ฉันรักนาย คังวอน! (Yaoi ย้อนยุค)

9.0

เขียนโดย Oiran

วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.44 น.

  3 ตอน
  2 วิจารณ์
  9,209 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 21.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) โชซอนใหม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

อย่าใต้เท้า! คังวอนปัดป้องมือของโตชิ ราชองครักษ์ที่กำลังลูบไล้ไปทั่วซึ่งมือข้างหนึ่งเค้นคลึงอยู่

ที่ก้นอันเนียนนุ่มของคังวอนที่ตอนนี้เกร็งด้วยความเสียวสะท้าน

 

"ทำไมล่ะ? ข้ารู้หรอกนะว่าเจ้าชอบแบบนี้" พูดไม่พอโตชิซุกไซ้ไปที่ลำคอของคังวอนอย่างหื่น

กระหาย จนคังวอนหายใจหอบกระเส่า

 

"ข้าเป็นของฝ่าบาทแล้ว!" คังวอนโพลงออกมาเสียงดัง โตชิชะงักไปครู่หนึ่ง

"นี่เจ้าว่าอย่างไนะ?"

โตชิจับบ่าทั้งสองของคังวอนพร้อมกับจ้องหน้า ทำราวกับว่าคำพูดเมื่อครู่จะเป็นแจ้งข่าวการตาย

ของบิดา

คังวอนได้แต่หลบสายตา

"ข้าเป็นของฝ่าบาทแล้ว...เร็วๆนี้จะทรงให้คนมาพาข้าเข้าวัง" คังวอนอ้อมแอ้ม คำพูดดังกล่าว

ทำเอาโตชิทรุดลงนั่งไปกองกับพื้น

"ไม่จริงๆ แผ่นดินนี้มีคนตั้งมากมายทำไมต้องเป็นเจ้า?"

ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งคู่และปล่อยให้รัตติกาลกลืนกินพวกเขาไป

 

อาณาจักรโชซอนใหม่ ปีที่ CXII ราชวงค์ลีปกครองประเทศนี้มาได้อย่างมั่นคง ปีนั้นเป็นปีที่ III

แห่งพระเจ้าจองเย กษัตริย์ลำดับที่ VI ยุวราชาพระพรรษษา 17 พรรษาพระองค์เป็นพระราชาที่รูป

งาม ไปหน้ารูปไข่ได้รูปริมฝีปากบางเป็นสีชาด จมูกโด่งคิ้วเข้มคม พระองค์สืบราชสมบัติต่อจาก

พระราชบิดาของพระองค์พระเจ้า จองฮุน พระราชบิดาของพระองค์ทรงตรากตรำมามากเพื่อสร้าง

ปึกแผ่นให้กับโชซอนใหม่ จัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ปราบกบฎและกลุ่มขุนนางที่กระด้าง

กระเดื่องต่อพระองค์ ยังผลให้รัชสมัยพระโอรสของพระองค์มีแต่ความสุขสงบ ศิลปวิทยา ไพร่ฟ้ามี

ความสุข

 

ณ. วังหลวง.

 

"ข้า เบื่ออออ"

 

"ฝ่าบาทยังต้องไปทรงอักษรต่อนะพะย่ะคะ จะทรงออกนอกวังตอนนี้ไม่ได้นะพะย่ะคะ" ขันทีนัม

ขันทีคนสนิททัดทาน

 

"ข้าไม่สน ข้า จะ ไป ใครจะทำอะไรข้าได้?"ฝ่าบาทยียวน

 

"ในเมื่อพระพันปี กับเหล่าขุนนางพวกนั้นก็ทำหน้าที่แทนข้าอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องมีข้าอยู่เลย

ข้าไปเล่นสนุกดีกว่า วันนี้จะไปตลาดด้านตะวันตก"

 

"ตลาดตะวันตก? ไม่ได้นะพะยะค่ะ! แถวนั้นเป็นย่านเริงรมย์อโคจรสถาน ฝ่าบาทไม่ควรไปปรากฎ

องค์แถวนั้นนะพะยะค่ะ"พูดไม่ทันจบพระราชาก็เดินไปไกลแล้ว.

 

ตลาดตะวันตก.

 

โอ้ย!.... คังวอน! นี่เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร? เจ้าถึงจะยอมพบใต้เท้านิมฮง ท่านน่ะมาพบเจ้าแทบ

จะทุกวันแต่เจ้าก็ปฎิเสธท่านไปทุกครั้ง แบบนี้จะให้ข้าทำอย่างไร? กิจการของข้าไม่ล่มจมเพราะ

เจ้าหรอกรึ?

 

นายหญิงแห่งสำนักกิเซงบัวขาวมาคุกเข่าอ้อนวอน เบื้องหน้านางเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มผมดำ

เป็นเงางาม ปล่อยตามธรรมชาติ เขาแต่งกายด้วยอาภรณ์แปลกตากรุยกรายด้วยผ้าหลายชิ้น บาง

ชิ้นหลุดเลื่อนเผยให้เห็นผิวขาวผุดขาดราวหิมะชวนให้สเน่ห์หา

 

"ข้าไม่สนใจตาเฒ่าตัญหากลับนั่นหรอก แก่คราวปู่ข้าได้แล้วมั้ง เชิญท่านไปบอกตาเฒ่านั่นเถอะว่า

ข้าไม่สบาย อ้อ! อีกอย่างท่านก็มีคนอื่นตั้งมากมายนี่เรียกไปรับใช้ตาเฒ่านั่นสักคนเถอะ ข้าเชื่อว่า

แก่ๆแบบนั้น คงทำ'ไม่นาน' หรอก" คังวอนพูดเสร็จก็หัวเราะคิกคัก

 

"โอ้ย!... ข้าน่ะเหนื่อยใจกับเจ้านัก นี่เจ้าถือว่าเป็นคนดังสินะ! ถึงได้ไม่เห็นหัวใคร นี่ถ้าหากแม่เจ้า

พี่สาวข้า ไม่ฝากฝังเจ้าไว้กับข้าล่ะก็ป่านนี้ล่ะก็เจ้าคงถูกขายเป็นทาสไปแล้ว!"

 

นายหญิงนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง วางแขนข้างเดียวกันบนเข่าข้างที่ชันขึ้นมา ท่านี้เป็นท่านั่งมาตราฐาน

ของหญิงสมัยนั้น นางได้แต่ตัดพ้อหลานชายของนาง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อย่างเคย

 

สำนักกิเซงของนางมีหญิงงามมากมาย แต่ที่ทำให้โดดเด่นกว่าที่อื่นนั่นก็เป็นเพราะมี กิเซงที่เป็น

ชาย เรียกได้ว่าคนเดียวในโชซอนใหม่เลยก็ว่าได้ เขาทั้งรูปงาม เฉลียวฉลาด เจนจัดกวีกลอน

ดนตรี ระบำ รวมทั้งหมากล้อม ความสามารถรอบด้านจนเป็นที่เลื่องลือ พร้อมทั้งข่าวลือเรื่องบท

สิเนหาอันเย้ายวน จนใครๆต่อใครก็หมายปอง

 

ครั้งหนึ่งเคยมีขุนนางเฒ่าผู้หนึ่งมาเยือนสำนักกิเซงบัวขาวและเรียกหาตัวคังวอนไปปรนนิบัติ คัง

วอนก็จัดการต้อนรับขุนนางผู้นั้น จน"เสร็จสม"ไปหลายคำรบโดยที่คังวอนไม่ได้เปลื้องผ้าออกเลย

สักชิ้น บทสิเนหาคราวนั้นลือกันว่าพิศดารจนยากที่จะจินตนาการ รู้แต่เพียงว่า คังวอนเรียกหา

เชือก เทียนไข และแส้เฆี่ยนม้าก่อนที่จะรับรองขุนนางท่านนั้น แต่นั้นเองที่ชื่อเสียงของเขาจึงโด่งดัง

ไปทั้งโชซอนใหม่ แต่จะว่าโด่งดังก็โด่งดังแบบเป็นการลับ ลูกค้าส่วนมากเป็นขุนนางที่ล้วนแต่ต้อง

ปิดบังรสนิยมอันพิศดารของตนไว้ ไม่ใคร่เปิดเผยให้ผู้ใดล่วงรู้ และด้วยค่าตัวคังวอนก็ยังสูงลิบ

คนธรรมดาไม่มีทางจ่ายเงินขนาดนั้นได้. 

 

 __________

 

 

"ฝ่าบาทหายไปไหนแล้ว?"

 

 

"ข้าเองก็ไม่รู้ เราช่วยกันตามหาเถอะใต้เท้า" ขันทีนัมกล่าวกับราชองครักษ์ โตชิ.

 

 

หลังจากที่พระราชาออกจากวัง ขันทีนัมจึงส่งคนให้ไปบอกหัวหน้าราชองครักษ์ เพื่อให้ตามไป

อารักขาพระราชา แต่ว่าคลาดกับพระราชาไปกับฝูงชนในตลาด

ตลาดตะวันตกเป็นย่านเริงรมย์ของโชซอนใหม่ โชซอนเก่านั้นล่มสลายไปนานแล้ว สกุล ลี เป็นผู้

กอบกู้ประเทศและสถาปนาอาณาจักรใหม่ขึ้นมา แต่ยังตั้งชื่อให้เป็นเกียรติกับอาณาจักรเดิม โช

ซอนใหม่นี้ เป็นประเทศแห่งความสุดขั้ว กล่าวคือกฎระเบียบของสังคมนั้นเปิดกว้างอย่างที่สุด ชาว

บ้านจะทำการใดก็ได้ตราบเท่าที่ไม่ผิดกฎหมาย จึงมีปรากฎทั่วโรงบ่อน ซ่องนางโลม โรงฝิ่น การ

ค้ากับต่างชาติมากมาย มีเรือแขกแปลกภาษามาจอดเทียบท่าค้าขายให้คึกคัก ชิวิตชาวบ้านโดย

ทั่วไปมีสุขเสรี

 

ส่วนอีกขั้วหนึ่งเป็นชีวิตอันเต็มไปด้วยกฎระเบียบข้อบังคับและเต็มไปด้วยสิ่งที่เรียกว่าความเป็น

อนุรักษ์นิยม ซึ่งนั่นก็คือชีวิตในวังหลวง ที่ได้จำลองรูปแบบมาจากอาณาจักโชซอนที่ล่มสลาย

เพราะคนในวังต่างคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือคุณค่าที่ต้องรักษาไว้เป็นรากฐาน แต่ที่น่าแปลกคือความสุด

ขั้วทั้งสองนี่กับสอดประสานเข้าด้วยกันภายใต้บริบทของสังคม ที่เรียกว่าโชซอนใหม่ได้อย่าง

ลงตัว...

 

 

ขอขอบคุณที่ติดตาม อ่านแล้วชอบไม่ชอบอย่างไรก็ฝากความคิดเห็นไว้ได้นะครับ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา