"Yes, I do" ปาฏิหาริย์ครั้งสุดท้าย

8.9

เขียนโดย January13

วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.54 น.

  37 ตอน
  25 วิจารณ์
  37.14K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562 20.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ชายแก่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     หลังจากลองชุดเสร็จ ทางร้านเวดดิ้งพาเคนอิจิและอริสา ไปดูโบสถ์ที่จะใช้เป็นสถานที่จัดงาน เนื่องจากทางบ้านของเคนอิจินับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก พวกเขาจึงตกลงกันว่าจะจัดพิธีวิวาห์แบบคริสต์ แต่ทางบ้านของเคนอิจิไม่ได้เคร่งนัก อริสาจึงไม่ต้องทำพิธีเปลี่ยนศาสนา                

     ในจังหวัดนางาซากิมีโบสถ์ที่สำคัญๆ อยู่สองแห่งคือ โบสถ์คาทอลิกโออุระ และ โบสถ์อุราคามิ ซึ่งทั้งสองแห่งมีประวัติความเป็นมาและความงดงานทางด้านสถาปัตยกรรมไม้แพ้กัน

     “โบสถ์คาทอลิกโออุระ เป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างเสร็จเมื่อปี 1865 จากโบสถ์นี้มีทางเดินเชื่อมขึ้นไปยังสวนโกลฟเวอร์ด้วยคะ” พนักงานจากร้านเวดดิ้งอธิบาย ขณะพาเคนอิจิและอริสาเดินชมภายในโบสถ์ หน้าต่างประดับด้วยภาพกระจกหลากสีตัดกับผนังสีครีม และเก้าอี้ไม้โอ๊คสีน้ำตาลเข้มที่เรียงเป็นระเบียบอยู่ระหว่างพรมสีเขียว

     “อริสจังว่ายังไง ชอบไหม” แฟนหนุ่มกล่าวถาม

     “อืม...ก็ชอบนะคะ ดูโรแมนติกมากๆเลย เคนจังหละชอบไหม” เธอหันมาถามคนรักกลับ

     “ถ้าอริสจังชอบ ผมก็ชอบครับ” เขาตอบเสียงเล็กเสียงน้อย ทำเอาอริสาอดยิ้มไม่ได้เขามักตามใจเธอทุกเรื่องเสมอ

     “ไม่ต้องรีบตัดสินใจก็ได้คะ เดี๋ยวเราไปดูโบสถ์อุราคามิกันก่อน มันอยู่ในโปรแกรมวันนี้หน่ะค่ะ” พนักงานแนะนำ ก่อนพาพวกเขาออกเดินทาง

     รถตู้ของร้านเวดดิ้งขับเข้ามาจอดใต้ต้นไม้บริเวณข้างๆ โบสถ์  ทันทีที่ก้าวลงจากรถอริสารู้สึกเหมือนลมเย็นวูบหนึ่งพัดผ่านเธอไป ความรู้สึกแปลกๆ ผุดขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ

     “อริสจังเป็นอะไรหรือเปล่า” เคนอิจิหันมาถาม หลังจากเห็นแฟนสาวยืนนิ่งอยู่สักพักหนึ่ง

     “อะ...อ๋อ เปล่าคะ ไม่เป็นอะไร” เธอตอบ

     “เชิญทางนี้ค่ะ” พนักงานที่เดินนำหน้าเรียก พร้อมผายมือบอกทาง

     “โบสถ์อุราคามิ หรือโบสถ์เซนต์แมรี มีสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิคที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นคะ สร้างเสร็จครั้งแรกในปีค.ศ.1925 แต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อประมาณหกสิบกว่าปีที่แล้ว พังทลายลงหมด เพราะอยู่ห่างจากจุดที่ระเบิดปรมาณูตกลงไม่กี่สิบเมตร ทำให้กำแพงโบสถ์พังพินาศ กระจกสีแตกละเอียด แท่นบูชาและระฆังก็ถูกไฟหลอมจนละลาย หลังปัจจุบันนี้สร้างขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ.1959 คะ ห่างจากสวนสันติภาพไปแค่ 400เมตร” พนักงานเล่าประวัติขณะพาคู่รักเดินผ่านเข้าประตูโค้งใหญ่ สีขาว ศิลปะแบบโรมัน พรมสีแดงทอดยาวจากหน้าประตูสู่แท่นพิธีเบื้องหน้า

     “นี่คืออะไรหรอกคะ” อริสาเอ่ยถามพนักงาน เมื่อเห็นรูปสลักผู้หญิงดวงตาเป็นหลุมดำ แก้มขวามีรอยไหม้เกรียม และบนในหน้ามีรอยแยกที่ดูราวกับน้ำตากำลังไหลลงอาบแก้ม

     “อ๋อ นี่คือส่วนศีรษะของรูปสลักพระแม่มารี ซึ่งทำจากไม้แต่รอดจากการทิ้งระเบิดครั้งนั้นได้อย่างปาฏิหาริย์ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่ารูปสลักมาดอนน่าคะ” พนักงานอธิบาย อริสาพยักหน้าหงึกๆ...ที่นี่น่ากลัวยังไงชอบกล...เธอคิด

     “เคนจัง เดินดูไปก่อนนะ อยู่ในนี้ฉันรู้สึกหายใจค่อยออก ขอตัวออกไปรอข้างนอกนะคะ” เธอหันไปบอกกับแฟนหนุ่ม

     “ครับที่รัก” พูดแล้วก็คลายมือที่กุมคนรักไว้

     อริสาออกมาจากโบสถ์ได้ก็สูดอากาศเข้าลึกๆ ก่อนผ่อนลมหายใจออกมาอย่างแรง

     “เธอน่ะ กำลังจะแต่งงานสิ ใช่ไหม” เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น อริสามองหาต้นเสียง พบชายแก่แปลกหน้าแต่งกายคล้ายนักบวชยืนเหม่อมองท้องฟ้า อยู่เบื้องหลัง

     “เอ่อ...คุณพูดกับฉันหรอค่ะ” เธอถามหลังจากหันซ้ายหันขวาไม่เห็นใครอยู่บริเวณนั้น ชายแก่ไม่พูดแต่พยักหน้าตอบ

     “ใช่ค่ะกำลังจะแต่งงานช่วงกลางเดือน วันนี้มาดูโบสถ์สำหรับจัดพิธีหน่ะคะ” อริสาตอบ เธอคิดว่าเขาคงเป็นบาทหลวง

     “เธอเชื่อเรื่องเนื้อคู่ไหม” เขาถามเสียงเรียบ

     “คุณพ่อรับดูดวงหรอคะ” อริสาถามอย่างซื่อๆ

     “หึหึหึ...เธออยากดูไหมหละ” เขาถามต่อ เธอกำลังจะปฏิเสธ ชายแก่คนนั้นก็พูดสวนขึ้นมา

     “คนรักของเธอ...ไม่ใช่คนที่เกิดมาเพื่อเธอหรอกนะ หรือจะพูดให้ถูกก็คือเธอไม่ได้เกิดมาเพื่อเขา ถึงยังไงก็ไม่มีทางได้ครองรักกัน... เนื้อคู่ของเธอน่ะ...เขายังวนเวียนอยู่ในภพภูมิของคนตาย” สิ้นสุดประโยค อริสาถึงกับอึ้งพูดไม่ออกเธอก้าวเท้าถอยอย่างไม่ทันระวัง หลังจึงชนเข้ากับแผ่นอกกว้าง

     “อริสจัง เป็นอะไรหรือเปล่า” เคนอิจิถามอย่างเป็นห่วง มือสองข้างประคองไหล่แฟนสาวไว้

     “เอ่อ..ไม่เป็นไรคะ เคนจังดูเสร็จแล้วหรอ” เธอหันกลับมาถาม

     “ครับ อริสจังคุยกับใครอยู่หรอ”

     “กับ....” อริสาหันกลับมาก็พบว่าชายแก่แปลกหน้าคนนั้นหายไปแล้ว คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความฉงน

     “ว่ายังไงคะ ทั้งสองท่านตัดสินใจได้หรือยังว่าจะเลือกโบสถ์ไหน” พนักงานร้านเวดดิ้งเดินตามออกมาที่หลังถามแทรกขึ้น

     “เอ่อ อริสจัง ว่ายังไงครับ” เคนอิจิถาม เขาสังเกตอาการแปลกๆ ของคนรักได้อย่างชัดเจน

     “ฉันว่า...ฉันเลือกโบสถ์แรกดีกว่าค่ะ ใกล้โรงแรมที่พักอยู่มากกว่า” เธอตอบ ที่เลือกเช่นนั้นก็เพราะรู้สึกว่าโบสถ์นี้มีอะไรแปลกๆ

     “ครับ ถ้าอย่างนั้นก็ผมก็เลือกโบสถ์แรก”  แฟนหนุ่มเห็นด้วย พนักงานได้ยินดังนั้นก็พยักหน้ารับพร้อมบันทึกข้อมูลลงแท็บเล็ต ก่อนจะพากันเดินทางกลับ อริสานั่งใจลอยตลอดทางเคนอิจิที่นั่งข้างๆ เหลียวมองอย่างเป็นห่วง เขาจับมือเธอมาลูบเบาๆ อริสาหันมายิ้มให้แล้วซบลงบนแผ่นอกกว้างที่คุ้นเคย...ชายแก่คนนั้นเป็นใครกัน พูดจาประหลาดๆ แบบนั้น เขาต้องการอะไรนะ!?...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา