เจ้าหญิงของฉัน

-

เขียนโดย POPENGL

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 04.39 น.

  27 ตอน
  4 วิจารณ์
  7,532 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 04.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) Far Away

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

คืนก่อนออกเดินทาง

ป๊อปเข้าไปช่วยน้องสาวจัดกระเป๋าเดินทางสำหรับวันพรุ่งนี้ ถึงแม้ว่าจะไปเพียงหนึ่งอาทิตย์แต่หญิงสาวกลับจัดกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ราวกับจะไปนานกว่านั้นจนอีกฝ่ายต้องถามด้วยอาการแปลกใจ

“<<กระเป๋าใบใหญ่เกินไปไหมใบหม่อน>>” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่ตรงหน้า

“<<ไม่ต้องพูดมากน่าพี่ป๊อป ช่วยหนูจัดอย่างเดียวพอ>>” ใบหม่อนย้อนให้

 ตอนนี้สมาธิทั้งหมดของหญิงสาวอยู่กับการพับเสื้อผ้าที่จะใส่ตลอดหนึ่งสัปดาห์ ไม่ลืมที่จะติดเสื้อแข่งฤดูกาลปัจจุบันของทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์สกรีนชื่อตัวเองด้านหลังไปด้วย กับกางเกงขาห้าส่วนที่ถูกพับและวางลงไปในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่มีเนื้อที่เหลือเฟือ รองเท้าผ้าใบแบรนด์เนมคู่ที่ซื้อมาตั้งแต่วันเกิดที่ผ่านมาถูกนำไปด้วยกับรองเท้าแตะสีชมพูสดใส ส่วนเครื่องแบบข้าราชการสีกากีแขนยาวที่ใส่ในวันพรุ่งนี้ถูกแขวนไว้ที่ตู้เสื้อผ้าและติดเครื่องหมายไว้พร้อมด้วยฝีมือของคนเป็นพี่ชาย

คนตัวใหญ่หัวเราะหึๆ ในลำคอพร้อมกับพ่นลมหายใจเบาบางเมื่อได้ยินคำตอบของอีกฝ่าย ลงมือช่วยจัดของใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋าใบใหญ่ตรงหน้าที่มีเสื้อผ้าของหญิงสาววางรออยู่ก่อน บังเอิญชำเลืองมองเห็นกองชุดชั้นในกับผ้าอนามัยอีกสองซองใหญ่ที่วางไว้อีกมุมหนึ่ง ดูเหมือนว่ามันจะมากเกินไปสำหรับการเดินทางเพียงอาทิตย์เดียวในความคิดของเขา อดไม่ได้ที่จะถามอีกครั้ง

“<<แล้วนี่ขนยกทรงกับกางเกงในไปเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เอาออกหน่อยดีไหม โห ผ้าอนามัยอีกสองซองแน่ะ ทำไม กลัวแดงเดือดเหรอ ฮิๆ>>”

“<<พี่ป๊อปไม่ต้องยุ่งเลย หนูให้พี่ช่วยจัดแค่ของใช้นะ>>” ใบหม่อนเริ่มหงุดหงิดเมื่อถูกพี่ชายซักไซ้เรื่องไม่เป็นเรื่อง “<<หนูเอาไปเผื่อเองแหละ หนูไม่ใช่พี่ป๊อปนะที่ไม่คิดจะเตรียมอะไรเผื่อจนหนูต้องมาคอยตามเก็บตามเช็ดให้พี่อ่ะ>>”

เจอว่าให้แบบนี้ทำเอาคนปากสว่างอย่างป๊อปไปต่อไม่เป็น ได้แต่หัวเราะและส่ายศีรษะไปมาขับไล่ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นออกไป แต่ไม่ลืมที่จะย้อนให้แบบเบาๆ “<<ขนาดเป็นคนรอบคอบกว่าพี่นะเนี่ย พี่ป๊อปหนูลืมเอกสารไว้ที่ห้องอ่ะ เอามาให้หนูหน่อย ฮ่าๆๆ>>”

“<<พี่ป๊อป!>>” ใบหม่อนแยกเขี้ยวใส่ “<<ไม่ต้องพูดมากเลย ช่วยหนูจัดกระเป๋าไป ถ้าไม่เสร็จหรือของหนูเละแม้แต่นิดเดียวหนูซัดพี่ป๊อปแน่>>”

ป๊อปหัวเราะเบาๆ และส่ายศีรษะทุยไปมาอีกรอบ ลงมือเตรียมของใช้ที่จำเป็นสำหรับผู้หญิงที่เหลือไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมและชุดครีมบำรุงผิวใส่ลงในกระเป๋าอย่างเป็นระเบียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ปกติตัวเองเป็นคนชอบทำอะไรลวกๆ ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นัก

ใบหม่อนรูดซิปปิดกระเป๋าเดินทางหลังจากจัดเสร็จพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมา เงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนเป็นพี่ชายพร้อมกับคลี่ยิ้มน้อยๆ ด้วยความรู้สึกขอบคุณในใจ

“<<เสร็จแล้วพี่ป๊อป หนูขอบคุณมากน้า>>”

คนถูกขอบคุณคลี่ยิ้มรับก่อนโน้มตัวเข้ามา เอื้อมมือมาจับผมยาวสลวยที่ถูกเกล้าจุกไว้เหนือกระหม่อมโยกไปโยกมาเชิงหยอกล้อเบาๆ

“<<เสร็จแล้วก็รีบนอนซะ พรุ่งนี้ไปแต่เช้าไม่ใช่เหรอ ว่าแต่จะไปยังไงล่ะหืม>>”

มือเล็กยกขึ้นแกะมือของพี่ชายที่กำลังทึ้งจุกเหนือศีรษะตัวเองออกพร้อมกับออกปากว่าให้ “<<เลิกเล่นผมหนูก่อนได้ไหมพี่ป๊อป>>” ดวงตากลมโตมองดุใส่

ป๊อปยอมปล่อยมือออกจากผมมัดจุกเหนือศีรษะสวยแต่โดยดี รอฟังคำตอบจากคนตัวเล็กกว่าอย่างใจจดใจจ่อ

“<<หนูคิดว่าจะขี่รถไปเองแล้วจอดที่ทำงานน่ะพี่ป๊อป ยังไงก็ไปรถตู้ที่ทำงานอยู่แล้ว>>” ใบหม่อนเอ่ยเสียงกระเง้ากระงอด ดวงตากลมโตมองต่ำลงอย่างครุ่นคิด

“<<เอางั้นเหรอใบหม่อน>>” ป๊อปเลิกคิ้วขึ้น ในความคิดของตัวเองตอนนี้อยากให้น้องสาวจอดรถไว้ที่คอนโดฯ มากกว่า

“<<งืมๆ ทำไมเหรอพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนย้อนถามกลับมา

“<<ให้พี่ไปส่งไหมล่ะ รถจอดไว้ที่คอนโดฯ นี่แหละ จอดไว้ที่ทำงานตั้งอาทิตย์เผื่อมีอะไรขึ้นมาจะว่าไงล่ะ>>”

“<<พี่ป๊อปไม่ต้องลำบากก็ได้มั้ง>>” ใบหม่อนรีบปฏิเสธทันทีแบบไม่ต้องคิด “<<จอดรถทิ้งไว้ที่ทำงานแค่อาทิตย์เดียวไม่เป็นไรหรอกน่า กลับมาหนูก็ขี่กลับคอนโดฯ เลยไง พี่ป๊อปจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำงานด้วย>>”

“<<เฮ้ยเชื่อพี่เถอะใบหม่อน>>” ป๊อปปรามด้วยน้ำเสียงอ่อนลงกว่าเดิม “<<จอดรถไว้นี่แหละ พรุ่งนี้พี่ขับรถไปส่งเอง ไม่ลำบากหรอกน่า เพื่อนน้องสาวพี่ทำได้เสมอแหละ>>” พูดจบมือหนาเอื้อมไปจับศีรษะสวยได้รูปโยกเบาๆ อย่างเอ็นดูพร้อมกับส่งยิ้มให้

“<<พอแล้วพี่ป๊อป โยกหัวหนูอยู่นั่นแหละ>>” ใบหม่อนโยกศีรษะตัวเองหลบก่อนหันมาว่าให้แบบไม่จริงจังนัก “<<ตายแล้ว หนูลืมสนิทเลยอาทิตย์หน้าหนูนัดเซลล์เปลี่ยนป้ายขาวนี่นา งั้นหนูรบกวนพี่ป๊อปไปทำให้หน่อยสิ ได้ไหมอ่ะ นะๆๆๆๆๆ ทำให้น้องหน่อย>>”

ป๊อปหันไปสบกับดวงตากลมโตคู่สวยที่กำลังส่งสายตาอ้อนวอน ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มขึ้น ยังไงไม่มีทางปฏิเสธน้องสาวคนนี้ได้อยู่แล้ว

“<<ได้สิใบหม่อน>>”

“<<เย้ๆ ขอบคุณมากน้าพี่ป๊อป หนูรักพี่ชายคนนี้ที่สุดเลย>>”

คราวนี้ใบหม่อนรีบโผเข้ากอดคนตัวใหญ่ทันทีด้วยอาการดีใจ ทำเอาชายหนุ่มแทบจะล้มไปตรงนั้นเพราะหญิงสาวช่างมีแรงมากเหลือเกิน เมื่อกอดจนเต็มอิ่มแล้วร่างสูงระหงรีบผละออกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่ตัวเองเพิ่งกอดไป

“<<พรุ่งนี้หนูไปเช้าเลยน้า พี่ป๊อปตื่นให้ทันหนูด้วยล่ะ>>” ใบหม่อนตอบรับด้วยน้ำเสียงที่แฝงความกังวลเล็กๆ

“<<สบายอยู่แล้วใบหม่อน อยู่กับพี่มาสามเดือนกว่ารู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าพี่ตื่นเช้าน่ะหืม>>” คนตัวใหญ่แกล้งย้อนถามกลับมา

ใบหม่อนคลี่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันเหล็กครบทุกซี่ด้วยอาการดีใจ ค่อยๆ ตวัดท่อนแขนเรียวเล็กโอบกอดคนตัวใหญ่พร้อมกับโคลงศีรษะซบอกแกร่งซึมซับไออุ่นจากพี่ชายร่วมสายเลือดคนนี้

“<<ขอบคุณมากนะคะพี่ป๊อป>>”

“<<เพื่อน้อง พี่ทำได้เสมอแหละ ใบหม่อนเป็นน้องสาวคนเดียวของพี่นะ>>”

ปากหยักเอ่ยตอบด้วยเสียงแผ่วเบา ท่อนแขนใหญ่โอบรัดร่างระหงนุ่มนิ่มซึมซับไออุ่นจากตัวเขาอยู่ มือหนาลูบแผ่นหลังบางอย่างเบามือสลับกับโยกไหล่เบาๆ ด้วยความเอ็นดูก่อนที่ร่างระหงจะผละออกในเวลาต่อมา และสุดท้ายเป็นฝ่ายหญิงสาวที่ชวนให้พี่ชายถ่ายรูปด้วยกัน

“<<พี่ป๊อปถ่ายรูปกับหนูหน่อย>>”

มีหรือที่ป๊อปจะปฏิเสธเมื่อเขาโน้มใบหน้าคร้ามเข้าไปหาใบหน้าสวยหวานแบบไทยแท้ที่กำลังคลี่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันเหล็กครบทุกซี่เผยให้เห็นลักยิ้มที่บุ๋มลงไปชัดเจน ดวงตากลมโตเปล่งประกายสดใสสู้กล้องหน้าสมาร์ทโฟนสีน้ำเงินในมือของหญิงสาว หลังจากอัพรูปลงโซเชียลส่วนตัวเสร็จแล้ว...

“<<หนูนอนแล้วน้าพี่ป๊อป พี่ป๊อปก็ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวตื่นไปส่งหนูไม่ทันไม่รู้ด้วยน้า>>”

“<<ครับพ้ม!!!>>” ชายหนุ่มทำท่าตะเบ๊ะตอบรับเสียงหนักแน่น เรียกเสียงหัวเราะจากใบหม่อนก่อนนอนหนึ่งที

“<<คริๆ หนูนอนแล้วน้าพี่ป๊อป>>”

ร่างสูงระหงเอนหลังลงนอนบนเตียงใหญ่กลางห้องรอให้พี่ชายทำหน้าที่ส่งเข้านอนเหมือนกับเมื่อครั้งยังเด็ก ตุ๊กตา Asimo ตัวเขื่องถูกสอดเข้าใต้วงแขนเรียวสวยอย่างเบามือ ไม่ลืมที่จะสอดตุ๊กตาใต้ข้อพับขาเรียวสวยที่งอขึ้นเล็กน้อย ผ้าห่มนวมลายการ์ตูนน่ารักสดใสค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาคลุมทับร่างระหงด้วยฝีมือของคนตัวใหญ่ พลันดวงตากลมโตคู่สวยปิดสนิทลงพร้อมกับเสียงพ่นลมหายใจสม่ำเสมอดังขึ้น เป็นอันรู้กันว่าตอนนี้หญิงสาวได้เข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว

“<<หลับฝันดีนะคะใบหม่อน>>” ชายหนุ่มก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็กเบาๆ เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าสวยหวานยามอยู่ในห้วงนิทราแล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้ ก่อนหันหลังเดินกลับไปไม่ลืมที่จะปิดไฟห้องนอนให้เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา...

                                                ...........................................................................

วันเดินทาง

รถแวนเจ็ดที่นั่งสีดำคันใหญ่เลี้ยวเข้าไปจอดภายในลานจอดรถหน้าหน่วยราชการที่ใบหม่อนทำงานอยู่ เสียงเครื่องยนต์ดีเซลใต้ฝากระโปรงดับลงหลังจากจอดเสร็จ

ร่างสูงระหงในเครื่องแบบสีกากีแขนยาวเต็มยศปลดเข็มขัดนิรภัยที่คาดตัวเองหลังจากทนอึดอัดมาสักพักใหญ่ตลอดการเดินทางพร้อมกับหยิบกระเป๋าถือใบเล็กลงจากที่นั่งข้างคนขับไปยังด้านหลังรถ เห็นพี่ชายลงมาเปิดฝาท้ายหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตัวเองลงมาให้ มือเล็กยื่นมารับกระเป๋าจากอีกฝ่ายก่อนเอ่ยขอบคุณ

“<<ขอบคุณมากน้าพี่ป๊อปที่มาส่งหนูอ่ะ เกรงใจแย่เลย>>”

“<<เฮ้ยเกรงใจทำไม ใบหม่อนเป็นน้องพี่นะ พี่ทำให้ได้เสมอแหละ อืมยังไงเดินทางปลอดภัยล่ะ ไปถึงแล้วถ้าว่างก็ไลน์บอกพี่ละกันนะ>>” เสียงเข้มเอ่ยตอบไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี ยิ่งได้เห็นหน้าน้องสาวที่ในวันนี้แต่งหน้าสวยเป็นพิเศษก็ยิ่งชวนให้ไม่อยากละสายตามองเลยในตอนนี้

“<<จ้าพี่ชาย>>” เสียงใสเอ่ยตอบอย่างร่าเริง กลีบปากเรียวสวยผุดยิ้มกว้างให้ “<<หนูไม่อยู่พี่ป๊อปดูแลตัวเองด้วยน้า อย่าบ้างานให้มากเข้าใจไหม ห้องน่ะหัดเก็บกวาดบ้างนะ ถ้าหนูกลับมาแล้วห้องรก พี่ป๊อป โดน!!!>>”

“<<ครับแม่ แม่ไม่ต้องห่วงนะครับเดี๋ยวผมจะทำตามที่แม่บอกทุกอย่างเลยคร้าบ>>” ป๊อปแกล้งแขวะน้องสาวทิ้งท้าย และแล้วก็...

{{เพียะ}} มือเล็กฟาดท่อนแขนของพี่ชายไปอย่างเต็มรัก ดวงตากลมโตมองดุใส่อย่างขุ่นเคือง

“<<พี่ป๊อป นี่หนูพูดกับพี่ดีๆ นะ ทำไมต้องแขวะกันด้วยอ่ะ>>”

“<<พี่ล้อเล่นค่าใบหม่อน อืมไปเถอะ เดี๋ยวไปไม่ทัน>>” ป๊อปพูดไปยิ้มไปเชิงปลอบใจหลังจากแกล้งหยอกน้องสาวไปรอบหนึ่ง

ยังไม่ทันที่ใบหม่อนจะพูดอะไรต่อ เสียงทักทายจากผู้อาวุโสที่สุดในกลุ่มดังขึ้นมาจากด้านหลังของเจ้าตัวพอดี

“อินังใบหม่อนอยู่ตรงนี้นี่เอง หาตั้งนานนะแก”

“พี่บี้สวัสดีค่ะ” ใบหม่อนหันไปพนมมือแต้ทักทายเมื่อได้ยินเสียงรุ่นพี่คนสนิทร้องเรียก

บังเอิญป๊อปเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเจ้าของเสียงแหลมเล็กคนนี้พอดี มือหนารีบยกมือไหว้ทักทายพร้อมกับยิ้มให้ตามมารยาท

“อ้าวสวัสดีครับพี่บี้”

“สวัสดีจ้าป๊อป มาส่งน้องเหรอ” บี้ยกมือรับไหว้พร้อมกับยิ้มให้

“ครับพี่”

“อ้าวใบหม่อน นั่นใครอ่ะ” เป็นเมย์ที่ออกปากถามขึ้นมา เพ่งสายตาลอดแว่นตรงมาที่คนตัวใหญ่อย่างประเมินตั้งแต่หัวจรดเท้า

“เมย์ นี่พี่ป๊อป พี่ชายเราเองแหละ”

“สวัสดีค...” คำพูดของชายหนุ่มถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อเห็นสายตาของคนตรงหน้า

เมย์พยักหน้าเบาๆ ไม่แม้แต่จะยกมือไหว้คนที่แก่กว่าเพราะถือว่าไม่รู้จักกัน ขณะที่คนถูกแนะนำตัวยิ้มมุมปากเล็กน้อยแก้เขินก่อนหันไปส่งยิ้มแบบเดียวกันให้คนเป็นน้องสาวที่กำลังส่งยิ้มแห้งๆ มาให้ มือหนายื่นไปบีบมือเล็กของอีกฝ่ายเบาๆ หนึ่งที

“อ้าวใบหม่อน ใครมาส่งเอ็งเนี่ย แฟนเหรอ”

“พี่หมูหยองอ่ะ มั่ว นี่พี่ป๊อป พี่ชายหนูต่างหาก” ใบหม่อนแหวใส่เพื่อนรุ่นพี่ก่อนหันมาแนะนำกับพี่ชายตัวเอง “พี่ป๊อป คนนี้พี่หมูหยอง”

“สวัสดีครับพี่”  

“สวัสดีไอ้น้อง เอ็งเป็นพี่ชายใบหม่อนเหรอ”

“ครับพี่”

ด้วยท่าทางที่เป็นกันเองของหมูหยองทำให้ชายหนุ่มลดอาการประหม่าลงไปได้ รู้สึกถูกชะตาอยู่ไม่น้อยถึงแม้จะเจอกันเป็นครั้งแรก ทางด้านใบหม่อนถือโอกาสแนะนำเพื่อนอีกสองคนให้พี่ชายรู้จัก

“พี่ป๊อป คนนี้พี่โบ๊ท” ใบหม่อนผายมือไปทางหญิงรูปร่างป้อมเตี้ยผิวขาวที่อยู่ถัดจากรุ่นพี่คนสนิท

“สวัสดีครับพี่”

“สวัสดีจ้า” โบ๊ทยกมือรับไหว้ชายหนุ่มก่อนส่งยิ้มให้อย่างเขินๆ

“คนนี้พี่กิ๊กนะพี่ป๊อป” ใบหม่อนผายมือไปทางผู้หญิงผิวขาวอีกคน “พี่กิ๊ก นี่พี่ป๊อป พี่ชายหนูเอง”

กิ๊กหันมามองด้วยสายตาจิกลอดแว่นตั้งแต่หัวจรดเท้าของคนตัวใหญ่ กลีบปากเรียวสวยเบะขึ้นอย่างหมั่นไส้บ่งบอกถึงอาการไม่ถูกชะตาเป็นอย่างมาก ‘ชิ นี่เหรอพี่ชายใบหม่อน ท่าทางติสต์แตก ไม่เป็นผู้ใหญ่แบบนี้เนี่ยนะ’ เกิดอคติในใจขึ้นมาทันทีที่เห็น มือทั้งสองข้างยกมือไหว้แบบส่งๆ ให้ผ่านไปเท่านั้น ชำเลืองมองด้วยหางตาหนึ่งทีก่อนเสมองไปทางเพื่อนคนอื่น

ป๊อปหน้าชาดิกกว่าเดิมเมื่อเห็นสายตาจิกลอดแว่นมาแบบนั้น รีบหุบยิ้มลงทันทีแบบไม่ทันตั้งตัว รับรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไรกับเขาในตอนนี้ ทางด้านใบหม่อนชำเลืองมองสีหน้าที่กำลังบ่งบอกความรู้สึกไม่สบายอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกเป็นห่วงพี่ชายขึ้นมาแล้ว

“<<พี่ป๊อปไม่ต้องคิดมากน้า>>” มือเล็กบีบมือหนาของพี่ชายเบาๆ เชิงปลอบใจ กลีบปากเรียวสวยคลี่ยิ้มกว้างจนอีกฝ่ายกลับมายิ้มได้อีกครั้ง

“<<เฮ้ย พี่ไม่เป็นอะไรหรอกใบหม่อน>>” ป๊อปเอ่ยปากตอบอย่างหนักแน่น พลางบีบมือเล็กตอบกลับไป

ทางด้านผู้อาวุโสทั้งสองอย่างบี้และหมูหยองหันไปปรามเพื่อนรุ่นน้องด้วยสายตาดุหนึ่งที พร้อมใจกันหันกลับมาหาใบหม่อน ก่อนที่บี้จะเป็นฝ่ายออกปากเร่งเพราะกลัวขึ้นรถตู้ไม่ทัน ระคนกับอาการหมั่นไส้พี่น้องคู่นี้ร่ำลากันด้วย

“ไป อินังใบหม่อน เดี๋ยวขึ้นรถตู้ไม่ทัน”

“<<หนูไปแล้วน้าพี่ป๊อป>>”

“<<เดินทางปลอดภัยนะใบหม่อน ถึงแล้วยังไงไลน์บอกกันด้วย>>”

“<<จ้าพี่ชาย>>”

ใบหม่อนยกมือไหว้คนเป็นพี่ชายก่อนโบกมือลาพร้อมกับคลี่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันเหล็กครบทุกซี่ ทางด้านผู้อาวุโสทั้งสองหันมาส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มเป็นเชิงบอกให้เขาไม่ต้องเป็นห่วงน้องสาวคนนี้ โดยเฉพาะสายตาของหมูหยองที่ส่งมาเหมือนกับจะบอกอะไรบางอย่างให้ชายหนุ่มรู้สึกสบายใจ

‘เอ็งไม่ต้องเป็นห่วงนะป๊อป เดี๋ยวพี่ดูแลใบหม่อนให้นะ’

ป๊อปยกมือไหว้ผู้อาวุโสทั้งสองก่อนมองตามร่างสูงระหงที่เดินลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปยังรถตู้ของหน่วยจนเห็นว่าอีกฝ่ายขึ้นรถตู้ไปกับเพื่อนๆ แล้ว ลึกๆ ยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่ถึงแม้จะรู้ว่าน้องสาวตัวเองเอาตัวรอดเก่งแค่ไหนก็ตาม เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนหันกลับไปที่ยานพาหนะคู่กายสีดำทะมึนคันใหญ่ หยิบกุญแจรีโมตบิดสตาร์ตเครื่องก่อนขับตามหลังรถตู้ออกไปในที่สุด...

                                                                .............................................................................

รถแวนเจ็ดที่นั่งคันเดิมค่อยๆ ถอยเข้าช่องจอดประจำเคียงข้างรถเก๋งคันเล็กสีดำคันเดิมอย่างคล่องแคล่ว พลันเสียงเครื่องยนต์ดีเซลใต้ฝากระโปรงหน้าดับลงหลังจากส่งเสียงคำรามกระหึ่มมาตลอดระยะเวลาใช้งานพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนส่งท้ายเมื่อดับเครื่อง ร่างสูงใหญ่ลงจากประตูฝั่งคนขับเดินสำรวจรอบรถหนึ่งรอบตามปกตินิสัยก่อนกดรีโมตสั่งให้ล็อก แต่นัยน์ตาสองชั้นหลบแอบชำเลืองมองไปทางรถเก๋งคันเล็กที่จอดนิ่งสนิทอยู่เคียงข้างด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไรระหว่างความห่วงใย หรือความคิดถึง รู้สึกหวิวๆ ในใจอย่างบอกไม่ถูก...

คีย์การ์ดในมือของชายหนุ่มถูกทาบกับเซนเซอร์สั่งให้ประตูห้องปลดล็อก เปิดเข้าไปข้างในห้องที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศเงียบสงบเหมือนกับทุกๆ วันที่ผ่านมา เมื่อกลับมาถึงร่างสูงใหญ่เดินตรงรี่ไปยังหลังครัวทันที กะจะทำอะไรง่ายๆ กินเพราะตั้งแต่ตื่นมายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนอกจากกาแฟแก้วเดียวกับขนมปังเท่านั้น

ไข่เจียวหมูสับฟองเล็กส่งกลิ่นหอมฉุยมีรอยไหม้นิดๆ จากฝีมือของชายหนุ่มถูกตักไปวางบนจานข้าวสวยร้อนๆ ที่ใบหม่อนหุงทิ้งไว้ให้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เขาไม่รอช้ารีบลงมือทานทันทีด้วยอาการหิวที่เริ่มรุกหนักขึ้นเรื่อยๆ จนหมดลงในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก

ชายหนุ่มเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานหลังจากเก็บจานเสร็จ กำลังเอื้อมมือไปเปิดไอแม็คคู่ใจตรงหน้า บังเอิญเหลือบมองเห็นรีโมตรถเก๋งคันเล็กวางอยู่พร้อมกับกระดาษโน้ตใบย่อมบรรจุข้อความที่เขียนด้วยลายมือของคนเป็นเจ้าของพร้อมกับหนังสือสำคัญทางกฎหมายฉบับหนึ่งที่ระบุชื่อของตัวเองกับชื่อของหญิงสาวไว้ชัดเจน

“ ...To พี่ป๊อป

         พี่ป๊อป หนูไปอบรมอาทิตย์นึงนะ พี่ป๊อปต้องหากับข้าวกินเองนะ ข้าวหนูหุงไว้ให้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ถ้ากินหมดแล้วพี่ป๊อปต้องหัดหุงเองได้แล้วน้า ไม่ใช่เอาแต่รอให้หนูมาหุงให้กินอย่างเดียว ว่างๆ ก็ดูแลห้อง ทำความสะอาดห้องบ้างนะไม่ใช่เอาแต่บ้างานอย่างเดียว ห้องน้ำน่ะหัดขัดได้แล้วไม่ใช่ปล่อยให้เหม็นล่ะ

       หนูรบกวนพี่ป๊อปเอารถไปเปลี่ยนเป็นป้ายขาวให้หนูหน่อยนะ ศูนย์พระราม 3 พี่ป๊อปไปถูกใช่ไหม หนูทำหนังสือมอบอำนาจไว้ให้แล้ว เบอร์ของเซลล์หนูเขียนไว้ให้แล้วด้วย ขี่รถหนูอย่าซิ่งอย่ามุดอย่าปาด อย่าเอาไปชนใครล่ะ ไม่งั้นหนูเอาพี่ตายแน่ เบี้ยประกัน พ.ร.บ. หนูรบกวนพี่ป๊อปออกให้ก่อนน้า เดี๋ยวกลับไปหนูใช้คืน โอเค.ไหมคะพี่ชาย

      หนูพูดตรงๆ เลยนะ หนูเป็นห่วงพี่ป๊อปมาก หนูเห็นพี่ป๊อปเอาแต่นั่งหน้าคอมพ์ทำงาน เพ่งหน้าจอทุกวันๆ เดี๋ยวสายตาจะเสียเอานะพี่ ง่วงก็นอนเถอะอย่าอดหลับอดนอนเลย อายุก็ไม่ใช่วัยรุ่นแล้วนะ ปีนี้พี่ป๊อปจะสามสิบสองแล้วใช่ไหม อย่าฝืนอดนอนติดกันหลายๆ คืนเลย มันจะเสียสุขภาพนะพี่ หัดดูแลตัวเองด้วยนะไม่ใช่เอาแต่บ้างาน ถ้าพี่ป๊อปเป็นอะไรไปอีกคนแล้วหนูจะอยู่ยังไง หนูมีพี่ป๊อปเป็นพี่ชายคนเดียวนะ ถ้าพี่ป๊อปรักหนู เชื่อหนูสักครั้งนะคะพี่ชาย

      หนูรู้ว่าพี่ป๊อปเหงาแน่เลยหนูไม่อยู่ด้วยตั้งอาทิตย์นึง พี่พัชรก็กลับกาฬสินธุ์ด้วยนี่ ยังไงหนูไม่ปล่อยให้พี่ป๊อปเหงาหรอก เดี๋ยวว่างๆ หนูไลน์ไปหา พี่ป๊อปเข้าใจหนูนะว่าที่หนูต้องมาอบรมเพราะเพื่อความก้าวหน้าของตัวหนูเอง พี่ป๊อปรอหนูหน่อยนะ เดี๋ยววันอาทิตย์หนูก็กลับมาเจอพี่ป๊อปแล้ว

รักนะคะพี่ชาย

บุษบง ผลวิเชียร
ใบหม่อน น้องสาวสุดที่รักของพี่ป๊อปไง”

 

ความรู้สึกหวิวๆ ในใจกลับมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากได้อ่านโน้ตตรงหน้าทุกตัวอักษรที่บรรจงเขียนด้วยลายมือน่ารักๆ อันคุ้นตา ปากหยักเหยียดยิ้มฝืนๆ พร้อมกับพ่นลมหายใจยาว รู้สึกร้อนผะผ่าวที่ใบหน้า นัยน์ตาสองชั้นหลบเริ่มอุ่นๆ เหมือนจะมีน้ำตาไหลออกมา เริ่มคิดกังวลไปต่างๆ นานา จากที่เมื่อก่อนเคยใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ไม่ต้องต้องคิดอะไรมากนอกจากเอาแต่ทำงานๆๆ มีเพียงแค่นัดเจอกับคนรักเป็นครั้งเป็นคราวหรือคนรักมานอนค้างคืนบ้างเป็นบางเวลาเท่านั้น กับครอบครัวก็ได้แต่ติดต่อกันทางโซเชียลเน็ตเวิร์คหรือโทรศัพท์เป็นหลัก หรือไม่ก็ครอบครัวลงมาเยี่ยมถึงที่ซึ่งนานๆ ครั้งที่จะได้มาเจอกัน นับตั้งแต่ใบหม่อนลงมาอยู่เป็นเพื่อนเป็นเวลาได้ราวๆ เกือบสี่เดือน ชีวิตของเขาเริ่มเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนที่เอาแต่โฟกัสกับงานจนลืมที่จะใส่ใจความสัมพันธ์รอบข้างก็เปลี่ยนไป กลับกลายเป็นให้เวลากับคนเป็นน้องสาวและคนรักมากขึ้น รอเพียงวันที่จะได้กลับไปเยี่ยมครอบครัวเท่านั้น จากที่เคยอยู่เงียบๆ คนเดียวก็มีน้องสาวเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนคุย เพื่อนเล่น ตีกันกัดกันตามประสาพี่น้อง ไหนจะถูกน้องสาวคอยจู้จี้คอยบ่นว่าจนปากเปียกปากแฉะก็ตาม และด้วยความที่รักน้องสาวคนนี้มาก ยังไงเขาก็ยอมได้เสมอ และยอมทุกครั้งเท่าที่จำความได้ และแล้วได้หวนคำนึงไปถึงเมื่อยี่สิบหกปีที่แล้ว...

{{ “<<ไอ้หมา เอ็งกำลังจะมีน้องแล้วนะ ดีใจไหมลูก>>”

พ่อหันไปถามลูกชายคนโตในวัยไม่ถึงห้าขวบดีระหว่างพามาที่โรงพยาบาลใจกลางเมืองสุพรรณบุรี วันนี้พ่อตั้งใจให้ลูกลาเรียนหนึ่งวันเพื่อมาคอยต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวที่กำลังจะลืมตาดูโลกในไม่ช้านี้

“<<ดีใจสิครับพ่อ ว่าแต่ผมจะได้น้องสาวใช่ไหมครับ>>”

“<<รอถามหมอก็แล้วกันนะไอ้หมา สงสัยตอนนี้แม่เอ็งกำลังใกล้จะคลอดแล้วล่ะ>>”

ถึงแม้ตัวเขาจะได้รับการตั้งชื่อเล่นว่า “ป๊อป” แต่ที่บ้านทั้งญาติทางฝั่งพ่อฝั่งแม่ไม่มีใครเรียกชื่อเล่นของเขาเลย แต่เรียกว่า “ไอ้หมา” ทุกครั้ง ยกเว้นแต่ลูกพี่ลูกน้องที่วัยไม่ห่างกันนักที่จะเรียกชื่อเล่นของเขา

สองพ่อลูกพากันเดินเข้าไปในแผนกสูตินรีเวชด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ ทั้งสองได้รับการเชื้อเชิญจากพยาบาลในแผนกเป็นอย่างดี เมื่อทั้งสองไปถึงห้องรอเยี่ยม เห็นหญิงวัยเฉียดหกสิบนั่งรออยู่ด้วยอาการตื่นเต้นไม่แพ้กันกับน้าชายคนหนึ่ง

“<<แม่คุณค้าบ…>>” ป๊อปรีบเดินโผเข้าไปหาหญิงที่ตัวเองเรียกว่าแม่คุณทันทีที่เห็นหน้า

ฝ่ายหญิงวัยเฉียดหกสิบลุกขึ้นพร้อมกับย่อตัวลงรับหลานชายคนโต โผเข้ากอดและช้อนร่างป้อมเล็กขึ้นมา “<<มาแล้วเหรอไอ้หมาหลานรัก สวัสดีน้าของเอ็งก่อนสิ>>”

เด็กชายยอมทำตามที่แม่คุณบอกอย่างว่าง่ายหันไปสวัสดีชายวัยยี่สิบเศษอย่างนอบน้อม “<<สวัสดีค้าบน้าป้อง>>”

“<<สวัสดีไอ้หมาหลานรักของน้า ตื่นเต้นล่ะสิที่จะมีน้องน่ะ ฮิๆ>>”

สีหน้าของเด็กชายแสดงออกอย่างชัดเจนว่าดีใจขนาดไหน แต่ตอนนี้เด็กชายยังไม่ยอมที่จะอยู่ห่างจากแม่คุณของเขาแม้แต่นิดเดียว ยังอยู่ในอ้อมกอดของแม่คุณอยู่ตลอด

“<<ไอ้ทิด>>” สรรพนามที่แม่คุณใช้เรียกลูกเขยดังขึ่น “<<เข้าไปดูเมียเอ็งสิ ตอนนี้กำลังจะคลอดแล้วนะ เดี๋ยวแม่ดูไอ้หมาให้เอง>>”

“<<คุณแม่พาไอ้หมากับป้องเข้าไปดูด้วยกันเลยครับ ผมรู้ทุกคนอยากเห็นหน้าลูกคนเล็กของผมแล้วสิ>>”

เด็กชายถูกหญิงวัยเฉียดหกสิบคว้าข้อมือป้อมพาเดินตามหลังผู้เป็นพ่อที่รีบรุดเข้าไปด้วยอาการตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าลูกคนเล็กจนไปถึงส่วนพักคอยหน้าห้องคลอด เห็นหญิงสาววัยยี่สิบปลายๆ กำลังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใสบานใหญ่ ร่างสูงกำยำของชายวัยสามสิบเศษได้รับอนุญาตให้เข้าไปให้กำลังใจหญิงคนรักเพียงผู้เดียวเท่านั้น

เวลาผ่านไปราวๆ ชั่วโมงเศษ

{{แง้ๆๆๆๆๆๆๆ}}

เสียงเด็กร้องดังลั่นห้องคลอดพร้อมกับเสียงเฮโลอย่างดีใจของชายผู้เป็นสามีดังลอดออกมาจนคนที่รออยู่ข้างนอกพลอยดีใจตามไปด้วย

“<<ยินดีด้วยครับ คุณได้ลูกสาวนะครับ>>”

เด็กหญิงที่เพิ่งคลอดถูกนำเข้าตู้อบทันทีหลังจากตัดสายรกเสร็จ พร้อมกับร่างระหงของหญิงสาววัยยี่สิบปลายที่ดูอิดโรยลงหลังจากรวบรวมพละกำลังทั้งหมดในการเบ่งให้ลูกสาวคนเล็กออกมาลืมตาดูโลกนอนแผ่บนเตียงเข็นโดยพยาบาลและผู้เป็นสามีที่คอยเดินตามให้กำลังใจตลอด ร่างของเด็กชายยังลอยหวือไปตามแรงดึงของหญิงวัยเฉียดหกสิบเดินตามไปจนถึงห้องพักฟื้นที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ไม่รอช้ารีบพาไปดูที่ตู้อบเด็กที่อยู่เคียงข้างเตียงพักฟื้น

“<<ไอ้หมา นี่ไงน้องสาวของเอ็ง ดีใจไหมล่ะลูก>>” แม่คุณเอ่ยถามหลานชายตัวน้อยด้วยท่าทางเอ็นดู

“<<ดีใจสิค้าบแม่คุณ ผมได้เป็นพี่แล้วใช่ไหมครับ เย้ๆ>>” เด็กชายตัวน้อยออกอาการดีใจอย่างออกนอกหน้า จนผู้เป็นพ่อทิ่อยู่อีกด้านหนึ่งยังอดที่จะยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นกิริยาท่าทางของลูกชายคนโต

“<<ท่าทางไอ้หมาจะเห่อลูกเหมือนกันนะพ่อ>>”

สองสามีภรรยายิ้มให้กันก่อนหันกลับไปมองลูกชายคนโตที่กำลังตะกุยๆ ไปบนตู้อบอย่างตื่นเต้น

“<<ไอ้หมาได้เป็นพี่คนแล้ว คงจะทำให้ไอ้หมามันรู้จักรับผิดชอบมากขึ้นนะ>>”

“<<ฉันก็หวังแบบนั้นเหมือนกันแหละพ่อ ท่าทางไอ้หมาจะรักน้องมันมากแน่ๆ เลย ว่าไหม>>”

ไม่มีคำตอบจากปากของชายคนรักนอกจากรอยยิ้มเท่านั้น ฝ่ายหญิงสาวรู้ความหมายทันทีว่าอย่างไร ขณะเดียวกันเด็กชายกำลังออกอาการตื่นเต้นไม่หยุดด้วยอาการดีใจที่ตัวเองมีน้องเสียทีหลังจากเห็นแม่อุ้มท้องมานานถึงเก้าเดือนเต็มๆ

“<<ไอ้หมาเอ้ย เอ็งมีน้องแล้ว เอ็งเป็นพี่แล้ว รักน้องให้มากๆ นะ คอยดูแลน้อง คอยปกป้องน้องด้วยนะลูก>>”

แม่คุณพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอบอุ่นพลางลูบผมหลานชายคนโตเบาๆ อย่างเอ็นดู มองเข้าไปในตู้อบเห็นเด็กหญิงที่เพิ่งคลอดกำลังหลับสนิทอยู่

“<<ค้าบ แล้วน้องผมชื่ออะไรค้าบแม่คุณ>>”

แม่คุณหันไปถามลูกเขยที่กำลังเดินมาหาทันที “<<ไอ้ทิดเอ้ย เอ็งตั้งชื่อหลานไว้ยังลูก>>”

“<<ตั้งแล้วครับคุณแม่ ผมตั้งชื่อลูกสาวคนนี้ว่าใบหม่อนครับ เรื่องชื่อจริงเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปขอหลวงพ่อวัดวรจันทร์ตั้งให้ครับคุณแม่>>” แม่คุณได้ยินดังนั้นแล้วพยักหน้าหนึ่งทีก่อนหันไปหาหลานชายที่กำลังเกาะตู้อบอยู่ตรงหน้า “<<น้องเอ็งชื่อใบหม่อนนะไอ้หมา>>”

เด็กชายได้ยินดังนั้นรีบหันกลับไปหาน้องสาวที่กำลังนอนหลับอยู่ในตู้อบ เริ่มพูดกับน้องสาวด้วยอาการดีใจตามประสาเด็กๆ พร้อมมือทั้งสองข้างที่ยังเกาะตู้อบไว้แน่น

“<<น้องสาวพี่ชื่อใบหม่อนนะ พี่ชื่อป๊อปเป็นพี่ชายของใบหม่อนนะ พี่สัญญาว่าจะปกป้องดูแลอยู่เคียงข้างใบหม่อนเอง>>”… }}

ภาพตัดกลับมาอยู่ที่ปัจจุบัน ชายหนุ่มนั่งหลับตาพริ้มนึกถึงเรื่องราวในวัยเด็กก่อนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอ่านโน้ตในมือก่อนเงยหน้าขึ้นมองภาพถ่ายน้องสาวของเขาในวันรับปริญญาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน

‘ใบหม่อนไม่ต้องเป็นห่วงพี่นะคะ ยังไงพี่ไม่โหมงานหนักแน่ พี่เชื่อเรานะคะ เรื่องรถไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่จัดการให้ พี่ยังไม่ลืมที่พี่สัญญากับเราตั้งแต่วันที่เราเกิดนะคะ’

เขาตอบข้อความของน้องสาวในใจพร้อมกับคลี่ยิ้มน้อยๆ พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ โคลงศีรษะทุยลงไปกับพนักพิงเก้าอี้พักสายตาสักเล็กน้อยจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว...

                                                                ........................................................................

ป๊อปตื่นขึ้นมาหลังจากเผลอหลับไปได้ราวๆ ชั่วโมงกว่า หันไปหยิบแว่นกรองแสงที่วางไว้ข้างๆ ขึ้นมาสวม เริ่มเปิดโปรแกรมรีทัชลงมือทำงานที่ค้างอยู่ตรงหน้ากับโปรเจกต์ใหญ่ที่มีกำหนดส่งภายในกลางปีนี้ พยายามรวบรวมสมาธิทั้งหมดไปยังงานที่ทำอยู่ตรงหน้า นัยน์ตาสองชั้นหลบภายใต้แว่นกรองแสงกวาดไปรอบๆ หน้าจอสลับกับหันไปอ่านบรีฟบนหน้าจอสมาร์ทโฟนสีดำที่วางไว้อีกด้านหนึ่ง มือซ้ายจับเมาส์ปากกากวาดไปบนแป้นรีทัชงานตามบรีฟที่กำหนดมา มือขวากดปุ่มคำสั่งบนแป้นพิมพ์เซฟงานจุดต่อจุดไปเรื่อยๆ หลังจากรีทัชเสร็จ

แต่สมาธิของชายหนุ่มเริ่มหลุดเมื่อแวบหนึ่งในใจนึกถึงคนเป็นน้องสาวขึ้นมา ถึงแม้อีกใจนึงจะยับยั้งไว้เพราะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายไปอบรมข้าราชการใหม่ก็ตาม แต่เพียงแค่วันแรกที่ต้องห่างกันก็ทำให้เขาเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมาแล้ว มือข้างซ้ายวางเมาส์ปากกาลงบนแป้น หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเปิดแอพพลิเคชั่นสีเขียวเช็คกล่องแชตของน้องสาว แต่ตอนนี้มีเพียงแต่ข้อความสุดท้ายที่คุยกันเมื่อวันศุกร์ที่แล้วเท่านั้น ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเพิ่มเติม นิ้วมือหนาจิ้มออกจากแอพพลิเคชั่นสีเขียวย้ายไปยังแอพพลิเคชั่นสีน้ำเงินขาว เปิดดูโปรไฟล์ที่ตอนนี้ยังนิ่งไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเพิ่มเติมเช่นกัน มีเพียงแต่รูปที่ถ่ายด้วยกันเมื่อคืนก่อนนอนเท่านั้นที่อัพเดตล่าสุด

 ป๊อปถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนวางสมาร์ทโฟนลงที่เดิม หันกลับมาโฟกัสกับงานตรงหน้าต่อถึงจะมีความกังวลใจคอยรบกวนอยู่ก็ตาม

‘ป่านนี้ใบหม่อนยังไม่ถึงมั้ง กว่าจะถึงวังน้ำเขียวไม่ใช่ใกล้ๆ นะ’ แวบหนึ่งของความคิดผุดขึ้นมา

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ชายหนุ่มยังรีทัชงานตรงหน้าไม่เสร็จดีเมื่อถูกโปรดิวเซอร์และเพื่อนรีทัชเชอร์ที่ร่วมโปรเจกต์ทักท้วงขึ้นมา ถึงแม้จะทำตรงกับบรีฟทุกอย่างแล้วก็ตาม

@@Bewpetch@@ : พี่ป๊อป ลูกค้าอยากได้โทนสีมืดทึมลงไปอีกหน่อยกับรูปหินแตกตรงขานักกีฬาที่มันชัดขึ้นอีกหน่อยน่ะพี่

นัยน์ตาสองชั้นหลบอ่านข้อความจากโปรดิวเซอร์ก่อนหันกลับไปแก้งานตรงหน้าให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้าที่จู่ๆ มาเปลี่ยนใจกะทันหันเอาในตอนนี้จนทำให้เขาลืมความกังวลใจไปชั่วขณะหนึ่ง จนกระทั่งแก้งานเสร็จ กดเซฟเรียบร้อยส่งให้โปรดิวเซอร์และเพื่อนร่วมโปรเจกต์ช่วยตรวจอีกทีหนึ่ง

@@Bewpetch@@ : อะเครแล้วพี่ป๊อป หนูว่าลูกค้าชอบงานพี่ป๊อปแน่เลย :

ปากหยักภายใต้หนวดเคราหนาครึ้มระบายยิ้มบางๆ หลังจากอ่านข้อความจากโปรดิวเซอร์จบ ไม่รอช้าเตรียมตัวทำรูปต่อไป ถึงแม้จะมีทีมรีทัชเชอร์มาช่วยอีกสามคนก็ตาม แต่โปรเจกต์นี้ต่างคนต่างได้รับงานกันไปคนละสิบรูปกับเวลาประมาณสี่เดือนกับบรีฟที่รายละเอียดยุบยับไปหมดสะท้อนถึงความพิถีพิถันเอาใจใส่งานของลูกค้ารายนี้ แต่บังเอิญเผลอไปเปิดไฟล์รวมงานเข้า ทำเอาคนตัวใหญ่ถึงกับกุมขมับเมื่อได้เห็นมันอีกครั้ง

‘ว่าแล้วทำไมพี่นุ่นเร่ง แม่งเยอะชิบเลย’ เขาสบถในใจขึ้นมาเมื่อได้เห็นงานตรงหน้า

ป๊อปถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเปิดไฟล์รูปต่อไป มือซ้ายเอื้อมไปหยิบเมาส์ปากกามาลากไปบนแป้นอย่างคล่องแคล่วสลับกับหันไปอ่านบรีฟงานจากหน้าจอสมาร์ทโฟนคู่กาย ยิ่งทำไปนานๆ เข้ายิ่งเพลินจนลืมเวลา กระทั่งบรีฟหน้างานถูกตัดด้วยภาพจากแอพพลิเคชั่นสีเขียวพร้อมกับเสียงเรียกเข้ากับภาพหญิงสาวปรายตามองนิ่งๆ ที่คุ้นตา ชายหนุ่มรีบวางเมาส์ปากกาลงก่อนกดรับสายทันที

@@POPENGL@@ : [[<<ฮัลโหลครับใบหม่อนหน้ากลม>>]]

@@Baimon@@ : [[<<พี่ป๊อป! ว่าหนูหน้ากลมเหรอ!!! รู้งี้วางสายดีกว่า เชอะ>>]]

ปลายสายแว้ดแหวเสียงดังลั่นจนป๊อปต้องรีบชักสมาร์ทโฟนในมือออกจากหูก่อนที่แก้วหูจะแตก เมื่อปลายสายพูดจบสมาร์ทโฟนเครื่องเดิมกลับมาแนบใบหูใหญ่อีกครั้ง

@@POPENGL@@ : [[<<ฮิๆ พี่ล้อเล่นน่า โอ๋ไม่งอนนะคะน้องรักของพี่>>]]

@@Baimon@@ : [[<<พี่ป๊อปอ่ะชอบแกล้งหนู นี่หนูจะบอกว่าหนูมาถึงแล้วน้า นั่งรถนานเมื่อยตูดเลยเนี่ย>>]]

จู่ๆ ปากหยักได้รูปภายใต้หนวดเคราหนายกยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อรู้ว่าหญิงสาวเดินทางถึงที่หมายแล้ว

@@POPENGL@@ : [[<<ถึงแล้วก็ดีแล้ว อืมแล้วเราได้กินอะไรรึยังล่ะ>>]]

@@Baimon@@ : [[<<เรียบร้อยแล้วจ้าพี่ชาย พี่บี้ซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งเลี้ยงหนูด้วยล่ะ คริๆ แล้วพี่ป๊อปล่ะ กินอะไรรึยัง ไม่ใช่เอาแต่ทำงานจนลืมกินล่ะ>>]]

@@POPENGL@@ : [[<<กินเรียบร้อยแล้วค่ะ กำลังทำงานอยู่พอดีเลย>>]]

@@Baimon@@ : [[<<งืมๆ พี่ป๊อปอย่าลืมเอาหม้อหุงข้าวไปแช่ด้วยล่ะถ้ากินหมด ล้างหม้อข้าวด้วย อ้อ พี่ป๊อปอ่านที่หนูโน้ตไว้รึยัง>>]]

@@POPENGL@@ : [[<<อ่านแล้วล่ะๆ เขียนสั่งไว้ซะยืดยาวเลย เอาน่าพี่ทำตามที่เราบอกแน่ๆ>>]]

@@Baimon@@ : [[<<ให้มันจริงนะพี่ป๊อป ถ้าหนูกลับไปห้องรกหรือไม่ล้างจานนะ หรือไม่เอารถหนูไปเปลี่ยนป้ายทะเบียนนะ หนู-เอา-ตาย-แน่ คอยดู>>]]

@@POPENGL@@ : [[<<เออๆ พี่ไม่ลืมหรอก แหมขู่พี่เก่งนะเรา>>]]

@@Baimon@@ : [[<<ย่ะ! งั้นแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวหนูไปร่วมกิจกรรมไม่ทันโดนเล่นอีก บาย>>]]

ปลายสายตัดไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ชายหนุ่มอารมณ์ค้างกับบทสนทนาที่ถูกตัดจบไป ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มขึ้นมาด้วยความรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกก่อนสะบัดศีรษะทุยได้รูปไปมาขับไล่ความรู้สึกฟุ้งซ่านลงมือทำงานที่ค้างอยู่ตรงหน้าต่อ แต่คล้อยหลังผ่านไปไม่นานนัก เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นสีเขียวดังรัวๆ จนชายหนุ่มอดใจไม่ไหววางเมาส์ปากกาลง หยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูขึ้นมาดู เห็นกล่องแจ้งเตือนจากน้องสาวขึ้นเต็มไปหมด นิ้วมือหนากดเข้าไปดูกล่องข้อความ เห็นรูปรีสอร์ตบรรยากาศดีที่หญิงสาวไปอบรมในวันนี้กับรูปที่ถ่ายกับเพื่อนข้าราชการที่ไปด้วยกัน

แต่แล้วปากหยักได้รูปกลับคลี่ยิ้มกว้างอีกครั้งหลังจากดูรูปที่น้องสาวส่งมาทั้งหมด ยิ่งเห็นเจ้าของรูปยิ้มโชว์ฟันเหล็กสู้กล้องอย่างสดใสร่าเริงยิ่งทำให้รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก

                                                ............................................................................................

ตกกลางคืน ณ รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่วังน้ำเขียว

ใบหม่อนเดินกลับมายังห้องพักด้วยอาการเหนื่อยล้าอยู่ไม่น้อยหลังจากปฐมนิเทศและร่วมกิจกรรมละลายพฤติกรรมจนเกือบสี่ทุ่ม แต่ในความรู้สึกเหนื่อยล้ายังแฝงไปด้วยความอิ่มท้องหลังจากได้รับประทานอาหารมื้อเย็นแสนอร่อยที่ทางรีสอร์ตจัดเตรียมไว้ ขณะที่เพื่อนรุ่นพี่คนสนิทที่ได้เป็นรูมเมตด้วยอย่างบี้อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกัน

ร่างสูงระหงทอดกายลงบนเตียงนอนนุ่มๆ ทันที่มาถึง หยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินจากกระเป๋าถือแบรนด์เนมออกมาเปิดแอพพลิเคชั่นสีเขียว นิ้วเรียวเล็กไถไปบนหน้าจอไล่ดูช่องแชตของแต่ละคนจนไปเห็นกล่องแชตของพี่ชายยังขึ้นสถานะออนไลน์อยู่ ไม่รอช้ารีบเข้าไปในกล่องแชตพิมพ์ถามทันที

@@Baimon@@ : พี่ป๊อปยังไม่นอนเหรอ :

ดวงตากลมโตคู่สวยจ้องเขม็งรอคำตอบจากอีกฝ่ายที่ไม่มีแม้แต่จะอ่านข้อความ รีบกดออกจากช่องแชตของพี่ชายไปดูช่องแชตอื่น แต่แล้วแถบแจ้งเตือนจากช่องแชตของพี่ชายเด้งขึ้นมาในจังหวะเดียวกับกำลังจะแชตกับคนที่กำลังคิดถึงอยู่พอดี

@@POPENGL@@ : ยังๆ พี่แก้งานอยู่น่ะ :

นิ้วมือเล็กจิ้มเข้าไปในช่องแชตของพี่ชายอย่างรวดเร็วพร้อมกับขมวดคิ้วเรียวสวยเข้าหากัน จมูกโด่งเชิดรั้นย่นขึ้นพร้อมพ่นลมออกมาอย่างอิดหนาระอาใจอยู่ไม่น้อย

@@Baimon@@ : พี่ป๊อปนี่น้า… นี่จะอดหลับอดนอนไหมเนี่ยคืนนี้ :

@@POPENGL@@ : แก้งานเสร็จเดี๋ยวพี่ก็นอนแล้ว พรุ่งนี้พี่เอารถเราไปเปลี่ยนป้ายขาวให้ไง :

@@Baimon@@ : ให้มันจริงนะพี่ป๊อป หนูไว้ใจพี่นะถึงให้ไปทำให้ อย่าเบี้ยวล่ะ :

@@POPENGL@@ : พี่ไม่เบี้ยวหรอกค่ะใบหม่อน พี่ทำงานอีกแป๊ปเดี๋ยวก็นอนแล้ว :

@@Baimon@@ : จ้าพี่ชาย พี่ป๊อปกินอะไรรึยังเนี่ย ข้าวหุงยัง ล้างหม้อข้าวยัง อย่ามัวแต่บ้างานจนลืมกินข้าวล่ะ:

@@POPENGL@@ : เรียบร้อยแล้วค่ะ พี่เจียวไข่กินเอาน่ะ หม้อข้าวพี่แช่อยู่เดี๋ยวค่อยหุงพรุ่งนี้ก็ได้ :

@@Baimon@@ : งั้นพี่ป๊อปทำงานต่อเถอะ หนูไม่กวนแล้ว อย่าเอาแต่บ้างานจนอดนอนล่ะ หนูเป็นห่วงนะ รู้ไหมเนี่ย :

@@POPENGL@@ : ครับแม่ เดี๋ยวพี่ก็นอนแล้ว แก้งานแป๊ปเดียวเอง เราก็เหมือนกัน ไม่ใช่มัวแต่เมาท์กับป้าบี้จนลืมนอนล่ะ จะร้องไห้ขี้มูกโป่งไหมเนี่ยพี่ไม่ได้ตามไปส่งเข้านอนถึงวังน้ำเขียวนะ :

@@Baimon@@ : เดี๋ยวเหอะพี่ป๊อป ว่าหนูขี้แยเหรอ ไปนอนได้แล้ว ไป๊ :

ใบหม่อนปั้นหน้าหงิกทันทีหลังจากถูกพี่ชายแกล้งล้อเลียนถึงแม้จะเป็นเพียงข้อความแชตผ่านแอพพลิเคชั่นสีเขียวก็ตาม เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พูดอะไรต่อ นิ้วเรียวเล็กเลื่อนปัดช่องแชตของพี่ชายออก ไล่ดูช่องแชตของคนอื่นไปเรื่อยๆ จนเมื่อไม่เห็นว่ามีใครออนแล้ว แต่ไม่ลืมที่จะส่งข้อความทิ้งท้ายให้กับคนที่คิดถึงมากที่สุด

@@Baimon@@ : ฝันดีนะตัวเอง วันนี้เค้ายุ่งๆ กับเรื่องอบรมเลยไม่ได้คุยกันเลย วันหลังเจอกันนะคะที่รัก :

ใบหม่อนคลี่ยิ้มกว้างอย่างรวดเร็วเมื่อพิมพ์จบ จากตอนแรกที่สีหน้าของเจ้าตัวหงิกงอเพราะความกังวลใจปนกับความรู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก

สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินถูกวางไว้ที่หัวเตียงหลังจากคนเป็นเจ้าของใช้งานเสร็จ ชำเลืองมองไปทางรูมเมตที่เป็นรุ่นพี่คนสนิทที่กำลังมองมาด้วยสายตาที่เหมือนกับกำลังอ่านกิริยาท่าทางของหญิงสาวอยู่

“เป็นอะไรยะอินังใบหม่อน เดี๋ยวหน้าบึ้งเดี๋ยวยิ้ม เป็นบ้าเหรอไง” พูดแรงๆ ตามสไตล์ของหญิงวัยกร้านโลกพอสมควร

“พี่บี้อ่ะ” ใบหม่อนว่าเสียงกระเง้ากระงอดใส่ “ก็หนูแชตคุยกับพี่ชายหนูนี่นา คนอุตส่าห์เป็นห่วงยังมากวนประสาทใส่อีก” ได้ทีนินทาพี่ชายให้รุ่นพี่คนสนิทฟังเสียเลย

“โธ่นึกว่าอะไร ขนาดฉันเจออีป๊อปไม่กี่ครั้งฉันยังรู้เลยว่าพี่ชายของเธอน่ะบ้าขนาดไหน ปากก็เสีย กวนก็กวน ถ้าฉันเป็นเธอนะใบหม่อนฉันอยากจะลาออกจากการเป็นน้องอีป๊อปเลย” บี้แสดงความเห็นของตัวเองขึ้นมา

ใบหม่อนหันไปจ้องหน้ารุ่นพี่คนสนิทด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม รู้อยู่แล้วว่าที่จริงเพื่อนรุ่นพี่คนนี้ไม่มีอะไร แค่พูดจาแรงๆ เท่านั้น

“หนูไม่ได้อะไรอยู่แล้วล่ะพี่ หนูรู้นิสัยพี่ชายหนูดี พี่ป๊อปเขาไม่มีอะไรอยู่แล้วล่ะ” เสียงใสแฝงความจริงจังเว้นหายใจสักพัก “มันเฉยๆ แล้วอ่ะพี่บี้ ถ้าวันไหนพี่ป๊อปไม่แกล้งหนู ไม่ปากเสียใส่หนูสิ วันนั้นน่ะแปลก”

“จ้า น้องสาวที่แสนดีของพี่ป๊อป ถึงพี่ชายคนนี้จะแย่แค่ไหนน้องใบหม่อนก็ยอมได้เสมอแหละค่า แหวะ จะอ้วก!!!” บี้ทำเสียงล้อเลียนรุ่นน้องคนสนิทก่อนแกล้งทำเป็น ‘อ้วก’ แบบเน้นๆ ทิ้งท้าย ตามด้วยสีหน้าเหยเกและสายตาเชิงล้อเลียนส่งไปหาคู่สนทนา

หญิงสาวกลั้นขำไม่ไหวระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของรุ่นพี่คนสนิท “เวอร์ไปแล้วพี่บี้” ทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่ “พี่บี้ทายผิดด้วย ที่จริงพี่ป๊อปเป็นฝ่ายยอมให้หนูทุกอย่างต่างหาก คริๆ จริงๆ พี่บี้ก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าพี่ป๊อปยอมหนูขนาดไหน”

“จ้า แต่ถ้าเป็นฉันล่ะก็ไม่ยอมหรอกนะถ้าได้น้องแบบแกอ่ะอินังใบหม่อน” บี้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ถึงแม้จะพอรู้ตื้นลึกหนาบางของพี่น้องคู่นี้ดีอยู่แล้ว

อาการง่วงค่อยๆ คืบคลานเข้ามารบกวนทั้งสองสาวหลังจากเมาท์มอยกันอยู่นาน ต่างคนต่างเริ่มยกมือปิดปากที่กำลังหาวหวอดๆ ไม่หยุดราวกับจะประท้วงให้ร่างกายได้นอนพักผ่อนบ้างหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน จนตอนนี้ผู้อาวุโสเริ่มทนอาการง่วงไม่ไหวแล้ว

“ฉันนอนก่อนนะอินังใบหม่อน” บี้เอ่ยทิ้งท้ายกับหญิงสาวพลางยกมือปิดปากที่กำลังหาว

“จ้าพี่บี้ เดี๋ยวหนูก็นอนแล้วล่ะ”

ร่างบางของเพื่อนรุ่นพี่ทอดตัวลงบนเตียงนุ่มอีกฝั่งหนึ่งเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ใบหม่อนเผชิญกับอาการนอนไม่หลับที่กำลังคุกคามในตอนนี้แทน พยายามข่มตาลงยังไงก็นอนไม่หลับสักที ในสมองตอนนี้เริ่มมีความวิตกกังวลขึ้นมาทั้งเรื่องแปลกที่แปลกทางและรู้สึกเหมือนจะขาดอะไรไปสักอย่างเหมือนกับวันที่อยู่ห้องด้วยกันกับพี่ชาย ถึงแม้จะเอาตุ๊กตามัสคอตตัวโปรดมากอดอยู่ในอ้อมแขนด้วยก็ตาม ด้วยความรู้สึกแปลกที่แปลกถิ่นบวกกับความวิตกที่เกิดขึ้นในใจทำให้เจ้าตัวอดที่จะคิดไปต่างๆ นานาไม่ได้

‘แม่คุณจ๋า หนูเหงาจังเลยจ้า หนูอยากกลับไปนอนตักแม่คุณจังเลย อยากกลับไปหาพ่อแม่ด้วยจ้า’

‘ไม่รู้พี่ป๊อปจะเป็นยังไงบ้างนะ ได้นอนรึยัง หรือทำงานอยู่นะ’ ความกังวลใจถึงพี่ชายผุดขึ้นมาในห้วงความคิดของเจ้าตัว ‘รอหน่อยนะพี่ป๊อป อีกหกวันเดี๋ยวหนูได้กลับแล้ว’

‘ถ้าพี่ป๊อปมาส่งเข้านอนก็ดีสิ จะได้นอนหลับสบาย ไม่มีพี่ป๊อปแล้วมันกลัวอ่ะ’

ศีรษะสวยได้รูปพยายามสะบัดไปมาขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านจนทำให้ตัวเองนอนไม่หลับ หยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูคู่กายขึ้นมาแตะหน้าจอดูเวลา เห็นว่าเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว แต่ตอนนี้ยังรู้สึกตื่นตัวอยู่ตลอด ดวงตากลมโตคู่สวยพยายามข่มให้หลับยังไงก็หลับไม่ลงเสียที บังเอิญเสียงแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนที่เพิ่งวางไว้บนหัวเตียงดังขึ้นมา หญิงสาวเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาดูหน้าจอ เมื่อได้เห็นสิ่งที่แจ้งเตือนขึ้นมาแล้วทำให้หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวพองโตขึ้นมาทันที

@@MyBoo@@ : เค้าขอโทษนะที่ไม่ได้ตอบ พอดีเคลียร์งานอยู่ ฝันดีนะที่รัก :

กลีบปากอวบอิ่มสวยได้รูปคลี่ยิ้มขึ้นมา เมื่อได้เลื่อนไปอ่านข้อความถัดไปยิ่งทำให้สาวเจ้าต้องยิ้มกว้างกว่าเดิมอีก

@@POPENGL@@ : หลับฝันดีนะคะใบหม่อน น้องสาวหน้ากลมของพี่ ไม่ร้องนะคะที่พี่ไม่ได้ไปส่งเข้านอนน่ะ :

ความฟุ้งซ่านในใจของหญิงสาวหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อได้เห็นข้อความจากคนที่รักมากที่สุดทั้งสอง คนหนึ่งเป็นคนรักที่คบกันมานานตั้งแต่สมัยเรียน อีกคนหนึ่งคือพี่ชายร่วมสายเลือด...

‘ไม่ร้องแน่ค่ะพี่ป๊อป ขอบคุณมากนะคะพี่ชายที่แสนดีของหนู’ ใบหม่อนนึกในใจเมื่ออ่านข้อความของพี่ชายจบ

เหมือนดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจดวงน้อยของหญิงสาวให้กลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง มือเล็กวางสมาร์ทโฟนเครื่องหรูคืนที่เดิมก่อนเอนตัวลงนอนกอดตุ๊กตา Asimo ตัวโปรดเข้าสู่ห้วงนิทราไปในที่สุด...

                                                                ......................................................................

วันต่อมา ณ ศูนย์รถยนต์ย่านพระรามที่ 3

“เสร็จแล้วค่ะคุณธนเดช” เสียงหวานใสจากปากเซลล์สาวเอ่ยกับชายหนุ่ม

วันนี้ป๊อปขับรถของน้องสาวมาเปลี่ยนป้ายทะเบียนจากป้ายแดงเป็นป้ายขาวตามที่คนเป็นเจ้าของรถเขียนโน้ตทิ้งไว้ให้ ถึงแม้เมื่อเช้าจะตื่นยากสักหน่อยเพราะเมื่อคืนแก้งานต่อจนเกือบเที่ยงคืน และยังมีอาการหงุดหงิดในการพยายามควบคุมพวงมาลัยอันแสนเบาหวิวของรถเก๋งคันเล็กให้อยู่มืออีก แต่เมื่อได้พบกับเซลล์และดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ จนเสร็จสิ้นทั้งค่าภาษี ค่า พ.ร.บ. และค่าประกันที่ตัวเองสำรองจ่ายให้ก่อน จริงๆ แล้วเขาอยากจ่ายให้เลย ไม่อยากให้น้องสาวต้องเจียดเงินเดือนมาใช้คืนเขาอีก

“ขอบคุณมากครับผม” ป๊อปหันไปยกมือไหว้ขอบคุณเซลล์สาวสวยพร้อมกับรับรีโมตรถและเอกสารสำคัญกลับมา

“ว่าไปก็อิจฉาคุณบุษบงเหมือนกันนะคะ ที่มีพี่ชายน่ารักแบบนี้”

ป๊อปได้แต่พยักหน้าและยิ้มน้อยๆ เมื่อได้ยินเซลล์ขายรถพูดแบบนี้ ในใจของเขาคิดไปถึงคนเป็นเจ้าของรถแล้วว่าตอนนี้จะเป็นยังไง มือข้างหนึ่งหยิบสมาร์ทโฟนจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาปลดล็อกหน้าจอเข้าแอพพลิเคชั่นสีเขียว จิ้มไปที่ช่องแชตของน้องสาวพร้อมกับพิมพ์ข้อความบอกให้อีกฝ่ายรับรู้

@@POPENGL@@ : พี่ทำให้เรียบร้อยแล้วนะใบหม่อน :

รู้ตัวอีกทีร่างสูงใหญ่เดินมาถึงรถเก๋งสีดำคันเล็กแล้ว มือหนาเอื้อมไปคว้ามือจับพร้อมกับกดสั่งให้รถปลดล็อกก่อนพาตัวเองเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย นิ้วมือหนากดปุ่มสั่งให้เครื่องยนต์สามสูบใต้ฝากระโปรงทำงาน มือหนาสาวพวงมาลัยอันเบาโหวงชวนหงุดหงิดพาออกสู่ถนนใหญ่ย้อนกลับไปยังทางด่วนมุ่งหน้ากลับคอนโดฯ ที่พักอย่างรวดเร็วเพราะต้องรีบกลับไปเคลียร์งานต่อ ถึงแม้จะมีช่วงทำให้หงุดหงิดเพราะระบบเกียร์รถรุ่นนี้เป็นแบบสายพานทำให้กดหนักมากไม่ได้ ยังดีที่มีแพดเดิลชิฟต์ให้กดเล่นและรอบต้นที่ค่อนข้างจัดจ้านกว่ารถตัวเองมากช่วยชดเชยอาการหงุดหงิดของเจ้าตัวไว้ได้

บนทางด่วนขาออกจากเมืองค่อนข้างโล่งทำให้ป๊อปที่เริ่มคุ้นเคยกับรถของน้องสาวมากขึ้นเริ่มสนุกกับการควบคุมรถเก๋งคันเล็กคันนี้ให้มุดไปมุดมาหาช่องว่างทำความเร็วไปตามทางได้ ยิ่งไม่มีเจ้าของรถมาคอยเตือนคอยปรามด้วยแล้ว แต่เหมือนกับสามัญสำนึกอะไรบางอย่างส่งเสียงเตือนขึ้นมา

‘ไอ้ป๊อป นี่รถน้องมึงนะเว้ยไม่ใช่รถของมึง’

คิดได้ดังนั้นเท้าขวาค่อยๆ ถอนคันเร่งออกมาจนความเร็วลดลงอยู่ในระดับที่ปลอดภัย นิ้วมือขวากดแพดเดิลชิฟต์สั่งให้คาไว้ที่เกียร์ 7 ให้รอบเครื่องยนต์ลงต่ำกว่าเดิมเพื่อจะได้ไม่กินน้ำมันมากไปกว่านี้ นัยน์ตาสองชั้นหลบชำเลืองมองเข็มน้ำมันที่ตอนนี้หล่นไปอยู่ในตำแหน่งครึ่งถังแล้ว

‘เดี๋ยวพี่เติมน้ำมันให้นะใบหม่อน’

ไม่กี่อึดใจ รถเก๋งคันเล็กสีดำที่ขับโดยป๊อปแล่นลงมาถึงทางปกติแล้ว มุ่งหน้าไปยังปั๊มน้ำมันที่อยู่ตรงหน้า ด้วยกระแสการจราจรขาออกที่ค่อนข้างโล่งทำให้ไปถึงในเวลาไม่นานนัก มือทั้งสองข้างสาวพวงมาลัยอันแสนเบาหวิวบังคับให้ตัวรถจอดตรงช่องให้มากที่สุด ก้มลงงัดปุ่มเปิดฝาถังน้ำมันขึ้นก่อนดับเครื่องและลงจากรถไปบอกกับพนักงานที่มายืนรออยู่

“95 เต็มถังครับ”

พนักงานยื่นหัวจ่ายเสียบเข้าไปในช่องเติมน้ำมัน กดตัวล็อกให้จ่ายน้ำมันออกมา นัยน์ตาสองชั้นหลบของชายหนุ่มจ้องเขม็งไปที่ตัวเลขจำนวนลิตรและราคาน้ำมันที่กำลังรันตัวเลขอยู่ จนเมื่อเสียงหัวจ่ายตัดดังขึ้น เขาไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปขอให้พนักงานกดหัวจ่ายอีกครั้งหนึ่ง มือหนาทั้งสองข้างยื่นไปจับตัวถังรถเขย่าๆ เพื่อให้น้ำมันจากหัวจ่ายไหลเข้าไปในช่องว่างระหว่างคอถังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนเมื่อเห็นว่าน้ำมันล้นคอถังแล้ว...

“ทั้งหมด 1,050 บาทค่ะ”

ป๊อปยื่นแบงก์พันกับแบงก์ร้อยพร้อมกับบัตรสะสมแต้มเติมน้ำมันของตัวเองให้กับพนักงาน รอเวลาสักพัก แบงก์ห้าสิบกับสลิปและบัตรเติมน้ำมันถูกส่งคืนกลับมาให้ในเวลาหลังจากนั้นไม่นาน

ร่างสูงใหญ่กลับเข้าไปที่นั่งฝั่งคนขับอีกครั้ง มือหนากดปุ่มที่ก้านไฟเลี้ยวดูระยะทางที่วิ่งบนจอกลางเรือนไมล์ ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มกว้างขึ้นอย่างพึงพอใจไม่น้อย ก่อนกดปุ่มสตาร์ตเครื่องอีกครั้ง พารถเก๋งคันเล็กของน้องสาวกลับสู่คอนโดฯ ที่พักที่อยู่ไม่ไกลจากปั๊มน้ำมันแห่งนี้มากนัก มือทั้งสองข้างค่อยๆ สาวพวงมาลัยพาเลี้ยวเข้าสู่ชั้นจอดรถ มุ่งไปยังช่องจอดประจำเคียงข้างรถแวนเจ็ดที่นั่งคันเขื่องของตัวเอง นัยน์ตาสองชั้นหลบชำเลืองมองกระจกมองข้างทั้งสองฝั่งสลับกับภาพจากกล้องมองหลังที่จอกลางเป็นระยะ จนเมื่อบังคับให้ตัวรถจอดตรงช่องแล้ว รอสักพักเพื่อให้เครื่องยนต์มีเวลาวอร์มดาวน์ก่อนกดปุ่มสั่งให้เครื่องยนต์ดับลงในที่สุด

ป๊อปก้าวลงจากรถพร้อมกับยื่นมือไปกดที่มือจับสั่งให้ล็อก ไม่ลืมที่จะเดินดูรอบๆ ตัวรถอีกครั้งเพื่อตรวจเช็คว่าตัวเองไม่ได้ขับพลาดไปเฉี่ยวชนใครอีกระหว่างทางจนรอบคันแล้ว เขาพาตัวเองเดินไปยังลิฟต์ที่อยู่ตรงหน้าไม่ไกลนักเพื่อกลับขึ้นห้อง ระหว่างนั้นก้มลงล้วงสมาร์ทโฟนเครื่องหรูจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูเวลา เห็นแจ้งเตือนจากคนเป็นน้องสาวผ่านแอพพลิเคชั่นสีเขียวเด้งขึ้นมา นิ้วชี้หนารีบกดปลดล็อกหน้าจอเข้าไปดูแบบไม่ลังเล

@@Baimon@@ : ขอบคุณมากน้าพี่ชาย อย่าลืมกินข้าวล่ะ ไม่ใช่มัวแต่ทำงาน ค่อยคุยกันน้าหนูอบรมก่อน :

ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มออกมาเมื่ออ่านข้อความจากน้องสาวจบก่อนเก็บสมาร์ทโฟนกลับเข้ากระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม เดินตรงไปยังลิฟต์กลับขึ้นไปยังห้องของตัวเองหลังจากใช้เวลาตลอดครึ่งวันเช้าออกไปทำธุระเรื่องรถให้กับน้องสาวจนเสร็จ ยังดีที่ได้ข้าวผัดร้านข้างทางละแวกศูนย์ช่วยรองท้องไว้ได้

เมื่อกลับมาถึงห้องหลังจากถอดรองเท้าและล้างหน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อย ป๊อปเดินไปยังห้องนอนใหญ่หลังโต๊ะทำงานของน้องสาวที่ไม่ได้ล็อก มือหนาคว้าลูกบิดเปิดประตูห้องเข้าไปข้างในท่ามกลางความเงียบสงบ มีเพียงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของครีมบำรุงผิวที่เจ้าของห้องใช้เป็นประจำตลบอบอวลอยู่ข้างในพอทำให้คนตัวใหญ่หายคิดถึงได้บ้าง ไม่ลืมที่จะเปิดไฟห้องเหมือนกับทุกครั้งที่เข้าไป

มือหนาวางรีโมตรถไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งข้างเตียงนอนใหญ่ บังเอิญชำเลืองมองไปที่เตียงนอนใหญ่อันว่างเปล่าที่รายล้อมด้วยตุ๊กตาตัวเล็กตัวใหญ่สีสันสดใส ผ้าห่มลายการ์ตูนสีชมพูสดใสถูกพับไว้อย่างเรียบร้อย รู้สึกคิดถึงคนเป็นเจ้าของห้องขึ้นมาทันทีถึงแม้เพิ่งห่างกันไปเพียงวันที่สองเท่านั้น

                                                                …………………………………………………..

เวลาผ่านเลยไปจนถึงช่วงพักเที่ยงหลังจากกิจกรรมอบรมในภาคเช้าเสร็จสิ้นลง บรรดาข้าราชการบรรจุใหม่ต่างพากันมารับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ในตอนนี้ใบหม่อนลงมือละเลียดอาหารมื้อกลางวันที่ทางรีสอร์ตจัดเตรียมไว้ให้ไปคุยกับเพื่อนข้าราชการที่บรรจุด้วยกันไปอย่างเพลิดเพลิน โดยเฉพาะสองผู้อาวุโสอย่างบี้กับหมูหยองที่ต่างฝ่ายต่างยิงมุกโบ๊ะบ๊ะกันอย่างเข้าขารู้ใจ เสริมด้วยเสียงหัวเราะเฮฮาจากอีกหนึ่งผู้อาวุโสและหนึ่งสาวแว่นกับอีกหนึ่งสาวหล่อจนครึกครื้นเป็นพิเศษ ทำให้ลืมความรู้สึกตึงเครียดจากการอบรมในช่วงเช้าไปได้ ยิ่งเมื่อถึงช่วงที่ผู้อาวุโสที่สุดในกลุ่มปล่อยมุกตลกออกมา ทำเอาหญิงสาวกลั้นขำไม่อยู่จนกับข้าวในปากพุ่งออกมาท่ามกลางอาการตกใจของเพื่อนร่วมโต๊ะ

{{พรื้ด คริๆๆๆๆ}}

“เฮ้ย ขำจนพุ่งเลยเหรอวะใบหม่อน ฮ่าๆ” ผู้อาวุโสฝ่ายชายอย่างหมูหยองเอ่ยถามน้องเล็กสุดในกลุ่มขึ้นมา

“คริๆ ก็มันฮานี่นาพี่หมูหยอง” เสียงใสตอบกลับไปทั้งที่ยังเอาทิชชู่เช็ดรอบกลีบปากอิ่มสวยอยู่ “ขอโทษน้าทำเละไปหมดเลย”

เพื่อนร่วมโต๊ะไม่คิดจะว่าอะไรน้องเล็กคนนี้อยู่แล้ว ได้เพียงแต่ยิ้มและหัวเราะให้กัน บางคนส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นความโก๊ะของหญิงสาว ขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดในโต๊ะออกปากสั่งสอนน้องเล็กราวกับว่าเป็นลูกของตัวเอง

“นี่อินังใบหม่อน กินให้หมดก่อนค่อยขำก็ได้นะ” สุดท้ายแล้วก็ดุน้องคนนี้ไม่ลงเมื่อเจ้าตัวยังพูดไปขำไป

“ขอโทษน้าพี่บี้” หญิงสาวทำสีหน้ารู้สึกผิดขึ้นมาทันที แต่คนรอบข้างกลับส่งเสียงหัวเราะออกมา และแล้วคนที่พูดน้อยที่สุดในกลุ่มอย่างเมย์อยากมีบทพูดขึ้นมาบ้าง

“แกนี่โก๊ะจริงเลยน้าใบหม่อน”

“ไม่ต้องมาว่าเราโก๊ะเลยเมย์” ดวงตากลมโตคู่สวยส่งค้อนวงใหญ่ให้สาวหล่อไปหนึ่งที กลีบปากอวบอิ่มทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่อย่างขัดใจ

“จ้าแม่คนเรียบร้อย ฮิๆๆ” คราวนี้เป็นกิ๊กแกล้งพูดจีบปากจีบคอ ปรายตามองรุ่นน้องคนนี้ด้วยสายตาแฝงความหมั่นไส้ในใจเล็กๆ

ใบหม่อนได้แต่ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างขัดใจเมื่อถูกเพื่อนข้าราชการรุมล้อกลางโต๊ะอาหาร ปรายตามองดุใส่เพื่อนสนิททั้งสองหนึ่งทีก่อนหันกลับไปสนใจกับอาหารตรงหน้าต่อ แต่ก็ต้องกลับมาระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้งเมื่อเพื่อนข้าราชการรุ่นพี่ทั้งสองพร้อมใจกันปล่อยมุกออกมาโดยมิได้นัดหมายแต่กลับเรียกเสียงฮาจากทุกคนได้

เวลาอาหารกลางวันผ่านไปหลังจากนั้นไม่นานนัก หญิงสาวถือโอกาสแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อนไปเข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อยก่อนจะเข้าสู่ช่วงเวลาอบรมต่อในภาคบ่าย แวบหนึ่งในใจอดนึกห่วงพี่ชายไม่ได้  มือเรียวสวยล้วงสมาร์ทโฟนคู่กายขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดแอพพลิเคชั่นสีเขียวกดโทร.หาคนที่กำลังเป็นห่วงทันที รอฟังเสียงสัญญาณรอสายสักพักหนึ่ง

@@POPENGL@@ : [[<<โทร.มามีอะไรเหรอใบหม่อน>>]] :

@@Baimon@@ : [[<<พี่ป๊อปกินข้าวยัง>>]]

@@POPENGL@@ : [[<<กินแล้วๆ เนี่ยเพิ่งกินเสร็จ แล้วเราล่ะ กินยัง>>]]

@@Baimon@@ : [[<<กินแล้วจ้าพี่ป๊อป เนี่ยอิ่มตื้อเลย กับข้าวอร่อยมาก กลับไปถ้าพี่ป๊อปเห็นหนูอ้วนไม่ต้องตกใจนะ คริๆ>>]]

@@POPENGL@@ : [[<<ฮ่าๆ อ้วนไม่อ้วนหน้าเราก็กลมอยู่ดีแหละ>>]]

@@Baimon@@ : [[<<ย่ะ!!! อีพี่ชายบ้า คนอุตส่าห์เป็นห่วง ยังจะมาว่าหนูหน้ากลมอีก>>]]

@@POPENGL@@ : [[<<ล้อเล่นน่า ไม่เอาๆ ไม่โกรธพี่นะคะ ฮิๆ>>]] ปลายสายส่งเสียงหัวเราะกลับมาอย่างสะใจเล็กๆ คุยกันไม่กี่คำก็ทะเลาะกันจนเป็นเรื่องปกติของทั้งคู่ไปแล้ว

@@Baimon@@ : [[<<ทุกทีเลยนะพี่ป๊อป ชอบกวนโมโหหนูตลอดเลย นี่เรื่องรถหนูพี่ป๊อปทำเรียบร้อยแล้วนะ ไม่หลงไม่ลืมอะไรแล้วนะ>>]]

@@POPENGL@@ : [[<<เรียบร้อยแล้วครับแม่ เลขทะเบียนรวมกันได้ 9 ตามที่แม่สั่งทุกอย่างเลยครับ 2+4+3+9 รวมกันได้ 9 ไหม เลขหน้า 1 ด้วยนะ หมวด ข  แล้วน่ะใบหม่อน>>]]

@@Baimon@@ : [[<<ก็นั่นหนูจองไว้ก่อนแล้วป่ะ แค่วันนัดตรงกับวันที่หนูติดอบรมเนี่ยเลยให้พี่ป๊อปไปทำให้ไง เอกสารประกัน พ.ร.บ. พี่ป๊อปเอามาครบนะ>>]]

@@POPENGL@@ : [[<<ครบแล้วครับแม่ กลับบ้านมาดูได้เลย นี่พี่เติมน้ำมันให้แล้วนะ เรื่องเงินไม่ต้องคืนพี่หรอก พี่ออกให้ โอเค.ไหม>>]]

กลีบปากอิ่มสวยคลี่ยิ้มขึ้นมาอย่างพึงพอใจเมื่อได้ยินคนปลายสายพูดแบบนี้ ถึงแม้จะแอบขัดหูที่เขาแกล้งแซะว่าเป็นแม่ก็ตาม ‘สบายกระเป๋าแล้วเรา พี่ป๊อปจ่ายให้ คริๆ’ หญิงสาวนึกในใจ

@@Baimon@@ : [[<<ดีมาก นี่พี่ป๊อปเอารถหนูไปซิ่งเปล่าเนี่ยถึงเติมน้ำมันให้>>]]

@@POPENGL@@ : [[<<ใช่ เห็นทางโล่งพี่ซัดเลย พี่เปลี่ยนเกียร์รถเราเล่นสนุกเลยล่ะ ฮ่าๆ ไม่ พี่เห็นว่าน้ำมันเหลือครึ่งถังพี่เลยแวะเติมให้ตอนกลับไง>>]]

@@Baimon@@ : [[<<ถ้าหนูกลับไปแล้วเห็นรถหนูมีอาการอะไรแปลกๆ นะ หนูเก็บเงินค่าซ่อมกับพี่ป๊อปคนเดียวเลย ชิ>>]]

@@POPENGL@@ : [[<<พี่ล้อเล่นน่า ไม่ได้ซิ่งหรอก ไม่ใช่รถตัวเองใครจะกล้าล่ะ>>]]

@@Baimon@@ : [[<<งืมๆ ก็ได้ ขอบคุณมากน้าที่พี่ทำให้หนูอ่ะ อย่าลืมกินข้าวกินปลา ดูแลตัวเองบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ทำงาน>>]]

@@POPENGL@@ : [[<<ครับแม่ เนี่ยพี่กินข้าววันละสามเวลาเลย ถ้าปวดตาพี่ก็พัก แค่เมื่อคืนแก้งานดึกไปหน่อยน่ะ วันนี้แค่สี่ทุ่มพี่ก็นอนแล้ว>>]]

@@Baimon@@ : [[<<อย่ามาโม้ๆ เชื่อเหอะเดี๋ยวพี่ทำงานติดลมคงมีตีหนึ่งตีสองหรืออดนอนอยู่ดีแหละ แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวหนูต้องเข้าอบรมตอนบ่ายแล้ว คิดถึงนะคะพี่ชาย>>]]

นิ้วเรียวเล็กกดตัดสายทันที ไม่ทันที่จะฟังปลายสายพูดต่อ กลีบปากอวบอิ่มสวยได้รูปคลี่ยิ้มกว้างอีกครั้งเมื่อนึกถึงบทสนทนาที่เพิ่งจบไป ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นการตีกันเสียมากกว่าคุยดีๆ แต่ก็ทำให้เจ้าตัวรู้สึกอุ่นใจอยู่ไม่น้อยเมื่อรู้ว่าพี่ชายตัวเองเป็นยังไงในวันที่ต้องห่างกันเช่นวันนี้ หญิงสาวเดินไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดีมาเรื่อยๆ จนกลับมาถึงสถานที่อบรม บังเอิญผู้อาวุโสลำดับที่สองฝ่ายหญิงอย่างโบ๊ท ซึ่งปกติแล้วไม่ค่อยพูดอะไรนอกจากเป็นผู้ฟังเสียมากกว่าหันมาเห็นพอดี แต่เลือกที่จะไม่ถามตรงๆ หันไปสะกิดคนตัวใหญ่ที่อยู่ข้างๆ แทน ไม่ยอมละสายตาจากน้องเล็กคนนี้แม้แต่แวบเดียว

“หมูหยองๆ ดูสิใบหม่อนเดินยิ้มอารมณ์ดีมาเลยเชียว”

หมูหยองหันไปชำเลืองมองตามที่เพื่อนสาวสะกิดบอก ปากหยักคลี่ยิ้มกรุ้มกริ่มขึ้นมา และด้วยความไวของปากตัวเอง ไม่รอช้าที่จะออกปากทักทันที

“แหมใบหม่อน ยิ้มๆ หายไปไหนมาเนี่ย พวกพี่รอใบหม่อนคนเดียวเลยนะ”

ใบหม่อนแทบจะหุบยิ้มไม่ทันเมื่อถูกเพิ่อนรุ่นพี่ทักขึ้นมา ฟังดูแล้วดเหมือนแซวเสียมากกว่า “หนูไปเข้าห้องน้ำมาค่าพี่หมูหยอง”

“แน่ใจ๋” หมูหยองทำเอียงคอ ปรายตามองหญิงสาวด้วยสายตาแสดงอาการครุ่นคิดแฝงความขี้เล่นไว้ลึกๆ “ไม่ใช่แอบโทร.คุยกับใครน้า... แฟนเหรอ? ยิ้มแบบนี้แสดงว่าคุยกับแฟนแน่เลย ฮิๆ”

“อย่ามั่วๆ พี่หมูหยอง ไม่มีอะไรเลยจริงๆ น้า” ใบหม่อนตอบแบบส่งๆ ก่อนเดินหลีกไปหารุ่นพี่คนสนิทอย่างบี้ แต่กลับกลายเป็นว่า…

“แหมอินังใบหม่อน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลย หายไปไหนมายะ” เสียงแหลมแผดของรุ่นพี่คนสนิทเอ่ยถามขึ้นมาทันทีที่เห็นหน้า

“ก็ไปเข้าห้องน้ำมาไงค้าพี่บี้” ใบหม่อนทำท่าเอียงคอคลี่ยิ้มหวาน ใช้มือตะกุยท่อนแขนเรียวเล็กของรุ่นพี่คนสนิทราวกับแมวอ้อนทาส “แค่คุยโทรศัพท์กับคนที่บ้านเอ๊ง ไม่มีอะไรหรอกจ้าพี่บี้”

“อีป๊อปใช่ไหม” บี้ย้อนถามกลับมาอย่างรู้ทัน ดวงตาคู่สวยฉายแววเจ้าเล่ห์ “แอบโทร.คุยกับอีป๊อปแหงๆ เลย แหม ติดพี่ชายงอมแงมนะเราเนี่ย”

“ไม่มีอะไรหรอกพี่บี้ ก็อดเป็นห่วงพี่ป๊อปไม่ได้นี่นา เขาเป็นพี่ชายของหนูน้า” ว่าเสียงกระเง้ากระงอดใส่ ดวงตากลมโตคู่สวยหรี่ลงเล็กน้อย

บี้เห็นกิริยาท่าทางของน้องเล็กที่แสดงออกมาแบบนี้แล้วก็รู้สึกเอ็นดูขึ้นมาทันที จากตอนแรกว่าจะปั่นหัวหญิงสาวเล่นอีกสักหน่อย แต่ว่าตอนนี้เจ้าตัวได้แต่ส่ายศีรษะสวยได้รูปไปมาพร้อมกับยิ้มอ่อนๆ ให้ มือเรียวสวยได้รูปเอื้อมไปลูบเรือนผมยาวสลวยถูกดัดเป็นลอนสีน้ำตาลที่ถูกรวบตึงอย่างเบามือเป็นเชิงปลอบใจแทน

“เอาน่าอินังใบหม่อน อีกห้าวันเอง เดี๋ยวก็ได้กลับไปเจออีป๊อปแล้ว”

คำพูดแรงๆ ไม่เข้ากับน้ำเสียงอันอ่อนโยนของผู้อาวุโสถูกส่งไปยังน้องเล็กราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นลูกตัวเอง “ไปกันเถอะเดี๋ยวเข้าห้องอบรมไม่ทัน”

พูดจบสองสาวต่างวัยพากันเดินไปรวมกับกลุ่มเพื่อนข้าราชการที่เหลือกลับเข้าห้องอบรมเพื่อเตรียมตัวรับการอบรมในภาคบ่ายต่อไป...    

                                                                ......................................................................................

ตลอดหกวันในช่วงที่ใบหม่อนไปอบรม ป๊อปใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการทำงานโปรเจกต์ใหญ่ที่เริ่มงวดเข้ามาใกล้ทุกวันเมื่อจู่ๆ ลูกค้าเลื่อนกำหนดส่งงานให้เร็วขึ้นมาอีกจากเดิมส่งกลางปีกลายเป็นหลังสงกรานต์แทนสลับกับดูแลทำความสะอาดห้องที่ถึงแม้ตัวเองจะทำได้ห่วยมากแค่ไหนก็ต้องทำ ช่วงนี้ชายหนุ่มกลับมาโทร.สั่งข้าวกล่องจากร้านอาหารใกล้คอนโดฯ เหมือนกับช่วงก่อนที่ใบหม่อนจะเข้ามาอยู่ด้วยเพื่อเป็นการสะดวกและทิ้งได้เลยทันทีไม่ต้องเสียเวลาล้างจานกับหุงข้าวอีกเท่านั้น ในใจของเขาตอนนี้ได้แต่เพียงรอน้องสาวสุดที่รักกลับมาอย่างใจเย็นเท่านั้น

เวลาผ่านไปจนคืนวันเสาร์

สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีดำส่งเสียงเพลงร็อกจากวงดนตรีบริทป๊อปจากเมืองแมนเชสเตอร์ซึ่งถูกตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าดังลั่นห้องพร้อมกับสั่นแรงๆ จนหัวเตียงไม้ส่งเสียงครางตามแรงสั่น ทำเอาคนตัวใหญ่ที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จใหม่ๆ ต้องวิ่งออกจากห้องน้ำมารับสายอย่างรวดเร็ว ไม่รอช้าเอื้อมมือคว้าวัตถุที่กำลังส่งเสียงร้องขึ้นมาดูหน้าจอว่าใครโทร.เข้ามา เมื่อเห็นภาพใบหน้ากลมกึ่งรูปไข่ทำท่าเอียงคอส่งสายตาอ่อนโยนที่คุ้นเคยพร้อมกับชื่อของเจ้าของเบอร์ที่โชว์หราตรงหน้า รีบสไลด์รับสายทันทีแบบไม่ลังเล

ป๊อป : [[<<ฮัลโหลครับใบหม่อนหน้ากลม โทร.มามีอะไรเหรอ หรือคิดถึงพี่วะ ฮ่าๆ>>]] พูดกลั้วหัวเราะตามสไตล์

ใบหม่อน : [[<<พี่ป๊อป!!! ว่าหนูหน้ากลมอีกแล้วนะ>>]]

ปลายสาวแหวแว้ดเสียงดังลั่นจนป๊อปต้องถอยสมาร์ทโฟนในมือออกห่างจากหูเพื่อสุขภาพหูของตัวเอง แอบหัวเราะในใจที่ได้แกล้งน้องสาวอีกครั้ง

ใบหม่อน : [[<<ก็หนูมีธุระน่ะสิถึงโทร.มา ไม่ได้คิดถึงซะหน่อยอีพี่ชายบ้า>>]]

ป๊อป : [[<<พี่ล้อเล่นน่าใบหม่อน พรุ่งนี้ก็กลับแล้วไม่ใช่เหรอ>>]]

ใบหม่อน : [[<<ใช่แล้วล่ะพี่ป๊อป>>]] ปลายสายทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่ [[<<คงมาถึงบ่ายแก่ๆ หรือเย็นเลยอ่ะพี่ป๊อป พรุ่งนี้เช้ามีสรุปอีก พี่ป๊อปอย่าลืมมารับหนูด้วยล่ะ>>]]

ป๊อป : [[<<มันแหงอยู่แล้วล่ะ พี่จะปล่อยให้น้องสาวพี่เดินลากกระเป๋าขึ้นแท็กซี่กลับคอนโดฯ ได้ยังไงล่ะ นี่วันนี้พี่รีบเคลียร์งานให้จบในวันนี้เลยเนี่ยพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องทำไง จะได้ไปรับเราได้>>]]

ใบหม่อน : [[<<หนูกลัวพี่ป๊อปจะทำงานเพลินจนลืมมารับหนูน่ะสิถึงโทร.มาบอกอ่ะ>>]]

ป๊อป :[[<<ไม่ลืมหรอกค่ะ เนี่ยพี่กำลังจะนอนแล้วเนี่ย พี่ไม่ทำงานแล้ว ทำอีกทีวันจันทร์เลย>>]]

ใบหม่อน : [[<<งืมๆ แล้วเป็นไงบ้างอ่ะพี่ป๊อป ห้องเหิ้งเก็บกวาดบ้างไหม แล้วพี่ป๊อปกินข้าวยังไงอ่ะ หุงข้าวไว้ยัง อย่าปล่อยให้ข้าวบูดนะ>>]]

ป๊อป : [[<<ฮิๆ ทำสิคะใบหม่อน เรื่องข้าวพี่กินหมดหม้อวันนั้นพี่ล้างหม้อแล้ว ไม่ได้หุงอีก พี่โทร.สั่งร้านเดิมที่พี่เคยกินน่ะ กินเสร็จทิ้งเลยไม่ต้องเสียเวลามาก>>]]

ใบหม่อน : [[<<นี่พอหนูไม่อยู่ทำกับข้าวให้ ไม่อยู่หุงข้าวให้นี่ไม่คิดจะทำเลยใช่ป่ะ ถึงโทร.สั่งเนี่ย กับข้าวก็ทำเป็นไม่ใช่เหรอ ขี้เกียจนะเราอ่ะ>>]]

ป๊อป : [[<<ใช่แล้ว พี่ขี้เกียจ ฮิๆ>>]] เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ [[<<ก็พี่ต้องทำงานของพี่ด้วยไง เลยสั่งมาเลยดีกว่าไม่เสียเวลาด้วย อีกอย่างทำเองก็ไม่อร่อยด้วยน่ะ เจียวแต่ไข่ทุกวันเบื่อตาย>>]]

ใบหม่อน : [[<<คิดถึงกับข้าวฝีมือหนูล่ะซี่... คริๆ ไว้ค่อยกินวันจันทร์น้า เดี๋ยวหนูจะทำให้สุดฝีมือเลย พรุ่งนี้หนูคงเหนื่อยแย่เลยอ่ะ>>]]

ป๊อป : [[<<อืมๆ กลับมาแล้วพักเถอะ เดี๋ยวพี่โทร.สั่งร้านเอา เนี่ยคนทำกับข้าวไม่อยู่ทั้งสองคนพี่เลยกินข้าวกล่องมาห้าวันแล้วเนี่ย>>]]

ใบหม่อน : [[<<หูยน่าสงสารจังเลยพี่ชายของหนู แบร่ สมน้ำหน้า คริๆๆ>>]]

ป๊อป : [[<<เออน่า ตอนพี่อยู่คนเดียวพี่ก็สั่งข้าวกล่องมากินแบบนี้แหละถ้าพัชรไม่มาค้างด้วยน่ะ>>]]

ใบหม่อน : [[<<จ้า... เอาตัวรอดเก่งเนอะ อย่าลืมมารับหนูล่ะพี่ป๊อป แค่นี้ก่อนน้า หนูยังอบรมไม่จบ วันนี้เลิกดึกตั้งสี่ทุ่มแน่ะ>>]]

ป๊อป : [[<<อืม ไปเถอะ พรุ่งนี้เจอกัน>>]]

ปลายสายถูกตัดไปในเวลาหลังจากนั้นไม่นาน ปล่อยให้คนตัวใหญ่ยืนยิ้มมองหน้าจอมือถือในมืออยู่คนเดียวสักพัก ลมหายใจอุ่นพ่นออกมาด้วยความรู้สึกอิ่มเอมในใจอยู่ไม่น้อยหลังได้พูดคุยกับคนที่คิดถึงอยู่ ร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มที่ใหญ่จนแทบจะคับพื้นที่ห้องนอนของเจ้าตัว ยังไม่หลับเสียทีเดียว นัยน์ตาสองชั้นหลบลอยคว้างมองเพดานห้องคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย พอไม่ต้องทำงานแล้วรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่างเพราะปกติเวลานี้เขามักขลุกอยู่กับหน้าคอมพ์ตลอด แต่เมื่องานในส่วนของตัวเองเสร็จหมดแล้วหลังจากเร่งทำจนไม่ได้นอนเมื่อคืนก่อน สุดท้ายภาพที่ปรากฎตรงหน้าถูกตัดไปเหลือเพียงแต่ความมืดมิดเมื่อได้เข้าสู่ห้วงนิทราโดยไม่รู้ตัว

เวลาผ่านไปจนถึงตอนสี่ทุ่ม ณ รีสอร์ตที่วังน้ำเขียว

หลังสิ้นสุดกิจกรรมอบรมภาคกลางคืนอันสนุกสุดเหวี่ยงสำหรับข้าราชการที่ได้รับการอบรมในรุ่นนี้แล้ว กลุ่มข้าราชการบรรจุใหม่ที่ใบหม่อนร่วมอยู่ด้วยต่างพากันเดินออกมาจากห้องสัมมนาไปเมาท์มอยไปอย่างเพลิดเพลิน โดยเฉพาะหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับตลอดหกวันที่ผ่านมา จนมาแยกย้ายกันตรงหน้าห้องพัก

“งั้นผมกลับห้องก่อนนะป้า มีนัดดื่มกับเมต” หมูหยองบอกลาผู้อาวุโสสูงสุดในกลุ่ม

“เออ อิหยอง แกอย่าเมามากล่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ไหวโดนทิ้งไว้ที่นี่คนเดียวนา” บี้อดที่จะออกปากเตือนไม่ได้ด้วยความเป็นห่วงรุ่นน้องคนสนิทคนนี้อยู่ไม่น้อย

“งั้นเราไปกับหมูหยองด้วยเลยนะ พรุ่งนี้เจอกัน บาย” ผู้อาวุโสที่พูดน้อยที่สุดอย่างโบ๊ทเอ่ยปากบอกลากับที่เหลือก่อนเดินแยกไปกับคนตัวใหญ่ด้วยกัน

“ไป อินังใบหม่อน กลับห้องกัน”

บี้คว้าข้อมือเรียวเล็กของน้องเล็กคนสนิทพาเดินกลับห้องพักที่อยู่ไม่ไกลนักแค่เดินไปไม่กี่ก้าว แล้วก็เป็นหน้าที่ของบี้ที่ไขกุญแจเปิดประตูห้องพร้อมกับเปิดไฟข้างในห้องเสร็จสรรพ ทางด้านใบหม่อนเดินตรงรี่ไปยังห้องน้ำทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย แต่ตอนนี้ในใจของหญิงสาวเริ่มมีอาการตื่นเต้นกับวันพรุ่งนี้ วันที่จะได้กลับกรุงเทพฯ กลับไปหาคนที่กำลังคิดถึงและเป็นห่วงตลอดเวลาห้าวันที่ผ่านมาอย่างพี่ชายตัวเองอีกครั้งหนึ่ง

ร่างสูงระหงเดินออกมาจากห้องน้ำตรงมายังกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ชนิดลากที่ตัวเองเอามา จัดแจงเปิดกระเป๋าเก็บของใช้ส่วนตัวให้เรียบร้อย เหลือเพียงแต่บางส่วนที่จะใช้ในวันพรุ่งนี้เท่านั้น ทางด้านผู้อาวุโสคนสนิทกำลังง่วนอยู่กับการเก็บกระเป๋าเดินทางของตัวเองอยู่อีกด้านหนึ่ง แต่แอบชำเลืองน้องเล็กคนนี้อยู่ตลอดจนอดไม่ได้ที่จะออกปากแซว

“นี่ อินังใบหม่อน ตื่นเต้นเหรอไงยะที่จะได้กลับบ้านน่ะ”

“อะไรพี่บี้ หนูไม่ได้ตื่นเต้นเลยนะ” ใบหม่อนแกล้งทำไขสือกับรุ่นพี่คนสนิท พยายามทำสีหน้าให้นิ่งเฉยเป็นปกติเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นัยน์ตาเฉี่ยวคมภายใต้รอยเหี่ยวย่นตามวัยชำเลืองมองดวงหน้าสวยหวานภายใต้โครงหน้ากลมกึ่งรูปไข่ภายใต้ผมยาวสลวยอย่างประเมิน มีเหรอที่จะไม่รู้ว่าน้องเล็กคนนี้กำลังตื่นเต้นสุดขีดที่จะได้กลับบ้านในวันพรุ่งนี้แล้ว

ร่างบางผละออกจากกระเป๋าเดินทางของตัวเองเดินไปยังที่ที่น้องเล็กคนสนิทนั่งจัดกระเป๋าอยู่ มือเรียวสวยคว้าข้อมือเพรียวบางที่กำลังหยิบของไว้แค่หลวมๆ แต่แน่นพอที่ทำให้อีกฝ่ายหยุดชะงักได้

“ฉันรู้น่าว่าแกน่ะตื่นเต้น อินังใบหม่อน”

ใบหม่อนย่นจมูกขึ้นพลางปรายตามองใบหน้าสวยหวานที่เต็มไปด้วยริ้วรอยตามวัยที่อยู่ตรงหน้าอย่างขัดใจ กลีบปากอิ่มออกปากต่อว่าให้แบบไม่จริงจังนัก

“พี่บี้ปล่อยมือหนูก่อนสิ หนูจะจัดของ...” ทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่พร้อมกับพยายามสะบัดมือออก

กลีบปากเรียวสวยของผู้อาวุโสคลี่ยิ้มกว้าง ยอมปล่อยมือออกจากข้อมือเล็กของคนอายุน้อยกว่าแต่โดยดี “ก็ได้ๆ ฉันไปเข้าห้องน้ำแล้วกัน ไม่กวนล่ะย่ะอินังใบหม่อน”

พูดจบร่างระหงผุดลุกขึ้นเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังตรงกับปลายเตียง ปล่อยให้ใบหม่อนใช้เวลาอยู่กับตัวเองในการเก็บกระเป๋าเดินทางให้พร้อมสำหรับวันเดินทางกลับที่กำลังจะมาถึงในวันพรุ่งนี้

ใบหม่อนชำเลืองมองภายในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตัวเองอย่างประเมิน ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าไม่ลืมอะไรแน่นอนแล้ว มือเรียวสวยทั้งสองข้างเอื้อมไปดึงฝากระเป๋าลงมาอยู่ในตำแหน่งปิดและรูดซิปให้เรียบร้อย นำกลับไปวางไว้ที่ข้างหัวนอนเหมือนเดิม ร่างสูงระหงหย่อนตัวลงนั่งบนเตียงเดี่ยวนุ่มๆ หยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินจากหัวเตียงขึ้นมากะว่าจะดูเวลาเฉยๆ แต่บังเอิญหน้าจอเกิดปลดล็อกพอดี นิ้วเรียวสวยจิ้มไปยังแอพพลิเคชั่นแชตสีเขียวที่คุ้นเคย ไล่เรียงกล่องแชตของแต่ละคนไปเรื่อยๆ จนไปถึงกล่องแชตของพี่ชายที่ตอนนี้ไม่ได้ขึ้นสถานะออนไลน์แล้ว

‘พี่ป๊อปหลับแล้วแน่เลย’ หญิงสาวคิดในใจ กลีบปากอิ่มสวยคลี่ยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัวเมื่อนึกถึงพี่ชายร่วมสายเลือดคนนี้

นิ้วเรียวเล็กเลื่อนกล่องแชตลงไปยังของชายคนรักที่ตอนนี้ขึ้นสถานะออนไลน์อยู่ ไม่รีรอที่จะจิ้มเข้าไปพิมพ์แชตสักเล็กน้อยก่อนนอน

@@Baimon@@ : ทำอิหยังอยู่เหรอคะตัวเอง ยังไม่นอนเหรอ :

หญิงสาวจดจ้องข้อความที่ตัวเองส่งไปอยู่สักพัก ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะตอบสนอง ลมหายใจอุ่นๆ พ่นออกมาจากจมูกโด่งเชิดรั้นได้รูปหนึ่งทีพลางเลื่อนนิ้วมือไปที่กล่องแชตของเพื่อนที่ทำงานเก่าก่อนบรรจุ แต่ไม่เห็นมีใครออนแม้แต่คนเดียว...

ร่างระหงของผู้อาวุโสเดินออกมาจากห้องน้ำหลังทำธุระส่วนตัวเสร็จ กลับมาจัดกระเป๋าของตัวเองต่อ เห็นน้องเล็กคนสนิทนอนทอดร่างเล่นมือถืออย่างสบายใจเฉิบแล้วอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้

“แหมอินังใบหม่อน นอนเล่นมือถือชิลเลยนะ หมั่นไส้” แว้ดใส่แรงๆ ตามปกตินิสัย

คนอายุน้อยกว่าไม่ยอมแพ้ หันมาแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกใส่คนที่เพิ่งแว้ดใส่อย่างไม่ยี่หระใดๆ “ช่วยไม่ได้ ก็พี่บี้เข้าห้องน้ำนานเอง คริๆ”

“ย่ะ ฉันไปจัดกระเป๋าต่อล่ะนะ หมั่นไส้คนตื่นเต้นเหลือเกิน แบร่” ได้ทีแลบลิ้นปลิ้นตาใส่น้องคนสนิทเป็นการเอาคืน ร่างระหงเดินปลีกไปยังกระเป๋าเดินทางใบย่อมของตัวเองที่วางไว้บนเตียง ลงมือเก็บของต่อ

ใบหม่อนเอนหลังเขี่ยหน้าจอสมาร์ทโฟนในมือไปเรื่อยๆ รอชายคนรักที่ไม่มีแม้แต่ทีท่าว่าจะตอบกลับมาถึงแม้จะส่งข้อความไปนานเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว เล่นไปได้สักพักเริ่มรู้สึกง่วง ดวงตากลมโตคู่สวยหรี่ลงช้าๆ นิ้วเรียวสวยเริ่มเขี่ยหน้าจอช้าลงจนแทบจะหยุดนิ่ง และแล้วภาพที่เห็นตรงหน้าถูกตัดลงไป แทนที่ด้วยความมืดสนิทพร้อมกับสติของเจ้าตัวถูกปิดลงในห้วงนิทรา

บี้จัดแจงเก็บกระเป๋าเดินทางเสร็จเรียบร้อย หันไปชำเลืองมองน้องเล็กคนสนิทที่ตอนนี้ผล็อยหลับไปแล้ว เห็นมือเรียวสวยยังกำสมาร์ทโฟนเครื่องหรูไว้แน่น

“แหม อินังใบหม่อน หลับคามือถือเลยนะ” หญิงสาวส่ายศีรษะไปมาพลางบ่นให้เบาๆ

ร่างระหงลุกจากเตียงนอนของตัวเองข้ามไปยังเตียงนอนของน้องเล็กคนสนิท ค่อยๆ สอดมือเข้าไปหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูรุ่นแพงกว่าของตัวเองออกไปวางไว้ที่หัวนอนให้ หันไปหยิบตุ๊กตามัสคอตแบรนด์รถยนต์ที่คนนอนหลับใช้อยู่มาสอดไว้ใต้อ้อมแขนเรียวสวยอย่างเบามือที่สุดเพราะไม่อยากให้คนนอนหลับอยู่สะดุ้งตื่นกลางคัน นัยน์ตาคู่สวยชำเลืองมองใบหน้าสวยหวานหยาดเยิ้มที่กำลังพ่นลมหายใจสม่ำเสมอไม่หยุด ลอบยิ้มให้หนึ่งทีด้วยความรู้สึกเอ็นดู ชวนให้นึกถึงลูกสาวของตัวเองที่มีอายุแทบจะรุ่นราวคราวเดียวกับน้องสาวคนสนิทคนนี้...

“หลับฝันดีนะอินังใบหม่อน พรุ่งนี้ก็ได้กลับบ้านแล้ว”

                                                                ............................................................................

วันต่อมา

ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนขากระบอกเล็กเข้ารูปเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเองหลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก้มลงชำเลืองดูนาฬิกาข้อมือเห็นว่าใกล้จะบ่ายสามโมง อันเป็นเวลาที่เขาจะออกไปรับน้องสาวแล้ว แต่ตอนนี้กำลังตัดสินใจว่าจะใช้รถคันไหนไปรับระหว่างรถแวนเจ็ดที่นั่งของตัวเองกับรถเก๋งเล็กของคนที่จะไปรับ นัยน์ตาสองชั้นหลบมองตรงไปยังกุญแจรีโมตรถของตัวเองที่วางอยู่ตรงหน้าสลับกับหันกลับไปมองประตูห้องนอนของน้องสาวอย่างครุ่นคิด จำได้ว่าวันที่เอารถของน้องสาวไปเปลี่ยนป้ายขาวให้ เขาเอารีโมตเข้าไปเก็บไว้ในห้องให้ด้วยตัวเอง

มือหนาเอื้อมไปหยิบรีโมตกุญแจรถตัวเองทันทีหลังจากตัดสินใจได้ รู้สึกไม่กล้าเอารถเก๋งคันเล็กไปเพราะหลายครั้งที่เขาต้องขับคันนี้แล้วรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้ง ทั้งทัศนวิสัยและการควบคุมที่แตกต่างจากรถของตัวเองลิบลับ กลัวว่าจะพลาดขับไปชนเข้าด้วย ใบหน้ารกครึ้มไปด้วยหนวดเคราก้มลงสำรวจบนโต๊ะทำงานของตัวเองให้แน่ใจว่าไม่ลืมอะไรแน่แล้วทั้งกระเป๋าตังค์ คีย์การ์ด โทรศัพท์มือถือของตัวเองที่ตอนนี้เอาติดตัวมาหมดแล้ว...

เสียงเครื่องยนต์ดีเซลใต้ฝากระโปรงคำรามขึ้นหลังจากชายหนุ่มบิดกุญแจสตาร์ต ทำหน้าที่ลากตัวถังหนักราวตันครึ่งเคลื่อนตัวออกจากชั้นจอดรถใต้คอนโดฯ ออกสู่ถนนใหญ่ที่วันนี้การจราจรค่อนข้างโล่งเนื่องด้วยตรงกับวันอาทิตย์ ประจวบเหมาะกับข้อความจากคนที่กำลังจะไปรับที่ถูกส่งผ่านแอพพลิเคชั่นสีเขียวกำชับเขาไว้ชัดเจนว่าไม่ต้องรีบมาก ทำให้ไม่ต้องขับเร็วมากนักถึงแม้ว่าจะทำให้เจ้าตัวรู้สึกหงุดหงิดบ้างเพราะปกติขับรถเร็วอยู่แล้วก็ตาม

แต่ด้วยการจราจรที่ค่อนข้างโล่งทำให้รถแวนเจ็ดที่นั่งสีดำที่ขับโดยป๊อปแล่นมาถึงที่ทำงานของน้องสาวในเวลาไม่ถึงชั่วโมง แต่ต้องมาเสียเวลาในการหาที่จอดรถริมถนนแทนเพราะถึงแม้จะเป็นวันอาทิตย์แต่ก็ยังมียวดยานจอดเรียงรายสองข้างทางจนเต็ม และที่ทำงานของน้องสาวไม่อนุญาตให้รถของบุคคลภายนอกเข้าไปจอดด้วยเนื่องจากปิดทำการ

ป๊อปเดินลงจากพาหนะคู่ใจหลังจากดับเครื่องยนต์เสร็จ พลางชูแขนขึ้นเหยียดยืนเส้นยืดสายสักเล็กน้อย ชำเลืองมองเข้าไปในรั้วที่ทำงานของน้องสาวที่อยู่ไม่ไกลจากที่เขาจอดรถไว้มากนัก ยังมีเพียงแต่ความเงียบเชียบ ไร้แววรถตู้รับส่งข้าราชการที่ไปอบรมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

‘นี่เรามาเร็วไปไหมเนี่ย นี่ก็จะสี่โมงเย็นแล้วนะ’ เขาพึมพำในใจพลางชำเลืองดูนาฬิกาบนหน้าจอสมาร์ทโฟนในมือ นิ้วหนาๆ จิ้มเข้าไปในแอพพลิเคชั่นสีเขียว เห็นกล่องแชตของน้องสาวขึ้นสถานะออนไลน์อยู่ ไม่รอช้าจิ้มเข้าไปพิมพ์ถามทันที รู้สึกร้อนรนอย่างบอกไม่ถูกเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายกลับมาถึงแล้วจะไม่เจอเขา

@@POPENGL@@ : ใบหม่อน ตอนนี้อยู่ไหนแล้ว :

ไม่มีแม้กระทั่งขึ้นสถานะว่าอ่านแล้ว ยิ่งทำให้หัวใจของเขายิ่งทวีความร้อนรนขึ้นไปอีก แต่ด้วยวัยที่เป็นเครื่องช่วยให้เขายับยั้งไว้ได้บ้าง แต่แล้วเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าจากสมาร์ทโฟนดังขึ้น

@@Baimon@@ : พี่ป๊อป ไม่เกินสิบหน้านาทีหนูถึงที่ทำงานแล้ว พี่ป๊อปมาถึงแล้วใช่ป่ะ รอแป๊ปน้า :

ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อยเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมา ชำเลืองมองดูนาฬิกาบนหน้าจออีกรอบ มือหนาล้วงกระเป๋ากางเกงยีนหยิบรีโมตกุญแจขึ้นมาปลดล็อกพาหนะคู่ใจก่อนที่จะพาตัวเองเข้าไปนั่งรอที่เบาะคนขับพลางเปิดกระจกทั้งสองข้างรับลมที่กำลังพัดผ่านเข้ามา

ขบวนรถตู้รับส่งข้าราชการที่ไปอบรมแล่นมาถึงในเวลาหลังจากนั้นเกือบยี่สิบนาที ขณะที่ป๊อปยังก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือในมือโดยไม้ทันสังเกตว่าตอนนี้น้องสาวของเขากลับมาถึงแล้ว จนเสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นสีเขียวดังขึ้นพร้อมกับกล่องแชตของอีกฝ่ายเด้งขึ้นมา

@@Baimon@@ : พี่ป๊อปอยู่ไหนอ่ะ หนูมาถึงแล้ว :

ป๊อปแทบสะดุ้งรีบพาตัวเองลงจากรถ ไม่ลืมที่จะปิดกระจกก่อนกดรีโมตล็อกรถเดินจ้ำอ้าวเข้าไปข้างในบริเวณที่ทำงานของน้องสาวอย่างเร่งรีบ สอดส่ายสายตามองหาน้องสาวท่ามกลางบรรดาข้าราชการบรรจุใหม่ที่เดินจอแจเต็มไปหมด ขาทั้งสองข้างยังไม่หยุดเดินหาจนเกือบชนกับข้าราชการคนอื่นจนมาถึงบริเวณโถงหน้าอาคารแปดชั้นที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ชำเลืองไปเห็นกลุ่มของน้องสาวอยู่ไม่ไกลจากที่เขายืนอยู่มากนัก รีบเดินตรงรี่เข้าไปหาอย่างรวดเร็ว เห็นร่างสูงระหงที่ห่อหุ้มด้วยเสื้อแข่งสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์กับกางเกงยีนขากระบอกเล็กเข้ารูปเอวสูงกับรองเท้าผ้าใบราคาแพงที่ซื้อให้เมื่อวันเกิดที่ผ่านมา ผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นมัดจุกกำลังหันหลังให้อยู่พอดี

บังเอิญผู้อาวุโสสูงสุดในกลุ่มอย่างบี้หันมาเห็นหน้าของชายหนุ่มพอดีพลางส่งยิ้มให้ ป๊อปไม่รอช้ายกมือไหว้คนมีอายุมากกว่าทันที

“สวัสดีครับพี่บี้”

บี้พยักหน้าเป็นเชิงรับไหว้ก่อนหันไปสะกิดร่างระหงในเสื้อแข่งสีแดงที่กำลังก้มหน้าก้มตาเล่นมือถืออยู่ใกล้ๆ

“อินังใบหม่อน พี่ชายของแกมารับแล้ว”

เจ้าของร่างสูงระหงเงยหน้าขึ้นหันไปสบตากับรุ่นพี่คนสนิทด้วยสายตางุนงงก่อนหันหลังกลับมาหา เห็นพี่ชายตัวเองส่งยิ้มตอบกลับมาและกำลังเดินมาหาเจ้าตัวในตอนนี้

“<<พี่ป๊อปสวัสดีค่ะ>>” เสียงใสเอ่ยเรียกชื่อคนตัวใหญ่ด้วยอาการดีใจอยู่ไม่น้อย ตอนนี้ใบหน้าสวยหวานของเจ้าตัวเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่กำลังจะบอกให้คนตรงหน้ารู้ว่าดีใจขนาดไหนที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง

“แหม พอพี่ชายมาก็เหน่อเลยนะอินังใบหม่อน” บี้ออกปากแซวขึ้นมาทันทีที่หญิงสาวพูดจบ อดหมั่นไส้พี่น้องคู่นี้ไม่ได้

ป๊อปแค่ยิ้มรับเท่านั้นก่อนหันไปยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่าตัวเองอีกสองคนอย่างหมูหยองกับโบ๊ท “พี่หมูหยอง พี่โบ๊ท สวัสดีครับ” ไม่ลืมที่จะหันไปทักทายเพื่อนข้าราชการที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับน้องสาวตัวเองอย่างเมย์กับกิ๊กที่ยืนอยู่ไม่ไกลกันนัก แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาเป็นเพียงแค่สายตาอันเฉยชาว่างเปล่าราวกับว่าเขาไม่มีตัวตนในสายตาของทั้งสองเท่านั้น

“สวัสดีไอ้น้อง” เป็นหมูหยองที่ตอบกลับมาด้วยท่าทางอารมณ์ดี

“<<ใบหม่อนจะกลับเลยไหม>>” หันไปถามน้องสาวที่กำลังเมาท์มอยกับเพื่อนๆ อยู่ใกล้กัน

หญิงสาวหันมาสบตากับคนเป็นพี่ชายหลังจากได้ยินคำถาม “<<แป๊ปนึงพี่ป๊อป หนูลาพี่ๆ เพื่อนๆ ก่อนน้า>>”

ป๊อปไม่พูดอะไรนอกจากคลี่ยิ้มบางๆ เอื้อมมือไปจับผมมัดจุกเหนือศีรษะสวยโยกไปมาเป็นเชิงหยอกล้อให้บรรดาเพื่อนข้าราชการที่อยู่ด้วยกันเห็นจนทั่วหน้า

“<<พี่ป๊อป มาถึงก็เล่นผมหนูเลยน้า>>” ใบหม่อนว่าให้พี่ชายไม่จริงจังนัก แต่ตอนนี้ทั้งบี้ หมูหยอง กิ๊ก เมย์และโบ๊ทต่างพร้อมใจกันส่งเสียงหัวเราะอย่างตลกขบขันเมื่อเห็นน้องเล็กถูกคนตัวใหญ่แกล้งแหย่ให้

“ฮ่าๆ อีป๊อปเข้าใจเล่นกับน้องนะ” บี้อดไม่ได้ที่จะออกปากแซว แต่ตอนนี้ใบหม่อนเริ่มทำหน้าหงิกอย่างขัดใจ

ป๊อปยอมปล่อยมือจากผมมัดจุกเหนือศีรษะของน้องสาวแต่โดยดีก่อนที่อีกฝ่ายจะโมโหไปมากกว่านี้ ลอบยิ้มและหัวเราะเบาๆ แต่ก็ต้องหยุดเมื่อเจอสายตาอำมหิตของหญิงสาวชำเลืองมองมาเต็มๆ

“พี่บี้ พี่หมูหยอง พี่โบ๊ท หนูกลับก่อนนะคะ” หลังส่งค้อนใส่พี่ชายตัวดีเสร็จหันกลับมายกมือไหว้ลาผู้อาวุโสทั้งสาม และก็เป็นหมูหยองที่ออกปากแซวเสื้อที่สาวเจ้าสวมใส่อยู่

“แหมเชียร์ทีมเดียวกับพี่ก็ไม่บอก ใส่เสื้อแมนฯ ยูฯ เชียวนะ เบอร์ 7 ซะด้วย”

“บ้าบออ่ะพี่หมูหยอง หนูไม่ได้เชียร์ซะหน่อย พี่ป๊อปซื้อให้ต่างหาก” ใบหม่อนปฏิเสธเสียงกระเง้ากระงอดก่อนหันไปบอกลารุ่นพี่และเพื่อนสนิทต่อ “หนูไปแล้วน้าพี่กิ๊ก ไปก่อนน้าเมย์ เจอกันจ้า”

“<<พี่ป๊อป ลากกระเป๋าให้หนูเลย>>” ได้ทีออกคำสั่งคนเป็นพี่ชายทันทีเพราะรู้ว่ายังไงอีกฝ่ายยอมทำตามอยู่แล้ว ไม่ลืมที่จะยื่นถุงของฝากที่ตัวเองซื้อมาส่งให้ด้วย

มือหนาใหญ่คว้าหูกระเป๋าเดินทางใบเขื่องเดินลากตามคำสั่งของน้องสาวทันทีแบบไม่มีอิดออด เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนข้าราชการใหม่กลุ่มเดียวกับหญิงสาวได้อีกครั้งหนึ่งจนมาถึงรถแวนเจ็ดที่นั่งสีดำที่จอดถัดไปจากประตูทางออกไปสองช่วงคันรถ มือหนาอีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบรีโมตขึ้นมากดปลดล็อกรถ ทางด้านใบหม่อนไม่ใจร้ายกับพี่ชายจนเกินไปด้วยการเอื้อมมือไปเปิดประตูหลังให้ชายหนุ่มยกกระเป๋าเดินทางใบเขื่องกับถุงของฝากขึ้นวางได้สะดวกก่อนปิดประตูให้...

ทั้งสองพากันขึ้นประจำที่ของตัวเองทันทีหลังจากเก็บของเสร็จ ป๊อปก้มลงบิดกุญแจสตาร์ตเครื่องก่อนหันไปเปิดแอร์ในรถให้เย็นฉ่ำทั่วทั้งคัน มือหนาทั้งสองข้างบังคับพวงมาลัยที่ค่อนข้างตึงมือพายานพาหนะคู่ใจออกสู่ถนนใหญ่ตรงหน้า ทางด้านใบหม่อนดึงคันโยกข้างเบาะเอนหลังลงให้อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ขาเรียวสวยภายใต้กางเกงยีนขากระบอกเล็กยกขึ้นอยู่ในท่าขัดสมาธิหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูขึ้นมาเล่นทันที

“<<ใบหม่อนจะกลับเลยหรือจะแวะกินข้าวก่อนไหมล่ะ>>” เป็นป๊อปที่เอ่ยปากถามขึ้นมาก่อน

“<<กลับดีกว่าพี่ป๊อป หนูอยากอาบน้ำนอนมากเลย เหนื่อยสุดๆ เลยอ่ะ>>” เสียงใสเอ่ยตอบยานคาง บอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังเพลียจากการเดินทางอยู่

“<<อืมๆ งั้นกลับไปพี่จะได้สั่งข้าว วันนี้เราพักเถอะไม่ต้องทำกับข้าวหรอก ว่าแต่ไปอบรมเป็นไงบ้างล่ะ>>” อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามต่อ

“<<หูย สนุกเลยล่ะพี่ป๊อป ได้ไปเที่ยวหลายๆ ที่ในวังน้ำเขียวเลยล่ะ แต่ติดที่ว่าตอนเข้าห้องสัมมนามันน่าเบื่ออ่ะ หนูหลับไปหลายครั้งแล้วเนี่ย>>” ตอบทั้งๆ ที่นัยน์ตาคู่สวยยังจับจ้องหน้าจอสมาร์ทโฟนในมืออยู่ “<<ว่าแต่พี่ป๊อปเหอะ หนูไม่อยู่นี่ทำอะไรบ้างเนี่ย หรือเอาแต่ทำงานอย่างเดียว>>”

“<<พี่บอกเราไปหมดแล้วไม่ใช่เรอะ ฮิๆ>>” ป๊อปแกล้งย้อนกลับไป “<<ก็เคลียร์งานไปเรื่อยๆ จนเสร็จเมื่อวานนั่นแหละ แต่พี่สารภาพเลยมีอดนอนไปสองคืน เร่งปั่นงานให้เสร็จเพื่อเราเลยนะ>>”

“<<พี่ป๊อปนะพี่ป๊อป ก็อุตส่าห์บอกอยู่ว่าอย่าอดหลับอดนอน ทำไมพี่ไม่เชื่อหนู>>” เสียงใสเอ่ยต่อว่าพี่ชายพลางหันไปส่งสายตาค้อนใส่อย่างขัดใจ

“<<เออพี่ขอโทษ ก็กลัวงานเสร็จไม่ทันนี่นา>>” เสียงเข้มแฝงความรู้สึกผิดตอบกลับไป “<<เอาน่า พี่ไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับงานอย่างเดียวหรอก รถเราพี่ก็เอาไปทำให้แล้ว ห้องพี่ก็กวาดแล้ว หม้อจานชามพี่ก็ล้างเก็บหมดแล้ว ไม่มีอะไรหรอกน่า>>”

ใบหม่อนเลือกที่จะเงียบ เพราะรู้ว่ายื่งพูดออกไปแล้วจะยิ่งรู้สึกระอาในตัวพี่ชายสุดที่รักคนนี้มากขึ้นไปอีก สาวเจ้าเลยตัดสินใจหันไปให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมือต่อ ปล่อยให้คนเป็นพี่ชายทำหน้าที่ขับรถไป แต่ด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทางที่สะสมมาเรื่อยๆ จนผลิดอกออกผลให้สาวเจ้าเข้าสู่ห้วงนิทราไปในที่สุด...

ระหว่างที่การจราจรข้างหน้าหยุดชะงักเพราะสัญญาณไฟแดง ป๊อปหันไปชำเลืองมองน้องสาวด้วยว่าจะชวนคุยฆ่าเวลา แต่ทว่าภาพที่เห็นในตอนนี้กลายเป็นภาพใบหน้าสวยหวานที่กำลังหลับพริ้มพ่นลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่ากำลังหลับอยู่...

“ไปซะแล้วน้องสาวหน้ากลมของพี่ อีกแป๊ปก็ถึงแล้วนะคะ”

 เขาพูดกับน้องสาวด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มน้อยๆ พ่นลมหายใจเบาๆ ก่อนหันกลับมามองทางข้างหน้าที่ตอนนี้การจราจรเริ่มกลับมาเคลื่อนตัวได้อีกครั้งหนึ่ง ไม่รอช้าที่จะทำหน้าที่นายสารถีควบคุมพาหนะคู่ใจของตัวเองให้เคลื่อนไปข้างหน้าจนถึงที่หมายในเวลาหลังจากนั้นเพียงไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้น...

                                                 ..................................................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา