Kingdom Guardian

8.7

เขียนโดย mimosa

วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 23.09 น.

  14 chapter
  1 วิจารณ์
  22.62K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 กันยายน พ.ศ. 2557 21.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) Kingdom Guardian : Emperor of Bottomless 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     Kingdom Guardian : Emperor of Bottomless 1

 

 

 

                              “ฝากดูแลลูกของฉันด้วยนะ แช็ค”

 

.

.

.

 

 

                    เสียง ดังสนั่นทำให้เด็กชายผมสีดำตาสีเขียวเบิกตากว้าง ก่อนรู้สึกเจ็บที่ขาข้างซ้ายซึ่งเมื่อก้มลงมองดู ก็พบกับกระดูกที่แทงทะลุเนื้อออกมา เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมา เด็กชายพยายามจะขยับขาแต่กลับทำไม่ได้ เขารู้สึกกลัวและตกใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เด็กชายต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ลุงเวอร์นอนเข้ามาในห้องของเขากลางดึกก่อนจะข่มขืนเขาจนเขาสลบแต่ก็พอจะจำ ได้ในตอนที่สลึมสลือว่าอีกฝ่ายจับเขามัดก่อนจะจับยัดใส่รถ เวอร์นอนขับรถมาสักพักก่อนที่รถจะเสียหลักแต่ก่อนที่รถจะพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้าง ทางอีกฝ่ายหักพวงมาลัยสุดแรงจนด้านที่ชนกับเสาไฟฟ้าคือด้านหลังคนขับซึ่งก็ คือที่นั่งขอแฮรี่ ป้าเพ็ตทูเนียรีบเปิดประตูรถหลังจากปลดเข็มขัดนิรภัยได้แล้วก่อนจะวิ่งมาเปิดประตูหลังเพื่ออุ้มดัดลีย์ออกจากรถ

แฮรี่มองทุกๆการกระทำนั้นด้วยความมึนงง เริ่มรู้สึกได้ถึงของเหลวสีแดงฉานที่ไหลลงมาจากหัวที่ดูเหมือนจะแตกจากการที่รถกระแทกเมื่อกี้ เด็กชายพยายามดิ้นแต่มันกลับไร้ผล แฮรี่หันกลับไปสบตาลุงเวอร์นอนอย่างอ้อนวอนแต่สิ่งที่ได้รับตอบกลับมานั้นก็คือแววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง และเมื่อลองมองออกไปยังป้าเพ็ตทูเนีย ในแววตาของเธอเองก็ไม่ได้ต่างไปจากสามีของเธอเลย ...มีแต่ความเกลียดชัง...

เวอร์นอนเปิดประตูรถออกมายืนดูเขาที่ข้างหน้าต่างก่อนจะแสยะยิ้มพลางจุดไฟแช็กแล้วจ่อมันกับกองน้ำมันที่หก

“ลาก่อน ไอ้ตัวประหลาด” เวอร์นอนยิ้มเย็นก่อนจะเดินจากไป

“ไม่นะ ได้โปรด อย่าทิ้งผมไว้ ช่วยด้วย ได้โปรด!!” แฮรี่กรีดร้อง น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาสีมรกตทั้งสองข้างด้วยความหวาดกลัวในขณะที่เปลวเพลิงเริ่มลามเข้ามาในตัวรถแค่นั้นยังไม่พอ รถที่ชนกับเสาไฟฟ้าซึ่งบริเวณที่ชนนั้นมันเป็นเนินราดลงไปยัง ทะเลสาบ ดังนั้นเมื่อผ่านไปสักพัก รถก็เริ่มเคลื่อนตัวลงไปตามแนวราดของเนินด้วยความรวดเร็วก่อนจะพุ่งลงไปยังทะเลสาบ

“ไม่นะ ไม่ ไม่! ช่วยผมด้วย ใครก็ได้ ได้โปรด ช่วยด้วย!!”เด็ก ชายร้องไห้อ้อนวอน แต่กลับไม่มีใครมาช่วย ในขณะที่รถกำลังจมลงเรื่อยๆ นั้นยิ่งทำให้แฮรี่ขวัญผวายิ่งกว่าเก่า เด็กชายใช้มือทั้งสองข้างที่ถูกมัดทุบกระจกอย่างไม่กลัวเจ็บและส่งเสียงร้อง ด้วยความกลัว ในใจได้แต่นึกภาวนาขอให้เขารอดชีวิตโดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าจะอยากอยู่ต่อไปทำไมก็ในเมื่อเขาคิดมาตลอดว่าอยากตายพร้อมพ่อกับแม่ตอน อุบัติเหตุรถชนที่เขาจำไม่ได้ พอมาตอนนี้ที่เขากำลังจะตายจริงๆเขากลับรู้สึกอยากมีชีวิตรอด

น้ำเริ่มท่วมทั่วคันรถ อากาศหายใจเริ่มไม่มีเด็กชายพยายามดิ้นทุรนทุรายให้หลุดจากพันธนาการ ทั้งจากเชือกที่มัดมือมัดเท้าทั้งสองข้างและเข็มขัดนิรภัย แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดไปได้ นอกจากจะได้แผลเพิ่มขึ้นเสียมากกว่า

แต่แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนตนเองโดนแรงกระชากบางอย่าง ดึงวูบออกมาจากรถคันนั้นที่จมลึกลงไปเรื่อยๆ เมื่อมารู้สึกตัวอีกที ร่างของเขาก็หล่นลงมาบนกองดินข้างทางเสียแล้ว

“ฉัน บอกแล้วไง ว่าเจ้าเด็กนี่มันเป็นตัวประหลาด” เสียงสนทนาเหนือหัวทำให้เด็กชายเงยหน้าขึ้นมอง เขาทั้งไอและสำลักน้ำที่เข้าไปในปอด ตาก็พล่ามัวและแสบจากการจมน้ำและร้องไห้ ภาพที่เห็นอย่างเลือนรางคือป้าเพ็ตทูเนียที่อุ้มดัดลีย์กำลังคุยอะไร บางอย่างกับผู้หญิงผมแดงในชุดเสื้อผ้าสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ

“เขา ไม่ใช่สัตว์ประหลาด” หญิงคนนั้นกล่าวก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพลางจ้องมองเขาด้วยสายตาที่ เยือกเย็นหากแต่มันกลับแฝงไปด้วยความเกลียดชัง ไม่ได้ต่างไปจากลุงป้าเขาเลย “แต่เป็นปีศาจร้ายต่างหาก และพวกเรามีวิธีจัดการกับปีศาจร้ายที่ถูกต้อง”

“แล้วเงินของพวกเราล่ะ” ลุงเวอร์นอนที่ยืนอยู่ข้างๆป้าเพ็ตทูเนียตลอดพูดขึ้น สีหน้าของเขาบอกได้เลยว่า ชายร่างอ้วนอยากไปจากที่นี่เต็มแก่แล้ว หญิง ผมแดงปรายตามองชายร่างอ้วนก่อนจะหันไปพูดกับคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอซึ่งใส่ ชุดสีดำทั้งหมดและจากสภาพตาของแฮรี่ทำให้เขาดูภาพไม่ค่อยชัดว่าพวกเขามีกี่ คนกันแน่ แต่ที่มั่นใจเลยก็คือพวกเขามีมากเหลือเกินและเขาคงไม่สามารถหนีไปจากที่นี่ ในสภาพแบบนี้ได้แน่

“จ่ายเงินให้พวกเขาไป แล้วเอาเด็กนี่ไปที่โรงแรม พวกเราจะทำพิธีชำละล้างกัน” เธอสั่งก่อนจะเดินไปขึ้นรถที่คนชุดดำคนหนึ่งเปิดประตูรอไว้ให้ แฮรี่ไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้นและไม่คิดอยากจะทำความรู้จักด้วย โดยเฉพาะพิธีชำละล้างอะไรนั้น เขายิ่งไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วยใหญ่เลย เขาจึงตัดสินใจพยายามหนี หากแต่ว่า ร่างกายเขาที่ยังถูกมัดนั้นทำให้เขาไม่สามารถวิ่งหนีได้

“ไม่นะ อย่า!!” แฮรี่กรีดร้องเมื่อชายชุดดำคนหนึ่งจับเขาอุ้มพาดบ่าราวกับเขาเป็นกระสอบทราย หลังจากนั้นเขาก็ถูกจับยัดใส่รถอีกครั้งในรอบวันแล้วถูกขับรถพามายังโรงแรมที่ไหนสักแห่ง พวกนั้นไม่คิดจะรักษาเขาหรือใดๆทั้งสิ้น นอกจากจับเขามัดกับเหล็กทรงกลมหน้าตาประหลาดที่เป็นรูปดาวห้าแฉก เขาไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากสั่นกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาต่อไป หูของเขาอื้ออึงในขณะที่หญิงผมแดงพูดอะไรบางอย่างกับคนของเธอราวกับการประกาศหรืออะไรสักอย่างแต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา มันช่างโหดร้าย ชายคนหนึ่งเดินตรงมาหาเขาพร้อมกับราดบางอย่างทั่วตัวเขาแล้วตามมาด้วย...ไฟ...

เขาถูกจับเผาทั้งเป็น เขาพยายามดิ้นให้หลุด ร้องให้คนช่วยและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน ร่างกายของเขา ผิวหนังของเขาค่อยๆกลายเป็นสีดำ ช่างน่าแปลก ทั้งๆที่เขาถูกเผา แต่กลับรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว แล้วหลังจากนั้น ทุกๆอย่างก็มืดมิด

 

.

.

.

 

          ในขณะที่กำลังมีพิธีเผ่าแม่มดในโรงแรมนั้น จู่ๆไฟก็ดับลงทั้งโรงแรม รวมไปถึงไฟที่ลุกไหม้เด็กชายเองก็ดับมอดไปอย่างน่าประหลาด เสียงรองเท้าดังกระทบพื้นท่ามกลางความเงียบสงัด ทุกๆคนที่อยู่ที่นี้ต่างรู้สึกหวาดผวา พยามจุดไฟเท่าไรไฟก็ไม่ติด สักพักก็เกิดเสียงกรีดร้องราวกับสัตว์ที่กำลังโดนเชือดดังขึ้น นั่นยิ่งทำให้ทุกๆคนกลัวกันเข้าไปใหญ่ ยิ่งมืดๆแบบนี้การหาทางออกยิ่งเป็นเรื่องยากเข้าไปใหญ่ เสียงรองเท้าค่อยๆดังขึ้น ดังขึ้น เช่นเดียวกับเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเสียงรองเท้านั้นมาพร้อมกับความทรมานจนกระทั่งจู่ๆไฟก็ติด ปรากฏให้เห็นสภาพโดยรอบโดยชัดเจนซึ่งภาพที่ปรากฏนั้นทำให้หลายๆคนพากันกรีดร้องด้วยความหวดกลัวและสยดสยอง เมื่อทั่วทั้งพื้นห้องเต็มไปด้วยเลือดและก้อนเนื้อซึ่งชิ้นส่วนบางส่วนบ่งบอกว่ามันเคยเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์มาก่อน และเมื่อสังเกตดูให้ดีแล้วจะพบว่าจำนวนคนที่อยู่ในห้องนี้นั้นลดลงเหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

“พระเจ้าเมตตาด้วย” หนึ่งในคนที่เหลือรอดพูด

“พระเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว และไม่คิดจะให้ความเมตตากับพวกเจ้า” เสียงหนึ่งดังตอบอย่างเยือกเย็นก่อนที่ร่างของเหล่าผู้เหลือรอดจะถูกบางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นฉีกเป็นชิ้นๆจนไม่เหลือผู้ใดรอดชีวิต

เมื่อไม่เหลือใครแล้ว แสงสว่างมากมายก็มารวมตัวกันก่อนจะปรากฏร่างของชายหนุ่มในชุดไปรเวทเสื้อโค้ทตัวใหญ่ยาวสีดำ สวมหมวกสีเดียวกับเสื้อโค้ทของเขา บนใบหน้าคมนั้นสวมหน้ากากลายตารางหมากรุกขาว-ดำ และสวมรองเท้าบู๊ตสีดำสนิท ร่างสูงของชายหนุ่มหยุดยืนนิ่งพลางกวาดสายตามองโดยรอบที่เต็มไปด้วยซากศพและก้อนเนื้อ ฉับพลัน จู่ๆทั้งก้อนเนื้อและรอยเลือดก็หายไปในพริบตาราวกับว่าภายในห้องนี้นั้นไม่เคยเกิดเหตุฆาตกรรมสังหารหมู่เกิดขึ้น

ชาย หนุ่มเริ่มออกก้าวเดิน ตรงไปยังร่างของเด็กชายที่ยังคงถูกแขวนไว้กับดาวห้าแฉก เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร่างที่กลายเป็นสีดำมะเมือง ภาพที่เขาเห็นทำให้ชายหนุ่มกำหมัดแน่น แววตาสีฟ้าครามของเขาฉายชัดถึงความเจ็บปวด เขาค่อยๆปลดล็อกที่ข้อเท้าและข้อมือของร่างเล็กก่อนจะรับร่างที่ล่วงลงมา อยู่ในอ้อมกอดอย่างไม่สะทกสะท้านต่อความร้อนที่ยังคงไม่หายไป หรือสภาพที่กลายเป็นเนื้อไหม้ของร่างในอ้อมอก น้ำตาหยดลงบนใบหน้าเล็กที่ไม่สามารถแยกเคร้าโครงของดวงหน้าออกไปอีกต่อไป แล้วว่าคนตรงหน้านั้นเคยมีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง

“กลับบ้านกันเถอะนะ แฮรี่” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มก่อนจะเดินออกไปจากสถานที่แห่งนี้

 

 

 

 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

 

 

 

                                      ...ราวกับอดีตที่วกกลับมาซ้ำรอยครั้งแล้วครั้งเล่า...ชาวการ์เดียน หรืออมนุษย์ผู้บริสุทธิ์ถูกทำร้าย...และที่ร้ายที่สุด...เป็นฝันร้ายของเหล่าพ่อมดแม่มด...การถูกเผาทั้งเป็น...

                    ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา คือหลานชายที่ไม่ได้เจอหน้ากันเสียตั้งนานถูกจับเผาทั้งเป็น สำหรับเขา มันคือฝันร้าย ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรงระรัวด้วยแรงโทสะ หากจะเทียบกับไฟที่กำลังโหมไหม้ร่างกายของเด็กชายแล้ว ไฟโทสะของเขานั้นแรงกว่าเพราะว่ามันทำให้เขาฆ่ามนุษย์ที่อ่อนแอกว่าเขาหลาย ร้อยเท่าได้ในพริบตาอย่างไม่มีความเมตตาปราณีหรือความลังเลใดๆ ก็แค่ให้พวกมันชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป เขาอาจไม่สมควรไปพิพากษาใครต่อใคร แต่พวกมันก็ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายคนอื่น เพียงแค่เพราะว่าพวกเขานั้นแตกต่างไปจากพวกมันเช่นกัน

แต่ต่อให้พวกมันตายหมด ไฟโทสะภายในใจของเขานั้นก็ไม่ได้มอดดับลงไปด้วย ร่างที่เขาจับช่างเปราะบางราวกับถ่านไม้ที่ถูกไฟเผาจนเกรียม ร้อนราวกับเนื้อที่เพิ่งออกจากเตาและกลิ่นเนื้อไหม้ที่ไม่น่าอภิรมย์เลยสักนิด เขาไม่อาจสกัดน้ำตาไม่ให้ไหลลงมาไม่ได้ เพราะมันช่างโหดร้ายเกินไป สำหรับเด็กตัวเล็กๆที่ไม่รู้อะไร เด็กน้อยบริสุทธิ์ที่เกิดมาพิเศษไม่เหมือนใคร แล้วต้องมาเผชิญชะตากรรมที่โหดร้ายแบบนี้ตั้งแต่อายุเท่านี้ มันช่างโหดร้ายและน่าเวทนาเสียจริง

เขาพาแฮรี่มารักษา แต่เพราะไม่สามารถพาไปโรงพยาบาลหรือพาไปหาหมอดีๆที่ไหนได้เพราะถ้าเขาทำแบบนั้น ทุกๆอย่างจะวกกลับไปยังจุดเริ่มต้นของเรื่อง ซึ่งก็คือแฮรี่ต้องทนถูกทารุณกรรมอีกครั้ง เขาจึงทำได้เพียงแค่ช่วยรักษาเด็กคนนี้ในวิธีแบบของเขา ทุกๆครั้งที่เด็กชายตื่นและร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด เขาทำได้เพียงแค่จับมือเล็กๆนั้นไว้หรือไม่ก็โอบกอดร่างเล็กที่กลายเป็นเนื้อย่างมีชีวิตไว้แนบอก พร่ำบอกคำปลอบโยนเท่าที่จะทำได้และร้องเพลงกล่อมให้เด็กชายหลับ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดทรมานไปมากกว่านี้ ก็แค่หลับไปสักพักจนกว่าเขาจะรักษาเสร็จ ให้เด็กชายหายดีซึ่งมันใช้เวลานานพอสมควร เขาใช้เวลาที่มีอยู่ทั้งหมด ปรุงยา ร่ายเวทมนต์ ทำทุกๆอย่างให้หลานชายหายดีจนร่างที่เคยดำไหม้เริ่มจะเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้างแล้ว ผิวหนังสีดำเริ่มเปลี่ยนเป็นผิวเนื้อสีนวลอย่างที่มันควรจะเป็น ผมสีนิลเริ่มงอกยาวลงมาและดวงตา ยังบอกไม่ได้ว่ามันเป็นเช่นไรเพราะเด็กน้อยยังคงหลับอยู่ แต่อย่างน้อยร่างกายทั้งหมดของเด็กน้อยก็เริ่มจะกลับมาเป็นปกติแล้ว หรืออาจดีกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำเพราะว่าชายหนุ่มนั้นบำรุงรักษาและดูแลอย่างดีราวกับสมบัติล่ำค่า ครันจะใช้คำว่าไข่ในหินก็เกินไปเพราะว่าจากประสบการณ์หลายร้อยหลานพันปีที่ผ่านๆมา ตัวเขานั้นรู้ดีว่าหากเลี้ยงดูเด็กราวกับไข่ในหินล่ะก็ พวกเขาจะต้องมีส่วนที่บกพร่องอย่างแน่นอนซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น การเอาชีวิตรอดในโลกอันแสนโหดร้ายแต่สวยงามแห่งนี้ ก็จะพล่อยยากลำบากสำหรับเด็กเหล่านั้นไปด้วย ไม่ว่าข้อบกพร่องอาจะเป็นความหลงตัวเอง ทำโน้นทำนี่ไม่เป็น กลัวการเข้าสังคม กลัวโน้นกลัวนี่ ฯลฯ ซึ่งมันไม่ค่อยส่งผลดีต่อตัวเด็กสักเท่าไร เขาจึงทำเพียงแค่ดูแลให้ดีๆแต่ก็ไม่ดีจนเกินไป แต่กับเด็กน้อยที่ยังคงหลับอยู่แบบนี้ เขาก็คงต้องดูแลดีกว่าเดิมหน่อย...สุดท้ายก็ปรนนิบัติอย่างดีซะงั้น...

                         ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ที่อยู่ด้วยกันกับเด็กคนนี้สองคน ไม่รู้ว่าเด็กชายจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไร แต่อย่างน้อยแฮรี่ก็ปลอดภัยแล้ว และในตอนนี้ก็อยู่กับเขา ฝ่ามือหนาลูบสัมผัสที่หน้าผากมนอย่างเอ็นดู ถึงแม้ทั่วทั้งตัวของร่างเล็กจะยังมีผ้าพันแผลพันอยู่ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หนาอะไรมาก เขา รู้สึกอยากทำอะไรสักอย่าง...อะไรสักอย่างที่จะช่วยให้ชะตากรรมของแฮรี่เลว ร้ายน้อยกว่านี้...ให้ดีเลยคือไม่มีเรื่องเลวร้ายใดๆเกิดขึ้นกับแฮรี่เลย ยิ่งดี แต่เขาก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้

“อือ~” ร่างตรงหน้าเขาเริ่มขยับตัว เขาไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความเจ็บปวดหรือเพราะแฮรี่กำลังจะตื่นแต่ไม่ว่าจะในกรณีไหนๆมันก็ทำให้ใจของเขากระตุกอยู่เสมอๆ ดวงตาที่ปิดสนิทมาตลอดหลายวันหรืออาจเป็นเดือนเริ่มขยับ ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะเปิดขึ้น เผยให้เห็นดวงตาสีมรกตคู่งามเป็นประกายที่จ้องมองมาที่เขาด้วยความอ่อนล้า ร่างเล็กขยับตัวเหมือนจะลุกขึ้นมานั่งซึ่งเขาก็ช่วยพยุงหลานชายให้ลุกขึ้นมานั่งแล้วนำหมอนมาหนุนหลังให้เด็กชายรู้สึกสบาย เขาหยิบแก้วน้ำมาจรดที่ริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่ดูแห้งผากเพื่อให้เด็กชายได้ดื่มน้ำ เขาค่อยประคองแก้วให้แฮรี่ดื่มน้ำจนคิดว่าเด็กชายน่าจะพอแล้วจึงนำแก้วไปวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงเช่นเดิม

“...” อาจเพราะยังไม่หายดี หรือเส้นเสียงแตกจากการที่แฮรี่กรีดร้องตอนกำลังโดนเผา รวมไปถึงเส้นเสียงยังไม่หายดี ทำให้เวลาเด็กชายพูด กลับไม่มีเสียง มีเพียงริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่ขยับเป็นคำพูด แต่เขาก็พอจะรู้ว่าแฮรี่ต้องการจะสื่อถึงอะไร

“สวัสดี แฮรี่ ฉันชื่อ เช็คเกอร์เฟส เบียอาทริเช่ โซโลม่อน หรือจะเรียกฉันว่า แช็ค ก็ได้นะ” เขาพูดพลางลูบหัวร่างเล็กที่ในคราแรกนั้นตัวเกร็งยามมาเขาสัมผัสก่อนจะค่อยๆผ่อนคลาย ดวงตาสีมรกตดูหวาดกลัวไม่น้อยแต่ความหวาดกลัวนั้นก็เริ่มหายไป เหลือไว้แต่ความสงสัยปนอยากรู้อยากเห็น

“ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะแฮรี่ ฉันจะไม่ยอมให้เธอเจอกับเรื่องโหดร้ายแน่นอน ฉันสัญญา” แช็ค พูดพร้อมกับยิ้มให้แฮรี่ ซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นและจริงใจ รอยยิ้มนั้นปลอบโยนหัวใจที่บอบช้ำและหวดกลัวของเด็กน้อย ความอบอุ่นและรอยยิ้มจริงใจทำให้เด็กน้อยที่ไม่เคยได้รับสิ่งเหล่านี้มาก่อนในชีวิตถึงกับหลั่งน้ำตา

แช็ค เห็นดังนั้นถึงกับอึ้ง ผละไปชั่วครู่ แล้วคว้าร่างของเด็กชายเข้ามากอดปลอบ มือหนาลูบหัวปลอบอย่างทะนุถนอมร่างเล็ก มันยิ่งทำให้แฮรี่ร้องไห้ อาจเพราะความตื้นตันใจหรือความดีใจ แต่ไม่ว่าจะอย่างไหน เขาอยากหยุดช่วงเวลานี้ไว้ ตลอดไป

“จะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะรับเธอเป็นลูกบุญธรรม” แช็ค ถามอย่างไม่ลังเล เพราะว่าเขาได้สัญญากับลูกพี่ลูกน้องของเขาไว้แล้ว ว่าจะดูแลลูกชายแก้วตาดวงใจให้ และการรับเด็กคนนี้เป็นลูกบุญธรรมเป็นวิธี ที่จะทำให้แฮรี่ได้อยู่นี้โดยไม่สนกฎไปสักพัก ถือว่าเป็นการมาพบกันครึ่งทาง เขาจะดูแลแฮรี่จนกว่าเด็กคนนี้จะพร้อมเผชิญกับเรื่องราวอันโหดร้ายและชะตากรรมของเขาจริงๆ

แฮรี่ที่ยังคงซุกอยู่ที่อกของ แช็ค พยักหน้าทั้งน้ำตาด้วยความดีใจ เพราะว่าในที่สุด เขาก็จะมีครอบครัวและเขาเชื่อว่าชายคนนี้ จะต้องทำให้เขาได้พบกับความสุขอย่างแน่นอน

สำหรับ แช็ค การรับแฮรี่เป็นลูกบุญธรรมนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ถึงแม้จะต้องเจอเหล่าผู้อาวุโสหรือน้าๆของเขาคัดค้าน แต่เขาก็สามารถทำได้สำเร็จ ทั่วทั้งราชอาณาจักรต่างรู้เรื่องของแฮรี่ดีและพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ แช็ค ประคบประหงมดูแลแฮรี่อย่างดี รอวันเวลาให้เด็กชายหายดี ในระหว่างนั้น ก็เล่าเรื่องราวของราชอาณาจักรการ์เดียน บ้านใหม่ของแฮรี่ให้เด็กน้อยฟัง ทั้งเรื่องของ กฎหมาย จารีตประเพณี ธรรมเนียม ชื่อเมืองหลวงหรือนครหลวง สกุลเงินซึ่งมีไปก็เท่านั้นเพราะว่าราชอาณาจักรการ์เดียนนั้นไม่จำเป็นต้องมีเงิน สถานที่ตั้ง และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย รวมไปถึงเมืองเรื่องราวของนครนิโคลัสซึ่งเป็นเมืองแห่งเวทมนต์โดยมีแช็คเป็นผู้ปกครองนครแห่งนี้ แต่ถ้าเป็นระดับอาณาจักร เขาเป็นแค่อันดับสองเพราะอันดับหนึ่งนั้นเป็นของน้องชายของเขา กาเบลีย โซโลม่อน

“แฮรี่ ลูกจะให้ ป๊ะป๋าเล่าเรื่องของพอกับแม่แท้ๆของลูกให้ฟังมั้ย?” แช็ค ถาม ในตอนนี้ แฮรี่ก็ยังคงพูดอะไรไม่ได้เพราะเส้นเสียงยังไม่หายดี เด็กน้อยจึงทำได้แค่พยักหน้า ถึงเขาจะรู้สึกหน่วงๆในใจเมืองต้องมาเล่าเรื่องการตายของพ่อแม่แฮรี่ให้ฟัง แต่แฮรี่มีสิทธิจะรับรู้เรื่องพวกนี้

“อืม...จะเริ่มยังไงดีล่ะ งั้นขอเริ่มยาวหน่อยก็แล้วกัน มันเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 2000-4000 ปีก่อน ฉัน พ่อของเธอแบทเลอร์ เบอร์นาดัสพ่อแท้ๆของลูก,แองเจ เบอร์นาดัสน้องสาวของพ่อลูก,ก็อดดิก กริฟฟินดอร์,เฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ,โรวีน่า เรเวนคลอและซัลลาซาร์ สลิธิลิน ช่วยกันสร้างโรงเรียนเวทมนต์ที่ชื่อ ฮอกวอตส์ขึ้นมาโดยให้ ก็อดดิก,เฮลก้า,โรวีน่าและซัลลาซาร์เป็นผู้ก่อตั้งหรือที่คนในโลกเวทมนต์เรียกกันว่า ผู้ก่อตั้งทั้ง 4 ...แต่พวกเขาก็เป็นผู้ก่อตั้งแค่ในนามเท่านั้นเพราะว่าจริงๆแล้วผู้ก่อตั้งมันมี 7 คน แต่ก็นะ ในช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่ชาวการ์เดียนเราต้องหวาดระแวงในหลายๆอย่าง ยิ่งพวกจักรวรรดิโอเดียรู้ว่าเราทำอะไรที่ไหน ที่นั้นได้พินาศแน่ โชคดีที่พวกมันไม่รู้จักทั้งสี่คน พวกเราเลยตกลงกันให้ทั้งสี่คนเป็นผู้ดูแลโลกเวทมนต์ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องสร้างอะไรพวกนี้ เราช่วยกันสร้าง แต่สี่ผู้ก่อตั้งรับหน้าที่ดูแลต่อ และรอเวลาจนกว่าจะถึงวันที่ชาวการ์เดียนมีประเทศเป็นของตัวเองแล้วค่อยมาอพยพผู้คนในโลกเวทมนต์มายังราชอาณาจักรการ์เดียนของพวกเรา จะได้ไม่ต้องซ่อนตัวอยู่ในโลกของมนุษย์ ไม่อยากจะคุย ว่าคนที่สอนทั้งสี่ผู้ก่อตั้งและพ่อของลูกคือ ป๊ะป๋าเองนะ ที่พวกนั้นเก่งเมพได้ขนาดนั้น มันเป็นเพราะ ป๊ะป๋า ก็นะ ครูเก่งยังไง ลูกศิษย์ก็เก่งอย่างนั้น” แช็ค พูดยิ้มๆทำให้แฮรี่เผลอหลุดขำออกมากับความหลงตัวเองของแช็ค แต่แช็ค ก็แค่กะพูดให้แฮรี่ตลกเท่านั้น ถึงมันจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม

“แต่หลังจากเวลาผ่านไป พวกเรามีประเทศเป็นของตัวเองแล้ว แต่อะไรๆมันยังไม่ลงตัวจึงยังไม่สามรถพาพวกในโลกเวทมนต์มาอยู่ที่นี่ได้ แต่พวกเราคิดว่าน่าจะไปเยี่ยมโลกเวทมนต์สักหน่อย พวกเราจึงไปที่โลกเวทมนต์กันแล้วก็พบว่า ผู้ก่อตั้งทั้ง 4 ตายแล้วซึ่งสาเหตุก็มาจากพวกโอเดีย พวกเราทุกๆคนรู้สึกเสียใจแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ หึ พ่อของลูกเล่นพิเรนทร์อะไรไม่รู้ โดยการแอบแฝงเข้าไปเป็นนักเรียนในโรงเรียน ฮอกวอตส์ แล้วก็ได้พบกับแม่ของลูก เจมส์ พอตเตอร์...ในตอนนั้น พวกเขาก่อตั้งแก๊งขึ้นมาในโรงเรียนเพื่อคอยสืบเสาะและรักษาความสงบสุขให้กับโรงเรียน ซึ่งสมาชิกหลักๆก็มีพ่อกับแม่ของลูก,แองเจ,ซีเรียส แบล็ก,รีมัส ลูปิน,เซเวอรัส สเนปและทอม ริดเดิ้ล แต่ ป๊ะป๋าก็ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมากนักหรอกนะเพราะว่า ในช่วงนั้น ป๊ะป๋าไม่ค่อยได้อยู่กับพวกเขาเท่าไร ป๊ะป๋า ต้องทำงานโน้นนี่นั้นเพื่อทำให้เมืองเสร็จสมบูรณ์ แต่เท่าที่จำได้ มันเป็นช่วงเวลาที่สนุกมากๆเลยล่ะ ถือว่าเป็นหนึ่งในความทรงจำแสนสุขก็ได้ อ้อ ถ้าจำไม่ผิดในช่วงนั้น แองเจ พบรักกับ นาร์ซิสซ่า แบล็ก ญาติของซีเรียสด้วยล่ะ อะไรๆก็ดีไปหมด แม่ของลูกเป็นคนดี อาจทำตัว...ประมาณว่าชอบแกล้งคนอื่นเพื่อให้คนๆนั้นสนใจนิดๆหน่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนดีที่จะปกป้องคนที่อ่อนแอกว่า รักเพื่อนฝูง ซึ่งก็เข้ากับพ่อของลูกที่เป็นคนรักเพื่อน รักครอบครัว เชื่อใจคนอื่น ชอบช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่า แต่ข้อเสียของพ่อเธอคงจะเป็นนิสัยชอบลวนลามชาวบ้านเขามากกว่ามั้ง” พอพูดมาถึงจุดนี้ แช็ค ก็หัวเราะออกมาอย่างสุดจะทน ถึงแววตาของเขาจะแสดงออกถึงความเศร้าแต่ในขณะเดียวกันมันก็แสดงถึงความสุขเช่นกัน แฮรี่มองหน้าของ แช็ค ตาปริบๆพลางนึกภาพตามที่แช็ค เล่าให้ฟัง ก่อนจะยิ้มกับสิ่งที่เขาจินตนาการคือภาพพ่อกับแม่เดินหยอกล้อกันในโรงเรียนเหมือนฉากในละครไม่มีผิด แต่พอนึกถึงพ่อกับแม่แล้ว มันทำให้แฮรี่รู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่สุด

“ฮาๆๆ เอาล่ะๆ มาต่อกันนะ ก็ หลังจากที่เรียนจบ พวกเขาก็แต่งงานกันแล้วก็มีลูก ส่วนคู่แองเจกับนาซิสซ่านั้นแย่หน่อย ตรงที่นาซิสซ่าถูกจับคลุมถุงชนให้แต่งงานกับ ลูเซียส มัลฟอย โดยที่ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ แองเจจึงวางแผนพานาซิสซ่าหนีหลังจากนาซิสซ่าคลอดลูกให้กับตระกูลมัลฟอยแล้ว แต่ก็ความคิดนั้นก็ล้มซึ่งมันเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ที่พ่อแม่ของลูกตาย ในตอนนั้นเกิดสงครามขึ้น ระหว่างดาร์กลอดร์โวลเดอร์มอร์หรือก็คือทอม ริดเดิ้ลกับ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ซึ่งพ่อแม่ของลูกอยู่ฝ่ายดาร์กลอดร์และนั้นก็คือเหตุผลที่พวกเขาถูกฆ่า” แช็ค หยุดพูด เขารู้สึกไม่อยากจะพูดต่อแต่เขาก็ต้องบอกออกไปให้หมด ...ความจริงที่แฮรี่สมควรได้รับรู้...แฮรี่ต้องรู้...

“ใน วันนั้น ป๊ะป๋ากำลังจะไปบอกข่าวดีกับแบทเลอร์ว่าอาณาจักรของพวกเราพร้อมที่จะเป็นที่ อยู่อาศัยให้กับทุกๆคนแล้ว แต่สิ่งที่ ป๊ะป๋าพบเมื่อไปถึงบ้านของเจมส์ที่กริมโมลเพสคือ...สุสาน...แก๊งของแบทเลอร์ ที่มาเพื่อพบลูก โดนพวก อัลบัส ดัมเบิลดอร์ เล่นงาน โวลเดอร์มอร์โดนล้างสมองให้ฆ่าลูก แต่มันไม่สามารถทำอะไรสายเลือดของผู้สร้างโลกเวทมนต์ได้ มันจึงทำให้ร่างของดาร์กลอดร์สลายหายไป แต่จิตวิญญาณของเขายังอยู่ และมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เป็น 7 ชิ้นส่วนซึ่งหนึ่งในนั้นอยู่กับลูก” แช็ค พูดพร้อมกับใช้มือสัมผัสที่หน้าผากของแฮรี่ ซึ่งในตอนนี้ไม่ได้เป็นแผลเป็นรูปสายฟ้า หากแต่เป็นแผลเป็นรู้ดาวหกแฉกแทนซึ่งมือเล็กก็จับที่มือของเขาที่สัมผัสอยู่ ที่หัวของเจ้าตัวอย่างรู้ความหมาย

“อะไรๆก็แย่ไปหมด เซเวอรัส โดนล้างสมองและโดนใส่ความทรงจำผิดๆลงไป โดนสารพัดเลยล่ะ ส่วนซีเรียสก็ไม่ต่างกันแต่ต่างกันตรงที่ว่าซีเรียสโดนใส่ร้ายเลยถูกจับเข้าคุกอัซคาบัน ไม่รู้ป่านนี้บ้าไปแล้วหรือยัง แต่ที่แน่ๆเขายังไม่ตายหรอก แต่ที่แย่ที่สุดคงเป็น รีมัสที่ถูกพวกมันจับไปทรมานซึ่งทรมานยังไงนี่ ป๊ะป๋าขอไม่พูดถึงแล้วกัน มันน่าขนลุก” แช็ค พูดพลางหลบสายตาอยากรู้อยากเห็นของแฮรี่ซึ่งเด็กน้อยก็กระโดดขึ้นมานั่งตักแล้วมองด้วยสายตาอ้อนๆ หวังให้ แช็ค พูดออกมาให้หมด แต่เพราะชายหนุ่มเจอมุกนี้จนเริ่มมีภูมิคุ้มกันขึ้นมาบ้างแล้ว

“ฟังเนื้อๆให้จบก่อนนะ น้ำๆเดี๋ยว ป๊ะป๋าอธิบายให้ฟังทีหลัง” แช็ค ใช้วิธีมาพบกันครึ่งทางซึ่งแฮรี่ก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย

“แต่ จากล่าข่าวล่าสุด ดาร์กลอดร์ได้ร่างกลับมาแล้ว และเหมือนมันจะบ้าไปแล้ว ความจริงหลายๆอย่างถูกบิดเบือน...ไม่สิ...มันหายไป แล้วถูกแทนที่ด้วยคำโกหกหลอกลวง โลกเวทมนต์เริ่มเสื่อมทรามลง และมันถึงเวลาที่ผู้มีสายเลือดแห่งผู้สร้างโลกเวทมนต์จะทำหน้าที่ทำลายสิ่ง โสมมแล้วนำพาผู้คนที่เชื่อมั่นศรัทธาเขามายังราชอาณาจักรแห่งนี้ ซึ่งคนๆนั้นก็คือลูก” แช็ค พูดก่อนจะลูบหัวร่างเล็กที่ยังคงนั่งอยู่บนตักของเขา ดวงตาสีมรกตจ้องมองมาที่เขาตาใสแป๋วจนเขาอดหมั่นเขี้ยว หอมฟอดที่แก้มนิ่มๆนั้นแล้วซุกหน้ากับซอกคอหอมนุ่มนิ่มของเด็กน้อยอย่างอ่อน ใจ...เพราะว่าเขาไม่อยากให้แฮรี่ทำเรื่องแบบนี้เลย...

“ป๊ะ ป๋า ขอโทษนะแฮรี่ ทั้งๆที่ ป๊ะป๋าเคยบอกไว้ว่าจะไม่ให้ลูกต้องเจอกับเรื่องโหดร้าย แต่ ป๊ะป๋ากลับกำลังจะส่งลูกไปเจอกับเรื่องโหดร้ายมากมาย ป๊ะป๋าขอโทษนะ” แช็ค พึมพำพลางกระชับอ้อมร่างของแฮรี่เข้ามากอด...แม้กระทั่งผู้ที่มีพลังเช่น เขา...ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงคำนายได้...ไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรม...แต่เขา สามารถช่วยได้ ดังนั้นเขาจะช่วยเด็กคนนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้...

แฮ รี่รับรู้ความคิดทุกๆอย่างของ แช็ค เพียงแค่ได้สัมผัส เขาก็สามารถรู้ทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับชายคนนี้ได้แล้วและเขารู้ว่าชายคนนี้ จริงใจกับเขาและรักเขามากแค่ไหน...ถ้าหากมันคือเรื่องจริง...ถ้าหากมันคือ ชะตากรรมของเขา...เขาก็จะน้อมรับมัน...เพราะว่าไม่มีอะไรต้องกลัว...ก็เขามี ป๊ะป๋า แช็คอยู่ทั้งคน...เขารู้สึกว่าถ้ามีชายคนนี้คอยอยู่เตียงข้าง...ไม่ว่าอะไร จะเกิดขึ้น...เขาก็จะไม่เป็นอะไรทั้งนั้น...และไม่ใช่แค่เขา ที่ถูกชะตากรรมกำหนดมาแล้ว แช็ค เองก็เคยเจอกับเรื่องแบบเดียวกับเขามาแล้ว การต้องเผชิญหน้ากับความตายและทางที่ต้องเลือก ชายหนุ่มได้ผ่านมันมาแล้วพร้อมกับแผลใจ แต่ถ้ามีใครสักคนอยู่เคียงข้าง ทุกๆอย่างก็จะเรียบร้อย

“มะ...ไม่เป็นไร ป๊ะป๋า” เสียงเล็กที่ดังออกมาจากริมฝีปากสีอิ่มทำให้ แช็ค เงยหน้าขึ้นมามองเด็กชาย...แฮรี่พูดได้แล้ว...

“ขอแค่มี ป๊ะป๋า ไม่ว่าชะตากรรมจะเป็นยังไง ผมก็ไม่กลัว” แฮรี่พูดด้วยรอยยิ้มสดใสที่สุดเท่าที่เคยเห็น ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างกับความสดใสของเด็กน้อยตรงหน้าก่อนจะยิ้มแล้วคว้าตัวร่างเล็กมากอดแนบอก

 

 

.

.

.

 

 

 

                       ...เจ้า แห่งศาสตร์มืดจะถูกสร้างขึ้นจากผู้ที่มีความละโมบ...ความเสื่อมโทรมจะมา เยือนโลกเวทมนต์อย่างเลี่ยงไม่ได้...ผู้คนจะจมลงสู้ความเสื่อมถอย และเมื่อถึงตอนนั้น...ผู้ที่มีสายเลือดแห่งผู้สร้างโลกเวทมนต์จะปรากฏตัว ขึ้น...เขาจะเป็นจ้าวแห่งเวทมนต์และพระเจ้าของเหล่าผู้วิเศษ...ผู้ที่มีความ ศรัทธาในตัวเขาและไร้อคติจะมองเห็นรูปกายที่แท้จริงของเขาและได้รับความช่วย เหลือ...พวกเขาจะไม่สูญเสียเวทมนต์ และได้เดินทางไปยังดินแดนที่เป็นดั่งสรวงสวรรค์...มีแค่ผู้ถูกเลือกเท่านั้น ที่จะได้รับพรจากจ้าวแห่งเวทมนต์...ส่วนพวกที่เหลือจะต้องได้รับบทลงโทษ... พวกเขาจะไร้เวทมนต์...พวกเขาจะแก่ชรา...พวกเขาจะ พิกาลและถูกขับไล่ออกจากดินแดนแห่งเวทมนต์ดั่ง อดัมกับอีฟที่ถูกขับไล่จากสวนแห่งอีเดน...เมื่อถึงการนั้น...โลกเวทมนต์จะ ล่มสลาย...และวาระสุดท้ายของโลกเวทมนต์ อยู่ในมือจ้าวแห่งเวทมนต์...

 

.

.

.

 

 

...คำทำนายนี้ อาจหมายถึงแฮรี่ หรือ แช็ค แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร...สิ่งสุดท้ายจะต้องเกิดขึ้น... ...โลกเวทมนต์จะต้องล่มสลาย...

 

 

 

 

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

 

 

 

TBC.  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา