Heaven Earth Hell

-

เขียนโดย LuvifrancSLawLia

วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 18.29 น.

  13 chapter
  6 วิจารณ์
  2,581 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 กันยายน พ.ศ. 2566 18.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) อนาคตอีกเส้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            มนุษย์ถูกสอนให้เชื่อในนิทาน   ตำนานและเรื่องเล่าขานว่าโลกเรานั้นแบนเป็นจานและมีหุบเหวดำมืดที่พาน้ำลงสู่นรกอันเย็นยะเยือก   สุดขอบโลก   จะเชื่อลงได้เช่นไรหากไม่ได้ตาบอดด้วยศรัทธาและความเชื่อ   บ้างตั้งคำถามว่าเหตุใดกระแสน้ำที่ร่วงหล่นจึงไม่ลดปริมาณลง?   มนุษย์ส่วนใหญ่โหยหาในสิ่งที่อธิบายไม่ได้   พร่ำสอนและเติมเต็มสิ่งสมมุติด้วยความว่างเปล่าที่ถูกสร้างขึ้นแทนและเรียกมันว่าพระเจ้า   กระนั้นก็มิใช่สิ่งสมบูรณ์แบบเฉกเช่นพระเจ้าที่แท้จริง   ชายผู้สร้างทุกสิ่งขึ้นในฐานะของผู้ออกแบบ   ประทานดินแดนที่แตกต่างทั้งสามและโลกอันเป็นหนึ่งเดียว   เรียกมันด้วยประโยคกระซิบอันแผ่วเบา   ซาทาส   ซาทาสประกอบด้วยน้ำ   ดินและน้ำแข็ง   สัดส่วนของผืนดินแบ่งออกเป็น   6   ส่วน   มีเพียง   1   ทวีปเท่านั้นที่ใหญ่และอุดมสมบูรณ์ที่สุด   ถูกเรียกขานว่าเฟียลเรโร   เฟียลเรโรประกอบไปด้วยกลุ่มมหาอำนาจทั้ง   9   และมีมหาอำนาจอย่างอินเพอริโอ   ตั้งอยู่   ณ   จุดศูนย์กลางของทวีป   อุดมสมบูรณ์มากที่สุดจึงทำให้เป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่มาจนถึงปัจจุบัน

           

            เหนือขึ้นไปบนฟากฟ้าสีคราม   กลุ่มก้อนเมฆจับตัวเป็นก้อนไม่ต่างจากผืนทวีปที่ลอยอยู่บนอากาศ   คงมีเพียงเด็กน้อยเท่านั้นที่เชื่อว่าบนนั้นมีอัครเทวทูตและดินแดนแห่งแสงสว่าง   เฮฟเว่น   หากขุดดินลึกลงไปแล้วจะพบกับอาณาจักรที่รัตติกาลคงอยู่ชั่วนิรันดร์หรือไม่?   ดินแดนที่ผู้คนต่างหวาดกลัวว่าสักวันจะต้องดำดิ่งลงไป   เฮล   ไม่ว่าพวกมันจะมีจริงหรือไม่   ก็ไม่ใช่หน้าที่ของมนุษย์เดินดินที่จะต้องยุ่งเกี่ยว   ดังที่ผมชอบบอกกับตัวเองว่าพระเจ้าและปีศาจไม่มีจริงและโชคชะตาไม่ได้ถูกกำหนดโดยพวกเขา พวกเขาไม่ได้เป็นคนทอยลูกเต๋าแต่เป็นมนุษย์เราทุกคน   พอมองกลับไปก็จึงรู้ว่าตัวเรานั้นชั่งไร้เดียงสา   ยังทำตัวเป็นเด็กขวางโลกกับชุดความคิดสุดโต่งที่หลอกตัวเองมาตลอด   ไร้สาระสิ้นดี   ทำไมนะหรือ?   ก็เพราะผมเคยไปมาหมดแล้วยังไงล่ะ   ทั้งเฮฟเว่นและเฮล   ทั้งพระเจ้าและปีศาจล้วนแต่มีอยู่จริง   ผมคงบอกพวกคุณได้แค่นี้

 

            ชายหนุ่มร่างหนานั่งพิงต้นไม้ใหญ่   ร่มเงาช่วยบดบังแสงแดดในช่วงสายและช่วยให้เขาได้ใช้สายตาอันคมกริบ   มองข้อความบนหนังสือที่ดูคล้ายสมุดบันทึกได้อย่างชัดเจน   เพียงไม่นานหลังจากที่ปลายปากกาขนนกแต่งแต้มน้ำหมึกลงบนแผ่นกระดาษสีน้ำตาลอ่อน   ชายหนุ่มได้ยินเสียงตะโกน   มันดับความคิดสร้างสรรค์ของเขาไปในทันใด   “เฮ้!!   ได้เวลาเดินทางต่อแล้วนะ”   ชายในชุดคลุมขาวยืนเปิดประตูรถม้า   เชื้อเชิญให้คนที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้เข้าไปนั่งภายใน   ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน   ใบหน้าแสดงออกอย่างเบื่อหน่ายกับการออกเดินทางต่อ   บิดตัวไปมาอยู่หลายทีแล้วจึงเริ่มเดินไปข้างหน้าจนมาถึงที่ประตูรถม้า   เหยียบบันไดไม้ของรถม้าในขณะที่ขาอีกข้างเหมือนถูกแช่แข็งให้ติดกับผืนดินเบื้องล่างจนชายในชุดคลุมสีขาวต้องเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย   “มีอะไรหรือ?”   ชายหนุ่มที่ได้ยินคำถามของชายผ้าคลุมขาว   หันหน้ากลับไปมองเส้นทางตรงกันข้ามกับตัวรถม้า   มันเป็นถนนดินขรุขระที่ทอดยาว   สองข้างทางเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี   ดูสบายตา   เมื่อเพ่งสายตาไปไกลกว่าเดิมจึงเห็นภาพรางรางของสิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์พลันสายตาที่มั่นคงก็เกิดสั่นเครือจนราวกับจะสามารถหลั่งน้ำตาออกมาได้ทุกเมื่อ   “เปล่า”   ชายหนุ่มสลัดความรู้สึกเมื่อสักครู่ทิ้ง   เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างเบาบางก่อนจะยอมก้าวเท้าอีกข้างเข้าไปภายใน   ชายในชุดคลุมสีขาวหลังจากปิดประตูรถม้าก็ได้กระโดดขึ้นไปนั่งบนคานรถม้า    “ย่าห์!!”   เขากระตุกบังเหียนเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา