Bellzebub สงครามกิลล์ ณ โลกคู่ขนาน

10.0

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.21 น.

  2 chapter
  0 วิจารณ์
  3,630 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559 12.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) CHAPTER 1 WANT TO CREATE COMMUNITY (100%)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 CHAPTER 1

WANT TO CREATE COMMUNITY

         

          “ เอาล่ะ! เริ่มการประชุมได้! ”

          เสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินสั้นละต้นคอ กับดวงตาสีเขียวมรกตคมกริบดังขึ้นในตรอกซอกแห่งหนึ่งของเมืองทางตะวันออกในโลกคู่ขนาน ที่นี่เป็นที่นัดพบของพวกเรา 3 เพื่อนสนิท ซึ่งแน่นอนว่าผู้ชายคนที่กำลังพูดอยู่นั้นเป็นหัวโจกของกลุ่มแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย

          เมื่อหลายวันก่อน ในขณะที่ฉันกำลังเดินหาของกินอยู่ในเมือง เขาก็มาฉุดกระชากลากถูฉันให้ออกมากับเขาพร้อมกับเพื่อนอีกคน ซึ่งพวกเราไม่มีใครปฏิเสธได้เลย ถ้าถามว่าเขาลากพวกเราออกไปทำไม มันก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 วันก่อน..

#2-3 วันก่อนหน้า

            “ ฮึ มากันครบแล้วสินะพวกพ้อง ”

            ชายผู้เป็นหัวโจกของกลุ่ม นามว่า โซเลส พูดขึ้นพร้อมกับนั่งลงบนโซฟาที่ตั้งอยู่ในบ้านของเขาซึ่งในตอนนี้ไม่มีใครอยู่ พร้อมกับฉันและเพื่อนผู้ชายอีก 1 คนที่นั่งอยู่ตรงข้าม อา.. รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเลยแฮะ..

            “ อะแฮ่ม! ที่ฉันลากพวกนายมาเนี่ยก็ไม่มีอะไรมาหรอกนะ ก็แค่เรื่องคอมมิวนิตี้น่ะ ตอนนี้พวกเราก็อายุ 18 กันแล้วใช่ไหมล่ะ มันก็ถึงเวลาที่เราจะต้องเข้าคอมมิวนิตี้กันแล้ว และฉันก็คิดว่าพวกเราควรจะสร้างคอมมิวนิตี้ของตัวเองขึ้นมาโดยไม่ต้องไปเข้ากับคนอื่น ถ้าเป็นแบบนั้นพวกนายคิดว่าไง? ”

            โซเลสพูดและเหล่มองพวกเราด้วยสายตาลุ้นๆ ซึ่งเพื่อนอีกคนที่มีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนสั้นละต้นคอ กับดวงตาสีกิ่งไม้แก่คมกริบก็ดูเหมือนจะเห็นด้วย แต่ฉันไม่เห็นจะเห็นด้วยเลยสักนิด เรื่องแบบนั้นน่ะมันดูจะยุ่งยากไม่ใช่เหรอ?

            “ ผมคิดว่านั่นก็ดีนะครับ ยังไงพวกเราก็มีใบรับรองความสามารถกันอยู่แล้วด้วย^^ ”

            ราอุล เพื่อนสนิทอีกคนที่ดูท่าว่าจะเห็นด้วยกับโซเลสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ถ้าเป็นแบบนี้ฉันก็มีแต่จะต้องเห็นด้วยล่ะสิ

            “ ใช่แล้ว เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปขอใบอนุญาตการก่อตั้งคอมมิวนิตี้ที่ส่วนกลางมาเอง ”

            โซเลสพูดออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส ดูท่าว่าคงจะยังไม่รู้สินะว่าถึงพวกเราจะมีใบรับรองความสามารถ แต่มันก็ยังตั้งคอมมิวนิตี้ไม่ได้

            “ ..จะไปขอก็ไม่ได้ว่าหรอกนะ แต่ว่าต้องมีสมาชิก 10 คนขึ้นไปไม่ใช่เหรอ? ”

            พูดพร้อมกับเอานิ้วดันแว่นที่ใส่อยู่ให้เข้าที่ โซเลสกับราอุลจึงหันมามองฉันและนั่งก้มหน้ากันโดยฉับพลันอย่างต้องการใช้ความคิด และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเราต้องมารวมตัวกันในวันนี้..

#ปัจจุบัน (ในตรอกซอกซอยที่ไร้ซึ่งผู้คน)

            “ จากการอดหลับอดนอนคิดมาเป็นเวลาหลายวันของฉัน ฉันก็ได้ข้อสรุปดังนี้! ”

            โซเลสพูดและแจกกระดาษให้ฉันกับราอุลคนละใบ ซึ่งดูเหมือนมันจะเป็นใบปลิวอะไรสักอย่าง นี่อย่าบอกนะว่า..

            “ จะใช้ไอ้นี่ไปเรียกคนเหรอครับ? ”

            ราอุลถามออกไปด้วยรอยยิ้มสงสัย ซึ่งโซเลสก็พยักหน้ากลับมาให้ด้วยสีหน้าท่าทางมั่นใจเป็นอย่างมาก อา.. จะว่ายังไงดี วาดรูปก็แย่ ลายมือก็ห่วย ผลงานอะไรก็ไม่มี แล้วแบบนั้นใครเขาจะอยากมาเข้ากัน

            “ ฉันว่าไอ้นี่ใช้ไม่ได้หรอก หาทางอื่นเถอะ ”

            “ หา! ทำไม? มันมีอะไรที่ไม่ดีหรือไง? ”

            โซเลสถามออกมาด้วยความสงสัยปนไม่พอใจเล็กน้อย ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาคิดว่าไอ้สิ่งที่เขาทำออกมานี่มันดีแล้ว ใครเป็นคนบอกเขาว่าไอ้ใบปลิวนี่มันดีกัน?

            “ ไอ้ที่นายมีความตั้งใจมันก็ดีอยู่ แต่เราไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ทั้งผลงาน ชื่อเสียง แถมใบปลิวนี่ก็ดูรูปไม่ออก อ่านก็ไม่รู้เรื่อง นายคิดว่าใครเขาจะอยากมาเข้าคอมมิวนิตี้ที่ไม่มีที่มาแบบนี้กันล่ะ? ใช่ไหมราอุล ”

            “ อืม.. นั่นสินะครับ คอมมิวนิตี้ของเราไม่มีอะไรเลย คนก็ไม่ครบ ผลงานก็ไม่มี ไอ้ที่มีอยู่ก็แค่ใบรับรองความสามารถเท่านั้น หรือว่าเราจะไปท้าจอมมารสู้ดีครับ? ”

            “ บ้าเหรอ จนถึงตอนนี้ไม่มีใครที่สู้จอมมารได้ ความสามารถอย่างพวกเราน่ะไม่ไหวหรอก ”

            ฉันกับราอุลพูดและหันไปมองที่โซเลสกันเป็นตาเดียว ซึ่งดูเหมือนว่าโซเลสเองก็ไม่มีข้อโต้แย้งอะไร จึงทำได้เพียงแค่นั่งก้มหน้าและถอนหายใจออกมาเท่านั้น เฮ้อ.. บางทีฉันคิดว่าพวกเราควรจะหยุดกันได้แล้ว ถึงจะสร้างคอมมิวนิตี้ไปก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากไปท้าคนอื่นสู้เท่านั้นแหละ

            “ จะเอายังไงต่อไปดีล่ะครับคุณโซเลส? ดุเหมือนว่าใบปลิวจะไม่เวิร์คนะครับ ^^ ”

            ราอุลถามขึ้นด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบลง ซึ่งโซเลสเองก็ยกมือขึ้นทึ้งหัวตัวเองด้วยความเคร่งเครียดเพราะตัวเขาเองก็หมดหนทางที่จะทำแล้วเช่นกัน สิ่งที่ทำได้ตอนนี้นอกจากเลิกแล้วมันก็มีอยู่เพียงอย่างเดียวไม่ใช่หรือไง..

            “ ฉันว่าตอนนี้พวกนายอย่าเพิ่งคิดอะไรเลยดีกว่า ถึงจะอยากสร้างคอมมิวนิตี้มากแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีความพร้อมมันก็สร้างไม่ได้ ดังนั้นฉันคิดว่าพวกนายควรจะไปเข้าคอมมิวนิตี้ของคนอื่นก่อนจะดีกว่าไหม? ”    

            “ แบบนั้นมันง่ายเกินไป ถ้าจะเข้าก็ต้องเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารไม่ก็เทพธิดาถึงจะดี แต่มันก็ไม่ใช่ว่าอยากเข้าแล้วจะเข้าได้นี่ ”

            โซเลสพูดและหันหน้าหนีไปอีกทาง แบบนี้นี่เอง อยากจะเข้าคอมมิวนิตี้ของจอมมารไม่ก็คอมมิวนิตี้ของเทพธิดาสินะ อา.. เป้าหมายสูงชะมัด..

            “ ..การตั้งเป้าหมายให้สูงๆมันก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าสูงเกินไปมันก็ทำไม่ได้ นายเข้าใจใช่ไหมโซเลส? ”

            ฉันถามพร้อมกับดันแว่นขึ้นด้วยท่าทีที่จริงจัง โซเลสที่ได้รับคำถามแบบนั้นไปก็เงียบลงไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ที่ทำก็มีเพียงแค่ก้มหน้าลงมองเท้าตัวเองเท่านั้น ตัวเขาเองก็เข้าใจอยู่แล้วนี่

            “ ถ้านายเข้าใจแล้วเราก็คงไม่ต้องคุยกันมาก เพราะฉะนั้นนายกลับไปคิดให้ดีก่อนว่าอยากจะสร้างคอมมิวนิตี้ขึ้นมาเองหรืออยากจะไปเข้ากับคนอื่น ยังไงก็เถอะ ตอนนี้ที่นายเลือกได้มีอยู่เพียงแค่ 2 ทางเท่านั้น คือ เลิก กับไปเข้าคอมมิวนิตี้ของคนอื่น คิดให้ดีก็แล้วกัน ยังไงวันนี้ฉันกลับก่อนก็แล้วกัน ”

            พูดจบก็เดินออกมาจากตรอกซอกนั้นเพื่อตรงกลับบ้าน แรกเริ่มเดิมทีแล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะเข้าคอมมิวนิตี้สักหน่อย แล้วทำไมฉันจะต้องมาคอยคิดเรื่องพวกนี้แทนเพื่อนที่อยากจะเข้าด้วย มันไม่ใช่เรื่องของฉันเลยสักนิด

ตุบ!

            “ อึก.. ขอโทษค่ะ ”

            ในขณะที่ฉันกำลังคิดอะไรมากมายอยู่ในหัว ร่างของฉันก็ไปกระทบเข้ากับใครบางคนเข้าโดยไม่ทันระวัง นั่นทำให้ฉันเซจนแทบจะหงายหลังล้ม แต่ก็ทรงตัวเอาไว้ได้ทันทำให้ไม่ได้ล้มลงไปตรงนั้น นี่มันเป็นเพราะโซเลสที่ทำให้ฉันต้องคิดอะไรมากมายแบบนี้

            “ ม..ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหมคะ? ”

            หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีชมพูยาวเป็นลอนถึงกลางหลัง กับดวงตาสีม่วงมรกตกลมโตถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง ซึ่งฉันก็คาดว่าคนที่ฉันชนเมื่อครู่น่าจะเป็นเธอ อา.. ฉันว่าคนที่ควรจะขอโทษอาจจะเป็นฉันมากกว่าล่ะมั้ง นี่เขาไม่ได้มีชิ้นส่วนอะไรหายไปใช่ไหม?

            “ ค่ะ ฉันไม่เป็นไร คุณนั่นแหละ ไม่มีอะไรหลุดไปใช่ไหมคะ? เช่น กระดูกอะไรแบบนี้ ”

            “ แหม.. ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ เห็นแบบนี้แต่ฉันก็แข็งแรงพอสมควรเลยนะคะ ”

            หญิงสาวตรงหน้าพูดออกมาด้วยรอยยิ้มละมุนละไม ช่างเป็นผู้หญิงที่น่ารักและสมกับเพศของตัวเองจริงๆ นี่คงจะเป็นผู้หญิงปกติแบบที่คนสามัญธรรมดาทั่วไปเขาเป็นกันสินะ..

            หือ.. สัญลักษณ์นั่น..

            “ คุณเป็นคนจากคอมมิวนิตี้ของจอมมารเหรอคะ? ”

            ฉันถามออกไปด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าสัญลักษณ์ประจำคอมมิวนิตี้ของจอมมารเบลเซบับติดอยู่ที่เสื้อของหญิงสาวตรงหน้า

            “ ใช่แล้วล่ะค่ะ ฉันเป็นคนจากคอมมิวนิตี้จอมมารเบลเซบับน่ะค่ะ ^^ ”

            เธอพูดออกมาด้วยสีหน้าท่าทางใจดีเป็นอย่างมาก นั่นสินะ ถึงจะมาจากคอมมิวนิตี้ของจอมมารแต่ก็เป็นคนดีได้เหมือนกัน เห็นแบบนี้แล้วมองคนจากภายนอกไม่ได้เลยจริงๆ

            “ คอมมิวนิตี้ของจอมมารเนี่ย เป็นยังไงเหรอคะ ได้รบกันบ่อยหรือเปล่า? ”

            “ ไม่หรอกค่ะ พวกเราไม่ค่อยได้รบกันเท่าไร เพราะคอมมิวนิตี้ของเราหากไม่มีใครมาท้าดวลก็จะไม่สู้ด้วยค่ะ หรือจะพูดให้ถูกคือเราไม่หาเรื่องใครก่อนน่ะค่ะ ”

            อืม.. เป็นอย่างนั้นสินะ บางทีคอมมิวนิตี้นี้อาจจะเหมาะกับโซเลสและราอุลก็ได้ คอมมิวนิตี้ที่รักความสงบ และมีความยุติธรรม

            “ งั้นตอนนี้รับสมัครคนไหมคะ? ”

            ฉันถามออกไปด้วยความสงสัยพร้อมกับเอียงคอลงเล็กน้อย หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหน้าจึงทำสีหน้าครุ่นคิดขึ้นมานิดหน่อยก่อนที่จะตอบออกมา

            “ ค่ะ คอมมิวนิตี้ของเราเน้นรับคนเข้าคอมมิวนิตี้อยู่แล้วค่ะ แต่นั่นมันก็แล้วแต่ท่านเบลเซบับว่าจะรับหรือไม่ ท่านเบลเซบับก็มีการตรวจสอบในแบบฉบับของตัวท่านเองอยู่ค่ะ ซึ่งเรื่องนั้นทางฉันเองก็คงจะบอกไม่ได้ล่ะนะคะ ”

            งั้นก็หมายความว่าถ้าอยากเข้าก็แค่บอกชื่อไป แล้วหัวหน้าคอมมิวนิตี้จะเป็นคนตัดสินใจสินะ

“ คือว่าตอนนี้มีเพื่อนของฉันอยู่ 2 คนที่อยากจะเข้าคอมมิวนิตี้ของท่านเบลเซบับอยู่น่ะค่ะ ถ้ายังไงช่วยเอาชื่อของพวกเขาไปพิจารณาให้หน่อยได้ไหมคะ? ”

            ฉันถามออกไปด้วยสีหน้าและสายตาขอร้อง ซึ่งก็ดูเหมือนว่าหญิงสาวตรงหน้าจะไม่คิดปฏิเสธจึงได้ยิ้มกลับมาให้

            “ แน่นอนว่าได้อยู่แล้วค่ะ ฉันจะเอาชื่อของพวกเขาไปบอกท่านเบลเซบับให้นะคะ ว่าแต่พวกเพื่อนของคุณเนี่ยชื่ออะไรกันเหรอคะ?^^”

            “ โซเลสกับราอุลค่ะ ยังไงก็ขอรบกวนด้วยนะคะ ”

            “ ได้ค่ะ แล้วคุณชื่ออะไรล่ะคะ คุยกันมาตั้งนานแล้วยังไม่รู้ชื่อเลย จะว่าไปฉันเองก็ยังไม่ได้บอกชื่อของฉันให้คุณรู้เลยนี่ ฉันชื่อ ราเชล นะคะ ^^ ”

            คุณราเชลพูดและแนะนำตัวเองออกมาด้วยรอยยิ้ม ช่างเป็นผู้หญิงที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก จะว่ายังไงดี.. ผู้หญิงคนนี้อยู่ในคอมมิวนิตี้ของจอมมารแน่เหรอ?

            “ ฉันชื่อ ลูเคีย ค่ะ ”

            ฉันพูดจบก็ยื่นไปข้างหน้าเพื่อเป็นการกระชับมิตร ซึ่งคุณราเชลเองก็ยื่นมือมาสัมผัสกับมือของฉันด้วยรอยยิ้มอย่างไม่มีทีท่าอิดออด อืม.. อย่างที่คิดเลย มือของคุณราเชลนุ่มมาก

            “ ยังไงก็ขอฝากเรื่องเพื่อนของฉันด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ”

            “ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ยังไงท่านเบลเซบับก็ชอบให้มีคนหลากหลายแบบมารวมกันอยู่ในคอมมิวนิตี้อยู่แล้ว ”

            คุณราเชลพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาเล็กน้อยด้วยความอารมณ์ดี ที่เธอเป็นแบบนี้ได้ก็แสดงว่าคอมมิวนิตี้ที่เธออยู่จะต้องมีความสุขและกลมเกลียวกันมากถึงได้ดูไม่ค่อยทุกข์ร้อนกับอะไรสักเท่าไร ใครกันนะที่เป็นคนบอกว่าคอมมิวนิตี้ของจอมมารมีแต่คนอันตราย ไอ้ที่ว่าอันตรายน่ะไม่ใช่แค่คนของคอมมิวนิตี้ลูซิเฟอร์อย่างเดียวหรอกเหรอ?

            “ อ๊ะ.. นี่ได้เวลาที่ฉันต้องกลับแล้ว ยังไงก็ขอตัวก่อนนะคะ ”

            คุณราเชลพูดขึ้นทันทีหลังจากที่ได้มองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนเอาไว้บนเสากลางเมือง และเมื่อเธอพูดจบเธอก็รีบวิ่งหายไปเหมือนกับเมื่อครู่ไม่มีใครยืนอยู่ ณ บริเวณนี้ สมแล้วที่เป็นคนของคอมมิวนิตี้จอมมาร ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดเลย..

            ฉันคิดและเริ่มก้าวเท้าเดินตรงกลับไปที่บ้าน ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าจอมมารเขามีวิธีตรวจสอบยังไง แต่ถ้าพวกโซเลสได้เข้าฉันก็ดีใจด้วย จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายว่าจะสร้างคอมมิวนิตี้อะไรกันอีก แล้วก็จะได้ทำอะไรจริงจังกันสักที..  

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา