รักไม่มีวันตาย Love never die

8.7

เขียนโดย NidNoii

วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 23.03 น.

  13 ตอน
  0 วิจารณ์
  11.91K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 กันยายน พ.ศ. 2560 23.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) รักไม่มีวันตาย Love never die 7

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ฟลุค

 

ตอนนี้ผมออกมาจากกองปราบแล้วอยู่บนรถกับไอ้หมอนี่อยู่ สงสัยกันใช่ไหมครับมาไอ้หมอนี่ตามมาได้ยังไง

 

ย้อนกลับไปเมื่อตอนเช้าก่อนมาที่จะมากองปราบ ผมเข้าไปเยี่ยมไอ้คริสที่โรงพยาบาล พอออกมาจากห้องคนป่วยผมก็เจอกับ หมอปราชญ์ หมอเจ้าของคนไข้เลยถามอาการนิดหน่อย คำตอบก็เหมือนเดิมคือ รอฟื้น ผมจึงขอตัวออกมา เดินยังไม่ถึงสามก้าวด้วยซ้ำก็มีไอ้หมอนี่แหละอาสามาส่ง อ้างโน่นอ้างนี่ จนตามมาได้นี่แหละครับ ผมขี้เกียจเถียงด้วย เบื่อ

 

 

หลังจากที่ให้ปากคำเสร็จ

 

“นั่งเงียบอีกละ ไม่ต้องกังวลไปหรอก ไอ้หมวดไอซ์มันเป็นคนมีความยุติธรรมอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่ผิดซะอย่าง” ครับ ไอ้หมอพูดประโยคมาตั้งแต่ออกจากกองปราบละ

 

“เลิกพูดได้ละหมอ! ผมรำคาญ! พูดอยู่นั้นแหละผมรู้แล้ว” ผมทนไม่ไหวเลยตะคอกกลับไปทันที เงียบไปพักหนึ่ง

 

“จะกลับเลยไหม ผมไปส่ง” เสียงที่ดูอ่อนลงจากอีกฝ่ายจนผมอดที่จะหันไปมองไม่ได้ สีหน้าสลดอย่างเห็นได้ชัดเจน นี่ผมผิดเหรอ ?

 

“อือ กลับเลย” ผมตอบกลับไป ไม่นานรถก็มาจอดที่หน้าคอนโดของผม ก่อนที่ผมจะลงจากรถ

 

“ฟลุค!” หือ ปกติไอ้หมอจะไม่เรียกชื่อผม แต่ทำไมวันนี้มาแปลก ผมหันไปมองหน้าทันที

 

“ไม่ต้องคิดมากนะ ที่ผมพูดไม่ใช่ในฐานะหมอ แต่พูดในฐานะ เพื่อน! คนหนึ่งเท่านั้นเอง”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังอย่างที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน เน้นคำว่า เพื่อนชัดเจน จนผมสะอึก ผมไม่คิดว่าคนอย่างหมอกันต์จะอย่างมาเป็นเพื่อนกับผม เพราะทุกอย่างที่ผมแสดงออกกับเขามันคือตัวตนของผมที่ไม่เคยปิดบังใคร หลายๆคนรับไม่ได้ มีเพียงครอบครัวของคริสและพี่พลเท่านั้นที่รับได้ เอ๊ะ ไม่สิ มีหมอกันต์อีกคนหนึ่ง

 

“เออ ผมเองก็ต้องขอโทษหมอเหมือนกันที่ตะคอกหมอเมื่อกี๊ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ในเมื่อหมออ่อนมาผมก็ต้องอ่อนกลับ ถ้าไม่นับที่หมอกันต์เป็นคนขี้บ่น ผมว่าผมมีเพื่อนที่ดีเพิ่มมาอีกหนึ่งคนละ

 

“เฮย ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ” เขาก้มหน้าตอบสั้น เฮย ทำแบบนี้ไม่ใช่หมอกันต์จอมขี้บ่นเลยนิ ผมแอบขำเบาๆ แต่คนข้างๆกลับหูดีไปหน่อย ได้ยินเฉยเลย

 

“ขำอะไรอ่ะ” เขาเงยหน้าขึ้นถามทันที

 

“ก็ขำหมอนั้นแหละ ปกติหมอจะพูดมากแต่ตอนนี้พูดน้อย บอกตามตรงไม่ใช่หมอกันต์ เพื่อนของผมที่ผมรู้จักว่ะ” ผมตอบกลับเน้นคำว่าเพื่อนเหมือนกัน แล้วลงจากรถทันที

 

“ตกลงเราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหม ฟลุค” คำพูดที่ดูตื่นเต้นดังขึ้นจากด้านหลังที่ผมกำลังเดินอยู่ ลงมาตอนไหนวะ

 

“อืม หรือหมอไม่อยากเป็นเพื่อนกับผม ก็ได้นะ” ผมหันกลับมาตอบ สีหน้าดูดีใจอย่างเปิดเผย รีบสวนขึ้นทันที

 

“ไม่ๆๆ ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณ........ ได้ไหม” เขาจ่องหน้าผมแล้วถามขึ้นอีกครั้งคงต้องการคำตอบที่ชัดเจน

 

“ได้สิ” ผมตอบกลับโดยไม่ต้องคิดอะไรเลย

 

“เย้!!!!! ขอบคุณมากๆนะฟลุค ที่ยอมเป็นเพื่อนกับผม ขอบคุณจริงๆ ^_^” หมับ ครับไอ้หมอมันดีใจใหญ่กระโดดเข้ากอดผมทันที ผมนี่ยืนอึ้งเลย

 

“เออ หมอๆ” ยัง ยัง ไม่ได้ยิน ทั้งกอด ทั้งเขย่า ทั้งแหกปาก

 

“ไอ้หมอ!! ปล่อยอายชาวบ้าน คนแห่ออกมาดูกันใหญ่แล้ว” ผมเลยแหกปากบ้าง ได้ผลครับ คือมันหยุดร้อง หยุดเขย่าตัวผม แต่มันยังไม่ยอมปล่อยผม งือ ไอ้หมอถึงผมจะเป็นผู้ชายผมก็อายนะ พอมันคิดได้ก็เด้งตัวออกจากผมทันที อืมกว่าจะคิดได้นะมึงคิดนานไปหรือป่าววะ

 

“ขอโทษๆ ดีใจไปหน่อย” มันตอบแค่นั้นแหละแต่ก็ยังยิ้มอยู่

 

“ถ้างั้นหมอก็กลับไปได้ละ ” ผมเห็นว่ามันดึกแล้วอีกอย่างช่วงนี้ผมมีความรู้สึกว่ามีใครแอบจ้องมองผมอยู่ตลอดเวลา

 

พี่กลับก่อนนะ พรุ่งนี้พี่มารับ” ชะงัก อึ้ง อีกรอบสิครับผม เป็นเพื่อนกันยังไม่ถึงชั่วโมง สรรพนามแทนตัวเองเปลี่ยนไปทันที หมอกันต์ แทนตัวเองว่า พี่

 

“ฟลุค ฟลุค” แรงเขย่าแขนน้อยเรียกสติผมกลับ

 

“หา หา วะ ว่า อะไรนะ” ครับสติกลับมาแต่มาไม่ครบ

 

“พี่บอกว่า พี่! กลับก่อน พรุ่งนี้ พี่! จะมารับ” ชัดเจนครับ พี่ =^^=

 

“อ่อ เออ ดะ ได้ครับ มะ หมอ เฮย พี่กันต์” เสียงตะกุ ตะกะของผมในช่วงแรกทำให้เขามองหน้าด้วยสายตาที่ลุ้นๆ พอผมพูด พี่กันต์ เท่านั้นแหละปากนิฉีกยิ้มจนจะถึงใบหูอยู่แล้ว

 

“งั้นผมขอตัวนะครับ” ไม่ต้องรอฟังคำตอบ ผมนิวิ่งฉิวขึ้นห้องทันที บอกตามตรงกับคนๆนี้ เขินมาก

 

 

 

 

 

หมอกันต์

ผมแทบไม่อยากปล่อยให้เวลาในช่วงเมื่อกี้หมดลง ผมดีใจที่ฟลุคยอมเป็นเพื่อนกับผม ดีใจที่เขายอมที่จะไว้ใจคนอื่นอย่างผม รอยยิ้มบนใบหน้าของฟลุคที่ผมไม่เคยได้เห็นตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน แต่วันนี้ผมได้เห็นเขายิ้ม ยิ้มที่สดใส ยิ้มที่ไม่ปิดบัง มันช่างดีจริงๆ ผมไม่รู้ว่าเขาจะดีใจเหมือนผมไหม แต่ผมนี่ดีใจสุดๆ เพราะผมตั้งใจที่จะทำลายกำแพงที่กั้นตัวเองระหว่างโลกภายนอกของฟลุคออกไปให้หมด ผมพร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาให้กับเขา

 

“ไอ้สิงโว้ย!!!!!” ผมกรอกเสียงลงโทรศัพท์ทันทีที่อีกคนรับ

 

[อะไร! มึงเป็นอะไร ไอ้กันต์!] เพื่อนสิงของผมถามขึ้นด้วยความตกใจ แหงละผมเล่นตะโกนซะขนาดนั้น

 

“ป่าว ไม่มีอะไร แต่ มึงจำที่กูคุยกับมึงเรื่องที่จะเป็นเพื่อนกับไอ้น้องฟลุคนั้นได้หรือป่าว”

ผมทั้งพูดทั้งยิ้ม

 

[เออ จำได้แล้วไง น้องมันปฏิเสธมึงละสิ สมน้ำหน้า] อ้าว ไอ้เพื่อนเวร

 

“อ้าว ไอ้นี่ น้องมันยอมรับกูเป็นเพื่อนแล้วโว้ย ไอ้สิง” ผมด่ามัน พร้อมกับบอกมันไป

 

[จริงเหรอวะ! ไม่น่าเชื้อ เออ ดีใจด้วย แล้วตอนนี้เรื่อง..... อ้าวเฮย! แค่นี้ก่อนนะไอ้กันต์.....] ปลายสายถูกตัดไปสงสัยจะมีเรื่อง ไม่เป็นไรวันนี้ผมอารมณ์ดี แต่ไอ้สิงเป็นอะไรหรือป่าววะ ? นั่งขับรถฮัมเพลงไปเรื่อยๆจนกระทั่ง

 

 

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr {ไอซ์}

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา