นทีสีรุ้ง (NC 25 ++)

-

เขียนโดย Porzor

วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เวลา 21.40 น.

  7 บท
  14 วิจารณ์
  3,451 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 21.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) คำขอโทษที่ไม่มีวันได้ยิน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

 คำขอโทษที่ไม่มีวันได้ยิน
 
“ละนี่แกจัดของเสร็จหรือยัง?”
 
เสียงจากปลายสายที่โทรมาถามไถ่เพื่อนรักดังขึ้นจากโทรศัพท์ของทอรุ้ง ร่างบางที่กำลังนั่งเตรียมของไปสมุยจำเป็นจะต้องเปิดสปีกเกอร์โฟนเพื่อความสะดวกในการจัดกระเป๋าของตน คิ้วทั้ง 2 ข้างขมวดกันเป็นปม พลางคิดหาเหตุผลดีๆ ที่ทำให้ตนไม่ต้องไปสมุยในวันพรุ่งนี้ไปด้วย
 
“ยังเลยแก นี่ฉันถึงโทรหาแก ให้แกมาช่วยกันคิดหาเหตุผลปฏิเสธเนี่ย”
 
ทอรุ้งตอบกลับมิกิ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในชีวิต จะเรียกว่าคนเดียวก็ไม่ถูกนัก เพราะจริงๆ ในรั้วมหาลัยก็มีเพื่อนในกลุ่มอีกสองคน แต่มิกิจบมาจากโรงเรียนมัธยมเดียวกัน ทำให้เวลามีปัญหาอะไรทั้งคู่จะปรึกษากันก่อนเสมอ
 
“แกล้งป่วยไหมแก แบบลุกไม่ขึ้นงี้ ฉันว่าคุณป้ากับพี่ทีของแกต้องเข้าใจนะ” สาวลูกครึ่งญี่ปุ่นตอบกลับมา เธอพอจะรู้สาเหตุว่าทำไมเพื่อนเธอถึงได้หลีกเลี่ยงนทีมาโดยตลอด แต่ก็ช่วยเหลืออะไรเพื่อนได้ไม่มากนัก
 
“ฉันว่าเขาไม่เชื่อหรอกแก แกต้องมาดูสายตาเขาตอนที่บอกคุณท่านว่าอยากให้ฉันไปด้วย เขาต้องมีแผนอะไรอ่ะแก ฉันตายแน่เลยมิกิ” ร่างบางโอดครวญกับเพื่อนรักโดยที่ไม่รู้เลยว่าร่างสูงที่เป็นหัวข้อประเด็นการสนทนาในครั้งนี้ ได้เข้ามาร่วมฟังบทสนทนานี้ด้วยแล้ว
 
ร่างสูงของนทีกลับมาถึงบ้านดึกกว่าปกติเพราต้องเคลียร์เอกสารก่อนที่จะไม่อยู่ออฟฟิศถึง 4 วัน หลังจากที่ทำงานมาทั้งวัน เขาคิดว่าจะแวะอาบน้ำจัดกระเป๋าก่อน ค่อยลงไปหาอะไรง่ายๆ กิน แต่พอขึ้นมาถึงชั้นที่เขาอยู่ กลับเห็นแสงไฟเปิดอยู่ในห้องที่ตั้งใจจะทำเป็นห้องลูกของเขากับระตีก็ขมวดคิ้วมุ่น
ชั้นนี้ปกติมีเขาอยู่แค่คนเดียว แม่บ้านมาทำห้องตอนนี้เหรอ หรือมีใครเข้ามาหาอะไรกัน? ไม่รีรอให้สงสัยนานนัก ขายาวก็ก้าวไปถึงหน้าประตู เสียงคุยโทรศัพท์ลอยมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ
 
“ถ้าเป็นฉัน ฉันจะหาโอกาสคุยกับเขานะ แกลองปรับความเข้าใจสิ เรื่องนี้แกไม่ได้เป็นคนผิดนะรุ้ง ถ้าเขาไม่ยอมนั่งฟัง แกก็จับเขามอมเหล้ามัดกับเก้าอี้เลย ฮ่าๆ” มิกิพยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้น ไม่อยากให้เพื่อนรักเครียดมากนัก
 
“ยัยบ้า ฉันกินเหล้าเป็นที่ไหนหล่ะ เห้อ! แต่ก็เอาเถอะขอบใจมากนะแก ฉันจะพยายามไม่ยุ่งกับเขาเอาละกัน แกเองก็เถอะ อย่าลืมนะอีก 3 เดือนต้องเตรียมพาสปอร์ทกับวีซ่าให้พร้อม เราจะไปจากไทยกัน” ร่างบางพูดพลางยกยิ้มไปด้วย แค่คิดถึงวันที่จะไปจากที่นี่ก็พอทำให้เธอรู้สึกอยากสู้เพื่อวันต่อไปได้บ้าง
 
“ไม่ต้องห่วงย่ะ บริษัทพ่อฉันรอคนเก่งๆ แบบพวกเราไปช่วยงานอยู่แล้ว ไปๆ แกไปจัดของต่อเถอะ ฉันไปนอนแล้ว ฝันดีนะแก พรุ่งนี้มีอะไรโทรมานะ”
 
“โอเคแก ฝันดี ขอบใจมากนะ” ร่างบางตอบกลับสั้นๆ ก่อนจะหันไปจัดกระเป๋าต่อ
 
‘หึ บริษัทยักษ์ใหญ่ตระกูลนางาซาวะคือจุดมุ่งหมายของเธอสินะ’ นทีที่ยืนฟังอยู่หน้าห้องจดทุกอย่างไว้ในใจก่อนจะเปิดประตูเข้าไป
 
ร่างสูงจดจ้องแผ่นหลังบอบบางอย่างโกรธเคือง ไม่รู้ว่าโมโหที่ได้ยินว่าเธอกำลังจะหนีเขาไป หรือเริ่มโมโหหลังจากที่มองไปรอบๆ ห้องที่เขากับระตีช่วยกันตกแต่งไว้ให้ลูก แล้วพบว่ามีของใช้ส่วนตัวของร่างบางวางไว้ตามโต๊ะ ตู้ต่างๆ
 
“เก็บของออกไปจากห้องลูกฉันเดี๋ยวนี้!”
 
ร่างสูงกระชากข้อมือของร่างบางที่นั่งตรงพื้นหน้าตู้เสื้อผ้าขึ้นมา ร่างระหงปลิวตามแรงอย่างไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกทีร่างทั้งร่างก็กระแทกกับร่างสูงเข้าอย่างจัง ทุกสัดส่วนของเธอแนบชิดกับร่างแกร่งตรงหน้าจนน่าใจหาย ใกล้จนจมูกโด่งได้กลิ่นหอมสะอาดแบบเด็กๆ ลอยฟุ้งออกมาจากเส้นผมสีดำขลับ ที่เหยียดตรงตามธรรมชาติของร่างเล็ก
 
“ปล่อยฉันนะคะ!” ทอรุ้งที่ได้สติรีบผลักตัวเองถอยห่างจากชายหนุ่มทันที
 
“ฉันปล่อยเธอแน่ แต่เธอต้องตอบฉันมาก่อนว่าใครใช้ให้เธอมาอยู่ที่นี่” ร่างสูงเองก็ตกใจที่ ‘อะไรๆ’ ของเธอมาโดนอกแกร่งของเขา ‘หึ่ย! ยัยบ้านี่ ใครใช้ให้ไม่ใส่เสื้อชั้นในวะ!’
ด้วยความที่ผ่านโลกมามากกว่า เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเมื่อสักครู่นี้คืออะไรที่เขาพึ่งจะสัมผัสไปแบบไม่ตั้งใจ
 
ร่างสูงถอยออกมา แต่ข้อมือบางยังตกอยู่ในพันธนาการของเขา ร่างสูงพยายามอย่างหนักที่จะข่มสายตาของตัวเองไม่ให้มองต่ำลงไปมากกว่านั้น จึงเลือกโฟกัสที่ดวงหน้าหวานตรงหน้าแทน
 
“คือปีก่อนคนสวนที่เข้ามาใหม่พยายามจะเข้ามาข่มขืนฉันในห้องเก่าค่ะ โชคดีที่มีคนมาช่วยไว้ได้ทัน คุณท่านเลยให้ฉันย้ายมาใช้ห้องนี้ก่อน” ทอรุ้งตอบกลับเสียงสั่นเครือ ภาพเหตุการณ์ร้ายๆ ในความทรงจำย้อนกลับเข้ามาทำร้ายเธออีกครั้ง
 
ทำไมกันนะ? ทั้งที่เธอซื้อน้ำกับขนมมาฝากบ่อยๆ แต่เขากลับทำร้ายเธอได้ลงคอ โชคดีที่มีคนได้ยินเสียงเธอร้องขอความช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง
 
ร่างสูงนิ่งอึ้งไปสักพัก หลังจากได้ยินคำตอบจากร่างบาง ถึงเขาจะเกลียดเธอขนาดไหนแต่ก็ไม่เคยคิดจะให้เธอไปเจอเรื่องเลวร้ายแบบนั้น
 
ดวงตาคมกริบไหววูบไปทันทีที่เห็นความสะเทือนใจปรากฏขึ้นในดวงตาของร่างบาง แต่เพียงแค่ไม่กี่วินาทีทิฐิก็ครอบงำเขาอีกครั้ง
 
“หึ ไม่ใช่เธอไปยั่วมันเองหรอ เสียใจไหมหล่ะที่มีคนเข้าไปขัดจังหว่ะ” เสียงเย้ยหยันหลุดออกมาจากปากของร่างสูงแทนคำปลอบโยนทันทีที่นึกได้ว่าเขาไม่ควรใจอ่อนกับเธอ
 
เพี๊ยะ!!!
 
ทอรุ้งรับไม่ได้กับคำพูดที่เขาเย้ยหยัน ดูถูกเธอ มือบางสะบัดออกจากการเกาะกุมของเขา แล้วตบไปที่ใบหน้าคร้ามฉาดใหญ่ ขนาดเธอเองยังรู้สึกเจ็บที่ฝ่ามือ อีกฝ่ายจะเจ็บขนาดไหนกันนะ เธอเองไม่อยากจะคิด แต่ที่เขาได้รับมันก็สาสมแล้วร่างบางคิดในใจ
 
“นี่เธอกล้าตบฉันเหรอฮะ?!!”
 
ร่างสูงที่ถูกตบสติขาดผึง สองเท้าก้าวเข้าไปหาทอรุ้ง กระชากร่างบางตรงหน้าเข้ามาประกบจูบลงไปทันที เรียวลิ้นร้อนพยายามดุนดันริมฝีปากบางให้เปิดออก แต่ร่างบางที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนกลับเม้มปากแน่นด้วยความตกใจ
 
ทอรุ้งพยายายามดิ้นหนี สองมือทุบสะเปะสะปะไปตามลำตัวของร่างสูงหวังจะให้เขาหยุดรุกรานตัวเอง จนนทีเริ่มรู้สึกรำคาญที่ไม่สามารถรุกล้ำเข้าไปภายในโพรงปากหวานฉ่ำของร่างบางได้ ถึงแม้จะพยายามไล้เลียกลีบปากของร่างบางตรงหน้าแล้วก็ตาม
มือข้างหนึ่งค่อยๆ สอดไปทางข้างหลัง กดแผ่นหลังบอบบางที่พยายามผลักไสเขาออกไปให้เข้ามาแนบชิดกับตัว ส่วนมืออีกข้างก็ยกขึ้นมาเกาะกุมปทุมถันที่ไร้เสื้อชั้นในของร่างบางตรงหน้า ตอนนี้มีก็เพียงแค่เสื้อนอนตัวบางสีขาวโปร่งเท่านั้นที่กางกั้นระหว่างมือเขาเอาไว้ ปทุมถันที่ถูกมือร้อนลูบไล้ค่อยๆ คัดตึง บวมเปล่งชูยอดสีชมพูสดสู้กับมือร้อนทันที
 
“อ้ะ!!!!”
 
กลีบปากบางเผยออ้าหลุดเสียงครางกระเส่าออกมาทันทีหลังจากที่มือของร่างสูงสัมผัสในส่วนที่ไม่เคยมีใครได้แตะต้อง ความรู้สึกจาบจ้วงที่เธอไม่เคยได้รับตีตื้นขึ้นมาจนตัวเธอเองสะอื้นฮักหลุดเสียงครางออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ความรู้สึกวูบวาบร้อนไปทั่วทั้งตัวนี้มันคืออะไรกัน?
 
ทันทีที่กลีบปากบางเปิดออก ร่างสูงก็สอดลิ้นเข้าไปทักทายทันที เรียวลิ้นร้ายสอดลึก ถูไถกับลิ้นเล็กจนได้ยินเสียงเฉอะแฉะน่าอายดังชัดขึ้นในโสตประสาทของทั้งคู่ นทีค่อยๆ ละเลียดดูดกลืนขบกัดริมฝีปากบางอย่างโมโห
 
‘หึ ฉันจะสอนให้เธอรู้ว่าการตบหน้าฉันมันคือความคิดที่ผิดมหันต์’
 
ประสบการณ์แปลกใหม่ที่ร่างสูงสอนให้กับเธอ ทำให้เธอแทบจะหลอมละลายไหลลงไปกองกับพื้น มือสองข้างที่เคยทุบตีร่างแกร่ง บัดนี้จิกแน่นเกาะเกี่ยวอยู่บนแผ่นหลังของร่างสูง ปล่อยให้ร่างสูงเป็นคนนำทางไป ดวงตากลมโตทั้งสองข้างหลับพริ้มราวกับไม่อยากยอมรับว่าภาพตรงหน้าเป็นความจริง
 
ขาทั้งสองข้างสั่นจนนทีเองยังรู้สึกได้ ดีนะที่มีเขาช่วยประครองเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเจ้าตัวได้ล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นเป็นแน่ ‘จูบแรกงั้นสินะ หึ!’
 
ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเขาเองก็แอบภูมิใจในตัวเองอยู่ลึกๆ ที่ได้เป็นคนครอบครองกลีบปากนุ่มหวานละมุนของร่างบางตรงหน้าเป็นคนแรก
 
หลังจากที่ร่างสูงเห็นคนตัวเล็กโอนอ่อนลงแล้ว ก็กระหยิ่มยิ้มย่องในใจ มือแกร่งค่อยๆ ไล้ลูบแทรกเข้าไปใต้สาบเสื้อตัวบางที่แทบซ่อนความใหญ่โต อวบอิ่มของร่างบางตรงหน้าไว้ไม่มิด หมายจะลูบไล้บนยอดนูนเต่งสีชมพูเข้มที่ชูชันเด่นหรา อวดอ้าท้าทายสายตาของเขาอยู่ตอนนี้
 
‘เด็กนี่ซ่อนรูปไม่เบาเลยนะเนี่ย’
 
แต่ก็ต้องหยุดความคิดลงแค่นั้น เพรามือบางตะครุบมือปลาหมึกของร่างสูงที่รุกรานใต้ร่มผ้าของเธอเอาไว้แน่น แล้วรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายที่มีอันน้อยนิด ผลักร่างสูงตรงหน้าออกห่างจากตัว ขาทั้งสองข้างที่ยังยืนไม่มั่นกอปรกับเท้าที่ยังเจ็บอยู่ทำให้ร่างบางทรุดฮวบลงไปทันทีที่สิ่งยึดเหนี่ยวเดียวถูกผลักออกไป
 
ทอรุ้งหายใจเข้าปอดถี่อย่างหอบเหนื่อย ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำเพราะขาดอากาศมาร่วมนาที บวกกับความรู้สึกผิดหวังจากสิ่งที่ร่างสูงพึ่งกระทำกับเธออย่างจาบจ้วงเมื่อสักครู่
 
“ออกไป”
 
เสียงผะแผ่วที่ดังออกมาจากปากของร่างบางทำให้ร่างสูงที่ยืนอยู่เหมือนถูกตบหน้า ความรู้สึกผิดเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ หลังจากเห็นสภาพตรงหน้าของร่างบางที่เขาเกือบพลาดพลั้งทำร้ายเธอลงไป
 
มือแกร่งถูกยื่นออกมาตรงหน้าร่างบาง หมายจะให้คนตัวเล็กใช้เป็นที่เกาะเกี่ยวในการประครองตัวยืนขึ้น แต่ก็ต้องหน้าเสียอีกครั้ง เพราะร่างบางเลือกที่จะยืนขึ้นด้วยขาทั้งสองข้างของตัวเอง ถึงแม้มันจะสั่นแค่ไหน แต่เธอก็ปฏิเสธความช่วยเหลือจากเขา
 
แขนบอบบางที่เริ่มปรากฏรอยแดงจากการยื้อยุดให้เห็น ค่อยๆ ยกขึ้นมากอดอกเอาไว้ เพื่อปกปิดตัวเองให้พ้นจากสายตาร้อนแรงของร่างสูงตรงหน้า เล็บสั้นสะอาดจิกลงบนท่อนแขนของตัวเองเพื่อเป็นการเรียกสติจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
 
“ฉันขอร้องคุณช่วยออกไปก่อนได้ไหมคะ?”
 
ท่าทางแตกสลายของร่างบางตรงหน้าทำให้ร่างสูงหันหลังกลับ เก็บคำขอโทษไว้ในใจแล้วเดินจากไปทันที
หลังจากที่ประตูห้องปิดลงเสียงสะอื้นของร่างบางที่กักเก็บเอาไว้ก็ดังทะลุประตูออกมา จนร่างแกร่งที่พึ่งปิดประตูลงถึงกับชะงักและยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไง
 
เสียงสะอื้นของเธอทำให้จิตใจที่แข็งแกร่งของเขาค่อยๆ อ่อนยวบลง นทียืนอยู่ตรงนั้นสักพัก จนเสียงสะอื้นค่อยๆ หายไปถึงเดินกลับห้องตนเอง
 
“ฉันขอโทษ”
 
ร่างสูงทิ้งไว้เพียงคำพูดเบาๆ ที่อยากส่งไปถึงคนตัวเล็กที่เขาทำให้ร้องไห้หลังบานประตูนั้น คำขอโทษที่ทอรุ้งไม่มีวันได้ยิน
-------------------------------
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามเรื่องนี้ด้วยนะคะ ชอบหรือไม่ชอบยังไงติชมกันได้นะคะ​
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา