นิยาย : I'm Not a Dog กูไม่ใช่ 'หมา' ของมึง [YAOI]



(แก้ไขเนื้อหาล่าสุดเมื่อ โดย เจ้าของบทความ)
ตอน 1. ▍▎1-Cedar ▎▍
( แก้ไขเมื่อ วันที่ 18 ต.ค. 2557 23:13 น. โดย เจ้าของบทความ )
▍▎1-Cedar ▎▍
เฮงซวยเอ๊ย!
เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งสบถยาวเป็นพรืดในใจให้กับสิ่งที่เจอในวันนี้ ก็ไอ้แก่ผัวยัยเจ๊เจ้าของร้านเสื้อแม่งเมาแล้วเชี่ย เสือกตาบอดจะมาจับผมกดเลยโดนอัดกลับไปนิดๆหน่อยๆพอให้เรียกสติ แต่ยัยเจ๊ดันกลับมาเจอเลยเป็นเรื่อง แล้วแทนที่จะเอาโทษกับผัวดันมาหาเรื่องไล่ผมออกหน้าตาเฉย
แม่งฉิบหาย...เงินก็ไม่ได้ เสือกได้ทำงานฟรีให้เค้าไปสิบกว่าวัน วุฒิแค่ม.6 อายุก็แค่ 20 งานดีๆสบายๆหาได้ง่ายซะที่ไหนล่ะ
นึกแล้วก็ยิ่งหัวเสียว่ะ! หันซ้ายหันขวากะจะหาที่ระบายก็พอดีกับมีหมาแกว่งปากมาหาตีนเข้าให้
“เฮ้ยมึงอ่ะ เท่าไหร่วะ?”
ผมหันมองเจ้าของเสียงนั้น เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาบ้านๆธรรมดาๆ ผมเผ้ากระเซิง ตาลอยๆเหมือนคนติดยา บรรยากาศที่มันแผ่ออกมาแม่งเถื่อนดิบสิ้นดี
“เท่ากับค่าทำศพมึงอ่ะ”
“อ่าว...นี่จะหาเรื่องเหรอวะ”
ผมไม่ตอบแต่ถกแขนเสื้อขึ้นรอเลยเมื่อเห็นมันลงเดินมาจากรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ หน้าตามันเอาเรื่องมากยังกับพวกเมายาบ้า มือด้านหยาบที่เปรอะเลอะคราบน้ำมันเครื่องคว้าคอเสื้อผมอย่างแรงจนร่างปะทะเข้ากับชุดช็อปสีน้ำตาลซีดของมัน
“เชี่ยย เสื้อผ้ากูเปื้อนหมดไอ้ควาย!” ว่าแล้วก็โบกทีนึงหนักๆจนไอ้เถื่อนหัวทิ่มเพราะไม่ทันตั้งตัว มือกุมหัวร้องเสียงดังลั่น
“เหี้ย! เจ็บนะเว้ยสัส”
“สมน้ำหน้า เสือกกวนตีนดีนักไอ้ภัทร์” ผมหัวเราะแบบกวนตีนใส่หน้ามัน มันหมั่นไส้เลยขยี้หัวผมซะเละลากไปที่มอเตอร์ไซค์ของมัน
“เป็นไงล่ะไปทำยังไงถึงโดนไล่ออก” มันถามเข้าประเด็นเมื่อผมซ้อนท้ายแล้วมันขับออกสู่ถนน ลมเย็นยามค่ำคืนปะทะหน้าขับไล่ความร้อนอบอ้าวที่ออกมาจากอารมณ์ร้อนรุ่มในตัวผมเอง แล้วผมก็เริ่มเล่าให้มันฟังไปตลอดทาง...
ไอ้ภัทร์เป็นเพื่อนที่มีความสำคัญยิ่งกว่าเพื่อนของผม อย่า...หยุดเลยอย่าคิดลึก มันเป็นเพื่อนที่ผูกพันกันมาขนาดที่ว่าตายแทนกันได้เลยนะ...สำหรับมันผมไม่แน่ใจ แต่ผมน่ะตายแทนมันได้จริงๆ ยิ่งกว่าเพื่อน ยิ่งกว่าคนรู้ใจ ยิ่งกว่าพี่น้อง ยิ่งกว่าครอบครัว...
มันเป็นผู้ชายที่ภายนอกดูหยาบๆ นิ่งๆมึนๆ แต่ที่จริงแล้วมันเป็นผู้ใหญ่มาก สู้ชีวิตและเจออะไรในโลกมาเยอะกว่าอายุมันอีก อันที่จริงมันเป็นน้องผมอยู่ปีนึงแต่เราเรียนชั้นเดียวกันนะ ไม่ดิ่วะ...เคยเรียนอยู่ชั้นเดียวกัน เพราะตอนนี้มันเรียนช่างกลปี 2 แล้ว แต่ผมเลิกเรียนไม่ได้ต่อมหาลัยเหมือนมัน
“ซวยไปนะมึง เสือกเกิดมาหน้าหวานก็เงี๊ย” มันว่า
-*- เฮ้ย...กูก็ไม่ได้อยากเกิดมาหน้าแบบนี้ป่าววะ
“แล้วนี่รถมึงไปไหนทำไมได้โทรให้กูมารับล่ะ?” คำถามมันทำให้ผมชะงักไปนิด
“ไอ้ซีดาร์เอาไป”
“....”
เราต่างคนต่างเงียบจนกระทั่งมาถึงตลาดไอ้ภัทร์ก็หาที่จอด มันเป็นตลาดกลางคืนไอ้ภัทร์มันเลิกเรียนก็จะมาขายข้าวตามสั่งที่นี่ทุกวัน เราเดินไปที่ร้านก็เห็นไอ้เหี่ยวเด็กขายน้ำเต้าหู้ร้านข้างๆกำลังดูร้านแทนไอ้ภัทร์อยู่
“ขอบใจเว้ยเหี่ยว เดี๋ยวเก็บร้านเอาข้าวไปฝากที่บ้านด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรพี่ ร้านใกล้กันแค่นี้เอง ช่วยกันๆ” มันยิ้มทะเล้นแล้วกลับไปดูแลร้านของตัวเอง
ไอ้นี่ก็เด็กสู้ชีวิตเหมือนกันนะ มันไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว จบม.3 มันก็ออกมาทำงานข้างนอกเลยเพราะพ่อแม่มันไม่มีเงิน มันก็อยากช่วยครอบครัวด้วย ตอนนี้ถ้ามันยังเรียนอยู่ก็น่าจะม.5 แล้วนะ
“ดึกขนาดนี้ไอ้ซีดาร์มันเอารถมึงไปไหน?” มาละ...สายตากดดันกับน้ำเสียงเรียบๆเรื่อยๆ เฮ้อ...
“ออกไปทำรายงานบ้านเพื่อนมั้ง” ผมตอบปัด แต่มันก็ยังมองหน้ากดดันจนผมต้องหลบสายตา ไม่พอต้องหันหลังหนีมันอีก
“มึงรู้...กูรู้...ว่าซีดาร์มันเป็นยังไง”
ผมเงียบทำท่าไม่สนใจแต่ในใจก็คิดตามที่มันพูด เห็นท่าทางผมแบบนั้นไอ้ภัทร์ก็ถอนหายใจ
“มึงอย่าลืม คนเราชีวิตใครชีวิตมันนะ เรารับผิดชอบชีวิตใครสักคนไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอก...ต่อให้คนนั้นจะเป็นใคร มีความสัมพันธ์กับเราแบบไหนก็ตาม สุดท้ายก็ชีวิตใครชีวิตมันอยู่ดี”
“....”
ไอ้ภัทร์กลับไปขายกับข้าวของมันต่อ ผมนั่งมองมันเงียบๆในใจคิดฟุ้งซ่านไปทั่ว พูดน่ะมันพูดง่าย คิดนะมันก็คิดได้ เข้าใจมันก็เข้าใจ...แต่เวลาลงมือทำ...มันไม่ง่ายแบบนั้นเลย
“แล้วนี่เรื่องงานมึงจะเอาไงต่อ ให้กูช่วยมั้ย?” มันเปลี่ยนประเด็นเอาซะผมตามไม่ทัน
“อ่อ ไม่ต้องหรอก กูว่าจะไปดูร้านเหล้าแถวย่านว่ะ เหมือนเห็นประกาศอยู่สองสามร้าน”
“....” OxO อุ๊ฟ!! หลุดปาก......
“เฮ้อ...โตๆแล้ว คิดเอาเองละกัน”
-x- กูเซ็งประโยคนี้ของมึงจริงๆนะภัทร์
แล้วเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก ผมช่วยมันเสิร์ฟข้าวเสิร์ฟน้ำคิดนู่นคิดนี่เงียบๆไปอย่างที่มันบอกว่าให้คิดเอง
ไม่รู้หรอก...ไม่รู้ว่าที่ตัวเองคิดมันจะถูกจะผิดยังไง แต่ผมกับภัทร์เหมือนกันอย่างนึง...
ถ้าคิดจะทำแล้ว ใคร ก็ ห้าม ไม่ ได้
“แม่...ทำไมแม่มานอนตรงนี้!”
ผมร้องถามหน้าตาตื่นหลังจากเข้าบ้านมาเจอแม่นอนหลับอยู่บนโซฟาหน้าทีวี นี่มันตีสองแล้วนะเฮ้ย! ปกติแม่เข้านอนตั้งแต่สี่ทุ่มละ
“อืม ซีดาร์กลับมาหรือยังลูก? แม่เห็นดึกแล้วน้องยังไม่กลับก็เลยอยู่รอแล้วเผลอหลับไปน่ะ”
ซีดาร์...เฮ้อ~
ผมวางถุงกับข้าวลงบนโต๊ะแทบจะเป็นกิริยาที่เรียกว่าหลุดมือมากกว่า รู้สึกห่อเหี่ยวหมดแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
แม่ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน กลับจากโรงงานกินข้าวแล้วก็นอน ตื่นกินข้าวแล้วก็ไปทำงาน แล้วก็กลับมากินข้าวนอนแบบนี้อยู่ทุกวัน แทนที่จะได้พักผ่อนสบายๆกลับต้องมานอนรอไอ้ซีดาร์ที่โซฟาเนี่ยนะ...ซีดาร์...เป็นไอ้ซีดาร์เสมอ...แบบนี้ทุกที
“แม่ไปนอนก่อนเถอะนะ ซีดาร์มันไปทำงานแล้วหลับอยู่ห้องเพื่อน เดี๋ยวผมไปรับกลับเอง”
“อ้าวเหรอ งั้นไม่ต้องลำบากหรอกลูก ไปนอนเถอะนะ...ว่าแต่วันนี้ทำไมกลับดึกจังรอภัทร์เก็บร้านเหรอ?”
...ห่าเหว...
“ครับ ไปนั่งคุยกับภัทร์มา...แม่ไปนอนนะ ยังไงเรื่องน้องเดี๋ยวผมจัดการเองนะครับ” ผมพยุงพาแม่ไปส่งที่ห้องนอน ดูท่าทางแม่เหนื่อยมาก
...ไอ้ซีดาร์...
“เอางั้นเหรอ? งั้น...ฝากน้องด้วยนะลูก”
...เอาล่ะ...
“ครับ ผมจะดูแลน้องเอง”
...
หมดเวลาสนุกของมึงแล้วล่ะไอ้เด็กนรก!!!
“แน่ใจนะว่าไม่ต้องให้กูอยู่ด้วย” ภัทร์ถามย้ำเป็นรอบที่ห้าหลังจากผมโทรให้มันมาเป็นคนขับรถให้
“เออน่ะ ดึกแล้วกลับไปนอนเหอะมึงน่ะ” ผมไล่มันกลับ
“เออ...ดูแลตัวเองด้วยละกัน”
ผมยืนส่งมันจนลับตาไปแล้วค่อยเดินไปกดกริ่งหอพักตรงหน้า รถผมอยู่ที่นี่ไอ้ซีดาร์ก็น่าจะอยู่ที่นี่
“มาหาใคร?” ผู้ชายอ้วนๆเดินมาถามผมแต่ไม่ยอมเปิดประตูให้ ก็น่าจะนะ...แม่งเวลาขนาดนี้แล้ว
“ดันเจี้ยน”
เค้ามองหน้าสำรวจผมสักพักก็กดโทรศัพท์หาใครสักคน คงเป็นดันเจี้ยนนั่นแหละ หมอนี่มันเพื่อนซี้ไอ้ซีดาร์ จะหาใครสักคนในกลุ่มพวกมันคนแรกที่ต้องนึกถึงก็คือดันเจี้ยน ไอ้อ้วนบอกให้ผมรอที่หน้าประตูแล้วก็เดินกลับเข้าไป ผมรอไม่นานดันเจี้ยนก็มา
“พี่มาหาซีดาร์เหรอ?” มันเปิดประเด็นทันทีไม่มีอ้อมค้อม
“อือ ตามมันลงมาให้หน่อยแม่ให้มาตามกลับบ้าน”
“ซีดาร์มันไม่ได้มาเรียนนะวันนี้ ยังไม่มีใครเจอมันเลย ผมกลับหอมาก็เห็นรถจอดอยู่เนี่ย”
ผมขมวดคิ้ว ไม่ใช่ไม่เชื่อมันนะแต่ถึงขนาดไอ้ดันเจี้ยนก็ยังไม่รู้ว่าซีดาร์มันอยู่ไหนนี่ก็แปลกๆแล้วล่ะ
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าช่วงนี้?” ดันเจี้ยนเหลือบมองผมเหมือนจะแฝงความหงุดหงิดกังวลวูบนึง
“ไม่มี”
“อ่อ...งั้นไม่กวนละ” ผมจะหันหลังกลับ “อ้อ รถนี่ฉันเอากลับนะ”
“ครับ...อ้อ! ลองไปหาดูแถวย่านน่าจะเจอมันนะ”
“อือ ขอบใจ โทษทีที่มารบกวน”
แม่ง...อยู่ที่ไหนวะไอ้ซีดาร์!
ผมขับรถวนหามันจนแทบจะครบทุกผับทุกบาร์ละแต่ไม่เจอแม้แต่เงาของมัน ไม่รู้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกับใครกันแน่ หรือต้องตามไอ้ภัทร์มาช่วยจริงๆ?
“เอาล่ะ ที่สุดท้ายแล้ว...ไม่เจออีกกูจะไม่สนมึงแล้วนะไอ้เด็กเวร”
ผมขยับกำลังจะเดินเข้าไปหาการ์ดที่ยืนตรวจอยู่ตรงทางเข้า แต่เสียงเอะอะบางอย่างดังมาจากแถวลานจอดรถห่างไปไม่ไกลนัก น่าจะเป็นประตูทางเข้าออกสำหรับพนักงาน
ผมชะงักเท้าไว้ เบนหันเป้าหมายไปทางต้นเสียงแทน นึกไว้เลย...ที่ไหนมีเรื่องที่นั่นอาจมีซีดาร์ ไอ้เด็กนรกพวกนี้ชอบนักล่ะ
และภาพที่ผมเห็นคือการ์ดหกคนกำลังยืนล้อมร่างเด็กหนุ่มคนหนึ่งในสภาพสะบักสบอมพอสมควร กับชายอีกคนที่น่าจะเป็นโจทย์ขาใหญ่ของเจ้าตัว
เหอะ! ทำไมไม่ถูกหวยบ้างนะกู...เป็นไอ้ซีดาร์จริงๆด้วย
“เอาของที่กูอยากได้มา...แล้วกูจะยกหนี้ให้มึง” โจทย์ไอ้ซีดาร์ยืนจุดบุหรี่สูบอย่างใจเย็น ท่าทางสะใจกับสภาพของน้องชายผมมาก
เหอะ น้องชาย...พูดคำนี้แล้วรู้สึกแย่
ความจริงแล้วผมกับมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันสักหน่อย...มันชอบทำตัวเหมือนมันเป็นส่วนเกิน แต่คนที่เป็นส่วนเกินน่ะมันผมต่างหาก ไม่อยากจะคิด แต่มันชอบทำให้ผมรู้สึกว่าผมติดค้างมันอยู่ และถ้าผมจะต้องชดใช้...ก็ขอให้นี่เป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน
ผมก้าวเข้าไปหาคนกลุ่มนั้นอย่างใจเย็น เมื่อคนหนึ่งสังเกตเห็นผมคนที่เหลือก็เริ่มหันมาให้ความสนใจทันที
!!
“ใครวะ!?”
“จะใครก็ช่างเหอะ แต่หนี้ของหมอนั่นน่ะ...ฉันขอใช้แทนเอง!”
_______________________ :P
ชอบก็กดไลน์ :)
อยากแชร์ก็ทางนี้



คะแนนโหวต
แนวเรื่อง/น่าสนใจ
การใช้ภาษา/การบรรยาย
การดำเนินเรื่อง/น่าติดตาม