The Central planning

-

เขียนโดย honey_me

วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 08.51 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,669 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 22.08 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บทนำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

1

 

ภายในห้องพักของคอนโดหรูย่านใจกลางกรุง  หญิงสาวหน้าหวาน เธอมีดวงหน้ารูปไข่ผสมได้ลงตัวกับดวงตากลมโตสีดำสนิท แพขนตาที่งอนยาว ทำให้ดูมีเสนห์ชวนหลงใหล จมูกโด่งแบบธรรมชาติ และมีริมฝีปากเป็นกระจับอวบอิ่มน่าสัมผัส สามารถสะกดทุกสายตาทันทีที่แรกเจอ ถึงแม้ว่าเธอจะสวมแว่นตาอยู่ก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ที่มีอยู่ลดลงเลยแม้แต่น้อย รูปร่างที่สมส่วนขนาดนางแบบยังชิดซ้าย เจ้าของเรือนผมสีดำสนิทยาวสลวยบ่งบอกถึงการดูแลมาอย่างดี กำลังเดินวนไปวนมาด้วยความวิตกกังวนใจ พร้อมทั้งขยับกรอบแว่นขึ้นลงหลายครั้ง แล้วพึมพัมออกมาว่า

"จะทำยังไงดีมิริน ฉันจะทำยังไงดีแก"

"จะบ้ารึไงยัยปั้น แกพึมพำออกมาแล้วเดินวนไปวนมา นี่อีกสามรอบก็จะครบสามสิบรอบอยู่แล้วเนี่ย แล้วตอนนี้ฉันก็กำลังจะอ้วกเพราะ ฉันเวียนหัวที่นั่งมองแกเดินวนไปวนมาจนฉันจะเป็นบ้าแทนแกอยู่แล้วเนี่ย"

มิริน สาวสวยดีกรีดาวมหาลัย ด้วยใบหน้าที่โดดเด่น และมีดวงตาเรียวสีน้ำตาลจนเกือบดำทำให้เธอดูมีเสน่ห์เพียงพอที่สามารถให้ผู้ชายมาสยบแทบเท้า เธอมีริมฝีปากที่บางเฉียบสีแดงสดออกชมพูนิดนิดโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งลิปสติกเลย มิรินเป็นเพื่อนสนิทของปั้นหยา ที่คบกันมาตั้งแต่ประถม ส่ายหัวไปมากับการกระทำของเพื่อน อย่างเอือมๆ

“ก็คนมันกลุ้มนี่หนา ถ้าฉันเอาหัวไปมุดกับชักโครก แล้วมันหายกลุ้มฉันก็จะทำ”

ปั้นหยาพูดออกมาอย่างกลุ้มใจ ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล

“แล้วนี่แกกลุ้มเรื่องอะไรนักหนา แล้วฉันจะให้ฉันไปช่วยแกได้ยังไงยัยปั้น ในเมื่อแกไม่บอกเรื่องที่มันทำให้แกกลุ้มใจอยู่ แล้วเก็บเอาไว้คนเดียวแบบนี้ มานี่เลยมาเล่าให้ละเอียดว่ามีเรื่องอะไร ที่มันทำให้แกเป็นยัยเพิ้งได้ขนาดนี้เนี่ย”

มิรินลุกขึ้นมาดึงแล้วให้ปั้นหยาให้มานั้งข้างๆ ตัวเองที่ขอบเตียง

"คืองี้ฉันต้องไปสืบคดีคดีหนึ่งในค่ายเพลงนะ”

ปั้นหยาบอกมิรินด้วยสีหน้าห่อเหียว

“สืบคดีอีกแล้วหรอ ถามจิงเถอะยัยปั้น พี่อลันเค้าลืมไปแล้วใช่มั้ยว่าแกนะอายุแค่ 22 เองนะ ถึงแม้ว่าแกจะมีศิลปะป้องกันตัวแบบขั้นเทพ และเป็นนักกีฬายิงเป้าบินก็เถอะ แต่เอะอะอะไรก็เรียกใช้แกแบบนี้มันใช้ได้ซะที่ใหน ทำอย่างกับแกเป็นลูกเมียน้อยซะอย่างงั้น เอะอะใช้เอะอะใช้ แล้วนี่ทำอีท่าใหนละถึงได้ไปตกปากรับคำโดยไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนี้ แล้วแกก็มานั่งกลุ้มใจอยู่คนเดียว ถ้าฉันเจอพี่อลันนะจะด่าให้กลับบ้านไม่ถูกเลยคอยดู บังอาจมาใช้เพื่อนฉัน รึว่าโทรไปเดี๋ยวนี้ดีละฮึยคิดแล้วหมั่นใส้”

มิรินพูดจบแล้วก็กดโทรศัพท์เพื่อที่โทรไปหาอลันพี่ชายตัวดีของปั้นหยา

“เดี๋ยว มิรินเดี๋ยวก่อนคือแบบว่า”

ปั้นหยาแย่งโทรศัพท์เพื่อนแล้วนึกย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อ  2 วันก่อน

เมื่อ 2 วันก่อน

ณ.กรมตำรวจ

"สวัสดีคะ คุณปั้นหยามาหาสาราวัตรอลันหรอคะ"

ตำรวจหญิงนายหนึ่งเอ่ยทักด้วยความสนิทสนม ก็เธอเข้าออกที่นี่อย่างกับเป็นบ้านหลังที่สองนี่น่า เพราะเธอเป็นสายสืบให้กรมตำรวจ ซึ่งจะมีคนที่รู้ไม่กี่คน แน่ละขนาดตำรวจด้วยกันเองยังไม่รู้เลย คนภายนอกรู้แค่เพียงว่าเธอเป็นน้องสาวของ พันตำรวจตรีอดิสรรค์ เตชะไพบูรณ์ หรือสารวัตรอลัน ตำรวจหนุ่มสุดหล่อที่สาวๆ หลงไหล ชอบพากันขึ้นโรงพักไม่เว้นแต่ละวันเพื่อที่จะได้มาเจอกับสาราวัตรอลัน โดยไม่รู้อะไรเลยว่าพี่ชายของตนเห็นงานดีกว่าผู้หญิงซะอีก และเธอก็เป็นหลานสาวของ พันตำรวจเอกชาตรี เมฆาวานิชฒ์ หรือผู้การชาตรีที่ใครๆ ต่างก็ให้ความนับถือ

"ค่ะพอดีผ่านมาแถวนี้เลยแวะมานะคะ กะว่าจะมาตามพี่ชายตัวดีให้กลับบ้าน คุณแม่เค้าฝากมาบอกคะว่าถ้าวันนี้พี่อลันไม่กลับมากินข้าวที่บ้านบ้าง คุณแม่จะเก็บเสื้อผ้าของพี่อลันให้ย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่ซะเลยคะ จ่าเนตร"

ปั้นหยาพูดแล้วชะเง้อมองหาพี่ชายตนเอง ว่าตอนนี้ไปสิงสถิตอยู่ที่ใหน ของโรงพักแห่งนี้

"สารวัตรอยู่กับผู้การชาตรีในห้องคะ เชิญทางนี้เลยคะคุณปั้นหยา"

จ่าเนตรพูดแล้วเดินนำปั้นหยาไปที่ห้องของสาราวัตรชาตรี

ก๊อกๆๆ

"สารวัตรอลันค่ะ คุณปันหยามาขอพบคะ"

จ่าเนตรเคาะประตู แล้วเรียกคนภายในห้อง บอกถึงความต้องการให้คนข้างในถึงจุดประสงค์

"ให้เข้ามา"

เสียงเชิงอนุญาติจากภายในห้อง ปั้นหยาจึงเปิดเข้าไป ภายในห้องมีตำรวจอยู่สองนายกำลังอ่านแฟ้มเอกสารบางอย่างอยู่ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คนหนึ่งเป็นชายมีอายุบุคลิกดีดูท่าทางอบอุ่น ดูก็รู้ว่าเป็น พันตำรวจเอกชาตรี เมฆาวานิชฒ์ ส่วนอีกคนหนึ่งมีใบหน้าละม้ายคล้ายกับปั้นหยาราวกับพิมพ์เดียวกัน ผิดเพียงแค่ว่าดูเข้มกว่าและมีตาที่คมกริบดุดันกว่าเท่านั้นเอง และภายในแฟ้มเอกสารที่อลันถืออยู่นั้นคงจะเป็นเรื่องที่เรียกให้เธอมาวันนี้แหงๆ

"สวัสดีคะคุณอา สวัสดีคะพี่อลัน มีธุระอะไรคะถึงเรียกปั้นหยามาที่นี่"

ปันหยายกมือไหว้คนทั้งสองด้วยความเคารพและนับถือ

"สวัสดีปั้นหยา พอดีอามีเรื่องอยากให้หลานช่วยนะ"

ผู้การชาตรีพูดแล้วหยิบแฟ้มเอกสารยื่นให้กับปั้นหยา

“ให้ปั้นปลอมตัวเป็นผู้ชายเข้าไปเป็นผู้จัดการวง THE EST (ดิเอส แปลว่าที่สุด) ที่สังกัดที่ค่ายxxx"

ปั้นหยาเปิดแฟ้มอ่านเนื้อหาหลักคร่าวๆ แล้วเงยหน้ามองทั้งสองคนสลับไปมา

"ใช่พี่อยากให้แกเข้าไปสืบคดียาเสพติดในค่ายเพลงนะ ซึ่งมีตัวบงการอยู่ที่นั้น แต่เรายังไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะสายรายงานมาแค่ว่า คนที่เป็นเอเย่นบอกมาอีกทีว่ารับมาจากในนั้น แล้วพอดีกับทางนั้นรับสมัครผู้จัดการวงพอดี พี่ก็เลยอยากให้แกเข้าไป"

อลันบอกแล้วเปิดเอกสารให้ปั้นหยาดูอีกที แล้วพยายามอธิบายให้ปั้นหยาเข้าใจ

“แล้วทำไมพี่ไม่ทำเองละคะ เค้ารับผู้ชายไม่ใช่หรอ”

ปั้นหยาเงยหน้าขึ้นถามอลัน ในใจนึกว่าเค้ามาใช้เธอทำไม ทำไมไม่ไปทำเอง ตัวเองก็เป็นผู้ชายอยู่แล้วจะมาใช้เธอให้ปลอมตัวให้ยุ่งยากทำไม

“ก็เพราะคนในนั้นเค้าจำหน้าพี่ได้หมดแล้ว เพราะพี่เข้าไปที่นั้นเพื่อสอบถามข้อมูลหลายครังแล้วนะสิ”

“พี่หน้าปั้นก็คล้ายกับพี่นะแล้วอีกอย่าง คนอื่นก็มีนี่ทำไมไม่ใช้ไปละ”

“จะทำรึไม่ทำ แต่คนที่จะงานนี้ได้มันมีแค่ปั้นเท่านั้นแหละ”

อลันพูดเสียงเริ่มแข็ง ก่อนที่จะคิดว่าคงต้องใช้แผนสำรองซะแล้ว เพราะปั้นหยาพยายามบ่ายเบี่ยง ตลอดเวลา

"มันจะดีหรอค่ะ ที่ผ่านมาปั้นไม่เคยปลอมเป็นผู้ชายซักครั้งเดียว"

"ถ้าตกลงกระเป๋าแบรนด์เนมใบละหกหมื่น กับทริปทัวร์ฮาวาย 6 วัน 5 คืนพี่ยกให้"

อลันใช้แผนสองหลังจากที่คิดว่าไม่มีทางที่จะกล่อมปั้นหยาสำเร็จ อลันจึงจำเป็นต้องเอาของมาล่อ เพราะรู้นิสัยของปั้นหยาดีว่า ปั้นหยาเป็นคนที่ขี้งกแบบสุดๆ

"ตกลงคะปั้นจะทำ"

ปั้นหยาตอบตกลงแทบจะทันที แค่กระเป๋าแบรนด์เนมก็จะตกลงแล้ว เธอถือซะว่าทัวร์ฮาวายเป็นของแถมแล้วกัน เห็นมั้ยอลันคิดไว้ไม่มีผิด

 

กลับมา ณ.เวลาปัจจุบัน

“ตายแล้วยัยงก นี่แกเห็นแก่ของฟรีขนาดนี้เลยหรอ พี่อลันก็อีกคน รู้ว่าน้องตัวเองขี้งกก็ยังจะเอาของมาล่ออีก”

มิรินพูดไปพร้อมกับเปิดแฟ้มเอกสารในมือที่ปั้นหยายื่นให้มาดูแบบเปิดผ่านๆ

“มันเผลอไปนี่น่า”

“โอ้ยแล้วแกรู้อะไรมั้ยสมาชิกวง THE EST นะทั้งโหด ทั้งดุไปที่ใหนก็มีแต่เรื่อง แถมยังเป็นพวกเจ้าชู้ตัวเอ้กอีก มีผู้หญิงตบเท้าไปเกยตื้นถึงที่นอนกันแทบทุกวัน ถึงพวกเค้าจะหล่อแบบสุดๆก็เถอะ แต่มันก็น่ากลัวอยู่ดีนั่นแหละ”

มิรินเอยถึงสรรพคุณสมาชิกวง THE EST แล้วเอามือลูบแขนตัวเองไปมา พูดซะจนปั้นหยารู้สึกกลัวใจตัวเองเหมือนกัน

“ไม่รู้แหละ ยังไงแกต้องช่วยฉัน“

“มันจะดีหรอไม่ไหวม่างแก”

มิรินเองก็นึกกลัวอยู่ในใจ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแค่ผู้ช่วยของปั้นหยาก็ตาม แต่งานนี้เธอคิดในใจว่ามันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิดเป็นแน่ เพราะหนึ่งในสมาชิกของวง มีคนที่ฉลาดเป็นกรดอยู่ด้วยนะสิ

“ถ้าแกช่วยฉัน ทริปทัวร์ฮาวายฉันยกให้ แกจะได้เอาไปทัวร์กับบรรดาหนุ่มๆ ในสต๊อกของแกไง”

ปั้นหยาตัดบทเสนอของรางวัลให้เพราะรู้ดีว่ามิริน นิสัยเดียวกับตัวเองเผลอๆ งกกว่าตัวเองด้วยซ้ำ

“ตกลง”

เห็นมั้ยปั้นหยาว่าแล้วเชียว

“ว่าคนอื่นงกแกงกยิ่งกว่าฉันอีกนะ”

ปั้นหยาส่ายหัวกับนิสัยของมิริน กับของตัว และคิดว่าคงไม่มีวันที่จะรักษาให้หายได้แน่ๆ

“แล้วแกจะต้องไปสมัครเป็นผู้จัดการวงวันใหน”

“พรุ่งนี้นะ พรุ่งนี้เค้ารับมัครเป็นวันสุดท้าย”

ปั้นหยาบอกกับมิริน แล้วตัวเองก็หยิบวิกผม มาลองสวมดู แล้วเอาเสื้อผ้าของผู้ชายที่ตัวเองพึ่งซื้อมา มาลองใส่

“หา แกว่าไงนะพรุ่งนี้เลยหรอ แล้วจะให้ฉันช่วยเรื่องอะไรบ้างละ”

“ถึงเวลาที่ต้องการฉันจะบอกเอง แต่ก่อนอื่นดูหน่อยว่าเหมือนผู้ชายรึยัง”

ปั้นหยาหมุนตัวไปรอบๆ เพื่อให้มิรินดู มิรินดูแล้วถีงกับเอามือมาปิดที่ปาก แล้วพูดอย่างทึ่งๆ ว่า

“หล่อวะแก หล่อมากนึกไม่ถึงว่าจะดูดีขนาดนี้นะเนี่ย ติดตรงที่หน้น้าหวานไปหน่อย นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้หญิงฉันจีบแล้วนะเนี่ย”

มิรินจับปั้นหยาหมุนไปหมุนแบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ว่าปั้นหยาจะปลอมตัวออกมาแล้วดูดีได้ขนาดนี้

“เออนี่ เอาเป็นว่าฉันขอตัวกลับก่อนแล้วกันมีเรื่องบางอย่างต้องเคลียร์ แล้วอีกอย่างแกจะได้พัก”

เมื่อมิรินเห็นว่ามันดึกมากแล้ว เลยขอกลับบ้านก่อน แล้วอีกอย่าเธอก็อยากให้ปั้นหยาพักผ่อนให้เต็มที่ด้วย เพื่อที่จะต้องไปเผด็จศึกในวันพรุ่งนี้

“เรื่องแอนนาน้องแกอีกนะสิ มิรินฉันว่าแกปล่อยๆ น้องแกบ้างก็ได้ ยัยแอนนามันก็อายุ 20 แล้วนะ คงไม่ทำอะไรไม่ควรหรอก”

ปั้นหยาเป็นห่วงเพื่อนเมื่อเห็นว่ามิรินดูจริงจังมากไป ที่ต้องจ้องคอยมาไล่จับยัยแอนนาน้องสาวตัวแสบที่ชอบหนีเที่ยวตลอดเวลา

“ไม่ได้หรอกแก ถึงมันจะโตแล้ว แต่ฉันก็ยังเป็นห่วงมันอยู่ดี ฉันกลัวว่าวันหนึ่งมันจะเสียใจนะสิ ฉันไปละ”

“ต้องการให้ช่วยอะไรก็บอกนะ”

“จ้าจ้า”

หลังจากมิรินไป ปั้นหยาพยายามข่มตาลงให้หลับแต่มันก็หลับไม่ลงซักที เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นมาแต่งตัว โดยที่เธอแต่งตัวแบบง่ายๆ  ปั้นหยาใส่เเค่เสื้อกล้ามกับเกงเกงยีนต์ขายาวขาดๆ แล้วก็ปล่อยผมออกจากการมัด แล้วเดินออกจากห้องไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา