คุณน่ะเมียผมครับ

-

เขียนโดย Magicz

วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 01.11 น.

  7 ตอน
  3 วิจารณ์
  14.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 17.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) รูปใคร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แวะมาส่งไอ้พรตที่หน้าคณะก่อนขับรถวนมาที่คณะของตัวเอง

วันนี้ผมกับไอ้พรตมีเรียนบ่ายทั้งสองคนครับ 

ตอนแรกมันจะไม่ยอมมาเรียนข้ออ้างเยอะมากซึ่งล้วนเป็นความผิดมาจากผม

ทั้งชุดนักศึกษาไม่มี ตำราเรียนไม่มี

ห้องผมนอนไม่สบายมันนอนไม่พอทำให้เรียนไม่ไหว

และสุดท้ายมันบอกว่าแมลงสาปห้องผมกัดตีนมัน ต้องไปฉีดยา

เชี้ยเห่อะ! ห้องกูสะอาดนะครับ

 

 

 

 

 

 

ผมเครียดกับสารพัดข้ออ้างที่มันยกมา

เลยบังคับให้มันใส่เสื้อนักศึกษาของผม

 แต่กางเกงยีนส์ของมันตัวที่ใส่มา 

เมื่อวานผมซักตากให้เรียบร้อย

มันด่าผมด้วยครับ ว่ายุ่งกับของของมันกางเกงยีนส์ต้องใส่เดือนนึงค่อยซัก  

ราจะกินขาเมียกูไหมวะ

 

 

 

 

หลังเลิกเรียนผมรีบชิ่งออกมาก่อนที่ไอ้พวกเพื่อน 4 ตัวจะทันถามอะไร 

ตอนนี้รอไอ้พรตที่คณะแต่นั่งรอในรถครับยังไม่อยากลงไปให้เป็นที่สังเกต

พอเห็นมันเดินลงมากับเพื่อนก็หยิบโทรศัพท์โทรหามัน

แต่มันไม่รับตามเคย

ผมเลยส่งข้อความไปแทน

 

 

 

 

“ถ้ามึงไม่มาที่รถเดี๋ยวนี้ กูจะลงไปตาม”

ผมส่งไปแค่นี้ครับ เห็นมันเปิดขึ้นอ่าน

แล้วสีหน้าเปลี่ยนเลย หน้ามันบึ้ง ดูหงุดหงิดตลกดี 

มันหันมามองที่ลานจอดรถแล้วหันกลับไปคุยกับเพื่อนก่อนเดินตรงมาที่รถผม  

 

 

 

 

 

 

เปิดประตูเข้ามานั่งได้

เท่านั้นมันเอื้อมมือไปดึงประตูปิดอย่างแรง

สงสารลูกBMW ของผมจริงๆต้องมาทนมือมันหลายครั้งแล้ว

 

 

 

 

“ เหี้ย!! ไม่ให้เวลากูได้หายใจเลยนะมึง”  มันว่าครับ

 “ เดี๋ยวกูพาไปเก็บของที่ห้อง

หรือจะให้กูพาไปเอาที่บ้าน”

ผมไม่ตอบแต่ถามไปอีกเรื่อง

ต้องถามมันก่อนครับว่าต้องไปเอาที่ไหน

เพราะมันคงต้องใช้ชุดนักศึกษาหรือตำราเรียน

 

 

 

 

 

“คอนโด” ตอบแค่นั้นแล้วหันมองออกไปนอนรถ

ช่วงนี้รถติดนิดหน่อย ไม่มากเท่าไหร่ครับ

 

 

 

ผมรู้สึกว่าบรรยากาศในรถมันเงียบเกินไปเลยชวนมันคุยครับ

“ทำไมมึงถึงชื่อเล่นว่าพรตวะ ไม่เข้ากับหน้าตาสวยๆของมึงเลย”

“เชี้ย เสือกกะชื่อกูนะมึง 

แต่กูหล่อเถอะไม่ใช่สวย

 กูเป็นผู้ชายชื่อกูก็ต้องแมน พ่อกูตั้งให้เลยนะเว้ย

พี่ชายกูแม่เป็นคนตั้ง  แม่ง! ชื่อเหมือนผู้หญิงทั้งสองคน

ถ้ามึงไม่พอใจมึงจะเรียกว่า พะระตะ   หรือ พะรต ก็ได้เท่ดีเหมือนกัน”

มันว่าครับ เล่าเพลินเลยนะมึง  สงสัยลืมเรื่องที่โมโหผมแล้ว

 

 

 

 

แต่ถ้ามันให้ผมเรียกสองชื่อหลังที่มันว่า

ขอเรียกชื่อมันเหมือนเดิมดีกว่าครับ

ไม่ไหวชื่อแรกเหมือนพระเอกอินเดีย

ชื่อหลังก็เหมือนพระเอกละครจักรๆวงศ์ๆช่วงเช้าวันหยุดครับ

 

 

 

 

“เออๆ กูไม่เถียง มึงเป็นผู้ชาย มึงแมนแต่...”

ผมเว้นจังหวะไว้นิดนึงครับ

“มึงเป็นผู้ชายที่เป็นเมียกู หึหึ”

พูดเสร็จผมก็หัวเราะตบท้าย กวนมันไป

“สัส!!!”

มันว่าแค่นั้นแล้วไม่พูดต่อครับหันไปมองวิวข้างหน้าต่างเหมือนเดิน

 

 

 

 

 

ไม่นานเราก็มาอยู่ที่คอนโดของไอ้พรตครับ

“มึงรอกูตรงนี้เดี๋ยวกูลงมา” มันรีบบอก

“กูจะขึ้นไปด้วย ถ้ามึงตุกติก กูไม่รอทั้งคืนรึไง”

“เออ ตามใจ” มันว่าแค่นั้นแล้วเดินนำเข้าลิฟท์

กดไปชั้นบนสุด

 

 

 

 

คอนโดมันเป็นคอนโดหรูแล้วยังอยู่ชั้นบนสุดคงเป็นห้องที่ราคาแพงมากครับ

แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ

เพราะเพียงเปิดประตูเข้ามาก็เห็นเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง

มีบาร์เหล้าในครัวมันด้วยครับ มันทำอาหารไม่เป็นจะมีครัวไว้ทำไมวะสงสัยครับ

 

 

 

 

 

 

แต่ที่แปลกใจกว่าคือห้องมันมีรูปถ่ายเยอะมากรูปธรรมชาติ

ส่วนมากจะเป็นท้องฟ้ากับทะเล

แต่เป็นภาพที่ถ่ายออกมาแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น

ให้แสงและเงามองแล้วเหมือนเราได้ไปสถานที่จริง

มันถ่ายรูปสวยมากครับ

ผมที่มองภาพไม่ค่อยเป็นยังว่าสวยเลย

มีทะเลตัดกับท้องฟ้า

บางที่ผมก็จำได้ว่าเคยไปมาแล้วแต่ตอนไปไม่เคยรู้สึกว่ามันสวยเท่าตอนดูภาพที่มันถ่าย

มันคงชอบทางนี้แต่ไม่ค่อยเข้ากับมันที่เป็นคนอารมณ์ร้อนซักเท่าไหร่

 

 

 

 

ครืด  ครืด.....ครืด  ครืด.....

เสียงโทรศัพท์ของมันดังขึ้นมันหยิบมากดรับสาย

“เออ ว่าไง” รับได้กวนมาก

“...”เงียบรอปลายสายพูด

“กูอยู่ห้อง ไม่สบายนิดหน่อย... เออ ...

หายแล้ว ไม่ต้องมากูจะนอนแล้ว”

มันจะนอนอะไรตอนนี้ เพิ่งเย็นเองครับ

“ เออ เออ พูดมาก กูจะวางแล้ว ไอ้เชี้ยนาวเดี๋ยวมึงเจอดี”

มันว่าแค่นั้นแล้วกดตัดสาย

อย่างน้อยที่จับประเด็นได้คือมันคุยกับไอ้นาวครับ 

แล้วจะเข้ามาหาไอ้พรต ไอ้พรตเลยบอกว่าจะนอน

 

 

 

 

 

 

ผมเดินดูห้องรับแขกมันเรื่อยๆ รอมันเก็บของ

จนมาสะดุดตากับรูปถ่ายใบหนึ่งวางไว้บนโต๊ะวางโทรศัพท์มุมห้อง

รูปไอ้พรตกับผู้หญิงคนหนึ่งถ่ายคู่กันเป็นรูปที่ดูยังไงก็รู้ว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน

และคาดว่าถ่ายไว้ไม่เกิน 1 ปี

เพราะไอ้พรตเหมือนปัจจุบันมาก

 

 

 

 

 

ผู้หญิงในรูปดูเป็นคนที่สวยตัวเล็กๆ ผิวขาว ผมยาว

น่าถะนุถนอมมากครับ 

ผมหยิบขึ้นมาดูใกล้ๆ  ใจของผมรู้สึกเจ็บ

 

 

 

 

ตอนแรกผมคิดว่าผมแค่สนใจมัน

แต่ตอนนี้ผมแน่ใจแล้วครับว่าไม่ใช่

ผมรู้สึกกับมันมากกว่านั้นแต่ยังไม่รู้ว่าถึงขั้นรักรึเปล่า

ที่แน่ๆผมไม่อยากเสียมันไป

ถ้าผมรู้มาก่อนว่ามันมีแฟนอยู่แล้วผมจะไม่ตื้อ ไม่บังคับ

หรือแม้กระทั่งจะไม่ยอมให้อารมณ์ของเราทั้งสองคนพามาจนอยู่ที่ตรงนี้

 

 

 

 

 

 

ผมไม่อยากเป็นคนที่ไปแทรกกลางความรักของใคร

หรือต้องเป็นตัวเลือกของใคร

ผมคิดว่าคนอย่างผมมีดีพอที่จะไม่ยอมเป็นตัวเลือกของใครแน่นอน

ยิ่งคิดผมก็ยิ่งปวดใจ

 

 

 

 

“มึงทำอะไรน่ะ” มันตะโกนถามผมออกมาจากห้องนอน

ผมตกใจ เกือบทำรูปหลุดมือ

แต่ดียังคว้าไว้ทัน ผมเลยค่อยๆว่างรูปลงที่เดิมอย่างเบามือ

มันคงรักมากไม่อยากให้ใครแตะต้อง

 

 

 

“ ...” ผมเงียบครับ ไม่รู้จะตอบว่าอะไร

มันเดินมาหยิบรูปที่อยู่ตรงหน้าผม

แล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง  ตอนนี้ผมเหมือนมึนๆ

ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอย่างไรต่อไป

จะเดินหน้าต่อ หรือปล่อยมันไป

บอกเลยว่าสับสนครับ

 

 

 

 

ผมทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆอย่างเหม่อลอย

มาห้องมันครั้งแรกก็เจอดีเลยครับ

 

“เสร็จแล้ว” มันเรียก  ผมหันมองไปทางประตู

 มันออกมาอีกครั้งพร้อมกระเป๋าเป้ใส่เสื้อผ้าใบไม่ใหญ่เท่าไหร่

และกระเป๋าใส่กล้องอีกหนึ่งใบ

 

 

“รูปใคร น่ารักดีนะ” ผมตัดสินใจลองถามมันดูครับ

เผื่อว่าผมจะคิดไปเอง ยังคงมีความหวังอยู่ครับแม้ว่าจะน้อยมาก

“นิว” มันตอบผมแค่นั้นแล้วเดินไปใส่รองเท้าที่หน้าประตู

ผมเดินตามออกมาแล้วขับรถพามันกลับมาที่คอนโด 

ในใจยังคงคิดวนเวียนแต่เรื่องของผู้หญิงที่ชื่อนิวครับ

ตั้งแต่ออกจากคอนโดมันมาผมยังไม่ได้พูดกับมันซักคำ 

ไม่รู้จะพูดอะไรครับ

 

 

 

 

 

มันน่าจะรู้ว่าผมคิดมากเรื่องนี้

แต่มันก็ไม่ยอมพูดหรืออธิบายอะไรออกมา

พอถึงห้องมันก็อาบน้ำแล้วเข้าห้องนอนทันที

ผมนั่งอยู่หน้าทีวีในห้องรับแขก

กดเปลี่ยนช่องไปมาไม่รู้จะดูอะไรครับ

ใจมันไม่สงบ เลยกดปิดและล้มตัวลงนอนบนโซฟา

ผมคิดวนเวียนอยู่อย่างนั้นจนเผลอหลับไป

 

 

 

 

 

 

สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีตี2 แล้วครับ 

เดินไปปิดไฟห้องรับแขกแล้วเข้าห้องนอน

ไอ้พรตนอนหลับไปแล้วครับ

 

 

 

ผมหยิบผ้าขนหนูพาดบ่าแล้วตรงไปอาบน้ำ

 ออกมาปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอนอีกฝั่งนอนตะแคงหันหลังให้มันครับ

 หันไปมองมันไม่ได้เดี๋ยวจะทำให้ตัดใจยากกว่านี้

จากนั้นก็เผลอหลับไปอีกรอบ

 

 

 

 

 

 

“เรียนกี่โมงเดี๋ยวกูไปส่ง”

ประโยคแรกที่ผมคุยกับไอ้พรต

หลังจากเมื่อวานที่กลับมาจากคอนโดของมัน

 มันก็ไม่คุยกับผมก่อน

 

 

 

 

“ 9 โมงเช้า”

อืม เรียนเวลาเดียวกันครับ

ผมแต่งตัวเสร็จแล้วเดินมารอมันที่หน้าประตู

เห็นมันเดินไปหยิบกระเป๋ากล้องแล้วตามออกมา

ผมพามันมาส่งที่คณะของมันคนเริ่มเยอะแล้วครับ

 

 

 

 

“เลิกกี่โมง” ผมถามมันอีกครั้ง

“เที่ยง”

“เดี๋ยวมารับ ตอนเที่ยงกูโทรหา”

“...”  มันไม่ตอบแต่เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินออกไปเลยครับ

ผมมองตามหลังมันไปจนลับสายตา

จึงออกรถขับไปที่คณะของผมต่อ

 

 

 

 

 

 

   “เป็นเหี้ยอะไรวะ หน้าตาเหมือนขี้ไม่ออก”

 ไอ้นัทมันทักผมครับ

   ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะไม่ได้ตอบอะไร

ไม่รู้จะบอกว่าอย่างไร

ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าผมกับไอ้พรตเป็นอะไรกันจะปรึกษาใครก็ไม่ได้

ไม่ได้อายหรือกลัวพวกมันรับไม่ได้ครับ

แต่ว่าผมกลัวว่าถ้าพวกมันรู้จะทำให้เพื่อนไอ้พรตมันรู้ด้วย

 เพราะหลังจากที่กินเหล้ากันวันนั้น

กลุ่มมันก็ เริ่มสนิทกับกลุ่มผมมากขึ้น

เจอที่ไหนก็ทักทาย แล้วคุยกันบ้าง

ผมไม่รู้ว่าไอ้พรตจะรับได้ไหมถ้าเพื่อนมันจะรู้เรื่อง

หรืออาจจะทำให้นิวของมันรู้เรื่องไปด้วย

 

 

 

 

 

 

 

   “มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อยหว่ะ

ไม่ต้องห่วงสบายมาก”

ปากว่าไปแต่ใจไม่ใช่เลยครับ

 

   “เอ่อ ให้ช่วยอะไรก็บอกพวกกู

เห็นมึงแปลกๆ พวกกูก็ไม่สบายใจ” ไอ้อาร์มมันว่าครับ

 

   “ขอบใจพวกมึงมาก แต่กูขอแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อนหว่ะ” 

   “ เย็นนี้แดกเหล้ากัน” ไอ้โฟมเสนอมาครับ

    “กู...” กำลังจะพูดครับแต่ไอ้นัทรีบบอกมาก่อน

 “มึงห้ามปฏิเสธ เพราะมึงเป็นเจ้ามือ”

 

 

   “ กูบอกจะเป็นเจ้ามือเมื่อไหร่วะ”

ผมถามออกไปด้วยความงง

   “ อ่าว! ไอ้เหี้ยทำเป็นแกล้งลืมนะมึง

มึงตกลงวันที่แข่งรถ จำไม่ได้รึไง”

ไอ้อาร์มเป็นผู้ชี้ทางสว่างแก่ผม  คือผมลืมจริงๆครับ

   “ เออ กูลืมจริงๆ แล้วไปที่ไหน”

   “ ร้านพี่มิน” ไอ้คิม เป็นคนตอบครับ

   “ไอ้เหี้ยคิมมึงจะไม่คิดเปลี่ยนที่มั่งรึไงวะ

 กูไปบ่อยจนจะได้เด็กเสริฟเป็นเมียแล้วเนี๊ยะไอ้อาร์มบอกกับไอ้คิมครับ

 มันแค่พูดไปอย่างนั้น จริงๆมันก็ชอบไปร้านนี้

   “ไม่วะ ร้านนี้สาวสวยดี” ไอ้เหี้ยคิมไม่ค่อยเลยนะมึง

มีเรื่องเดียวจริงๆ คุยกันซักพักก็เข้าเรียน

 

 

 

 

 

 

   ผมรอไอ้พรตรับสาย โทรหามันตั้งแต่เที่ยง 10 นาที

 โทรมา 4 สายแล้วครับมันยังไม่รับและผมโทรเวลาห่างวันทุก5 นาที

มันเล่นตัวหรือว่าอะไรวะ

ตอนนี้ผมคิดไปหลายทางเลยครับ

ไม่รู้ว่ามันยังไม่เลิกเรียน หรือไม่อยากรับสายผม

หรือว่าอยู่กับใครที่ไม่สามารถรับสายผมได้

ยิ่งคิดยิ่งไปในทางลบครับ

แล้วก็ลองโทรอีกครั้งรอสายจนสายใกล้จะตัดแล้วก็มีคนกดรับสายแต่ไม่พูด

 

 

 

 

 

“ไอ้พรต” ลองเรียกมันก่อนครับ

   “...” เงียบครับ

 “ไอ้พรต” ลองเรียกอีกที

 “...” เงียบเหมือนเดิม

 “พรต ถ้ามึงไม่ว่างกูจะวางนะ”

   “ ถ้ากูไม่ว่างแล้วจะรับสายมึงทำไม โง่”  อ่าวด่ากูอีกที่รัก

 

 

 

   “ กูจะถามว่าจะให้กูไปรับที่ไหน หน้าคณะไหม” ผมถามมันก่อนครับ”

   “ ไม่ต้องมากูจะไปถ่ายรูปกับเพื่อนตอนเย็น กลับดึก”

มันบอกผมอย่างนี้  แล้วมันจะกลับยังไงวะ

   “ งั้นเสร็จเมื่อไหร่ โทรบอกกูนะ กูจะได้ไปรับ”

   “...” มันไม่ตอบเหมือนเคย แล้วกดตัดสายไป

ทำไมชอบตัดสายกูวะ

 

 

 

 

 

  

ผมเดินเข้าไปในร้านอาหารที่มากินกับเพื่อน

นั่งกินไปซักพักก็ไม่รู้จะไปที่ไหน

เลยตกลงกันว่าจะไปที่หอไอ้คิม

ตอนแรกจะมาห้องผม

ผมว่าพวกมันกะจะมาจับผิดผมนั่นแหละ

ผมเลยบอกว่าขี้เกียจขับรถไปมาเพราะจากหอไอ้คิมไปร้านพี่มินใกล้ที่สุด

มันเลยยอม ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าในห้องไอ้คิม

บรรจุไว้ด้วยผู้ชายทั้งหมด 5 คน ห้องดูแคบลงไป

แต่ก็ยังไม่แคบมากครับ

 

 

 

 

 

 

ตอนนี้ไอ้นัทกับไอ้โฟม นั่งเล่นเกมส์แข่งกัน

ไอ้อาร์มกำลังคุยโทรศัพท์กับคนที่บ้าน

เหลือผมกับไอ้คิมนั่งดูทีวีด้วยกันสองคน

ผมเดินออกมาสูบบุหรี่ที่ริมระเบียงห้อง

ผมจะสูบเวลาเครียด หรือเวลาทำงานหนัก

ปกติไม่ค่อยได้สูบเท่าไหร่

 

 

 

 

 

 

คิดอะไรเพลินๆรู้สึกตัวอีกทีบุหรี่หมดไปแล้ว5 ตัว

ผมดับบุหรี่ตัวสุดท้ายแล้วเดินกลับเข้ามาในห้องเห็นไอ้คิมหลับไปแล้ว

ไอ้อาร์มไปแย่งไอ้โฟมเล่นเกมส์

ส่วนไอ้โฟมลงไปนอนอยู่ข้างๆไอ้นัท

ผมว่าช่วงนี้มันสนิทกันกินไปแล้วครับเห็นไอ้นัทที่ไหนต้องมีไอ้โฟมที่นั่น

ตอนแรกที่ว่ามันไม่มีอะไรกันผมขอถอนคำพูดก่อนครับ

เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้เหมือนเรื่องของผมกับไอ้พรตไง

เอาเป็นว่ารอดูกันต่อเอง  

 

 

 

 

 

 

 

เราอยู่ห้องไอ้คิมจนทุ่มนึงแล้วก็ออกไปกินข้าว

จากนั้นก็ไปร้านพี่มินต่อเลยครับ

ตอนนี้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพวกผมจะมีชุดสำรองติดรถกันไว้เสมอครับ

รู้กันว่าชวนเที่ยวเมื่อไหร่ต้องพร้อม

 

 

 

 

 

 

“เอ้ย! ไอ้เหี้ยตินณ์เหล้านะเว้ยไม่ใช่น้ำเปล่า”

เสียงไอ้อาร์มบอกผม แต่ผมไม่สนใจครับตอนนี้อยากเมาเผื่อจะได้ลืม

“ ไอ้คิม ไอ้ตินณ์มันบอกไหมวะว่ามันมีปัญหาอะไร”

ไอ้อาร์มหันไปถามไอ้คิม เมื่อไม่ได้คำตอบจากผม

ตอนนี้เรามานั่งกันได้เกือบ 2 ชม.แล้วครับ

ผมเริ่มจะมึนๆ แต่ยังพอรู้เรื่องอยู่บ้าง

 

 

 

 

“ ไม่รู้เหมือนกันมันไม่ได้บอก” ไอ้คิมตอบเสียงนิ่งๆ

“กูไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้เลยหว่ะ” ไอ้นัทพูดบ้าง

“ กูรู้จักมันมาก็เห็นแค่ครั้งเดียวตอนจบม.ปลาย แล้วไม่เคยเห็นอีกเลย”

ไอ้คิมมันพูดออกมาลอยๆ

 

 

 

มีสาวเข้ามาขอชนแก้วครับ

ผมก็หันไปชนด้วย ดูเซ็กซี่มาก

 แต่ผมไม่มีอารมณ์สานต่อ

แค่ชนแก้วเพราะอยากเมาเฉยๆ

 

 

 

“อ่าวหวัดดีครับพี่ๆ” เสียงใครวะ

“กูไม่มีน้องเว้ย” ผมพูด พร้อมกับหมุนตัวไปมองว่าใครมาทัก

“อ่าวเพ่ เมาแล้วเหรอยังไม่ดึกเลยนะ” ไอ้นาวครับ

 

 

 

“อ่อ มึงนี่เองกูนึกว่าใคร” หันไปเป็นไอ้นาว

ไอ้มายส์ และไอ้ฟิกซ์ครับมาเกือบครบแก้งค์ขาดแต่ไอ้พรต

“มาๆ นั่งด้วยกันเลย”

ไอ้อาร์มพูดเชิญชวนแล้วเรียกพนักงานมาต่อโต๊ะ

“ไม่เกรงใจแล้วนะพี่”

ไอ้มายส์ออกตัวก่อนเพื่อนเลยครับ

 

 

 

 

“ เออ ไม่ต้องเกรงใจเต็มที่ เพราะมื้อนี้ไอ้เสี่ยตินณ์จ่าย”

อ่าวไอ้เหี้ยไม่ถามกูเลย

“โห งั้นผมสั่งเลยนะโชคดีชะมัดเลยเว้ย

ไอ้มายส์ ไอ้ฟิกซ์ มีคนเลี้ยง”

มันบอกผมก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อนมันด้วยน้ำเสียงดีใจมากยังกะไม่เคยมีใครเลี้ยงมัน

 

 

 

 

 

“แล้วเพื่อนมึงไปไหน” ผมลองถามดูครับ

“ก็นี่ไงพี่” ไอ้นาวมันตอบผมพร้อมชี้ไปที่เพื่อนมัน 2 คนที่มาด้วย

“ กูถามถึงคนที่ไม่มา อย่ากวนตีน” ผมว่ามันไป

“ แห่ะๆ ก็พี่ไม่บอกคนไหน ผมก็นึกว่าไอ้สองคนนี้

ไอ้พรตมันไม่ได้มาด้วยพี่

วันนี้พวกผมไปถ่ายรูปที่สวนรถไฟกันมา

แต่พอถ่ายเสร็จตอนทุ่มนึง

ไอ้พรตก็แยกตัวกลับไปก่อน ไม่รู้มันไปไหน” 

ไอ้นาวเล่ายาวเลยครับ มือก็หยิบเหล้ามากระดกนิดหน่อย

 

 

 

 

“ อ่าวมึงไม่ถามมันวะเพื่อนกัน”

ผมยังคงลุกถามมันต่อ

ผมอยากรู้มันไปไหนไม่ยอมให้ผมไปรับด้วย

บอกว่าถ่ายรูปเสร็จแล้วให้โทรมา

นี่ผมนั่งรอโทรศัพท์จากมันก็ไม่มีโทรเข้ามาซักสาย

 

 

 

 

“ ถามแล้วแต่มันไม่บอกหว่ะพี่

แต่ปกติเวลาชวนกินเหล้ามันไม่เคยปฏิเสธเลยนะถ้ามันค้างที่คอนโด

ยกเว้นวันไหนมันไปนอนบ้านมันถึงจะไม่ออกมา”

 ผมเพิ่งรู้นี่แหละหรือว่ามันจะไปหาใคร

 

 

 

 

“ เออ กูถามหน่อยมึงรู้จักคนชื่อ นิวไหมวะ”

ผมลองถามเรื่องคนชื่อ นิว ดูครับเผื่อไอ้นาวจะรู้จักเพราะเห็นมันสนิทกับไอ้พรตมากกว่าเพื่อน

“ อ่าวพี่รู้จักนิวด้วยเหรอ” มันดูตกใจครับ

“ ทำไมกูถึงรู้จักไม่ได้วะ”

ผมถามมันอีกครั้งผมเสียงที่เข้มข้นตามอารมณ์

“ ป่าวๆ พี่ ผมแค่สงสัย เพราะมีไม่กี่คนที่รู้จัก”

มันรีบอธิบายจนลิ้นพันกัน

 

 

 

 

“... วันที่ไอ้พรตมันเมาไปค้างที่ห้องกู

มันละเมอเรียกชื่อนี้ออกมา”

ตอนแรกผมจะไม่บอก

แต่ถ้าไม่บอกดูท่ามันจะไม่ยอมเล่าเลยบอกมันออกไป

 

 

 

“อ่อครับ ว่าแล้วเพราะปกติถ้าไอ้พรตไม่เมา

มันจะไม่พูดเรื่องของนิวผมเลยแปลกใจ

คือ จริงๆแล้วนิวมีชื่อว่า นินิว คนที่สนิทจะเรียกว่านิวเฉยๆ

 นิวเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับพวกผมเรียนปี1

 มาด้วยกันและเป็นแฟนกับไอ้พรต...”

 

 

 

 

สมองผมไม่อยากรับรู้อะไรแล้วครับ

ได้ยินชัดเจนแล้วว่า เค้าสองคนเป็นแฟนกัน

ตอนนี้ผมเจ็บจนคิดอะไรไม่ออกเลยครับ

 

 

                       -------------- To be Con.-----------------------

                                               

                                                แฟนเพจค่ะ

      https://www.facebook.com/pages/Magicz-Writer/209262329249156

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา