หนี้ตามสัญญา

     "หนี้" เป็นความสัมพันธ์ทางกฎหมายระหว่างบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป แต่ละฝ่ายจะมีกี่คนก็ได้ และด้วยความสัมพันธ์อันนี้ ฝ่ายที่เรียกว่า "เจ้าหนี้" มีสิทธิบังคับฝ่ายที่เรียกว่า "ลูกหนี้" ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อประโยชน์ของฝ่ายเจ้าหนี้ได้ หรือกล่าวอีกทำนองหนึ่ง คือ ฝ่ายลูกหนี้มีหน้าที่ต้องกระทำการหรืองดเว้นกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อประโยชน์ของฝ่ายเจ้าหนี้

     หนี้ในทำนองเงินตรานั้นเรียก "หนี้สิน" และมักเรียกกันสั้นๆ ว่า "หนี้" ทำให้เข้าใจกันว่า หนี้เกี่ยวด้วยเรื่องเงินตราเสมอไป แต่อันที่จริงแล้วหนี้สินเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของหนี้ และหนี้ปรากฏตัวหลากหลายรูปแบบ* อย่างเช่นกรณีของนายกรและนางพิน สองสามีภรรยาคู่นี้ได้รับปากกับนาย "ณัฐจักร" ไว้ว่า เมื่อใดที่ลูกสาวของตนเรียนจบปริญญาตรี ทั้งสองจะรีบนำเงินทุกบาททุกสตางค์มาคืน พร้อมกับยินดีที่จะยกลูกสาวของตนให้กับลูกชายของเขา เพื่อตอนแทนที่นายณัฐจักรให้ความช่วยเหลือทั้งคู่มาโดยตลอด

     ซึ่งก่อนหน้านี้ที่นายณัฐจักรจะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาได้ให้ทนายประจำตระกูลเข้ามาหาที่บ้านเพื่อร่างสัญญาการใช้หนี้ของนายกรและนางพิน แล้วลงลายมือชื่อเป็นลายลักอักษรทั้งสองฝ่ายพร้อมพยาน  และสัญญาฉบับนี้มีผลทางกฎหมายนับตั้งแต่นางสาว "กนกพิชญ์" เรียนจบปริญญาตรี ภายในหนึ่งเดือนหากทั้งคู่ไม่สามารถทำตามคำที่ระบุในสัญญาได้ บริษัท เอส.ที. จำกัด จะต้องประกาศล้มละลาย และขายกิจการทั้งหมดให้กับนายณัฐภัทร รวมทั้งคอรบครัว "สันติ" จะต้องออกนอกประเทศไทยไป

     "คุณพ่อคุณแม่เห็นเงินสำคัญกว่าชีวิตของพิชญ์เหรอคะ?"

     "เธอเป็นแค่ลูกหนี้ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรจากฉันทั้งนั้น!"

*ที่มาจาก