พลิกฟ้าล้างปฐพี

-

เขียนโดย WCSD

วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 19.10 น.

  11 บท
  0 วิจารณ์
  10.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2561 22.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) จันทรา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     เทียนฟงเดินตามชายหนุ่มผู้แปลกหน้าไปติดๆ จนในที่สุดก็เดินมาจนถึงสถานที่แห่งหนึ่งมันเป็นเสมือนสำนักเล็กๆอีกสำนักหนึ่งที่ซ้อนอยู่ในสำนักสุริยันจันทรา หน้าตึกใหญ่มีป้ายมรกตสีสวยงามบรรจงสลักตัวหนังสือเอาไว้ว่า"จันทรา" ชายหนุ่มผู้แปลกหน้าเดินลอดซุ้มประตูเข้าไปทำให้เทียนฟงรีบเดินตามเข้าไปเห็ยชายแก่ผู้หนึ่งนั่งอยู่ตรงกลางห้องกำลังจ้องมองมาที่พวกเขา

     "ข้าพาเขามาแล้วครับท่านอาจารย์"ชายหนุ่มผู้แปลกหน้าโค้งคำนับ ชายชราผู้นั้นโบกมือไปทางซ้ายเป็นสัญญาณให้ชายหนุ่มผู้นั้นเดินหลบไป เห็นดังนั้นเทียนฟงจึงโค้งคำนับให้กับชายชราผู้นั้น ผู้เฒ่าตกใจเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น "มีมารยาทดีมาก เป็นเด็กหนุ่มที่ดี" ผู้เฒ่าลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินเข้ามาหาเทียนฟงจ้องมองสำรวจสิ่งต่างๆที่เป็นเขา

     "ที่นี่ถือความแข็งแกร่งคือความถูกต้อง ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นลูกคุณหนู ชนชั้นสูงหรือขอทานมาจากไหน แต่ถ้าเจ้าแข็งแกร่งเจ้าก็จะได้รับการยอมรับจากทุกคน จากที่ได้ยินข่าวมาว่าเจ้าบรรลุปราณก่อร่างขั้นที่สองแล้วเจ้าคงจะยิ้มกะหร่องในใจสิท่า แต่ข้าขอบอกไว้ก่อนว่าไม่ว่าเจ้าจะบรรลุถึงขั้นไหนแล้วเจ้ามาใหม่เจ้าก็เป็นเพียงแค่ศิษย์ภายนอกเท่านั้นจนกว่าจะถึงการทดสอบภายในเจ้าถึงจะได้เป็นศิษย์ของเราเต็มตัว"ผู้เฒ่าอธิบายยาวเหยียดให้เทียนฟงซึ่งเขาก็รับฟังมันเป็นอย่างดี ไม่มีอะไรให้คัดค้านมีเพียงเรื่องราวที่เขาได้ยินมาเท่านั้นที่เขาอยากจะถามมันออกไป "มีอะไรในใจเจ้า"ผู้เฒ่าราวกับจะอ่านสีหน้าเขาออก

     "ข้าก็แค่สงสัยในคำพูดที่คนภายนอกพูดมานิดหน่อยเท่านั้น เรื่องที่ว่า.."ผู้เฒ่าโบกมือทำให้เทียนฟงหยุดพูด 

     "งั้นเจ้าเห็นชายผู้นี้เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร"ผู้เฒ่าชี้ไปยังชายหนุ่มแปลกหน้าที่ยืนอยู่ด้านข้าง

     "รุ่นราวคราวเดียวกับข้า ดูแข็งแกร่งไม่น้อย"เทียนฟงตอบ

     "ชื่อของเขาคือจิวซางหยง อายุสิบแปดปี อยู่ในขั้นปราณก่อรางขั้นที่สี่"ผู้เฒ่ากล่าวขึ้นชายหนุ่มแปลกหน้าจึงโค้งคำนับให้

     "บ้าน่า แก่กว่าข้าปีเดียวแต่มีพลังปราณมากกว่าข้าถึงสองขั้น"เทียนฟงทำหน้าตกใจเล็กน้อย

     "หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองพิสูจน์ด้วยตัวเองได้"ซางหยงพูดขึ้นมาทำให้เทียนฟงเสียวสันหลังวาบพลังปราณของเขาหนักแน่นจนอึดอัดพลังปราณแผ่ขยายออกจากตัวซางหยงช้าๆจนมันคลืบคลานเข้าใกล้เทียนฟง เขาเริ่มหายใจลำบากขึ้นเพราะพลังปราณนั้น

     "เรียกข้า!"เสียงดังปรากฎภายในใจของเทียนฟงทำให้เขาได้สติ "ผานกู่!!" เทียนฟงตะโกนขึ้นเสียงดังทำให้ปราณหนาแน่นสีแดงแผ่ขยายออกจากตัวของเขาด้านหลังของเขาปรากฎรูปร่างของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่สีแดง ผมสีดำ ดวงตาสีน้ำเงิน และเขี้ยวขนาดใหญ่ที่กำลังแยกขู่ฝั่งตรงข้าม มันทำให้ซางหยงและผู้เฒ่าตกใจเป็นอย่างมาก "ยักษ์!!"ซางหยงและผู้เฒ่าอุทานพร้อมกัน ซางหยงมองไปที่เทียนฟงด้วยความตื่นเต้นปราญของเทียนฟงแผ่ออกมาไม่หยุดราวกับมันไม่มีวันหมด ปราณนั้นมันให้ความรู้สึกอึดอัดหนักแน่นราวกับมีมือขนาดยักษ์กำลังบีบคอเขาอยู่

     "หยุด!!"เสียงแหบแห้งของผู้เฒ่าที่ปะปนด้วยพลังปราณทำให้ทั้งเทียนฟงและซางหยงรู้สึกตัวและคลายพลังปราณออกจนหมด "ขออภัยที่ข้าลืมตัวครับท่านอาจารย์"ซางหยงโค้งก้มหัวให้ชายชราและหันหน้ามาหาเทียนฟง "อภัยให้ข้าที่ทำกับเจ้าแบบนั้น"

     "ไม่เป็นไรแค่ประลองกำลังกันเฉยๆ ศิษย์พี่ซางหยงแข็งแกร่งจริงๆ"เทียนฟงประกบมือคำนับ

     "อย่าได้เยินยอข้า เจ้าสิมีพลังอันล้ำลึกหากอายุเท่าข้าเจ้าคงไปได้ไกลกว่านี้"ซางหยงเกาหัวตัวเองเบาๆ

     "เมื่อกี้ใช่จิตวิญญาณของเจ้าใช่หรือไม่"ชายชราเดินเข้ามาถาม "นั่นสิข้าก็สงสัย"ซางหยงเสริม

     "ใช่แล้วข้าเรียกมันว่าผานกู่ มันเป็นจิตวิญญาณยักษ์สีแดง"เทียนฟงตอบคำถาม

     "วิเศษ น่าเหลือเชื่อ จิตวิญญาณยักา์อย่างงั้นเหรอ แต่น่าเสียดายตั้งแต่อดีตเป็นต้นมาไม่เคยมีปรากฎจิตวิญญาณประเภทนี้เลย ทำให้ไม่มีวิชาที่เจ้าจะฝึกเผื่อส่งเสริมมันได้"ชายชราส่ายหน้าไปมา

     "ไม่ต้องห่วงข้าหรอ เพียงข้าฝึกปราณให้แข็งแกร่งจิตวิญญาณมันก็จะแข็งแกร่งตามไปเอง"เทียนฟงพูดราวกับกำลังปลอบใจตัวเองแต่ภายในใจเขารู้ดีอยู่แล้วว่าจะเรียนทักษะอะไร

     "ว่าแต่ทางฝั่งของจันทราก็มีอัจฉริยะอยู่มากมายแล้วทำไมถึงเอาแต่หลบซ่อนอยู่ในเงามืดกันหละ"เทียนฟงวกกลับมาถามเรื่องเดิม

     "ฝั่งจันทรานั้นเปรียบเสมือนเงาของทางฝั่งสุริยันตั้งแต่ก่อตั้งสำนักมาฝ่ายที่ออกหน้าออกตาคือทางฝั่งสุริยันมาโดยตลอดตามข้อตกลงที่หัวหน้าทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้ก่อนจะตั้งสำนัก เมื่อก่อนฝั่งเรานั้นดูเหมือนจะถูกทอดทิ้งจากสำนักโดยไม่ให้ความดูแลแถมยังถีบส่งพวกไม่ได้เรื่องจากทางสุริยันมาอีกด้วย แต่ท่านประมุขคนใหม่นี้จะคอยดูและให้เท่าเทียมกันทั้งสองฝั่งแต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่เพราะทรัพยากรก็มีค่อนข้างจำกัดแต่ก็ดีข้นกว่าเจ้าสำนักคนเก่าหละนะ"ชายชราเล่าพลางเอามือไขว้หลัง "เอาเถอะเจ้าพึ่งมาข้าจะให้ซางหยงพาเจ้าดูรอบๆสำนักละกัน"ชายชราโบกมือให้สัญญาณแก่ชายหนุ่ม

     ทั้งสองพากันเดินออกจากที่แห่งนั้นเพื่อไปดูรอบๆจนมาถึงที่แห่งหนึ่งมันเป็นอาคารทรงแปดเหลี่ยมมีทั้งหมดสี่ชั้นตั้งตระหง่านอยู่บนยอดหินอ่อนสีนิล "นั่นคือหอฝึกปราณ"ซางหยงชี้"เข้าได้เฉพาะศิษย์ภายในและในการเข้าแต่ละครั้งก็จำเป็นจะต้องใช้หินวิญญาณด้วย"ซางหยงเดินไปต่อและไปหยุดอยู่ตรงหน้าบรรไดที่อยู่ตรงตีนเขา"ข้างบนนั่นคือหอตำรามีทักษะมากมายหลายหมื่นเล่มอยู่ที่นั่นมีอยู่ทั้งหมดสิบเอ็ดชั้นศิษย์ภายนอกเข้าได้แค่ชั้นแรกชั้นเดียวเท่านั้น และข้าจะพาไปดูที่พักของพวกศิษย์ภายนอกแล้วกัน"ซางหยงเดินนำหน้าเทียนฟงต่อ

     "ศิษย์พี่ในเมื่อศิษย์ภายนอกเข้าฝึกในหอฝึกปราณไม่ได้แล้วจะสามารถฝึกที่ไหนได้กัน"เทียนฟงเอ๋ยถามขณะเดินตามไป

     "ก็ฝึกได้ตามรอบๆบริเวณกอนั่นแหละแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้ อ้อแล้วหอฝีกปราณกับหอทักษะเราใช้ร่วมกับพวกสุริยันนะอย่าทำให้เกิดปัญหาหละ"ซางหยงพูดตอบขณะเดินจนมาถึงหน้าอาคารไม้ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งมันกว้างราวสนามฟุตบอลสามสนามรวมกันได้ "นี่คือหอพักของพวกศิษย์ภายนอกแม้จะเป็นฝั่งสุริยันหรือจันทราก็อยู่รวมกันที่นี่แต่หากได้เป็นศิษย์ภายในแล้วก็จะแยกฝึกกันคนหละฝั่ง ข้าไปก่อนหละแล้วเจอกันใหม่"ซางหยงเดินจากไปอย่างช้าๆ เทียนฟงหันหน้ากลับมามองอาคารไม้ขนาดใหญ่มหึมานี้ก่อนจะเดินตรงไปยังทางเข้าของหอพัก

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา