ย! ทิวส์ระวัง!!"

ฟิวส์เห็นรถมอ'ไซค์ที่หักมุมเลี้ยวมาเกือบชนใส่ทิวส์แต่ฟิวส์ผลักทิวส์ออกไปฟิวส์กระโดดผลักทิวส์แรงเกินเลยทำให้ตัวเองเซไปชนกับเสาไฟฟ้าจนสลบไป รถมอ'ไซค์ที่ขับมาก็หักเลี้ยวได้อย่างหวุดหวิดก่อนที่จะขับรถไปต่อ

"ไอ้ฟิวส์!!"

ทิวส์วิ่งมาพยุงฟิวส์ที่นอนสลบแล้วล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงฟิวส์โทรหาเบสอย่างรวดเร็ว

"ไอ้เบส! เมิงมาช่วยกรูหน่อยที่โรงพยาบาล...เอ่อๆได้ๆ"

ทิวส์วางสายแล้วมองซ้ายมองขวาก่อนที่จะเอาแขนฟิวส์มาคล้องพาไปโรงพยาบาล

 

ปัจจุบัน

"งั้นหมายความว่าพี่ทิวส์ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว..เรื่องที่ว่าตายล่ะ"

"ก็...."

 

ย้อนไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว

ทิวส์พาฟิวส์ส่งโรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉิน เบสวิ่งมาอย่างหอบ

"เมิงเล่ามาดิ๊"

ทิวส์เล่าให้เบสฟังอย่างคราวๆแล้วเจ้าตัวก็ดั้นโทรศัพท์ไปหาเนย์

"ไอ้เนย์มาโรง'บาลด่วนเลย"

ไม่นานเนย์ก็มาถึงโรงพยาบาล เบสวิ่งมาหาเนย์กับเพื่อนที่รอหน้าโรงพยาบาล

"เป็นไงมั้งว่ะใครเป็นอะไร"

"กรูไม่รู้ว่าใครหว่ะไอ้ทิวส์หรือไอ้ฟิวส์ไม่รู้แต่เป็นเบอร์ไอ้ฟิวส์โชว์ตอนโทรมา"

"โหไอ้ฟาย!เป็นเพื่อนมันสองคนมาสี่ปีจำไม่ได้ว่าใครกระบือจริงเลยเมิง"

"ก็น่าจะเป็นไอ้ทิวส์ที่โดนรถชนหว่ะ"

"งั้นรออะไรรีบไปสิว่ะมันจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้"

พวกเขาทั้งหลายวิ่งเป็นขบวนชุดนักเรียนกันแห่ไปที่ห้องฉุกเฉินพอใกล้ถึงปุ๊บพวกเขาก็หยุดกึก เห็นหมอเดินมาจับที่ไหล่ของเด็กหนุ่มที่ยืนรอหน้าห้องแล้วเดินไป เขาหันหน้ามองไห้แล้วปาดน้ำตาออก

"อย่าบอกนะว่า..ไอ้ทิวส์ตายแล้วน่ะ"

"ไม่จริงหว่ะ"

"หมอแม่มอำเล่นแน่ๆเลย"

เนย์รู้เรื่องว่าปังแอบชอบทิวส์อยู่จากน้องสาวจึงรีบล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วโทรหาก๊อบ

(ฮัลโลพี่เนย์)

"ก๊อบ...คือตอนนี้ปังอยู่ด้วยก๊อบหรือเปล่า"

(ไม่นะตอนนี้ก๊อบอยู่โรงอาหาร..พี่เนย์มีอะไรหรือเปล่า)

"พี่ฝากก๊อบโทรบอกปังด้วยนะว่า...ไอ้ทิวส์ถูกรถชนตายแล้ว!"

(ห่ะ!ล้อเล่นน่าพี่เนย์ ก๊อบไม่สนุกนะ)

"พี่ไม่ได้ล้อเล่นแค่นี้นะก๊อบเดี๋ยวพี่ไปปลอบใจไอ้ฟิวส์ก่อน"

เนย์วางโทรศัพท์แล้วเดินไปนั่งข้างๆเด็กหนุ่ที่มีฝาแฝด

"อย่าเสียใจไปเลยไอ้ฟิวส์...ไอ้ทิวส์ไปดีแล้ว"

"หา.." -..-

เขาเงยหน้าขึ้นมาเบสที่พูดปลอบใจ

"เมิงว่าอะไระนะไอ้เบส"

"ก็ไอ้ทิวส์ไปดีแล้วไงอย่าบอกนะว่าไอ้ทิวส์ยังไงไม่ตายเมิงร้องไห้ซะขนาดนี้"

"ร้องกับผีอะไร! เมื่อตอนที่หมอมาเขาบอกกรูว่าไอ้ฟิวส์ปลอดภัย นี่กรูทิวส์เว้ย ไม่ใช่ฟิวส์พวกเมิงเข้าใจผิดกันแล้วและอีกอย่างตอนนั้นกรูง่วงกรูนอนดึกจะหาวแต่หมอมาเลยกลั้นไว้แทบแย่น้ำตาเลยไหลออกไงหรือตอนที่พวกเมิงหาวน้ำตาไม่ไหลเหรอว่ะ น้องกรูยังไม่ตายปากเสียจริงๆเลย ..นั่นไงออกมาละ"

ไม่ทันขาดคำฟิวส์ก็เปิดประตูออกมาหัวที่พันแผลไว้รอบๆ

"พวกเมิงแห่มาทำอะไรกันว่ะ"

"อ้าวสัสฟิวส์นี่เมิงยังไม่ตายกรูดีใจแทบแย่"

เบสถลาเข้าไปกอดคอฟิวส์

"นี่เมิงไปไกลๆเลยนะกรูแค่โดนเอาหัวโหม่งเสาจะตายได้ไงว่ะแล้วอย่าบอกนะว่าพวกเมิงคิดว่ากรูตายเลยมาเนี่ย"

"ก็เอ่อน่ะสิ"

"โหย..ไอ้กระบือได้โล่เมิงนี่ฟายจริงๆ"

"ด่ากรูอีกนี่กรูอุส่าเป็นห่วงเมิงนะ"

"ทำไงดีกรูโทรบอกก๊อบแล้วหว่ะไอ้ทิวส์ตาย"

"เมิงโทรไปบอกน้องเมิงใหม่เลยนะเว้ย กรูไม่ได้เป็นอะไรไอ้ฟิวส์นู้นแล้วอีกอย่างก็ไม่มีใครตาย"

"เอ่อๆได้ๆ"

เนย์กดโทรศัพท์แล้วโทรหาก๊อบ

"เอ่อไอ้ทิวส์ไปส่งกรูไปห้องน้ำหน่อยปวดฉี่หว่ะ"

"ม่ะๆ เรื่องมากจริงๆเลยเมิงอ่ะ"

ทิวส์เดินไปคล้องคอฟิวส์แล้วพาเข้าห้องน้ำไป ไม่ถึงห้านาทีปังก็วิ่งหน้าตื่นมา

"พี่เนย์...."

"ปัง..."

"พี่ทิวส์ล่ะคะ"

"ปังใจเย็นๆนะ..คือพี่ทิวส์"

"พี่ทิวส์ตายแล้วใช่ไหมคะ! พี่ทิวส์จากปังไปแล้วใช่ไหม"

"ปัง...คือ.."

ปังไม่ฟังเนย์แม้แต่นิดแล้ววิ่งไปอีกทางหนึ่งซึ่งเป็นห้องดิบจิต

"ปัง! เดี๋ยวปัง!"

พอปังวิ่งไปฟิวส์กับทิวส์ก็เดินมา

"ปังเขามาทำอะไรว่ะ"

ฟิวส์เอ่ยถาม

"ก็มาตามหาเมิงอ่ะไอ้ทิวส์ สงสัยน้องไอ้เนย์มันโทรไปบอกหว่ะเลยตามมาถึงนี่นู้นไปห้องดับจิตเลยหว่ะ เมิงอ่ะตัวดีไปตามน้องเขาเลย"

"เฮ้ย!ไม่เอาเมิงไปสิไอ้ฟิวส์ กรูเขิน"

"แล้วทำไมต้องเป็นกรูว่ะเมิงอยากเจอน้องเขาไม่ใช่เหรอ"

"กรูว่าเมิงไปเหอะไอ้ฟิวส์.."

"เอ่อ..กรูไปก็ได้"

ฟิวส์ตัดสินใจเดินตามปังไป...

 

ปัจจุบัน

"สรุป...ปังเข้าใจผิดใช่ไหมคะ"

"ก็คงจะแบบนั้น"

"เฮ้อออ...งั้นปังไปละ ไม่อยู่แล้ว"

"ปังจะไหน"

"จะอยู่ทำบื้ออะไรล่ะคะปังก็กลับโรงเรียนสิโดนทำโทษแน่ข้อหาไปโรงเรียนสายโดยไม่ไตร่ตรองแบบนี้ขายหน้าแย่"

ฉันเดินไปก็อยากโกรธอยู่หรอกแต่ก็ไม่รู้จะโกรธไปเพื่ออะไรทำแบบนั้นก็อายแย่แค่นี้ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ถ้ายัยก๊อบรู้นะ เฮอะๆ ฉันได้โดนล้อหัวเราะเยาะเป็นชาตินี้ทั้งชาติเลย

แก๊กๆ แก๊กๆๆ

"ทำอะไรอ่ะ"

"พี่ฟิวส์..."

แก๊กๆๆๆ

"ประตูมันเปิดไม่ออก"

"ฮู้วววเธอนี่มันกากเย้เป็นบ้า หลีกซิเดี๋ยวฉันจัดการเอง"

ค่ะพ่อคนเก่ง  - - ฉันหลีกทางให้พี่ฟิวส์

แก๊กๆๆ แก๊กๆๆๆ

มันคงจะเปิดออกอยู่แหละ

แก๊กๆๆๆๆ แก๊กๆๆๆๆๆ แก๊กๆๆๆๆๆๆ แก๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!

"เฮ้ย!พอแล้วน่า"

"ก็ประตูมันเปิดไม่ออก"

"ให้ตายมันก็เปิดไม่ออ..."

เดี๋ยวนะๆ = =

"ประตูเปิดไม่ออก"

"ใช่"

"เราก็ติดอยู่ในนี้"

"ใช่"

"ออกไปไม่ได้"

"ใช่"

"ห่ะ!"

"นี่เธอพึ่งรู้ตัวเหรอ"

"ใช่!"

O O <<<ฉัน

-..- <<< พี่ฟิวส์

"ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!"

ฉันกับพี่ฟิวส์ตะโกนลั่นพร้อมกันแล้วพุ่งทุบประตูอย่างแรงเพื่อที่จะออกไปจากที่นี่ ที่ที่มีแต่ศพ

ฉันกับพี่ฟิวส์หาทางออกโดยการทุบประตูเรียกคนข้างนอกร่วมชั่วโมงแต่ก็ไร้ความหมาย สุดท้ายฉันก็ทิ้งตัวลงนั่งชันเข่าแล้วกอดตัวเองถึงชุดนักเรียนจะเป็นชุดนักเรียนเอกชนแขนยาวแต่ก็ใช่ว่าจะบรรเทาอาการหนาวได้

"พอเหอะน่า..ยังไงก็เปิดไม่ออกหรอกถ้าคนด้านนอกได้ยินจริงๆก็มาช่วยเราแล้ว"

"ให้ตายพี่ก็จะต้องออกไปให้ได้"

"หัวแข็งจริงๆงั้นก็ทำต่อไปอย่าหยุดละกัน"

"เราออกไปไม่ได้จริงๆด้วยเราต้องรอจนกว่าจะมีศพใหม่มา"

"จะบ้าเหรอคิดแบบนั้นก็เท่ากับแช่งคนอื่นเลยนะ"

"ก็จะให้ทำไงล่ะ มนุษย์สิ้นสุดก็แค่ตาย"

"แล้วจะมาพูดเรื่องตายๆอะไรในห้องดับจิตนี่ด้วย"

"ก็เธอต่อเรื่องเองนี่"

เราสองคนเงียบไปชั่วขณะ เสียงแอร์เก่าที่ทำความเย็นดั่งขั้วโลกดังจนน่ารำคาญกลิ่นฟอร์มาลีนแตะจมูกจนแสบ นี่แทบจะคิดว่าตัวเองตายไปแล้วนะเนี่ย พี่ฟิวส์ดูจะหมดหนทางจึงทิ้งตัวลงนั่งชันเข่าข้างๆฉัน

"เหนื่อยแล้ววเหรอไง"

"อือ..."

ฉันมองหน้าพี่ฟิวส์อย่างนิ่งๆ

"มองอะไรของเธอ"

"เปล่านี่"

"มองคนหล่อเหรอ"

"บ้า!"

ฉันตีเข้าที่แขนพี่ฟิวส์จนเขาซี๊ดออกมา

"นี่คนหรือกระทิงเนี่ยผู้หญิงอะไรตีเจ็บเป็นบ้า ยัยแรงควายเอ้ย"

"พูดแบบนี้อยากโดนอีกหรือไง"

"ฮ่าๆ"

ฉันมองพี่ฟิวส์ที่หัวเราะออกมา นี่จะว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ได้ที่ฉันเห็นเขายิ้มแล้วหัวเราะได้ขนาดนี้

บอกตรงๆฉันไม่เคยเห็นลักยิ้มที่แก้มของพี่ฟิวส์และเหล็กดัดฟันครบแบบนี้ (ดัดทั้งทิวส์และฟิวส์)

"มองอะไรอีกล่ะเธอนี่ชแบมองคนหน้าตาดี"

"เปล่าเสียหน่อยก็แค่..ไม่เคยเห็นพี่ยิ้มแบบนี้มาก่อนก็เท่านั้นเอง"

"พี่ก็ปกติดีนี่"

"ปังรู้นะว่าที่จริงแล้วพี่ฟิวส์ไม่ได้เป็นคนแบบที่ปังเห็น"

"แล้วยังไงล่ะ"

"บางครั้งปังก็เห็นเงาที่เจ็บปวดอยู่ในตาของพี่ฟิวส์...พี่มีอะไรติดค้างในใจหรือเปล่า"

"มะ.....ไม่มี"

"พี่จะปิดบังทำไมพี่ฟิวส์ไม่บอกปังไม่ว่า คนแบบพี่ฟิวส์ปังเห็นมาเยอะด้านนอกดูเป็นคนที่เข้มแข็งและแข็งแกร่งหยาบกระด้างเย็นชาแต่ภายในใจพี่ก็เป็นคนอื่นทั่วๆไปและอ่อนไหวต่อความรู้สึก"

"ปังรู้ได้ไงว่าพี่เป็นคนแบบนั้น"

"ปังใช้สายตาและความรู้สึกที่ปังมีอยู่ไงล่ะ ปังขอร้องล่ะทำแบบนี้ก็มีแต่พวกที่อ่อนแอเท่านั้นแหละ"

"พี่ไม่เป็นแบบนั้นนะ"

"แล้วพี่เป็นแบบไหนล่ะ!"

"......."

"ปังจะบอกให้รู้นะว่าเรื่องอะไรที่มันหม่นหมองก็ล้างมันออกมาบ้างไม่ใช่พี่จะกักเก็บอยู่แบบนั้น มันทรมานเข้าใจไหม ที่ปังพูดแบบนี้ปังไม่อยากเห็นพี่ฟิวส์ต้องอมทุกข์และพยายามทำตัวให้สุขทำแบบนี้เท่ากับพี่ฟิวส์ทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัวเลยนะ สักวันเรื่องที่พี่เก็บมันก็ต้องทะลักออกมาอยู่ดีถึงตอนนั้นพี่จะเจ็บปวดยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้นจนพี่ไม่สามารถจะเอามันออกไปได้อีกแล้วในชีวิตของพี่ ในความทรงจำมันสร้างขึ้นเพื่อให้คนเราเก็บแต่สิ่งดีๆในตอนที่มีชวิตอยู่ แล้วทำไมพี่ต้องยกพื้นที่แห่งความทรงจำนั้นให้กับความทุกข์ด้วย"

"ปังเลิกพูดเอถะพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ พี่ไม่ได้กักเก็บอะไรทั้งนั้น แต่เรื่องบางเรื่องมันก็ลบออกไปยากนะปัง ปังไม่ได้เป็นพี่ปังไม่รู้หรอกว่ามันยากขนาดไหน ปล่อยนกปล่อยปลามันปล่อยกันได้ง่ายๆแต่ปล่อยเรื่องแย่ๆให้ออกไปจากความทรงจำมันยาก"

"ก็เพราะพี่ฟิวส์เป็นแบบนี้ไงล่ะปังถึงไม่อยากให้พี่ฟิวส์ต้องมากระวนกระวานใจอยู่แบบนี้...ปังเป็นห่วงพี่นะ! พี่ยอมรับในตัวเองได้แล้ว!"

"พี่ไม่ยอมรับเพราะพี่ไม่เป็นอย่างนั้นพี่ไม่ได้เสแสร้ง"

"พี่ฟิวส์!"

"ก็ได้! พี่ก็แค่อยากให้ตัวเองมีคุณค่าให้สายตาขอคนอื่นก็เท่านั้น พี่ก็แค่อยากเก่งเหมือนไอ้ทิวส์ อยากให้พ่อแม่แล้วเพื่อนหรือคนรอบข้างมาชม แต่เพราะพี่มันอ่อนแอไง พี่มันโง่ พี่มัน..."

พึ่บ! ฉันไม่อาจจะรับฟังหรือเห็นน้ำตาที่เอ่อขอบตาของฟิวส์ได้ ฉันกระชากตัวของพี่ฟิวส์เข้ามาประทับจูบอันอ่อนโยนให้แก่เขา ฉันอยากให้เขาแชร์ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นมาให้กับฉัน

ฉันผละออกมาจากพี่ฟิวส์เพราะหายใจไม่ออกใจมันเต้นแรงเกินไปฉันทำอะไรลงไปเนี่ย พี่ฟิวส์มองหน้าฉันอย่างอึ้งๆ ฉันปล่อยเสื้อเขาแล้วก้มหน้าลงอย่างอายจนแทบมุดหัว พี่ฟิวส์เดินเข้ามาใกล้ๆฉันกว่าเดินกลิ่นไอซ์บลูมิ้นเขาเข้ามาแทนที่กลิ่นฟอร์มาลีน พี่ฟิวส์เอามือที่เย็นเฉียบทั้งสองข้างมาจับหน้าฉันให้เงยขึ้นก่อนที่จะจูบลงบนปากฉันอีกครั้งอย่างเนิ่นานฉันหลับตาพริ้มแล้วรับความอ่อนโยนนั้นอยากหยุดใจไม่ไหว  แล้วพี่ฟิวส์ก็ถอนจูบออกมา 

ครืน!

ฉันกับพี่ฟิวส์ผละออกจากกันอย่างรวดเร็วแทบชนิดห่างกันสิบเมตรเมื่อประตูห้องดับจิตเปิดออกเผยให้เห็นบุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่มีผ้าดิบคลุมเข้ามา

"เอ้าหนูสองคนมาทำอะไรในนี้"

 

พี่ฟิวส์เล่าเหตุการณ์ที่เราติดคร่าวๆแต่ก็ไม่มีอะไรมากใครจะไปเล่าเรื่องที่เราสองคน...ชั่งเถอะตอนนี้ฉันไม่อยากเจอหรือมองหน้าเขาแม้แต่นิด

"ปัง..."

ฉันเงยหน้ามองพี่ฟิวส์ที่ยืนค้ำหัวอยู่ ก่อนที่ฉันจะลุกขึ้นจากเก้าอี้

"วันนี้พี่ว่าเรากลับก่อนเถอะพรุ่งนี้ค่อยมาโรงเรียน"

"แล้ว...พี่ฟิวส์ล่ะคะ"

"พี่ก็ว่าจะกลับบ้านพี่โทรบอกไอ้ทิวส์แล้วล่ะว่าลาให้หน่อยแล้วพี่ก็โทรบอกไอ้เนย์ให้โทรหาก๊อบละนะ..ปังไม่ต้องห่วงเรื่องเรียนหรอก"

"ค่ะ"

"ให้พี่ไปส่งไหม"

"ไม่เป็นไรค่ะปังกลับเองได้"

พี่ฟิวส์พยักหน้า

"งั้นพี่ไปส่งที่หน้าหมู่บ้านแล้วกันนะ"

"เอา..แบบนั้นก็ได้ะ"

พี่ฟิวส์เดินมาคว้ามือฉันไปจับแล้วพากันเดินไปจนถึงหน้าหมู่บ้านมือของเขาอุ่นมากในตอนนี้ อุ่นจนฉันไม่อยากที่จะปล่อยมันออกไปไหนเลย

"อ่ะถึงละ เดินไปดีๆนะ"

ฉันพยักหน้าแล้วมองพี่ฟิวส์ที่หันหลังเดินไป

"พี่ฟิวส์คะ!"

พี่ฟิวส์หันหน้ากลับมามองฉัน

"เรื่องเมื่อกี้...ปัง..."

"ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก ไว้เจอกันที่โรงเรียนพรุ่งนะ ยัยขนมปังไส้มะพร้าวววว"

ฉันยิ้มออกมาแล้วมองแผ่นหลังพี่ฟิวส์ที่วิ่งไป ฉันได้แต่ยิ้มเขินๆออกมา ก็คนมันเขินนี่พี่ฟิวส์เป็นจูบของฉันโดย(ไม่)ตั้งใจเชียวนะ(หราาา) ฉันเดินดี๊ด๊ากลับบ้านขออย่าให้แม่กลับมาตอนนี้เลยขี้เกรียจตอบคำถามว่าทำไมถึงกลับบ้านมีตอนบ่ายแบบนี้

 

วันศุกร์

เช้าอากาศสดใสฉันวันนี้ฉันเดินไปพร้อมยัยก๊อบ ก็เพราะยัยนี้อยู่หมู่บ้านเดียวกันไงล่ะ

"เฮ้ย...ปัง..ฉันว่าแกอารมณ์เอ่อ..ผิดปกตินะ"

"ก็ปกติดีนะ..ทำไมเหรอ"

"แกสวยขึ้นหว่ะปัง.."

"เอ่อ.. -..-(ก็นะ)"

"ฉันตอแหล!"

"ไอ้ก๊อบ!"

ก๊อบแลบลิ้นใส่ฉันแล้ววิ่งหนีไป ฉันไล่ตามยัยก๊อบไป วันนี้ต้อเตะตูดยัยนี่ให้ได้ข้อหามันตอแหลหาว่าฉันสวยและเมื่อทำให้ฉันเข้าใจผิดเรื่องพี่ทิวส์ 

ก็เหมือนเดิมถึงจะมาโรงเรียนเช้าก๊อบก็พาฉันมานั่งกินปาท่องโก๋ร้านแปะมันอยู่ดี

"แล้วนี่แกกลับบ้านบ่อยป่ะ"

"ไม่อ่ะ เมื่อคืนอยากไปนอนบ้านบ้างอีกอย่างพ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยได้มาเท่าไรอ่ะแกฉันเลยอยู่กับแปะดีกว่า เลี้ยงฉันตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย"

"แกนี่ก็ดีเนาะ พ่อแม่ไม่อยู่บ้านก็มาอยู่นี่ฉันเห็นแปะแกใจดีมากเลย"

"ก็แปะเป็นพี่ชายพ่อฉันอ่ะแบบลูกพี่ลูกน้องพี่อีกทีอ่ะแก"

"แล้วพี่ชายแกอ่ะ..พี่เนย์"

"ฮู้ววว รายนั้นนะไม่ต้องพูดถึงที่ไหนก็นอนได้แก พี่เนย์ไม่ค่อยมานอนที่นี่เท่าไรหรอก จะนอนก็แต่ที่บ้านอ่ะ....เอ้อ!ว่าจะถามแกอยู่พอดี"

"ถามไรอ่ะ"

"เรื่องแกกับพี่ทิวส์ถึงไหนแล้วว่ะ"

ฉันเงียบไปสักพักจะตอบก็ตอบออกไปไม่ได้ จะให้พูดเหรอว่าเรื่องพี่ทิวส์ไม่เท่าไรแต่เรื่องพี่ฟิวส์มันไปไกลกว่านั้น ก๊อบมองหน้าฉันเหมือนรอเอาคำตอบที่กดดันมาก

"ไม่ต้องมองขนาดนั้นก็ได้"

ก๊อบเหวี่ยงหน้าหนีไปอย่างหงุดที่ไม่ได้รับคำตอบอย่างที่ต้องการ

"เฮ้ยๆแกๆ"

ก๊อบสะกิดแขนฉันให้หันไปดูอะไรบางอย่าง ฉันหันหน้าตามไปสิ่งที่ฉันเห็นทำเอาใจแทบหล่อวูบเมื่อเห็นพี่ฟิวส์เดินมากับแคนดี้ที่ทำหน้าตายิ้มอารมณ์ดีคุยกันอย่างสนุกปากแต่ถ้าเดินเฉยๆฉันก็เข้าใจนะว่ามันเป็นเรื่องปกติแต่..ทั้งสองคนจับมือกับด้วย ย้ำ!ว่านิ้วแทรกนิ้วจับมือกัน

"ปัง...นั่นพี่ฟิวส์นี่หน่าไม่ต้องสนใจหรอกไม่ใช่พี่ทิวส์"

พึ่บ! ฉันลุกขึ้นพึ่งเดินไปหาทั้งสองคน พี่ฟิวส์กับแคนดี้ที่คุยยิ้มกันอย่างสนุกต้องหยุดกึกการกระทำลง

"พี่ฟิวส์ทำแบบนี้กับปังทำไม"

"พี่ทำอะไรอ่ะ"

"นี่ไง!"

ฉันคว้าเอามือทั้งสองคนที่จับกันไว้แน่นแล้วสะบัดให้มือทั้งสองหลุดออกจากกัน

"พี่คิดว่าปังง่ายเหรอถึงได้ทำแบบนี้"
"เรื่องนั้นปังเป็นคนเริ่มนะ"

"พี่ฟิวส์!"

ฉันถลาจะเข้าไปตบพี่ฟิวส์แต่แคนดี้มาปังไว้

"ผู้หญิงหน้าไม่อาย ก็เห็นอยู่ว่าฉันกับพี่ฟิวส์เดินมาด้วยกันยังจะกล้าดีมาด่าอีกเหรอ"

"แคนดี้!"

เพี๊ยะ! ฉันตบหน้าแคนดี้เข้าเต็มๆทำให้พี่ฟิวส์ที่ยืนมองอยู่อึ้งจนทำอะไรไม่ได้

"ปัง!"

แคนดี้เข้ามาผลักชิงดีชิงเด่นกับฉันไปมาแต่ยัยนี่แรงควายเป็นบ้าเลยทำให้ฉันล้มลงกับพื้น

"พอได้แล้ว!"

พี่ฟิวส์เดินมาหยุดมองฉันกับแคนดี้สลับกันไปมา

"ต่อไปนี้ไม่ต้องมายุ่งเรื่องคนอื่นอีกจำเอาไว้!"

แคนดี้พูดจบก็จับมือดึงพี่ฟิวส์ไปโดยไม่คิดแม้แต่จะหันมามองหน้าฉันเลยสักนิด

 

"เฮ้ยปัง!!!"

"ห่ะ!!!"

ฉันสะดุ้งออกจากความคิดวิปริตว่าไปตบแคนดี้นั้นออกไป พอมองอีกทีฉันก็ยังคงนั่งอยยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ก๊อบก็ยังนั่งอยู่ตรงหน้าฉัน เมื่อกี้เป็นแต่ภาพจินตนาการหรือนี่

"แกเหม่ออะไรอ่ะ"

"เปล่า..ก็แค่คิดอะไรนิดหน่อย"

"ถ้าคิดเรื่องเมื่อกี้ไม่ใช่พี่ทิวส์สักหน่อยอย่าคิดมากสิ..หรือแกจะชอบพี่ฟิวส์แทนว่ะ"

"บ้า..ฉันจะไปชอบเขาได้ยังไงไม่มีท๊าง"

"เหนะ...ทำเสียงสูงซะด้วย"

"พูดมากกินไปเลยเนี่ยๆกินให้หมด"

ฉันยัดปาท่องโก๋ใส่ปากกีอบจนยัยนี่แทบอ้วกออกมา

"ไม่กินแล้วพอเลย...นี่จะเจ็ดโมงครึ่งแล้วเดี๋ยวไปโรงเรียนไม่ทัน"

"ป่ะๆ"

"แปะ! ก๊อบไปแล้วนะ"

"โชคลีๆตองเย็นลื้อจะกลับบ้านลื้อเปล่าอ่ะ"

"ไม่กลับละแปะให้พี่เนย์มันเฝ้าบ้าน หวัดดีค่ะ"

"โชคลีๆ ตั้งจายเรียนหร่าอาก๊อบบบบ"

 

 

ระหว่างทางก่อนขึ้นอาคารเรียน โต๊ะไม้หินอ่อนที่เรียงรายเพื่อให้เด็กๆมานั่งทำการบ้านหรือไม่ก็นั่งเล่นตามประสาเด็กนักเรียนเอกชนทั่วไป ลูกบาสกลิ้งมาทางฉันแล้วชนที่เท้าก่อนที่มันจะหยุดกึก

"ก๊อบ! เก็บลูกบาสให้หน่อย"

กัปตันตะโกนมาทางที่เราสองคนยืนอยู่ทำเอายัยก๊อบแทบวิ่งไหนป่าราบ จะไม่ให้วิ่งได้ยังไงยัยเนี่ยเป็นโรคแพ้ความรักจากเขา ยึย!

"ปัง...ฉันไม่กล้าหว่ะ แกเก็บแทนดิ๊"

"เอ้า...ก็เขาสั่งให้แกเก็บแล้วมาใช้ฉันทำไมเนี่ย"

"เอ่อน่า...นะ"

"ก็ได้"

ฉันกำลังก้มเก็บแต่ก็มีมือของใครบาคนเก็บมันแทนฉันไป ฉันเงยหน้ามองเด็กสาวตรงหน้าเธอยิ้มให้ฉันเล็กน้อย ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก เป็นจังหวะที่พี่ฟิวส์วิ่งมาเอาบาสพอดี เจ้าหล่อนที่ถือลูกบาสยื่นให้พร้อมรอยยิ้ม

"ขอบคุณนะแคนดี้"

"ไม่เป็นไรค่ะ.."

พี่ฟิวส์ยิ้มแล้วรับลูกบาสจากแคนดี้ไป

"ไหนบอกว่าจะขึ้นไปห้องเรียนแล้วไง"

"พอดีว่าขึ้นไปบนห้องแล้วไม่มีใครอยู่เลยสงสัยจะไปที่ห้องศิลปะกันหมดเพราะมีเรียนคาบแรก"

"เฮ้ย!สองคนนั้นน่ะจู๋จี๋กันอยู่ได้"

พี่เบสแววขึ้นมาทำเอาเหล่านักเรียนที่เล่นบาสส่งเสียงร้องวี๊ดโห่ใส่ พี่ฟิวส์เกาหัวเขินนิดๆ

"งั้น..แคนดี้ไปก่อนดีกว่า"

พี่ฟิวส์แล้วโบกมือให้แคนดี้ก่อนที่จะกลับไปเล่นบาสใหม่ ฉันที่ยืนมองดูเหตุการณ์สับสนและปวดหัวไปหมด ทั้งที่เขาก็เห็นฉันแต่ทำไม...

"คู่น่ารักเนาะ..พี่ฟิวส์ต้องเป็นแฟนแคนดี้แน่ๆดีออกจะตายอีกอย่างยัยนั่นก็จะได้ไม่ต้องมาเป็นก้างขวางคอแกกับพี่ทิวส์แล้ว"

ฉันถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดแล้วเดินหนีไปโดยไม่สนใจสักนิด 

"เฮ้ยๆรอด้วยดิ"

 

 

กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงง

"ทำไมเวลาเรียนมันเลิกช๊าช้านะแต่เวลานั่งเล่นคาบสุดท้ายหมดเร็วอย่างกับใส่เกียร์แมว"

"เขามีแต่เกียร์หมา"

"แต่ที่บ้านฉันเห็นแมวเวลามันวิ่งหนีเร็วกว่าหมาอีกอ่ะ"

"ไอ้ตูนณ์แกเอาสมองส่วนไหนมาเถียงไอ้ก๊อบว่ะ เคยชนะมันซะที่ไหนนี่ถ้าบ้านทำหอพักแล้วไม่มีใครจ่ายเงินจะเอาไอ้ก๊อบนี่แหละไปทวง"

"นี่แกหลอกฉันเหรอ"

"หรือไม่จริงอ่ะ"

เสียงสามสาวเพื่อนซี้ที่ดังอยู่นั้นมันเหมือนแค่เสียงสะท้อนวี่ๆผ่านหูไปฉันแทบไม่ตั้งใจฟังอะไรทั้งสิ้นแม้แต่การเรียนหรือเหม่ออกนอกหน้าต่างบ่อยๆ ฉันลุกขึ้นเลื่อนเก้าอี้เข้าก่อนที่จะถือกระเป๋าเดินออกห้องไปแต่ก็ยังไม่วายที่จะได้ยินเสียงสามคนนั้น

"ปังไปไหนว่ะ.."

"ไม่รู้ดิเห็นเป็นแบบนี้ตั้งแต่เช้าแล้วอ่ะ สงสัยจะอารมณ์ไม่ค่อยดีมั้ง"

ฉันเดินลงบันไดอาคารเรียนมาจนถึงที่เดิมที่เมื่อเช้าและแล้วเรื่องที่น่าจะเป็นก็ไม่น่าจะเป็นเกิดขึ้น

"แกๆเห็นเพจคู่รักสุดฮอตในโรงเรียนของเราหรือยัง"

"ทำไมอ่ะ..."

"ก็เขาเอาพี่แคนดี้กับพี่ฟิวส์ลงน่ะสิน่ารักยังกับกิ่งทองใบหยกฉันเห็นนี่ฟินจนแทบละลายกองพื้นแล้ว"

"จริงดิ...พี่แคนดี้กับพี่ฟิวส์ที่เป็นเซเลปของโรงเรียนอ่ะนะ"

"ใช่ๆคนนั้นแหละ"

"อ้อ..เมื่อตอนกลางวันฉันเห็นพี่เขาสองคนไปกินข้าวที่โรงเรียนอาหารด้วยกันแหละ สายตาทุกดวงนะจ้องไปหมดเลยแก"

"ฮึ้ยยยย น่ารักอ่ะ"

ฉันที่แอบยืนฟังอยู่นานสองนาน สองคนนี่ไปซัมทิงรองกันเมื่อไรว่ะ ฉันไม่เห็นจะรู้เลย -..-

แต่ก็เอาเถอะเพราะคนที่ฉันอยากมาครอบครองนั้น(อุต๊ะ!)เป็นพี่ทิวส์แต่ไม่ใช่พี่ฟิวส์สักหน่อย ฉันนี่มันพาวเวอร์เกิลจากอีกมิติโลกชัดๆ(มโน)

"เฮ้ยๆแกๆนั่นไงพูดถึงก็มาปั๊บ อ๊ายยยย"

แต่ฉันก็หันไปทางนั้นอยู่ดีทั้งที่ใจไม่ได้เป็นนั้นนะ อย่าาาาา

"เหอะๆ"

ฉันส่งเสียงกวนประสาทตัวเองออกมานิดๆที่เห็น พี่ฟิวส์กับแคนดี้นั่งด้วยกันที่โต๊ะไม้หินอ่อนก่อนที่ยัยอกฟูจะเปิดกระเป๋าถือนักเรียนหยิบกระเป๋าเล็กๆออกมาในนั้นมีเครื่องสำอางกว่าหลายชนิดเต็มไปหมด มิน่าล่ะทำไมพี่แกถึงสวย = =

แคนดี้หยิบเอาที่เขียนคิ้วออกมาแล้วค่อยเขียนคิ้วให้พี่ฟิวส์เล่นๆ ฮึ!ไม่สน..

"เล่นไรเนี่ย"

"น่ารักดีออกเขียนคิ้วจะได้สวยๆ"

"พี่เป็นผู้ชายนะ" -..-

"คิกๆ พี่ฟิวส์น่ารักจะตายยยย"

แคนดี้พูดพลางหยิบแก้มพี่ฟิวส์หมุนหน้าไปมาๆ ฮึ่ยยยย ไม่สนโว้ย!

"แล้วเรายังไม่กลับบ้านเหรอเนี่ย"

"ก็จะกลับแล้วล่ะค่ะแต่แคนดี้อยากกลับพร้อมพี่ฟิวส์นี่"

"ป่ะงั้นกลับกันเหอะ"

พี่ฟิวส์จับอคนดี้แล้วเลื่อนมากุมมือแทน ฉันสูดหายใจเข้าปอดไปเต็มๆแล้วเม้มปากเข้าอยากสะกัดกั้นอารมณ์อย่าถึงที่สุด เย็นๆไว้ๆปัง ยุบหนอพองหนอ

"อ๊ายกุมมือกันด้วยยยย"

"น่ารักอ่ะแกกกก ถ่ายรูปเลยๆ"

ยัยน้องมอต้นสองคนนี่ก็ไม่ยอมหุบปากกันสักทีฉันชักจะมีน้ำโหแล้วนะ ฉันรีบล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากระโปรงออกมาดูแล้วรีบเข้าเพจคู่รักสุดฮอตของโรงเรียนอย่างรวดเร็วแค่รูปโปรของเพจก็เป็นรูปของพี่ฟิวส์กับแคนดี้ที่พวกเขาแอบถ่ายกันเมื่อเช้านี่เต็มไปเพจไปหมด ฉันกำโทรศัพท์แน่นแล้วกระตุกคิ้วนิดหน่อยอย่างใช้ความคิด อย่าเครียดสิปัง เธอชอบพี่ทิวส์ พี่ทิวส์คนเดียวเท่านั้น!!

ฉันเดินหงุดหงิดกลับบ้านอย่างไม่สบอารมณ์นักแต่แล้วก็เผลอไปเดินชนใครเข้าก็ไม่อาจจะรู้ได้

พอฉันเงยหน้าขึ้นมองก็กลืนน้ำลงอึก

 

 

 

เราสองคนหาที่นั่งคุยกันในสวนสาธารณะของหมู่บ้าน พี่เบสยื่นแก้วน้ำอัดลมให้ ฉันรับมันแล้วยิ้มน้อยๆให้กับเขาแทนคำขอบคุณ

"พี่เบสอยู่หมู่บ้านนี่เหรอคะ"

"ไม่หรอกพี่มาหาไอ้เนย์มันน่ะ"

"อ้อค่ะ"

"ปังเป็นอะไรหรือเปล่าเห็นไม่ค่อยร่าเริงเลย"

"เปล่านี่คะ ปังก็ปกติดี"

"แน่หรือเปล่า"

"ก็ต้องแน่สิคะ"

"นึกว่าเห็นแคนดี้กับไอ้ฟิวส์แล้วมันบาดตาบาดใจซะอีก.."

"พี่เบสว่าอะไรนะคะ?"

"เอ่อ..อ้อ! คือพี่พูดว่า..เปล่าๆ พี่กลับบ้านก่อนนะไว้เจอกันๆ"

"ดะ..เดี๋ยวก่อนสิพี่เบส"

"คือพี่รีบไปเรียนพิเศษน่ะ บ๊ายบาย"

พี่เบสลุกขึ้นวิ่งไปโดยไม่หันหลับมามองฉันอีก ฉันเงาหัวด้วยความงง งวยแต่ก็ยอมกลับมานั่งลงเก้าอี้ดั่งเดิม เขาเป็นอะไรของเขากันนะ แปลกๆ

"ปัง.."

ฉันหันหน้าไปมองพี่ทิวส์ที่เดินมาอย่างช้าๆมาดหลายสเต็ปไม่ต้องหล่อมากก็ได้ใจจะละลายคาตรงนี้แล้วค่ะ - -พี่ทิวส์เดินมานั่งข้างฉันแล้วยิ้มให้

"พี่ทิวส์ยังไม่กลับอีกเหรอคะ"

"ยังเลยก็ก่ะว่าจะกลับอยู่นะแต่มีเรื่อที่สำคัญกว่านั้น"

"เรื่องอะไรเอ่ย..."

"ก็คือว่าเมื่อวานพี่ไปร้านตุ๊กตามาเห็นไอ้นี่น่ารักดีเลยซื้อมาฝากปังอ่ะ"

พี่ทิวส์เปิดกระเป๋าถือนักเรียนออกแล้วค้นหาของบางอย่างนั้นอยู่นานสองนาน

"ปัง..."

"คะ..."

"พี่ว่าพี่ต้องลืมไว้ที่ในล๊อกเกอร์แน่ๆเลย"

"ไม่เป็นไรค่ะเอามาให้ปังพรุ่งนี้ก็ได้"

"งั้นตอนเย็นเจอกันที่ใต้อาคารที่ปังเรียนนะ"

"โอเคค่ะ...อื้อพี่ทิวส์..ปังกลับก่อนนะคะเดี๋ยวแม่เป็นห่วง"

"โอเครครับ"

"ไปละคะบาย"

พี่ทิวส์โบกมือรับ ฉันลุกขึ้นเดินกลับบ้านไปอย่างปกติ แต่ตาแม่มกระตุกอยู่นั่นไอ้ด้านขวาเนี่ย

 

 

(ข้ามมาตอนเย็นหลังเลิกเรียนของอีกวัน)

 

ฉันนั่งตอกดินสอสองบีบนโต๊ะป๊อกๆจนเสียงดังรบกสวนแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะในห้องเรียนตอนนี้เหลือแค่ฉันกับเพื่อนในแก๊งค์เท่านั้น

"ก๊อบๆไอ้คำว่า อองชองเต้ แปลว่าอะไรนะ"

ป้ายสะกิดก๊อบที่นั่งทำชีสที่ครูแจกเมื่อตอนเช้า

"อ้อแปลว่า ยินดีที่ได้รู้จัก แกก็เติมเข้าไปช่องที่สอง"

"อ้อ..โอเครๆ"

ตึ้งๆๆๆ ตึ้งๆๆๆ ฉันสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็รีบคว้าเอาโทรศัพท์ขึ้นมาจากที่รอคอยมันมานานแสนนานแล้วเบอร์พี่ทิวส์ก็โชว์ขึ้น ฉันรีบกดรับทันทีทันใด

"ฮัลโลค่ะพี่ทิวส์"

(พี่มารอปังหน้าห้องเรียนแล้วนะ)

"เอ๋...."

ฉันลุกจากโต๊ะเดินออกไปดูก็เห็นพี่ทิวส์ยืนพิงระเบียงอยู่ แล้วเราทั้งคู่ก็วางสายไป ฉันเดินหาพี่ทิวส์

"อ่ะตามสัญญาว่าเอามาให้"

พูดจบพี่ทิวส์ก็ยื่นเอาขวดแก้วที่บรรจุทรายสีเป็นชั้นๆด้านในมีรูปดาวเต็มไปหมด อ๊ายยยทำไมมันน่ารักอย่างนี้

"ขอบคุณมากนะคะ"

"ไม่เป็นไร"

"แล้ว...พี่ทิวส์ให้ปังเนื่องในโอกาสอะไรคะ"

"ก็...อยากจะให้นั่นแหละ"

"อัลเหะๆ"

ฉันกับพี่ทิวส์หันหน้าไปมองสามเพื่อนสาวที่ยืนเกาะประตูห้องเรียนเรียงจากด้านล่างจนถึงด้านบนตามลำดับ พี่ทิวส์อมยิ้มออกมาแก้เขินเล็กน้อย ส่วนฉันก็ใจเต้นสิคะ ยึยจะทะลุทุลวงออกมากองอยู่ตรงหน้าแล้วววว

พึ่บ! ยังไม่ทันจบบทสนทนาก็มีความควายเข้ามาแทรกเมื่อขวดแก้วเล็กๆที่อยู่ในมือฉันถูกดึงออกไปโดยฝีมือใครบางคนอย่างไม่ทันตั้งตัว

และคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนบุคคลร่วมท้องไส้ผู้ชายตรงงหน้าฉันเองแหละ

"แกทำอะไรว่ะไอ้ฟิวส์"

"แกจีบปังเหรอ"

"ถ้าใช้แล้วจะทำไมว่ะ ปังก็ฉันและฉันก็ชอบปัง"

"ไอ้พี่ชั่ว!"

ไม่ทันตั้งข้อหาพี่ฟิวส์ก็พรวดเข้าไปชกพี่ทิวส์จนล่วงไปหนึ่งหมัดฉันแทบหลบหนีไม่ทัน พี่ทิวส์ลุกขึ้นมาเอามือปาดเลือดออกช้าๆ ท่าทางจะเจ็บน่าดู (ไม่ใช่ท่าทางหรอก มันเจ็บใช่เลย)

"หมาลอบกัดนี่หว่า"

"ก็ดีกว่าพี่ทั้งที่รู้อยู่ว่าทำอะไรลงไป"

"แล้วไงว่ะ หนักหัวแกเหรอไอ้ฟิวส์ฉันจะชอบรักใครมันก็เรื่องของฉันแกเกี่ยวไรด้วยว่ะ!"

"เกี่ยวสิ! ทำไมจะไม่เกี่ยว"

"เกี่ยวยังไง"

"ก็คนที่พี่ชะ..."

พลั๊ว! ยังไม่ทันที่พี่ฟิวส์พูดหมัดของพี่ทิวส์ก็ต่อยเข้าฉากหนึ่งเต็มทำหน้าพี่ฟิวส์เซเกือบไปชนยัยสามสาวนั้น พี่ฟิวส์เอาข้อมือเช็ดเลือดที่ออกจากจมูก หรือกำเดาว่ะ เอ่อชั่งเถอะ!

"ไอ้ทิวส์!"

"หยุด!"

ฉันวิ่งเข้ามากันพี่ทิวส์ไว้อย่างนางพญา(ไม่ใช่ละ)พี่ฟิวส์หยุดกึกแล้วลดหมัดลงช้าๆ

"ทำแบบนี้มันมีแต่นักเลงเท่านั้นแหละที่ทำมีเหตุผลหน่อย ปังไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องอะไรที่พี่ฟิวส์ถึงพลุ่กพล่านเข้ามาเอาของที่พี่ทิวส์ให้ปังไปแต่พี่ฟิวส์ก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้มีแฟนอันเป็นที่รักแล้วก็ไปอยู่กับแฟนสิจะมายุ่งเรื่องชาวบ้านคนอื่นเขาทำไม พอเลยนะ..ต่อไปนี้ไม่ต้องมาพูดกันอีก ปังไม่คิดเลยนะว่าพี่ฟิวส์จะเป็นคนแบบนี้ ปังจะไม่ไว้ใจหรือเชื่อใจคนใจร้ายอย่างพี่ฟิวส์อีกแล้ว ถ้าพี่ฟิวส์ทำอะไรพี่ทิวส์ละก็เราจะเห็นดีกันแน่ จำเอาไว้ ปังเกลียดพี่ฟิวส์! เกลียดที่สุดเลย!"

พูดจบฉันก็ฟึดฟึดจูงมือพี่ทิวส์พร้อมกับส่วสายตาแบบที่ไม่เคยพบให้ใครมาก่อนแลวเดินหนีไป มันน่านักไหมล่ะ สมน้ำหน้างี่เง่าดีนักหัดอยู่กับตัวเองซะบ้างจะได้รู้

"เดี๋ยวๆปัง...ปังจะลากพี่ไปไหน"

"อุ้ย..ขอโทษค่ะ"

ฉันรีบปล่อยแขนของพี่ทิวส์ออกอย่างทันทีทันใด

"ปังโอเครไหม"

"ก็โอเคค่ะ"

"แน่ใจนะหงุดหงิดออกมาซะขนาดเนี่ย"

"พี่ทิวส์น่าจะถามตัวเองมากกว่านะคะว่าโอเครไหมน่าจะบวมหรือเปล่าก็ไม่รู้"

"อ้อพี่ทิวส์รอปังอยู่ตรงนี้นะคะเดี๋ยวปังมา"

"ปังจะไปไหน"

"จะไปขอยาที่ห้องพยาบาลค่ะรออยู่ตรงนี้แหละ"

"ครับคุณแม่"

"เอ๊ะ!เดี๋ยวก็โดนหรอกพี่ทิวส์อยากได้อีกสักหมัดไหม"

"ไม่ๆแล้วววว"

ฉันเบ้ปากอย่างหมั่นออกมาแล้วรีบไปขอยาที่ห้องพยาบาล พอฉันกลับมาก็ยังคงเห็นพี่ทิวส์ยีงคงนั่งรออยู่ที่เดิมไม่ไปไหน แหมมมม เชื่อฟังกันเสียจริง

ฉันนั่งลงข้างๆพี่ทิวส์พร้อมกับเปิดขวดแอลกอฮอร์ออกมา นำสำลีจุ่มเข้าไป

"เฮ้ยๆเอาจริงดิมันแสบนะ"

"นึกถึงตอนปังตกบันไดกับพี่ทิวส์สิ พี่บังคับปังเองไม่ใช่เหรออออ เพราะฉะนั้นพี่ต้องใส่มัน"

"แต่มัน...แสบอ่ะ"

"ไม่แสบค่ะ"

"ไม่แสบอะไรล่ะพี่เคยหกล้มตอนมอต้นใส่ปุ๊บทรมานเป็นบ้าพี่แทบชักดิ้นชักงอให้ตายคาพื้นที่เนี่ย"

"เว่อร์ไป..มานี่อยู่เฉยๆนะแสบแป๊บเดียวเดี๋ยวพยาบาลปังจะรักษาให้นะคะ"

พี่ทิวส์ยอมอยู่นิ่งๆแต่ก็หลับตาลงเหมือนความเจ็บใกล้จะมาถึงแล้ว ฉันแทบอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ฉันค่อยบรรจุทาบสำลีเสียบไม้ที่จุ่มแอลกอฮอร์ฆ่าเชื้อลงไปแค่แตะแรกพี่ทิวส์ก็ร้องออกมา

"โอ้ยๆ แสบๆ"

"ก็อยู่เฉยๆสิ"

"ก็แสบอ่ะ"

"ถ้าพี่ทิวส์ไม่อยู่เฉยๆมันก็แสบสิถ้าอยู่นิ่งเฉยๆแป๊บเดียวก็หายแล้ว"

"แป๊บเดียวแน่นะ"

"แน่ค่ะ...นิ่งนะ"

 

 

 

#ฟิวส์ ราชาเด็กนรก

ผมยืนนิ่งกำมือตัวเองโกรธ โกรธที่ตัวเองทำอะไรไม่คิด โกรธที่ตัวเองมันงี่เง่าเกินไปความจริงผมไม่ควรไปหาเรื่องแบบนั้นด้วยซ้ำไป ทำไมผมมันเป็นคนแบบนี้นะ

"พี่ฟิวส์ยืนกำมือแบบนั้นจะได้โล่อะไรล่ะคะ"

ผมหันหน้าไปมองเพื่อนสนิทของปังทั้งสามคนที่ยืนประจันหน้าอยู่ตอนนี้

"ใช่ค่ะก๊อบก็คิดเหมือนป้าย..พี่ฟิวส์ควรไปปรับความเข้าใจกับปังก่อนที่มันจะสายเกินไปนะคะอีกอย่างป้งไม่ใช่คนใจแข็งหัวดื้อง้อนิดง้อหน่อยก็หายแล้ว"

"แต่พี่ทำอะไรที่มันรุนแรงไปนะ"

"พี่ฟิวส์คิดแบบนั้นก็จบเห่สิ ป้ายว่าพี่ควรจะไปขอโทษเหมือนที่ก๊อบบอกน่าจะดีที่สุดแม้เรื่องมันจะร้ายแรงแค่ไหนพี่ก็ต้องทำและยอมรับผิดนะ"

"ปังจะหายโกรธจริงๆเหรอ"

"จริงสิ! ตูนณ์เป็นเพื่อนปังมาตั้งนานรู้นิสัยของปังอยู่แล้ว ปังไม่ได้เป็นไม่มีหตุผลแค่พี่ฟิวส์ให้เหตุผลที่ทำลงไปเพราะอะไรไม่แน่เรื่องหนักๆอาจจะเป็นเบาก็ได้ถึงจะไม่หมดทั้งหมดก็ดีกว่าให้ใครมาเกลียดเราโดยเฉพาะคนที่สำคัญกับเรา"

ผมนิ่งคิดไปสักพัก ใช่สิ เด็กๆพวกนี้พูดถูกถ้าเราขอโทษและให้เหตุผลปังอาจจะให้อภัยถึงจะไม่ทั้งหมดแต่ก็ดีกว่าให้ปังมาโกรธหรืออกห่างแบบนี้

"พี่รออะไรอยู่ล่ะไปตามปังสิ"

ป้ายเสริมขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ผมมองหน้าน้องๆทั้งสามแล้วเม้มปากเข้า

"พี่รอพ่อตัดริบบิ้นเหรอคะ"

ก๊อบพูดขึ้นมาถึงจะดูขำๆแต่เจ้าตัวก็หน้าตาได้จริงจังมาก 

"ขอบคุณมากนะ..ทั้งสามคนเลย"

ผมถลากางแขนจะเข้าไปกอดทั้งสามคนแต่ป้ายก็เอามือมาดันหัวผมไว้

"ตลก..ไปเลย..ไปเดี๋ยวนี้เดี๋ยวเขาก็หายไปอีกหรอก พี่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเหรอ"

ผมพยักหน้าแล้วยิ้มออกมาก่อนที่จะวิ่งไปตามหาปัง ขอให้อยู่ในโรงเรียนนี่ก่อนเถอะอย่าพี่งไปไหน รู้ไหมว่ากำลังจะไปหา ไปบอกความในใจทั้งหมดที่ผมมีเหลืออยู่โดยไม่ปิดบังใดๆ พูดให้เหงือกแห้งไปเลย!

 

 

ผมวิ่งตามหาแทบทั่วโรงเรียนแต่ก็ไม่เจอแดดตอนเย็นในวันที่ฝนไม่ตกมันชั่งรออบอ้าว ผมสอดสายตามองหาไปทั่ว

"อะ..โอ้ย!"

ผมสะดุ้งเสียงแล้วมองหาที่มาเพราะเสียงนี่ผมจำได้ว่ามันเป็นเสียงของทิวส์ จนต้องไปสะดุดตากับสองหนุ่มสาวที่กำลังทำแผลให้กันอยู่ ผมรีบหลบมุมเข้ามาแอบอยู่หลังเสาอย่างเงียบๆ

"ปัง.."

"หือ...."

"พี่ขอถามอะรหน่อยสิ"

"คะ?"

"คือ....ปังรู้สึกยังไงกับพี่อ่ะ พี่อยากรู้"

"พี่ทิวส์ถามงี้เลยเหรอ"

"ก็พี่อยากรู้จริงๆปัง...บอกความรู้สึกออกมาให้พี่ได้รู้ได้ไหม"

"คือว่าปังก็ไม่ได้อยากจะพูดนะคะแต่ว่าถึงขนาดนี้แล้วปังก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธหัวใจตัวเองได้"

"แล้วตกลง..."

"ปังชอบพี่ทิวส์ค่ะ ชอบมานานแล้วด้วย...นานจนปังคิดว่า...ปัง..."

ผมที่ยืนแอบฟังอยู่กัดปากตัวเองแน่นเพื่อไม่ให้ส่งเสียงออกไป

"ปังคิดว่า..ปังจะหมดหวังที่จะชอบอีกต่อไปเพราะถ้าเทียบกับพี่ทิวส์แล้ว..ปังเป็นแค่เม็ดทรายเล็กๆที่ทำได้เพียงมองเมฆในตอนกลางวันและดาวในตอนกลางคืนก็เท่านั้น"

"พี่เอง..ก็ชอบปังเหมือนกันนะ"

"เอ๋...."

"แต่พี่ก็ไม่รู้จะบอกปังยังไงดี ให้พี่....เป็นคนดูแลปังได้ไหม"

ผมค่อยๆหันหน้าไปมองพวกเขาแล้วเห็นพี่ทิวส์ก้มลงจูบปังอย่างช้าๆ ผมหันหน้ากลับมาแล้วเงยหน้าจนหัวติดเสา ทำไมมันทรมานและเจ็บปวดแบบนี้ ผมโง่เองที่ไม่ยอมบอกความรู้สึกของตัวเอง ผมโง่เองที่ปล่อยคนที่สำคัญกับชีวิตให้หลุดมือไปได้ง่ายๆ ผมกลืนน้ำลายลงคอแล้วน้ำอุ่นๆก็เริ่มไหลออกมาแอบแก้มอย่างห้ามใจไม่ไหว ผมเดินหนีออกมาจากจุดนั้นทันทีโดยที่ใจมันได้หายกลับไปโดยไม่ได้รับคืนมาต่อเติม

"พี่ฟิวส์..."

ผมเงยหน้ามองดูคนตรงหน้า เธอทำหน้าขมวดค้ิวเข้าอย่างเครียดจัด แคนดี้เอามือมาจับไหล่ผม

"พี่ฟิวส์เป็นอะไร..."

 

 

#ปัง เด็กมอสี่

ในขณะที่พี่ทิวส์กำลังก้มจะจูบฉันนั้น ฉันก็กระซิบข้างหูของเขาก่อน

"ปังขอโทษนะคะ..ปังทำแบบนี้ไม่ได้"

ฉันผละออกจากพี่ทิวส์ทั้งที่เราสองคนยังไม่ได้สัมผัสกันทั้งนั้น พี่ทิวส์ยิ้มออกมา

"พี่ทิวส์ยิ้มทำไม"

"ก็พี่คิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้"

"แบบไหนคะ?"

"อ่ะ..."

พี่ทิวส์ยื่นเอาสมุกเล่มเล็กๆกระทัดรัดสีชมพูที่ประดับประดาด้วยกากเพชรจนน่ารักสดใส

"พี่ทิวส์เอามาทำไม"

"สมุดเล่มนี้เป็นของรักของหวงที่ไอ้ฟิวส์ชอบมากที่สุด มันไม่เคยแม้แต่จะให้ใครจับ"

"สีชมพูเนี่ยนะ มันจะไม่แอ๊บแบ๊วทเกินไปที่เป็นของพี่ฟิวส์หรอกมั้งคะ"

"ปังลองเปิดดูแล้วปังจะเข้าใจ"

ฉันเปิดสมุดดูด้านในเป็นกระดาษไม่มีเส้นสีน้ำตาลครีมชนิดถนอมสายตา และที่ฉันใจเต้นไม่เป็นจังหวะก็คือในสมุดเล่มนี้มีรูปฉันในโรงเรียนเต็มไปหมดพอเปิดไปเรื่อยก็เห็นรูปของฉันกับพี่ทิวส์ในห้องครั้วตอนที่ฉันไม่สบายและรูปขวดยาพาราพร้อมคำบรรยายสั้นๆว่า

:อุส่ารวมค่าเกมส์กับค่าขนมมาเชียวนะ

หน้าต่อไปเป็นพาสเตอร์ยาที่เป็นแปะให้เมื่อวันที่เราสามคนกลับบ้านด้วยกัน แปะลงบนสมุดเล่มนี้

:รู้ไหมว่าแผลอันนี้เกิดจากที่หงุดหงิดขว้างกระปุกยาพาราแต่มันก็เด้งกลับมาใส่หัวจนได้ เจ๋บเป็นบ้า

:ทำแผลให้เธอแม่มโค-ตะ-ระ ใจเต้นเลยหว่ะ

และแต่ละหน้าก็เป็นการวาดรูปแทนการถ่ายรูปหรือเอาสิ่งของมาแปะ

:พี่ดีใจนะที่ปังก็คิดแบบเดียวกัน

:จูบวันนั้นลืมยากชิบ!

ฉันเม้มปากเข้าแทบอยากจะร้องไห้ความจริงเรื่องราวมันมีมากกว่านี้จนฉันแทบไม่อยากอ่านมัน

"แล้วเรื่องตุ๊กตาหมีวันนั้น"

"พี่ก็ไม่ได้เป็นคนซื้อให้ปัง..แต่มันนั่นแหละที่ซื้อให้ปังเอง"

"และ...เรื่องที่ปังติดในห้องดับจิต"

"ก็เป็นฝีมือของพวกพี่ที่ล๊อกประตูจากด้านนอก..พี่ก็แค่อยากให้ปังกับไอ้ฟิวส์แสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา ไอ้ฟิวส์น่ะเมื่อมันได้รักใครแล้วมันจะรักให้ถึงที่สุด มันเคยเป็นแฟนเก่าของแคนดี้มันรักแคนดี้มากแต่สุดท้าย แคนดี้ก็ทิ้งฟิวส์ไปสักระยะ มันบอกกับพี่ว่า..."

 

เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน

"ทิวส์..."

"หืม..."

"เมิงรู้ไหมว่าเวลากุได้อยู่กับปังอ่ะ..เหมือนได้อยู่กับบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นที่รู้สึกได้อย่างเห็นได้ชัด อยากปกป้องเขาให้มากที่สุดและอยากเห็นเขามีความสุขให้มากกว่าใครๆ แบบนี้เขาเรียกว่าความรักหือเปล่าว่ะ"

"ไม่รู้สิ เมิงก็คิดเอาเองดิโตแล้วไอ้ฟาย"

"โหยยยยย"

 

ปัจจุบัน ณ ขณะนี้

"ปังควรจะรู้ได้แล้วนะว่า..ปังชอบใครกันแน่ตอนนี้ใจของปังไปอยู่ที่ใครกันแน่ อย่าโกหกตัวเองเลย"

"คือว่าปัง...."

"ถ้าปังได้เลือกหรือตัดสินใจแล้ว...ก็ควรตัดสินใจให้มากที่สุดใช้ใจของปังเป็นเครื่องในการค้นหาความรักครั้งนี้ถ้าหากปังได้เลือกแล้วอย่าลืมสิว่า...ปังอาจจะต้องเสียใครคนหนึ่งที่แท้จริงแล้วปังรักไปเลยก็ได้"

"พีทิวส์ปังไม่ได้..."

"อย่าโกหกด้วยเองไปเลย..เพราะยังไงพี่ก็รู้คำตอบอยู่แล้วล่ะ"

"พี่ทิวส์...."

"......"

ฉันยิ้มออกมาแล้วก็เม้มปากเข้า น้ำตาของฉันมันเอ่อออกมาจนหน้าฉันแดงไปหมด

"ปังขอบ..คุณพี่ทิวส์....มากนะคะ"

พี่ทิวส์ยิ้มให้แล้วพยักหน้ารับ ฉันลุกขึ้นแล้ววิ่งตามหาพี่ฟิวส์ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืดเขาคงไปไหนได้ไม่ไกลฉันเดินหาจนทั่วจนในที่สุดก็เจอ...เจอในแบบที่ไม่อยากเจอ

พี่ฟิวส์ที่ยืนกอดกับแคนดี้อยู่ทำเอาหัวใจฉันมันหล่นวูบไปสะอึกจนพูดไม่ออก นี่ฉันช้าไปแล้วเหรอ ฉันช้าไปแล้วใช่ไหม ใช่! ฉันมันผิดเอง ผิดที่ทำตามหัวใจของตัวเองช้าเกินไป คนอย่างฉันมันสมควรแล้วนี่ ฉันปาดน้ำตาออกอย่างรวดๆแล้วยิ้มออกมาทั้งที่ไม่อยากยิ้มด้วยซ้ำ

"โชคดีนะ..."

 

#รวมมิตร

ปังหันหน้าหนีไปพร้อมกับฟิวส์ที่ออกจากอ้อมกอดของแคนดี้ แล้วปังก็เดินหนีไปโดยไม่หันหลับมามอง

"พี่ขอบคุณแคนดี้มากนะ"

"ไม่เป็นหรอกค่ะ ตอนนี้แคนดี้ก็รู้แล้วว่าอะไรควรไม่ควร แคนดี้ก็ขอให้พี่ฟิวส์โชคดีนะคะได้รักกับคนที่ฟิวส์รักแล้วเขาก็รักพี่ฟิวส์และพร้อมยืนเคียงข้างพี่ได้มากกว่าแคนดี้..แคนดี้ดีใจนะที่เคยคบกับพี่ฟิวส์แม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม..."

"อย่าร้องไห้สิขี้แยไปได้"

ฟิวส์เอื้อมมือไปจับหัวแคนดี้โยกไปมา

"ว่าแต่เขาตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ"

"พี่ว่าพี่คงไม่สมหวังแล้วล่ะ"

"ทำไมล่ะคะ"

"ก็เพราะคนที่พี่รักน่ะ เขามีความรักที่ดีกว่าพี่แล้วสิ"

"พี่ฟิวส์...."

"เย็นแล้วกลับบ้านเถอะนะให้พี่ไปส่งไหม"

แคนดี้พยักหน้าช้าๆ 

"ค่ะ..."

 

 

บรรยากาศในตอนเย็นๆท้องฟ้าสีส้มอมแดงช้ำเลือดช้ำหนอง ถึงปังจะเดินมาถึงหมู่บ้านแต่ก็ต้องไปนั่งหงุดหงิดอยู่ที่สวนสาธารณะอย่างนิ่งเงียบ ดอกกุหลาบที่พึ่งซื้อมาถูกเด็ดออกเพื่อชิงโชคพร้อมคำพูดที่ซ้ำๆไปมา

"รัก..ไม่รัก...รัก...ไม่รัก"

"รัก..."

พอจนกลีบสุดท้ายก็มีเสียงหนุ่งแทรกขึ้นมา ปังเงยหน้ามองคนที่เดินมา เธอเป็นเด็กสาวผิวขาวรูปร่างผอมหน้าตาสะสวยเหมือนดาราวัยรุ่น นี่หรือจะเอาอะไรไปสู้กันเล่า

"เธอมานับแทนทำไม"

"ฉันก็แค่อยากมาขอโทษเธออ่ะ"

ปังลุกขึ้นพึ่งมองหน้าแคนดี้แบบไม่เชื่อหูของตัวเองที่ได้ยินยัยนางร้ายจอมมารนี่นะจะขอโทษใครเขาเป็น

"เธอว่าอะไรนะ"

"เธอฟังไม่ผิดหรอกปัง...ฉันอยากมาขอโทษเธอ"

"เรื่องอะไร"

"ก็เรื่องที่ฉันทำไม่ดีกับเธอไว้..ฉันขอโทษนะ"

"เธอไม่เคยทำอะไรให้ฉันนี่"

"ทำไมจะไม่เคยล่ะปังทั้งที่ฉันก็รู้ว่าเธอแอบชอบพี่ทิวส์มานานและฉันก็ไม่ได้เป็นแฟนพี่ทิวส์ด้วย ฉันก็แค่อิจฉาเท่านั้นเลยไม่ชอบเธอน่ะ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วนะว่าอะไรเป็นอะไรเธอให้อภัยฉันได้ไหมปัง..ก่อนที่ฉันจะไป"

"เธอ...จะไปไหน"

"คือหลังจากสอบเสร็จปลายภาคแล้วฉันจะย้ายไปเรียนที่อังกฤษกับครอบครัว"

"......"

"ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้บอกอะไรบางอย่างกับเธอฉันคงเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆที่ทำให้คู่ที่กำลังจะรักคู่หนึ่งต้องไม่ได้คู่กันอย่างที่หวังไว้"

"เธอหมายความว่ายังไง"

"ปัง...ฉันจะไม่โทษเธอเลยนะที่เธอเข้าใจผิดแต่เรื่องทุกเรื่องมันก็ย่อมมีความจริงซ่อนอยู่ เธอ..อย่าโกรธกันเลยได้ไหม"

"แต่เรื่องตอนเย็น..ฉันเห็น..."

แคนดี้นิ่งไปสักพักที่เห็นปังเกือบที่จะร้องไห้ออกมา เธอจึงฉุดคิดเรื่องตอนเย็นขึ้น อย่าบอกนะว่าปัง...เห็นเธอกับฟิวส์กอดกัน

"ถ้าเป็นเรื่องตอนนั้นฉันกับพี่ฟิวส์ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่เธอคิดนะปัง"

"......"

"คือตอนนั้น..พี่ฟิวส์เห็นเธอจูบกับพี่ทิวส์เลยร้องไห้เสียใจออกมา ฉันบังเอิญมาเจอก็เลยปลอบ เธอคงไม่ได้ติดใจอะไรใช่ไหม"

ปังเลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้มน้อยๆออกมา

"แค่เธอยอมรับผิดฉันก็ดีใจแล้ว"

"ฉันอยากให้เธอใช้หัวใจให้เต็มที่หลังจากนี้นะ...ปัง...ฉันอยากให้เธอเป็นคนที่ทำหน้าที่ต่่อจากฉันเพราะหลัจากที่ฉันเลิกกับพี่ฟิวส์ตอนมอสาม พี่เขาไม่เคยมองใครเลยจริงๆนะจนมาเป็นเธอในที่สุด ฉันดีใจนะที่เป็นเธอ คนที่จะมาเติมส่วนที่หายไปของเขาแทนฉัน"

"แคนดี้....."

ปังเริ้มขมวดคิ้วร้องไห้ออกมาไม่ต่างจากแคนดี้ที่เริ่มไหลพรากออกมาเช่นกัน

"ปัง...."

แคนดี้กับปังเข้าสวมกอดกันโดยที่ทั้งสองร้องไห้ออกมาอย่างที่ไม่เคยร้องมาก่อน ปังยังคิดด้วยซ้ำว่าร้องไห้เยอะกว่าที่แคนดี้เคยหอมแก้มพี่ทิวส์เสียอีก

"ขอโทษ...นะปัง"

เสียงแคนดี้ที่สั่นเครือพูดออกมาข้างหูปัง ปังพยักหน้าช้าๆ

"อย่าหายไปไหนนานนะ...กลับมาบ้างนะ"

"ฉันจะ..กลับมานะ"

 

 

 

18:00 

#ปังเด็กมอสี่

นี่คงจะเป็นช่วงเย็นที่ร้อนสุดๆทำไมอากาศมันร้อนเช่นนี้นะทั้งที่ก็ใกล้หน้าหนาวลืมไปไม่ว่าฤดูไหน กรุงเทพก็มีอยู่แค่ฤดูเดียวคือ ฤดูร้อนนนนนนน!!!

หลังจากที่ฉันร่ำลากับแคนดี้ได้สักพัก หล่อนขอตัวกลับไป ฉันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่ยัยอกฟูขอโทษและได้กอดกับหล่อนแบบโหยหาเช่นนี้

ฉันลุกขึ้นปัดเสื้อนักเรียนแขนยาวเล็กน้อยก่อนที่จะย่างก้าวเท้าเดินกลับบ้าน

ครืนนนนนนนนนนน ซ่าาาาาาาาาาา   เวรกรร - - ทำไมมันซวยแบบนี้ นี่คือวันดีหรือนี่คือวันซวยสำหรับฉันกันแน่ที่มาเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ทั้งวัน ให้ตายสิฝนตกลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทั้งที่ก็โคตรจะโซฮอตแท้ๆ ฉันเข้าไปมุดหลบในอุโมงของเด็กเล่นที่เป็นสไลเดอร์ อย่างน้อยรอฝนหยุดก่อนก็ยังดี ถ้ามันไม่หยุดล่ะ..ก็เป็นหน้าที่แม่ ที่จะออกมารับฉันที่สวนสาธารณะของหมู่บ้าน เฮอะๆ

 

ในที่สุดฝนก็หยุดตกพระอาทิตย์ยิ้มแฉ่งของฉันตกลงพอดีที่ดวงจันทร์ขึ้นมาครอบครองผืนฟ้าเอง ฉันค่อยมุดออกมาคงจะลื่นออกมาจากกระดานลื่นไม่ได้เพราะเปียก ฉันค่อยมองซ้ายขวาบ้านแต่ละหลังเปิดไฟสว่างจ้า ฉันเดินออกมาจากสวนสาธารณะอย่างรวดเร็ว ถึงจะเป็นในหมู่บ้านมีบ้านตรวจอย่างหนาแน่นทุกเวลา แต่ก็จะไว้ใจใครได้เกิดโดนฉุดล่ะแย่เลย ฉันยิ่งสวบๆอยู่ด้วย

(อย่างหลังนี่ไม่ใช่ละ) -..-

ปื้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!

O O!!!

"ปังระวัง!!!"

แสงไฟรถยนต์ไม่ทราบป้ายทะเบียนทอดสู่หน้าฉันแล้วมันกำลังจะชนฉันแต่ว่ามีมืออันแข็งแกร่งของใครบางคนฉุดเข้ามาที่เดิมเสียก่อนฉันกับผู้มีพระคุณล้มลงกับพื้นอย่างจัง
"โอ้ย!"

ฉันลุกขึ้นปัดกระโปรงอย่างรวดเร็วที่เห็นเขาร้องออกมามาเพราะฉันล้มทับเต็มๆเลย ฉันค่อยๆยื่นมือไปให้คนตรงหน้า เขาจับมือฉันแล้วลุกขึ้น 

"ขอบคุณนะคะ..."

ฉันหรี่ตามองดูแต่ก็มอไม่ให้ เฮ้ย! แว่นฉันหล่นหายไปไหนว่ะ

"อ่ะนี่...แว่นเธอ"

ฉันรับแว่นจากคนตรงหน้ามาเช็ดๆกับเสื้อนักเรียน

"เดี๋ยวเสื้อนักเรียนก็เปื้อนหรอก..มานี่"

เขาแย่งแว่นไปจากฉันแล้วเอาล้วงเอาผ้าเช็ดหน้า(น่าจะนะเพราะเห็นเป็นผ้าๆ)ออกมาแล้วเช็ดๆก่อนที่จะสวมให้กับฉัน ฉันหรี่ตาลงแล้วลืมตาดูอย่างชัดๆ และแล้วภาพด้านหน้าก็เป็นเพียงความนิ่งอึ้ง

"พี่ฟิวส์...."

ฉันกัดปากตัวเองแล้วหมุนตัวเดินหนีแต่เสียงอันเรียบแบบมีแอบแฝงของพี่ฟิวส์ก็ขึ้นมาจนฉันต้องหยุดกึกทันที

"ปังจะไปก็ได้นะ..แต่ก่อนที่ปังจะไป...พี่อยากพูดอะไรบางอย่างที่พี่อยากให้ปังรู้นะ"

ฉันหยุดกลืนน้ำลายลงคอนึกถึงหน้าของพีฟิวส์ที่อยู่ด้านหลังตอนนี้ไม่ออกด้วยซ้ำี่เขาจะพูดอะไรกันเนี่ย ฉันอยากบอกว่าฉันไม่โกรธนะแต่ฉันก็แค่อยากได้ยินสิ่งๆนั้นออกจากปากของเขาก็เท่านั้นเอง

"ไม่ว่าปังจะคิดยังไงพี่ก็อยากจะบอกปังให้หมดๆ พี่ขอโทษที่ทำไม่ดีกับปัง ขอโทษที่พูดโดยไม่คิดว่าปังจะรู้สึกยังไงแต่ที่พี่ทำลงไปเพราะพี่ก็แค่อยากอยู่ใกล้ชิดปังอย่างคนอื่นๆบ้างโดยไม่ต้องอายหรือเขินก็เท่านั้นเอง พี่อาจจะเคยเป็นคนที่ไร้สาระมาก่อนแต่เพราะพี่เคยโดนทิ้งจากคนที่รักเลยไม่กล้าที่จะรักใครอีกต่อไป จนพี่ได้มาเจอปัง พี่ถึงได้รู้ว่าพี่เจอครึ่งส่วนหนึ่งที่มันหลุดหายไปทั้งที่พอตามหาส่วนที่แหว่งนั้นอยู่นานแสนนาน แล้วปังก็มีส่วนนั้นที่ใส่มันได้พอดี แต่ถ้าปังไม่อยากเจอหน้าพี่ไม่อยากได้ยินเสียงพี่อีกต่อไปพี่ก็จะไม่ยื้อไว้ และก็ขอให้ปังได้ความรักจากพี่ทิวส์อย่างเต็มเปี่ยมนะ เพราะแค่ปังมีความสุข...พี่ก็มีความสุข ถ้าปังยิ้มพี่ก็จะยิ้มตาม แต่พี่คงจะกวนใจปังไม่ได้มากและอย่างสุดท้ายที่พี่จะบอกก็คือ....."

"......."

ฉันสูดลมหายใจเข้าออกอย่างไม่เป็นจังหวะฉังฟังอย่างเงียบๆโดนไม่ไปหันหน้ามองด้วยซ้ำ

"พี่ดีใจนะ..พี่เกิดมาเจอปังทั้งที่เป็นไม่ได้มากกว่านั้นก็ตามแค่ได้เกิดมาเจอพี่ก็ดีใจแทบแย่แล้ว..พี่จะไปเองไปจากปัง..ปังจะได้ไม่อึดอัดใจอีกต่อไป...โชคดีนะ"

คำสุดท้ายของพี่ฟิวส์ (โชคดีนะ) มันเหมือนกับคำที่ฉันพูดเมื่อตอนเย็นที่โรงเรียนทั้งน้ำเสียงที่สั่นเครือและความหมายที่แฝงลึก ฉันยืนนิ่งคิดอยู่นาน ไหนๆพี่ฟิวส์ก็มาบอกความรู้สึกขนาดนี้แล้วถ้าฉันไม่ได้ทำอะไรเลย มันจะไม่ดูใจร้ายไปหน่อยเหรอ ฉันล้วงเอาสมุดเล่มเล็กสีชมพูขึ้นมาดูแล้วหันหน้ากลับอย่างรวดเร็ว จวบพอดีกับพี่ฟิวส์หันหน้ากลับไปเช่นกัน

"เดี๋ยว!"

พี่ฟิวส์หยุดฝีเท้าลงเหมือนกับฉันเมื่อกี้ ถือว่าเราสลับกันก็แล้วกันนะ 

"......"

"แล้วสุดเล่มเล็กเล่มนี้..พี่จะให้ปังเก็บเหรอไง"

พอฉันพูดจบพี่ฟิวส์ก็หันหน้ามามองอย่างรวดเร็ว ฉันชูสมุดสีชมพูขึ้นกากเพชรของมันแวววาวเมื่อกระทบกับแสงไฟ 

"รู้ไหมว่าสมุดเล่มนี้มันดราม่า"

"ปังเอาได้ยังไง"

"ไม่รู้ล่ะ...พี่ฟิวส์ยังไม่ได้เอายาพารามาให้ปังเลยนี่..เอามือให้เมื่อไรคอยไปจากชีวิตปังนะ"

"....."

"ถ้าไม่ใช่กระปุกที่โดนใส่หัวละก็....ไม่ต้องเอามาให้"

"แต่ปังชอบพี่ทิวส์..."

"มันไม่ได้สำคัญสักหน่อยว่าปังจะชอบใครน่ะ เพราะคนที่ชอบกับที่รักมันต่างกันนะ ถึงปังจะชอบพี่ทิวส์ก็ไม่ได้หมายความว่าปังจะรักนี่ เพราะคนที่ปัง..."

ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบพี่ฟิวส์ก็เดินเข้ามาสวมกอดฉันอย่างรวดเร็ว 

"พี่รักปังนะ..."

ฉันยิ้มออกมาแล้วคอยๆเลื่อนมือขึ้นกอดตอบพี่ฟิวส์ เขากอดฉันแน่นขึ้นจนฉันได้รับความรักและไออุ่นของเขาอย่างเต็มเปี่ยม

"เมื่อตอนเย็นปังไม่ได้จูบกัยพี่ทิวส์ใช่ไหม"

"ปังจะทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะ"

"พีรักปังที่สุดเลย"

เราสองคนพูดกันทั้งๆที่ยังกอดกันอยู่

"แล้วปังล่ะ.."

"ปังยังจะต้องพูดเหรอคะ ถ้าไม่รักจะพล่ามหากระทงอะไรล่ะ"

"เฮ้ย!เด็กสองคนนั้นน่ะทำอะไรกัน!"

ฉันกับพี่ฟิวส์ผละออกจากกันแล้วหันไปมองยามที่จอดรถจักรยานมองดู เขาล้วงหาไฟฉายที่กระเป็นใหญ่ๆข้างรถเพื่อส่องดู แตจะมีหรือที่ฉันจะให้เขาจับได้ ฉันคว้าข้อมือพี่ฟิวส์ขึ้นมา

"ปังจะทำอะไร"

"วิ่ง"

"ห่ะ?"

"วิ่งหนียาม!"

พอพูดจบฉันก็บพี่ฟิวส์ก็จับมือกันวิ่งหนี เพราะไม่ว่าความรักของเราจะเป็นอย่างไรมันก็ผ่านมาได้ด้วย ฉันจะรักษาความรักให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขาก็คือส่วนหนึ่งที่มาเติมเต็มให้กับฉันเต็มพอที่จะดึงมันออกไปได้ยากและฉันก็จะไม่มีวันในส่วนๆนี้หายไปจากชีวิตไปอย่างง่ายๆแน่นอน ถ้าขอแค่มีพี่ฟิวส์ ฉันก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว นี่แหละคือความ "ต้องการ" ของฉันคนนี้ความรักที่บริสุทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม

 

พี่ฟิวส์.....

 

 

 

 

 

 

(ติดตามตอนต่อไปได้เลยนะคะ วิจารณ์กันด้วยนะ ตอนต่อไปตอนที่ 2 ตอน "จูบ" ฝากโหวตและติดตามกันด้วยนะคะ อาจจะพิมพ์ตกหรือผิดไปบ้างก็ขออภัยนะคะ)

 

 

                                                                        

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านเรื่องสั้นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา