ปาฏิหาริย์โลกวิญญาณ (ได้รับการตีพิมพ์จากAmity Publishing แล้ว)
เขียนโดย watcharakarn
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 12.10 น.
แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 23.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
35) เกิดจาก…ไสยเวท
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“กระผมต้องขอโทษแทนเด็กคนนี้มันด้วยนะขอรับที่มันลามปามใส่พวกคุณคุณไปแบบนั้น เจ้าสองคนนี้นี่มันเป็นพวกเด็กมีปัญหาน่ะขอรับ ถูกพ่อแม่เลี้ยงทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ค่อยเอาใจใส่เท่าที่ควร ผมเองก็ไม่รู้จะอบรมบ่มนิสัยมันสองคนยังไงดีแล้วดื้อด้านกันทั้งพี่ทั้งน้องเลยจริงๆ” ชายชรากล่าวแล้วมองซ้ายมองขวากวาดสายตาเหมือนมองหาอะไรบางอย่างก่อนจะบ่นออกมาด้วยความไม่ได้ดั่งใจ
“แล้วนี่เจ้าปาลีนังมันไปมุดหัวใต้ตู้กับข้าวอีกแล้วใช่มั๊ยละนี่ เจอเจ้าอุมทีไรชอบหายหัวไปทุกทีสิน่า”
ผมแอบสะดุดหูกับชื่อเรียกแปลกๆ นั้นก่อนที่ความอยากรู้อยากเห็นจะฉุดดึงให้ตนเองก้มศีรษะตะแคงคอมองลอดเข้าไปใต้ตู้กับข้าวด้วยอารามกึ่งกล้ากึ่งกลัวและพลันได้สบกับดวงตาคู่โตที่กำลังมองมาอย่างหวั่นหวาด สีผิวดำสนิทที่กลมกลืนไปกับความมืดและร่างผอมบางที่คู้ตัวหมอบแอบอยู่ไม่ไกล นั้น แค่เห็นเงาดำตะคุ่มๆ ก็ทำให้ผมตกใจจนแทบผวาเรียกได้ว่าถ้ายังเป็นมนุษย์หัวใจคงร่วงไปที่ตาตุ่มไม่ก็ช็อกซีนีม่าไปแล้ว
‘อึ๋ย!’ ผมรีบเงยตัวขึ้นมาโดยพลันทว่าภาพใบหน้าอันหลอนหลอกของผีเด็กก็ยังคงติดตาอยู่ไม่หาย จึงกระเทิบเท้าเข้าไปยืนข้างๆ คู่หูสาวในทันใดเพื่อความอุ่นใจ
“พ่อแม่?” สาริกาซึ่งคุยอยู่กับคุณตาเปรยออกมาด้วยความสงสัย
“ก็เจ้าของที่นำมันสองคนมาเลี้ยงดูยังไงล่ะขอรับ ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้น” พ่อเฒ่ากล่าวพร้อมกับพยักพเยิดไปทาง นายช่างที่กำลังลงมือซ่อมวิทยุอย่างขะมักเขม้นก่อนจะผินหน้าบุ้ยปากมาทางมุ้งนอนซึ่งมีร่างของสตรีผิวสีน้ำผึ้งรูปร่างอวบอั๋นไว้ผมดกดำดูกระเซอะกระเซิงยาวประบ่าสวมเสื้อคอกระเช้าพื้นขาวลายพิมพ์จุดสีดำเล็กๆ นอนตะแคงข้างหันหลังให้พวกเราอยู่ข้างในนั้น “กับผู้หญิงที่นอนอยู่ในมุ้งนี่”
“ไอ้คนผัวไปพาเจ้าสองตนนี้มาจากวัดละแวกนี้แหละขอรับ” ชายชราผู้เป็นผีบ้านผีเรือนยังคงขยับปากเล่าเรื่อยเจื้อย
“ตอนใหม่ๆ ก็ดูแลอย่างดีเรียกให้ข้าวให้น้ำหาขนมมาบูชาไม่ขาดปากคอยชวนคุยสารพัดสารพัน แต่พอนานวันเข้าด้วยงานที่มีมากขึ้นหรือยังไงกระผมก็ไม่ทราบจึงทำให้สองผัวเมียนี่เปลี่ยนไปจากแต่ก่อน จนเดี๋ยวนี้ก็วางอาหารใส่พานให้พวกเด็กๆ แค่วันล่ะครั้งเท่านั้นเองขอรับ นานๆ ถึงจะเอ่ยปากทักทายเจ้าสองคนนี้สักครั้งหนึ่ง” พ่อเฒ่าเท้าความพร้อมกับก้าวเดินไปทางมุ้งนอนก่อนจะเบนหน้าไปทางขวามืออีกหน
“ที่เห็นกองสุมอยู่นั่นก็มีทั้งของที่ยังไม่ได้ซ่อม ไม่ก็ตัวเจ้าของยังไม่มีเวลามารับของกลับ บ้างก็ยังไม่มีเงินมาจ่ายก็เลยต้องทิ้งไว้ให้รกบ้านเขาอย่างนี้” ว่าแล้วคนเล่าก็ส่ายศีรษะด้วยความอิดหนาระอาใจ
“เด็กมันก็เหงา น้อยอกน้อยใจจะหนีกลับวัดไปตั้งหลายครั้ง กระผมก็ได้แต่อธิบายให้พวกมันเข้าใจว่าพ่อแม่เค้าก็ต้องทำมาหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองเหมือนกัน อีกอย่างหนึ่งก็เพราะผมเห็นว่าผัวเมียคู่นี้ต่างก็เป็นคนดีแม้ไอ้คนเป็นเมียนี่ออกจะปากร้าย แต่ก็มีน้ำใจไม่ต่างกับผัวที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านแถวนี้อยู่บ่อยๆ
หลายๆ ครั้งที่ไปซ่อมนู่นซ่อมนี่ให้คนที่เดือดร้อน ก็ไม่ได้ไปคิดสะตุ้งสตางค์เค้าหรอกที่นี่ก็มีแต่คนจนๆ ทั้งนั้นแหละขอรับ หากไอ้เด็กสองตนนี้มันหนีเตลิดไปก็คงเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ”
“ยังไงเหรอครับ?” ผมซึ่งยืนฟังอยู่ถามแทรกขึ้นในทันทีด้วยความสนใจ
“พวกผีกเฬวรากมันเยอะน่ะขอรับ กระผมคนเดียวเอาไม่ค่อยอยู่หรอกพวกมันชุมอย่างกับยุง คุณผู้ชายกับคุณนางฟ้าพึ่งมาก็คงไม่ทันสังเกต พวกมันซ่อนตัวอยู่นอกบ้านกันเต็มไปหมดดีแล้วที่มีเจ้าอุมกับเจ้าปาคอยเฝ้าอยู่ด้วยพวกมันเลยไม่กล้าแหยมเข้ามา”
“ฉันก็รู้สึกได้อยู่เหมือนกันค่ะเพียงแต่ไม่แน่ใจ” หญิงสาวเอ่ย พอเห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่ายแล้วก็พาลให้เกิดอาการขวัญหนีดีฝ่อขึ้นมาทันใด
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ