ล่วงหน้า

9.7

เขียนโดย jundee

วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 18.55 น.

  1 ตอนเดียวจบ
  15 วิจารณ์
  4,408 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 00.45 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            ตั้งแต่ซื้อบ้านพร้อมที่ดินหลังนี้มาตั้งปีกว่า กบเพิ่งมาดูครั้งนี้เป็นครั้งแรก   บ้านไม้ยกพื้นสูงแบบต่างจังหวัดทั่วไป   "ไม่รู้ซื้อทำไมสิน่า"  เขาเองก็ยังสงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าซื้อบ้านหลังนี้มาได้ยังไง?   นอกจากบริเวณพื้นที่รอบๆบ้านที่มีเนื้อที่ไร่กว่าๆ  กับต้นไม้นาๆชนิดทั้งไม้ผล อย่างมะม่วง  ละมุด  มะขาม  ชมพู่แล้ว  ยังมีต้นปีบที่มีดอกหอมต้นหูกวาง  กับอโศกเป็นแนวยาวจรดพื้นที่อีกด้านเหมือนเป็นกำแพงรั้วบอกอาณาเขตแล้ว  นอกนั้นไม่มีสิ่งใดให้เขาพอใจเลย   บ้านเก่าที่บอกรสนิยมอันใดไม่ได้เขาคิด   

                "ช่างดูแปลนดีๆนะ  รื้อบ้านออกให้หมดเลย"      กบสั่งช่างที่จะมาทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตรงหน้า  และต้องปลูกสร้างใหม่  ให้ถูกใจ  "เจ้าของหนุ่ม"  กบซื้อเพราะเขาชอบบริเวณและต้นไม้งั้นสิ  ไม่ใช่เลย  เขาอาจซื้อเพราะตวงพร  ตวงพรหญิงคนรักของเขา  และเป็นคนที่เขาหมายหมั้นว่าจะแต่งงานกับเธอทันทีที่บ้านเสร็จแล้ว  "ดีออกค่ะกบ...ตวงชอบ  ต้นไม้เยอะดี  แถมมีดอกให้เราได้กลิ่นหอมๆด้วย"   ตวงหมายถึงดอกปีบต้นสูงที่พอเริ่มค่ำนิดๆก็ส่งกลิ่นรวยรินมาให้ได้สัมผัสกลิ่นหอมอันจรุงใจแล้ว   นั่นสินะ  นี่ขนาดบ่ายสามกว่าๆเขายังได้กลิ่นหอมเย็นอ่อนๆนั่น

               "ช่างๆ  ระวังๆต้นไม้นะ  ผมไม่อยากให้ตัดซักต้น  เข้าใจนะ"   ชายหนุ่มสั่งอีกครั้งเมื่อนึกถึงคนรัก  ก่อนสาวเท้าก้าวเข้าไปในเขตตัวบ้าน  ที่เป็นไม้เนื้อดี  ทำให้เขาอดเสียดายนิดๆไม่ได้  ต้องหาทางเอาไม้นี่ไปดัดแปลงทำอย่างอื่นบ้างแล้ว  แสงแดดที่ส่องเข้ามาทางทิศตะวันตก  ทอดเงาให้เห็นบันไดขึ้นชั้นบนของบ้าน  "เชอะ  ..คนไม่มีหัวคิด  ขนาดทำบันไดยังทำผิดทางได้.."  เขาเยาะยิ้มในสีหน้าอย่างเย้ยหยันในความไม่รู้ทิศของเจ้าของบ้านคนเก่า  "ทำบันไดด้านทิศตะวันตกได้ไงวะ.."   แถมขายบ้านให้เขาในราคาที่แสนถูก  เหมือนได้เปล่าๆก็ไม่ปาน   เขาเข้ามายืนติดกับบันได  ยิ่งทำให้เขาดูหมิ่นเจ้าของบ้านหนักขึ้นไปอีกอย่างช่วยไม่ได้   บ้านก็ออกดีหรอกหากจะว่าไป   เทียบกับบันได   กบเงยหน้ามองบันไดแบบพาดทั่วๆไป  แถมยังเป็นไม้ไผ่  เหมือนบันไดกระท่อมกลางนาแถวบ้านนอกจริงๆ กบคิดพร้อมทั้งส่ายหน้า   อันที่จริงแล้วกบเองก็ไม่ได้เป็นหนุ่มเมืองใหญ่ไฮโซมาจากใหน  อดีตก็ไอ้หนุ่มลูกทุ่งดีๆนี่เอง  หากเพียงแต่แม่ของกบไม่ได้แต่งงานกับเศรษฐีอเมริกันเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน   กบอาจไม่มีแม้แต่บ้านอยู่ด้วยซ้ำไป  ไม่ใช่หนุ่มนักเรียนนอก  ไม่มีรถยนต์ราคาแพง  แม้ตวงพรเองเขาก็ไม่สามารถจะเอื้อมถึงเธอได้ด้วยซ้ำ

                 เมื่อปีก่อน  เขาและเธอพากันขับรถออกมาเที่ยวเล่นนอกเมือง  และพบบ้านหลังนี้เข้า  ป้ายอันเล็กถูกลมปลิวสะบัดหน้าประตูรั้วเก่าๆ  แต่มองเข้าไปแล้วต้องชมพื้นดินอันอุดมสมบูรณ์  ที่มีต้นไม้ขึ้นตามจุดต่างๆเหมือนตั้งใจปลูกอย่างดี  เพียงแต่รกครึ้มหน่อยเท่านั้น "ขายด่วน"  เพียงเท่านี้  ตวงพรก็ชวนเขาจอดรถดู  และทำท่าถูกอกถูกใจเสียหนักหนา  "หากเรามีบ้านต่างจังหวัดแบบนี้สักหลังคงดีนะคะ"  เพียงคำพูดเท่านี้  ของคนรัก  เขาก็เร่งให้เลขาติดต่อขอซื้อมันทันทีในวันจันทร์ถัดมา

               เขาก้าวขึ้นบันไดไม้ไผ่นั้นอย่างไม่คุ้นเคย  จนขั้นบนสุดได้ส่งเขาขึ้นมายืนมองทั่วทุกมุมบ้านได้สะดวกตา  ชั้นบนโล่งกว้าง หน้าต่างรอบทิศ  ที่พื้นบ้านด้านตรงข้ามกับที่เขาขึ้นมา  มีร่องรอยของช่องกว้างขนาดเมตรกว่าที่เปิดอยู่ เหมือนเป็นช่องบันไดเก่า แต่ได้เอาแผ่นไม้2-3แผ่นมาวางแทนเอาไว้กันตก   เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่างแวบเข้ามา....  แต่เขาพยายามนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก   ...ที่ใหนนะ?  ที่เขาเคยเจอแบบนี้.....

      เขารู้ว่าเขาเคยเห็นบ้านหลังนี้แน่ๆ  แต่เขาไม่รู้ว่าเขาเคยเห็นที่ใหน?  เมื่อไหร่ ?เท่านั้นเอง

         "คุณๆ  คุณครับ  ใต้ต้นปีบมันมีเต่าตัวเบ่อเร่อเลย  ผมขอนะครับ เอ่อ  แล้วต้นไม้นี่ก็เกะกะนะครับ  ตัดทิ้งนะ"  เสียงช่างตัวโตที่เขาเพิ่งคุยด้วยร้องตะโกนขึ้นมาถาม พลางขอ  "ไม่ๆ  ผมบอกแล้วว่าห้ามตัดต้นไม้ทุกต้นเด็ดขาด  จะขวางยังไงก็ห้ามตัด  หาทางขนเอาเอง  ส่วนเต่า  เรื่องของพวกคุณ"   สงสัยเขาจะวางใจกับช่างๆพวกนี้ไม่ค่อยได้เสียแล้ว  เผื่อขี้เกียจขึ้นมาก็คงตัดแน่ๆ  หากตัดแล้ว  มันก็เท่านั้นเอง  แต่เขากับตวงจะเป็นฝ่ายเสียความรู้สึกมากกว่า   สงสัยต้องนั่งเฝ้า  จนกว่าพวกช่างจะเลิกงานไม่ว่าจะค่ำมืดขนาดใหนก็ตามเขาคิด  เกือบหกโมงเย็น  พวกช่างรามือจากงานที่ทำ  กำลังก่อไฟเตรียมหุงหาอาหารเย็นแบบง่ายๆตามชาวลูกทุ่งทั่วไป  กบนั่งมองกลุ่มคนงานที่ช่วยกันหุงหาวุ่นอยู่ใต้ร่มต้นมะม่วงใบหนา  บนชานบ้านที่มีลูกกรงตีกั้นเอาไว้  รู้สึกง่วงงุนนิดๆ  ขณะที่เขาตัดสินใจจะลุกขึ้นและกลับบ้านนั้น  หัวหน้าช่างรื้อบ้านก็เดินมายิ้มกริ่มตรงกับระเบียงบ้านที่เขายืนยืดเส้นยืดสายอยู่  "คุณครับ  ไอ้พวกนั้น  อยากได้น้ำอย่างว่ามาแกล้มผัดเผ็ดเต่าครับ"  ท่าทางที่ดูเก้อเขินทำให้กบต้องควักกระเป๋าออกมาหยิบแบงค์ห้าร้อยบาทส่งให้  "เอ้า!  แต่ต้องทอนมานะ  จะนั่งรอตรงนี้ล่ะ"  กบกำชับ  พลางทรุดตัวลงนั่งต่อ  

     "ได้แล้วโว้ย  ไอ้น้อย แกไปซื้อเหล้าไป๊  แล้วเอาเงินไปทอนคุณเค้าด้วย "  เสียงสั่งการดังโหวกเหวกด้วยมีแต่ผู้ชาย  เสียงเป่าปากเฟี้ยวฟ้าวถูกใจนักเลงคอทองแดงอย่างยินดี  ไอ้น้อยขี่รถเครื่องเก่าๆออกไปทันที   ส่วนพวกที่เหลือช่วยกันปรุงเต่าเคราะห์ร้ายต่อไป  มองจากระเบียงบ้านนี้ลงไป  กบเห็นว่าเป็นเต่าที่ตัวใหญ่มาก  และต้องมีอายุนานหลายสิบปีเพราะขนาดพอๆกับถาดใบใหญ่ๆเลยทีเดียว  พวกคนงานเจาะมุมกระดองร้อยลวดผูกติดกับโคนต้นมะม่วง  มีช่างลูกมืออีกคนกำลังเดินถือฆ้อนปอนด์สำหรับทุบหินมาทุบกระดองเต่า เดินมาทางมัน   กาละมังเครือบสีขาวใบใหญ่ที่ต้มน้ำเริ่มเดือดปุดๆบนเตาง่ายๆ อิฐสามก้อนก้อเป็นที่สังหารชีวิตเต่าที่น่าสงสารนั่นแล้ว กบนึกสะท้อนใจอย่างแปลกๆ  แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไร  เพราะมันนอกเหนือจากหน้าที่ของเขา  เสียงทุบกระดองเต่าดังเข้าหูจนทำให้เขาอดให้ความสนใจไม่ได้  ภาพที่เห็นนั้นทำให้กบถึงกับสยองสายตาที่เริ่มเห็นเลือดของเต่าตัวนั้นไหลรินเป็นทางบนใบตองกล้วยที่ตัดมารองกันเศษดิน  กระบวนการปรุงอาหารเริ่มต้นไปอย่างรวดเร็ว  กลิ่นเนื้อเต่าผัดเครื่องพริกแกงทำเอากบรู้สึกหิวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  คนงานทั้งสามต่างจัดสำรับเสร็จแล้ว  ทั้งผัดเผ็ด  ทั้งต้มยำน้ำใสรสจัดจ้าน  ข้าวที่หุงสวยขึ้นหม้อร้อนๆ  อาหารทุกอย่างส่งกลิ่นไอยั่วยวนชวนให้น้ำลายสอ  ยิ่งพวกใช้แรงงานเยอะๆยิ่งไม่ต้องพูดถึง  ต่างก้มหน้าก้มตากินอย่างเอร็ดอร่อย  โดยไม่สนใจเรียกหรือเชื้อเชิญกบเลยสักคนเดียว  สักพัก

เสียงรถเครื่องคุ้นหูแว่วมา  ไอ้น้อยคนซื้อเหล้าคงมาแล้ว  ดีล่ะ  รับเงินทอนแล้วจะได้กลับเสียที เขาคิด  พอน้อยมาถึงก็ร้องโวยวาย  "อะไรวะ  ไม่รอกูแล้วยังเสือกมาแดกก่อนอีก"  น้อยโวยวายแบบเจ้าอารมณ์   "เอาน่า  มานั่งก่อนเหลือตั้งเยอะ"  หัวหน้าช่างไกล่เกลี่ย  "ไม่..!..พี่ก็เหมือนกัน."  น้อยเริ่มพาล   "ไอ้....ห่า....ไปแอบนั่งซดเหล้าคนเดียวที่ตลาดจนเมาแล้วมาช้า  ยัง  เสือก.....มาว่าอีก"  ลูกน้องอีกคนทนไม่ไหว  ขึ้นเสียงบ้าง   แล้วเสียงทะเลาะก็ดังลั่นไปทั่วบริเวณ  จู่ๆ โดยไม่มีใครคาดคิด  น้อยวิ่งเข้าในเพิงที่พัก  ถือปืนออกมายิงไปที่เจ้าลูกน้องคนที่เถียง  แล้วหันปากกระบอกปืนมาทางหัวหน้าช่างกำลังจะเหนี่ยวไก  เจ้าคนที่อยู่ข้างหลังก็เอาฆ้อนที่ใช้ทุบกระดองเตาทุบไปที่หัวของน้อยอย่างจัง  ทั้งเลือด  ทั้งมันสมองไหลตามบาดแผลฉกรรณ์ทันที  ก่อนที่น้อยจะทรุดฮวบลงไป  นิ้วมือที่คาอยู่ในไกปืนก็ลั่นกระดิก  หัวหน้าช่างล้มจมกองเลือดเกือบทันที   ส่วนไอ้เจ้าคนที่ถือฆ้อนก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  ร้องตะโกนเหมือนคนเสียสติวิ่งเข้าป่าที่มืดมิดไป   กบนั่งตัวสั่นเทาด้วยคาดไม่ถึงว่าเขาจะได้เจอกับเรื่องสยดสยองแบบนี้   เขาคิดอะไรไม่ออกเอาเสียเลย  เขาเหมือนกำลังจะสติแตก เป็นบ้าวิ่งหนีเข้าป่าเหมือนเจ้าคนนั้นไปแล้ว  หากเขาไม่ได้ยินเสียงหนักๆ  หลายๆครั้ง....

 

........   " กบคะ  กบ..คุณเป็นอะไรไปคะ? "  ตวงพรถามเขาพลางจ้องหน้าเขาตาไม่กระพริบ 

          "เปล่าจ้ะ  ไม่มีอะไร"  เขาตอบไป  พร้อมรู้สึกทั้งแปลกและกระจ่างในอะไรบางอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจ

          "หากเรามีบ้านต่างจังหวัดแบบนี้สักหลังคงดีนะคะ"  ตวงพรพูดพร้อมมองข้ามรั้วเก่าๆ  ที่มีป้ายเล็กๆปลิวสะบัดอยู่  "ขายด่วน".

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา