BEST FRIEND(?) #เบสเฟรนด์ชิโระ

6.2

เขียนโดย Khunpor

วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 04.35 น.

  8 ตอน
  1 วิจารณ์
  10.38K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กันยายน พ.ศ. 2560 06.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) BEST FRIEND(?) 5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

บทที่5

 

"แล้วเอาไง จะกลับหรือจะเดินเล่นต่อ"

"เดินเล่นต่อดิ อุตส่าห์ได้อิสระทั้งทีจะรีบไปไหน"

ผมตอบเบสทั้งๆที่สายตายังมองข้างทางอย่างตื่นเต้น จะว่าผมเด็กก็ได้นะตั้งแต่ที่ผมเสียแม่ไปผมไม่เคยไปไหนเลยยกเว้นไปโรงเรียน เพื่อนก็ไม่เคยมีพอได้อิสระแถมได้ออกมาเจอข้างนอกแบบนี้มันเลยดีใจและตื่นเต้นสุดๆอ่ะ

"เตี้ยเดินดูทางหน่อยสิ ถ้าอยากดูอะไรก็บอกจะได้หยุดดูเดี๋ยวก็ชนเสาอีกรอบหรอก" เบสว่าผมเสียงดุก่อนจะกระชับแขนที่กอดคอผมมากขึ้น ก็มันละลานตาไปหมดนี่หว่า มีแต่อันที่เจอในทีวีทั้งนั้นมันเลยละสายตาไม่ได้อ่า

"อ่า โทษที แหะๆ" ผมหันไปบอกขอโทษเบสพร้อมหัวเราะแห้งๆให้

"ทำยังกับไม่เคยมาเดินเที่ยวห้างงั้นละ" อือหือ เป็นคำพูดที่กรีดใจมาก ครับ กูไม่เคยมาครับ

"ขอโทษละกันที่กูไม่เคยมา มึงคิดว่าหน้าแบบกูจะมีเพื่อนมาเดินเที่ยวด้วยหรอ" ผมตอบเบสเสียงขุ่นแล้วหันไปมองข้างทางต่อ

"ทำไมวะ หน้าแบบมึงกูว่าผู้ชายคนไหนก็อยากเดินเที่ยวด้วยนะ"

"กวนตีนละมึง เดี๋ยวกูก็วางมวยตรงนี้ซะหรอก" ผมหันขวับไปว่าเบสอย่างเคืองๆ ไม่รู้ทำไมเวลามีผู้ชายหน้าตาแบบมันมาพูดเชิงหน้าหม้อใส่มันรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเป็นสองเท่า

"หึ" เบสหัวเราะนิดๆกับท่าทางของผมนั่นยิ่งทำผมหงุดหงิดมันขึ้นไปอีก มันเหมือนผมแพ้อ่ะ!

"กูละเกลียดมึงจริงๆ"

ผมพูดจบก็ปัดแขนเบสออกจากคอแล้วเดินหนีทันที ถ้าผมอยู่ใกล้เบสตอนนี้ผมต้องหงุดหงิดจนหาเรื่องเขาแน่ๆ เบสมันไม่รู้ตัวหรือไงว่าหน้าตาตัวเองสร้างจุดด้อยให้คนที่อยู่ด้วย ยิ่งหน้าตาแบบเบสมายืนข้างผมมันยิ่งเกิดการเปรียบเทียบ แล้วยิ่งท่าทางของเบสที่เหมือนเห็นผมเป็นแค่เด็กเล็กๆหรือของเล่นของเขา มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนแพ้เขาทุกทาง หงุดหงิด หงุดหงิดที่สุด

พลั่ก!

"อ่ะ"

"โอ้ย" ด้วยความโมโหผมเดินจ้ำๆโดยไม่มองทางทำให้ผมไปชนกับใครคนนึงเข้าจนล้มลงทั้งคู่ เวรกรรมจะซวยอะไรขนาดนี้

"เอ่อ...ขอโทษครับเป็นอะไรหรือป่าว" ผมบอกขอโทษก่อนจะยื่นมือเพื่อช่วยดึงคู่กรณีให้ยืนขึ้น รู้สึกคุ้นๆยังไงไม่รู้แหะ

"ไม่เป็นไรครับผมก็เดินไม่ดูทางด้วยละ" คนที่โดนผมชนตอบกลับแล้วเงยหน้าพร้อมกับยื่นมือเพื่อจะจับมือผม แต่เมื่อเราเห็นหน้ากันก็ทำให้ชะงักทั้งคู่ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาบางๆให้กัน

"ว้าว พรหมลิขิตละ พรหมลิขิต" เขาจับมือผมพร้อมพูดด้วยท่าทางดีใจ ผมยิ้มขำกับท่าทางของเขาแล้วดึงเขายืนขึ้น

"กูว่าเป็นเวรกรรมมากกว่า" ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงขำๆ แต่ประโยคนั่นทำให้คนฟังทำหน้ายู่ใส่ทันที ฮ่าๆ น่ารักตายละ

"แล้วชิโระมาทำอะไรที่นี่หรอ" คนตัวสูงถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม

"มาหาข้าวกินและเดินเล่นอ่ะ แล้วเฟริสละมาทำอะไร"

"มาเดินเล่นเหมือนกัน"

"ตั้งไกลเนี่ยนะ ห้างนี้อยู่ห่างจากโรงเรียนเก่าและบ้านมึงมากนะ" ผมถามเฟริสด้วยความแปลกใจ เฟริสทำท่าอึกอักนิดๆยิ่งทำให้ผมสงสัยมากกว่าเดิม

"เอ่อ...คือ...กูอยากเปลี่ยนบรรยากาศไง" โคตรมีพิรุธ แล้วไอ้ห้างเนี่ยมันก็เหมือนๆกันหมดไม่ใช่หรอ(เคยเห็นในทีวี)จะห้างไหนมันก็เหมือนกันอ่ะแล้วคิดบ้าอะไรมาเดินตั้งไกลขนาดนี้

"กูขอความจริง" รางสังหรณ์อะไรบางอย่างทำให้ผมคาดคั้นกับเฟริสทันที

"เอ่อ...เฮ้อ กูมาตามหามึง" นั่นไง กูว่าแล้ว - -"

"มาตามหากูทำไมวะ"

"ก็มึงอยู่ๆก็ย้ายโรงเรียนแถมเปลี่ยนเบอร์เปลี่ยนไลน์อีก ถามใครก็ไม่มีใครรู้ กูต้องแบกหน้าไปขอร้องน้องมึงที่แผนก ม.ต้นเชียวนะเว้ย มึงแม่งโคตรใจร้ายจะไปก็ไม่ลากันสักคำ" เฟริสพูดว่าผมรัวๆด้วยน้ำเสียงน้อยใจ เอาซะรู้สึกผิดไม่ทันเลย

"คือมันกะทันหันอ่ะ กูก็ไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน ขนาดครูยังตกใจเลย ขอโทษจริงๆวะ" ผมพูดขอโทษพร้อมยกมือไหว้มันอย่างขำๆ แต่เฟริสก็ยังดูเคืองอยู่ดี

"มึงแม่งไม่พยายามติดต่อกูด้วย เบอร์ไลน์กูก็มีแทนที่จะไลน์บอกกูก่อนเปลี่ยน" อันนี้ลืมแหะ ปกติก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว มีแต่มันไลน์มาโทรมาผมเลยลืมซะสนิทเลย

"กูก็กำลังขอโทษอยู่นี่ไง แล้วทำไมมึงไม่ขอไลน์ขอเบอร์ใหม่กูกับน้องกูละ"

"มึงคิดว่าเด็กติดพี่หวงพี่คนนั้นจะให้กูหรอ ขนาดที่อยู่มึงน้องมึงยังใบ้แค่เขต จนกูต้องตามสืบเอง" โอ้โห นี่ใช้เวลาแค่สองวันก็หาผมเจอแค่รู้ว่าผมอยู่เขตไหนเนี่ยนะ ทุ่มเทมาก ทำให้รู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก

"โหย...กูขอโทษจริงๆวะ งั้นเดี๋ยวกูเลี้ยงไอติม หายโกรธกูเถอะนะ" เฟริสหันมามองหน้าผมนิดๆก่อนจะถอนหายใจแล้วคลี่ยิ้มให้ผม

"ตอนแรกกูคิดว่าเจอหน้ามึงจะต่อว่ามึงและต่อยสักที แต่เอาเข้าจริงพอเจอแล้วอยากกอดมากกว่าวะ มึงแม่ง...เฮ้อ" เฟริสบ่นพึมพัมพร้อมกับยกมือลูบหัวผมเบาๆ ผมยิ้มให้เฟริสนิดๆเป็นการขอโทษและขอบคุณที่มันเป็นห่วงและตามหาผมขนาดนี้

พรึบ!

"อ่ะ" ผมร้องตกใจเมื่อจู่ๆก็มีคนมากระชากแขนผมจนผมเซถอยหลัง

"แม่งใครวะ" ผมสบทอย่างหัวเสียก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ดึง พอได้เห็นเจ้าของมือยิ่งทำให้ผมหัวเสียมากกว่าเดิมอีก

"มึงเป็นใครวะ มากระชากแขนชิโระแรงๆแบบนี้ได้ไง"

เฟริสพูดกึ่งตะคอกใส่เบส แต่คนโดนว่ากลับไม่สนใจอีกคนสักนิด เบสมองผมสลับกับเฟริสนิ่งๆแล้วค่อยปล่อยมือออกจากแขนผมช้าๆ อะไรของมันวะ มันทำผมงงนะเนี่ย

"อ้าวเฮ้ย เบสมึงจะไปไหน" เป็นบ้าอะไรของมันอยู่ๆก็เข้ามากระชากไม่พูดไม่จาอะไรแล้วจะเดินหนีเฉยเลย เพี้ยนหรือไงวะ!

"กลับหอ" พูดจบเบสก็เดินต่อโดยไม่สนใจความงงของพวกผมสักนิด

"เฮ้ย! เดี๋ยว เบส! ไอ้เชี่ยเบสถ้ามึงไม่หยุดเดินกูจะล็อคห้องไม่ให้มึงเข้าห้องจริงๆด้วย!!" ผมตะโกนออกไปอย่างหมดความอดทน แล้วมันก็ได้ผลเบสหยุดเดินก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาและรอยยิ้มแปลกๆ มันยิ้มอะไรของมันวะ

"ชิโระ มึงกับมันเป็นอะไรกันวะ"

เสียงถามของเฟริสทำให้ผมเริ่มเข้าใจสถานการณ์นิดๆ ตอนนี้เราอยู่กลางห้างที่มีคนพลุ่งพล่านเต็มไปหมด และผมซึ่งลืมแมทปิดปากไว้ที่ร้านอาหารกำลังตะโกนกลางห้างว่าจะไม่ให้ผู้ชายตัวสูงคนนึงเข้าห้อง เยี่ยม เด็กอนุบาลยังเข้าใจสถานการณ์นี้เลย

"เอ่อ...คือ เป็น..."

"เป็นคนที่อยู่ด้วยกันนอนห้องเดียวกันมาเดินห้างด้วยกันมึงคิดว่าเป็นอะไรก็เป็นอันนั้นแหละ" เสียงทุ่มของบุคคลที่สามที่เดินย้อนกลับมาดังแทรกคำตอบผม ผมหันไปมองเบสด้วยความไม่พอใจแต่เจ้าตัวไม่สะทกสะท้านสักนิด

"หมายความว่าไงวะ มึงมีแฟนแล้วหรอ" เมื่อได้ยินคำตอบกล้ำกลวงของเบสเฟริสก็ถามผมเสียงเครียดทันที

"แฟนพ่องสิ มันเป็นผู้ชายมึงไม่เห็นหรือไง" ชีวิตผมจะมีสักคนที่คิดว่าผมจะมีแฟนเป็นผู้หญิงบ้างมั้ย แม่ง อยู่ใกล้ผู้ชายคนไหนก็ไปเป็นเมียเขาหมด อัปยศแท้ TT

"แล้วมันเป็นใครวะ" เฟริสถามขึ้นพร้อมชี้หน้าเบสแบบเกลียดขี้หน้าอย่างไม่ปกปิด ตั้งแต่ที่ผมตะโกนไปคนก็เริ่มมองขึ้นเรื่อยๆแล้วไหนจะท่าทางของเฟริสอีก คนต้องเข้าใจผิดไปกันใหญ่แน่เลย

"มันชื่อเบส เป็นรูมเมทกู มึงอย่าทำเหมือนจะหาเรื่องมันได้มั้ยคนเข้าใจผิดกันหมดแล้ว" ผมยังไม่อยากมีข่าวผู้ชายชกกันเพื่อแย่งผมหรอกนะ มันจะเป็นอะไรที่หน้าอับอายมาก TT

"รูมเมท? ทำไมต้องมีรูมเมทวะ?" โอ้ย...จะสงสัยอะไรเยอะแยะวะเนี่ย

"อย่าพึ่งถามอะไรกูตอนนี้ได้มั้ย ก่อนอื่นพวกเราควรย้ายที่คุยก่อน คนมองเพียบแล้วเนี่ย กูอายคนอื่นเขา" ผมตอบเฟริสสายตาก็มองรอบๆอย่างกังวล มีบางคนยกโทรศัพท์ถ่ายคลิปด้วย ถ้าไม่ติดว่าอายคนนะผมจะเดินไปกระทืบมัน

"มึงไปคุยกับผู้ชายมึงก่อนมั้ย กูจะไปรอที่หน้าห้าง" เดี๋ยวๆสรรพนามที่เรียกเฟริสมันแปลกๆนะ

"มึงเลิกพูดอะไรที่มันกล้ำกลวงได้มั้ย ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นเดินไปด้วยกันนี่ละ กูจะกินไอติม!" ผมพูดจบก็คว้าแขนทั้งสองคนเดินจ้ำออกจากตรงนั้นทันที

"ซเว่นเซ่นสวัสดีค่ะ จะรับอะไรดีคะ"

"เอาสตอเบอรี่ซันเดกับบานาน่าสปิตครับ" ผมสั่งเมนูที่ต้องการด้วยความตื่นเต้น ไม่ได้มากินนานล่าสุดมากินตอนอยู่ประถม น้ำตาจะไหล TT

"สั่งอะไรเยอะแยะวะเตี้ย มึงพึ่งกินข้าวไปเองนะ เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก" ขอมีความสุขบ้างไม่ได้ไงวะ ชอบขัดขวางความสุขกูจัง

"กูไม่ได้บอบบางขนาดนั้นเถอะ"

"ถ้าคืนนี้กูได้ยินมึงบ่นปวดท้องกูจะถีบตกเตียงเลยคอยดู" โหดจังนะสัส

"เออ!" ผมกระแทกเสียงใส่เบสอย่างไม่พอใจแล้วหันไปมองนอกกระจกแทนเพื่อดับความหงุดหงิด พอหันมาอีกทีทั้งสองคนก็สั่งเสร็จแล้ว

"มึงจะอธิบายให้กูฟังได้ยัง" เฟริสถามขึ้นพร้อมมองผมอย่างซีเรียส การที่ผมมีรูมเมทเป็นผู้ชายมันเป็นเรื่องซีเรียสขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย - -"

"เฮ้อ...ก็แค่กูโดนพ่อย้ายมาโรงเรียนประจำและไอ้เวรนี่เป็นรูมเมทกู มันก็แค่นั้น" ผมตอบเฟริสพรางเหล่มองหน้าเบสนิดๆแต่เจ้าตัวก็ดูไม่ทุกข์ร้อนหรือสนใจอะไรเลย

"โรงเรียนประจำ? ไม่น่าละถึงย้ายออกมาไกลขนาดนี้กูก็คิดอยู่ว่ามึงไปกลับจากบ้านไปโรงเรียนไม่เหนื่อนแย่หรอ" เมื่อได้ยินคำตอบจากผมเฟริสก็สีหน้าผ่อนคลายขึ้น

"ตอนแรกกูก็ไม่พอใจพ่อเหมือนกัน แต่พอได้มาอยู่มันก็ดีเหมือนกันนะ มีอิสระดี"

ผมกับเฟริสพูดคุยกันโดยมีอีกคนนั่งฟังเงียบๆผมเหล่มองเบสเป็นระยะแต่ก็ไม่เห็นเขาจะแสดงสีหน้าหรือท่าทางไม่พอใจอะไรเลย ผมคุยกันสักพักก็แลกเบอร์และไลน์ใหม่ให้กันแล้วไอติมก็มาเสริฟ

"เบสมึงกินไอติมด้วยหรอ" ผมถามเบสอย่างแปลกใจนิดๆอิมเมจของมันผมก็นึกว่าจะเป็นเจ้าชายสุขุมแดกกาแฟดำไรงี้ แต่คนที่สั่งกาแฟกลับเป็นเฟริสซะงั้น

"กูชอบกินของหวานโดยเฉพาะช็อคโกแลต" ตอบได้หน้าตาเฉยเลยแหะ ไม่มีความขัดเขินสักนิด - -"

"อ่อหรอ"

ผมเลิกสนใจเบสและหันมาจัดการกับไอติมสองถ้วยใหญ่ของตัวเองต่อ ผมกินไปคุยกับเฟริสไปจนหมด พอเชคบิลกลายเป็นผมกับเฟริสแย่งกันจ่ายซะงั้น ส่วนเบสให้คำตอบสั้นๆว่า 'กูเลี้ยงข้าวแล้ว มึงก็เลี้ยงไอติมกูสิ' นั่นละครับ กว่าจะตกลงกันได้ต้องใช้ไม้งอลเฟริสถึงยอมให้ผมจ่าย

"ชิโระจะไปไหนต่อหรอ" เฟริสถามขึ้นเมื่อพวกเราเดินออกมาจากร้านไอติมได้สักพัก

"น่าจะกลับหอเลย เดี๋ยวไม่ทันข้าวเย็นของที่หออ่ะ"

"นี่มึงยังคิดจะแดกอีกหรอ" เบสพูดขึ้นอย่างอึ้งๆผมยิ้มพร้อมยักคิ้วใส่มันเลยโดนเบสตบหัวมาหนึ่งที

"ทำไมมึงชอบทำรุนแรงกับชิโระจังวะ" เอาแล้วไงละ

"กูทำอะไร" เบสถามกลับด้วยน้ำเสียงและท่าทางนิ่งๆ

"ไหนจะกระชากแขนชิโระ ไหนจะตบหัว มึงเป็นเพื่อนชิโระจริงๆป่าวะ" เฟริสถามต่ออย่างไม่พอใจเบสมองเฟริสพร้อมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายทำให้คนที่ถูกมองชักสีหน้าทันที

"กูไม่ใช่แค่กระชากและตบหัวอย่างเดียวนะ กระทืบก็ทำมาแล้ว มึงเห็นร่องรอยบนใบหน้าไอ้เตี้ยมั้ย นั่นฝีมือกูทั้งนั้น" โอ้โห อรรถรสเลยครับ มึงจะขยี้ทำไม ไอ้เหี้ยยยยยย

"หะ! จริงหรอชิโระ กูก็แปลกใจตั้งแต่ที่เห็นแล้ว แต่ไม่คิดว่าคนที่ทำจะเป็นมัน มึงย้ายออกเลยนะ!!" เฟริสพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรนพร้อมจับแขนผมหมุนไปมาเพื่อสำรวจ

"เฟริสใจเย็น กูย้ายไม่ได้ หัวหน้าหอไม่อณุญาต กูไม่เป็นไรจริงๆ"

"ไม่เป็นไรบ้าอะไร! มึงให้คนแบบนั้นอยู่ข้างๆมึงทำไม คนที่อยู่ข้างๆมึงมีแค่กูก็พอแล้ว"

สตั้นแปป คือผมก็พอมองออกว่าเฟริสคิดอะไรกับผม แต่เมื่อมันไม่พูดอะไรที่ทำให้ลำบากใจผมก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นเพื่อนกันแบบนี้ไปเรื่อยๆก็ได้ ผมไม่ใช่เกย์ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย แล้วมันพูดแบบนี้ผมจะตอบยังไงดีเนี่ย

"เหอะ" เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นจากคนข้างๆผม เฟริสหันไปมองเบสอย่างไม่พอใจทันที

"มึงหัวเราะอะไร" เฟริสถามขึ้นเสียงห้วน

"หัวเราะมึงที่มาตกหลุมรักไอ้เตี้ยไง" มึงจะพูดตรงไปไหน กูรู้แล้วครับว่ามึงไม่ชอบโกหกแต่บางเรื่องไม่ต้องพูดก็ได้ แล้วกูจะเลี่ยงยังไงละที่นี้ ไอ้เลววววว

"แล้วทำไมมึงไม่คิดว่ามันเป็นแค่ปฏิกิริยาของเพื่อนที่เป็นห่วงเพื่อนบ้างละ" เฟริสปล่อยมือจากแขนผมแล้วหันไปถามเบสตรงๆ

"ควายยังดูออกเลย เพื่อนเหี้ยอะไรจะเป็นห่วงโอเว่อร์ขนาดนี้ การกระทำของกูที่มีต่อไอ้เตี้ยนะมันปกติที่ผิดปกติมันมึงต่างหาก มึงคิดว่าไอ้เตี้ยเป็นผู้หญิงที่ต้องคอยถนุถนอมหรือไง ตีนมันหนักจะตายห่า มันดูแลตัวเองได้ ถ้าชอบมันจริงก็ชอบมันที่เป็นมันสิ ไม่ใช่ชอบมันเพื่อให้มันเป็นแบบที่มึงอยากให้เป็น"

เบสพูดจบเฟริสก็นิ่งเงียบ ส่วนผมมองเบสอย่างไม่เชื่อสายตา จริงของมัน เบสไม่เคยทำเหมือนผมเป็นผู้หญิง ทั้งวันที่ผมอยู่กับเขาผมไม่เคยรู้สึกอึดอัดใจเลย เบสเห็นผมเป็นแค่เด็กผู้ชายปกติคนนึง เบสไม่โดนภาพลักษณ์ของผมหลอกตา...

"เบส..." ผมเรียกเบสเสียงแผ่ว

"อะไร"

"ขอกอดหน่อย" ผมพูดพร้อมจ้องหน้าเบสอย่างแน่วแน่

"นี่กลางห้างนะ ไม่ใส่แมทด้วยไม่อายแล้วไง" เบสถามกลับด้วยน้ำเสียงยียวน

"ไม่อาย มึงอายไง"

"ไม่วะ"

เบสพูดจบผมก็พุ่งตัวกอดเขาทันที ตัวผมเล็กกว่าเบสมากทำให้ระดับหน้าผมอยู่แค่อกมันเท่านั้น ผมยกแขนกอดเอวเบสแน่นส่วนเบสก็ยกแขนกอดรอบตัวผมหลวมๆ ไม่ใช่กอดจากผู้หญิงแต่ไม่รู้ทำไมใจผมถึงเต้นแรงไม่หยุดก็ไม่รู้

"ฉากนี้คือฉากปฏิเสธกูถูกมั้ย"

เสียงเฟริสดังแทรกขึ้นผมจึงผละออกจากเบสช้าๆแล้วหันไปหาเฟริสส่วนเบสก็เอาแขนมาพาดไว้ที่ไหล่ทั้งสองข้างของผมและเอาคางวางไว้บนหัวผมเหมือนกอดจากด้านหลังกลายๆ

"ยังจะถามอีกหรอวะ ทำไงได้ก็กูหล่อกว่ามึง" เบสตอบเฟริสอย่างกวนๆ

"หุบปากไปเลยมึงอ่ะ" ผมว่าเบสพรางเอาศอกกระทุ้งท้องคนหลงตัวเองอย่างหมั่นไส้ พูดยังกับผมเป็นแฟนกับมันแนะ ขนลุก

"เฮ้อ กูขอโทษนะเฟริส แต่กูไม่ได้ชอบผู้ชายวะ" ผมหันไปพูดกับเฟริสด้วยความลำบากใจ เฟริสยิ้มให้ผมแต่สายตาที่มองมาทำให้ผมรู้สึกอยากจะร้องไห้

"อืม กูเข้าใจ ขอโทษที่ทำเหมือนมึงเป็นผู้หญิงนะ พวกเรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ป่ะวะ" เฟริสพูดพร้อมรอยยิ้มหม่น

"ไม่!"

"ไม่พ่อง ไอ้เชี่ยเบสหุบปากก่อนดิ" ประสาทจะกินกับไอ้บ้านี่จริงๆ - -"

"ได้ดิ ยังไงมึงก็เป็นเพื่อนกูตั้งแต่แรกอยู่แล้ว" ผมตอบเฟริสด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

"งั้นกูขอจับมือมึงเพื่อแสดงความเป็นเพื่อนได้มั้ยวะ"

"ได้ดิ"

"ใจง่ายจังวะไอ้เตี้ย"

"ง่ายพ่อง" ผมด่าเบสเสร็จก็เอาแขนเบสออกจากตัวก่อนจะเดินไปหาเฟริสและยื่นมือเพื่อจับ

หมับ พรึ่บ

"อ่ะ" ผมร้องตกใจเมื่อเฟริสจับมือผมแล้วดึงเข้าหาตัวเองก่อนจะกอดผมจนหน้าผมฝังไปกับอกของเฟริส เฮ้ยๆๆ กลางห้างเว้ย กลางห้าง TT

"ลบรอย ขอเอาคืนไอ้หน้าตายนั่นหน่อยเถอะ ขอโทษนะ" เฟริสกระซิบข้างหูผมทำผมยิ้มขำกับความคิดของเขา ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วกอดตอบ เฟริสกอดผมสักพักก็ปล่อยออกช้าๆ

"กูนึกว่ามึงจะมากระชากชิโระซะอีก" เมื่อเราผละออกจากกันเฟริสก็พูดขึ้นพรางเหล่มองเบสนิดๆ

"ทำไม แค่กอดไอ้ขี้แพ้กอดสุดท้าย กูไม่ถือ" เบสตอบเฟริสด้วยใบหน้านิ่งแล้วเดินมากอดคอผมดึงเข้าไปหาตัวเอง

"ปากแบบมึงไม่น่ามีอายุถึงเลข10ได้เลยนะ" เฟริสแขวะเบสพร้อมยิ้มเยาะ

"กูไม่ได้หล่ออย่างเดียวนะ กูเก่งด้วย อยากลองมั้ยละ" กูเกลียดการหลงตัวเองของมันมาก

"พอๆพวกมึงจะกัดกันทำไมนักหนา กูรำคาญ" แค่นี้ก็อายคนจะแย่แล้ว อย่าให้มันมากไปกว่านี้เลย TT

"เฮ้อ งั้นกูกลับก่อนนะ เดี๋ยวไปถึงบ้านมืด รถติดอ่ะ"

"อืม กลับดีๆนะ ระวังตัวด้วย" เฟริสกับผมบอกลากันสักพัก ผมก็ยืนมองเฟริสเดินแยกไปจนลับตา เขาอุตส่าห์มาตามหาผมแต่ต้องมาเจอผมปฏิเสธแบบนี้รู้สึกแย่จังแหะ

"จะมองตามแบบอาลัยอาวรอีกนานม่ะ จะกลับมั้ยหอเนี่ย" เบสพูดขึ้นเมื่อผมยังคงมองตามเฟริสที่ลับตาไม่ยอมขยับสักที

"ก็กูสงสารเฟริสอ่ะ"

"ถ้ามึงสงสารมันก็อย่าไปให้ความหวังมันสิ"

"อืม นั่นสินะ เฮ้อ กลับกันเถอะ" ผมพูดจบก็พยายามเขย่งเพื่อจะกอดคอมัน เบสมองท่าทางของผมพร้อมยิ้มขำก่อนจะเป็นคนยกแขนมากอดคอผมแทน

อย่าให้กูสูงบ้างแล้วกัน!

"เหนื่อยชิบหาย วันนี้เดินทั้งวันเลย"

ผมพูดพรางทิ้งตัวลงนอนที่โซฟาห้องนั่งเล่น เบสมองผมอย่างเอือมๆแล้วเดินไปเก็บของเข้าตู้เย็นแทน ตอนขากลับผมรู้ว่าดึกๆตัวเองต้องหิวเลยขอร้องให้เบสซื้อขนมมาตุนไว้ให้ กว่าจะอ้อนได้แทบตาย

"เตี้ย มึงจะกินข้าวหอมั้ย ครัวหอปิดสองทุ่ม" เบสตะโกนถามผมดังมาจากครัว ผมจึงแหงนหน้ามองนาฬิกา ตอนนี้ห้าโมง เดินมาจากห้างตั้งไกลที่กินมามันย่อยหมดแล้วละ

"กินๆสักหกโมงทุ่มนึงค่อยไปนะ" ผมตะโกนตอบกลับเบสแล้วเอื้อมมือหยิบรีโมทเปิดทีวี

"งั้นก็ไปอาบน้ำสิ วันนี้มึงเดินมาทั้งวันเลยนะ" เบสเดินออกมาจากครัวก็พูดสั่งผมที่นอนดูทีวีอยู่บนโซฟา

"กินเสร็จค่อยอาบก็ได้ ไม่ได้เหม็นสักหน่อย" ผมตอบเบสทั้งๆที่สายตายังมองทีวีอยู่ การ์ตูนเรื่องนี้น่าดูแหะ

ฟอด จุ๊บ

"เฮ้ย!" ผมร้องเสียงหลง พร้อมกระเด้งตัวหลบเบสเมื่อจู่ๆมันก็ก้มมาหอมซอกคอพร้อมจูบคอผมเน้นๆ! ไอ้เหี้ยยยยยย

"อืม ไม่เหม็นจริงด้วย"

"มึง มึง มึง ไอ้ ไอ้ ไอ้..." ผมพูดติดขัดพรางยกนิ้วชี้หน้าคนตัวสูงด้วยตัวสั่นๆและหน้าที่ร้อนวูบวาบ

"ยัง ยังไม่ลุกอีก ข้างนั้นอาจไม่เหม็นแต่อีกข้างอาจเหม็นก็ได้ เอามาให้กูพิสูจดิ ถ้าไม่เหม็นจริงกูยอมให้มึงไปกินข้าวก่อนอาบน้ำก็ได้" เบสพูดจบก็ทำท่าจะเขยิบเข้าใกล้ผม ผมจึงรีบลุกขึ้นยืนทันที

"ไม่ต้อง! กูไปอาบน้ำก็ได้ ไอ้โรคจิตเอ้ย!!" ผมด่าเบสหน้าดำหน้าแดงก่อนจะวิ่งเข้าห้องนอนเพื่อไปอาบน้ำทันที

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา