กาลกิริยา ผู้เสพดวงวิญาณ

-

เขียนโดย khunkhim

วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.00 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,079 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) กฎข้อที่ 1 ห้ามเก็บดวงวิญญาณคนตายที่ยังไม่สิ้นอายุ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากที่เมื่อวาน ผมถูกลาสลากไปเดทคู่กับเพื่อนของแฟนสาวของตัวเองอย่างพิมพ์แล้ว ผมก็ต้องออกจากร่างไปเก็บดวงวิญญาณที่หมดอายุไขต่อ เชื่อเถอะว่าเมื่อคืนนี้ผมแทบไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ แถมเช้ามาผมก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยในภาคเช้าอีกต่างหาก เพราะเหตุนี้เอง สภาพของผมถึงได้ดูเหมือนซากศพเดินได้แบบนี้

“อะไรกันเนี่ยไนท์ ทำไมสภาพนายถึงได้เหมือนซอมบี้แบบนี้ละ” ลาสเอ่ยถามหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำ ยังจะมาถามอีก เพราะนายนั้นแหล่ะฉันถึงได้ไม่มีเวลานอนแบบนี้

“นอนไม่เพียงพอน่ะ ช่างมันเถอะ”ผมพูดแค้นั้นก่อนจะลุกจากเตียงของตัวเองไปที่ห้องน้ำอย่างโซซัดโซเซ

“อ้าวๆ จะไหวไหมนั้น” ลาสเดินตามหลังผมอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร ฉันสบายดี” ผมพูดก่อนจะเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ

หลังจากที่ชำระล้างร่างกายของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ผมก็ลากสังขารของตัวเองไปเรียนโดยมีลาสเป็นคนคอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆ

“ฉันว่านายน่าจะนอนพักนะ ดูแล้วไม่น่าจะรอด” ลาสพูดพร้อมกับส่ายหัวไปมาอย่างเอือมระอา

“ฉันไม่เป็นไรน่า เรื่องแค่นี้เอง ทำอย่างกะฉันไม่เคยเป็น” ผมพูด ใช่แล้วละครับ ผมน่ะเจอปัญหาเรื่องนอนพักผ่อนไม่เพียงพอมาตั้งแต่ผมได้รับหน้าที่ให้เป็นกาลกิริยามาจนถึงทุกวันนี้ บางทีผมก็เคยคิดนะว่า ทำไมกาลกิริยาถึงไม่มีพลังเวทย์มนต์อย่างอื่นบ้างนะ อย่างเช่นพวกพลังฟื้นกำลังอะไรแบบนี้ อย่างน้อยๆก็น่าจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอแบบที่ผมกำลังเป็นอยู่ได้บ้าง

“เฮอ ตามใจแล้วกัน แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆก็บอกฉันแล้วกันนะ” ลาสพูดพร้อมกับตบไหล่ผมเบาๆ

“อืม ขอบใจว่ะเพื่อน” ผมกล่าวขอบคุณจากใจจริง ลาสเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ ถึงแม้บางครั้งจะเอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย (อย่างเช่นเรื่องเดทคู่--) แต่ลาสก็เป็นเพื่อนคนเดียวที่ผมไว้ใจและพอจะพึ่งพาได้ในยายลำบาก

“เฮ้ย! ไม่เป็นไร แค่นายไปเดทคู่กับพวกฉันเป็นประจำก็ โอเคแล้ว ฮ่าๆๆๆ” เอิ่ม............ ผมว่าผมขอถอนคำพูดดีกว่า ไอ้หมอนี้มันไม่ใช่เพื่อนที่ดีหรอก มันร้ายกาจมาก-__-;

“กรี๊ด!!!!”

ระหว่างที่พวกผมกำลังจะเดินเข้าไปที่อาคารคณะ ก็มีเสียงกรี๊ดของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ผมกับลาสรีบวิ่งเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น และสิ่งที่พวกผมเห็นก็คือ.....เลือด!!!

เลือดที่ไหลออกมาจากร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนราบไปกับพื้น ผมรีบวิ่งเข้าไปก่อนจะเอามือแอบที่ลำคอของเธอคนนั้น และได้พบว่า.....

“เธอตายแล้ว” ผมกล่าวและหันไปทางลาสที่กำลังมองผมด้วยสายตาที่หวาดกลัว “ลาส นายไปตามอาจาย์กับ ร.ป.พ มาที่นี่เดี๋ยวนี้”

“ดะ ได้” ลาสรับคำก่อนจะวิ่งออกไปจากที่เกิดเหตุ ผมหันมาสนใจผู้หญิงตรงหน้า ก่อนจะเริ่มหาสาเหตุการตายของเธอ และพบว่าเธอมีแผลที่ถูกแทงด้วยของบางอย่าง ที่มีลักษณะเป็นแฉกห้าแฉก คล้ายๆกับซ้อมแต่มีขนาดใหญ่กว่านั้น

“นี่มันอะไรกันเนี่ย รอยแผลแบบนี้มัน....”

“เล็บน่ะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลังของผม ก่อนจะปรากฏร่างๆหนึ่งที่กำลังก้าวออกมาจากจุดที่ไม่มีแสง

“อีพี” ผมเรียกชื่อของเธอ เธอคือเพื่อนสาวของพิมพ์ แฟนสาวของลาส และพวกเราพึ่งจะได้รู้จักเธอเมื่อวานนี้เอง

“นี่ฝีมือเธอเหรอ” ผมถามอย่างใคร่รู้ แต่เธอกลับไม่ตอบคำถามของผม กลับฉีกยิ้มที่มุมปากบางๆก่อนจะกล่าวว่า

“ใครจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ตายด้วยฝีมือของใคร” เธอกล่าวก่อนจะเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างผมแล้วกล่าวต่อว่า “บางที อาจจะเป็นนายก็ได้ที่ฆ่าเธอ”

“ฉันเนี่ยนะ” ผมกล่าวถาม

“ใช่ คนของพวกนาย ‘กาลกิริยา’”

ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอรู้ได้ยังไงว่าผมเป็นกาลกิริยา เรื่องนี้ผมไม่เคยบอกใครแท้แต่ลาสเพื่อนสนิทของผมเอง หรือว่า....เธอเองก็เป็นกาลกิริยาเหมือนกัน

“ทำไมเธอถึงได้....”

“รู้งั้นเหรอ” เธอพูดออกมาก่อนที่ผมจะกล่าวจบ “ก็เพราะว่าฉันเป็นยมทูต คู่หูของนายไง” เธอกล่าวก่อนจะยิ้มที่มุมปากตามสไตล์ของเธอ

“ยมทูต?”

“ใช่ อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ ว่ายมทูตกับกาลกิริยาจะต้องทำงานร่วมกัน นายเป็นคนเก็บดวงวิญญาณ ฉันคือคนนำทางดวงวิญญาณที่นายเก็บได้ไปในที่ที่ควรไป” เธอหันมาถามผม ซึ่งผมก็ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากส่ายหัวไปมาเพื่อบ่งบอกว่า ผมไม่รู้เรื่องนี้เลย

“เฮอะ! ให้ตายเถอะ เสียงในความมืดนั้นไม่ได้บอกอะไรนายเลยหรือไง” เธอถามผมอีกครั้ง ซึ่งผมเองก็ทำได้เพียงเช่นเดิม คือการส่ายหัวปฏิเสธว่าเสียงนั้นไม่ได้บอกเรื่องแบบนี้กับผมเลยจริงๆ

“เฮอ ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่านายกับฉันจะต้องทำงานร่วมกันหลังจากนี้ไป เข้าใจตรงกันนะ” เธอกล่าว

“อ่า เข้าใจก็ได้” ถึงแม้จะยังงงๆอยู่ก็ตามเถอะ

“แล้วนี้ นายไม่เก็บดวงวิญญาณของเธอคนนี้เหรอ” เธอกล่าวถาม

นั้นสิ! ผมจะต้องเก็บดวงวิญญาณของเธอนี้นา เมื่อคิดได้แล้วผมก็ยื่นมือที่มีนาฬิกาขึ้นมาแตะที่ตัวของหญิงสาวคนนั้นก่อนจะกล่าวคำบางอย่าง

‘ขอดวงวิญญาณท่าน จงอยู่กับเรา’

แต่แทนที่วิญญาณของผู้หญิงคนนี้จะลอยเข้ามาอยู่ในตัวของผม มันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยและมันทำให้ผมได้รู้ว่า ผู้หญิงคนนี้ยังไม่หมดอายุไขบนโลกมนุษย์และวิญญาณของเธอก็.....หายไป

“ทำไม เกิดอะไรขึ้น” อีพีถามผมเมื่อเห็นว่าผมไม่พูดอะไรอยู่นาน

“วิญญาณของเธอหายไป” ผมกล่าว

“นายหมายความว่ายังไง หายไป” เธอถามกลับ

“ก็หมายความว่า......มีคนเอาวิญญาณของเธอไปนะสิ”

“ฝีมือของกาลกิริยาคนอื่นหรือเปล่า” เธอถามต่อ

“ฉันไม่รู้”ผมตอบ ก่อนจะลุกขึ้นยืนและหันไปมองหน้าอีพีอย่างจริงจัง “แต่ฉันว่า เรื่องนี้มันมีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่” และเรื่องไม่ชอบมาพากลนี้ มันก็คือ จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา