Blood Moon รัติกาลใหม่

8.8

เขียนโดย undeathgirl

วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.29 น.

  2 บท
  3 วิจารณ์
  5,921 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) จริงๆแล้ว...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     เคร้งๆ  เสียงโลหะกระทบกันดังแว่วขึ้นในโสทประสาท  ปลุกให้ร่างอันหลับใหลตื่นขึ้นมาหลังจากนิทราไปเนิ่นนาน  แพขนตางอนค่อยๆปรือขึ้นอย่างแช่มช้าพร้อมกับร่างอ่อนล้าที่พยายามลุกขึ้น  ในยามนี้  เพียงผ้าห่มบางๆก็ดูจะแสนหนักหนายิ่ง  อาการเมื่อยล้าแล่นผ่านกล้ามเนื้อแทบทุกส่วนทำเอาร่างบางแทบจะหยุดพยายามที่จะลุกขึ้น

     หลังจากกระพริบตาอยู่หลายต่อหลายครั้งเธอก็สามารถมองเห้นภาพตรงหน้าได้อย่างชัดเจน

     ชายสองคนกำลังต่อสู้กันด้วยเพลงดาบอันงดงามอ่อนช้อนราวกับร่ายรำ  หนึ่งในนั้นคือเด็กหนุ่มผมสีทองอร่ามซึ่งเธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี  ส่วนอีกคนหนึ่งเธอรู้สึกไม่คุ้นหน้าเขาเอาเสียเลยและไม่คิดจะสนใจด้วย

     ฉัวะ   ฉึก  ชิลล์ฟาดสันดาบใส่มือคู่ต่อสู้จนดาบของอีกฝ่ายกระเด็นหลุดมือไปปักแน่นอยู่บนพื้นดิน

     "เบล!" เด็กหนุ่มผมทองแทบจะพุ่งเข้าหาเด็กสาวทันทีที่เห็นว่าเธอฟื้นแล้ว  มือหนาและอบอุ่นของเขากุมมือเด็กสาวเอาไว้แล้วช่วยพยุงให้นั่ง "เอ่อ..."

     ช่างเป็นคำเรียกแปลกใหม่จริงๆนะ... "รุ่นพี่ให้ฉันนอนในที่เสียงดังแบบนี้ได้ยังไง..."  เด็กสาวผมเงินประท้วงด้วยน้ำเสียงแหบแห้งที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ  ใบหน้าซีดขาวชวนใจหายของเธอแสดงชัดถึงอาการอยากตำหนิติเตียน  นัยน์ตาสีแดงฉานของเธอดูอ่อนประกายลงไปจากทุกที "ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่บ้านรุ่นพี่หละค่ะเนี่ย"

     บอกไม่ได้หรอก... "เพราะ... ฉัน..."

     "กลัวว่าจะไม่มีคนอยู่ดูแลฉันเหรอค่ะ?"

     "ประมาณนั้นแหละ!" เด็กหนุ่มตอบทันทีด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจนน่าสงสัย...  แต่ดูเหมือนเด็กสาวจะไม่ได้สนใจสิ่งนั่นเลย  เพราะเธอสนมืออีกข้างของเด็กหนุ่มเสียมากว่า

     "มือซ้ายโดนอะไรมา  ทำไมต้องพันผ้า" เบลฟูลพูดในขณะที่มองดูมือซ้ายของคุณรุ่นพี่ที่น่ารักน่าฟัดน่าถีบที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลสีขาวสะอาด  มืออีกข้างที่เหลือของเธอจับมือข้างนั้นอย่างอ่อนโยนถนุถนอม

     "เฮ้ย  จับเมื่อไหร่เนี่ย!" ชิลล์ร้องเสียงหลงทันทีที่รู้ว่ามือซ้ายของตนถูกมือมารคว้าไปแล้วโดนไม่รู้ตัว  เอาไงวะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ถ้าโกหกไปต้องรู้แหงๆเลย... "เอ่อ...  เฮ้ย! "ไม่ทันทีเขาจะพูดจบก็ต้องอุทานเสียงหลงอีกรอบเมื่อผ้าพันแผลถูกคลายออกหมดเรียบร้อยแล้ว  เผยให้เห็นสิ่งที่เขาไม่อยากให้รุ่นน้องของเขาเห็นมากที่สุด...

     มือของมนุษย์ผิวขาวบัดนี้มีสิ่งแปลกปลอมอย่างเกล็ดอ่อนสีฟ้าที่ขึ้นเป็นหย่อมๆบนหลังมือและเล็บแหลมคมสีเงินวาวดั่งเหล็กกล้า

     "อธิบายมาซะรุ่นพี่..." มือขาวเรียวของเด็กสาวผมเงินบีบมือข้างนั้นแน่นราวกับว่ากลัวอะไรบางอย่าง  เธอรู้ดีว่ามันคืออะไร...  แต่เธออยากจะได้คำยืนยันที่ชัดเจนเพื่อให้ตัวเองสาารถสงบสติอารมณ์ได้สักครึ่งหนึ่ง

     ฉันควรจะบอกไหม?  บอกคนเป็หมอแล้วเขาจะเชื่อเหรอนายหรืองไงกัน?  ถ้าบอกว่าเป็นแฟชั่นหรือโรคผิวหนังก็โกหกโจ่งแจ้งเกินไป...  เอายังไงดี...

     "บอกความจริงมาไงหละค่ะ  รุ่นพี่..."เบลฟูลพูดในขณะที่นัยน์ตาสีแดงฉานของเธอก้จ้องมองลึกลงไปในจิตใจของชิลล์อย่างแช่มช้าโดยไม่รู้ตัว  เธอกำลังได้ยินเสียงความคิดของเขา  ได้ยินแจ่มชัดพอๆกับเสียงพูด  แต่ในขณะนั้นเธอก็เริ่มมีอาการปวดหัวราวกับว่าสติจะขาดหาย

     "เบล... ฉัน..."

     นัยน์ตาสีแดงฉานของเธอเบิกกว้างขึ้นและหดลงทันทีกลับเป็นปกติ  เบลฟูลส่ายหน้าเบาๆไล่อาการปวดศีรษะ "ขอโทษค่ะ  รุ่นพี่จะพูดอะไรเหรอค่ะ" เธอถามในขณะที่ดึงมือกลับมาประสานกันไว้ที่หน้าตัก

     "จะเชื่อไหม?" เขาย้อนถามด้วยน้ำเสียงเคร่งครึม

     "ฉันอ่านใจคุณออก  เท่านี้แล้วรุ่นพี่คิดว่าฉันจะเชื่อไหม?"

     เด็กหนุ่มผมทองถอนหายใจเบาๆแล้วสอดหายในเข้าลึกพยายามสงบใจและรวมความกล้าที่จะบอกเรื่องอันเหลือเชื่อนี้ "ฉัน...  เป็นภูติ" เขาพูดในขณะที่ซ่อนมือข้างนั้นเอาไว้ด้านหลัง "ที่จริงแล้ว...  มันไม่ควรเป็นแบบนี้"  มนุษย์...  เธอเป็นมนุษย์นะ  เธออาจจะหนีฉันไปก็ได้...

     "ฉันรู้..."

     "ไม่โกรธเหรอที่ไม่เคยบอก"

     "เพราะว่ารุ่นพี่ไม่อยากจะถูกมัดกับใคร  รุ่นพี่ไม่คิดจะรักฉันนานๆ  รุ่นพี่ชิลล์กับรุ่นพี่อลิซ..." เคยจูบกัน   เธอกลืนคำพูดนั้นลงคอและหยุดปากทันทีก่อนที่เธอจะพูดอะไรโง่ๆออกไปมากกว่านี้  สงสัยจะเป็นอาการฟุ้งซ่านแหงๆ   ไม่ไหว...

     แกร้งๆๆ

     ทำไม...

     เอี้ยดๆๆๆ  ติ๊กๆ

     ปวดหัว  เด็กสาวยกมือขึ้นกุมศีรษะและขยุ้มผมของตัวเองเพื่อสะกดกลั้นอาการปวด  มือซ้ายที่กุมมือรุ่นพี่เอาไว้ก็เริ่มจับแน่นขึ้น

     เพล้ง  กระจกหน้าต่างบานที่อยู่ใกล้เตียงของเธอแตกออกพร้อมกับลมแรงพัดวูบพาเอาเศากระจกไปปักฝังลึกอยู่บนผนังอีกด้านของห้อง  

     เด็กสาวผมเงินลืมตาขึ้นช้าๆเมื่อพบว่าตัวเองไม่เป็นอะไร  ตอนนี้ใบหน้าของเธอแทบที่จะชนกับแผ่นอกกว้างของเด็กหนุ่มผมทอง  มือข้างหนึ่งที่ดูราวกับมือของปีศาจป้องหัวของเธอเอาไว้  เขาค่อยๆคลายมือออกแล้วผลักเธอเข้าไปใต้เตียงอย่างนุ่มนวล

     "รักกันดีจริงนะ!" เสียงแหลมอันฟังดูไม่ลื่นหูที่ทำเอาเสียงของอลิซตกอันดับไปดังขึ้นพร้อมกับร่างอันน่าเกลียดน่ากลัวไม่มีเคล้าโครงความเป็นมนุษย์    ฟันแหลมคนในปากที่ถูกทาด้วยสีแดงฉานราวกับดื่มเลือด  ดวงตาปูนโปนสีซีดขาวบนใบหน้าซีด  ผมสีดำยาวยุ่งเหยิงและเขาบนศีรษะบ่งบอกสัญชาติอันไม่น่าพิศมัยนัก  ร่างกายท่อนล่างของเธอเป็นวิหก  กรงเล็บใหญ่ยักษ์เหยียบลงบนเตียงจนทำให้ที่นอนหนานุ่มด้านบนฉีกหวะ    

     "แต่ถ้าไม่อยากตายคู่ก็ส่งนางนั่นมาให้ข้าซะเถอะ!" ปีศาจตัวนั้นเอ่ยด้วยเสียงแหบน่าเกลียดหน้ากลัว  เล็บมือที่เดิมเคยเป็นเล็บมือมนุษย์บัดนี้ได้ยื่นยาวน่าเกลียดเสียงจนดูไม่ได้ "แกไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนั้นหนะสมควรตายขนาดไหน  เจ้าภูติที่หลงใหลมนุษย์"

     เด็กหนุ่มผมทองก้มหน้าลงเล็กน้อย  มุมปากของเขาตกลงบอกชัดถึงอารมณืที่บูดสนิทเกินจะเยียวยา  แต่เส้นผมที่ลงมาปิดบังใบหน้าเอาไว้ทำให้ไม่สามารถมองเห้นสีหน้านั้นได้ชัดเจน  "เบล  อย่าออกมานะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มแข็งทื่อในขณะที่รอบตัวเขาก็ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยไอเย็น "ไอ้นกงี่เง่า..." เขาสบถเบาๆก่อนจะค่อยคลายมือที่กำแน่นทั้งสองข้างออก

     "เจ้ากล้าว่าข้าเหรอ!  ตายซะ!" มันพูดด้วยเสียงน่าเกลียดเช่นเคยแล้วฟาดกรงเล็บใส่ชิลล์ซึ่งตอนนี้ไม่มีอาวุธหรืออะไรที่จะเป็นที่กำบังให้เขาได้เลย

     "ใครตายก่อน?" เสียงหวานแฝงแววเหี้ยมดังขึ้นจากด้านหลังของปีศาจนกพร้อมกับสัมผัสเย็นวาบที่บริเวณต้นคอ "เธอหรือรุ่นพี่ฉัน?  ตอบหน่อยสิ" ศีรษะที่เต็มไปด้วยผมสีเงินหยักศกค่อยๆโผล่ขึ้นที่ข้างๆไหล่ของมัน  นัยน์ตาสีแดงฉานอของเธอไร้ประกายอันน่าหวาดผวา  ทั้งเย็นชาและเหี้ยมเกี้ยมราวกับคนละคน "ตอบช้า..  แกตาย"  มีดผ่าตัดในมือของเด็กสาวกดลงบนต้นคอของมันทันทีและรวดเร็ว  ตัวมีดกว่าครึ่งจนหายลงไปในเนื้อหนังนั้นและกรีดจนเนื้อขาดออกจากกัน

     เลือดสีดำสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนใบหน้าของเธอและผนังรอบๆ  กลิ่นคาวที่คละคลุ้งอยู่ในอากาศชวนแสบจมูก  คอของมันขาดออกจากกันถาวรไปแล้วกว่าครึ่งแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าปีศาจตนนี้จะตายในทันที  มันยังคงดิ้นรน  ดิ้นรนที่จะคว้าคอเด็กสาวด้านหลังให้ได้  แต่นั่นก็เปล่าประโยชน์เมื่ออีกดาบก็ตามฟันร่างของมันจนขาดวิ่นเหมือนผ้าขี้ริ้วเน่าๆ

     "เบล  ฉันบอกให้...!!!!" ไม่ทันทีเด็กหนุ่มจะได้ทันสั่งสอนรุ่นน้องที่ไม่เชื่อฟังมีดในมือเด้กสาวก็มุ่งเป้ามาที่เขาแทน  "ทำอะไรเนี่ย!" เขาบ่นในขณะที่คว้ามือข้างที่ถือมีดของเด็กสาวเอาไว้และบีบจนมีดหลุดออกจากมือเธอ...

     เด็กสาวไม่แม้แต่จะกรีดร้องหรือดิ้นรน  มือขวาของเธอรับมีดจากมือซ้ายอย่างคล่องแคล่ว  เธอพลิกข้อมือและกรีดขึ้นทันทีทิ้งรอยแผลถลอกเลือดซึมเป็นทางยาวเอาไว้บนแผ่นอกของเขา...  หากเขาหลบช้ากว่านี้แม้วินาทีเดียว...  มันอาจจะไม่จบแค่แผลถลอก

     

     "ชิลล์  คุณชอบใครกันแน่ระหว่างคุณเบลฟูลกับควีนของพวกเรา"

     "ฉันชอบ..."

     อย่าพูด...  อย่าพูดออกมานะ  ฉันไม่อยากฟังแล้ว

     "ฉันชอบอลิซ  แต่..."

     

     "เบลฟูล  ตั้งสติเอาไว้สิ!" เด็กหนุ่มยังคงพร่ำเรียกเด็กสาวต่อไปแม้ว่าตามตัวเขาจะเต้มไปด้วยบาดแผลเล็กๆเป็นริ้วๆเต็มไปหมด    เธอเป็นอะไรไป... หรือเป็นอาการช๊อค?  ในขณะที่เขากำลังใช้ความคิดอยู่นั้นร่างบางก็กระโจนเข้าใส่พร้อมกับมีดที่เพิ่มมาเป้นสองเล่มตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

     

     "ชิลล์ฉันมีอะไรจะให้นายแหละ  หันมาทางนี้สิ" เสียงหวานใสของเด็กสาวผมสีชมพูดังขึ้น

     หยุดนะ...

     "อะไรเหรออลิซ" ชิลล์หันไปตามที่เธอพูดอย่างไม่ขัดขืน

     เธอค่อยๆโน้มใบหน้าของเด็กหนุ่มเข้าไปใกล้และจุมพิตริมฝีปากนั้นโดยไม่รีรอให้อีกฝ่ายขัดขืน...

 

     ชิลล์คว้ามือทั้ง2ข้างของเด็กสาวแล้วกดเธอติดกับกำแพงด้านหลัง  "เบล  ขอร้องหละ  มีสติสักทีเถอะ" เขาจับข้อมือเธอแน่นไม่ยอมปล่อยในขณะที่อีกฝ่ายก็ขัดขืนและพยายามจะทำร้ายเขาอย่างไม่ลดละ

     "พอแล้ว..." เสียงหวานปนสะอื้นดังขึ้น  ร่างที่เคยเกร็งขัดขืนกลับอ่อนยวบและทรดลงนั่นกับพื้น  เธอก้มหน้าลงแล้วสะอึกสะอื้นเบาๆอย่างเก็บไม่อยู่  มือของเธอถูกปล่อยออกจากมือเด็กหนุ่ม  เบลฟูลรีบชักมือตัวเองกลับแล้วลุกเดินหนีไปโดยไม่พูดอะไร...  หยุดเสียทีเถอะ

 

     นี่ก็จะค่ำแล้ว..  เบลฟูลเธอหนีไปไหนกันแน่...  แล้วทำไมต้องหนี  เด็หนุ่มผมทองคิดกังวลในขณะที่เดินย่ำเท้าไปตามทางเดินตรอกเล็กซอกน้อยในบ้าน  เพราะเข้าไปสอบถามมาจากยามแล้วและอาจารย์ของเขาแล้วว่าไม่มีใครออกจากบ้านเขาเลยสักคนเดียว  

     "ทำไมฉันต้องสติแตก...  ก็แค่...  ก็แค่..." เสียงหวานใสที่แฝงเร้นไว้ด้วยความโศกเศร้าดังขึ้นจากระเบียงด้านหนึ่งซึ่งมีแสงจันทร์สาดส่องลงกระทบพื้น "ก็แค่รุ่นพี่เขารักกันไม่ใช่หรือยังไง!" เสียงนั้นกลายเป็นเสียงตวาดดังอันประชดประชันขมขื่น

     เพร้ง  แจกันดอกไม้เล็กๆซึ่งคาดว่าเคยวางอยู่บนโต๊ะน้ำชาที่ระเบียงลอยผ่านหน้าเด็กหนุ่มและกระทบกับผนังอีกข้างจมแตกละเอียด

     "เบล..." เด็กหนุ่มผมทองพึมพำเสียงเบาหวิวในขระที่ก้าวต่อไปด้านหน้าด้วยฝีเท้าแผ่วเบาเหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวแล้วหนีไป

     "รุ่นพี่?  เห็นด้วยเหรอค่ะ  ขอโทษค่ะ  เดี่ยวฉันจะทำแผลให้คุณใหม่" แต่ดูเหมือนมันจะไร้ประโยชน์เพราะว่าเงาของเขาก็ยังคงทองลงบนพื้นอยู่ดี  

     เด็กสาวผมเงินไม่แม้แต่จะหันมองหน้าเขา  เธอทำเพียงหมุนตัวไปอีกทางแล้วทำท่าจะเดินต่อไป  แต่แล้วก็หยุดเอาไว้และเหลือบหันมองน้อยพูดด้วยเสียงเศร้าว่า "พรุ่งนี้ฉันจะกลับบ้านค่ะ  แล้วรุ่นพี่อลิซจะมาช่วยดูแลคุณเองแบบทุกทีค่ะ  เพราะขืนฉันอยู่ต่อ  ฉันอาจจะละเมอไปบีบคอคุณตายคาเตียงก็ได้นะคะรุ่นพี่"

     เพราะเรื่องนั้นสินะ...  ฉันควรจะดีใจดีไหมที่เธอก็ดูจะชอบฉัน "จริงๆแล้ว..."

     กึก  เด็กสาวหยุดเท้าเอาไว้แต่ก็ไม่ได้เดินกลับมาหรือก้าวต่อ  เธอกำลังรอฟังอยู่เงียบๆ

     "มัน..." ฉันควระจะบอกไปไหม?  แต่บอกไปแล้วจะได้อะไร?  ฉันมีอายุขัยเป็นร้อยเป็นพันปี  แต่เธออยู่กับฉันได้อย่างมากก็ร้อยปี...  "ซักวัน...  ซักวันเธอจะรู้และเข้าใจ"

 

     จริงๆแล้ว...

     ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันรักเธอจริงๆหรือแค่ต้องการที่พักพิง

     คนที่ว่าซักวันหนึ่งคงจะเข้าใจไม่ใช่เธอแต่เป้นฉันมากกว่า...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา