The Last Night

9.2

เขียนโดย pyclub70

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.31 น.

  40 ตอน
  16 วิจารณ์
  31.88K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559 20.39 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

30) 026-ปริศนารานูนานุ(3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

026-ปริศนารานูนานุ(3)

 

 

 

        สายตาทุกคนเบิ่งออกไปไกลกวาดทั่วแน่ชัด มันคือสถานที่หนึ่ง มีสายน้ำตกไหลไม่ใหญ่มากหลายสายเรียงรายไร้ระเบียบ ไหลโผล่ขึ้นจากคลองขนาดกว้างแต่เรืองแสงฟ้าใสส่องยันเพดานและรายรอบ ทอดตัวคดเคี้ยวเป็นทางยาวอยู่เบื้องล่าง  ส่วนความสูงของริมตลิ่งลึกไม่มากเท่าไรพอเอื้อมมือลงไปสัมผัสได้ แต่ก็อันตรายพอสมควร กระแสสายน้ำในคลองไหลเอื่อยแทบหยุดนิ่งหากมองผิวเผิน เมื่อแหงนหน้ามองตามน้ำตกขึ้นไป พบเพียงแต่เพดานหินทึบๆกับปากช่องทางผ่านของน้ำตกที่ไม่รู้ว่ามันพุ่งขึ้นไปไหน

        อีกทั้งแผ่นดินในนี้ยังมีการแบ่งแยกกันออกไปด้วย ช่วงกลางบริเวณแบ่งแยกคล้ายเกาะแก่งคงเพราะถูกสายน้ำกัดเซาะ ยังดีที่มันเซาะได้ราวกับทำตามคำสั่ง สร้างเป็นสะพานหินคอยเชื่อมระหว่างกันมีทั้งเล็กและเล็กมาก แต่เลวร้ายเหลือหากสะพานหินเหล่านั้นบางแห่งมีน้ำตกไหลย้อนขึ้นพุ่งเสยเบียดเบียนทางเดินบนสะพานหิน ซึ่งทำให้สั่นคลอนพร้อมแตกหักได้ทุกเมื่อ

        ไม่ใช่แค่นี้ที่ดูแปลก หากเมื่อทั้งหกกระจายกันสำรวจรอบๆหลังเดินข้ามสะพานหินลำดับแรกมาแล้ว พบว่าบางจุด มีแผ่นหินจารึกตัวอักษรกูจากุขนาดเตี้ยป้อมสีเหลืองนวล ตั้งสะเปะสะปะ หลบสายตาพวกเขา เข้าอำพรางในกลางพุ่มไม้พุ่มใบสูงเอาการ และคอยหลอกตาด้วยสีของดอกสีของใบ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของพวกเขา

        ชาร์ลเริ่มเฉลียวใจว่ามันต้องเกี่ยวอะไรกับที่นี่..

         ขณะหนุ่มมาดผู้ดีก้มๆเงยๆ ครุ่นคิดตีความกับแผ่นหินจารึกนั่น เสียงจากโอ'เกนท์กลับดังลอยมาหลังจากเดินสำรวจไปไกลกว่าเพื่อนทางด้านซ้ายสุด สายทุกคู่เบนไปทางเขา

 

"ฉันเจอ.. บางอย่างเหมือนเบ้ากุญแจน่ะ"โอ'เกนท์ร้องพลางคุ้ยเขี่ยพงหญ้าหนาสูง"เฮ่.. ชาร์ลมาทางนี้ที"

 

        ไม่เพียงแค่ชาร์ลที่รีบเดินมา ทุกคนที่เหลือเร่งตามมาด้วยความอยากรู้ ครั้นเมื่อช่วยกันกำจัดพงหญ้าหนาสูงออกเสร็จสิ้นดี ทุกคนต้องพลันแหงนหน้าขึ้นเมื่อเบื้องหน้านั้นมันคือประตูหินบานคู่ยักษ์ใหญ่ สูงเฉียดเพดานสลักลายพิศวงเต็มบานและบานขวามีเบ้ากุญแจ ทำเอาแตกตื่นกันเลยที่เดียว

 

"นี่มันอะไรกัน"เพียล่าแปลกใจเอ่ยคำถามขณะเงยมอง"ต้องเข้าไปรึป่าวเนี่ย"

 

"กุญแจ..?"คาลาเนสเอียงคอสงสัยพลางลูบคลำลายสลักของประตู

 

"ถ้าไม่จำเป็นฉันว่า อย่าไปสนใจมันเลยนะ"ว่าเสร็จ ชาร์ลเดินหันกลับไปทางอื่น"ฉันจะหาเส้นทางไปต่อน่ะ ทุกคนก็เก็บรายละเอียดกันด้วยละกัน"

 

         เช่นนั้น ไม่มีใครส่งเสียง หากหลายคนเกิดงงงวยตีหน้านิ่งกับคำของชาร์ล และเริ่มตัดใจเรื่องความอยากรู้อยากเห็นว่ามีอะไรอยู่ในนั้น ขณะทั้งสี่ถอยหลังกลับห่างไปแล้ว ต้องหันขวับมาอีกครั้งหลังวิคเตอร์เอ่ยขึ้น

 

"หินที่เหลืออาจอยู่ในนี้ก็ได้นะ"เขาทำท่าทำหน้าเชื้อชวน"ใครจะไปรู้ล่ะ ใช่ไหม ยังไงก็หากุญแจ สำหรับเบ้านี่เผื่อไว้ด้วยละกัน"

 

         จบเสียง ทุกคนพยักหน้าให้หงึกๆก่อนแยกย้ายไปตามทางตัวเองเพื่อเก็บรายละเอียดของที่นี่ ส่วนวิคเตอร์เอาแต่ยืนจ้องประตูบานยักษ์สลับมองกับเบ้ากุญแจเพียงลำพัง เผยหน้าเคร่งในท่ากอดอก

         จนแล้วจนรอด ยังไม่ใครค้นพบทางไปต่อ เว้นแต่ชาร์ลกับโอ'เกนท์ ยืนข้างกันและมองสิ่งเดียวกัน ซึ่งมันดูน่าสงสัยมากสำหรับสายน้ำตกของพื้นที่นี้

         นั่นคือ..  ทางไปต่อเสมือนสะพานหินเล็กๆข้ามคลองไปยังอีกฝั่ง ทว่า มันถูกกั้นและบดบังด้วยน้ำตกไหลกราดย้อนขึ้นข้างบนลักษณะราวกับพายุพัด หากวิ่งฝ่าไปคงไม่รอดต้องถูกซัดลอยกระเด็นจมลงคลองเป็นแน่

         คมนัยน์ตาของทั้งสอง พยายามลอบสอดทะลุเข้าไปหวังจะเห็นอีกฝั่งให้ได้ แต่มันไม่ใช่ พวกเขาสองคนเห็นเพียงแค่สีของกระแสน้ำหมุนไหลเร็วเท่านั้นและเสียงซื่ดๆซ่าๆ ทั้งสองหันสบมองกันก่อนส่ายหน้าเบาๆแล้วเดินละไปทางอื่น

         ยังไม่ทันพ้นมาได้ถึงสามก้าว น้ำตกสายนั้นกลับชะลอลงจนหยุดนิ่งไหลย้อนลงคลองไปเสียดื้อๆ ชาร์ลรีบหันขวับไปพร้อมๆกับโอ'เกนท์ ก่อนทำหน้าตาดีใจราวกับเจอขุมทรัพย์พระราชา ทั้งสองยิ้มแป้นให้กันก่อนเดินกลับไปหวังต้องส่องให้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

         ก้าวไม่ทันได้ถึงฝั่งโน้น เสียงจากวูดตันดันดังแว่วหนวกหูมา

 

"เอ่อ.. คือ ฉันเผลอเหยียบไอ่เจ้านี่อ่ะ"วูดตันหน้ายิ้มแหย เอ่ยไปทางทุกคนพร้อมชี้นิ้วลงให้ดู"พอเหยียบมันก็จมลงไปเลย ค่ะ ค่ะ คือ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ"

 

            ไม่มีเสียงก่นด่าแก่ความเซอะซะของวูดตันดังขึ้นแต่อย่างใด หากทุกคนโดยเฉพาะชาร์ลกับโอ'เกนท์สนใจเป็นพิเศษ มุ่งเดินมามุงดูบริเวณริมกำแพงฝั่งตรงข้ามกับน้ำตกสายนั้น หลายปากต่างออกความคิดเห็นกันไปต่างๆนาๆ เพราะรูปทรงดูแปลกมากๆ

          มันคือ.. หินตัดเป็นฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตรงกลางมีทรงครึ่งวงกลมปูดขึ้นมาเล็กน้อย รายรอบด้วยเส้นศิลป์ยึกๆยือๆที่สกัดลงเป็นล่องบางส่วนลบเลือนหายไปบ้างตามกาล ขนาดโดยรวมเท่าๆคืบเห็นจะได้ แต่หากไม่สังเกตให้ดีมันก็ไม่ต่างกับพื้นและหินเกะกะสีเดียวกันในถ้ำนี้นัก

          ช่วงนี้ ขณะไม่มีใครทันได้สังเกต บนทางเดินข้ามสะพานจุดแรก กลับมีน้ำตกไหลย้อนขึ้นปิดทางสนิท

 

"อื่มมม.."ชาร์ลใช้มือทาบคาง เคร่งคิดเพ่งมองมัน"สลักผันน้ำรึป่าวนะ นายลองกระแทกหรือไม่ก็เหยียบดูอีกทีนะ"

 

        วูดตันผงกหัวเข้าใจว่องไว  ท่ามกลางสายตาทุกคนต่างลุ้นไปตามๆกันว่าผลจะออกมาเช่นไร วูดตันใช้สองมือของตนพยุงยกขาขึ้นแล้วกระทืบลงอย่างเต็มแรง

 

         ปึ่ก!!!     อ๊ากกก!!

......ผิดคาด ไม่มีสิ่งใดเกิด จะมีก็แต่อาการดิ้นขะเหย่งโหยงๆของวูดตัน ใช้มือตนเองนวดคลำเท้า ส่งสีหน้าเจ็บปวดถึงตับอย่างน่าเห็นใจหากมีสายตาใครบ้างก็ดี มองแล้วถามว่าเป็นไรไหม แต่..

 

"ดีนะ หินนี่ไม่แตกไม่ร้าว"โอ'เกนท์พรวดหน้ายื่นเข้าไปเพ่งตามองปริบๆ ก่อนชักกลับ"เอาไงดี ชาร์ล"

 

        ขณะนั้นวูดตันยังขะเหย่งเท้าก่อนคิดในใจ'เป็นห่วงทางนี้ก่อนดีไหม'

 

"วูดตัน นายลองเหยียบซ้ำอีกทีสิ"ชาร์ลบอก โดยยังไม่ได้เห็นอาการของวูดตัน คาลาเนสจึงสะกิดแล้วชี้ไป"อ่อ งั้น.. ฉันเองละกัน"

 

        ซึ่บ!!

ทรงครึ่งวงกลมเกิดการเคลื่อนตัวหลังถูกเหยียบเบาๆ โดยจมลงจนสุดและโผล่ขึ้นมาสูงกว่าเก่า

        ชาร์ลรีบชักเท้าออกว่องไวให้ทุกคนเห็นกันทั่ว ก่อนบ่ายหน้าไปยังสะพานหินอันเดิมพลางชี้ให้ทุกคนมองตาม ..ไม่กี่นาน น้ำตกกลับพุ่งพรวดขึ้นดังเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งสี่เข้าใจถ่องแท้ว่ามันมีวิธีการทำงานอย่างไรของสลักผันน้ำ เว้นแต่..

 

"แล้วมันมีประโยชน์อะไรล่ะ"คาลาเนสถามจากความงงเกาหางคิ้วเฉื่อยๆ

 

        ชาร์ลไม่ตอบอะไร เพียงแค่เหยียบมันลงไปใหม่หนึ่งครั้งน้ำตกก็หยุดไหล พลันส่งยิ้มให้เด็กชายที่ยังเบ้ปากและหัวคิ้วชนกันมองตามไป คาลาเนสพอเข้าใจอยู่บ้าง แต่ยังงงว่าทำไปแล้วจะได้อะไร

        ชาร์ลแสดงคำตอบอีกครั้ง โดยการเดินข้ามผ่านสะพานหินนั้นไป พร้อมกับโอ'เกนท์ แล้วควักมือเรียกให้ที่เหลือเดินเรียงกันมา 

        แต่ก่อนไป ดวงตาของวิคเตอร์ทีแรกกะมองยังประตูบานยักษ์อีกครั้ง หากสายตาบังเอิญหันกลับมองยังจุดแรกของสะพานหินที่ข้ามมา พลันร้องตะโกน

 

"ทุกคน ทางที่เราเข้ามาถูกขวางไปด้วยน้ำตกแล้ว"เขาร้องด้วยสีหน้าเรียบ เบนนิ้วชี้ไป"ไม่เป็นอะไรใช่ไหม"

 

        กระแสเสียงวิคเตอร์หนักแน่นสมชาตินักรบ ชาร์ลยินชัดรีบตะโกนกลับมาว่า"ไม่เป็นอะไร" และเรียกให้เขาตามมาโดยด่วน

 

        มาถึงพื้นที่ถัดมาได้ หลายคนต่างพบว่าไม่ได้ต่างอะไรกับพื้นที่เมื่อครู่นี้มากนัก หากมีทุกสิ่งอย่างเกือบคล้ายกันหมด อาณาบริเวณช่วงกลางนั้นกว้างกว่ามาก ต่างกันก็แต่ตำแหน่งที่ตั้งของสะพานหินและสายน้ำตกที่ขวางทาง แต่ซับซ้อนมากกว่าเก่า 

        คงไม่มีรอช้า เพื่อค้นหาคำตอบ ทั้งหมดฝืนกายอย่างจำเจ เร่งกระจายสำรวจเก็บรายละเอียดกันต่อทันที 

         เวลาเริ่มกินเกี่ยวเกือบเข้าคาบฟ้าสาง ครั้งสำรวจทั่วครบจรดทุกตารางวาแล้ว ชาร์ลเจอสลักผันน้ำทั้งหมด3จุด วูดตันเจอ1จุด คาลาเนสเจอ3จุด เพียล่า1จุด แต่ละคนตดจำได้แม่นว่ามันควบคุมน้ำตกสายไหนบ้างเมื่อครั้งทดลองเปิดปิดสลักกันอย่างเมา คงสนุกมากทีเดียว หากคาลาเนสสีหน้างงทั้งเหยียบทั้งกระทืบไม่หยุดจนสีหน้ายิ้มเป้ย.. 

         ส่วนโอ'เกนท์ เจอแต่แผ่นหินสลักอักษรกูจากุ ในบริเวณกลางพงหญ้าหนาทึบหลังพุ่มไม้อีกชั้นหนึ่งบังเบียดไว้อย่างเหลือเชื่อหากเขาแน่ใจว่า มันคงไม่มีอีกแล้วที่ซอกหลืบใด

         พวกเขาเข้ารวมกลุ่ม พลันแลกเปลี่ยนความรู้กัน ก่อนเกิดการทดลองสลับเหยียบสลักผันน้ำของกันและกัน เพื่อหวังหาทางไปต่อและเรียนรู้ข้อจำกัดของมัน ซึ่งไม่มีจุดไหนเลยที่กระทำแล้วจะพบทางไปต่อหากแต่ยังเป็นการทำให้สับสนขึ้นอีกด้วย ชาร์ลขมวดคิ้วแน่นก่อนตัดสินใจเร่งเรียกให้ทุกคนมาชุมนุมกันยังใจกลางพื้นที่อีกครั้ง

 

"พื้นที่ที่แรก ฉันขอเรียกว่าพื้นที่เริ่มต้น ส่วนพื้นที่นี้ ฉันขอเรียกว่าพื้นที่2 ในตอนนี้เราจนหนทางไปต่อ ส่วนอักษรบนแท่นนั่น ฉันว่ามันต้องบอกรายละเอียดการผันน้ำแน่ๆ แต่ปัญหาคือฉันอ่านไม่ออก"ชาร์ลเน้นเสียงเข้ม พลางวาดแผนภูมิของพื้นที่นี้ลงดินอย่างหยาบๆ"แต่เดี๋ยวนะ คือ.. ฉันอยากให้ทุกคนกลับไปตั้งสถานะของสลักผันน้ำให้เหมือนกันให้หมด คือให้ทรงครึ่งวงกลมยกขึ้นสูงสุด เพราะ ฉันสังเกตเห็นว่า ที่ปลายสุดพื้นที่นี้มีทางไปต่อ"ชาร์ลคาดการณ์ ก่อนชี้ไปยังฝั่งขวาสุด บางคนชะเง้อคอตาม บางคนหันไปมอง"นั่น ตรงนั้น คือทางไปต่อ ฝากด้วยนะทุกคน"

 

        คำพูดชาร์ลดูทรงพลัง ทุกคนรีบแยกย้ายกลับไปยังจุดเดิมของตนที่พบสลักผันน้ำ และเปลี่ยนมันให้เป็นสถานะเดียวกันทั้งหมด

        หลังทุกคนส่งสัญญาณมือ ว่าเตรียมพร้อมรอรับการสั่งการ ครั้นแล้ว สายตาหนุ่มมาดผู้ดีจึงกวาดมองทั่วทุกสายน้ำตก พร้อมจดจำได้อย่างอัตโนมัติถึงการสลับไหลและหยุดลง จากนั้น เขาจึงออกคำสั่ง

 

"ฟังนะทุกคน!"ชาร์ลผายมือทั้งสอง พร้อมเปล่งเสียง ทั้งห้าหันมองชาร์ลรวมเป็นตาเดียว"สลักผันน้ำมีทั้งหมด8จุด ให้ทุกคนประจำที่ตามตำแหน่งบริเวณที่พบเจอสลักผันน้ำด้วย  คาลาเนส! นายเหยียบสลักทางขวาลงซะ!"เด็กชายเอื้อมขาเข้ากระทำโดยพลัน ชาร์ลจึงก้าวขามาเหยียบสลักข้างหน้าของตนลง ซึ่งทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของสายน้ำตกถึง4สาย โดยสลับกันระหว่างหยุดเป็นไหลและไหลเป็นหยุด

 

"เพียล่า!เหยียบสลักลงเลย! โอ'เกนท์! นายไปยืนตรงนั้นนะ.. คอยชะเง้อมองและรายงานฉันว่าน้ำตกก่อนสายสุดท้ายหยุดรึยัง! วิคเตอร์! นายคอยเฝ้ามองพื้นที่อื่นๆว่ามีการเปลี่ยนแปลงบ้างไหม! "ชาร์ลด่วนชี้มือชี้ตำแหน่ง หนุ่มร่างท้วมผงกหัวหงึกๆก่อนกระวีกระวาดย้ายร่างไปตรงนั้น ส่วนวิคเตอร์ไม่ได้ขยับกายแต่อย่างใดหากสายตากลับกลิ้งกลอก" คาลาเนส! นายเหยียบสลักทางซ้ายได้เลย! เพียล่า! เธอต้องเหยียบซ้ำอีกครั้งนึง!"จากนั้น ชาร์ลได้เร่งเหยียบสลักทางซ้ายและรอผลลับให้คาตา ทว่า สายน้ำตกกลับมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่คงยังไม่มากพอจะไปต่อได้

 

"น้ำตกสายนั้นหยุดไหลไหมโอ'เกนท์"ชาร์ลตะโกน ก่อนมีเสียงตอบมาว่า"ยัง!!"

 

         เช่นนั้น ชาร์ลหยุดนิ่งก้มหน้าคิด เริ่มใช้สมองประมวลผลอีกครั้ง สายตาทุกคู่มองกลับมาด้วยความเชื่อมั่น สีหน้าและแววตาเปร่งประกายของทุกคนเผยไปยังชาร์ล เป็นการบ่งบอกได้ดีว่าพวกเขาเชื่อใจเพื่อนคนนี้มากแค่ไหน

        หลังเงยขึ้น ชาร์ลเมียงมองไปรอบๆแล้ว เห็นสายตาพวกเขาเหล่านั้นส่งมา พลันรับรู้ได้ว่านี่คือกำลังใจแฝงความหวัง สมองของหนุ่มมาดผู้ดีเร่งประมวลผลอย่างฉับไวและเด็ดขาด  จนถ่ายทอดออกเป็นคำพูด

 

"คาลาเนส! เหยียบสลักทางขวาอีกครั้ง! วูดตัน! นาย เหยียบลงแล้วรอให้มันจมลงก่อน แล้วเหยียบซ้ำทันที! ส่วนฉันจะเหยียบสลักทางขวา"ชาร์ลกร้าวเสียงหนัก หลังวางกระบวนการดั่งอ่านมันออกได้อย่างทะลุหมดไส้หมดพุง พร้อมลุ้นว่าคงเป็นดั่งใจหวัง"โอ'เกนท์น้ำตกสา...."

 

เสียงชาร์ลขาดหายหากถูกแทรกด้วยเสียงโอ'เกนท์"เฮ่ย!! ชาร์ล มันหยุดไหลแล้ว วะฮ่าๆๆ"หนุ่มร่างท้วมยิ้มย่อง ก่อนหันมองชาร์ลขณะยังเผยสีหน้าเอาจริง

 

"เป็นไปตามคาด เอาล่ะ! ฟังนะ!"ชาร์ลตะโกน โดยมีสายตาทุกคู่จับจ้องมา"ฉันจะเหยียบสลักตรงหน้า คาลาเนส นายจะต้องเหยียบสลักทางขวา ส่วนเพียล่า เธอจะต้องเหยียบสลักนั่นซ้ำอีกครั้ง แต่!! พวกเราทั้งสามจะต้องเหยียบพร้อมกัน พร้อมไหม!!"ชาร์ลสลับมองเพียล่ากับคาลาเนส

 

"5..!!"ชาร์ลเกริ่นนำ

 

"4..!!"โอ'เกนท์ช่วยนับตามพร้อมกับวูดตัน

 

"3..!!"เพียล่านับหน้านิ่งมองมายังชาร์ล

 

"2..!!"คาลาเนสนับพร้อมยกเท้าจ่อสลักผันน้ำ

 

"1..!!"ชาร์ลและวิคเตอร์ว่าดังลั่น ด่วนลอบมองทุกคนที่ลอบมองตอบมาเช่นกัน พลันเหยียบสลักผันน้ำลงอย่างพร้อมใจกันทันที

 

         สิ้นความเอื่อยชาของสลัก ทว่า สายน้ำตกกลับหยุดไหลและสงบลงยังคลองหมดทุกสาย ส่งให้พื้นที่นี้ดูแปลกตาทันที รอยยิ้มเผยอออกบนใบหน้าอาการดีใจพร้อมท่าทีหลากหลาย ความเหนื่อยล้ากดดันหายคลายปลิดทิ้งและเสียงปรบมือดังขึ้นไปทางชาร์ลทั่วพื้นที่ ทุกคนเร่งเดินหาเขาและกล่าวคำยกย่องเชิดชู บรรายายกาศชื่นมื่นทันที

 

"ฉันไม่ขนาดนั้นหรอกหน่าา ชมกันเกินไปแล้ว"ชาร์ลยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย พลางก้มหน้าทำท่าจับๆกระดุมคอเสื้อเพื่อแก้เขินแก้อาย ก่อนชวนทุกคนทรุดนั่งจับเข่าคุย พูดถึงเรื่องการไปต่อและตามหาเนเน๊ะ

 

        หลังทุกคนวางแผนร่วมกันแล้ว เมื่อเดินพ้นพื้นที่นี้มาได้ ทั้งหลายต่างหมายหน้ามุ่งมายังพื้นที่ถัดไปทันที 

        ครั้นมาถึง นัยน์ตาทุกคู่ทั้งกวาดปราย ทั้งเหลือบขึ้นและหลุบมอง พบว่ามันไม่มีอะไรต่างกันเลยสักนิดสำหรับพื้นที่ที่ผ่านมา แต่สุดทางซ้ายเยื้องกลางมีโขดผาสูงชันสองฝั่ง บีบบังคับให้ทางเดินช่วงกลางตรงนั้นแคบลงกว่ามากหากเทียบกับบริเวณอื่นๆ

        แม้กระนั้น ชาร์ลกลับคิดว่า มันต้องมีอะไรบางอย่างลึกลับซ่อนอยู่เป็นแน่ หากซอกโสตตรรกะจะหยั่งถึง ช่วงนั้น เขาประกาศลั่นว่านี่คือพื้นที่3

        เริ่มสำรวจกันอีกครั้ง ในพื้นที่นี้ ซึ่งชาร์ลเรียกมันว่าพื้นที่3  มีบางอย่างหล่นหายไปหลังเขาสำรวจไปได้ไกลกว่าคนอื่นๆ

        ระหว่างชาร์ลเดินบนทางบีบแคบอันทอดยาว เขามองออกไปทางซ้ายและขวา ถึงได้พบสิ่งที่หล่นขาดไป นั่นคือ สายน้ำตกลดจำนวนลง แต่แทนที่ด้วยสายทรายตกหลายสาย หล่นลงสู่เบื้องล่างอันมืดมิดหลังชะเง้อมองตามจนใจหวิว หากพลัดตกลงไปคงศพสูญหายแน่ๆ พอแหงมมองด้านบนก็มืดมัวหาไม่เห็นช่องแสงส่งมันลงมา พอมองออกไกลแสงเรืองฟ้าเริ่มสลัว  

         ช่วงนั้นไม่หวั่นใจเลยแม้แต่น้อย เขาเดินต่อไปอีกครู่ ผ่านทางแคบมาจนถึงลานกว้าง  ที่ส่วนปลายสุดยื่นออกไปเป็นชะง่อนผา ทว่า ฝั่งตรงข้ามออกไปไกลเหยียด กลับมีผาหินสูงชันเซาะแซมด้วยช่องหน้าต่างเป็นบางจุดช่างน่าอลเวงหากพื้นที่นี้ กลับมีสีของฝุ่นทรายและสายทรายตกเรืองแทนแสงสีฟ้า ด้วยแสงสีน้ำตาลใสส่องพอประทัง

         ชาร์ลกอดอกเหม่ออยู่นาน ก่อนละไปด้านขวา ปลายสุดเป็นทางเดินคับแคบริมผาคล้ายถูกแทะอย่างบังเอิญ ด้านซ้ายเป็นแหล่งชมสายทรายไหลลงจากเบื้องบนสู่เหวเบื้องล่างอันมืดมิด ด้วยทางเดินมันจำกัดขอบเขตทางแคบริมผาฝั่งซ้าย ได้ทลายลงไปนานแล้วหากสังเกตรอยแตกของชั้นหิน 

        ชาร์ลชั่งใจแว่บเดียว โดยเลือกไปทางขวา ถึงรู้ว่ามันลำบากเพียงใดแต่สำหรับทุกคนแล้วจึงต้องไป  ซึ่งแม้จะทุลักทุเลฝ่าฟันอย่างยากลำบากก็ตาม

 

"ฮึ่ย..!!"ขาของชาร์ลข้างหนึ่งเหยียบพลาด ก่อนชักกลับขึ้นมาได้"เกือบไปแล้วสิเรา"

 

         หากเขาพลาดขึ้นมาคงต้องเป็นผีเฝ้าหุบเหวแน่  หลังปาดเหงื่อขณะนั่งหยุดพัก ชาร์ลหายใจระรัว มองลงยังด้านล่างบอกตัวเองว่าพอก่อน เขาพักหยุดตรงหน้าสายทรายตกสายหนึ่งอันน่าหลงใหล ยื่นหลังมือไปสัมผัสกับมัน ความรู้สึกอุ่นและหยาบกระด้าง บอกความแก่เขาว่าข้างบนต้องเป็นทะเลทราย

 

"แต่ทำไมมันถึงอุ่นล่ะ"เขาชักมือกลับพร้อมเงยขึ้น"นี่เป็นช่วงกลางคืนอยู่นะ"

 

         เคร่งคิ้วอยู่นาน ชาร์ลคาดว่าตนและคณะ คงไม่ห่างจากปากถ้ำหรือทางออกเท่าไรแล้ว หากแต่ยังประหลาดใจไม่ส่างกับที่มาของมัน

"แต่ช่างเถอะ" บอกเขาตัวเองก่อนค่อยๆระวังเดินกลับ

 

        ครั้นจะเรียกให้ทุกคนตามมา ทว่า ตนนั่นแหละ ที่ต้องไปหาพวกเขาซึ่งจดๆจ้องๆพลางชี้นิ้วออกไปมาพร้อมขยับปากส่งเสียงดั่งเชียร์มวย พวกเขากำลังสนใจพร้อมแตกตื่นอะไรบางอย่างของอีกฟากฝั่งนั้น

        ขณะกำลังวิ่งมาหลังผ่านทางแคบหฤโหดแล้วจนถึงลานกว้าง ชาร์ลเชยหน้าเลื่อนตำแหน่งสายตามองสูงตลอดทาง เมื่อมาถึง เขายังเงยหน้าเพ่งตาตามคณะคนมุง ยังไม่ทันได้ตั้งคำถามและหายหอบแฮ่ก โอ'เกนท์ยกมือตบไหล่เขาพูดพรวดออก

 

"ตรงนั้น มีบางอย่างเคลื่อนไหวน่ะ ราวกับว่ามีใครสู้กันอยู่บนนั้น"โอ'เกนท์ดึงหน้าชาร์ลแนบหน้าตน ก่อนพุ่งนิ้วชี้ไปยังช่องว่างระหว่างเสาค้ำถ้ำด้านบนอีกฟาก อันอบอวลด้วยฝุ่นตลบฟุ้งกระจายแผ่มายังช่วงกลางหุบเหว จากเสียงอึกทึกดังแผ่วอย่างเนืองๆ

 

"มันเร็วมาก พวกเราเลยไม่รู้ว่าเป็นใคร"วูดตันสำทับขณะยังมองกลุ่มฝุ่นฟุ้ง

 

         หากไม่แปลกอะไร หากพวกเขาไม่ให้ความสนใจ ชาร์ลส่ายหน้าระอา พลางคิดว่าไม่ควรเสียเวลากับสิ่งนั้นที่ไม่ได้สาระอันเป็นประโยชน์ต่อกลุ่ม แววตาเขาขุ่นเคืองเล็กน้อยก่อนตบมือขึ้น2ฉาบ แปะๆ เป็นเหตุให้ทุกคนเหลียวมองเรียวปากเขา ที่เริ่มขยับพ่นเสียง

 

"ทางข้างหน้าด้านขวาและซ้ายมีสายทรายตก ซึ่งฉันคิดว่าทางออกคงอยู่ในพื้นที่3นี่ล่ะนะ ยังไงก็รีบๆกันหน่อยแล้วกัน นี่ก็เลยค่อนคืนมาไกลแล้วด้วย"ชาร์ลกล่าวแทรกหวังขัดจังหวะ ให้ทุกคนพึงระลึกว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่กันแน่"ปริศนารานูนานุ ตามหาหินและตามหาเนเน๊ะ นั่นคือสิ่งที่ควรคิดได้เป็นสิ่งแรก"

คำกล่าวนั้นดั่งไร้ความหมาย เมื่อสายตาของที่เหลือเลื่อนมามองยังเขาแว่บเดียว ก่อนจดจ้องไปยังด้านบนเช่นเดิม

 

         วิคเตอร์ฟังแล้วต้องเบ้ปาก กับคำของชาร์ลที่ดูเกินจริงจนไม่สนใจเหตุการณ์อะไรในระหว่างทาง ที่สามารถยกเทียบความสำคัญได้พอกันกับสองสิ่งนั้น หรือบางที ไม่แน่ว่าสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายอาจเปลี่ยนชะตาพวกเขาไปเลยก็ได้

        วิคเตอร์เตะฝุ่นหนึ่งครั้ง พร้อมทำหน้าหน่าย ก่อนละความสนใจจากตรงนั้นแล้วเดินกลับไปยังทางเดิมเพียงเดียวดาย โดยไม่มีใครสนใจเขา

 

        สำรวจยังไม่ทันถ้วนถึงสองชั่วโมง การสำรวจต้องประสบความล้มเหลวอย่างไร้ข้อแก้ตัวหากเทียบกับพื้นที่ที่ผ่านมา ไม่มีใครพบสลักผันน้ำหรืออย่างอื่นใดอันน่าสงสัย

        มีเพียงฝุ่นทรายกับต้นกระบองเพรชเก้งกัง พร้อมสมุนวัชพืชเท่านั้นที่พบเจอตามจุดต่างๆ ส่วนปลายของหลายบริเวณพบเป็นทางตันไม่สนิท หากเพียงมีสะพานหินในช่วงค่อนซ้ายลึกลงหลืบลับเพียงหนึ่งเดียวเกือบชนโขดผา อันมีน้ำตกไหลย้อนรุนแรงขึ้นด้านบนราวกับห่ามรสุมบดบังปากทางสะพานหินดูคล้ายปีศาจ

         ส่วนช่วงบริเวณที่มีสายทรายตก เป็นเพียงแค่ทางเดินแคบๆเลาะริมผาไปสุดทางตันร้างๆ ฝั่งตรงข้ามนั้นกลับมีลักษณะใกล้เคียงกับฝั่งนี้หากแต่มันอยู่ห่างกันเกินไป หมดหวังจะกระโดดข้ามไปได้ ทว่า ครั้งเมื่อมองลึกลงไปคงยากจะคะเนขนาดความสูง ที่มีความมืดบดบังและเร้นบางอย่างไว้ในเบื้องลึก

        หลังทุกคนหันหน้าใส่ไปทางชาร์ล ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่ทุกคนแย้งขึ้นมาด้วยเสียงหืดหอบให้ชาร์ลได้ฟังกับการสำรวจของพวกเขา หนุ่มมาดผู้ดีเปลี่ยนท่าทีเป็นใจเย็นลง ชาร์ลรับรู้อย่างจงใจ ได้แต่พยักหน้ารับฟังโดยไม่เอ่ยขัด เพราะหากออกพูดอะไรไปอีกสถานการณ์คงเลวร้ายขึ้นแน่

        และเช่นกัน พวกเขาอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไม่ต่างอะไรกันเลยรวมทั้งเขาด้วย สีหน้าค่าตาหลายคนเหนื่อยหน่ายกันเต็มทน ความเงียบมาเยือน ความน่าอึดอัดจับตัว ความกดดันสิงสู่ราวกับระเบิดพร้อมปะทุได้ทุกเมื่อหากใครจุดฉนวน

        เสียงอึกทึกฝั่งตรงข้ามสงบลง ทุกคนพลันหาที่เหมาะ ทรุดตัวลงนั่งพักเหนื่อย ซึ่งรวมตัวกันอยู่บริเวณลานกว้างช่วงทางแยกไปยังสายทรายไหลด้านซ้าย

 

         เว้นแต่ วิคเตอร์หายลับไป โดยไม่มีใครทันเฉลียวมอง เพียล่านึกได้ ประโยคคำถามด่วนเอ่ยดัง.. ทว่า คำตอบที่ได้คือการส่ายหน้าไปมาพร้อมคำว่าไม่รู้ ช่วงนั้น ไม่มีใครแตกตื่นหรืออยากหาคำตอบ มีเพียงสายตาสาดส่องพร้อมอาการชะโงกร่างยึกยื้อเท่านั้น

 

         วิคเตอร์เดินเพลินถึงยัง ประตูบานยักษ์ในพื้นที่แรกอีกครั้ง มองด้วยความคิดอะไรบางอย่างอันแฝงในภายใต้สีหน้าแสยะยิ้ม ครู่เดียว เขาชักดาบออกมา หวดกลางร่องระหว่างประตู หวังให้มันขยับแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี แต่ผิดหวัง มันไม่ขยับเลยสักนิด นั่นคงหยุดยั้งความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ไม่ได้ วิคเตอร์กระหน่ำดาบลงหลายปังใส่ไม่ยั้งจนหมดแรงกล้าม ผลลัพธ์ยังคงเดิม ประตูไร้ปฏิกิริยาใดๆทั้งสิ้นหากแต่มีรอยดาบราวกับแมวแข่นเท่านั้นบนประตู

          วิคเตอร์เก็บดาบลงฝัก สีหน้าเขาบ่งบอกถึงการถอดใจเห็นได้ชัดด้วยความไม่อยากแยแสมันแล้ว ก่อนเตะมันอย่างหงุดหงิดไปหนึ่งเปรี้ยงแล้วจากหนี เดินเซ็งกลับไปหาทุกคนเร็วรี่

 

         ระหว่างทางกลับ ขณะไม่ทันได้สังเกตหรือเอะใจอะไร ใครคนหนึ่งพยายามหอบหิ้วร่างตนเองให้หยืดยืน อยู่เบื้องหลังสะพานหินจุดแรกอันมีสายน้ำตกสวนวนขึ้นด้านบน ใครคนนั้นใช้มือข้างหนึ่งค้ำผนัง สายตาแลตามหลังร่างวิคเตอร์ไปจนลิบ ก่อนเขยื้อนเรียวปากอันสั่นเทาไร้เสียง  อ่านได้ว่า''วิคเตอร์'' ทันใด ร่างนั้นกลับคว่ำหน้าล้มลงไปคล้ายคนอดอาหารมาแรมปี

 

 

         ..ไม่เป็นไปตามหวัง ชาร์ลขมวดคิ้วคิดขณะเดินกลับไปกลับมาอย่างน่ารำคาญในสายตาสาวนักรบ ไม่นาน เพียล่าทนไม่ไหวลุกพรวดขยับร่างขวางและสบตาเขา ชาร์ลชะงักกึกก่อนเหลียวซ้ายบ่ายมองพื้นไม่กล้าสู้ตา หยุดนิ่งได้ประมาณ5วินาที ชาร์ลพลั้งพลันเป็นฝ่ายหันหลังให้สาวนักรบ ย่างกายกลับหลังถอยห่างไป เพียล่ามองตามแต่หาได้ตั้งคำถาม ทุกคนได้เห็นชัดเลยพากันเงียบเชียบ ยากจะมีใครปริปาก

        สถานการณ์ในตอนนี้ คลุมเครือไปด้วยความมืดหม่นและสับสน อาการกับสีหน้าแต่คนล่ะคนไม่สู้ดีนัก คาลาเนสคิดได้จึงปลีกตัวออกไปพร้อมกับวูดตันอย่างบังเอิญ หากแต่ไปกันคนล่ะทาง ทว่า.. ความเงียบนั้นด่วนจากด้วยเสียงของโอ'เกนท์ที่สีหน้าเข้มคลั่ง

 

"ทางออกๆๆๆๆ"โอ'เกนท์กุมหัวพูดรัวๆ ก่อนลุกยืนแอ่นตัวร้องตะโกน"ทางออกอยู่ที่ไหนนน!!"

   

 

     

 

       

 

          

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา