Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย

9.1

เขียนโดย Kreota

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.

  30 ตอน
  3 วิจารณ์
  25.18K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) ขอใช้สิทธิ์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

-21-

ขอใช้สิทธิ์

 

            หลังเลิกเรียนวันนี้ ฉันต้องมานั่งเฝ้าโปรดซ้อมร้องเพลงกับชมรมประสานเสียงเพื่อร้องในงานเลี้ยงส่งรุ่นพี่อาทิตย์หน้า ซึ่งรุ่นพี่หนึ่งในนั้นคือฉันเอง แบบนี้มันก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิรู้หมดเลยว่าจะร้องเพลงอะไรให้ฟัง =_=

            “เมื่อวานพี่ฉันไปหาเธอรึเปล่า”  โปรดเท้าคางมองฉันอย่างจับผิดขณะรอสมาชิกคนอื่นๆ ซึ่งมายังไม่ครบวง โปรดมีหน้าที่เป็นคอนดักเตอร์ของวงก็เลยมีเวลามานั่งซักฟอกฉันขณะที่คนอื่นกำลังฝึกท่องจำเนื้อร้องแล้วก็ซ้อมเดินขึ้นเวที

            “แค่แวะไปซื้อของนิดหน่อยน่ะ...เอ๊ะ! เธอรู้ได้ยังว่าพี่เธอไปหาฉัน”  ฉันบอกพร้อมกับปรับน้ำเสียงให้ดูปกติที่สุด พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วมันร้อนขึ้นมาแปลกๆ -////-

            “ฉันบอกให้กลับมารับเธอไปส่งบ้านเองแหละ แล้วเมื่อวานเจอกันรึเปล่าทำไมพี่ฉันถึงกลับบ้านดึกจัง”

            “เจอสิ ไม่งั้นจะซื้อของได้ไง =_=”

            “ซื้ออะไร ไม่เห็นพี่ปาวถืออะไรเข้าบ้านเลย”

            จะมีของกลับไปได้ไงล่ะ นมเปรี้ยวที่ถือมาวางไว้ในเคาน์เตอร์ก็ไม่เอาไป แถมยังวางแบงค์ 500 ไว้ให้ในเคาน์เตอร์เป็นค่านมแบบไม่เอาเงินทอนอีกต่างหาก ฉันกลับเข้ามาในร้านยังตกใจเลยที่เขาจ่ายแบงค์ 500 กับราคาของไม่ถึง 10 บาท

            “เมื่อวานมีอะไรใช่ไหม เล่ามาเดี๋ยวนี้ -_+”

            “เปล๊า ไม่มีอะไรเลย พี่เธอแค่แวะมาแล้วบอกว่าเธอฝากซื้อขนม”

            “สตอรึเปล่าเนี่ย พี่ฉันเนี่ยนะจะไปซื้อขนมร้านเธอมาให้ฉัน แค่เห็นสภาพร้านโชว์ห่วยเก่าๆ ของเธอฉันก็ไม่กล้าเข้าแล้ว กลัวเป็นบาดทะยัก -*-”

            “นี่พูดดีๆ นะ ร้านโชว์ห่วยเก่าๆ งั้นหรอ!”

            “อะๆ ล้อเล่นๆ ฮ่าๆๆๆ ^_^”  โปรดหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อเห็นว่าฉันกำลังงอน  “พี่ปาวนี่แปลกขึ้นทุกวัน ไม่ใช่จะหลงเสน่ห์กระโห้อย่างเธอเข้าซะแล้วหรอ”

            “อ้าว ก็ฉันออกจะเสน่ห์แรงขนาดนี้นี่นา โฮะๆๆ ^O^” 

            “ย่ะ!! แม่คนเสน่ห์แรง ขนาดพี่ทิวยังหน้ามืดตามัวมาชอบเธอได้ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเห็นอะไรในตัวเธอถึงได้พากันชอบนัก”

            “นี่น้อยๆ หน่อย ฉันก็มีดีของฉันเหมือนกันนะ”  ฉันยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจ ทั้งที่จริงๆ แล้วฉันยังหาจุดเด่นในตัวเองไม่เจอเลย =_=;          

            “หราาา”  โปรดจงใจลาดเสียงยาวๆ อย่างประชด ฉันเลยผลักศีรษะโปรดนิดหน่อยแต่ตัวกลับโงนเงนไปมาเพราะแอ็คติ้งระดับเทพของนาง

            “เอนไปมาขนาดนี้เวอร์เกินไปละโปรด”

            “ฮ่าๆๆๆ ^O^”

            “เออ...ฉันสงสัยมานานแล้ว ปาวอยู่ห้อง A ทำไมเธอถึงได้เรียนห้อง D ล่ะ หรือว่าพี่ชายแย่งความฉลาดไปหมด”  ฉันเท้าคางถามข้อสงสัยที่ค้างคาใจฉันมานาน

            “ที่จริงตอนสอบเทียบเข้ามา อาจารย์ก็ให้เรียนห้อง A แต่ฉันอยากเรียนแบบชิลๆ ดูบ้าง ก็เลยขอเรียนห้อง D”  โปรดตอบแบบสบายๆ ระหว่างที่ก้มอ่านเนื้อเพลงของตัวเองไปด้วย ไอ้เราก็นึกว่าปาวแย่งความฉลาดไปหมดโปรดก็เลยเรียนไม่เก่ง ที่ไหนได้อัจฉริยะทั้งบ้านสินะ =_=

            ระหว่างที่ฉันกำลังจะถามต่อโปรดก็ถูกเรียกให้ไปซ้อม แต่วันนี้โปรดบอกว่าจะไปซื้อของขวัญไว้ไปงานเลี้ยงส่งรุ่นพี่ฉันก็เลยต้องอยู่ก่อน เพราะนางจะให้ไปเลือกของที่จะให้พี่ทิวด้วยกัน แต่พี่โบลิ่งก็นัดฉันวันนี้ซะด้วยสิฉันจะแก้ตัวว่ายังไงดี ถ้าอิดออดไม่อยากไปพี่โบลิ่งต้องไม่ใช้หนี้ให้แน่ๆ แต่ถ้ารีบใช้หนี้ตอนนี้โอกาสที่ฉันจะได้ใกล้ชิดปาวก็น้อยลงน่ะสิ >_<!

            ฉันแอบแว็บออกมาโทรหาพี่โบลิ่ง แต่ก็เหมือนใจตรงกันเพราะพี่โบลิ่งก็โทรเข้ามาพอดี

            [ฮัลโหลโบ ตอนนี้อยู่ไหนเนี่ย]  พี่โบลิ่งถามมาจากปลายสายอย่างหัวเสีย ตายๆๆ พี่โบต้องรอนานแล้วแน่ๆ เลย >_<!

            “อยู่บนห้องค่ะ วันนี้อาจารย์ให้ทำงานส่ง ถ้าไม่เสร็จไม่ให้กลับ T^T”  ฉันพยายามทำเสียงให้ฟังดูน่าสงสารที่สุด

            [อ้าว เหลือเยอะรึเปล่า]

            “ก็เยอะค่ะ คงอีกสักพักใหญ่ๆ ถึงจะเสร็จ”

            [อืมงั้นดีเลย ทำงานต่อแล้วกัน]  อ้าว! เป็นงั้นไป พี่โบลิ่งงอนหรอ T^T

            “อ้าว พี่เป็นอะไรเปล่า งอนหรอที่โบยังทำงานไม่เสร็จ”

            [ไม่ได้งอน พอดีคอลเลคชั่นที่จะเดินแบบอาทิตย์หน้ามีปัญหาก็เลยโทรมาบอกว่าไปไม่ได้ กลัวเธอรอ]

            “อ๋อ นึกว่างอน”

            [งั้นก็ทำงานแล้วกัน แค่นี้แหละ...ตุ๊ด ตู๊ด ตู๊ด]  พูดจบพี่โบลิ่งก็ตัดสายไปเลย เหมือนตอนนี้กำลังยุ่งมากๆ แต่พี่โบก็โทรมาบอก เป็นพี่ที่น่ารักจริงๆ นะ ^^

            “คุยกับแฟนหรอโบ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว”  จู่ๆ พี่ทิวก็เดินเข้ามาทัก พี่ทิวทำไมมาอยู่แถวนี้ล่ะเนี่ย รู้สึกว่าพี่เขาอยู่ชมรมคาราเต้นี่นา ยิมกับห้องซ้อมร้องเพลงประสานเสียงนี่มันคนละฟากของโรงเรียนเลยนะ

            “ถ้ามีก็ดีน่ะสิคะพี่ทิว แต่เมื่อกี๊คุยกับพี่สาวค่ะไม่มีหนุ่มที่ไหนโทรมาหรอก”  ฉันหันไปตอบหน้ามุ่ย พี่ทิวหัวเราะเบาๆ ในลำคอแล้วล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครสักคน

            แต่คนๆ นั้นก็คือ...ฉันเอง

            “พี่ทิวโทรหาโบทำไมคะ”  ฉันชูมือถือที่กำลังสั่นอย่างต่อเนื่องขึ้นให้พี่ทิวดู อยู่กันแค่นี้จะโทรมาทำไม =_=?

            “อ้าว ก็โบอยากให้มีหนุ่มโทรหาไม่ใช่หรอ”

            “อ๋อ พี่ทิวก็เลยโทรให้ว่างั้นเถอะ”

            “ใช่ ^_^”

            “โธ่ ไม่ต้องสงสารโบขนาดนั้นหรอกค่ะ”

            “พี่ไม่ได้สงสารโบนะ พี่แค่...”

            “มาทำอะไรตรงนี้!”  ระหว่างที่ฉันกำลังตั้งใจฟังพี่ทิว อยู่ๆ ปาวก็เข้ามายืนอยู่ข้างๆ ฉัน  “เธอมาอยู่เป็นเพื่อนโปรดไม่ใช่หรอ”

            “ฉันออกมาคุยโทรศัพท์” 

            “ไหนล่ะโทรศัพท์ ไม่เห็นยกขึ้นมาคุยเลย”  ปาวขยับเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นจนไหล่ของเราสองคนแทบจะชนกันอยู่แล้ว

            “ก็คุยเสร็จแล้วไง”

            “คุยเสร็จแล้วก็เข้าไปข้างในสิ ยืนทำอะไรอยู่”

            “โบคุยกับฉันอยู่”  พี่ทิวพูดเสียงเย็นเยียบจนฉันรู้สึกไม่ค่อยดีที่ต้องยืนอยู่กึ่งกลางระหว่างสงครามเย็นแบบนี้ =_=

            “อ้าวงั้นหรอ ฉันไม่ยักเห็นนายเมื่อกี๊ โทษที!”  ปาวหันไปพูดกับพี่ทิวด้วยระดับความเย็นของเสียงไม่ต่างกัน

            “คุยเสร็จแล้วใช่ไหม ไปเถอะ”  ปาวหันมาถามฉันแล้วเอื้อมมือมาจับต้นแขนทำท่าจะลากฉันเข้าไปในห้องซ้อม แต่เมื่อกี๊เหมือนพี่ทิวพูดอะไรค้างไว้สักอย่าง ฉันก็เลยรั้งแขนตัวเองเอาไว้

            “เมื่อกี๊พี่ทิวจะพูดอะไรรึเปล่าคะ”

            “ไม่มีอะไรหรอก โบไปเถอะ”

            “ค่ะ...ขอโทษนะคะ”  ประโยคสุดท้ายฉันพูดกับพี่ทิวเบาๆ ก่อนที่จะถูกปาวลากเข้ามาในห้องซ้อม

            เราเดินเข้ามาจนกระทั่งถึงห้องซ้อมที่โปรดกำลังซ้อมอยู่ แต่เขากลับพาฉันเดินผ่านเข้ามาด้านหลังเวทีแทนที่จะนั่งดูโปรดซ้อม

            “นายพาฉันมาที่นี่ทำมะ...”

            “...ถ้าเป็นคนอื่น!!”  อยู่ๆ ปาวก็หยุดแล้วพูดแทรกขึ้นมาระหว่างประโยค

            “ห๊ะ เมื่อกี๊ว่าไงนะ”  ฉันถามทำให้ปาวถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนที่เขาจะปล่อยมือออกจากแขนฉันแล้วหันมามองหน้าฉันตรงๆ

            “ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ไอ้ทิว ฉันจะไม่โกรธขนาดนี้...ถ้าเธอยิ้ม หัวเราะหรือว่าคุยกับคนอื่น ฉันคง...พอทนได้”  ด้วยสีหน้าและแววตาที่จริงจังมากเวลาที่พูด ทำให้ฉันต้องมองผ่านไหล่เขาไปข้างหลังแทนการสบตาคมนั้น

            “ก็...ฉันไม่รู้นี่นาว่านายไม่ชอบหน้าพี่ทิวขนาดนี้..”

            “เกลียดเลยล่ะ”

            “โอเคๆ ...เกลียดก็เกลียด ว่าแต่นายกับพี่ทิวเป็นอะไรกันรึเปล่า ทำไมถึงได้เกลียดกันขนาดนี้”

            “เป็นศัตรูกัน พูดแค่นี้เข้าใจไหม” 

            “ทำไมถึงเป็นศัตรูกันล่ะ ทะเลาะกันเรื่องอะไร”  ปาวไม่ตอบแต่ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างไม่พอใจคำถาม และดูท่าทางว่าจะไม่ยอมตอบง่ายๆ ซะด้วย

            “ได้! ฉันไม่ถามแล้วก็ได้ แต่ฉันสงสัยว่าทำไมนายต้องไม่ชอบเวลาที่ฉันคุยกับพี่ทิวด้วย ทีน้องนายนายยังไม่ว่าอะไรสักคำ”

            “ฉัน...ไม่อยากให้โปรดคิดมาก”

            “อ๋อ ว่าน้องตัวเองไม่ได้ ก็เลยมาลงที่คนรับใช้น้องนายสินะ”

            “ใคร?...คนรับใช้”

            “ก็ฉันนี่ไง”  ฉันชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง

            “ถึงโปรดจะเรียกหาเธอบ่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงขนาดคนใช้หรอกมั้ง ยัยนั่นแค่ต้องการเพื่อน”

            “ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละ =_=”

            “ระหว่างที่เธอดูแลโปรดอยู่ ฉันขอใช้สิทธิ์เจ้าหนี้เธอหน่อยได้ไหม”

            “อะไร ถ้าทำได้ฉันก็จะทำ”

            แอร๊ยยย! ทำไมถึงรู้สึกหัวใจพองโตกับคำว่า ขอใช้สิทธิ์เจ้าหนี้ แบบนี้นะ มันเหมือนมีสายสัมพันธ์อะไรบางอย่างผูกเราไว้ด้วยกันเลย >////<

            “เธอต้องทำ!”

            “อะไรล่ะ บอกมาก่อนสิ”

            “อย่ายุ่งกับไอ้ทิว แค่ข้อนี้ข้อเดียวเธอทำได้ไหม”

            “ทำไม่ได้หรอก ถึงนายจะเพิ่มดอกเบี้ยขึ้นอีกเป็นเท่าตัวฉันก็ทำให้ไม่ได้” 

            เพราะยังไงฉันก็จะไปปิดหนี้วันนี้พรุ่งนี้อยู่แล้ว (อันนี้ต่อบทเองในใจ =_=)

            “ทำไม ชอบไอ้ทิวมากกว่าฉันอีกหรอ แล้วที่ใครๆ บอกว่าเธอชอบฉันมันจริงรึเปล่า...เฮ้ย! งั้นที่มายุ่งกับฉันนี่คืออะไร? แผนของไอ้ทิวใช่ไหม?”

            “ไปกันใหญ่แล้วปาว!”

            “แล้วคืออะไรล่ะ”

            “เรื่องที่ฉันชอบ!...เอ่อ เรื่องที่ฉันเป็นแฟนคลับนายก็เรื่องหนึ่ง ส่วนเรื่องพี่ทิวก็อีกเรื่องหนึ่ง นายจะเอามาปนกันทำไมเนี่ย -////-;”  โอ้ย!! เกือบหลุดปากว่าชอบปาวไปแล้วไหมล่ะ สารภาพรักตอนนี้ไม่ได้นะฉันยังไม่พร้อมรับคำตอบ >////<

            “พี่ทิวเป็นพี่รหัสฉัน จะไม่ให้ฉันคุยไม่ทักทายเลยมันเสียมารยาท”  ฉันอธิบายต่อเมื่อเห็นว่าปาวเงียบไป

            “แสดงว่าที่คุยกับไอ้นั่นเพราะแค่มารยาทใช่ไหม”

            “ไม่ใช่”

            “อ้าว -_-?”

            “พี่ทิวเหมือนเป็นพี่ฉันอีกคนหนึ่ง เรารู้จักกันมานานแล้วถ้าไม่ยุ่งไม่คุยเลยแล้วมิตรภาพที่ผ่านมาจะทำยังไง ถ้าเกิดวันหนึ่งมีคนสั่งห้ามไม่ให้นายยุ่ง ไม่ให้นายพูดกับฟานหรือท็อทอีก นายจะรู้สึกยังไง!”  พอฉันพูดจบปาวก็เงียบไปพักก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ

            “ได้ ฉันยอมแพ้”  ปาวยกมือขึ้นทั้งสองข้าง 

            “เข้าใจแล้วใช่ไหมว่าฉันรู้สึกยังไง”

            “อืม อย่าทำตัวสนิทกันมากก็แล้วกัน หมอนั่นน่ะร้ายไม่ใช่เล่นเลยนะ”

            “ค่ะ”  ฉันตอบกลับไปแบบประชดหน่อยๆ ถ้าใครมาได้ยินคงคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกันแล้วล่ะ สั่งห้ามคุยกับผู้ชายอื่นขนาดนี้

            เราคบกันซะเลยดีไหมปาว ฉันจะยอมทำทุกอย่างที่นายขอ จะไม่เล่นตัวแบบนี้เลย >////<

            “อะแฮ่ม! ทำอะไรกันสองคนนี้ -_+”  โปรดเกาะขอบประตูทางขึ้นเวทีพร้อมกับโผล่ส่วนหัวเข้ามามอง ฉันกับปาวก็เลยถอยออกห่างจากกันคนละก้าว พอมีคนทักเพิ่งจะรู้ตัวว่าเรายืนอยู่ใกล้กันมาก ทำไมเมื่อกี๊ไม่รู้สึกเลยนะว่าอยู่ใกล้กัน รู้สึกว่าไกลไปด้วยซ้ำ >/////<

            “ซ้อมเสร็จแล้วหรอ”  ปาวเดินเข้าไปหาโปรด ระหว่างนั้นยัยโปรดก็หรี่ตามองฉันด้วยสายตากรุ้มกริ่มจนฉันไม่รู้จะทำตัวยังไง ได้แต่เดินตามปาวมาหาโปรดเงียบๆ -////-

            “อ่ะ เพื่อนโห้”  โปรดยื่นกระเป๋านักเรียนแล้วก็แฟ้มงานอีก 2 แฟ้มมาให้ฉันถืออย่างที่เคย ปาวมองมานิดหน่อยฉันก็เลยส่งสายตาไปให้ประมาณว่า ‘นี่ไงล่ะ คนรับใช้ชัดๆ’ =_=

            “วันนี้เอารถอะไรมาพี่ปาว ทำไมไม่เห็นมีรถพี่ปาวเลย”

            “เบนซ์สีดำนั่นไง”  ปาวชี้รถสีดำที่จอดอยู่หน้าห้องซ้อมให้โปรดดู

            “อ๋อ”  โปรดส่งเสียงรับแล้วเดินตรงไปที่รถซึ่งปาวกดปลดล็อกด้วยรีโมทไว้แล้ว

            “หนักไหม”  ปาวถามเมื่อเราอยู่กันสองคน

            “ก็นิดหน่อย เด็กเรียนนี่ขนอะไรมาเยอะแยะเนี่ย”  ฉันบ่นขณะถอดกระเป๋าที่เบาหวิวปลิวลมของตัวเองออกแล้วเอาของโปรดมาสพายแทน แต่ยังเปลี่ยนได้ไม่เสร็จปาวก็หยิบกระเป๋าและแฟ้มของโปรด รวมทั้งกระเป๋าของฉันไปถือไว้เองทั้งหมด

            “เฮ้ย! ไม่เป็นไร ไม่ได้หนักอะไรขนาดนั้น” 

            “ถ้าเกิดใครผ่านมาเขาจะคิดว่าฉันเป็นผู้ชายประเภทไหน ถึงปล่อยให้ผู้หญิงถือของพะรุงพะรังแต่ไม่ยอมช่วย”

            “อ๋อ โอเคคุณสุภาพบุรุษ ^^”  ฉันยิ้มแล้วเดินไปที่รถเบนซ์สีดำเงาวับที่จอดล่อตาล่อใจอยู่

            พอฉันจะไปนั่งเบาะหลังตามปกติที่เคยนั่ง ยัยโปรดกลับไล่ให้ฉันไปนั่งข้างคนขับ ทั้งที่เมื่อก่อนที่ตรงนั้นจะเป็นตำแหน่งประจำของโปรดและนางจะว่าฉันทุกครั้งที่ไปนั่งทับที่แต่วันนี้กลับให้นั่งอย่างง่ายดาย ต่อไปฉันต้องสังเกตเองใช่ไหมว่าจะให้ฉันนั่งตรงไหน ทำตัวแปลกทั้งพี่ทั้งน้องเลยวันนี้ ยัยโปรดก็เปิดโอกาสซะเกินเหตุ ส่วนปาวก็...ใจดีเกินไป -///-

 

 ***************************************************

ปาวจะใช้สิทธิ์การเป็นเจ้าหนี้ได้อีกนานไหมนะ อิอิ 

ฝากติดตามด้วยนะคะ

*****************************************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา