ลุ้นรัก...นางร้ายเจ้าเสน่ห์

-

เขียนโดย ploynin

วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.55 น.

  18 ตอน
  1 วิจารณ์
  18.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557 20.54 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) งานเข้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Trr… Trr… Trr…

เสียงเรียกเข้าดังลั่นห้อง แต่คนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมารับสาย ยังคงนอนหลับสบายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หนึ่งรอบก็แล้ว สองรอบก็แล้ว ร้อนถึงอีกคนที่อยู่ในห้องน้ำที่อาบน้ำยังไม่ทันเสร็จก็ต้องนุ่งผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียวเดินออกมารับสายแทนเพราะรู้สึกรำคาญ พอมองชื่อคนโทรเข้ามาก็นึกแปลกใจ ก่อนกดรับสาย

          “ว่าไง เช้าขนาดนี้ไม่มีไรทำรึไงถึงได้โทรมากวนชาวบ้านเขาแต่เช้าอะ”

          “ไอ้ที มึงไปเรียกผัวมึงมารับสายกูเดียวนี้เลย”

          “อะไรของมึงวะเอส โทรมาก็โวยวาย”

          “ไปเรียกไอ้เอ็มมาคุยเดี๋ยวนี้เลยไอ้ที”

          “เอ่อ! อะไรวะ” บ่นเป็นหมีกินผึ้งก่อนจะก้มลงไปปลุกคนรักให้ตื่นมารับโทรศัพท์ของเพื่อนรักอีกคนที่ดูจากน้ำเสียงแล้วไม่รู้มันไปกินรังแตนมาจากไหน

          “เอ็ม ตื่นก่อน เอสมันโทรมา”

          “อืม... ไม่อาว ไม่คุย จานอน” เสียงยานคางบ่งบอกความไม่สนใจกับใครอีกคนที่อยู่ในสาย

          “เอส เอ็มมันไม่ตื่นอะ”

          “บอกมัน ถ้ามันไม่รับสาย วันนี้ฉันจะไม่ไปกองถ่าย แล้วฉันก็จะไม่เล่นเรื่องนี้แล้ว ให้มันไปหาคนเล่นแทนได้เลย”

          ไม่ต้องบอกให้เสียเวลา เพราะทีเปิดลำโพงให้อีกคนที่นอนอยู่ได้ยินด้วย ทำให้คนนอนต้องถ่างตาลุกขึ้นมาคุยโทรศัพท์

          “อะไรวะเอส ไปโดนหมาที่ไหนกัดมาวะถึงพาลมาถึงฉันนี่”

          “แกไม่ต้องมาพูดดีเลยนะ แกรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเมียฉันแกบอกฉันมาให้หมด”

          “เมียแก คนไหนวะ” เอ็มถามกวนๆ ยักคิวให้อีกคนกลับไปอาบน้ำให้เสร็จ

          “ไอ้เอ็ม!”

          “อ๋อ คุณเกรทนะหรอ ฉันจะรู้เรื่องอะไรของคุณเธอวะ”

          “ไอ้เอ็ม!”

          “อะไร ไอ้เอส!” เรียกกลับอารมณ์ดียั่วโมโหอีกฝ่าย

          “เดย์เขามีใครคบอยู่บ้าง” ถามอย่างใจเย็น

          “มาถามฉันทำไม แค่แกโทรหามือขวาคนสนิทของแก อยากรู้อะไรแกก็ได้รู้แล้ว จะมาคั้นเอาอะไรจากฉันวะ”

          “ก็เพราะไอ้นัทมันไม่รู้นะสิ ปกติฉันให้เวลามันหาข้อมูลอะไร มันหาให้ฉันได้ภายใน 1 ชั่วโมง แต่นี้ 2 ชั่วโมงแล้ว มันได้มาแค่ว่า คนที่จะให้คำตอบเกี่ยวกับเดย์เขาได้ดีที่สุดมีแค่แกกับพี่แหววเท่านั้น พี่แหววฉันไม่มีปัญญาไปถามเขาหรอก แต่แก แกเป็นเพื่อนฉัน ฉันยังคั้นเอาจากแกได้ เร็วๆ บอกมา”

          “ไอ้นัทนี่มันเก่งเนาะ ตามดมกลิ่นมาถึงฉันจนได้”

          “เร็วๆ อย่าลีลา”

          “แกจะสนทำไมวะ ฉันเห็นแกไปกองทีไรก็ขลุกอยู่กับนางเอกคนสวยทุกที น่าจะถามเกี่ยวกับเธอมากกว่าไม่ใช่หรอ”

          “เอ็ม อย่ากวนประสาทฉัน ตอนนี้ฉันยิ่งเครียดๆ อยู่”

          “เครียดเรื่องไรวะ”

          “หมายความว่าแกยังไม่เห็นข่าว”

          “ข่าวอะไร!” ถามอย่างแปลกใจเพราะตัวเองยังนอนไม่ตื่น จะได้ดูได้เห็นอะไรละ

          “ก็ข่าวของเมียฉันไง”

          “แกแก้ใหม่ให้ถูกหน่อยดีกว่ามั้ยเอส เดย์เขาไม่ใช่เมียแกนะ พูดไปเรื่อยผู้หญิงเขาเสียหายนะโว้ย เท่าที่ฉันเห็นแกยังเข้าใกล้เขาไม่ได้สักกระบิมือเดียวนอกจากตอนถ่ายละคร ขอร้องเถอะ อย่ามโน เอ...หรือแกมโนตอนช่วยตัวเองวะ ถึงได้ตู่ว่าเขาเป็นเมียแกแล้วน่ะ” ปลายสายเงียบไปทำให้คนพูดล้อนึกแปลกใจ “หรือว่า...” ยังไม่ทันได้ถามปลายสายก็เปลี่ยนเรื่องเร่งจะเอาคำตอบ

          “ว่าไง ที่ฉันถามน่ะ”

          “ฮึๆ”

          “ไอ้เอ็ม หยุดคิดเลยนะ ไม่ได้เป็นอย่างที่แกคิดโว้ย”

          “ฉันคิดอะไร แกรู้หรอ” ถามกึ่งยั่วๆ

          “เอ่อๆ คิดอะไรก็เรื่องของแก แล้วว่าไงเรื่องว่าที่เมียฉันน่ะ”

          “เอาไว้ตอนบ่ายไปเจอกัน ตอนนี้ฉันยังไม่รู้เรื่องอะไรที่แกว่า ยิ่งข่าว ฉันเพิ่งได้ลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นแสงแห่งวันก็ตอนที่แกโทรมากวนนี่แหละ จะไปรู้ได้ไง”

          “แกเปิดข่าวบันเทิงเช้านี้ดูเลยสิวะ”

          “เฮ่ย! เอส แกดูข่าวพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไรวะ” ทุกทีมันดูแต่ข่าวเศรษฐกิจไม่ใช่หรอ

          “อย่าออกนอกเรื่องสิวะ”

          “เอ่อ! เอาไว้ตอนบ่ายค่อยคุย ฉันยังไม่ตื่นตอนนี้แค่นี้นะ บาย”

          ไม่รอให้ปลายสายได้โวยวาย เอ็มรีบกดวางสายทันที แต่พอจะล้มตัวลงนอนก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์อีกครั้ง มองหน้าจอก็เห็นเป็นชื่อเพื่อนที่เพิ่งกดวางสายไป เลยตัดสินใจกดปิดเครื่องมันซะเลย ในใจก็คิดสะใจอยู่ไม่น้อยเมื่อนึกถึงสีหน้าขัดใจของเพื่อนรัก

          “วางไปแล้วหรอ” คนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำถามไม่ใส่ใจนัก

          “อืม”

          “แล้ว...ว่าแต่มันเรื่องอะไรอะ”

          “ไม่รู้” ก่อนกดรีโมททีวีเปิดข่าวเช้า ไล่หาช่องสัญญาณที่เป็นช่องข่าวบันเทิง แล้วความก็กระจ่าง เมื่อข่าวที่ทำให้เพื่อนรักของเขาเต้นเป็นเจ้าเข้าปรากฏขึ้นตรงหน้า

‘หลังจากเป็นข่าวมาช่วงข้ามวันยังไม่ทันซา แถมยังไม่มีคำตอบใดๆ จากนางร้ายสุดฮอทของเราก็เป็นข่าวอีก กับหนุ่มคนเดิมซึ่งคราวนี้แต่ละคนก็เห็นจากภาพที่หลุดออกมาแล้วว่ามีเด็กสาวตัวน้อยๆ ด้วยซึ่งดูจากความสนิทสนมแล้ว จะว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันขนาดไหนละ ก็ยังไม่มีคำตอบ ล่าสุดปาปารัสซี่คนเก่งยังเก็บภาพถ่ายของนางได้อีกเมื่อมีมหาเศรษฐีมารอเธอถึงหน้าคอนโดที่พัก แถมยังพากันขึ้นห้องไปด้วยกันอีก งานนี้ จะมีคำแถลงไขจากนางร้ายของเราหรือไม่นั้น ต้องมาตามกันดู’

“ฮึๆ”

          “เอ็ม ไหนว่าเด็กนี่ไม่ใช่เด็กเสี่ย แล้วทำไมถึงมีข่าวกับเจ้าสัวชัยบดินทร์เกียรติได้ละ”

          “รู้จักเจ้าสัวหรอ”

“รู้จักอยู่ ก็บ้านทีทำธุรกิจร่วมกับเจ้าสัวเขา”

          “ก็ต้องรอดูว่านางร้ายคนสวยเขาจะให้คำตอบยังไง” แทนคำตอบ เอ็มเปรยแล้วยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุกกับข่าวที่ออกมา

          “อย่างนี้ละครจะไม่มีปัญหาหรอ”

          “ยิ่งดังละสิ เพราะตอนนี้จะว่าไปก็อาศัยข่าวน้องเดย์นะที่ทำให้เรทติ้งดีอยู่ได้”

          “ทำไม”

          “น้องเดย์เขาเป็นข่าวก็จริง แต่ถ้าเขาไม่พูด ใครจะง้างปากเขาได้ อีกอย่างการจะหาตัวน้องเขาใช่เรื่องง่ายซะที่ไหน ไม่ใช่ดาราที่รับงานอีเวนท์เป็นว่าเล่นสักหน่อย”

          “เอ่อ! ทีก็แปลกใจ ดังขนาดนั้นทำไมไม่มีงานอีเวนท์”

          “น้องเดย์เขาทำงานคนเดียว เป็นผู้จัดการตัวเอง รับงานเองแต่ส่วนใหญ่เป็นงานหนังสือ ส่วนละครพี่แหววเป็นคนดูๆ แล้วก็รับให้ แต่ว่าจะรับหรือไม่รับเล่นก็ต้องดูว่าเขามีเวลาให้มั้ย น้องเขาเป็นคนทำงานจริงจัง ถ้าดูแล้วเวลาไม่พอเขาก็ไม่รับ”

          “เสียดายเน๊าะ นี่ถ้ารับงานอีเวนท์รับรองรวยระเบิดแน่ ว่าแต่ แล้วเรื่องข่าวละ”

          “ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวก็เงียบ”

          “แต่คราวนี้มีรูปด้วยนะ คงไม่จบง่ายๆ หรอก”

          “เอาเป็นว่าให้นักข่าวตามตัวน้องเขาให้ได้ก่อนแล้วกัน ถึงจะรู้ว่าคอนโดอยู่ไหนก็ใช่ว่าจะเข้าไปได้ง่ายๆ เชื่อสิ”

          “ว่าจะถามเอ็มนานล่ะ ทำไมเอ็มดูจะรู้จักดีกับน้องเขาละ หรือว่า...” มองด้วยสายตาจับผิด

          “โธ่! ที เรารู้จักกันมาตั้งนาน รักกันมาก็นาน แล้วเอ็มก็มีแค่ทีคนเดียว คิดมากอะไร” ไม่วายเอื้อมมือไปคว้าเอวคนรักให้มานั่งบนตักตัวเองที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยกัน แต่เหมือนคราวนี้จะกลบเกลื่อนไม่ได้เพราะคนรักยังใช้สายตาคาดคั้นไม่หยุด

          “แต่ทีก็ยังกังวล อย่าลืมสิว่าทีไม่ใช่ผู้หญิง เอ็มจะเปลี่ยนใจจากทีเมื่อไหร่ก็ได้” เมื่อใช้สายตาคาดคั้นไม่ได้ผล จึงต้องเปลี่ยนเป็นวิธีอ้อน จนคนรักยอมคายความลับออกมาให้ฟัง

          ซึ่งเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก ความจริงครอบครัวของเจ้าสัวชัยบดินทร์เกียรติกับครอบครัวของเขาเป็นญาติห่างๆ กัน จะว่าญาติสุดท้ายปลายแถวก็ว่าได้หากไม่สืบกันมาดีๆ จะไม่รู้ถึงความเกี่ยวข้องกัน เป็นแต่เพียงญาติพี่น้องบอกกันมาเท่านั้น ปัจจุบันก็ไปมาหาสู่กันบ้างตามโอกาส เจ้าสัวชัยมีลูกสองคนคือน้องไนท์กับน้องเดย์ แต่ใครๆ จะรู้ว่าน้องไนท์เป็นลูกในสมรสของเจ้าสัวกับคุณนายพิมภกา แต่น้องเดย์ไม่ใช่ และไม่มีใครรู้ด้วยว่าสองคนนี้เป็นพ่อลูกกัน...

          เอ็มเล่าเรื่องของหญิงสาวให้ที คนรักฟังจนหมดเพราะส่วนหนึ่งเขาก็ห่วงความรู้สึกของอีกฝ่ายถ้าจะมัวมาคอยกังวลเรื่องพวกนี้ก็จะทำให้คนรักไม่สบายใจ ทำให้เกิดช่องว่างของความไม่ไว้ใจกัน ซึ่งเขาทนไม่ได้แน่ถ้าปล่อยให้ความรักครั้งนี้พังลง

          “ไหนบอกว่ารู้จักกันผ่านพี่แหววไง” พูดงอนๆ

          “ก็ตอนนั้นเอ็มยังไม่แน่ใจว่าเอสมันจะจริงจังนิ คิดว่ามันไปถ่ายละครวันสองวันก็คงเลิกเพราะน้องเดย์ไม่สนใจมัน เอ็มก็อุตส่าหานักแสดงเตรียมไว้แทนมันแล้วนะ แต่ที่ไหนได้มันกับผีเข้าหนักขึ้นทุกวัน”

          “แล้วทำไมเอ็มต้องหลอกทีด้วยละ” ยังไม่หายงอน

          “ขอโทษครับ คราวนี้ผิดจริงๆ คราวหน้าจะไม่ทำแล้ว เพราะคิดว่ายังไงก็คงไม่ได้เกี่ยวข้องกันน่ะ เลยไม่อยากให้ทีคิดมาก แต่ตอนนี้ไม่ใช่ละ เลยต้องเล่า” ร่างหนากระชบกอดคนรักแน่นขึ้นเพื่อเอาใจกึ่งง้อ

          “ไม่ทำอีกแน่นะ” ทีถามหยั่งเชิง

          “แน่ครับ” ตอบรับพร้อมรอยยิ้มขี้เล่นแต่มีแววจริงจังพร้อมกำชับคนรักอีกครั้ง

          “อย่าเล่าให้เอสมันฟังนะ” พอเล่าเสร็จก็กำชับไม่ให้คนรักบอกเพื่อนอีกคน ปล่อยให้มันเป็นบ้าไปก่อนเพราะการที่เอสเลือกที่จะรักน้องสาวของเขาคนนี้นั้น เขาย่อมต้องการให้เพื่อนรักหยุดที่น้องสาวเขาคนนี้จริงๆ ไม่ใช่แค่เล่นๆ เหมือนคนอื่นๆ

          “แล้วเอสมันรู้เรื่องนี้มั้ย ที่เอ็มเป็นญาติห่างๆ กับน้องเดย์เขาน่ะ”

          “ไม่ แต่อาจจะระแคะระคายบ้างเพราะไอ้นัทมันเก่งเรื่องขุดคุ้ย บางที่เอ็มต้องไปคุยกับไอ้นัทมันสักหน่อย”

          “มีอะไรให้ช่วยมั้ย” ทีเสนอ เพราะทีเองก็อยากเห็นเพื่อนรักเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที อยากให้มีความสุขที่เป็นของตัวเอง แล้ววันก่อนที่ได้ยินเอสยกคำพูดของไอมาพูดก็ทำให้ทีอยากสนับสนุนเหมือนกัน แต่ให้เอสสมหวังง่ายๆ มันก็ดูจะไม่มีค่าพอให้น่าจดจำสักเท่าไร ดังนั้นจึงคิดจะเข้าข้างคนรักดีกว่า

          “มีแน่ แต่ขอคิดก่อนนะ ที่สำคัญต้องจัดการไอ้นัทก่อน แล้วก็ต้องเนียนด้วย”

 

          “ไอ้เอ็ม ไอ้ตัวแสบ แสบนักนะ คอยดูตอนบ่ายไม่เคลียร์เจอแน่”

          เอสอารมณ์เสียตั้งแต่เห็นข่าวหญิงสาวเมื่อเช้า เนื่องจากเป็นเรื่องปกติที่เขาลงมาจากห้องของตัวเองเพื่อลงมาทานอาหารเช้าแล้วแม่บ้านจะเปิดทีวีที่ดูจากห้องอาหารก็พอจะเห็นไว้ เป็นข่าวทีวีกล่อมหูตอนทำงาน แล้วข่าวของหญิงสาวก็จุดระเบิดของเขาได้ทุกครั้งแน่นอนว่าเขาโทรไปสั่งงานกับมือขวาคนสนิทเหมือนเดิม

          ในข่าวภาพที่หลุดออกมาเป็นภาพที่ร่างบางยิ้มหวานให้กับไอ้นายกิตติภพคนที่เป็นข่าวเมื่อวาน แต่คราวนี้มีรอยยิ้มน่ารักและอบอุ่นส่งให้เด็กสาวตัวน้อยด้วย ยิ่งทำให้เขาฉุนขาด พอคิดว่านี่เป็นครอบครัวของเธอ มีนายกิตติภพเป็นพ่อ มีเธอเป็นแม่ และมีเด็กสาวในภาพเป็นลูก มันยิ่งจุดฉนวนความอิจฉาในใจให้ประทุขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่ แล้วยังจะภาพหลุดที่เจ้าสัวชัยบดินทร์เกียรติเดินขึ้นห้องไปกับเธออีก ไหนพ่อเขาบอกว่าเจ้าสัวเป็นคนรักครอบครัวไง รักครอบครัวประสาอะไรถึงได้มายุ่งกับผู้หญิงคนอื่น

          เพลิงอารมณ์ยิ่งโหมหนักขึ้นอีกเมื่อมาถึงบริษัทแล้วมือขวาคนสนิทกลับสืบไม่ได้เรื่องอะไรเลย เพียงแต่บอกว่าไอ้เพื่อนตัวแสบมีความใกล้ชิดกับหญิงสาวระดับหนึ่งน่าจะรู้เรื่องพวกนี้ได้ดีกว่า แต่ที่น่าเจ็บใจคือเพื่อนตัวดีมันกลับไม่คิดจะอ้าปากมาบอกกัน คอยดูเจอกันบ่ายนี้ได้เห็นดีกันแน่

          “หรือเธอจะเป็นเมียน้อยเขาอย่างที่ข่าวว่า” ชายหนุ่มเปรยความคิดของตัวเอง ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงสูงค่าที่เขาจะต้องให้เกียรติอีกต่อไป ความคิดมาดร้ายก่อกำเนิด

          การทำงานช่วงเช้าวันนี้ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่าน ดลภพเอาเอกสารต่างๆ ที่ต้องได้รับการเซนต์อนุมัติเร่งด่วนมาให้ แต่เขากลับไม่มีกะใจจะดู อยากให้ถึงตอนบ่ายเร็วๆ เหลือเกิน และแน่นอน เขาจะไปหักคอเอาความจริงจากไอ้เพื่อนรักตัวดีที่มันคิดปิดบังอำพรางเกี่ยวกับคนสวยของเขา ในใจก็คิดหาวิธีแก้เผ็ด จริงๆ ถ้ามีเพื่อนอีกคนหนึ่งอยู่ด้วยเรื่องมันจะง่ายกว่านี่ แต่ติดตรงที่มันอยู่ไกล พูดขึ้นมาก็นึกคิดถึง ขอโทรแหย่มันสักหน่อยดีกว่า รอสายไม่นานก็มีคนรับสาย

          “ไง พ่อลูกอ่อน”

          “มีความสุขดีโว้ยเพื่อนรัก” ปลายสายเหมือนกำลังสนุก ได้ยินเสียงกุ๊งกิ๊งๆ อยู่ไม่ขาด “ว่าแต่โทรหาฉันมีไรวะ”

          “ไม่มีไร แค่จะถามว่ากลับเมื่อไร”

          “ฉันบอกป๋าว่าลาหยุดไปหาลูกสะใภ้ให้ ป๋าอนุญาตให้หกเดือน ตอนนี้กำลังเอาใจเมียอยู่”

          “เฮ่ย! เรียกเขาว่าเมีย เขายอมให้แกกินหวานแล้วหรอวะ”

          “เฮย... ยังวะ แต่ก็มีลูกด้วยกันแล้ว ฉันมีหวังกว่า 80% โว้ย”

          “โห่ พูดมาได้เต็มปากนะว่ามีลูกด้วยกันแล้วทั้งที่ไม่เคยนอนด้วยกันนี่นะ”

          “แต่น้องกัณฑ์ลูกฉันน่ารักนะโว้ย ติดฉันแจเลย แม่เขาไม่ใจอ่อนก็ให้มันรู้ไปว่าฉันมันจะไม่มีน้ำยา ว่าแต่แกโทรมาหาฉันมีเรื่องแค่นี้จริงๆ หรอ” ถามอย่างไม่หายสงสัย

          “รู้ดีอีก”

          “ฉันเพื่อนแกนะโว้ยเอส ทำไมจะไม่รู้จักแก”

          “ตอนนี้ฉันกำลังรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นหนุ่มน้อยวะ อารมณ์ประมาณแอบรักผู้หญิงแต่ไม่กล้าเข้าหาเขา” เสียงถอนหายใจมาก่อน จากนั้นจึงบอกความรู้สึกของตัวเองตอนนี้เพื่อขอคำปรึกษาจากเพื่อน

          “ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของแกเลยวะ เดี๋ยวนะ ขอเวลาช็อค 3 วิ”

          “แกช็อคเสร็จรึยัง”

          “โอเค เสร็จละ เฮ่ย! เอส แกไม่เคยเป็นแบบนี้ คนนี้ของจริงหรอวะ”

          “จริง   แต่ฉันรู้สึกว่ารอบตัวมีแต่อุปสรรควะ” ผมต้องหาแนวร่วม แล้วเพื่อนรักอย่างไอ้ไอนี่แหละจะเป็นกำลังเสริมให้ผมได้

          “ยังไง”

          “ก็ ผู้หญิงสวยแน่ละที่จะมีมวลหมู่แมลงตอม แต่ฉันไม่ค่อยมั่นใจว่าเธอมีเจ้าของแล้วหรือเปล่า อีกอย่างเหมือนเธอระวังตัวจากฉันตลอดเลย” เอสเล่าเรื่องราวที่เขาตกลงที่จะทำอะไรไปบ้างเพื่อให้ได้อยู่ใกล้คนที่หมายปองให้เพื่อนรักฟัง รวมถึงสถานการณ์ตอนนี้ระหว่างเขากับเธอ ปลายสายเหมือนจะกลั้นขำเอาไว้อยู่เรื่อยๆ แต่ก็โทษไม่ได้เพราะมันน่าขำสิ้นดี รู้ถึงไหนอายถึงนั่นสำหรับเพลบอยเสือผู้หญิงอย่างเขา ต้องมาสิ้นลายเพราะไปไม่เป็นกับผู้หญิงคนเดียวคนนี้

          “นั่นปัญหารึเปล่า”

          “ใช่!”

          “เอส เมื่อก่อนถึงมีเจ้าของแล้วถ้าแกจะเอาเสียอย่าง เคยไม่มั่นใจหรอวะ”

          “แต่คนนี้ไม่เหมือนคนอื่นๆ จะให้ทำเหมือนกันได้ไง”

          “เอ่อ... ลืมไป แกบอกคนนี้ของจริง เอางี้นะเอส เข้าหาเธอตามสถานการณ์แล้วก็เลิกยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นให้แน่ชัด เพราะถ้าแกเยียบเรือสองแคมเมื่อไหร่ คนที่แกอยากได้แกจะไม่ได้ ส่วนคนที่แกไม่อยากได้แกก็จะได้” ปลายสายให้คำปรึกษา

          “เฮ่ย! ทำไมแม่นจังวะ แกรู้ได้ไง”

          “เพราะสันดานแกไงเอส”

          “เอ่อ! ฉันยอมรับ แต่มันช่วยไม่ได้ ก็ตอนที่ฉันเข้าไปใหม่ๆ ก็ต้องหาใครสักคนไว้ก่อน”

          “ตอนนี้แกก็ถือว่าเป็นคนภายในแล้วนิ ฉันว่าแกควรจะสลัดแม่นางเอกนั่นออกได้แล้ว เพราะขืนแกสนิทกับแม่นั่นมากกว่านี้อุปสรรคก็จะเยอะตาม เอ... หรือแกถลำลึกถึงขั้นกินหวานแม่นางเอกแล้ววะ”

          “เปล่า!” ปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่รู้เป็นไร เรื่องอย่างว่าฉันไม่มีอารมณ์กับใครเลยนอกจากเธอคนเดียว ตอนเข้าฉากด้วยกันโดยเฉพาะซีนที่ต้องถึงเนื้อถึงตัว เธอเหมือนยาปลุกสำหรับฉันจนฉันแทบวิ่งไปเอาลงแทบไม่ทันในห้องน้ำ แต่กลับคนอื่น มันไม่มีเลยจริงๆ นะโว้ย ไอ”

          ปรึกษาเพื่อนอย่างคนสิ้นลาย ปลายสายถึงกับเงียบไปเลยทำให้ต้นสายต้องขานเรียกเพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนเขายังอยู่ในสายอยู่

          “เอางี้นะเอส ทำตามที่ฉันบอกอันแรกให้ได้ก่อน สะลัดเรือแคมแรกให้พ้นไปก่อน จากนั้นค่อยเข้าหาเธอ แล้วก็เพิ่มความถี่ขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เธอมีนายอยู่ในสายตา” ไอรินธรให้คำปรึกษาโดยวิธีละมุนละม่อม เพื่อให้ความรักของเพื่อนสมหวังแล้วจบอย่างแฮปปี้

          “ขอบใจสำหรับคำแนะนำวะเพื่อน แกไม่อยู่สักคนฉันเหมือนโดนไอ้ทีกับไอ้เอ็มรุมยังไงไม่รู้”

          “ยังไง”

          “ก็ไอ้นัทมันรายงานว่าไอ้เอ็มรู้จักกับว่าที่เมียฉันมากกว่าที่มันบอกฉัน เป็นแกแกจะคิดยังไง มันกันท่าฉันชัดๆ ทั้งๆ ที่เมียมันนั่งหัวโด่อยู่นะ” ฟ้องกรายๆ

          “เดี๋ยวฉันจะลองหาโอกาสโทรหยั่งเชิงไอ้สองคนนี้ดูก่อนแล้วกัน แล้วเดี๋ยวค่อยคุยกันอีกที โอ๋..ลูก โอ๋.. ปะป๋าอยู่นี่ครับลูกไม่ร้องนะ” เหมือนปลายสายจะไม่สนใจตนแล้วเพราะต้องกลับไปคอยเลี้ยงลูก “เอ่อ เอส ฉันต้องวางแล้ว น้องกัณฑ์งอแงจะกินนม เดี๋ยวฉันไปตามเมียฉันก่อน”

          “เอ่อ ขอให้สนุก กลับมาก็เอาหลานมาให้ดูด้วยนะ อยากเห็นวะ”

          “เอ่อ” ปลายสายตอบแค่นั้นแล้วกดวางไป

          สำหรับไอ้ไอ หรือไอรินธร เพื่อนรักอีกคนที่ปลีกตัวออกไปปฏิบัติภารกิจหาลูกสะใภ้เข้าบ้านให้พ่อแม่มัน ตอนนี้คงเป็นช่วงพิสูจน์ความรักและความมั่นคง แต่มันยังโชคดีที่โชคเข้าข้างที่เข้าหาเธอได้แล้ว แต่ผมนี่สิ ผมไม่เคยสิ้นท่าเข้าหาใครขนาดนี้ โดยเฉพาะผู้หญิง แล้วจากคำแนะนำของเพื่อนรักทำให้ผมตัดสินใจได้ วันนี้ผมจะต้องห่างจากนางเอกสาวก่อน เพื่อที่เดย์เขาจะได้ไม่เข้าใจผมผิดแล้วคิดกันผมเอาไว้ห่างจากเธอกว่านี้ เมื่อตัดสินใจได้ ผมก็ออกจากออฟฟิสตรงไปที่กองถ่ายทันที ส่วนเรื่องไอ้เพื่อนรักผมคิดว่าคงไม่ได้อะไรมากมายเพราะมันตั้งใจกันท่าผมแต่แรกแล้ว ดังนั้น ผมต้องหาทางทำอะไรสักอย่างที่มันจะเป็นผลดีกับผมมากกว่านี้

          Trr Trr

          “ครับ” ผมกดรับสาย

          “เอสค่ะ เกรทอยู่ที่ร้าน... มารับเกรทไปกองถ่ายหน่อยสิค่ะ” เสียงออดอ้อนดังมาจากปลายสาย

          “ขอโทษครับเกรท ผมว่าผมคงไปไม่ได้เพราะไม่ผ่านทางนั้นเลย” ผมตอบเลี่ยงไป ความจริงแค่เลี้ยงข้างหน้าขับต่ออีกสิบนาทีก็ถึงที่เธออยู่แล้ว แต่ผมเลือกปฏิเสธเพราะตั้งใจจะตัดเธอแล้วนั่นเอง

“หรอค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ เจอกันที่กองนะค่ะ” ถึงเสียงจะปกติ แต่ในกระแสเสียงนั้นผมจับได้ถึงความขัดใจ และจริงๆ แล้วนางเอกสาวคนนี้ก็เหมือนกับผู้หญิงอื่นๆ ที่ผมคบมา พอผมเปิดช่อง เธอก็พร้อมเข้ามา ดูอย่างวันที่ไปผับด้วยกันวันนั้น เธอตั้งใจเมาเต็มที่เพื่อให้อะไรๆ มันดำเนินต่อไปตามทางของมัน แต่ผมไม่มีอารมณ์กับเธอ ซึ่งก็แปลก จึงให้ไอ้นัทพาเธอไปพักห้องในโรงแรมที่ผมพักประจำ เห็นไอ้นัทบอกว่าพอตื่นขึ้นมาคุณเธอก็ตามหาผมใหญ่ แต่พอเห็นเป็นไอ้นัทเอาอาหารเช้าเข้าไปให้พร้อมกับแจ้งรายละเอียดที่ผมเตรียมให้มัน คุณเธอทำหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ผมจึงมั่นใจแน่นอนว่าเธอต้องการจับผม แล้วเรื่องอะไรผมต้องไปให้เธอจับละ จริงมั้ย

          ผมขับรถตรงไปกองถ่ายซึ่งก็เกือบจะถึงอยู่แล้วก็แค่เลี้ยวข้างหน้าอีกโค้งหนึ่งเท่านั้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นรถเบนส์คันใหญ่ขับสวนขึ้นไปข้างหน้า ข้างในเป็นชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอยู่ตอนท้าย ผมจำได้ทันทีว่าเธอเป็นใคร รถแล่นมายังจุดหมายปลายทางเดียวกับผมแล้วจอดตรงหน้าในที่จอดรถ ผมขับตามมาแล้วจอดที่ช่องข้างๆ กัน

          ร่างบางของหญิงสาวที่ผมหมายปองเดินลงจากรถใบหน้าบอกบุญไม่รับ ผมรู้ว่าส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะข่าว หลังจากนั้นเธอหันไปคุยกับคนในรถด้วยใบหน้าเรียบนิ่งก่อนเดินเข้าสตูดิโอไป ซึ่งการพูดคุยกันนั้นรายละเอียดผมไม่รู้หรอก เพราะผมอยู่ในรถของตัวเอง หลังจากที่เธอไปแล้วคนขับรถก็ปิดประตูฝั่งที่เธอลงแล้วกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองแล้วขับออกไป

          วันนี้ผมเห็นแล้วว่าเธอมีผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้าหาตลอด ถ้าผมไม่ทำอะไรสักอย่าง ผมคงไม่ได้อยู่สารบทของเธอแน่นอน ผมเดินเข้าสตูดิโอเพื่อเริ่มทำงานของวันนี้ ช่วงที่ผมรอเข้าฉาก ผมคิดทบทวนในขณะมองร่างบางๆ ของเธอเดินไปเดินมาทำงานหยิบจับนั่นนี่โน่นช่วยงานคนอื่นๆ เหมือนปกติ มีหยุดคุยบ้างตามมารยาท แต่ส่วนใหญ่เธอจะอยู่ข้างๆ พี่แหววเสมอ

          “เมื่อวานก็มีข่าวกับคนนั้น วันนี้ก็ยังมีแบบนี้อีก ปล่อยไปไม่ได้แล้ว” ร่างสูงเปรยกับตัวเองอย่างตัดสินใจ กับแผนการที่คิดจะทำ ส่วนผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรนั้นเขาไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว

つづく.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา