พันธะสวาท ตรวนเสน่หา

7.8

เขียนโดย Alixia

วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.34 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,892 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2560 16.15 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     5. กษมายืนมองด้วยความตะลึงกับคอนโดหรูของเขา ข้าวของแม้จะไม่มากไม่มายแต่ทุกอย่างกลับดูหรูหรามีราคา โซฟาเนื้อดีสีขาวสะอาดตาตัวยาวตั้งโดดเด่นอยู่กลางห้องรับแขก

โต๊ะโซฟากระจกใสวางไว้บนกิ่งไม้ซึ่งตั้งอยู่บนพรมสีขาวหม่นอีกที ข้างหน้าโซฟาเป็นทีวีจอยักษ์ติดฝาผนังพร้อมอุปกรณ์ด้านข้างมากมายที่หล่อนคงไม่มีทางรู้ได้แน่ว่าไอ้ของพวกนั้นมันคืออะไรบ้าง แต่หล่อนเองก็ไม่สนใจจะรู้มากนักหรอกแค่ทีวีจอเดียวก็มากพออยู่แล้ว

ในขณะที่หล่อนกำลังพยายามยื่นหน้าเพื่อที่จะดูรายละเอียดอย่างอื่น ข้อมือสวยก็ถูกเขากุมไว้อย่างเบามือ

"ตามผมมาจะแนะนำให้รู้จักทุกห้องในคอนโดของผม" เขากล่าว แล้วกษมาก็เดินเป็นหุ่นยนต์ตามเขาไปทุกที่จากห้องรับแขกยาวไปตามฝาผนังที่มีกำแพงกั้นไว้และมีประตูเล็กๆ นั่นก็เป็นห้องครัวที่ไม่เล็กซะเกินไปโต๊ะอาหารสำหรับสองมีเทียนวางไว้ตรงกลางน่ามองทีเดียว หลังจากนั้นเขาก็พาหล่อนเข้าไปทำความรู้จักกับห้องอาบน้ำขนาดกลาง มีทั้งอ่างอาบน้ำ และฝักบัวซึ่งเลือกเอาตามแต่ความชอบ นั่นคือสิ่งที่เขาบอกหล่อน กระจกหน้าเคาน์เตอร์นั้นยาวจากผนังข้างหนึ่งไปชนอีกข้างหนึ่ง มันใหญ่โตแปลกตาหล่อนมากเอาการอยู่

"ห้องสุดท้าย..." เขายืนยิ้มซ้อนอยู่ด้านหลังเมื่อเห็นหล่อนให้ความสนใจกับกระจกขนาดมหึมา หล่อนมองเขาผ่านกระจกเห็นนัยตาเจ้าชู้ที่เขาส่งมาให้ยิ่งทำให้หล่อนหมั่นไส้หนักเข้าไปอีก เพราะนั่นทำให้หล่อนตัวร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที

"ห้องนอน" เขาพูดต่อหลังจากที่มองสบตากับคนที่ยืนตัวแข็งทื่อหน้ากระจก หญิงสาวยอมเดินตามเขาไปยังห้องนอนขนาดใหญ่ ซึ่งมีเตียงขนาดคิงส์ไซด์ตั้งโดดเด่นอยู่ติดกับกำแพงอีกด้านห่างจากเตียงนอนอีกฟากคือกระจกใสขนาดใหญ่ที่ทำมองออกไปเห็นทิวทัศน์ของเมืองกรุงได้ไกลโขผ้าม่านสีเขียวเข้มมืดยังคงถูกเปิดไว้ แล้วหล่อนก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเขาสวมกอดหล่อนมาจากด้านหลังทำให้อาการเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ด้านนอกต้องชะงักไปก่อน

"คุณชอบหรือเปล่า?" เขาถามพร้อมกับวางคางหนามายังบ่าของหล่อนอย่างแผ่วเบา หญิงสาวพยักหน้าให้มันจบไป "คอนโดของคุณเหรอคะ?" นี่คงเป็นคำถามที่งี่เง่าที่สุดที่หล่อนจะถามได้กระมัง แต่หล่อนก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี อยากยื้อเวลาไม่ให้เขาบ้าดีเดือดในตอนนี้เสียก่อน

"ครับ ผมมีเงินสิบล้านให้คุณได้ ผมก็มีคอนโดราคาหลายล้านได้เหมือนกัน" ชายหนุ่มก้มมายังบ่าที่เริ่มสั่นเทาแปลกๆ ตัวเขายังไม่เข้าใจว่าหล่อนจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน ในเมื่อคนรักก็เคยมีมาแล้ว ประสบการณ์อาจจะไม่มากแต่หล่อนก็ผ่านมาแล้วคงไม่นานจะยากเย็นอะไรเลยสักนิด กษมาห่อไหล่หนีปากหยักที่กำลังซุกมายังซอกคอขาวอมชมพูอย่างจงใจ พร้อมกับเอียงตัวผลักร่างหนาให้ออกห่างจากหล่อนอย่างเบามือที่สุด

"ขอตัวจัดข้าวของก่อนนะคะ เดี๋ยวมืดค่ำเอาฉันเริ่มจะหิวข้าวแล้วด้วย" หล่อนรีบหาเหตุผลมาอ้าง เมื่อรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรอยู่

พชรได้แต่ถอนหายใจ ไม่คิดว่ามันจะยากเย็นอะไรขนาดนี้กับคนอย่างหล่อน แต่เอาเถอะเขายอมรับว่าชอบหล่อนมาก คงต้องคอยจนกว่าหล่อนจะพร้อม เพราะไม่ชอบใช้ความรุนแรงหรือบังคับขืนใจกันเกินกว่าเหตุ อาหารถูกจัดวางอย่างสวยงามด้วยฝีมือของเขา

หลังจากที่หล่อนหายไปอาบน้ำได้เกือบชั่วโมง "คุณทำอาหารเป็นด้วยเหรอคะ?" "ทำได้ แต่ไม่เก่งเอาแค่กินแล้วไม่อดตาย" คำพูดของเขาทำเอากษมาหัวเราะก๊ากออกมาแทบไม่รู้ตัว จนเขาต้องมองหล่อนใบหน้ามีเครื่องหมายคำถามตัวเบ้อเริ้ม

"คุณขำอะไร?" "ก็ขำคุณนะสิ คุณมีเงินเยอะแยะ มีคอนโดหลังใหญ่แค่ทำกับข้าวกินเองไม่ได้แค่นี้ คุณคงไม่อดตายหรอกค่ะ" หล่อนสาธยายให้เขาฟัง ทำให้เขาเองก็อดยิ้มในความหัวใวของหล่อนไม่ได้

"ใครจะไปรู้ล่ะครับ หลงป่าหลงทางขึ้นมา เงินก็ไม่มีความหมายแต่เรื่องอาหารการดำรงอยู่กับสภาพแวดล้อมสำคัญมากกว่า" หญิงสาวหุบยิ้มทันที เพราะเห็นด้วยกับคำพูดของเขามากทีเดียว "คราวนี้เรามาตกลงเรื่องของเรากันนะ" เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที เมื่อจัดการตักข้าวผัดสีเหลืองอร่ามลงในจานเล็กให้กับหล่อน

"เรื่องอะไรคะ?" หล่อนทำหน้างงกับสิ่งที่เขาพูด

"ก็การที่เราต้องอยู่ด้วยกันที่นี่ ผมอยากบอกว่านี่เป็นที่ของคุณ ถ้าผมอยากจะมาผมก็มา ถ้าผมไม่ได้มาคุณก็ไม่ต้องสืบเสาะหาว่าผมไปไหน ทำอะไร คุณเข้าใจความหมายที่ผมพูดไหม?" หญิงสาวจ้องหน้าเขาเขม็งพร้อมกับพยักหน้า นัยตาส่งยิ้มเยาะมาให้กับเขา ทำไมหล่อนจะไม่เข้าใจว่าเขาคิดจะเก็บหล่อนไว้เป็นแค่ของเล่นสนุก เมื่อถึงเวลาเขาก็เขี่ยหล่อนทิ้งเท่านั้นเอง

"คุณคงกลัวภรรยาคุณมาแหกอกฉันเหรอคะ?" ไม่วายที่จะพูดออกไปแบบนั้น "ทำตามที่ผมพูด ไม่ต้องมีคำถาม" เสียงของเขาราบเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความจริงจัง ทำเอาคนที่ฟังต้องกลืนน้ำลายลงคอ และอดนึกถึงที่การุณพูดไม่ได้ว่าเขาแม้จะดูเฉยเมย แต่ดุเอาการอยู่ ตัวการุณเองยังไม่กล้าเข้าใกล้เขาอีกเลยตั้งแต่โดนเรียกหาผู้จัดการเรื่องทำกาแฟหกใส่เขาในครั้งนั้น

"และอีกอย่างหนึ่ง..." กษมามองหน้าเขาอย่างตั้งใจ อดคิดไม่ได้ว่าเขามีเรื่องต้องสั่งสอนหล่อนมากมายขนาดนั้นเลยเหรอ

"อย่าปล่อยให้ตัวเอง...ท้อง" กษมาตัวชาดิก นี่เขาคิดอะไร? เขาคงกลัวว่าหล่อนอยากจะจับเขาจนตัวสั่นโดยการมีลูกกับเขาอย่างนั้นหรือ เขาคงไม่รู้หรอกว่าแค่การที่หล่อนตอบตกลงมาอยู่กับเขาเพราะความจำเป็นเรื่องหนี้สินตัวหล่อนก็แทบอยากเอาปี๊ปคลุมหัวตัวเองเดินอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเกิดท้องขึ้นมาและเขาถีบหัวหล่อนส่ง ถึงเวลานั้นหล่อนไม่ผันตัวไปอยู่หลังเขาเพื่อหลบหนีผู้คนหรอกหรือ ยิ่งคนเป็นแม่ที่หัวโบราณของหล่อนนั้น ถ้าได้รู้เรื่องนี้หล่อนคงโดนตัดหางปล่อยวัดกันไปเลยล่ะ

"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันคงไม่คิดจะมีลูกหรือบ่วงให้ตัวเองลำบาก แค่ต้องอยู่กับคุณแบบหลบๆ ซ่อนๆ เป็นเวลาตั้งหนึ่งปีนี่ก็นานมากแล้วฉันไม่โง่พอที่จะมีลูกกับคุณหรอกค่ะ" หล่อนมองจ้องหน้าเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็จ้องหน้าหล่อนและตั้งใจฟังเช่นกัน

"แต่บอกไว้ก่อน ฉันไม่ป้องกัน ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันท้องคุณก็ต้องป้องกันเอง!" กษมาอยากจะหัวเราะกับใบหน้าที่ตกใจของเขาในประโยคสุดท้าย เขาคงคิดว่าเขาถือไพ่เหนือกว่าหล่อนทุกอย่างหรืออย่างไรกันนะ ถึงได้มาออกคำสั่งแบบนั้น คราวนี้หล่อนขอแผลงฤทธิ์บ้างล่ะ

"หรือถ้าไม่ป้องกันเลย ก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันนะคะ กลับไปหาเมียที่บ้านหรืออีหนูบ้านอื่น ตกลงนะคะ" ปากอวบอิ่มยังคงขยับไปมาอย่างถือดี เขาจึงได้แต่ประหลาดใจ นี่หล่อนช่างกล้าดีที่จะมาต่อรองทั้งๆ ที่ควรจะเป็นเขามากกว่า

"แต่ผมเป็นคนจ่าย"

"ค่ะ แต่ฉันก็มีสิทธิ์ออกความคิดเห็น ถูกไหม?" หล่อนทำหน้าขึงขังใส่เขา พร้อมกับตักอาหารเข้าปาก อร่อยเหมือนกันแฮะ! หล่อนคิด

การุณวิ่งแจ้นเข้ามาหากษมาทันทีเมื่อหญิงสาวปรากฎตัวขึ้นในที่ทำงานในช่วงสายของวัน พร้อมกับหน้าตาตื่นเต้นเอาการอยู่แล้วไม่วายกระซิบมายังใบหูของกษมาให้สังเกตไปยังลูกค้ารายใหม่ซึ่งมีวัยไล่เลี่ยกันกับกษมา "อีตานี่ผมไม่เคยเห็นหน้า แต่มาได้สองสามวันแล้วนะพี่อิ๋ว"

"แล้วไง? ก็แค่ลูกค้าคนใหม่" กษมาดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจกับคนที่กำลังถูกกล่าวถึงมากนัก ทำให้การุณอดค้อนให้วงใหญ่ไม่ได้

"ลูกค้าคนใหม่แต่ตอนนี้กำลังจะมาขายขนมจีบแถวนี้นะสิ" การุณบอก "เอานะ นั่นมันเรื่องของเขาพี่ว่าเราอย่าไปใส่ใจดีกว่านะการุณ นั่นเดินมาแล้ว" ลูกค้ารายใหม่ที่การุณเพิ่งเอ่ยถึงกำลังเยื้องกรายมายังหญิงสาวที่ยืนอยู่นัยตาของเขาดูลอกแลกพิกล

แต่ก็ไม่วายส่งสายตาเจ้าชู้มาให้กับกษมา ทำเอาหล่อนได้แต่ทำหน้าเหวอ ส่วนการุณนั้นมองด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่

"พนักงานหญิงที่นี่สวยทุกคนเลยนะครับ" เขายื่นหน้าหยอดคำหวานมายังกษมา หญิงสาวจึงได้แต่ยิ้มตามหน้าที่ของงานบริการที่หล่อนทำอยู่

"จะรับกาแฟเพิ่มหรือเปล่าคะ?"

"ผมต้องไปทำงานแล้วครับ เอาไว้วันหลังหรืออาจจะช่วงเย็นจะเข้ามาอุดหนุนใหม่นะครับ" เขาพูดพร้อมกับขยิบตามาให้กับกษมาอีกเป็นการส่งท้าย

"ไงล่ะพี่อิ๋ว ผมว่านะอีตานี่ตั้งใจหว่านเสน่ห์แน่เลย พี่อิ๋วอย่าไปหลงคารมเชียวนะครับ ผมเตือนไว้ก่อน" การุณรีบพูดแทรกขึ้นหลังจากที่ลูกค้ารายใหม่ที่ว่านั่นออกจากร้านไปแล้ว

"ไร้สาระ พี่ไม่ใส่ใจหรอก" กษมารู้สึกขำกับความเจ้ากี้เจ้าการของการุณ ตอนนี้หล่อนคงไม่มีเวลาคิดเรื่องอะไรอื่นได้แน่ เพราะใบหน้าของชายหนุ่มมันวนเวียนลอยเด่นอยู่ทุกเวลานาที คืนที่ผ่านมาหล่อนสามารถรอดน้ำมือของเขาอีกครั้ง เพราะแกล้งหลับเมื่อเขาขอตัวไปอาบนำ้ แต่ยังไงเสียเขาก็นอนโอบกอดหล่อนทั้งคืนเหมือนที่เคยทำก่อนหน้านี้อยู่ดี

“ไม่รู้ล่ะพี่อิ๋วผมต้องเตือนไว้ก่อนเดี๋ยวเป็นแบบนังรุ่ง เวลาอีตานี่มาหยอดคำหวานทีไร รายนั้นนะอายม้วนจนออกนอกหน้า ผมล่ะเบื่อมาก"

"แหมก็รุ่งเขาแค่สิบห้าสิบหกเองยังเด็กอยู่" กษมาพูดขำ

"แต่ผมกลัวจะเสียรู้ผู้ชายนะสิพี่อิ๋ว ผมไม่ไว้ใจไอ้คนนี้เลยถ้าเป็นพ่อหนุ่มชีสเค้กของเราก็ว่าไปอย่าง" แล้วการุณก็วกเข้าหาคนที่ทำให้กษมาต้องควบคุมการเต้นของหัวใจตัวเอง

"รายนั้นมาดขรึม สุขุม เยือกเย็น ดาร์ค ทอลล์แอนด์แฮนซัม สเป็กผมจริงๆ นะพี่" การุณพูดต่อจนจบ

เมื่อพูดถึงอีกคนที่ตัวเองคลั่งใคล้น้ำเสียงจากที่หมั่นไส้กับลูกค้ารายใหม่ก็กลายเป็นหลงใหลงไปกับลูกค้าอีกคน กษมาจึงได้แต่หัวเราะตามอย่างขบขัน

"แต่ดุใช่ไหม" กษมาเสริมขึ้นในตอนท้าย การุณจึงได้แต่กลอกตาไปมาเพราะเห็นด้วยเป็นที่สุด หญิงสาวเดินวนไปยังหน้ากระจกบานใหญ่

ผมเผ้าที่เปียกปอนยังคงสางไม่เสร็จ ตอนนี้หล่อนรู้ดีว่าเขากำลังคอยอยู่ยังเตียงนอน และชิ่งจัดการกับตัวเองก่อนหล่อนเพราะคืนก่อนเขาเห็นแล้วว่าถ้าหากมัวแต่ชักช้าสงสัยหล่อนคงแกล้งหลับไปอีกแน่ แล้วกษมาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

"เอาว่ะ เงินก็ได้แล้ว หน้าตาก็หล่อดีออกนังอิ๋วคิดอะไรมาก" หล่อนบ่นปลอบใจตัวเอง แม้จะพูดไปแบบนั้น แต่ลึกๆ แล้วหล่อนก็ยังไม่กล้าพอ

แล้วหัวใจดวงน้อยก็หวนนึกไปถึงนาวิน คนที่หล่อนเคยคิดว่าเขาจะเป็นคนที่หล่อนจะฝากผีฝากไข้ได้ ต่างก็พาไปพบพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยแต่เหตุไฉนเขาถึงได้มาบอกลาหล่อนเพื่อไปแต่งงานแบบฟ้าแล็ปอย่างนั้นได้ ยิ่งคิดกษมาก็ยิ่งไม่เข้าใจ

"แต่หนึ่งยังรักอิ๋วนะ และจะรักอิ๋วตลอดไป" ประโยครักครั้งสุดท้ายที่เขาฝากไว้ยังคงดังก้องอยู่ในห้วงความคิดของหล่อนไม่เคยห่างหาย มันเป็นเพราะอะไรกันนะ ทำไมเขาเลือกแค่ความเหมาะสมแทนที่จะเลือกหัวใจตัวเอง เหมือนกับที่หล่อนเชื่อมั่นมาตลอดว่าเขาไม่ได้เหมือนผู้ชายคนอื่นที่มาแค่จีบเล่นๆ แล้วก็หายไป กว่าเขาจะได้หัวใจของหล่อนไปครอบครองไม่ใช่ว่าหล่อนจะให้เขาได้ง่ายๆ มันกินเวลาเป็นปีเลยทีเดียว

เมื่อเยื้องกรายออกจากห้องอาบน้ำหล่อนก็พบว่าเขานอนตะแคงตัวคอยหล่อนอยู่ก่อนแล้วด้วยความอดทน รอยยิ้มนั้นค่อนข้างเป็นมิตร แต่กลับทำให้กษมาประหม่าหนักเข้าไปอีก มันจะเป็นยังไงถ้าหากว่าเขาเป็นพวกซาดิส หล่อนไม่ย่อยยับไปเลยหรือ ชายหนุ่มตบที่นอนเบาๆ เพื่อเป็นสัญญาณให้คนที่เล่นตัวมานานหลายวันได้รู้ว่าหล่อนควรจะมาทำน้าที่ที่ได้ตกลงกันไว้ได้แล้ว

"ผมฉันยังไม่แห้ง" หล่อนบอกเขาเสียงเบา "ผมไม่สนหรอก" เขาบอกพร้อมกับลุกออกจากเตียงเดินตรงหมาหาหล่อน กษมาถอยออกไปหลายก้าว แต่ดูเหมือนเขาก็ตามจี้ จนหล่อนต้องยกมือขึ้นยันหน้าอกเขาไว้ ทั้งหวาดกลัวและเขินอาย

"ใจเย็นสิคุณ!"

"ผมเนี่ยนะใจร้อน!" เขาว่าให้อย่างเหลืออด ยอมตามใจหล่อนมาก็หลายวันแล้ว แต่หญิงสาวกลับหาเรื่องบ่ายเบี่ยงมาตลอด

เขาไม่เคยต้องวิ่งตามผู้หหญิงคนไหนให้รู้สึกเหนื่อยได้ขนาดนี้มาก่อนเลย

"คือวันนี้ฉัน..." หล่อนอึกอัก เขาทำหน้าเข้มใส่หล่อน

"เจ้าเล่ห์อะไรอีก ผมไม่จ่ายเพิ่มนะจะบอกให้" เขาว่าเหมือนรู้ทัน หล่อนส่ายหัวเป็นพัลวันจนผมที่ยังไม่แห้งสนิทสยายไปตามแรงเหวี่ยงปกปิดหน้าตาไปส่วนหนึ่ง

"คือวันนี้ ฉันมีรอบเดือนค่ะ!" หล่อนกลั้นใจบอกเขาไป แล้วก็รู้สึกว่าใบหน้านั้นแดงก่ำ เขายังไม่เชื่อเสียทีเดียว

"กี่วัน?" เขาถามกลับทันที "สองอาทิตย์" เมื่อตอบคำถามเสร็จ หล่อนก็ตัวลอยจากพื้นทันที

"คุณคิดว่าผมโง่เหรอ เป็นนานตั้งสองอาทิตย์ไปหาหมอดีกว่าไหม?" เขารู้ทันหล่อนอีกรอบ นั่นยิ่งทำเอากษมาหน้าจ๋อย

"ผมขอพิสูจน์เองดีกว่า" พูดเสร็จร่างบางก็ถูกวางลงบนที่นอนและมีเขาตามมา อย่างที่กษมาตั้งตัวไม่ทัน

"ไม่สองอาทิตย์ก็ได้!" ทั้งพูดทั้งผลักไหล่เขาออก "จะบอกเองหรือจะให้ผมสูจน์!" เขาขู่อยู่แค่ข้างใบหู

"สามสี่วันค่ะ สาบานได้" หล่อนบอกเขาหน้าจริงจัง และนั่นพอจะทำให้ชายหนุ่มยอมถอยทัพได้บ้างเหมือนกัน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา