Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย

9.1

เขียนโดย Kreota

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.

  30 ตอน
  3 วิจารณ์
  25.17K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) ความผิดติดตัวฉัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

-12-

ความผิดติดตัวฉัน

 

            “โชคดีนะกระสุนแค่ถากๆ”

            “ทายาทรุ่นที่ 10 ของโอเชี่ยนคอป. เกือบสิ้นชื่อแล้วไหมล่ะ”  ท็อทพึมพำพร้อมกับที่เสียงของพวกเขาไกลออกไปเรื่อยๆ จนฉันไม่ได้ยินเสียงพวกเขาอีก

            “ปาว...”  ฉันเรียกชื่อปาวออกมาเบาๆ พร้อมกับข้อสงสัยมากมายที่วนเวียนอยู่ในหัว

            ทำไมปาวถึงโดนยิงล่ะ ไปเล่นพนันบอลมารึไง หรือว่าพวกลูกหนี้มีความแค้นฝังใจต้องการเก็บปาวเพื่อล้างแค้นคุณปริญญ์ หรือแค่เดินผ่านกลุ่มวัยรุ่นที่มันกำลังตีกันแล้วโดนลูกหลง โอ้ย! แต่ละอย่างดูเป็นไปได้หมดเลย Y.Y

            แต่ถึงยังไง ที่เขาเป็นแบบนั้นก็เพราะออกมาส่งฉัน T^T

            ฉันนั่งกลุ้มมาตลอดช่วงเช้าจนกระทั่งกินข้าวกลางวันเสร็จฉันก็อดทนไม่ไหว ยังไงก็ต้องถามโปรดให้รู้เรื่อง แต่ยัยนี่ก็แปลกพี่ชายโดนยิงทั้งคนก็ยังทำตัวลั่นล้าได้ทั้งวัน =_= ฉันใช้จังหวะที่เดินกลับไปส่งโปรดที่ห้องเพราะตอนนี้เราอยู่กันแค่ 2 คน อ๋องกับเหมยขี้เกียจเดินมาด้วยก็เลยขอแวะกลับห้องก่อน ฉันเลยได้โอกาสถามเรื่องปาว

            “วันนี้ทำไมปาวไม่มาเรียนล่ะ”  ฉันถามระหว่างที่เดินกลับห้อง โปรดหยุดฝีเท้าแล้วหันมาขมวดคิ้วมองฉันอย่างงงๆ

            “เพ้ออะไรของเธอเนี่ย พี่ปาวขับรถมาส่งฉันถึงโรงเรียน จะไม่มาได้ไง”

            “อ้าว ทำไมฉันได้ยินมาว่าปาวป่วยก็เลยไม่ได้มาเรียน...สรุปยังไงล่ะเนี่ย”

            “ป่วย? ป่วยเป็นอะไร”

            “ก็...”  โปรดมองหน้าฉันเหมือนรอคำตอบ ฉันก็เลยฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า บางทีที่ปาวฝืนสังขารขับรถมาส่งน้องถึงโรงเรียนอาจจะไม่อยากให้โปรดรู้เรื่องที่ตัวเองโดนยิงก็ได้ ฉันก็เลยเลี่ยงที่จะเล่าต่อ

            “ช่างเถอะ ฉันคงได้ยินมาผิดเองแหละ”  ฉันบอกพร้อมกับออกเดินนำหน้าโปรดไปก่อน

            “เฮ้อ...จะจีบพี่ฉันก็ไปสืบข้อมูลมาดีๆ หน่อยนะ มาแช่งให้พี่ฉันป่วยแบบนี้ไม่เข้าท่าเลย”  โปรดบ่นไปบ่นมาจนกระทั่งมาถึงห้อง ฉันส่งคุณหนูขี้บ่นเสร็จก็เดินกลับลงมา แต่เดินลงมาได้แค่ชั้นเดียวก็มีชายชุดดำ 2 คนวิ่ง

สวนขึ้นไปชั้นบนอย่างเร็วจนเกือบจะชนฉันแน่ะ =_=

            เอ๊ะ! เมื่อกี๊คนของโปรดนี่นา รีบร้อนอะไรกัน? ยัยนั่นเพิ่งจะแยกกับฉันเมื่อกี๊เรียกใช้คนอื่นอีกทำไม...แต่ก็ดีแล้วล่ะฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อย

            ฉันเดินกลับมาที่ตึกเรียนก็เจอกับคนที่ฉันคิดว่าเขาไม่มาเรียน...ปาวยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าห้องฉันเหมือนรอใครอยู่ หรือว่ารอฉันนะ =_=?

            “อ้าว...ไหนว่านาย...”  ฉันทักปาวทันทีที่เดินมาถึง แต่ก็ทำได้แค่กระซิบถามเท่านั้นเพราะว่าคาบแรกของช่วงบ่ายอาจารย์เข้าสอนแล้ว

            “มากับฉันหน่อย”  ปาวบอกเสียงเรียบแล้วลากฉันออกมาโดยไม่ถามความสมัครใจสักคำ =_=///

            ปาวลากฉันลงมาที่หลังห้องน้ำของตึกเรียนชั้นล่าง มันเป็นที่โล่งๆ ที่มีไม้พุ่มเตี้ยๆ ปลูกอยู่ อากาศก็ดีอยู่นะแต่มันอยู่หลังห้องน้ำก็เลยไม่ค่อยมีนักเรียนคนไหนชอบผ่านมาทางนี้

            “ไหนว่านายไม่มาเรียนไง”  ฉันถามเมื่อเราเดินออกมาไกลพอสมควรแล้ว

            “เธอไปบอกโปรดทำไม!!”  ปาวสะบัดแขนฉันออกจากมือแล้วตะวาดลั่นจนฉันตั้งตัวไม่ติด เมื่อวานยังคุยกันดีๆ อยู่เลย แล้วทำไมวันนี้เขาถึง...

            “ฉันไปบอกโปรดเรื่องอะไร”

            “ก็เรื่องที่ฉันป่วยจนไม่ได้มาโรงเรียนไง”

            “ฉันไม่ได้บอกอะไรเลยนะ ฉันแค่ถามเฉยๆ ว่านายเป็นอะไรทำไมไม่มาเรียน แค่นั้นเอง”

            “แค่นั้นงั้นหรอ!! เธอได้ยินมาจากไหนว่าฉันไม่มาเรียน”

            “ฉัน...บังเอิญได้ยินมา”  ฉันก้มหน้างุดๆ ด้วยความรู้สึกผิด แสดงว่ายัยโปรดไม่รู้จริงๆ ว่าพี่ชายโดนยิง เกือบบอกแล้วไหมล่ะตรู -_-;

            “เฮ้อ...ต่อไปไม่ว่าเธอบังเอิญได้ยินอะไรมา ช่วยอยู่เฉยๆ อย่าเที่ยวไปถามใครหรือว่าไปป่าวประกาศให้คนอื่นรู้เด็ดขาด โดยเฉพาะโปรด เข้าใจไหม!!”

            “ฉะ...ฉันก็แค่เป็นห่วงนาย เห็นว่าไม่สบายจนไม่มาเรียนก็เลยลองถามดูเท่านั้นเอง”  ฉันบอกออกไปตรงๆ ถึงจะอายที่ต้องพูดอะไรตรงๆ แต่ก็อยากบอกให้เขารู้ว่าที่ฉันถามโปรดฉันไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลย

            “ขอบคุณมากที่เธอห่วงฉัน แต่ช่วยเก็บความห่วงใยของเธอไว้เงียบๆ หน่อยได้ไหม!”

            “ปาว”  ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองปาวอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

            “รู้รึเปล่า ความห่วงใยบ้าๆ ของเธอมันทำให้คนอื่นเป็นยังไง!!!”

            “มันไม่ใช่ความห่วงใยบ้าๆ นะ ฉันห่วงด้วยความบริสุทธิ์ใจ!”  ฉันขึ้นเสียงบ้าง เขาพูดเหมือนความห่วงใยของฉันมันไปฆ่ายัยโปรดยังงั้นแหละ! ฉันผิดมากหรอที่ห่วงเขา!!

            “แล้วที่ฉันห่วงนายมันผิดตรงไหนหรอ ฉันเป็นแฟนคลับของนาย ฉันก็ต้องอยากรู้เรื่องของนายเป็นธรรมดา ถ้านายชอบใครสักคนแล้วรู้ว่าเขาป่วยนายก็ต้องอยากรู้เหมือนกันนั่นแหละ อีกอย่างแค่ฉันเอาเรื่องที่นายป่วยไปถามโปรดมันจะเป็นอะไรหรอ มันจะทำให้ภูเขาระเบิดหรือว่าโลกแตกออกมารึไง ทำไมนายต้องมาตะคอกใส่ฉันด้วย!!!”

            “โปรดโรคหัวใจกำเริบ...”  ปาวพูดออกมาในที่สุด ทำเอาฉันเกือบวูบตามไปกับคำพูดของปาว เขาพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาแต่มันก้องกังวานอยู่ในหัวจนต่อมความรู้สึกผิดมันตอกย้ำให้ฉันรู้สึกชาไปทั้งตัว อย่าบอกนะว่าที่พวกชุดดำวิ่งสวนขึ้นตึกไปตอนนั้นวิ่งขึ้นไปช่วยโปรด!

            “เธอถามเรื่องที่ฉันป่วยจนไม่ได้ไปโรงเรียน โปรดก็เลยคิดมากโรคหัวใจก็เลยกำเริบอย่างหนัก...”

            “ตะ...ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”

            “ยังไม่ฟื้น”

            “ห๊ะ! แล้วทำไมไม่บอกล่ะว่าน้องนายเป็นโรคหัวใจ”

            “โปรดไม่ให้บอก น้องฉันสุขภาพไม่ดีแล้วก็อ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งโตขึ้นได้รับการรักษาที่ดีขึ้นก็เลยแข็งแรงขึ้นมาหน่อย ยัยนั่นบอกว่า...อยากจะมีชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆ บ้าง ไม่อยากให้ใครคอยมาดูแลประคบประหงมจนเกินเหตุก็เลยขอไม่ให้บอกเพื่อนคนไหนเลยถ้าไม่จำเป็น”  เขาหันมองไปที่รั้วโรงเรียนแทนการมองฉันตรงๆ

            เมื่อกี๊ฉันแอบเห็นตาปาวมีน้ำตาคลอๆ ด้วย แต่ฉันก็ทำเป็นไม่เห็นเพราะเขาก็คงไม่อยากให้ฉันเห็นมุมนี้ของเขาเหมือนกัน

            “ฉัน...ขอโทษ”  ฉันพูดออกมาเบาๆ ความรู้สึกผิดยิ่งตอกย้ำให้ฉันตัวเล็กลงเรื่อยๆ เมื่อปาวหันมาพูด...

            “ต่อไปก็ดูตาม้าตาเรือหน่อย อีกอย่าง...เธอไม่ต้องห่วงใย ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉันอีก...ขอร้องล่ะ!!”

            ปาวพูดทิ้งไว้แล้วเดินออกไปทันที ตัวฉันชาวาบเหมือนไร้ความรู้สึกไปชั่วขณะ เมื่อกี๊เขาพูดชัดกว่าเมื่อวานอีก ให้เลิกยุ่งกับชีวิตของเขาเลยสินะ...นี่คงจะเป็นบทลงโทษที่ฉันไม่คิดให้รอบคอบ ฉันน่าจะหยุดถามตั้งแต่โปรดบอกว่าปาวมาส่งที่โรงเรียนแล้ว ฉันน่าจะเฉลียวใจสักนิดว่าปาวพยายามทำอะไรหรือคิดอะไรอยู่ ฉันไม่ควรจะทำให้คนที่ฉันชอบต้องมาเสียใจแบบนี้เลย

           

            ฉันรีบโทรหาโปรดทันทีที่ออดเลิกเรียนดัง พอได้ยินเสียงยัยนั่นดังมาจากปลายสายฉันแทบจะกรี๊ดออกมา...ปลอดภัยแล้วสินะโปรด

            โปรดบอกว่าไม่ชอบนอนโรงพยาบาลก็เลยกลับมานอนพักที่บ้าน ฉันก็เลยกะว่าจะแวะไปเยี่ยมโปรดก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน จากที่คุยกับโปรด ปาวยังไม่กลับบ้านเพราะฉะนั้นฉันต้องรีบหน่อย ไม่งั้นโดนไล่ตะเพิดออกมาจากบ้านแน่ๆ

            “ว่าไง ^o^”  โปรดทักเมื่อฉันเดินเข้าไปในห้อง แม่บ้านที่พาฉันมาส่งค้อมศีรษะลงเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป ฉันค่อยๆ เดินเข้าไปนั่งข้างเตียงที่เหมือนเตียงโรงพยาบาลเคลื่อนที่อย่างเก้ๆ กังๆ รอบๆ ตัวฉันมีเสาน้ำเกลือ แล้วก็เครื่องมือทางการแพทย์อีกจำนวนหนึ่งจนฉันแอบคิดว่าตัวเองมาเยี่ยมโปรดที่โรงพยาบาลอยู่รึเปล่า

            “ห้องนอนฉันเจ๋งใช่ไหมล่ะเพื่อนโห้”  โปรดยิ้มให้ฉันเบาๆ

            “เพื่อนโห้?”  ชื่อฉันชักจะแปลกผิดมนุษย์ไปทุกวันแล้วนะ =_=

            “ก็เพื่อนยากบวกกับปลากระโห้ รวมกันเป็นเพื่อนโห้ไง เรียกง่ายดีออก”  โปรดอธิบาย เรียกง่ายกับผีน่ะสิไม่เห็นเข้าท่าเลย =_=!

            “มาหาฉันถึงบ้าน คิดถึงฉันใช่ม๊าาา...”  โปรดลากเสียงยาวๆ เป็นเชิงแซว แต่น้ำเสียงแหบพร่าไม่สดใสเหมือนทุกวันที่ผ่านมา จนความรู้สึกผิดที่ปาวฝากเอาไว้มันตอกย้ำฉันหนักยิ่งขึ้น

            “ฉัน...ขอโทษนะโปรด”  ฉันก้มหน้ามองมือตัวเอง น้ำตาที่ไร้ที่มาค่อยๆ เอ่อคลออยู่ที่เบ้า

            “ขอโทษอะไร เธอไม่ผิดหรอกก็เธอไม่รู้นี่นา”  โปรดตบไล่ฉันเบาๆ ทำเอาน้ำตาที่คลออยู่ก่อนหน้านี้หล่นแหมะลงบนหลังมือ

            “อีกอย่างเธอก็คงห่วงพี่ปาวพอๆ กับฉัน ก็เลยอดไม่ได้ที่จะถาม ถ้าเกิดฉันรู้เรื่องฉันก็คงจะถามเหมือนกัน”  โปรดพูดออกมาเบาๆ วันนี้รู้สึกว่าโปรดจะเป็นคนดีแปลกๆ จนฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองว่ายัยนี่อำฉันอยู่รึเปล่า แต่สายตาของโปรดมันฟ้องว่าที่พูดมาเป็นความจริงที่ออกมาจากใจ

            “ถ้าจะชอบพี่ฉันต้องทำใจนะ มีเรื่องอีกหลายเรื่องที่เธอยังไม่รู้...บางทีถ้าเธอรู้เธอก็อาจจะรับไม่ได้ก็ได้”

            “เธอหมายถึงเรื่องอะไร”

            “เอาไว้ถ้าเธอยังยืนหยัดชอบพี่ฉันได้ตลอดรอดฝั่ง เดี๋ยวเธอก็จะรู้เอง แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่เข้มแข็งพอที่จะอยู่ถึงตอนนั้นหรอก ^^”

            “เฮ้อ...ว่าแต่เธอเถอะ แข็งแรงดีแล้วหรอถึงให้ฉันมาเยี่ยมแบบนี้ คุยกับฉันไม่เหนื่อยรึไง”  ฉันถามโปรดที่ยังมีท่าทางเหนื่อยๆ อยู่

            “ก็เหนื่อยนะ แต่ฉันนอนมาเยอะแล้ว อยากทำอะไรแก้เซ็งบ้าง”

            “เธอ...เป็นโรคหัวใจจริงๆ หรอ”

            “ใช่ เป็นมาตั้งแต่เกิดแล้ว”  โปรดตอบด้วยท่าทางสบายๆ เหมือนเป็นแค่โรคกระเพาะอาหารอะไรประมาณนั้น

            “ถ้าเกิดฉันไม่โชคดีเกิดมารวย ฉันก็คงตายไปตั้งแต่ยังเป็นทารกแล้วล่ะ”

            “หนักขนาดนั้นเลยหรอ”

            “เห็นหมอบอกว่างั้นนะ”

            “โปรด...T^T”

            “เธออย่ามาเรียกชื่อฉันแบบเวทนาอย่างนั้นได้ไหมห๊ะ”  โปรดทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างไม่พอใจ ก็ฉันไม่รู้จะพูดยังไงนี่นา เด็กปากเสียนักคาราเต้ที่ฉันรู้จักไม่นึกว่าจะมีร่างกายอ่อนแอขนาดนี้

            “เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ แล้วที่เธอไปใช้ลูกเตะคาราเต้ตอนนั้น เธอไม่เป็นอะไรหรอ”  ฉันอย่างคิดได้ เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนยัยโปรดจะใช้ร่างกายได้ไม่สมกับที่ป่วยเลย

            “ก็เหนื่อยอยู่นะ แต่มันสนุกดี”

            “สนุกแบบเสี่ยงๆ เนี่ยนะ ถ้าเกิดเธอเป็นลมล้มพับไปแล้วไม่มีคนเห็นจะทำไง”

            “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันมีคนเฝ้าตลอด”  โปรดบอก ทำให้ฉันนึกถึงการ์ดชุดดำที่คอยเฝ้าโปรดอยู่ห่างๆ ตลอดเวลาที่ไปโรงเรียน

            “ถึงยังไงเขาก็เฝ้าเธอไม่ได้ทุกที่หรอกน่า”

            “ฉันถึงต้องมีเธอไง”  โปรดบอก ทำเอาฉันพูดอะไรไม่ออก ฉันไม่นึกว่าที่คุณปริญญ์ฝากให้ดูแลโปรด จะเป็นหน้าที่สำคัญขนาดนี้

            “ที่จริงฉันรู้สึกแย่เหมือนกันนะที่ต้องมีแต่คนคอยปกป้องฉันตลอดเวลา ฉันก็เลยขอให้พี่ปาวสอนคาราเต้ให้เพราะอยากจะปกป้องตัวเองแล้วก็คนรอบข้างบ้าง ที่ผ่านมาฉัน...รู้สึกไร้ค่ามากที่ทำอะไรให้ใครไม่ได้เลย ทั้งที่ใครต่อใครก็คอยหยิบยื่นทุกอย่างมาให้ฉัน”

            “เธอทำได้แล้วนี่...ทำได้ดีด้วย”  ฉันยิ้มให้โปรดเบาๆ  “เธอช่วยฉันไว้ตั้งหลายครั้ง”

            “ฮ่าๆๆ จริงสินะ”  โปรดยิ้มออกมาน้อยๆ

            “งั้นที่เธอจะไปต่างประเทศปีหน้าเพราะว่าเรื่องนี้รึเปล่า”

            “ใช่ จองคิวผ่าตัดได้ปีหน้าน่ะ ที่จริงอยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้วนะแต่พ่อกับพี่ปาวอยากให้ลองดูเพราะมีโอกาสหาย”

            “ก็ดีน่ะสิ”

            “มีโอกาสแค่ 60 เปอร์เซ็นต์เองนะ”

            “เธอต้องเป็นหนึ่งใน 60 เปอร์เซ็นต์นั้นแน่”

            “นั่นสินะ เราต้องคิดบวกเข้าไว้สิ หรือถ้าไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น...ถ้าเกิดฉันโชคร้ายอย่างน้อยๆ ก็แค่ได้ไปอยู่กับแม่...”  โปรดเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเมื่อพูดถึงตรงนี้

            “แม่ฉันเสียด้วยโรคหัวใจ...หลังจากที่คลอดฉันได้ไม่กี่เดือน”  โปรดหันมายิ้มให้ฉัน ฉันรู้ว่ารอยยิ้มนั้นพยายามบอกว่าเข้มแข็ง แต่จริงๆ แล้วเด็กผู้หญิงคนนี้กำลังหวั่นกลัวและกังวลมากแค่ไหน มันเป็นมุมที่ฉันไม่คิดว่าจะเจอในตัวของโปรดเด็กผู้หญิงที่คอยแต่เถียงฉันฉอดๆ ทุกวัน

            ถึงเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวยไปด้วยเงินทองและมีบริวารรอบตัว แต่ก็ต้องทนทุกข์กับโรคประจำตัวที่ยากจะหายขาด บางทีการได้อะไรบางอย่างมา เราก็ต้องสูญเสียบางอย่างไปเหมือนกัน...นี่สินะสมดุลของธรรมชาติ

            เราคุยกันต่อสักพักโปรดก็เหนื่อยจนเผลอหลับไป ฉันก็เลยแอบย่องออกมาจากห้องแต่ดันไปชนเข้ากับมือใครบางคนที่กำลังยกขึ้นเคาะประตู ก็เลยโดนเต็มๆ หน้าผากจนหน้าฉันหงายไปข้างหลังเลยทีเดียว -*-

            “โอ้ย!”  ฉันอุทานออกมาเบาๆ พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเอง

            “เธอ!!”  ปาวชี้หน้าฉันอย่างตกใจ  “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่ง!...”

            “ฉันมายุ่งกับนายที่ไหน ฉันมาเยี่ยมโปรดต่างหาก...หลีก!”  ฉันพูดแล้วผลักปาวออกให้พ้นทาง แต่ก่อนที่ฉันจะเดินออกมา ก็เจอคุณปริญญ์เดินมาพร้อมผู้ชายคนหนึ่งอยู่ตรงทางเดิน

            “สวัสดีค่ะ”  ฉันยกมือไหว้ทักทายคุณปริญญ์และผู้ชายที่เดินมาด้วยกัน

            “มาเยี่ยมโปรดหรอ”  คุณปริญญ์ถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่นอย่างเคย

            “ใช่ค่ะ แต่ว่าจะกลับพอดี งั้นลาเลยนะคะ”  ฉันไหว้คุณปริญญ์อีกครั้งแล้วเดินออกมา แต่ผู้ชายที่มาพร้อมคุณปริญญ์วิ่งตามฉันมาแล้วอาสาไปส่ง ทีแรกฉันไม่กล้ามากับเขาแต่เขาบอกว่าคุณปริญญ์สั่งไว้ฉันเลยไม่กล้าขัด

            คนที่มาส่งฉันชื่อว่าภาสน์ค่ะ เขาเป็นเลขาแล้วก็มือขวาของคุณปริญญ์ ระหว่างทางเราแทบไม่ได้คุยกันเลย นอกจากการแนะนำตัวสั้นๆ เท่านั้น เขาพูดส่งท้ายแค่ว่า ฝากดูแลคุณหนูโปรดด้วย

            ในที่สุดฉันก็รู้แล้วล่ะว่าทำไมใครๆ ในบ้านถึงรุมเอาใจโปรดนัก Y.Y

 

 

 

**********************************************************

อัพเดตแล้วจร้าาาาาาตอนที่ 13 รู้สึกว่าจะแสดงด้านดีๆ + ความน่าสงสารของโปรดไปเต็มๆ 

งานมาม่าของโบอิ้งรู้สึกว่าดร็อปลงไปเลย 555+

จะเป็นยังไงต่อ ฝากติดตามด้วยนะคะ

หายไปไหนกันเอ่ยรีดเดอร์ที่รัก ไรท์คิดถึงทุกคนจังเลย 

:: รอคอย

********************************************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา