บังเอิญรัก

8.0

เขียนโดย Necha

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.21 น.

  17 ตอน
  3 วิจารณ์
  20.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 13.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) บังเอิญ...ง้อ(2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ไม่มีสิทธิ์ !

เธอบอกว่าเขาไม่มีสิทธิ์

นั่นสินะ เธอไม่เคยพูดหรือรับปากสักคำว่ายอมคบ

เป็นแค่คนแปลกหน้าที่บังเอิญได้ใกล้ชิด...เหมือนของเล่น พอเบื่อก็ทิ้ง สักวันเขาก็คงไม่ต่างกัน

แต่...อย่างน้อยเธอก็น่าจะมีใจหรือหวั่นไหวบ้างแหละนา ไม่งั้นเขาคงไม่ได้แตะต้องเธออีก ที่แน่ๆ เธอจูบตอบทุกครั้งด้วยซ้ำ !

จะเอาไงดี ? ทำให้ท้องเลยดีไหม จะได้ไม่โดนทิ้ง...

เมื่อกี้ดันงอน เอ๊ย น้อยใจ เดินหนีมาแบบนี้ ถ้า...ถ้าเกิดพิชไม่ง้อ จะทำไงดีล่ะ !? โธ่เอ๊ย ไอ้บ้าซาน หน้าด้านหน้าทนมาตั้งหลายเรื่อง กะอีแค่เรื่องขี้ปะติ้วก็ไม่รู้จักรอบคอบ ฮึ่ย !

กวินมัวแต่โวยวายในใจจนลืมสังเกตว่าคนมายืนข้างหลัง จนสองมือโอบกอดพร้อมใบหน้าแนบแผ่นหลัง ชายหนุ่มรู้ว่าเจ้าของอ้อมกอดคือใคร เธอกอดเขาพร้อมกับโยกตัวไปมาคล้ายปลอบเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้โย้เย้

แต่เขาไม่ใช่เด็ก...ไม่ได้ร้องไห้ด้วย

อยากจะโมโหแต่แบบนี้...อุ่นดี เขาชอบ

“ผมเป็นห่วงตอนที่โทรหาแล้วคุณไม่รับ พอไปที่ทำงานเขาก็บอกคุณไม่อยู่ จะไปหาที่บ้าน ผมก็ไม่รู้จัก...กังวลสารพัด กลัวว่าจะเกิดอะไรกับคุณ แต่พอมาเจอคุณนั่งดื่มเหล้าสบายใจในขณะที่ผมกระวนกระวาย มันทำให้ผม...ผมไม่มีสิทธิ์โกรธคุณ ผมรู้...แต่ผมแค่น้อยใจ ความสัมพันธ์ของเราเริ่มแบบแปลกๆ ก็จริงเวลาที่รู้จักกันก็ไม่นาน แต่ผมก็ชอบคุณ ! อย่าถามว่าทำไม ผมก็ตอบไม่ได้ คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นเพราะเซ็กส์...ใช่ ! ส่วนหนึ่งมันเริ่มจากตรงนั้น แต่ถึงยังไงความรู้สึกตอนนี้คือ ผมชอบคุณมาก อยากจะอยู่ใกล้ๆ และดูแลคุณ...”

“...”

“...ผมเคยคิดว่าคุณก็รู้สึกไม่ต่างกัน แต่บางที...ผมอาจจะคิดผิด”

กวินพูดหลังจากที่ทั้งสองยืนเงียบมาสักพัก น้ำเสียงสั่นแบบคนที่พยายามกลั้นความรู้สึกทำเอาหัวใจคนฟังปวดหนึบตาม เธอไม่ได้อยากให้เขารู้สึกแบบนี้ แต่เพราะความเคยชินของคนที่ไม่เคยมีความรัก เลยวางตัวไม่ถูก

การเป็นคนที่ถูกรักคือแบบนี้สินะ

พิชชาดันชายหนุ่มให้หันหลังติดผนัง มือบางเอื้อมมาลูบใบหน้าเบาๆ สบตาคู่คมที่ฉายแววเจ็บปวด เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะซบอก จับมือบังคับให้เขากอด

“คุณดูออกใช่ไหม ว่าฉันเป็นคนยังไง”

“...”

“ฉันเป็นพวกปากหนัก แต่ไม่ชอบโกหก สงสัยให้ถาม...ชอบทำให้เห็นมากกว่าพูด อีกอย่างที่คุณควรรู้ไว้...ฉันไม่เคยมีคนรัก รู้ใช่ไหมว่าความหมายว่าไง”

“อืม”

 “ถ้าฉันไม่รู้สึกอะไร...คุณคงไม่มีทางได้แตะต้องฉันหรอกนะ คุณควรจะเข้าข้างตัวเองไว้มากๆ เพราะถ้ารอให้ฉันพูด คงอีกนาน J”

“หึๆ แล้วตกลงเรา...” พูดยังไม่ทันจบเสียงเรียกชื่อพิชชาก็ดังขึ้น พิชชาดันกวินไปข้างๆ เพื่อหลบสายตาจากคนเรียก เธอมองใบหน้าบึ้งตึงด้วยความขัดใจที่มีคนมาขัดจังหวะสำคัญอย่างขำๆ ยิ้มหวานให้แถมท้ายจุ๊บปากเบาๆ

“เดี๋ยวค่อยคุยกัน”

 

“มีอะไรเหรอ ? พี่บาส”

“ไปร้องเพลงกัน นานๆ ทีจะอยู่พร้อมกัน ชิดกับพี่โชกำลังเตรียมตัว ปะ”

“แล้วจะร้องเพลงอะไร” บาสไม่ตอบแต่เหลือบไปมองด้านหลัง ทำตาเจ้าเล่ห์ใส่

“สองแฝดรู้ไหม”

“อะไร”

“อย่ามาทำเนียน เห็นนะว่ากอดใคร หึๆ คบกันนานยัง” พิชชาถอนหายใจ ยอมจำนน

“ก็ดูๆ กันอยู่ พี่อย่าบอกใครนะโดยเฉพาะเฮียแฝด เอาไว้พร้อมเมื่อไรเดี๋ยวบอกเอง” พี่บาสถึงจะชอบปากเสียแต่ไม่ใช่คนปากโป้ง พิชชาก็เลยไม่ต้องกังวลมากนัก แต่...

“ได้สิ สำหรับพิชชี่ พี่บาสเต็มใจทำให้แต่ต้องมีค่าปิดปากนะจ้ะคนสวย”

=_=; นั่นแหละที่เธอไม่อยากได้ยิน พี่แกยิ่งมีความคิดแสนจะสร้างสรรค์เหลือเกินในการแกล้งน้อง

“เอาอะไร”

“ไม่มากหรอกจ้ะน้องรัก ไหนๆ ก็กำลังมีความรัก งั้นคืนนี้เปลี่ยนมาร้องเพลงรักล่ะกันนะ เอาซึ้งๆ หวานๆ ให้มดไต่ไปข้างเลย”

พิชชาได้แต่กรอกตาไปมา ไม่บ่อยนักที่เธอจะร้องเพลงรัก ส่วนใหญ่เธอชอบเพลงอกหักมากกว่า ไม่ได้อินแต่ชอบเนื้อเพลงแนวนี้มากกว่า

เฮ้อ เอาก็เอาวะ

 

*เธอรู้อะไรบ้างไหม ทุกครั้งเวลาที่เธอเดินเข้ามาใกล้ ๆ เหมือนหัวใจฉันจะหลุด เหมือนเวลาหยุดเดินจากนี้ไป

เธอรู้อะไรบ้างไหม ทุกครั้งที่เราใกล้กันฉันก็ลืมว่าหายใจ เหมือนอะไรที่เป็นอยู่ บนโลกที่มีอยู่ก็ดูว่าหายไป

จากหนึ่งคนที่เคว้งคว้างอยู่ในโลกที่อ้างว้าง แค่มีเธอข้างๆ ความเหงาเลือนลางและจางหายไปทุกที

ช่วยอยู่ตรงนี้นานๆ ได้ไหม ขอให้เธอเข้าใจว่าชอบเวลาที่เราได้ใกล้กัน เมื่อระยะมันได้ เหมือนมันได้ ใกล้เธอทีไรหัวใจมันสั่น

โปรดอยู่ตรงนี้นานๆ อีกนิดในระยะประชิด อีกนิดให้ใจเรานั้นได้ตรงกัน แค่เรานั้นได้ใกล้ให้มันได้เป็นช่วงเวลาของเธอกับฉัน

 

กวินมองผู้หญิงที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะได้ทุกครั้งกำลังร้องเพลงอย่างสนุกสนานบนเวทีข้างล่าง บางครั้งเธอจะเงยหน้ามาสบตากับเขาและทำท่าทางทะเล้นจนเขาต้องยิ้มออกมา พิชชาทำให้เขาเกิดความรู้สึกใหม่ๆ ได้แทบทุกครั้ง ยิ่งได้รู้ว่าเขาคือจูบแรกถึงจะตอนเธอเมาก็เถอะ เหตุการณ์ในวันนั้นเขาลืมไปแล้วแต่พอจำความรู้สึกของจูบในครั้งนั้นได้ วินาทีที่ถูกประชิดตัวและริมฝีปากบางประทับลงมา จูบที่ไม่ประสีประสาขบจนเรียกเลือดที่มุมปากผสมกับรสชาติของเหล้าจนเขาต้องเป็นฝ่ายรุกแทน เหมือนมีประจุไฟฟ้าแล่นผ่านร่าง ปฏิกิริยารวมทั้งแรงดึงดูดระหว่างพวกเขารุนแรงเสมอ ต่างฝ่ายต่างมีความต้องการกันและกัน...มากขึ้น มากขึ้น

หัวใจเขาอุ่นวาบเมื่อหญิงสาวส่งสัญญาณให้เขาตั้งใจฟังเพลงสุดท้ายคล้ายจะสื่อบอกว่า นั่นคือเพลงของเขา !

 

**Oh, hey, oh

Baby, baby, are  you  listening ? Wondering  where  you’ve  been  al l my  life I  just  started  living Oh,  baby, are  you  listening ?

(ที่รัก คุณกำลังฟังฉันอยู่หรือเปล่า ฉันสงสัยว่า ตลอดชีวิตของฉันที่ผ่านมา คุณไปอยู่ที่ไหน ฉันเพิ่งได้เริ่มใช้ชีวิต โอ้ ที่รัก คุณกำลังฟังฉันอยู่หรือเปล่า)

When  you  say  you  love  me Know  I  love  you  more And  when  you  say  you  need  me Know  I  need  you  more Boy,  I  adore  you,  I  adore  you

 (ทุกครั้งที่คุณบอกรักฉัน รู้บ้างไหม ว่าฉันรักคุณยิ่งกว่า และทุกครั้งที่คุณพูดว่าต้องการฉัน รู้บ้างไหม ว่าฉันต้องการคุณยิ่งกว่า ที่รัก ฉันชอบคุณ ชอบคุณมาก)

Baby,  can  you  hear  me ? When  I’m  crying  out  for  you I’m  scared  oh,  so  scared But  when  you’re  near  me I  feel  like  I’m  standing  with  an  army Of  men  armed  with  weapons,  hey,  oh

(ที่รัก คุณได้ยินฉันไหม ทุกครั้งที่ฉันกำลังร้องไห้หาคุณ ฉันรู้สึกกลัว กลัวเหลือเกิน แต่เวลาที่คุณมาอยู่ใกล้ฉัน ฉันรู้สึกเหมือน ฉันมีกองกำลังติดอาวุธอยู่ข้าง ๆ)

When  you  say  you  love  me Know  I  love  you  more And  when  you  say  you  need  me Know  I  need  you  more Boy, I adore you, I adore you

 (ทุกครั้งที่คุณบอกรักฉัน รู้บ้างไหม ว่าฉันรักคุณยิ่งกว่า และทุกครั้งที่คุณพูดว่าต้องการฉัน รู้บ้างไหม ว่าฉันต้องการคุณยิ่งกว่า ที่รัก ฉันชอบคุณ ชอบคุณมาก)

I love lying next to you I could do this for eternity You and me—we’re meant to be In holy matrimony God knew exactly what he was doing When he led me to you

 (ฉันชอบที่จะนอนอยู่ข้าง ๆ คุณ ฉันสามารถทำอย่างนี้ได้ชั่วนิจนิรันดร์ คุณและฉัน เราเกิดมาเพื่อกันและกัน ในงานแต่งงานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าทรงรู้แน่ ว่าพระองค์กำลังทำอะไรอยู่ เมื่อพระองค์นำฉันมาเจอคุณ)

When you say you love me Know I love you more (I love you more) And when you say you need me Know I need you more Boy, I adore you, I adore you

 (ทุกครั้งที่คุณบอกรักฉัน รู้บ้างไหม ว่าฉันรักคุณยิ่งกว่า (ฉันรักคุณยิ่งกว่า) และทุกครั้งที่คุณพูดว่าต้องการฉัน รู้บ้างไหม ว่าฉันต้องการคุณยิ่งกว่า ที่รัก ฉันชอบคุณ ชอบคุณมาก)

 

วินาทีนี้เขาบอกตัวเอง...เขาจะไม่ปล่อยมือจากผู้หญิงคนนี้ ! ไม่อย่างแน่นอน !

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา