Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย

9.1

เขียนโดย Kreota

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.

  30 ตอน
  3 วิจารณ์
  25.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) เลือดนี้แด่เธอ...#ลงทุนหนักมากกก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

-3-

เลือดนี้แด่เธอ...#ลงทุนหนักมากกก

 

            “คะ O_O?”

            “ไม่ต้องมา ‘คะ?’ โทร! ตอนนี้เลย”

            ด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่เอาจริงของอาจารย์เพียงออ ทำให้ฉันจำเป็นต้องโทรให้พ่อกับแม่ปิดร้านขายของแล้วมาที่โรงเรียนอย่างด่วน

            “ดิฉันทราบดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัว แต่ดิฉันจำเป็นต้องให้คุณทราบว่าการที่มีเจ้าหนี้มาตามทวงหนี้ถึงโรงเรียนแบบนี้ นอกจากจะทำให้นักเรียนคนอื่นแตกตื่นตกใจแล้วยังเป็นการรบกวนการเรียนการสอนด้วย และที่สำคัญมันทำให้จริญญาไม่เป็นอันเรียน เพราะว่ามัวแต่พะวงว่าจะมีใครมาก่อกวนอีก เพราะฉะนั้นดิฉันอยากจะขอร้อง อย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้อีก...ได้ไหมคะ...”  อาจารย์เพียงออเริ่มสวดทันทีที่พ่อกับแม่ของฉันมาถึง คงเพราะจะจวกพ่อแม่ฉันยับเยินแบบนี้นี่เองถึงได้ไล่ให้ฉันไปเข้าเรียนซะ

            ตอนนี้อาจารย์คงคิดว่าฉันถึงห้องเรียนแล้ว แต่เปล่าเลย...ฉันยังยืนเอาหูแนบกับประตูห้องฝ่ายปกครองอยู่ต่างหาก l_-;

            “ยัยโบ! อยู่นี่เอง! ไม่เห็นแกไปเข้าเรียน ฉันนึกว่าจะโดนลุงชุดดำนั่นอุ้มฆ่าซะแล้ว”  เหมยทักฉันเสียงดัง จนฉันต้องยกนิ้วชี้ขึ้นมาทาบที่ปากเพื่อให้ยัยนั่นลดเสียงลงหน่อย

            “แกทำอะไรอยู่เนี่ย?”  อ๋องพยายามเอาหูมาแนบกับประตูห้องปกครองเหมือนฉันบ้าง

            “พ่อแม่ฉันอยู่ข้างใน”

            “เฮ้ย! สงสัยอาจารย์เพียงออเอาจริงแล้วว่ะ”  อ๋องทำตาโต

            “แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง”  เหมยถาม

            “ไม่รู้สิ อาจารย์ไล่ฉันออกมาบอกให้ฉันไปเรียน”

            “งั้น...เราก็ควรไปเรียนนะ”  เหมยพูด ฉันกับอ๋องเผลอมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ก่อนจะหันไปมองเหมยเป็นจุดโฟกัส

            “ทำไมจู่ๆ ถึงรักเรียนขึ้นมาล่ะยัยหมวยเหมย”  อ๋องกระแนะกระแหน

            “ไม่ได้รักเรียนอะไรหรอก แต่ว่า...”  เหมยไม่พูดต่อแต่ใช้ท่าทางการชี้แทนคำตอบ ปลายนิ้วชี้ไปที่ประตูห้องปกครองที่ก่อนหน้านี้ฉันใช้หน้าแนบอยู่

            ควับ!

            เฮือก!!

            “อะ...อาจารย์ ^^;”  ฉันทักอาจารย์เพียงออที่ยืนกอดอกมองพวกเรา 3 คนอยู่ เปิดประตูออกมาตอนไหนเนี่ย -_-;;

            “ฉันให้เธอไปเรียนตั้งแต่เมื่อยี่สิบนาทีก่อนไม่ใช่หรอจริญญา ทำไมยังยืนอยู่ตรงนี้ -_+”

            “เอ่อ...ที่จริงก็ถึงห้องเรียนแล้วล่ะค่ะ แต่ว่าพอดีเป็นคาบชีวะก็เลยต้องไปเรียนที่แล็ป”  เหมยแก้ตัวอย่างมีทักษะ ถือว่าฟังขึ้นนะทางนี้ทางไปแล็ปพอดี

            “คือ..หนูเป็นห่วงพ่อกับแม่ก็เลยแวะมาอีกครั้ง...ก่อนไปเรียนน่ะค่ะ”  ฉันลอยไปตามน้ำอย่างเนียนๆ

            “งั้นหรอ”  อาจารย์เพียงออพูดอย่างไม่ค่อยเชื่อ ก่อนจะกวาดตามองพวกเราทีละคนและกลับเข้าไปในห้องตามเดิม แต่ไม่ลืมที่จะปิดประตูใส่หน้าฉันแรงๆ จนผมหน้าม้าปัดข้างของฉันปลิวแหว่งไปเลยทีเดียว

            =””“= ฟู่~

            เราเดินต่อมาที่ห้องแล็ปชีววิทยาตามที่เหมยได้บอกอาจารย์ไว้ ดีที่อ๋องกับเหมยเอาหนังสือกับอุปกรณ์การเรียนมาให้ฉันด้วย ก็เลยไม่ต้องกลับขึ้นไปเอาบนห้องให้เสียเวลาอีก

            “เฮ้ย! -[ ]-!!”  อยู่ๆ นังอ๋องก็ร้องออกมาแล้วหันไปจ้องที่สนามบาส ฉันก็หันไปมองบ้างเพราะคงเป็นหนุ่มหล่อๆ กำลังถอดเสื้อโชว์กล้ามชู๊ตบาสอยู่แน่ๆ จ้องตาไม่กระพริบขนาดนี้ +.,+

            “ปาว *O*!”  ฉันตาลุกวาวทันทีที่หันไปที่สนามบาสแล้วเห็นปาวกำลังวิ่งมาทางนี้...ห๊ะ! เขากำลังมองมาที่ฉันด้วย!!

            ผัวะ!!

            วูบบบ...

            “เฮ้! เธอ...เป็นไงบ้าง...ได้ยินไหม!!...เธอ!”  เสียงทุ้มๆ นุ่มละมุนหูของปาวดังอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับแรงตบเบาๆ ที่แก้มทั้ง 2 ข้างเพื่อเรียกสติ

            ...นี่ฉันเป็นอะไรไป ทำไมแสงอาทิตย์มันจ้าขนาดนี้ >_<

            “ยัยโบ!! โบอิ้ง!”  เสียงเหมยเรียกดังเข้ามาอีกคน พร้อมแรงเขย่าที่รู้สึกว่าจะแรงขึ้นเรื่อย ฉันพยายามตั้งสติและกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสภาพการรับรู้ของตัวเองใหม่

            เกิดอะไรขึ้น!

            “เธอ! เป็นไงบ้าง”  ดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ที่ส่องแสงแยงตาฉันอยู่ถูกบดบังด้วยใบหน้าชวนหลงใหลของปาว นี่ฉัน...เป็นลมแดดรึไง ทำไมฉันนอนแผ่อยู่บนพื้นแบบนี้?

            “ฉัน...”  ฉันส่งเสียงออกไปเบาๆ แล้วรีบลุกขึ้นจากตักของปาวทันที ฉันไปนอนบนตักเขาได้ไงเนี่ย?

            แต่...ขอเป็นลมอีกทีได้ป่ะ >////<

            “ฉันเป็นไรไป”  ฉันหันไปถามอ๋องกับเหมย

            “แกโดนบาสอัดหน้า”  อ๋องบอกสั้นๆ

            บาสอัดหน้า...?

            ฉันนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อกี๊อีกครั้ง ฉันจำได้ว่าฉันกำลังมองปาวที่กำลังวิ่งมาหา แล้วจู่ๆ ก็มีลูกกลมๆ สีส้ม ลอยมาและ...ผัวะ!!

            เอ่อ...ฉันจำได้แล้ว U_U#

            “ฉันขอโทษนะ”  ปาวพูดขึ้นทันทีที่เห็นว่าฉันจำได้แล้ว

            “ไม่เป็น...”  ระหว่างที่ฉันกำลังจะบอกปาวว่า ‘ไม่เป็นไร’ เหมยก็ร้องขึ้นพร้อมกับชี้มาที่หน้าฉัน

            “เลือด!! O_O!” 

            เลือดหรอ?

            “ห๊ะ!”  ฉันเลิกคิ้วถาม พร้อมๆ กับความรู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่นๆ ไหลออกมาจากจมูกเลยเอานิ้วขึ้นมาแตะๆ ดู

            “ละ เลือด!”  ฉันรีบใช้หลังมือปาดเลือดที่จมูกออก แต่มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย T^T

            “งะ เงยหน้าไว้โบ เงยหน้าไว้”  อ๋องบอกอย่างคิดได้ ฉันเลยรีบทำตามแต่พอเงยหน้าขึ้นไปกลับมองเห็นปาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆ พอดี เพราะว่าเขาสูงกว่าฉันมาก พอฉันเงยหน้าขึ้นไปเลยป๊ะกับปาวเต็มๆ ฉันจึงต้องก้มหน้าลงแทน

            ทำไมปาวต้องมาเห็นฉันในสภาพน่าสมเพชแบบนี้ด้วยเนี่ย TOT

            “เอ้า! ยัยโบ ก้มทำไมเงยหน้าขึ้นสิ!!”  อ๋องพยายามจับให้ฉันเงยหน้าขึ้น ฉันจะเงยหน้าได้ไงล่ะ อายจะตายอยู่แล้ว!!

            “ไม่ต้องๆ ก้มหน้าลงนิดหน่อยแบบนี้แหละถูกแล้ว”  ปาวบอกพร้อมกับกดศีรษะฉันให้ก้มลงอีกนิดหน่อย  

            “บีบจมูกไว้นะ”  ปาวก้มลงมาบอกฉัน จนลมหายใจอุ่นๆ ของเขาปะทะกับหน้าผากฉัน ทำเอาร้อนวูบวาบไปหมดเลย แล้วแบบนี้เลือดกำเดาจะหยุดได้ไง มันก็ยิ่งพุ่งออกมาน่ะเซ่ >///<!

            “อื้ม”  ฉันรับคำ หวังว่าเสียงฉันคงไม่สั่นนะ

            “โห...แฟนคลับแกคนนี้นี่ลงทุนหนักมากเลยนะเนี่ย”  เสียงของท็อทดังเข้ามาอีกคน นี่อย่าบอกนะว่าคนทั้งสนามมามุงดูฉันหมดแล้ว T.T

            “อี๋! เหมือนผีเลยอ่ะ เลือดเต็มหน้าเลยแก..”  เสียงชะนีที่ไหนไม่รู้ลอยเข้ามา ฟังแล้วระคายเคืองรูหูชะมัด -_-!

            “ลงทุนเยอะไปป่ะแก”  นั่นไง เสียงนังชะนีหมายเลข 2 ดังขึ้นอีกคนก่อนจะตามมาด้วยเสียงของชะนีทั้งฝูงที่กำลังนินทาฉันอยู่ แต่เป็นการนินทาที่ดังมากกก...

            “นังพวกนี้! พูดจาดีๆ หน่อย เดี๋ยวปั๊ด! โดดถีบขาคู่!”  อ๋องพูดขึ้นมาทำลายเสียงนินทาที่กำลังอื้ออึงหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เสียงเหล่าชะนีไทมุงเงียบกริบลงทันที

            ขอบใจนะอ๋องน้อยเพื่อนยาก T^T

            “โบ ฉันมีทิชชู่”  เหมยนั่งลงข้างๆ ฉันแล้วส่งทิชชู่ซองเล็กๆ ลายหมีพูมาให้ ฉันเอื้อมมือไปรับมาอย่างมีหวัง แต่...

            ฟึบ~...ในซองมีแผ่นเดียว -,,-;

            “อุ้ย!...แผ่นสุดท้ายพอดีเลย ^^;”  เหมยยิ้มแหยๆ ให้ฉันแล้วหยิบเอาซองทิชชู่คืนอย่างสำนึกผิด ฉันเอาทิชชู่ผืนน้อยมาปิดจมูกเอาไว้ แต่แค่แป๊บเดียวทิชชู่ในมือก็ชุ่มโชกไปด้วยเลือด มันจะหยดโดนกระโปรงฉันแล้ว คนอื่นที่เห็นทีหลังต้องคิดว่าฉันเป็นวันนั้นของเดือนแน่ๆ เลย TOT

            “เฮ้ย! ทำไร”  ปาวรีบคว้ามือฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะหยิบคอเสื้อตัวเองขึ้นมา

            “ก็เอามาเช็ดเลือดไง”

            “เสื้อเธอก็เปื้อนน่ะสิ”  ด้วยประโยคนี้ ทำเอาเหล่าชะนีน้อยใหญ่ที่ยืนมุงอยู่เผลอร้องกรี๊ดออกมา

            พวกเธอกำลังมโนอยากจะมานั่งเลือดกำเดาพุ่งเหมือนฉันใช่ไหม?...เอาไหมล่ะ! มาลองเปลี่ยนกัน ฉันจะยอมยืนมองอยู่เฉยๆ แทนที่พวกเธอเลย! มันไม่ได้น่าปลื้มเลยสักนิดน่าสมเพชจะตาย Y,,Y

            “ไม่เป็นไรหรอก มันก็เปื้อนไปแล้วตั้งเยอะ”  ฉันบอกแล้วหยิบคอเสื้อของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง แต่ปาวที่ยังจับมือฉัน (ไม่ปล่อย -.,-//) อยู่กลับยิ่งบีบมือฉันแรงขึ้นนิดหน่อยเพื่อห้ามฉันไว้

            “โอ้ยปาว จะทำอะไรก็รีบทำสิ เลือดเพื่อนฉันจะหมดตัวแล้วนะ”  อ๋องต่อว่าปาวที่ไม่ยอมให้ฉันได้ทำอะไรสักที

            เขาถอนหายใจออกมายาวๆ เหลือบขึ้นไปมองประชาชีที่มุงดูอยู่นิดหน่อย ก่อนจะ...ถอดเสื้อนักเรียน O////O

            “อ่ะ...”  ปาวยื่นเสื้อนักเรียนมาให้พร้อมกับเสียงกรี๊ดของเหล่าสตรีหลายนางที่ยืนร่วมเป็นพยาน

            นี่ฉัน...ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม หรือว่าเป็นลมแดดแล้วมโนไปเอง?

            “รับไปสิ เลือดไหลออกมาอีกแล้วน่ะ”  ปาวไม่พูดเปล่าแต่พับๆ เสื้อนักเรียนตัวเองเป็นก้อนใหญ่ๆ แล้วยกขึ้นมาเช็ดให้ฉันเองโดยไม่รอให้ฉันรับมันมา

            กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ปนกับกลิ่นเหงื่อของปาวทำให้ความฟินของฉันพุ่งกระฉูดยิ่งกว่าเดิม ใบหน้าที่ร้อนผ่าวๆ อยู่แล้วเพราะโดนแดดยามบ่ายแผดเผายิ่งทวีความร้อนมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้สัมผัสกับกลิ่นกายที่น่าหลงใหล -.,-//

            “โชว์แมนนานแล้วเว้ยเพื่อน พาโบไปห้องพยาบาลเหอะ”  เสียงฟานดังขึ้นมาขัดจังหวะความฟิน ดูเหมือนปาวจะเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังซับเลือดให้ฉันตอนที่ฟานพูดนี่แหละ เขาเลยรีบชักมือกลับจนฉันแทบจะหยิบเสื้อของเขามาปิดจมูกไว้ไม่ทัน

            “เออว่ะ”  ปาวพูดอย่างคิดได้ก่อนจะช่วยพยุงฉันลุกขึ้นโดยมีอ๋องคอยช่วยพยุงอีกแรง พอโดนพยุงขึ้นมานี่แหละถึงรู้ว่ามีคนเยอะขนาดไหนมุงอยู่

            “นี่! พวกเธอทำอะไรกัน”  เสียงอาจารย์เพียงออดังขึ้น ทำให้วงกลมถูกแหวกออกอย่างรวดเร็ว

            “จริญญา!”  อาจารย์ร้องเสียงหลงเมื่อเห็นสภาพของฉัน  “อธิบายมาว่าเกิดอะไรขึ้น!”

            “ความผิดของผมเองครับอาจารย์ ผมทำบาสกระแทกหน้าจริญญา”  ปาวบอกน้ำเสียงหนักแน่น เขาเรียกชื่อจริงของฉันด้วย >///<

            “กระแทกแรงไหมเนี่ย ต้องไปสแกนสมองที่โรงพยาบาลรึเปล่า เธอรู้สึกหน้ามืดหรือว่าคลื่นไส้ไหม”  อาจารย์เพียงออเข้ามาจับที่หน้าของฉันแล้วหมุนไปมาเบาๆ

            “ไม่เป็นไรค่ะอาจารย์ ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว”  ฉันบอกทั้งที่ยังคงบีบจมูกอยู่

            “แน่ใจนะ”

            “ค่ะ”

            ระหว่างนั้นเองพ่อกับแม่ที่กำลังจะกลับบ้านก็ขับรถผ่านมาพอดี ฉันก็เลยได้รับอภิสิทธิ์กลับบ้านก่อนเวลาเลิกเรียน แต่ถึงอาจารย์เพียงออไม่อนุญาตแม่ฉันก็ต้องพากลับอยู่ดีเพราะว่าท่านเป็นห่วงฉันมาก ถ้าฉันยืนยันว่าจะนอนอยู่ในห้องพยาบาลของโรงเรียนท่านก็คงจะนั่งเฝ้าที่นี่ ฉันเลยกลับไปนอนที่บ้านน่าจะดีกว่า

            พอกลับมาถึงบ้านฉันก็นอนประคบน้ำแข็งจนเผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีตอนที่อ๋องโทรเข้ามาตอนหัวค่ำ

            [เป็นไงบ้างโบ เลือดหยุดไหลหรือยัง]  เหมยถามมาจากปลายสาย

            [เห็นผู้ชายแล้วเลือดกำเดาพุ่งเชียวนะแก]  เสียงอ๋องดังขึ้นมาอีกคน

            พวกเรามักจะประชุมสายคุยกันแบบนี้เป็นประจำ ถ้าเกิดขาดคนใดคนหนึ่งไปความรู้สึกเหมือนคุยอะไรไปก็ไม่ค่อยสนุก

            “ก็เพราะแกนั่นแหละไอ้อ๋อง ทักจนฉันต้องหันไป”

            [ฉันทักลูกบาสที่ลอยมาหาแกหรอกย่ะ ไม่ได้ทักให้แกมองปาวสักหน่อย]

            “แกก็น่าจะบอกว่า ‘เฮ้ย บาส!’ อะไรแบบนี้ก็ได้”

            [ถึงฉันจะบอกแกว่า ‘เฮ้ย บาส!’ แกก็มองปาวอยู่ดีแหละ]

            “อย่างน้อยๆ ฉันก็จะได้ระวังตัวไว้ไง!”

            [พอๆ เลยพวกแกสองคน ถ้าเกิดไม่มีฉันคอยเบรกไว้ จะไม่ยอมหยุดเถียงกันเลยใช่ไหมห๊ะ!]  เหมยพูดแทรกขึ้นมา

            “ใช่” / [ใช่]  ฉันกับอ๋องประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง

            [เฮ้อ...ที่โทรมาเนี่ย ไม่ได้โทรมาเพื่อให้พวกแกเถียงกันว่าคนไหนผิดคนไหนถูกนะ…แกก็เข้าเรื่องสักทีสิอ๋อง]

            “อ้าว! มีเรื่องไหนใหญ่กว่าเรื่องที่ไอ้อ๋องไม่บอกว่าฉันกำลังจะโดนบาสกระแทกหน้าอีกหรอเหมย”  ฉันถามโดยที่ยังคงแซะอ๋องไม่เลิก

            [นังอ้อยอิ่ง!!]

            “ฮ่าๆๆๆ”  พอฉันได้ยินเสียงของอ๋องน้อยแล้วจินตนาการไปถึงหน้ามุ่ยๆ ของนางแล้วอดขำไม่ได้เลย

            [เรื่องที่แกลงทุนเอาหน้าไปรับบาสของปาวนั่นแหละ...ใหญ่กว่า]  เหมยบอกเองในที่สุดโดยไม่รอไอ้อ๋องที่มัวแต่เล่นตัว แต่เอ๊ะ!...ลองกลับไปอ่านทวนประโยคที่เหมยพูดหน่อยสิคะ

            ฉัน...เอาหน้าไปรับบาสของปาว งั้นหรอ! ใครมันเป็นคนพูดเนี่ย T[ ]T!

            “จะบ้าหรอ!! คนดีๆ ที่ไหนมันจะเอาหน้าไปรอรับบาสกัน! มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่คิดแบบนี้”  ฉันร้องลั่นบ้าน คิดว่าตอนนี้ความดันคงพุ่งปรี๊ดถึงขีดสุดแล้ว เลือดกำเดาจะพุ่งอีกไหมเนี่ย -.,-;

            [งั้นก็คงบ้าทั้งโรงเรียนนั่นแหละ ตอนนี้ทั้งเฟสบุ๊ค ทั้งทวิตเตอร์ของโรงเรียนมีรูปแกแปะให้ว่อนไปหมด แถมมีแฮชแท็กเก๋ๆ ให้แกด้วยนะ]  อ๋องเสริมจนฉันต้องกลืนน้ำลายลงคอเพราะรู้สึกว่าคอมันแห้งผากขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

            “แฮชแท็กอะไร”

            [ลงทุนหนักมาก / ลงทุนหนักมาก]  เหมยและอ๋องประสานเสียงกลับมา ทำเอาใจฉันเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาเต้นตุบๆ อยู่นอกอก นี่น่ะหรอที่เขาบอกว่า ‘อกอีแป้นจะแตก’ ฉันรู้ซึ้งก็ตอนนี้แหละ!

 

 

*******************************************************

อัพอีกแล้วจ้าาาาา

ตอนที่ 3 ของเรารอกันนานไหมเอ่ย ^_^

ฝากติดตามด้วยนะคะทุกคน 

:: ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

********************************************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา