The Ancient Tales : The Awakening

-

เขียนโดย Zcret

วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 11.13 น.

  5 chapter
  0 วิจารณ์
  7,016 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 12.42 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) NORTH WIND

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

          เสียงกุกกักดังเหนือชั้นหนังสือขนาดใหญ่ มันใหญ่ชนิดที่ว่าทั้งกว้างและสูงมาก มากจนสามารถเก็บหนังสือได้เป็นหมื่นเล่มเลยทีเดียว ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีดำถักเปียปรากฎอยู่บนขั้นสุดท้ายของบันไดลิงที่เอาไว้ขึ้นไปหยิบหนังสือที่อยู่ชั้นบนของชั้นวาง สองเท้าของเธอย่ำบนขั้นบันไดอย่างมั่นคง มือหนึ่งเธอจับขอบชั้นหนังสือเอาไว้แน่น ส่วนอีกมือหนึ่งของเธอกรีดนิ้วไปยังสันหนังสือที่เรียงรายตรงหน้าพลางกวาดสายตาสีน้ำตาลเข้มมองหาเล่นที่เธอต้องการ

 

 

“ เย้ !….เจอแล้ว……….ว๊ายยยยยย ”          

 

          เธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มร่าอันสดใสบนใบหน้าของเธอ ก่อนที่จะลืมตัวเสียหลักทำเอาเกือบตกจากบันได แต่ก็โชคดีที่เธอเกาะขอบชั้นหนังสือเอาไว้ได้ทัน  “ แฮ่…เกือบไปแล้ว..”

 

“ ริโครเน่…เป็นอะไรรึเปล่าจ้ะ ”

 

            เสียงดังมาจากนอกห้องหลังจากที่เธอร้องอุทานด้วยความตกใจ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินเข้ามาพร้อมกับหันซ้ายหันขวามองหาเธอ

 

“ อยู่ข้างบนนี้ค่ะ..ป้าแอนนา ” 

 

           หญิงชราชาวเมย์ทรอนเรือนผมขาวเงยหน้ามองเด็กสาว เธอขยับแว่นสายตาทรงกลมพลางหรี่ตามองภาพที่ตนเห็น

 

“ ตายแล้วขึ้นไปทำอะไรบนนั้นละริค รีบลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ”

 

          เธอกล่าวขึ้นด้วยความตกใจ ก่อนที่จะสั่งให้เด็กสาวที่เธอได้รับมาเลี้ยงไว้ตั้งแต่ยังเด็กๆด้วยเหตุการณ์ที่ทำให้เธอนั้นต้องเสียครอบครัวอันเป็นที่รักไป

 

 

“ ช้า ๆ ก้าวระวังๆด้วยสิ ริค ช้า ๆ ”

“ นี่ห้องสมุดนะคะ! กรุณาลดการใช้เสียงด้วยค่ะ ” 

 

 

          ไม่ทันที่ริโครเน่จะลงถึงพื้นห้อง เสียงนี่ก็ดังขึ้นตรงทางเข้าของห้องสมุดโซนเล่นแร่แปรธาตุแห่งนี้ ก็คงจะไม่พ้นเสียงของบรรณารักษ์ที่ตามเข้ามาเพราะเสียงเอะอะของป้าแอนนานั้นเอง คุณป้าและหลานสาวจึงขอโทษบรรณารักษ์ยกใหญ่ที่ก่อนที่ทั้งคู่จะรีบเดินตรงไปยืนหนังสือที่จะยืมที่เค้าเตอร์และออกจากหอสมุดกลางแห่ง นคร เมย์ทรอน

 

 

          ทั้งสองเดินทางกลับมาถึงบ้านซึ่งห่างจากหอสมุดกลางประมาณสี่บล็อค ริโครเน่ โดนคุณป้าของเธอเทศสักพักใหญ่ๆ ป้าแอนนาเท้าความยาวตั้งแต่ก่อนที่จะย้ายบ้านเข้าอยู่ในเมือง ว่าเธอนั้นเลี้ยงดูทั้งรักทั้งดูแลริโครเน่มากขนาดไหน และตบท้ายด้วยการย้ำให้ริคระวังๆเรื่องความซุ่มซ่ามก่อนที่จะแยกย้ายกันไปด้วยดี ริควิ่งชั้นบนเข้าห้องของเธอทันทีพร้อมกับวางหนังสือที่ยืมมาลงบนโต๊ะของเธอ เธอเปิดหน้าหนังพร้อมกวาดสายตาสีน้ำตาลเข้มอย่างมุ่งมั่นตั้งใจค้นคว้าและศึกษาศาสตร์การเล่นแร่แปรธาตุ

 

 

            หนังสือที่ริคยืมมาเป็นักสือที่รวบรวมเอานักเล่นแร่แปรธาตุชื่อดังในอดีตและบทความความรู้สั้นๆของพวกเขา จากการรวบรวมข้อมูลของผู้เขียนที่ได้ออกตามหาและรวบรวมมา จนหลายๆบทความในหนังสือทำให้เธอนั้นได้รู้ว่าการอยู่แต่ในห้องทดลองและหอสมุดทำให้เธอไม่สามารถที่จะเป็นนักเล่นแร่แปราตุชื่อดังดั่งที่เธอใฝ่ฝันได้ ริโครเน่ อัลทูว หญิงสาวชาวเมย์ทรอนอายุยี่สิบปีเธอแอบมีความคิดเล็กๆว่าจะต้อง…ออกเดินทาง

 

 

“ แอนนาได้ยินข่าวบ้างไหม ช่วงนี้มีคดีฆาตกรรมปริศนาเกิดขึ้นเยอะเลยนะ ”

 

 

            ชายชรารุ่นราวคราวเดียวกับป้าแอนพูดขึ้นในที่เขาเดินผ่านมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านและได้เหลือบมองเห็นแอนนาที่กำลังวุ่นอยู่กับงานครัว

 

“ อีกแล้วหรอ บ้านเมืองกำลังเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ”

“ ช่ายย..นี่ก็ยังมีข่าวเรื่องกบฏทางเหนืออีกนะ ทางการกำลังจัดกำลังพลเต็มที่เลย ”

 

 

            กล่าวจบชายชราผู้นั้นก็เดินจากไป ในขณะที่แอนนาก็ตรงไปหยิบหนังสือพิมพ์บนโต๊ะในห้องรับแขกของเธอ หญิงชราอ่านพาดหัวข่าวรายงานว่ามีการฆาตกรรมปริศนาพ่อค้าชาวเมย์ทรอนในบ้านพัก ไม่พบร่องรอยใดๆทางการกำลังรีบสืบสวน แอนนาถอนหายใจพลางส่ายหน้าเบาๆ เธอรู้สึกเป็นห่วงริคขึ้นมาทันที

  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ ไม่เลวเลยเธอนี่..”

“ …. ”

“ ไม่ชอบพูดจริงๆเลยนะ…”

 

 

            ภายในห้องที่เต็มไปด้วยเงามืดบดบังใบหน้าของร่างทั้งสอง ร่างหนึ่งไคว่ห้างอยู่บนเก้าอี้พร้อมทั้งวางถุงเงินบนลงโต๊ะตรงหน้าของตน ส่วนอีกร่างสูงเพรียวที่ไร้การตอบสนองใดๆกับอีกฝ่ายคว้าถุงเงินนั้น หันหลังและเดินออกจากห้องไป

 

 

“ เดี๋ยวก่อน..สิ..ยังมีอีกงาน เธอสนใจไหมละ..”

 

 

            ร่างบนเก้าอี้ยื่นข้อเสนอให้กับอีกฝ่ายพร้อมโน้มตัวเข้าหาแสงจันทร์ยามค่ำคืนที่สาดส่องผ่านหน้าต่างลงมาบนโต๊ะ อุ้งมือและใบหน้าที่เต็มไปด้วยขนสีดำรวมถึงดวงตาสีเหลืองอันกลมโตของแมว

 

 

“ มีอะไรก็ว่ามา…กาล์ว ”

 

 

            คำพูดเรียบๆที่แฝงความเย็นชาดังขึ้นในขณะที่เจ้าของเสียงหันกลับมา แสงจันทร์ที่ส่องผ่านเข้ามาเผยให้เห็นเรือนผมเรียวยาวสีขาวเงินและดวงตาที่มีนัยน์ตาสีแดงขุ่นมัว

 

 

“ ก็..เข้ามา…เลือกสิ…”

 

 

            กาล์วเลื่อนม้วนกระดาษที่วางอยู่บนถาดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าไปที่ขอบโต๊ะ ก่อนที่เอนหลังพิงหนักเก้าอี้ พ้นเเสงจันทร์ที่ส่องลงมาเหลือไว้เพียงดวงตาสีเหลืองทองและรอยยิ้มฟันขาวในเงามืด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

  

 

          หมอกควันสีหม่นหนาทึบลอยสูงเหนือกำแพงหิน มันเปลี่ยนให้สีขาวของหิมะที่กำลังร่วงหล่นจากท้องฟ้ากลับกลายเป็นสีดำ ประตูเมืองอันแกร่งกล้าถูกสร้างเพื่อปกป้องชาวเมืองถูกทำลายสิ้นด้วยค้อนและขวาน เบื้องหลังกำแพงหนาส่งเสียงของเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผาบ้านเรือนและอาคารหินที่ทยอยถล่มลงกับพื้น สายลมหนาวอันคุ้นเคยพัดเข้ามาอีกครั้ง มันได้หอบเอากลิ่นอายเหล่านี้ส่งผ่านกระจายไปทั่วแคว้นแดนเหนือ ราวกับเป็นผู้ส่งสารให้กับเหล่าเมืองที่ตั้งอยู่ ณ เดินแดนแห่งนั้น

 

 

“ ฝีมือใครละเมืองนี้…”

“ ดูเหมือนจะเป็นเจ้านั้นแหละนะ..เหอะ เหอะ ”

 

 

            ร่างหนาของผู้ตอบคำถามกล่าวขึ้นพลางชี้นิ้วไปยังเด็กหนุ่มผมสีทองใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่กำลังเดินนำกลุ่มกบฎข้ามผ่านเศษซากกำแพงเมืองออกมา ร่างผอมบางอันแปลกตาในกองทัพแห่งนี้ แต่ก็อัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อไม่แพ้กว่ากบฏคนอื่นๆ จะมีก็แต่ขนาดที่ผิดกันลิบลับทางด้านสรีระ รวมถึงดาบขนาดใหญ่บนหลังและแขนซ้ายที่รูปร่างผิดปกติไปจากมนุษย์ของเขา

 

 

“ เหอะ เหอะ…ไปขุดมาจากไหนละนั้น..”

“ คงจะเป็นหลานคนสนิทของกอตแล็ค….”

 

 

          แผนที่เซดัสห์กลางอยู่บนโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ บนแผนที่มีรอยเส้นสีแดงสดลากจากนอร์เคลื่อนผ่านเมืองทางเหนือและมุ่งสู่เมย์ทรอน เป็นเวลากว่าสามสัปดาห์ที่กลุ่มกบฏได้รวบรวมกำลังพลจากเมืองเขตเหนือของเซดัสห์เข้าร่วมก่อกบฏต่อเมย์ทรอนในครั้งนี้ ไม่นานนักจากกลุ่มกบฏก็ทรงพลังขึ้นเป็นกองทัพกบฏอันน่าเกรงขามโดยมีอีกหนึ่งกำลงพลที่เข้าร่วม ดอว์นสโนว เมืองที่เป็นต้นตำหรับนักรบแดนเหนือชั้นเยี่ยมเช่นเดียวกับนอร์ และได้ขยายอำนาจด้วยการเคลื่อนกำลังพลเข้าทำลายเมืองที่ไม่เข้าร่วมและยังภักดีต่อเมย์ทรอน อย่าง ฟรีซร็อค และกำลังมุ่งหน้าสู่ วินเทอร์สเพล เมืองที่อดีตกว่าหลายร้อยปีเคยเป็นเมืองขึ้นของเอลฟ์ก่อนที่จะล่มสลาย วินเทอร์สเพลจึงสืบทอดความรู้ด้านมนตราและตำราเล่นแร่แปราตุเอาไว้ อีกทั้งยังเป็นเมืองทางเหนือที่มีลอร์ดเอลฟ์อาศัยอยู่ด้วย

 

 

ตึ้ง !!!!

 

 

          กอตแล็กปักมีดลงบนแผนที่อย่างรุนแรง ปลายแหลมของมีดนั้นทะลุแผ่นกระดาษและฝังจมลงในเนื้อไม้ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่ตั้งของ วินเทอร์สเพล บนแผนที่ ก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มอำมหิตตรงมุมปาก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา