โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  115.52K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

91) นอกเมืองตามลำพัง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
เช้าตรู่ของวันที่อากาศสดใส   ดารีลขับรถม้าคันงามมุ่งตรงไปยังปราสาทขาวเพียงลำพัง   โดยไร้ซึ่งทหารคุ้มกันใดๆ   สร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าหญิงลูเซียน่าเป็นอย่างมาก   เนื่องจากเขาได้หายหน้าไปเป็นเวลานาน   หนุ่มน้อยพ่อมดแจ้งความประสงค์ว่าต้องการพาเจ้าหญิงออกไปนั่งรถม้าเล่น   แล้วเขาก็เข้าไปรอให้เจ้าหญิงเปลี่ยนอาภรณ์ชุดใหม่ในห้องรับรอง   หญิงรับใช้ได้นำชาร้อนพร้อมทั้งของทานเล่นอีกมากมาย   ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามน่ากินเป็นมาต้อนรับ
 
นานพอสมควรกว่าที่เจ้าหญิงลูเซียน่าจะเสด็จออกมาอีกครั้ง   พระนางสวมชุดสีน้ำตาลทอง   เกศาแดงเข้มเกล้าขึ้นสูงดูสง่างามสมฐานะแม้จะสวมเครื่องประดับน้อยชิ้น   พระพักตร์ขาวซีดดุจคนอมโรคแต่ทว่าดูสดใสร่าเริง   ในหัตถ์ข้างหนึ่งถือตะกร้าขนมปังมาด้วย
 
หนุ่มน้อยส่งมือให้เจ้าหญิงจับไว้   แล้วทั้งคู่ก็ออกไปด้วยกัน   เหล่าบริวารทำได้เพียงยืนส่งเท่านั้นเพราะดารีลต้องการเวลาส่วนตัว   เขาประคองเจ้าหญิงแสนสวยขึ้นไปนั่งเคียงข้าง
 
“ เรเวนไปไหนแล้ว ”
 
พระนางถาม
เมื่อเห็นม้าสีดำสองตัวยืนเทียบกับรถม้า
 
“ วันนี้ข้าอยากใช้ม้าคู่   เรเวนขาวเกินกว่าที่จะหาม้าตัวอื่นมาเข้าคู่ได้ ” 
 
ดารีลว่าพลางกระตุ้นม้าให้ออกเดิน   
 
คงจะจริงตามนั้น
เพราะเรเวนนั้นขาวเปล่งประกายดุจหิมะในแสงตะวัน
 
ส่วนม้าคู่สองตัวนี้เป็นสีดำ
ขนขึ้นเงามันปลาบ
เหมือนกันราวกับคู่แฝด
 
พวกเขาเคลื่อนตัวช้าๆ ไปตามท้องถนนที่กว้างใหญ่ของเมืองโอรีเวีย
สองข้างทางล้วนสวยงามและสดชื่น
แสงแดดอบอุ่นอาบไล้ไปทั่วบริเวณ
 
“ น่าแปลกที่วันนี้มีแดด ”
 
เจ้าหญิงลูเซียน่าตรัส
พระนางยื่นหัตถ์ทั้งสองออกไปรับความอบอุ่นนั้น
 
“ ข้าตั้งใจพาท่านหญิงไปเที่ยวเล่นในวันนี้   จึงเป็นเหตุผลที่ดีหากท้องฟ้าจะปรอดโปร่ง ”
 
เมื่อเจ้าหญิงแห่งอันดอรีสได้ฟังดังนั้น
จึงเอนกายไปพิงร่างของเขา
ด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข
 
“ เพราะเหตุใดกันนะ   เจ้าจึงหาเวลามาพบข้าได้ ”
 
“ ข้าเพิ่งรู้ตัวว่า   นานมากแล้วที่เผลอละเลยต่อความรู้สึกของท่าน   วันนี้จึงมาเพื่อชดเชยให้   หรือจะพูดให้ถูก   ในบางครั้งข้าก็แค่อยากทำตามใจตัวเองบ้าง ”
 
ดารีลตอบ
ด้วยรอยยิ้มที่ละเมียดละไม
 
“ เจ้าควรจะคิดถึงตัวเองให้มากกว่านี้   ข้าน่ะเป็นห่วงเจ้านะ ”
 
หนุ่มน้อยไม่มีความเห็นสำหรับเรื่องนี้
เขาเพียงแต่บังคับม้าต่อไปเรื่อยๆ
เป็นวันแสนสบายที่ไม่มีความเร่งร้อนใดๆ
 
ใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่ทั้งสองจะมาถึงหน้าประตูเมือง
เจ้าหญิงลูเซียน่ารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ไม่คิดว่าเขาจะพาออกนอกเมืองโดยไร้คนคุ้มกัน
 
“ เรากำลังจะไปที่แห่งใดกัน ”
 
พระนางตรัสถาม
 
“ ทรงกลัวหรือ   ข้าพากลับก็ได้นะ   ถ้าท่านไม่ประสงค์อยากไปต่อ ”
 
ดารีลตั้งคำถามแทนการตอบ
 
“ มีเจ้าเคียงข้างข้าจำเป็นต้องกลัวสิ่งใด   เราไปกันเถอะ”
 
เมื่อเป็นดังนั้นดารีลจึงปล่อยมือจากบังเหียนม้า
หยิบผ้าสีขาวเนื้อนุ่มขึ้นมาผูกปิดตาเจ้าหญิงเอาไว้
ด้วยความรวดเร็วและนุ่มนวล
 
“ เดี๋ยวนะ   ตอนนี้เจ้าทำให้ข้าเริ่มรู้สึกกลัวแล้ว ”
 
พระนางท้วง
ดารีลส่งเสียงหัวเราะเบาๆ
แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรเพิ่มอีก
 
เจ้าหญิงลูเซียน่าเบียดกายเข้าไปแนบชิดจนแทบจะสิงร่าง
ดารีลจึงใช้แขนข้างหนึ่งโอบกอดไว้
เพื่อให้พระนางรู้สึกปลอดภัย
 
เมื่อออกมาพ้นประตูเมืองดารีลได้เร่งม้าให้เร็วขึ้น
แม้จุดหมายจะอยู่ไกลแต่ด้วยม้าฝีเท้าจัดคู่นั้น
เพียงเวลาไม่นานก็มาถึง
 
ดารีลอุ้มเจ้าหญิงพามายังสถานที่แห่งหนึ่ง
ครั้นเมื่อวางลงแล้วจึงปลดผ้าปิดตาออก
 
แล้วเจ้าหญิงลูเซียน่าก็ได้เห็น
ผีเสื้อมากมายเกาะกลุ่มกันอยู่ทั่วบริเวณ
หลากสีสันละลานตา
 
เมื่อเอื้อมมือไปสัมผัส
ผีเสื้อทั้งปวงต่างโผบินขึ้น
 
เผยให้เห็นสวนน้อยๆ ท่ามกลางทุ่งหญ้า
ในสวนนี้มีทั้งไม้ดอกไม้ผล
 
อุดมสมบูรณ์
และงดงามในคราเดียวกัน
 
ดารีลในชุดคลุมสีขาวพิสุทธิ์
ซึ่งน้อยครั้งนักที่จะได้เห็น
สูงส่งและงามสง่าราวกับเทพบนชั้นฟ้า
 
เขาจูงหัตถ์เจ้าหญิงทายาทแห่งอันดอรีสเข้าไปในสวนนั้น
ปล่อยม้าสองตัวให้เดินเล่นตามอำเภอใจ
 
“ กลางทุ่งหญ้ามีที่แบบนี้ด้วยหรือ ”
 
พระนางตรัสถาม
 
“ ท่านคิดเห็นว่าอย่างไรล่ะ ”
 
“ หรือเจ้าทำทั้งหมดนี้เพื่อข้า ”
 
ดารีลยิ้มแทนคำตอบ
เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นหัวใจ
 
เจ้าหญิงทอดเนตรไปรอบๆ
รู้สึกตื้นตันพระทัยเหลือที่จะกล่าวด้วยพระนางรู้ดีว่า
ดารีลนั้นกำลังคร่ำเคร่งอยู่กับเรื่องใด
 
การที่ต้องเสียเวลามาทำอะไรทำนองนี้
ถือเป็นการไร้สาระอย่างที่สุด
 
แต่ถึงกระนั้น
เพื่อพระนางแล้ว
เขาก็ยอมสละเวลามาจนได้
 
ดารีลจับร่างเจ้าหญิงให้นอนราบบนแปลงดอกลาเวนเดอร์
จากนั้นจึงเอนกายลงข้างๆ พระนาง
 
ชี้มือให้ดูก้อนเมฆประหลาดกลุ่มหนึ่ง
พลางเล่าว่ามันรูปร่างเหมือนแดนสวรรค์เพียงใด
 
แต่สายตาของพระนางหาได้จับจ้องไปบนฟ้าไม่
เพราะสวรรค์ของพระนางไม่ได้อยู่ไกลถึงเพียงนั้น
 
ดารีลได้หยิบเครื่องเป่าชิ้นเล็กๆ ออกมา
ขอร้องให้เจ้าหญิงเล่นเพลงให้ฟัง
แล้วเขาก็หลับตาลง
ทั้งโลกก็ดูสงบสุขขึ้นมาทันใด
 
ราวกับว่าเรื่องร้ายๆ ไม่เคยเกิดขึ้น
ไม่มีคำสาปไม่มีโรคระบาด
 
มีเพียงพวกเขาสองคน
ในดินแดนที่งดงามดังความฝัน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา