1'st Metter High ร้ายสร้างรัก

9.1

เขียนโดย VoiceFuL

วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.11 น.

  18 chapter
  0 วิจารณ์
  15.31K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560 12.53 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) ปรับความเข้าใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ปรับความเข้าใจ

 

          ช่วงเวลานี้ฉันพยายามปัดเรื่องทุกอย่างออกไปจากหัว หันมาทุ่มเทให้กับการสอบปลายภาคแทนทั้งหมด อีกแค่สามวันโรงเรียนก็จะสิ้นสุดภาคเรียกแรกแล้ว ช่วงปิดเทอมฉันอาจจะขอไปอยู่บ้านของแม่ซักพัก เมื่อกลับมาจิตใจของฉันคงจะเข้มแข็งขึ้นมากกว่าที่เป็นตอนนี้

“รีนเห็นโอ๋อ่านเรื่องสมดุลนี่ซ้ำมาสามรอบแล้วนะ”

“ก็อ่านซ้ำจะได้จำได้แม่นๆไง แล้วนี่เหลืออีกกี่นาทีเข้าห้องสอบเหรอ”

“สิบห้าจ้ะ”

“อืม งั้นขอโอ๋ไปห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมา”

“งั้นรีนไปเป็นเพื่อนดีกว่านะ”

พวกเราสองคนเก็บหนังสือชีววิทยาลงกระเป๋าแล้วเดินเลาะระเบียงอาคารไปเรื่อยๆ เดี๋ยวนะ ถ้าไปทางนี้อาจจะต้องเดินผ่านห้องของติวา ฉันว่า.. เปลี่ยนเส้นทางตอนนี้น่าจะดีกว่า

“เดี๋ยวก่อนรีน ฉันว่าเราน่าจะ..”

“ตั้งโอ๋”

                ช้าเกินไป.. ฉันตัดสินใจช้าเกินไป ตอนนี้เสียงที่คุ้นเคยของคนที่ไม่อยากเจอดังขึ้นมาใกล้ๆจนฉันใจหาย พอหันไปมองก็พบว่าเขาเดินเข้ามาอยู่ใกล้ฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆจะหนีไปตอนนี้ก็คงจะไม่ทันแล้ว

                “เอ่อ.. พี่ติวามีเรื่องจะคุยกับโอ๋เหรอคะ” ไอรีนถามพลางมองฉันกับหมอนั่นสลับกันไปมา

                “ใช่/ไม่ใช่” และฉันกับเขาก็พูดขึ้นพร้อมกัน

                “รีนว่าน่าจะมีแล้วล่ะ ^-^; งั้นรีนไปก่อนนะโอ๋ เดี๋ยวเจอกันที่ห้อง”

                “เดี๋ยวสิไอรีน รอด้วย” ไอรีนเดินไปโดยไม่สนใจเสียงทักท้วงของฉันแม้แต่น้อย พอฉันกำลังจะก้าวตาม นายติวาก็คว้าแขนของฉันไว้จนไม่สามารถเดินหนีได้อย่างที่ตั้งใจจะทำ

“จะไปไหนโอ๋ อย่าเดินหนีกันแบบนี้สิ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอนะ”

“มีอะไรก็รีบๆพูดมา ฉันไม่มีเวลา” …ไม่มี สำหรับคนแบบนาย

“ขอโทษที่หายไปโดยไม่ได้บอกแบบนี้ สมควรแล้วล่ะที่เธอจะโกรธ แต่ช่วยฟังฉันอธิบายหน่อยได้มั้ย”

“ไม่จำเป็น ฉันพอจะรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วล่ะ”

“ไม่จริง! ถ้าเธอรู้ทำไมถึงยังโกรธล่ะ” เขามองหน้าฉันด้วยความไม่เข้าใจ

“ก็แล้วทำไมฉันจะโกรธไม่ได้ล่ะ!! นายทำแบบนี้มันไม่มากพอให้ฉันโกรธได้รึไง!!”

“ฉันคิดว่าเธอจะเข้าใจซะอีก” น้ำเสียงเขาแผ่วลงเจือความตัดพ้อในนั้นจนฉันรู้สึกได้ ต้องเป็นฉันไม่ใช่เหรอที่ผิดหวัง เป็นฉันที่ต้องตัดพ้อ ไม่ใช่เขา!

“ฉันไม่เข้าใจ! ได้ยินมั้ยว่าฉันไม่เข้าใจ!!”

ฉันสะบัดแขนออกแล้วมองเขาด้วยความเจ็บปวด เขาทำกับฉันแบบนี้แล้วยังเรียกร้องความเข้าใจ เชื่อใจอะไรจากฉันอีก! เราสองคนจ้องมองกันไปมาด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าทั้งฉันและเขา

ฉันบอกแล้วว่าฉันจะจบยังไงก็ต้องจบ

เขาไม่จำเป็นต้องมารู้สึกผิดหวังหรืออะไรทั้งนั้น ไม่ต้องลำบากใจ ..เพราะฉันจะขอไปเอง

“นายอย่าลำบากใจเลยดีกว่า ปล่อยฉันไปเถอะ ถือว่าฉันเลือกเอง”

“ทำไมเธอต้องทำแบบนี้ด้วย” เขาตรงเข้ามาใกล้ฉันอีกครั้ง แต่ฉันก็ผลักเขาออกไปเต็มแรง

“ฉันไม่รู้ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ทำตัวงี่เง่าแบบนี้”

ฉันระบายความอัดอั้นแล้วค่อยๆถอยออกห่างจากเขาช้าๆ ทีละก้าว ..ทีละก้าว

“แต่ฉันคงยอมให้นายไปกับผู้หญิงคนอื่นไมได้ ถ้ายังเป็นแบบนี้ ฉันคงยอมไม่ได้”

“ผู้หญิงคนอื่น เดี๋ยวนะ…”

“อะไร”

“พิจิ ใช่มั้ย”

“แน่ล่ะสิ นายมีหลายคนรึไง”

เขาชะงักไป มองฉันอย่างครุ่นคิด ก่อนจะถอนหายใจแล้วค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา “เฮ้อออ”

 “ยิ้มอะไรของนาย” คิ้วของฉันขมวดเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจ

“ฉันไม่มีใครหลายคนหรอก จะมีก็แค่เธอ กับพิจิเท่านั้นเอง”

แค่ฉันกับพิจิงั้นเหรอ เหอะ! ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลยซักนิด!

“แปลว่านายยอมรับสินะ”

“ใช่ ฉันยอมรับ”

“ก็ดีแล้ว งั้นฉันขอตัว” ฉันผละไป แต่เขาก็เดินมาขวางฉันไว้อีกครั้ง รอยยิ้มนั้นยังคงไม่จางหายไปจากคนตรงหน้า

“ไปไหน ฉันพูดเหรอว่าจะให้เธอไป เออออเองทั้งนั้น”

ยียวน! กวนประสาท! แม้แต่ในตอนนี้เขายังคงไม่วายจะกวนประสาทฉัน ฉันยิ่งโกรธจนอยากจะชกหน้าเขาซักทีให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย!!

“เย็นนี้ไปกับฉันนะ ฉันจะพาเธอไปเจอพิจิ”

อะไรกัน!! หมอนี่คิดอะไรอยู่ จะทำร้ายฉันไปถึงไหนกันนะ คำถามนี้ฉันตอบได้โดยไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ “ไม่ไป!”

“ไปเถอะน่า ถือว่าฉันขอร้องล่ะนะ ตั้งโอ๋”

เขามองฉันด้วยสายตาอ้อนวอน อยากให้ฉันไปขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ ทำไมล่ะ ทำไม! ฉันอยากจะปฏิเสธแล้วเดินหนีไปจากตรงหนี ไปจากเขาให้เร็วที่สุด แต่สิ่งดีๆที่เขาเคยทำให้ฉันมามากมายนั่นล่ะ คำขอของเขาครั้งนี้ ฉันควรจะตอบรับสินะ ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง แต่ฉันก็ควรจะทำตามที่เขาร้องขอซักครั้ง

“งั้นก็ได้ ฉันจะตามใจนาย..เป็นครั้งสุดท้าย”

เขายิ้มอย่างพอใจ

ส่วนฉันมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับทุกอย่าง เมื่อพ้นวันนี้ไปมันจะจบ..

อดทนอีกนิดจะตั้งโอ๋ อีกไม่นานเธอก็จะผ่านมันไปจนได้ ฉันได้แต่บอกกับตัวเองในใจ

 

                เวลาผ่านไปพักใหญ่จนพระอาทิตย์จวนเจียนจะตกดินเต็มที รถของติวาซึ่งมีฉันนั่งมาด้วยค่อยชะลอความเร็วและหยุดนิ่งบริเวณที่ไม่ห่างจากประตูรั้วขนาดใหญ่ของโรงเรียนนอร์ทมากนัก ซึ่งหน้าประตูนั้นมีหญิงชายคู่หนึ่งที่เหมือนว่าจะกำลังมีปากเสียงกันอยู่ สำหรับผู้ชายคนนั้นฉันไม่คุ้นหน้า แต่ผู้หญิงคนนั้นฉันค่อนข้างมั่นใจ ว่าเป็นคนที่ชื่อพิจิแน่นอน

“รอในรถก่อนนะ”

เขาหันมาบอกฉันโดยไม่ได้รอฟังคำตอบ ประตูฝั่งคนขับถูกปิดลงพร้อมกับเขาที่รีบวิ่งเข้าไปยังเหตุการ์ณตรงหน้านั้นทันที ไม่รู้ทำไม ทั้งๆที่ฉันไม่อยากสนใจเรื่องนี้แล้วแท้ๆแต่พอรู้ตัวอีกที ฉันก็ลงจากรถมายืนแอบอยู่ใกล้ๆที่เกิดเรื่องนี่ซะแล้ว แม้จะไม่ได้ใกล้มาก แต่ก็ใกล้พอที่จะทำให้ได้ยินเสียงสนทนาพวกนั้นทั้งหมด

 “ปล่อยนะ! ฉันบอกให้ปล่อย!!”

“แล้วถ้าฉันไม่ปล่อยล่ะ” ผู้หญิงคนนั้นสะบัดแขนอย่างแรงเพื่อให้หลุดจากการจับกุม แต่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ เพราะไม่มีวี่แววว่าเขาจะปล่อยมือจากเธอเลย

“ปล่อยพิจิเดี๋ยวนี้!” ติวาที่วิ่งไปถึงพูดเสียงดังด้วยความไม่พอใจ มองผู้ชายอีกคนด้วยท่าทางเอาเรื่อง

“พี่ติวา”

“หึ เธอนี่พัฒนานะ ถึงกับนัดผู้ชายมารอรับ” ผู้ชายอีกคนพูดเหยียดๆ แม้จะพูดกับผู้หญิงคนนั้นแต่สายตากลับจ้องมองติวาไม่วางตา สองคนจ้องกันตาขวางราวกับว่าพร้อมจะกระโจนใส่กันได้ทุกเมื่อ

“หุบปากของแกไปซะ แล้วก็ปล่อยแขนพิจิด้วย”

“แกมีสิทธิอะไรมาสั่ง ตอนนี้ยัยนี่เป็นของฉัน แกไม่เห็นรอยมาร์คนี่รึไง”

เขาดึงตัวผู้หญิงคนนั้นเข้ามาใกล้ตัวแล้วโอบไว้อย่างถือวิสาสะ

“เห็น แต่ถ้าตัดสินกันแค่นี้ล่ะก็ บอกไว้เลยว่าฉันมีสิทธิในตัวพิจิมากกว่าแกเยอะ”

ผู้ชายอีกคนชักสีหน้าทันที จากที่ยิ้มอย่างเป็นต่อกลับกลายเป็นสีหน้าตกใจก่อนจะค่อยเปลี่ยนไปเหยียดหยาม ดูถูก

“มากกว่า หรือว่าเธอ!” เขามองผู้หญิงในอ้อมแขนตัวเองเหมือนกับไม่อยากจะเชื่อ

“ใช่! ถ้ารู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยแขนฉันซะสิ” เธอเหยียดยิ้มแต่แววตานั้นกลับ..เจ็บปวด

“เธอมัน..น่าขยะแขยง”

เขายอมปล่อยเธอออกไปอย่างง่ายดาย เมื่อหลุดจากพันธนาการร่างบางนั้นรีบเข้าไปหาติวาในทันที ผู้ชายอีกคนยิ่งเห็นแบบนั้นเขาจึงเค่นหัวเราะออกมา แววตาเขาเหมือนจะเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าผู้หญิงคนนั้นเลยด้วยซ้ำ แต่แค่แว็ปแรกเท่านั้น เพราะตอนนี้แววตาเขากลับมาเป็นดังเดิม ..เหมือนแค่คนที่ต้องการจะดูถูกโดยที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

“งั้นก็เอาไปเถอะ ฉันไม่อยากได้แล้วล่ะ ของมีตำหนิ ยังไงๆ ‘ของเล่น’ ของฉันยังมีอีกเยอะ”

“ก็ดี จำคำพูดของนายไว้ด้วยล่ะ” เธอย้ำเสียงสั่น และเมื่อเขาเดินจากไป ผู้หญิงคนนี้ก็แทบทรุด โผเข้ากอดติวาปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาในทันที

“ฮึก..พี่ติวา”

“พี่ขอโทษที่ต้องพูดแบบนั้นนะ” มือเขาลูบหัวเธอเบาๆอย่างปลอบโยน

“ไม่เป็นไร ยังไงพี่ก็มีสิทธิมากกว่าเขาจริงๆนั่นแหละ”

“ไปที่รถกัน วันนี้พี่พาคนมาให้รู้จักด้วย”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ฉันที่ยืนหลบอยู่ก็รีบกลับขึ้นไปนั่งรอบนรถเพื่อไม่ให้เขารู้ว่าฉันเห็นเหตุการ์ณพวกนั้นทุกอย่าง

“รอนานมั้ย” เขาถามทันทีที่เปิดประตูรถออก

“ไม่หรอก” ฉันตอบสั้นๆ ก่อนจะหันไปมองผู้หญิงที่ขึ้นมานั่งเบาะหลัง เธอยิ้มให้ฉันพร้อมทักทายอย่างเป็นมิตร ตอนนี้น้ำตารอยน้ำตาบนหน้าเธอได้เหือดหายไปหมดแล้ว

“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อพิจิเป็น..”

“ไม่ต้องบอกก็ได้ ฉันรู้” ฉันบอกปัดเพราะไม่อยากให้ฟังอะไรที่มันตอกย้ำไปมากกว่านี้อีกแล้ว

“ดื้อ -_-” เขาว่าฉันหน้าตาย ฉันหันไปมองเขาอย่างเอาเรื่อง

“ว่าฉันรึไง!”

“หึหึ” เขาไม่ตอบ เอาแต่หัวเราะแล้วมองฉันไม่วางตา

“มาเจอแล้ว งั้นก็กลับได้แล้วสินะ” สิ้นประโยคฉันเอื้อมมือไปเปิดประตูรถออกเตรียมจะก้าวลงไป แต่มือของหมอนั่นก็เอื้อมมากระชากมันปิดลงซะก่อน พร้อมกับยิ้มกวนๆให้ “ยังไม่ให้ไป”

“อะไรอีก!”

“ไปบ้านฉันกัน”

“บ้านนาย! ไปทำไม”

“ไปคุยกันไง ทั้งสามคน”

เขาพูดแล้วออกรถทันที ไม่ตอบคำถามหรือพูดอะไรออกมาอีกจนกระทั่งไปถึงบ้าน

 

บ้านของเขาเป็นบ้านสองชั้นขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ดูเงียบเหมือนกับว่าไม่มีใครอยู่บ้านเลย แล้วพ่อแม่เขาล่ะ ไม่ได้อยู่ด้วยหรอกเหรอ ? เดี๋ยวนะ แล้วฉันจะอยากรู้เรื่องของเขาไปทำไมกัน! -_-

 “เมื่อไหร่นายจะให้ฉันกลับ” ฉันถามทันทีที่ก้าวลงจากรถ

“เดี๋ยวสิ รีบร้อนจัง ไม่หิวเหรอ”

“ไม่” ใครจะไปกินลง ฉันตอบได้ทันทีเลยไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ!

“แต่ฉันหิว พิจิไปทำอะไรให้กินหน่อยสิ ป้าแกลายังไม่มาเลย”

“ได้เลย ว่าแต่ของมันยังมีเหรอพี่”

“มีดิ ก็พี่ซื้อมาใส่ๆไว้เมื่อวาน ขืนปล่อยว่างนานๆเธอก็บ่นพี่อีก -_-”

“ฮ่าๆๆ ดีแล้วล่ะ รู้งานดี”

สองคนคุยกันอย่างสนิทสนม พอพิจิเดินหายเข้าไปในครัวติวาก็จัดการลากฉันไปที่ที่นึงทันที

“ตามฉันมา เดี๋ยวจะพาไปดูอะไรดีๆ”

“อะไรของนายเนี่ย ปล่อย!” ฉันขืนตัวแต่สู้แรงเขาไม่ได้ เขายังคงกึ่งจูงกึ่งลากฉันต่อไป

“นายจะพาฉันมาดูอะไรก็บอกดีๆสิ ลากมาแบบนี้ฉันไม่ชอบ!”

ทันทีที่มาถึงหน้าประตูห้อง ฉันสะบัดแขนออกได้สำเร็จพลางจ้อมมองเขาด้วยความไม่พอใจ คิดจะทำอะไรก็ทำแบบนี้ได้ยังไง นายนี่มัน..!

“ก็พวกของแสดงความรักไง” จู่ๆเขาก็พูดขึ้นมาพร้อมกับเปิดประตูห้องนี้ออกช้าๆ

หมายความว่ายังไง ..ของแสดงความรัก ?

“ฉันแค่อยากให้เธอรู้ไว้น่ะ ว่าฉันกับพิจิ เรารักกันมากแค่ไหน”

เขายิ้มแล้วจูงมือพาฉันเดินเข้าไปในห้องนั้นทันที

นี่เขาต้องการอะไร ..เหยียบหัวใจฉันให้มันจมดินเลยงั้นเหรอ แค่นี้ฉันยังช้ำไม่พอใช่มั้ย ทำไมต้องมาทำร้ายกันถึงขนาดนี้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา