ทหารที่รัก

8.0

เขียนโดย Annakan

วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 21.58 น.

  6 ตอน
  0 วิจารณ์
  7,370 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2560 13.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) พราวฟ้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            “ฟ้า เย็นนี้ไปดูหนังกันไหม” อิงอร ถามเพื่อนของเธอ

            “ไม่ไป ฟ้าจะรีบกลับไปอ่านหนังสือ” พราวฟ้า ตอบเพื่อนสนิท

            “โอเค งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ” อิงอรตอบแล้วเดินไปกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่รออยู่

            พราวฟ้า กิตติวรกุลและอิงอร เมธาวัลย์ เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ห้า ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมต้น พราวฟ้ามีชื่อเล่นฟ้า ส่วนอิงอรมีชื่อเล่นว่าอร ทั้งสองคนกำลังคร่ำเคร่งกับการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย

            อิงอรเกิดในครอบครัวชั้นกลาง เธอมีพี่น้องสามคนตัวเธอเป็นคนโตและมีน้องชายกับน้องสาว บ้านของอิงอรไม่ได้กวดขันคร่ำเคร่งอะไรกับลูกมากนักเพราะพ่อแม่ของเธอยินดีและเต็มใจกับทุกสิ่งที่ลูกจะมีความสุข อิงอรจึงเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยแบบสบายๆ ถ้าไม่ได้ตามที่ตั้งใจเธอก็แค่ไปเรียนมหาวิทยาลัยเปิดก็เท่านั้นเอง

            อิงอรอยากเป็นดีไซเนอร์ เธอรักการแต่งตัว รักสวยรักงาม เธอคิดว่าถ้าเรียนด้านการออกแบบมันจะต่อยอดไปทำอะไรได้อีกหลายอย่างมากเพราะการออกแบบไม่ได้หยุดอยู่แค่เสื้อผ้า เธอชอบดูคลิปที่บล็อกเกอร์สาวๆ สาธิตการแต่งหน้าเพราะหลงใหลแพ็คเกจเครื่องสำอางต่างๆ เหลือเกิน หลายครั้งที่เธอซื้อเครื่องสำอางก็เพื่อชื่นชมแพ็คเกจของสินค้า

            พราวฟ้า เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของบิดาที่เป็นทันตแพทย์หรือหมอฟันส่วนมารดาเป็นกุมารแพทย์หรือที่ใครๆ เรียกว่าหมอเด็ก ไม่บอกก็น่าจะเดากันออกว่าครอบครัวของพราวฟ้าอยู่ในระดับสูง ทุกอย่างในชีวิตของเด็กสาวโปรยไปด้วยกลีบกุหลาบเธอไม่เคยผิดหวังและไม่เคยพบกับความพ่ายแพ้ ผลการเรียนของเธอเป็นที่หนึ่งมาตลอดผิดกับอิงอรเพื่อนสนิทที่สอบได้เลขสองตัวเสมอแต่เพื่อนเธอกลับไม่รู้สึกอะไร

            พราวฟ้าไม่ได้เสพติดความสมบูรณ์แบบ เธอไม่ได้อยากแข่งขันเอาเป็นเอาตายกับลำดับตัวเลขและเกรดเฉลี่ยแต่พ่อกับแม่ตั้งความหวังไว้กับเธอสูงเหลือเกินเพราะเธอคือลูกสาวคนเดียวของแพทย์มือดีเบอร์ต้นๆ ของประเทศไทย

            สองบ่าเล็กๆ ของพราวฟ้าจึงแบกความหวังอันยิ่งใหญ่ของบิดามารดาเอาไว้

            “สวัสดีค่ะป้านิ่ม” พราวฟ้ายกมือไหว้ป้าแม่บ้านจริงๆ คือแม่คนที่สองของเธอมากกว่า เธอเจอหน้าป้านิ่มมากกว่าพ่อกับแม่ของตัวเองซะอีก

            พราวฟ้าโตมากับคำว่า “เสียสละ” และ “หน้าที่” เธอเข้าใจดีว่าพ่อกับแม่ต้องช่วยชีวิตคนไข้ ทั้งสองคนสอนให้เธอคิดถึงคนอื่นให้มากและที่ทั้งคู่เข้มงวดกวดขันกับเธอเรื่องเรียนก็เพราะท่านทั้งสองอยากให้เธอเป็นหมอเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์

            “หนูฟ้าจะทานข้าวเลยไหมคะ”

            “ทานเลยค่ะป้านิ่ม หนูขอไปเปลี่ยนชุดแปบเดียวค่ะ” 

            ป้านิ่มมาเริ่มงานที่บ้านด้วยหน้าที่แม่บ้านคอยดูแลทำความสะอาดและทำอาหารด้วย พอคุณแม่ตั้งท้องและคลอดพราวฟ้าออกมา ป้านิ่มก็กลายเป็นแม่เลี้ยงเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งหน้าที่ด้วยความเต็มใจ นิ่มเป็นสาวโสดถึนทึกไม่ได้แต่งงานและไม่มีญาติที่ไหนมีก็แต่ครอบครัวกิตติวรกุลที่เธอรับใช้มาร่วมสามสิบปีเท่านั้น

            บ้านของพราวฟ้าเป็นบ้านขนาดสามห้องนองและมีสวนเขียวขจีแถมยังมีน้ำตกจำลองอยู่ด้านหลังตัวบ้านด้วย วันหยุดเด็กสาวมักจะหอบหนังสือไปอ่านที่ศาลาไม้ใกล้กับน้ำตก เธอชอบเสียงน้ำไหลเบาๆ มันทำให้เธอมีสมาธิในการอ่านหนังสือ

            “ว่าไงเบลล์คนสวย หวัดดีจ้ะอดัมสุดหล่อ” เบลล์คือแมวสาวสุดสวยสีขาวสะอาดตา ส่วนอดัมคือแมวหนุ่มรูปหล่อสีส้มขนฟู เจ้าเหมียวทั้งสองอยู่ๆ ก็มานอนซุกกันตรงถังขยะหน้าบ้านเธอเมื่อสามปีก่อนเธอเลยขออนุญาตพ่อกับแม่เลี้ยงทั้งคู่ไว้

            ชื่อของแมวทั้งสองตัวมาจากการ์ตูนเรื่องโปรดของเธอ “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” หรือ “Beauty and the Beast” เธอสามารถเปิดการ์ตูนเรื่องนี้ฉายซ้ำวนไปทั้งวันโดยไม่มีความเบื่อเลย พราวฟ้าเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอนของตัวเอง แวะเติมข้าวให้เจ้าแมวทั้งสองแล้วจึงเดินลงไปทานมื้อเย็น

            “ป้านิ่มคะ ตอนเข้ามหาวิทยาลัยถ้าหนูไปอยู่หอพักป้านิ่มจะเหงาไหมคะ” พราวฟ้าถามป้าแม่บ้านของเธอระหว่างช่วยกันล้างจานชามหลังจากทานอิ่มแล้ว

            “เหงาสิคะหนูฟ้าแต่ถ้าหนูฟ้าต้องลำบากไปๆ กลับๆ ป้าก็จะอดทนค่ะ รถรามันติดขนาดนั้นหนูฟ้าจะเหนื่อยเกินไป”

            “หนูเหงากว่าป้านิ่มแน่ๆ” พราวฟ้าตอบแล้วครุ่นคิดว่าเธอจะมีชีวิตอยู่เพียงลำพังได้ยังไง จริงอยู่ว่าพ่อกับแม่ห่วงและหวงเธอมากแต่เรื่องไปอยู่หอพักทั้งคู่กลับสนับสนุน

            พ่อกับแม่บอกว่าการออกไปอยู่ด้วยตัวเองจะทำให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น รู้จักรับผิดชอบมากขึ้นและก็เป็นการวัดใจด้วยว่าเวลาห่างหูห่างตาพ่อแม่ เธอจะทำตัวยังไงจะปล่อยตัวปล่อยใจจนเหลวแหลกเสียคนไหม

            “ถ้าป้านิ่มง่วงก็นอนเลยนะคะไม่ต้องเอานมขึ้นไปให้หนูหรอก”

            เมื่อทานมื้อเย็นเสร็จพราวฟ้าก็จะขึ้นไปอ่านหนังสือจนดึกดื่นทุกคืน ส่วนมากป้านิ่มจะเอานมอุ่นๆ มาให้เธอตอนสี่ทุ่มกว่า ป้านิ่มพักอยู่ในบ้านหลังเล็กติดกับบ้านใหญ่ของเธอ

            “เจ้าเหมียวน่ารักจริง” สามทุ่มกว่าพราวฟ้าพักสายตาด้วยการเข้าไปดูเพจแมวต่างๆ ที่เธอตามไว้ในเฟสบุ๊ค เธอเป็นทาสแมวตัวจริงเสียงจริง ดูได้จากของทุกอย่างในห้องมีแมวเกลื่อนไปหมดทั้งที่นอน หมอน ผ้าม่าน เสื้อผ้า ของใช้ทุกสิ่งทุกอย่างจะมีแมวอยู่ในนั้นเสมอ เจ้าเหมียวทั้งสองนอนกับเธอบนเตียงแต่เจ้าขนฟูก็สามารถเดินไปไหนต่อไหนได้สะดวกสบายเพราะประตูห้องเธอติดประตูแมวบานเล็กไว้ด้านล่าง

            “เหมียวชายแดน” พราวฟ้าตามเพจแมวอยู่หลายสิบเพจแต่มีแค่เพจเหมียวชายแดนเท่านั้นที่เธอกดติดดาวไว้เพื่อที่จะไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว

            แอดมินเพจคือทหารชายแดนที่จังหวัดปัตตานี ทุกสองสามวันพี่ทหารก็จะอัพรูปแมวในฐานพร้อมข้อความน่ารักๆ ที่เรียกว่าภาษาแมวให้แฟนเพจได้อ่าน เธอใจหายใจคว่ำทุกครั้งเวลาที่เพจไม่มีอะไรอัพเดทติดกันหลายๆ วัน เพราะกลัวแอดมินจะเป็นอะไร

            ที่ฐานมีแมวอยู่ห้าสิบกว่าตัวตามคำบอกเล่าของแอดมินและก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เพราะแมวเหล่านั้นไม่ได้ทำหมัน การจะเดินทางลงไปพื้นที่อันตรายแบบนั้นเป็นเรื่องลำบากมาก ต้องใช้กำลังคนในการคุ้มกันไหนจะต้องหาที่พักให้สัตวแพทย์อีก พี่ทหารทุกคนจึงทำเท่าที่จะทำได้

            นอกจากเพจจะอัพรูปแมวแล้วแอดมินก็ยังเล่าเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของทหารชายแดนให้แฟนเพจอ่านด้วย เธอคิดไม่ออกเลยว่าการต้องใส่เสื้อเกราะหนักกว่าสิบกิโล ถือปืนอันใหญ่มหึมา นอนกลางดินกินกลางทราย มันจะลำบากและทรมานขนาดไหน เวลาฝนตกพวกพี่ทหารๆ ก็วิ่งหลบฝนไม่ได้ถ้ายังอยู่ในหน้าที่พวกเขาต้องยืนตากฝนอยู่แบบนั้นจนกว่าจะออกเวร

            “ง่วนแล้ว ตัวแนวไปนอนก่อนเนะ” นี่คือภาษาแมวที่แสนจะน่ารักคิขุที่ออกมาจากปลายนิ้วของทหารหาญ เธออ่านไปก็ได้แต่อมยิ้มให้กับความอารมณ์ดีของแอดมิน

            “ฟ้า พ่อกับแม่กลับมาแล้วลูก” สี่ทุ่มนิดๆ ทั้งคู่ก็เดินเข้ามาหาเธอในห้อง

            “พ่อกับแม่ทานข้าวมารึยังคะ”

            “ทานแล้วลูก เหนื่อยเหลือเกินขอไปนอนก่อนนะหนูก็อย่านอนดึกมาก”  แม่หอมแก้มเธอส่วนพ่อก็ลูบหัวเบาๆ แล้วก็เดินออกไป เด็กสาวกลับมาตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสืออีกครั้งเป้าหมายวันนี้คือนอนเที่ยงคืน

            “หนูฟ้า จะเที่ยงคืนแล้วนอนเถอะค่ะ” นิ่มเห็นไฟในห้องนอนของเด็กสาวยังไม่ปิดจึงอุ่นนมขึ้นมาให้

            “ค่ะป้า หนูก็ว่าจะนอนแล้ว” ห้าทุ่มห้าสิบห้านาที พราวฟ้าลุกไปอาบน้ำแล้วกลับมาดื่นนมอุ่นๆ และเมื่อหัวถึงหมอนเธอก็หลับสนิททันที

                       

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา