Anise Sharington : จอมโจรสาวแห่งอัลบารอน

9.1

เขียนโดย Stella

วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 02.23 น.

  4 ตอน
  12 วิจารณ์
  6,512 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 07.13 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) All Alone...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 1 All Alone...

 

ณ เมือง Sawn ทางตะวันตกของทะเลทราย Rahudia

"ช่วยด้วยยยยยย!!! ยัยเด็กบ้านั่นกำลังขโมย เพชรพลอยของช้านนนนนน!!!"

เสียงหญิงวัยกลางคนกำลังตะโกนร้องขอความช่วยเหลือท่ามกลางตลาดที่มีคนพลุกพล่านและวุ่นวาย
เด็กสาวผมเปียหางยาวสองข้างสีดำสนิท นัยน์ตาสีฟ้า รูปตาโตและคม สวมเสื้อคอกลมแขนยาวถักด้วยผ้าเก่าๆ ธรรมดา
กับกระโปรงสั้นเสมอต้นขาและไม่มีรองเท้า กำลังวิ่งเตลิดหนีพลเมืองดี ที่วิ่งตามเธอมาติดๆ ร่างเล็กๆ ของเธอ
และทักษะการวิ่งที่ชำนาญและรวดเร็วทำให้เธอสามารถวิ่งแทรกตัวระหว่างผู้คนที่เดินแออัด
หรือสไลด์ลอดข้ามระหว่างขา และกระโดดตีลังกาข้ามหัวไปได้อย่างสบาย
จนเธอหนีออกห่างจากสายตาของพลเมืองแห่งนั้นไปได้

The Vain Pub

"อ่ะ! นี่... เพชรเงิน นี่พลอยแดง ส่วนนี้ก็ มรกต... อ้อ! แล้วนี่ก็สร้อยมุก เอิ่มม... กี่เส้นน้า? ใช่! สองเส้น
แถมสร้อยทองที่ฉันกระชากมาจากคอยัยป้าแก่นั่นอีกหนึ่ง พอใจยัง?"

หลังจากความวุ่นวายในตลาดได้สงบลง เธอก็แอบเดินมาที่ผับแห่งหนึ่งในตรอกเล็กๆ ของเมือง พร้อมกับเทของที่เธอ
ได้ไปขโมยมาตรงหน้านายจ้างหัวขาวของเธอ

"อู้ววววว~ เหนือความคาดหมายแฮะ... ไม่เคยคิดผิดเลย ที่จ้างเธอมาเป็นมือซ้ายฉัน... รึมือขวาดี?" เขายักคิ้ว

"หึๆ ขอสองข้างเลยได้มั้ยล่ะ?" เธอหรี่ตาพร้อมยิ้มหัวเราะ

"ฮ่าๆๆ โอเคๆ เอาล่ะ ไหนดูซิ... ฮื้มมมม~~"

เขาค่อยๆ ไล่ดูของที่ขโมยมา อย่างละเอียด แล้วหยิบสร้อยมุกขึ้นมาเส้นหนึ่ง

"มุกเส้นนี้... โอ้วว!! นี่มันเป็นมุกหายาก ในแถบตอนเหนือของ เปอร์เรริส (Pereris) นี่นา... ถ้านำไปประมูล น่าจะได้ราคา
ดีถมเลยล่ะ..."

"เปอร์เรริส... ใช่เมืองหิมะ รึเปล่า?"

"ถูกต้องงงงงงง!" เขายกนิ้วโป้งให้ก่อนที่จะตรวจดูต่อไป

"อืม... ยัยป้านั่นคงจะมาจากเมืองไกล หรือไม่ก็คงจะมาท่องเที่ยวละมั้ง ดูจากการแต่งตัวเด่นๆ ทำตัวหยิ่งๆ ใส่เครื่องประดับหรู
จนน่าขโมย หึๆ และฉันก็ทำไปด้วยอ่ะนะ เอ่อ... นั่นไม่ใช่ประเด็น มันก็... ตามนั้น" พูดจบแล้วเบะปากตอนท้าย

"......." เขาเงียบไปสักพัก จนเธอเองรู้สึก ไม่อยากจะรบกวนเขาให้เสียเวลา

"งั้น... ฉันไปก่อนนะ เรื่องเงินก็ ค่อยว่ากันอีกที ไปละ ^^" ฉันโบกมือลา พร้อมหันหลังจะเดินออกจากโต๊ะ

"เอ้ยๆๆ เดี๋ยววววววว... โทษทีๆ พอดีฉันตื่นเต้นไปหน่อยน่ะ อ่ะนี่! เงิน... โบนัสสสสสส"

พูดจบเขาก็ยื่นถุงเงินก้อนใหญ่ พร้อมกับยิ้มให้ เธออ้าปากด้วยความตะลึงเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือรับจากเขา

"ขอบใจ.... งี้ก็ค่อย ทำงานด้วยกันได้อีก ไปละ จุ๊บๆ ^3^"

เธอส่งจูบให้ แล้วเดินออกจากผับไป

ณ บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง

"เอี๊ยดด... กลับมาแว้วววว!!"

เธอเปิดประตูเข้าไปในบ้าน แล้ววางถุงเงินบนโต๊ะไม้เก่าๆ

"พ่อ!! วันนี้หนูได้ เงินมาเยอะเลยน้าาาาาาาาา!! แหม่ช่างเป็นวันที่โชคดีอะไรอย่างนี้นะ ^O^"

พูดจบเธอก็เดินเข้าไปในห้องของคุณพ่อของเธอ ซึ่ง.... มันไม่มีอะไรเลย นอกจากรูปวาดของเขาและเธอ
ที่วาดขึ้นเองกับมือ เธอหยิบเหล้า ที่พ่อเธอชอบดื่มเป็นประจำ รินใส่แก้วเล็กๆ วางไว้หน้ารูปภาพ แล้วรินให้ตัวเธอเอง

"(ซดเหล้าไปจอกนึง) แจ่บๆๆ อ้าาาาาาห์~~ วันนี้เหล้ารสชาติดีเป็นพิเศษเลยนะพ่อ หรือว่า... เพราะหนูอารมณ์ดีด้วยล่ะมั้ง ฮะๆๆๆ"

เธอหัวเราะอย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ กับบรรยากาศที่ เงียบสงัดกับเสียงลมพัดเบาๆ ข้างนอกหน้าต่าง

"พ่อคะ... พรุ่งนี้วันเกิดหนูแล้วนะ จำได้มั้ย?" เธอพูดพลางยิ้มให้

"ปีนี้หนูอายุสิบหกละนะ... จำได้ว่า พ่อให้หนูหัดดื่มเหล้าตั้งแต่ พ่อยังไม่สอนหนูเขียนหนังสือเลยฮ่าๆๆๆ" พูดจบเธอก็ถอนหายใจเบาๆ

"เฮ้อ... อยู่คนเดียวมันก็เหงาดีนะพ่อ ไม่มีใครให้คุยด้วย... ไม่มีใครให้เล่นด้วย... แถมยังไม่มีใครคบอีกต่างหาก"

เธอแบะปากเล็กน้อย

"ตอนนี้หนูอยากร้องมากเลยนะพ่อ... แต่... หนูร้องหนักมามากแล้ว" สีหน้าเธอก็เริ่มดูเศร้าลง

"พอดีหนูเจ็บคอนิดหน่อยน่ะ ก็เลยร้องเพลงไม่ไหว โทษทีนะคะพ่อ เอาไว้วันหลังก็แล้วกัน" พูดจบเธอก็วางแก้วเหล้าลง

"ฝันดีนะคะพ่อ เจอกันพรุ่งนี้ บ๊ายยยย" เธอลุกขึ้นจากพื้นแล้วเดินออกจากห้องไป

แต่แล้ว ก็มีบางอย่างที่ไม่ปกติ... เกิดขึ้น

"กึกๆๆๆ" มีเสียงที่กำลังงัดแงะประตูบ้านอยู่ เธอจึงรีบเก็บถุงเงินแล้ว วิ่งไปซ่อนตัวในห้องครัว และเมื่อประตูถูงัดออก

"โครม!!!! ทำลายข้าวของให้หมดแล้วค้นหาตัวให้ทั่ว!!!" เสียงตะโกนของหัวหน้าพลเมือง สั่งให้ลูกน้องของเขาทำลายทุกอย่างในบ้านของฉัน

"โอ้ว... ตามมาเจอบ้านฉันจนได้สิน้า..." เธอเอ่ยเสียงเบา

แล้วจากนั้นก็รีบปีนขึ้นบนโต๊ะในห้องครัว แล้วออกทางหลังคาซึ่งเธอได้ทำไว้เป็นทางออกฉุกเฉินซึ่งเธอก็ไม่คิดว่าจะได้ใช้มันตอนนี้

"ฉันจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว!! ฉันจะต้องตามล่าเธอให้ได้ เพื่อค่าหัว แสนสอง.... ไม่สิ ตอนนี้กลายเป็น สองแสนรีนส์แล้ว
(Reens สกุลเงินของทวีปอัลบารอน) แอนนิส แชริงตั้น"

The Vain Pub

"ฉันคงต้องไปจากเมืองนี้แล้วล่ะ..."


หลังจากที่ฉันหนีออกมาจากที่บ้าน ซึ่งตอนนี้น่าจะพังพินาศไปแล้ว ฉันก็รีบมาที่ผับ เพื่อบอกลา 'แซ็ค' นายจ้างที่ฉันทำงาน
ให้กับเขาตั้งแต่ฉันยังเด็กๆ และเป็นคนเดียวที่ฝึกสอนให้ฉันเรื่องการขโมยของ เพื่อเอาตัวรอด (เหรอ?)
ฉันได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา เขาก็แสดงสีหน้าวิตกกังวลเล็กน้อย ก่อนที่จะถาม

"แล้ว... เธอจะไปที่ไหนล่ะ? ญาติพี่น้องเธอก็ไม่มี แล้วเธอเองก็ยังเด็กอยู่... ในสายตาฉันอ่ะนะ"
"หึ! จะมีเด็กอายุสิบหก คนไหนที่อยู่บ้านตัวคนเดียว ไร้ญาติมิตร มาสี่ปีติดกัน แล้วทำงานให้กับคนบ้าสมบัติคนนึง
ในผับเน่าๆ แห่งนี้บ้างล่ะ?" ฉันสวนกลับพลางยิ้มมุมปากให้ เขาหัวเราะ
"ฮ่าๆๆๆ โอเคๆ ฉันยอมแพ้... ว่าแต่ ประเด็นคือ เธอ! (ชี้มาที่ฉัน) จะหนีไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ หืม???" เขายื่นหน้าเข้ามา
"ฉันมีที่หมายไว้ในใจแล้ว คืนนี้ฉันจะเก็บข้าวของ... ฉันหมายถึงเงินทั้งหมดที่มีน่ะ แล้วไปที่ท่าเรือ เดินทางไปยัง
สเวนเนอรัล ทางทิศใต้ของเมืองนี้ หาโรงแรมถูกๆ เช่าแล้ว... หางาน หาสามี เลี้ยงตัวเอง บลาๆๆ"
พูดจบ แซ็คก็ทำท่าครุ่นคิดนึดนึงก่อน จะเดินเข้าไปในห้องเก็บของ
"ทำอะไรน่ะ? จะยกสมบัติให้ฉันเหรอ? ไม่เอาหน่า... ฉันไม่มีกระเป๋าใส่ขะ.."
"ปึ้ง!!!" พูดไม่ทันจบ เขาก็เดินมาพร้อมกับวางกระเป๋าสะพายลูกเบอเริ่มพร้อมกับอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน
"เอิ่ม... ก็เข้าท่าดีนะ" ฉันพูดพลางยักไหล่
"ฉันว่าจะให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดพรุ่งนี้พอดี... แต่เธอมาเสียก่อน... ส่วนข้างในก็เป็นเสื้อผ้าผู้หญิงสองสามชุด
ซึ่งน่าจะเข้ากับเธอดี แล้วก็... เงินก้อนหนึ่งในกระเป๋าช่องเล็ก ทองคำแท่งที่เธอเคยขโมยจากหนุ่มวัยกลางคนที่เธอ
เคยล่อเขามา.."
"บ้าละ! อย่าใช้คำว่า 'ล่อ' สิ เขาเรียกว่า หว่านเสน่ห์ต่างหากเล่า!!" ฉันแบะปากแก้เขินพลางเปิดกระเป๋าดู
"พระเจ้า!! นี่มัน... ของที่ฉันเคยขโมยมาเมื่อหลายเดือนก่อนทั้งนั้นเลย... นี่นาย... ไม่ได้ขายมันหรอกเหรอ?"
ฉันถามเขาด้วยสีหน้าจริงจัง
"... อย่ามองฉันแบบนั้นซี่! ฉันก็... เก็บไว้ให้เธอใช้ยามเดือดร้อนไง ก็ถือว่าเป็นรางวัลที่เธอทำงานให้ฉันอย่างซื่อสัตย์ก็แล้วกัน"
เขาพูดจบหน้าก็เริ่มแดงขึ้นด้วยความเขิน ฉันแอบจับได้เลยแซวหยอกเขานิดนึง
"แหมๆๆๆ แช็ค วอลเลต ชายรูปงามกวนบาทาก็มีด้านดีกับเค้าด้วยนะเนี่ยยยย! น่ารักที่ซู้ดดดด >O<"
พูดจบฉันหันไปหยิกแก้มเขาเล็กน้อย
"พอๆๆ เอาล่ะ... ฉากนี่ซีเรียสแล้วนะ ถ้าให้ฉันทาย ฉันคงเดาว่าเธอ คงจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้วใช่มั้ย?"
"...คงจะเป็นแบบนั้น เพราะตอนนี้ไอ้หัวหน้าพลเมืองบ้าเงินกำลังตามล่าตัวฉันอย่างจริงจังแล้ว
มันส่งลูกน้องมาติดตามตัวฉันจนพังบ้านฉันเละหมด และเมืองนี้ไม่ใช่ว่าจะใหญ่ด้วย ขืนฉันอยู่ที่นี่ต่อไป
ฉันคงหนีไม่ได้อีกแน่ๆ"
"..." ทั้งฉัน และ เขาต่างเงียบไปสักพัก

"แซ็ค..." ฉันกุมมือทั้งสองข้างของเขาไว้บนโต๊ะ เขาเงยหน้ามามองฉันด้วยสีหน้าที่จริงจัง และเป็นห่วงเล็กน้อย
"ตลอดเวลาที่ฉันทำงานกับนาย ถึงฉันจะไม่เคยเคารพในความเป็นผู้ใหญ่ของนาย แต่ทุกอย่างที่นายทำให้ฉัน
ฉันรู้สึกดีใจ และโชคดีมาก ที่ได้ทำงานร่วมกับนาย..."
"..." เขายังคงเงียบและไม่พูดอะไร
"ขอบคุณ... สำหรับทุกอย่าง ที่ดูแลฉัน... ที่ให้เงินฉันซื้ออาหารกิน... ที่ให้งานฉันทำ... ที่ฝึกฝนทักษะต่างๆ ให้กับฉัน"
"..." เขายิ้มและพยักหน้าเล็กน้อย
"บุญคุณนี้... ฉันจะไม่มีวันลืม และฉันสัญญา ถ้าฉันตั้งตัวได้เมื่อไหร่... ฉันจะกลับมาหานายอีก"
"หึๆ กว่าจะมาฉันก็คงจะเป็นเถ้ากระดูกไปละมั้ง..." เขาพูดแกมหัวเราะ
"อย่าลืมสัญญาก็แล้วกัน..." เขายิ้มออกมาพร้อมยื่นนิ้วก้อยมาให้ฉัน
"...นิ้วก้อยเหรอ? อะไรกัน เด็กห้าขวบเหรอเนี่ย ฮะๆๆๆ" ฉันทำหน้าแหย่ แล้วหัวเราะออกมา เขาก็หัวเราะตามฉัน
แล้วเราก็เกี่ยวก้อยสัญญากัน
"ฉันสัญญา... ฉันต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองด้วย.." ฉันพูดจบก็ลุกขึ้นแล้วสะพายกระเป๋าขึ้นมา
"เธอก็เหมือนกัน..." เขาพูด เป็นประโยคสุดท้าย ก่อนที่เรา...

จะไม่ได้คุยกันแบบนี้ อีกนานเลยล่ะ...

ท่าเรือ เมือง Sawn

"คนที่จะไป สเวนเนอรัล ขึ้นเรือมาทางนี้!! เร็วเข้า!! เรือจะออกในห้านาทีแล้ว!!!!"
หัวหน้าคนขับเรือ ตะโกนขึ้น หลังจากที่ฉันได้รีบเดินมาที่ท่าเรือพร้อมกับชุดผ้าคลุมทั้งตัว เพื่ออำพรางพวกพลเมืองอาสา
ฉันต่อคิวกับผู้คนที่จะเดินทางข้ามทะเลเหมือนกัน พวกลูกเรือก็กำลังตรวจค้น คนที่จะขึ้นเรือ
จนถึงคิวของฉัน เป็นคนสุดท้าย...

"ขอตรวจกระเป๋าหน่อย เปิดผ้าคลุมด้วย..."
ลูกเรือเอ่ย พร้อมกับดึงกระเป๋าจากมือของฉันพร้อมเปิดผ้าคลุมหัว
"เสื้อผ้า... สร้อยทอง เพชรพลอย... โอเค ผ่าน!" เขาเงยหน้ามามองที่ฉัน "เดี๋ยวนะ? นี่เธอ?"
เหมือนเขาจะจำหน้าฉันได้ ฉันก็เลยรีบยื่นถุงเงินกระแทกไปที่หน้าอกของเขา แล้วยื่นหน้าไปกระซิบบอก
"ฉันสามารถให้นายมากกว่านี้ได้ ถ้านายปิดปากแล้วให้ฉันขึ้นเรือบ้าๆ นี่ซะ"
พูดจบ เขาก็มีทีท่ากระวนกระวายเล็กน้อย ก่อนจะยืนคิดไปสองวิแล้วให้ฉันผ่านไปได้
"เอ่อ... โอเคๆ เธอผ่านได้" แล้วเขาก็หันไปตะโกนบอกหัวหน้าเรือ
"ไม่มีอะไรครับหัวหน้า หล่อนแค่... เอ่อ รู้สึกไม่ค่อยสบายผมเลยให้ยาแก้เมาเรือไป"
หัวหน้าเรือ ทำหน้าสงสัยเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าแล้วก็หันไปปลดสมอเรือต่อ
"อ้อ!!" ฉันเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ ก่อนจะรีบเดินกลับไปที่ลูกเรือคนเดิมอีกครั้ง
"ในท้องเรือ พอจะมีที่ให้ฉันซ่อนตัวจากพวกพลเมืองอาสาเฮงซวยที่จะเข้ามาค้นเรือได้รึเปล่า?" ฉันกระซิบข้างหูเขาเบาๆ
"... มีห้องพักลูกเรืออยู่ เข้าไปในนั้น แล้วบอกว่า เป็นเมียฉัน ทุกอย่างจะเรียบร้อย..."
"-*-" ฉันขมวดคิ้ว อย่างงุนงง ปนอึ้งเล็กๆ เมื่อเขาเห็นสีหน้าก็พอจะรู้ว่า ฉันคิดยังไง แล้วก็กระซิบต่อ
"ถ้าอยากมีชีวิตรอด ก็ทำตามที่ฉันบอกซะ อย่าลืมสิ ว่าเธอยื่นข้อเสนอให้ฉันยังไง.." พูดจบเขาก็แสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"หึ!" ฉันสบถออกมา
"ที่บอกว่าให้ได้มากกว่านั้น มันคือเงิน ไม่ใช่ร่างกายฉัน ไอ้หัวกระจู๋ (พลางหยิบมีดสั้นมาจ่อที่ไอ้จ้อนของเขา) และฉันขอเตือนแกไว้ด้วยนะ
ถ้าแกเกิดกระทำเรื่องอุบาทว์แล้วล่ะก็ ฉันจะเจื๋อนไอ้จ้อนของแกซะ... เอานี่ไป!!"
ฉันขู่เขาเสร็จก็ตบเงินอีกก้อนใส่ในมือของเขาอย่างลับๆ ก่อนจะถามคำถามสุดท้าย
"แกชื่ออะไร?"
"ชาร์ลี..." เขาตอบ
"ชื่อเห่ย ชะมัด..." พูดจบฉันก็เดินเข้าไปในท้องเรือเพื่อจะเข้าไปในห้องพักลูกเรือ
"ก๊อกๆๆ" ฉันเคาะประตู
"เอี๊ยดดด~~ เธอเป็นใคร?" ลูกเรือแก่ๆ คนหนึ่งเปิดประตูแล้วถาม
"เอ่อ... ฉะ ฉัน แอนนา (กัดฟันพูด)เป็นเมียของชาร์ลี เอิ่ม... ลูกเรือ เพื่อนคุณน่ะค่ะ ถ้าไม่รบกวน ดิฉันขอ...
เข้าไปพักในห้องเขาสักแป๊บนึงจะได้ไหมคะ? คือ... ดิฉันกำลังท้องกำลังไส้ มาสองเดือนแล้วด้วยค่ะ"
พูดจบเขาก็เบิกตาโตและทำสีหน้าเหมือนไม่เชื่อที่ฉันพูด
"นี่เธอ... เป็นเมียมันเหรอเนี่ย? พระเจ้าช่วย! หมอนั่นมันเอาแต่ไล่ฟันโสเภณีไปวันๆ เป็นว่าเล่น
ไม่นึกว่า จะมีเมียเก็บที่หน้าตา... สวยๆ อย่างเธอด้วย" เขาส่งยิ้มอย่างเคลิบเคลิ้มให้ฉันตอนท้าย
"เอ่อ... คือ เขา... ช่างมันเถอะค่ะ! ฉันไม่สนเรื่องนั้น (กัดฟันหนักกว่าเดิม) ขอแค่ฉัน อยู่กับเขาละลูกอย่างปลอดภัยก็พอค่ะ"
พูดจบ ฉันก็รีบเดินกระแทกเขาเข้าไปในห้อง แล้วหันไปหาชื่อของไอ้หื่นกามนั่น
"ชาร์ลี เนลส์ คงจะเป็นห้องนี้นี่แหละ..." ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องเพื่อดูลาดเลาอย่างคร่าวๆ ก่อนจะรีบปิดประตูแล้วขึ้นไปยังบนเรือ
ซึ่งก็ได้ออกจากฝั่งไปแล้วสักพักหนึ่ง

ชาร์ลี เหมือนเขาจะเห็นฉัน เลยรีบเดินเข้ามา
"เป็นไงบ้าง กับสวรรค์ของฉัน" เขาพูดพลางยิ้มมุมปากให้
"ห้องเน่าๆ กับกลิ่นหื่นกามในห้องแกน่ะเหรอ เหอะ!" ฉันแบะปากแล้วหันหน้าไปทางอื่น
"ไม่เอาหน่า! เมื่อกี้มีพวกพลเมืองมาตรวจค้นเรือ แล้วมันจะเข้าไปตรวจในท้องเรือด้วย แต่ฉันอ้างว่า
มีแต่พวกสินค้าเต็มท้องเรือ พวกมันก็ซื่อบื้อ เชื่อซะด้วยสิ ไม่คิดเลยนะว่า เมืองทะเลทราย จะมีแต่คนโง่ๆ อาศัยอยู่... อุ้บ!!!!"
ฉันอัดศอกกระแทกไปที่ท้องน้อยเขาอย่างแรง จนเขาทรุดไปเล็กน้อย
"ใช่! ฉันเองก็เป็นคนโง่ คนนึงที่อาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่เด็กอ่ะนะ พูดอะไรระวังปากด้วย (ชี้ไปที่หน้าเขา)!!"
"ซื้ดดดดด~~ (มือยังกุมหน้าท้องอยู่) เธอนี่มือหนักชะมัด... ว่าแต่ มันตามจับเธอเรื่องอะไรเหรอ? ฉันเห็นรูปวาดของเธอ
ติดแปะไว้ไปทั่วเมืองเลย"
"เรื่องอะไรงั้นเหรอ? ทำไมแกจะต้องรู้ด้วย? อยู่เฉยๆ แล้วหุบปากไปซะ!" พูดจบ ฉันก็เริ่มเดินไปที่ริมเรือ เขาก็ยังเดินตามฉันอยู่
"ดุชะมัดเลย! ที่จริง... (เอามือล้วงกระเป๋า) ฉันก็ไม่อยากได้เงินพวกนี้หรอก... เอากลับไปเหอะ"
ฉันหงุดชะงัก แล้วหันไปหาเขา ที่กำลังยื่นถุงเงินของฉันมาให้ ฉันขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
"เดี๋ยวนะ? ฉันก็นึกว่า นายจะเป็นลูกเรือกระจอกๆ ที่ทำทุกอย่างให้ได้เงิน และ... โสเภณีซะอีก"
เขาทำตาโต แล้วหลุดขำออกมา
"ฮ่าๆๆๆๆๆ เธอไปได้ยินมาจากไหน เรื่องโสเภณีเนี่ย?"
"ก็... ตาแก่ในห้องพักของนายนั้นแหละ..."
"ตาแก่... อ๋อ~ บอสสัน เพื่อนรักต่างวัยของฉันเองแหละ เขาไม่พิษภัยอะไรหรอก เราก็แค่เที่ยวเตร่กันไปเรื่อยๆ
ในวันหยุดก็แค่นั้นเอง เขาบ่นให้เธอฟังเหรอ? ฮ่าๆๆๆ"
"หึ! เขาแค่ตะลึงที่ฉันโกหกไปว่า นายคือผัวฉันไง..."
"ฮ่าๆๆ งั้นก็ไม่แปลก... อย่ากังวลไปเลยน่าาาา ฉันไม่ติดโรคนะ ฉันปลอดภัยอยู่แล้ว อุ้บ!!"
แล้วฉันก็ชกไปที่จุดเดิมจนคราวนี้ เขาทรุดลงไปกับพื้น... จนคนบนเรือเริ่มตกใจและหันมามองเป็นสายตาเดียวกัน
"ฮ่าๆๆๆๆ ! ไม่อะไรค่าาาาา เราผัวเมียเล่นกันหนุกหนานเฉยๆ จริงมั้ยคะ ที่รักกกกกก... (เดินไปจิกหูเขาขึ้นมา)"
"อู้ยๆๆๆ ชะ ใช่แล้วครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ เนอะที่รักจ๋าาาาา ผัวเจ็บละนะ..."
ฉันปล่อยมือ แล้วจิกตาใส่ ผู้คนแถวนั้นก็เลิกสนใจแล้วก็ทำตัวปกติ
"อย่าได้คิดอะไร อัปรีย์ ในหัวนายกับฉันเด็ดขาด ไปไหนก็ไปเลยไป๊ เห็นแล้วขยาด..." ฉันผลักเขาออกไปแล้วหันไปมองวิวนอกเรือ
เขาเดินมาข้างๆ และทิ้งระยะห่างไว้นิดหน่อย
"ที่จริง... ฉันไม่ได้ชื่อ ชาร์ลี ฉันชื่อ สตีฟ เมอเรนอฟ" เขาหันมาคุยกับฉันต่อ
"อ๋อเหรอ? ใครถามชื่อจริงๆ ของนายมิทราบ?" ฉันหันมาทำหน้ากวนประสาทเล็กน้อย
"ฮะๆ เธอนี่กวนได้ใจจริงๆ เพิ่งเคยเจอผู้หญิงแบบนี้ก็ครั้งแรกนี่แหละ..."
"ฉันก็เพิ่งเคยเจอผู้ชาย หื่นกามและชีกอ ที่ตามตื๊อฉันไม่เลิกแบบนายครั้งแรกเหมือนกัน..." ฉันสวนกลับ
"โอเคๆ ยอมแพ้คร้าบบ... ฉันก็แค่อยากชวนคุยนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง ดูเธอแล้ว... น่าจะไม่ใช่คนธรรมดาสามัญเหมือนกับคนทั่วไปนะเนี่ย และอีกอย่าง ดูเธอหน้ายังเด็กๆ ด้วย"
ฉันหันกลับไปมองดูวิว แล้วยิ้มมุมปากขึ้นมา
"ฉันชื่อแอนนิส แชริงตั้น อีกสองชั่วโมงก็อายุสิบหกละ..."
"โอ้ววว!! งั้นก็แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ล่วงหน้าละกัน สาวน้อย"
"สาวน้อยเหรอ... ฮื้ม~ ก็ยังเด็กอยู่ดีสินะ..." ฉันถอนหายใจเล็กน้อย
"อยากเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ?" เขาหันมาเลิกคิ้วใส่
"ก็คงงั้น..."
"..." มีแต่เสียงคลื่น เสียงลมพัดพาไปมา และเสียงผู้คนจอแจกันบนเรือ เราต่างเงียบกันไปสักพัก
"มีอะไรอยากระบายรึเปล่า?" เขาถามขณะที่กำลังมองวิวทิวทัศน์
"ไม่มี..." ฉันตอบไปสั้นๆ
"ครอบครัว... ที่อยู่... เงินทอง... ??" เขาพยายามถามความเป็นมาของฉัน จนฉันเริ่มรู้สึกรำคาญเล็กน้อย
"ครอบครัวแยกทาง แม่ไปมีผัวใหม่ พ่อตาย ไม่มีญาติมิตร เพื่อนไม่คบ ไม่มีที่อยู่
และเงินทองก็มี พอใจมั้ย?" ฉันทำหน้าไม่พอใจ
"นายจะถามอะไรนักหนา เพื่อนก็ไม่ใช่ ก็แค่เพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมง ถามอย่างกับเป็นคนในเครือญาติไปได้..." ฉันหันออกไปนอกเรือต่อ
"... -0- ..." เขาได้แต่เงียบและยืนอึ้งไปพักใหญ่
"โอเค งั้น... ฉันไม่ถามแล้ว โทษทีที่รบกวนเธอ ต้องไปผลัดเวรขับเรือต่อละ เจอกัน บาย..."
"ไปไหนก็ไป..." เขาหลุดขำออกมาเล็กน้อยก่อนจะโบกมือลา แล้ววิ่งออกไป
"เฮ้อ... ไปซะที" ฉันถอนหายใจยาวออกมาแล้วยังคงยืนดูวิวต่อไป

'ต่อจากนี้ จะเป็นยังไงนะ...'
ฉันคิดในใจพลางมองขึ้นไปบนฟ้า ที่มีดาวมากมายส่องประกายล้อมรอบพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
กับก้อนเมฆก้อนน้อยๆ กำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ตามกระแสคลื่น...
กลิ่นไอของน้ำทะเล และเสียงนกร้อง มันพอจะทำให้ฉันผ่อนคลายไปได้เล็กน้อย ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด
ฉันแค่รู้สึก... กลัว... และเหงานิดหน่อย เท่านั้นเอง... ไม่มีใครอยู่ข้างๆ ก็แบบนี้สินะ ไปนอนดีกว่า... (ไหนบอกไม่ง่วง)

"...." เสียงที่เงียบสะงัดในห้องพักของ ชาร์ลี... ไม่สิ เขาบอกว่าชื่อสตีฟ นี่นา ช่างเหอะ...
ถึงมันจะเหม็นไปหน่อย เพราะห้องที่น่าจะไม่เคยทำความสะอาดเลย และของที่กระจัดกระจายเต็มไปหมด
แต่มันก็ทำให้ฉันนอนหลับได้อย่างสนิท

"ปึ้งๆๆๆ!!!!! แอนนิส!!!" ฉันเหมือนได้ยินเสียงตะโกนของใครบางคนกำลังเคาะประตูอย่างหนัก
"เอี๊ยดดดดดดด~~ แอนนิส!!! รีบตื่น เร็วเข้า!!" เขาเขย่าร่างฉันที่ยังคงหลับใหลอยู่
"อื้อ.... อะไรของนายเนี่ย..." ฉันเริ่มรู้สึกตัวแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงโทรมๆ
"เรือของเรากำลังโดนปล้น พวกโจรสลัดจาก 'เวสเตอโรเนีย' กำลังล้อมเรือของเรา เราต้องรีบหนีแล้ว!!"
"อ๋อ... นึกว่าเรื่องอะไร ก็แค่โดนปล้น... ห้าาาาาาา!!!!!!!?? โดนปล้น?? เป็นไปได้ยังไงอ่ะ?"
"ไม่มีเวลามาตอบคำถามแล้ว รีบลุกขึ้น แล้วเก็บข้าวของเร็วเข้า!!!" เขาพูดจบก็รีบวิ่งออกจากห้อง
ส่วนฉันก็ลุกลี้ลุกลนจัดการเก็บกระเป๋าสะพายแล้วรีบวิ่งออกจากห้องเช่นกัน

"ปั้ง!!!!! ปั้ง!!!! ปั้ง!!!!!" เสียงปืนใหญ่กำลังดังลั่นไปทั่วเรือ ฉันกับสตีฟ ค่อยๆ เปิดตูท้องเรือแล้ว ด้อมมองไปรอบๆ เรือที่ตอนนี้
ได้ถูกพวกโจรสลัดยึดเรือเรียบร้อยแล้ว เหล่าลูกเรือ และผู้โดยสารทั้งหมด ถูกจับมัดและ นั่งคุกเข่าอยู่
ซึ่งตอนนี้ ก็คงเหลือแค่ฉันและเขา ที่ยังเหลืออยู่ในท้องเรือ

"หุบปากกกกกกกกกกก!!!!!!!!! ปั้ง!!!!!!!!!!"
เสียงตะโกนของหัวหน้าโจรสลัดดังขึ้น พร้อมกับเสียงปืนที่ยิงขึ้นไปบนฟ้า ขู่ให้ทุกคนเงียบทั้งหมด
"ยังมีใครหลงเหลืออยู่ในเรือนี้ ไปค้นให้ทั่ว จับตัวพวกมันมารวมไว้ที่นี่ให้หมด!!!"
เขาตะโกนสั่งลูกน้องทั้งหมด วิ่งค้นหาทั่วเรือลำนี้ ฉันและเขาก็ยังอยู่ในท้องเรือนี้
"หนึ่ง... สอง... สาม สี่ ห้า..." ฉันค่อยๆ กวาดสายตานับพวกโจรสลัดที่อยู่บนเรือ
"กำลังนับพวกนั้นอยู่เหรอ? ถ้าเท่าที่ดูคร่าวๆ คงจะเป็นสิบเลยล่ะ..."
"ไม่... มันมีแค่หก รวมหัวหน้ามันก็เป็น เจ็ด พวกนี้แค่โจรสลัดกระจอกๆ ดูท่าทางแต่ละคนลุกลี้ลุกลน ยังไม่ชำนาญ แสดงว่าเป็นเด็กใหม่..." เขาหันมาทำหน้างงใส่
"นี่เธอรู้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?" เขาถาม
"พูดมากน่า... ฉันเคยเป็นลูกเรือโจรสลัดมาก่อน.... เพียงแต่ปล้นพวกโจรสลัดด้วยกันเองน่ะ" พูดจบเขาก็พยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ
"นี่! ฟังนะ... ฉันอยากให้นายขึ้นไปมอบตัว"
"อ๋อ... โอเค... (พยักหน้า) ห้ะ??? เธอจะบ้าหรือไง จะให้ฉันไปตายเหรอ??" เขาทำสีหน้าตกใจที่ได้ยิน
"ชู่ววววววว~~ เบาๆ หน่อยสิ! เอาเป็นว่า ทำตามที่ฉันบอก จะไม่มีใครตายทั้งนั้น"
เขาขมวดคิ้วเหมือนจะ ไม่เชื่อสนิทใจเท่าไหร่
"ฉันเอาอวัยวะเพศตัวเอง เป็นประกันเลย โอเคมั้ย???"
"=[]=...." เขาอ้าปากค้างทันทีได้ยินคำพูดประหลาดที่ออกมาจากปากฉัน แล้วค่อยๆ พยักหน้า
"ดี! ทำตามที่ฉันบอกนะ เปิดประตูซะ เอามือกุมไว้บนหัว รอให้ลูกน้องมันเข้ามาหานาย ที่เหลือ ฉันจัดการเอง..."
"อะ... โอเคๆ" เขาพูดจบก็ ค่อยๆ เปิดประตูท้องเรือออกมา แล้วนั่งคุกเข่าเอามือสองข้างกุมขึ้นบนหัวอย่างเงียบๆ และช้าๆ
"เอาตัวมันมา!!!" หัวหน้าโจรสลัดเห็นตัวเขา เลยสั่งให้ลูกน้องไปจับตัวเขา

ลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้าไปหาเขา แล้วจับแขนทั้งสองข้างไว้ข้างหลัง แล้วเอาเชือกค่อยๆ มัดมือทั้งสองข้างของเขา

"หึ... กระจอกชะมัด ขนาดผูกเชือก ยังทำไม่เป็นเล้ย..." ฉันส่ายหน้าพร้อมบ่นเสียงเบาๆ คนเดียว

ทันทีที่ลูกน้องกำลังง่วนอยู่กับการมัดมือ ฉันก็ใช้จังหวะนั้น หยิบมีดขึ้นมาเหวี่ยงฟันเข้าไปที่เอ็นร้อยหวายทั้งสองข้าง
ทำให้มันล้มลงไปทั้งยืนทันที
"อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!"

ฉันรีบกระโดดออกจากท้องเรือ พร้อมมีดและดาวกระจายอีกนับสิบ
ดาวกระจายดอกที่หนึ่ง ปาไปยังลูกน้องคนหนึ่ง ที่กำลังยืนคุมตัวผู้โดยสารปักเข้าไปในคอ แล้วเลือดก็พุ่งกระฉูดทันที
"อุ๊กกก!!! อ๊อกกกก.... แอ้ก...."

ดอกที่สองฉันหันหลังแล้วก้มลงหลบดาบที่กำลังจะเข้ามาฟันที่ศรีษะของฉัน แต่ฉันไม่ได้ปาอะไรทั้งสิ้น
ฉันใช้มีดที่ถืออยู่เชือดผ่านไอ้จ้อนของมันลากผ่านช่องท้องและจบลงที่กลางอก
"อั้กก... อะ... เอื้อ!"

"เจ๋งแฮะ" สตีฟอุทานแล้วหลุดยิ้มออกมา

ตอนนี้ คนทั้งเรือต่างแตกตื่นและ ส่งเสียงดังกันด้วยความตื่นเต้นบ้าง หวาดกลัวบ้าง

ส่วนลูกน้องที่เหลือ ก็ต่างตกใจเช่นกันเลย ชักปืนพกเตรียมยิง ฉันใช้จังหวะที่พวกมันกำลังชักปืน
ปาดาวกระจายทั้งหมดไปยังพวกมัน คนที่สามปักเข้าที่หน้าผาก... คนที่สี่กลางอก และคนที่ห้าลูกตาข้างขวา
ซึ่งมันก็ดันดึงดาวกระจายออกมา ทำให้....

"กรี๊ดดดดดดดดด!!!!! ลูกตา!!!!!!!!" ตามนั้น...

"ใครกินอาหารมาก็อย่าเพิ่งอ้วกแล้วกันล่ะ!! ย้ากกกกกกกกกกกก!!" ฉันตะโกนบอกทุกคนบนเรือแล้ว ฉวยดาบยาวของลูกน้องของมัน
วิ่งไปยังลูกน้องของมันที่เหลือ ฟันคอจนขาด แล้วหันกลับไปฟันแขนซ้ายของมันจนขาดเช่นกัน

ส่วนผู้โดยสารเรือ และลูกเรือที่เหลือต่างกุลีกุจอรีบแก้มัดให้กัน แล้ววิ่งรุมกระทืบหัวหน้าโจรสลัดจนปางตาย
บอสสัน... ชายแก่ๆ ซึ่งก็คือ เพื่อนของสตีฟ หันมาถามฉันด้วยความเป็นห่วง
"ลูกในท้อง เป็นยังไงบ้างหนู?"
".........." ฉันเงียบพลางส่ายหน้าเล็กน้อยด้วยความระอา
".........." ส่วนเขาก็เงียบแล้วกลั้นหัวเราะอยู่คนเดียว

"เอาล่ะ... ทีนี้ ลูกน้องแกก็ไม่เหลือใครทั้งนั้นแล้ว..."
ฉันพูดขึ้น ในขณะที่ทุกคนต่างยืนล้อมรอบหัวหน้าโจร ที่ถูกมัดไว้

"โทษทีนะ แต่แกต้องฝึกลูกน้องของแกให้มากกว่านี้นะ ฉันคิดว่า... คงมาลงพื้นที่ทดสอบภาคสนามงั้นสินะ!"
มันยังคงเงียบและไม่พูดอะไร
"แต่โชคร้ายหน่อย ที่ดันมาปล้นผิดเรือซะแล้วล่ะ... และฉันเองก็ไม่เคยจะปราณีชีวิตใครด้วย" ฉันแสยะยิ้มขึ้นเล็กน้อย
"จะทำอะไรก็ทำ! แต่ฉันขอเตือนแกไว้ก่อนนะ! มันจะไม่จบลงตรงนี้ง่ายๆ แน่! ถ้านายของฉันรู้เรื่องนี้ เขาไม่ปล่อยแก
ไว้แน่!!"
เขาพูดขู่ขึ้นมา
"อ๋อ!! นายของแก... อลันโซ่ ครอเต้ น่ะเหรอ? หึๆ คู่อริของฉันเองล่ะ ^^" ฉันยิ้ม
"หึๆ ยิ้มเข้าไว้... สาวน้อย... ลูกสาวกัปตันเรือ 'ไวท์-ซันเดอร์' (White-Sunder) แชริงตั้น บราวน์
ที่ถูกปืนยิงเข้ากบาลด้วยฝีมือของนายฉันไงล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ และคนต่อไป ก็คือแกยังไงล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ"
เขาพูดจบ แล้วหัวเราะลั่นออกมาไม่หยุด
"..." ฉันเงียบไปพักใหญ่ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนปกติ สตีฟ หันมามองหน้าฉันด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีก่อนจะหันกลับไป
"หึ! ขอบใจที่แช่งนะ... แต่ฉันว่าตอนนี้ คนที่จะตายก่อนฉันแน่ๆ ก็คือแกนี่แหละ"

"ฆ่ามันเลย!" ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้น
"ใช่!!! ฆ่ามัน! ฆ่ามัน! ฆ่ามัน!" และเสียงตะโกนตามมาอีกเกือบร้อย ฉันหันไปมองรอบๆ แล้วยักไหล่ขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
"เสียงมติเป็นเอกฉันท์! ลา-ก่อน-นะ!!"

"ปั้งงงงงงงงงง!!!!!!"

******************************

ท่าเรือ เมืองสเวนเนอรัล

หลังจากเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนเรือ สงบลงด้วยฝีมือของฉัน (คนเดียว)
ระหว่างที่เรือกำลังขึ้นฝั่งพวกเราก็จัดการโยนศพที่เหลือ และอวัยวะที่หลุดออกมา... ลงในทะเล เพื่อกลบเกลื่อน
แล้วทำสะอาดบนเรือจนเกลี้ยง ทุกคนในเรือต่างร้องโห่ด้วยความดีใจ และชื่นชมฉันกันทั้งเรือ
และทุกคนบนเรือก็สัญญากับฉันว่า จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับอย่างที่สุด เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถือเป็นข้อแลกเปลี่ยน ที่ฉันได้ช่วยพวกเขาบนเรือ

ฉันลงจากเรือ พร้อมกับผู้คนนับร้อย ต่างก็แยกย้ายไปตามทางจุดหมายของพวกเขา
ส่วนฉัน หยุดยืนอยู่ตรงหน้าท่าเรือ แล้วเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้สาธารณะ

"ไม่มีที่ไปเหรอ?" สตีฟ ลงจากเรือเป็นคนสุดท้าย แล้วเดินมานั่งข้างๆ ฉัน
"อืม..." ฉันตอบห้วนๆ โดยสายตายังคงจ้องลงกับพื้น
"งั้น~ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปยังห้องพักถูกๆ ให้แล้วกันนะ... ตอบแทนที่เธอช่วยฉันไว้บนเรือไง"
พูดจบเขาก็ก้มลงมาเพื่อมองหน้าฉัน

สักพัก น้ำตาฉันก็ค่อยๆ ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดลึกๆ ข้างใน ทั้งๆ ที่ไม่อยากจะให้มันไหลออกมา
ฉันเงยหน้าขึ้นมามองบนท้องฟ้า น้ำตาก็ยังคงไหลรินต่อ

"... เรื่องพ่อของเธอสินะ..." เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ

"พ่อของฉัน เขาเป็นคนร่าเริง... คุยเก่ง... แล้วก็ใจดีมากๆ" ฉันเล่าเรื่องเกี่ยวกับพ่อให้เขาฟังทั้งที่น้ำตายังซึมอยู่

"เขาเป็นกัปตันเรือที่เก่งคนนึง ฉลาด... มีไหวพริบ และแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ด้วยตัวเขาเอง"
"..." เขาเงียบแล้วฟังต่อ

"ฉันมักจะไปไหนกับพ่อเสมอๆ ล่องเรือไปโน่น ไปนี่... ท่องเที่ยวไปด้วยกัน นั่นก็เป็นอีกสาเหตุ ที่ทำให้ฉันรู้เรื่องเกี่ยวกับ
แผนที่ และโจรสลัดต่างๆ ด้วย"

"วันนึง... มันเป็นช่วงยุคสงครามของโจรสลัด เรือของพ่อฉันถูกปล้น มันก็คือเรือของพวก 'เวสเตอโรเนี่ยน'
(ชื่อเรียกของคนเชื้อสายเวสเตอโรเนีย) ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็มี 'อลันโซ่ ครอเต้' ...แม่ทัพโจรสลัด นำพาลูกน้องมาปล้นสะดม
เรือของพ่อฉัน..."

"เขาให้ฉันไปหลบซ่อนตัวอยู่ใต้ท้องเรือ ซึ่งเป็นห้องลับ ที่พ่อฉันทำไว้ขึ้น เพื่อซ่อนตัวและหนีออกมาทางช่องระบาย"

"ฉันแอบดูเหตุการณ์โกลาหลบนเรือ มันแย่มาก... ไฟ้ลุกไปทั้งเรือ เสียงปืนดังสนั่น... ผู้คนวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
บ้างก็ถูกยิงตาย... บ้างก็ฆ่าฟันกันเลือดนองท่วมพื้น..."

"ฉากสุดท้าย... ที่ฉันเห็น..." ฉันยังไม่ทันจะพูดต่อ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้ พร้อมทั้งสะอึ้นตาม

"คือ... พ่อ... ของฉัน ถูกมัดไว้กับเสา... แล้วยิงเข้า... ที่กลางหัว... ของพ่อฉัน..."

"...." สีหน้าเขาก็แย่ตามลงเมื่อฉันเล่าเรื่องต่อ

"หลังจากนั้น ฉัน... ก็หนีออกมาได้เพียงคนเดียว ฉันเกาะแพที่หักแล้วเป็นเวลาเกือบ สองวันลอยมาจนถึงเมืองซอว์น
คนที่มาเจอฉัน คือเจ้านายของฉัน 'แซ็ค' ที่ทำงานด้วยกันในผับ จนถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะ"

ฉันพูดจบก็ก้มหน้าลง แล้วเอามือปาดน้ำตาตัวเอง

"เธอเก่งมากเลยนะ... เอาชีวิตรอดมาได้ แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีใครเลย..." เขายื่นมือมาแตะไหล่ปลอบใจฉัน
"หึ! ขอบใจ... ฉันคิดอยู่เสมอว่า พ่อของฉัน คอยอยู่ข้างฉันตลอดเวลา ต้องขอบพ่อส่วนหนึ่ง
ที่ทำให้ฉันฝ่า อะไรๆ ที่อันตรายมาได้ แม้จะเสี่ยงกับชีวิตตัวเองก็ตาม..."
"... ฉันก็เชื่อแบบนั้น" เขาพยักหน้าแล้วยิ้มให้
"เอาล่ะ! ไปหาห้องพักกันเถอะ ฉันมีหลายที่จะแนะนำให้เธอ ราคาไม่แพงด้วย" เขาลุกขึ้นแล้วยื่นมือมาที่ฉัน
"(แบะปากเล็กน้อย) ขอบใจนะ... แต่จับมือ ไม่ต้อง! เดี๋ยวฉันจะติดเชื้อจากโสเพณีของนายคนเก่าๆ"
เขาหัวเราะลั่น
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ยังคิดแบบนั้นอีกเหรอ บ้าละ! ฉันไม่ใช่คนประเภทนั้นซะหน่อย"
"รูปร่างหน้าตาหื่นกาม และการกระทำแบบนายมันใช่เลยล่ะ..."
"โถ่~ มองคนในแง่ลบตลอดเลยนะ"

แล้วเราก็คุยกันไป แซวกันมาเรื่อยๆ ไปตามทาง...

ทางที่อาจจะไม่มีจุดหมาย... แต่ฉัน... ก็ต้องเดินต่อไป... เพื่อตัวเอง และ คนที่ฉัน ได้ให้สัญญาไว้...
ณ ดินแดนอัลบารอนนี้... ยังมีชะตากรรมอีกมากมาย ที่ฉันจะต้องเผชิญกับมัน... ต่อจากนี้...

'ชีวิตคนเรา มันก็เหมือนกับทะเล... กว้างใหญ่... สวยงาม และไม่เคยหยุดนิ่ง...'

- Brown Sharington

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา