PRES : เพรส นานาชาติพิศวง ตอน ความลับในห้องวิทย์

8.8

เขียนโดย อาบตะวัน

วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 23.31 น.

  10 ตอน
  52 วิจารณ์
  11.57K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558 22.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) เรื่องของหัวใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ศาสตราจารย์สตีเฟ่นคิดอะไรอยู่นะ ห้องวิทย์นั่นไม่มีใครไปกล้ำกรายเลยตั้งแต่มีคนหาม ‘ศพ’ ศาสตราจารย์โรนัลออกไป แล้วยังจะให้มาจัดงานอะไรที่นั่นอีก ฉันไม่อยากจะคิดถึงเลย บรึ๋ย...”

อันนาทำท่าขนลุก ห้องเรียนวิชาภาษาอังกฤษกำลังจะเริ่ม ศาสตราจารย์นาเรลครูประจำวิชาภาษาอังกฤษกำลังง่วนอยู่กับการต่อโปรเจกเตอร์ที่หน้าห้องเรียน มี ‘แซม’ หนุ่มเกาหลีหน้าขาวคอยช่วยอยู่ใกล้ ๆ กลุ่มนักเรียนที่นั่งรออยู่ก็เริ่มส่งเสียงคุยกันดังจอแจ อัยหมุนปากกาขณะฟังอันนาพูด สายตาเหม่อลอยไปจับนิ่งอยู่ที่คนหน้าขาวข้างตัวอาจารย์หน้าห้องนั้น นาน... จนเพื่อนสาวสะกิด

“อัย... แกฟังฉันอยู่ป่ะเนี่ย”

ประธานนักเรียนสาวดูเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ ริมฝีปากอิ่มขยับพูดตอบเพื่อนสาวเบา ๆ

“หือ... อะไร ก็ฟังอยู่ พูดไปสิ”

อันนากลอกตา นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่อัยนั่งเหม่อตาลอยค้าง เพราะพ่อหนุ่มตี๋เต้นเก่งคนนี้ ‘นายแซม ลี’ นักเต้นโคฟเวอร์แถวหน้าของโรงเรียน ขวัญใจแม่ประธานนักเรียนคนเก่ง แฟนคลับพันธุ์แท้ ที่ปลื้มเขาเนิ่นนานมาตั้งแต่สมัยยังไม่ถอดเหล็กดัดฟัน แม้จะรู้ดีว่า นายแซมมีนางในฝันของเขาอยู่แล้ว ... สาวเกาหลีหน้าหวาน นาม ‘ซันโฮ’ คนสวยสุดฮอทประจำรุ่น สวยตาหวานหยาดเยิ้ม ชนิดกวาดเรียบตั้งแต่หนุ่มชาติเดียวกัน... หนุ่มฝรั่ง ไม่เว้นแม้แต่หนุ่มไทย ที่พากันเทใจให้คะแนนแม่สาวหน้าใสคนนี้เสียหมด แม้ว่าอัยจะยอมแพ้เจ้าหล่อน ตั้งแต่แรกเห็นหน้าในวันที่หล่อนเพิ่งเข้ามาเรียนเมื่อปีที่แล้ว ใบขาวเนียน คิ้วสวยตรงเฉียบสไตล์ซุปตาร์เกาหลี แต่ถึงอย่างนั้น หล่อนก็ยังไม่อาจจะถอนใจจากพ่อเทพบุตรนักเต้นไปได้

“ทำไมน้า... ถึงไม่เป็นเค้า...ตอนที่ยามจับผีได้เมื่อคืน”

หล่อนรำพึง อันนาเกาหัว จับไหล่หล่อนโยกแรง ๆ

“นี่แก... ฟังฉันก่อนสิ แล้วไอ้ภารกิจเคลียร์ห้องวิทย์เนี่ย ทำไมจะต้องเป็นแกด้วยวะ แม่บ้าน คนสวน คนงาน เต็มโรงเรียน...อะไร... มาใช้งานประธานนักเรียน”

อัยหลุดออกมาจากความฝันสมดังตั้งใจของสาวผมทอง หน้าคมดูหงุดหงิดนิดหน่อยเมื่อถูกขัดจังหวะ ด้วยความคิดเกี่ยวกับเรื่องภารกิจนี้ ไม่ได้หายไปไหน มันคอยรบกวนจิตใจอัยอยู่ตลอดเวลา

“ศาสตราจารย์สตีเฟ่นไม่อยากให้ใครไปยุ่มย่ามในห้องนั้น โดยเฉพาะพวกพนักงานในโรงเรียน แม่บ้านเต็มตึกอย่างที่แกว่า ก็แพร่ข่าวได้เร็วเหมือนไฟลามทุ่ง ไหนจะคนงาน คนสวนอีก ข่าวลือในโรงเรียนเรามันก็หนาหูมากพอแล้ว ก็ไม่อยากจะให้ชื่อเสียงโรงเรียนเสียหายหนักมากกว่าที่เป็นอยู่”

อันนาพยักหน้าช้า ๆ ตั้งใจฟัง อัยอธิบายต่อ

“ครั้นจะใช้พวกอาจารย์ทำ ก็กระไรอยู่ ฝ่ายความมั่นคงดูแลภาระด้านอื่น ๆ หนักพอแล้ว งานสอน ข้อสอบก็เยอะเอาการ ลงท้ายก็ต้องเป็นฉัน นี่ก็ห้ามไม่ให้ใครรู้ด้วยนะ ที่ฉันบอกแก ก็เพราะขอศาสตราจารย์สตีเฟ่นไว้แล้ว ว่าจะให้แกช่วยฉันอีกคน”

เพื่อนสาวสะดุ้งหันมองหน้าอัย ประธานนักเรียนหัวเราะหึ ๆ

“น่า... ฉันไม่อยากจะขลุกอยู่ในห้องวิทย์กับหมอนั่นตามลำพังหรอก”

หล่อนโยกไหล่ไปทางหนุ่มนักเทนนิส อันนามองตาม

“นายเควิน เมอร์ตัน นักเทนนิสแรงช้าง...ฉายาไอ้ยักษ์ปากหนัก วัน ๆ ไม่พูดไม่จา เอาแต่ก้มหน้ากินข้าว ข่าวว่าชีวิตในโรงเรียนครึ่งหนึ่งของเขา หายไปกับการขลุกอยู่ในโรงอาหาร”

“ไม่เห็นจะอ้วนเลย”

อัยวิจารณ์ นายเควินกำลังนั่งเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง แม้จะอยู่ในท่านั่ง เขาก็ยังดูสูงเด่นกว่าใครในห้อง ไหล่ตั้งหนา แขนแน่น ผิวกร้านแดดดูคมเข้มยิ่งขึ้น เมื่อเขาปล่อยไรเคราเขียวตามขอบแก้มและใต้คาง มันดูรับกันดีกับรูปหน้าคมสันของเขากับดวงตาคู่สวยนั่น

“ลูกครึ่งอะไรนะ”

หล่อนเอียงหน้าถาม

“เบลเยี่ยม”

ตาหวานนัก เสียอย่างเดียว ดูมีโลกส่วนตัวสูงไปหน่อย บุคลิกก็ดูดิบเถื่อนเกินกว่าเด็กนักเรียนชั้นเดียวกัน อัยประเมินจากความคิดของตัวเอง หล่อนเห็นหน้าเขามาราวครึ่งปีได้แล้ว ยังคุยกันแทบจะนับคำได้เลย

“แกไม่เคยเห็นหมอนี่ตีเทนนิสหรือไง แม่เจ้า...!! หวดโครม ๆ ลูกเทนนิสพุ่งเร็วจนมองแทบไม่เห็นแหน่ะ น่ากลัวแทนคู่ต่อสู้มัน”

อันนาเล่า อัยขยับจะถามต่อก็พอดีแสงสว่างวาบจากบนกระดานชะงักหล่อนไว้เสียก่อน เสียงจอแจในห้องสงบลงโดยอัตโนมัติ อาจารย์นาเรลเลื่อนภาพสไลด์บนจอ ปล่อยนายแซมเดินกลับเข้าที่นั่งไว ๆ อัยสังเกตเห็นเขาปรายยิ้มไปทางโต๊ะที่นั่งมุมสุดของห้อง แม่สาวซันโฮนั่งตาหวานอยู่ตรงนั้น.... สาวตาคมก็หน้าหมองลงไปอีกหน่อย ซัดสายตากลับไปดูแม่สาวคู่แข่ง ก็ต้องชะงักมอง ยายซันโฮไม่ได้ส่งสายตากลับไปยังหนุ่มตี๋ แต่หล่อนกำลังจ้องนิ่งอยู่ที่ผู้ชายข้างหน้าต่าง ตรงที่พ่อนักเทนนิสนั่งเหม่ออยู่ตรงนั้น

อัยหันมาสบตากับอันนาตาสีฟ้าเบิกกว้างแสดงอาการประหลาดใจกึ่งขบขัน

แม่ซันโฮแอบมองเควินอยู่!!

 

“แกว่ายัยซันโฮจะชอบเควินหรือเปล่า”

อัยตั้งคำถาม มือข้างหนึ่งกระซวกหลอดดูดลงไปในแก้วพลาสติก คราบโกโก้ละลายน้ำแข็งยังคงมีรสหอมหวานจาง ๆ ช่วงพักเบรกในยามบ่ายของโรงเรียนเพรสวันนี้ พอจะมีแสงแดดจับตามขอบอาคารให้เห็นแสงสีส้มบนอาคารสีเขียวอมเทาหม่นบ้าง ผ่อนคลายความทึบทะมึนในโรงเรียนกลางหุบเขาที่เนืองแน่นไปด้วยไม้ใหญ่ยืนต้น เต็มพื้นที่ขนาดเจ็ดสิบไร่แห่งนี้

อันนาหรี่ตามองเพื่อนสาว แล้วหัวเราะออกมาอย่างรู้ทัน

“แกนี่ก็มีความหวังอยู่เรื่อยเลยนะ”

“หวังอะไร...ฮึ”

“อย่ามาทำไก๋น่า ... อัย เธอก็รู้ว่าฉันพูดเรื่องนายแซมอยู่ ... นี่ ฉันจะบอกอะไรให้นะ ต่อให้แม่ซันโฮจะชอบนายเควิน ก็ไม่ได้หมายความว่า แซมมันจะเลิกชอบแม่นั่นได้สักหน่อย ทำใจซะเถอะน่า อัย... ว่ายังไงซะ แซมมันก็ไม่หันมามองแกอยู่ดีนั่นแหละ”

นับเป็นคำปลอบที่เสียดแทงใจอัยอย่างยิ่ง ประธานนักเรียนสาวมองค้อน นัยน์ตาหม่นลงอย่างผิดหวัง หล่อนรู้จักแซมมาตั้งแต่เรียนเกรดเก้า ผูกสมัครรักใคร่กันดีในฐานะ ‘คนรักเรียน’ เหมือนกัน แซมเก่งภาษาอังกฤษ หล่อนเก่งวิทยาศาสตร์ เป็นขวัญใจเหล่าอาจารย์ประจำแผนกมัธยม ด้วยเป็นนักเรียนที่ ‘พูดรู้เรื่อง’ และมีความรับผิดชอบสูงเหมือนกัน ผู้ชายแบบนี้หายากนักในเพรส ส่วนใหญ่หนุ่ม ๆ ที่นี่ ถ้าไม่ไปอยู่แถวสนามบาส สนามฟุตบอล ลู่วิ่ง ก็จะไปแอบซุกตัวตามหลังหอประชุม ไม่แอบหลับ ก็แอบสูบบุหรี่ ไม่ก็หลีสาวอยู่ตรงไหนสักแห่งของโรงเรียน ที่จะแมนเกินร้อย หน้าตาน่ารัก จิตใจงดงามราวเทพบุตรในนิยาย ก็เห็นจะมีแต่หนุ่มแซมคนนี้นี่แหละ

“จริง ๆ นายบรูโนก็น่ารักดีนะฉันว่า…”

อันนาเริ่ม อัยรีบตัดบททันที

“อย่า อันนา อย่า ขอร้อง ฉันจะไปทำงานต่อที่ห้องสมุดละ เลิกเรียนวันนี้ประชุมพวกกรรมการนักเรียน หลังหกโมงเย็น ฉันกับเควินจะมาที่ห้องวิทย์ แกต้องมาด้วย เข้าใจนะ”

ว่าแล้ว อัยก็ลุกพรวดเดินจ้ำอ้าวหายไปทางตึกหอสมุด อันนามองตามเกาหัวแกรก พูดถึงนายบรูโนทีไร อัยของขึ้นทุกที ‘บรูโน’ หนุ่มนักบาสตัวล่ำ เชื้อสายอเมริกันเต็มตัว นายบรูโนขึ้นชื่อเรื่องความแมนร้อยเปอร์เซ็น งานใช้แรง ใช้กำลังขอให้บอก หอบ หาม ขน หิ้ว ไม่เคยอิดออด ที่สำคัญ เขาชอบอัยอย่างออกนอกหน้า ตามช่วยงาน มีอีเวนท์อะไร ใช้รถนายบรูโนได้ตลอด ไม่เคยถามเรื่องค่าใช้จ่าย แถมบางที ยังช่วยจ่ายให้เสียอีก เสียอยู่เรื่องเดียวที่อัยไม่ค่อยปลื้มเขานัก ตรงที่นายบรูโนออกจะอันธพาลหน่อย ๆ วางก้ามโต พูดเสียงดัง ข่มขู่ข่มเหงเพื่อน ๆ และรุ่นน้องตามแต่โอกาสจะอำนวย

“ขืนเป็นแฟนกับหมอนี่ วันข้างหน้าก็จะมาหาเรื่องต่อยตีกับฉันด้วยแน่ ๆ”

หล่อนเคยทำท่าแขยง

“ไม่หรอก มันรักแกจะตายไป”

อันนาเชียร์ช่วยไม่ขาดปาก สงสารบรูโนที่ตามเทียวไล้เทียวขื่อเพื่อนรัก แถมยังเกรงใจมัน ที่วาเลนไทน์ทุกปี นอกจากนายบรูโนจะควักตังค์ซื้อกุหลาบช่อโตให้อัยแล้ว ยังแอบมีของขวัญฟรุ้งฟริ้งเป็นกำนัลให้แม่สื่ออย่างหล่อนไม่เคยขาดอีกต่างหาก

“ฉันไม่ชอบนักเลง”

อัยยื่นคำขาด เพื่อนสาวกลอกตารับฟังเงียบ ๆ เกาหลีฟีเว่อร์ในไทยนี่มันแรงจริง ๆ แม่อัยถึงได้ผูกสมัครปักใจกับนายแซมแน่นนัก (แถมปักอยู่ฝ่ายเดียวอีกต่างหาก) เอาชาติอะไรมางัดมาแงะก็ไม่สำเร็จสักอย่าง

อันนาเดินตามอัยไปที่หอสมุด เพื่อนสาวร่างสูงขายาวไม่ใช่เล่น ออกล่วงหน้าหล่อนมาแค่แป๊บเดียวแต่กลับหายวับไปจากสายตาราวกับหายตัวได้ ทางเดินหินปูลาดต่อจากอาคารมัธยมไปยังหอสมุดไม่ได้ยาวนัก สองข้างทางเป็นต้นหูกวางออกใบดกเขียวสดสะพรั่ง ราวห้าสิบเมตรก่อนถึงหอสมุด มีแท่นหินอ่อนสลักด้วยอักษรสีทองเป็นคำนิยมจากกษัตริย์เมืองเกาะแห่งหนึ่งที่รักใคร่ชอบพอกับผู้รับใบอนุญาตมานาน ตั้งตระหง่านอยู่ เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเพรสอยู่กลาย ๆ แขกไปใครมาต่างก็มาแวะชมแวะอ่าน แวะถ่ายรูปด้วยเป็นประจำ อันนาเดินก้าวกระโดดตามช่องหินบนพื้น ครู่เดียวก็มายืนที่หน้าประตูกระจกสีชาของหอสมุดโรงเรียนเพรส ศาสตราจารย์เทเรซ่ามองหล่อนอย่างตำหนิเมื่อเห็นหูฟังเสียบไอพ็อดของอันนาห้อยแขวนอยู่บนบ่า แถมเสียงเพลงป๊อบร็อคยังดังลอดออกมาให้ได้ยิน

“ขอโทษค่ะ”

อันนารีบกดปิดเสียงเพลง กวาดสายตามองหาผมยาวสยายในห้องโถงกว้าง ไล่ตามองตามชั้นหนังสือไม้ ก็เห็นขายาว ๆ ข้างหนึ่งยื่นออกมาหลังชั้นวางหนังสือ ‘หมวดประวัติศาสตร์’ เด็กสาวย่นคิ้วคิดสงสัยว่าเหตุใดอัยจึงต้องมาซุกตัวอยู่ที่ชั้นวางหนังสือแถบนี้ด้วย

“ไหนแกว่าจะมาทำงานกลุ่มไง …ว้าย”

อันนาแทบจะกระโดดออกมาจากช่องระหว่างชั้นหนังสือ เจ้าของขายาว ๆ สีแทนคู่นั้นไม่ใช่อัย แต่เป็นยายซารีน่าเด็กเกรด 10 กำลังโรมรันพันตูอยู่กับนายยูกิ กิ๊กเก่าของหล่อน เสียงร้องของอันนาทำให้ทั้งคู่ผละออกจากแทบจะทันที แถมยังช่วยเรียกให้ภัยมาถึงตัวได้โดยเร็ว เสียงฝีเท้ารัวตึก ๆ ของศาสตราจารย์เทเรซ่าดังเข้ามาใกล้ อันนารีบแทรกตัวเองหนีจากบริเวณนั้น ปล่อยยายซารีน่าทำตาเขียวอยู่ด้านหลังและรับคำสวดจากบรรณารักษ์หน้าดุไปตามกรรมที่ก่อเถอะ

อัยหัวเราะหึ หึ เมื่อฟังเพื่อนเล่าเรื่องจบ อันนาดูหัวฟัดหัวเหวี่ยงมาก

“หนอย...อีตายูกิ ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้ ในห้องสมุดโรงเรียนแท้ ๆ ทุเรศที่สุด”

“ฉันก็นึกว่าแกไม่ชอบนายยูกิเสียอีก”

“ก็ไม่ได้ชอบไง ไม่ชอบเลย!!”

หล่อนขึ้นเสียงสูงจนเพี้ยน อัยหัวเราะขำ มองแก้มสีขาวซีดที่บัดนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ ๆ

“อ่ะจ้ะ ๆ ไม่ชอบแล้วแกมาโกรธทำไม ยังกะหึงแหน่ะ”

อันนาหน้าคว่ำไม่พูดว่าอะไร อัยอมยิ้มแล้วหันกลับไปกรอกข้อมูลสำหรับทำโครงการระหว่างเทอม สำหรับยื่นเสนออาจารย์ใหญ่ หล่อนมีทีมกรรมการนักเรียนช่วยกันอยู่สองสามคน เด็กสาวรีบเขียนก่อนจะใส่แฟ้มยื่นให้ ‘เจดี’ รองประธานนักเรียนหนุ่มชาวภูฏานรูปร่างผอมสูง ใบหน้ากร้านผอม ไปจัดการต่อ อัยไม่ปริปากพูดเรื่องงานโครงการสันทนาการนักเรียนตามคำสั่งของศาสตราจารย์สตีเฟ่นเลยสักครั้ง รวมถึงเรื่องคอขาดบาดตายอย่างการเคลียร์ห้องวิทย์ผีสิงนั่นด้วย คืนนี้แล้วสินะ ที่หล่อนต้องเริ่มภารกิจนั่น ใจคออัยยังรู้สึกวูบ ๆ วาบ ๆ หายใจไม่ค่อยสะดวกอยู่เลย

“อัย นี่โครงการอะไรน่ะ”

แซมหยิบกระดาษโครงการแผ่นหนึ่งขึ้นมาดูอย่างสงสัย เขาก็เป็นหนึ่งในกรรมการนักเรียนในทีมของหล่อนด้วย แซมมีตำแหน่งเป็นเลขาธิการ ขณะที่อัยกำลังหันกลับมามอง เพ่งกระดาษสีขาวในระยะห่างราวเมตรกว่า แซมก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้โดยการอ่านขึ้นดัง ๆ

“กิจกรรมฟื้นฟูพัฒนาจิตใจนักเรียนโรงเรียนเพรส โอ้ ก้อช! เรามีโครงการนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เจ๋งอ่ะ”

เขาทำตาโตตื่นเต้น อัยกับอันนาถลึงตาโตด้วยความตกใจ ทั้งคู่แทบจะพุ่งกระโจนเข้าดึงกระดาษจากมือของแซมพร้อมกัน แต่อัยไวกว่า เจ้ากระดาษสีขาวจึงยู่ย่นไปเล็กน้อยเมื่อกลับเข้ามาอยู่ในมือหล่อน หนุ่มตี๋มองสองสาวตาค้าง อัยกับอันนาสบตากันแล้วยิ้มเจื่อน ๆ ให้เขา ก่อนรีบพรวดพราดออกจากห้องประชุมไป

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา