Destined love หล่อนักรักซะเลย

10.0

เขียนโดย African_violet

วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 10.04 น.

  3 ตอน
  1 วิจารณ์
  5,582 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 กันยายน พ.ศ. 2556 10.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

บทนำ

Destined love  หล่อนักรักซะเลย

บทนำ

 

ณ ไดมอนยูนิเวอร์ซิตี้

                ร่างสูงโปร่งในชุดยูนิฟอร์มมหาวิยาลัยกำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับกับหนังสือที่กองนับสิบเล่มซึ่งทั้งหมดนี้เธอจะต้องสรุปทำรายงานให้เสร็จภายในสามวัน  สามวันงั้นหรอให้ตายสิแค่คิดฉันก็อยากจะบ้าตายอยู่แล้ว นี่มันเวรกรรมอะไรของช้านนน

                “ฉันอยากจะบ้าตาย หนังสือกองเท่าภูเขาขนาดเนี่ยให้อ่านอย่างเดียวยังทำไม่เสร็จเลย แล้วนี่จะให้ฉันสรุปทำรายงานในเวลาสามวัน ใครมันจะไปทำทัน”

                ฉันออกปากบ่นกับเพื่อนสนิทอย่างเหลืออด  ให้ตายสิเรื่องน่าสลดแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นถ้าฉันไม่พลั้งปากด่ายัยหัวหน้าห้องตัวแสบนั่น ก็ใครจะไปทนได้หล่ะที่จู่ก็มีผู้หญิงมาสารภาพรักด้วย ฉันเป็นผู้หญิงนะไม่ได้เป็นผู้ชาย ด้วยความเหลืออดฉันเลยตะโกนใส่หน้ายัยนั่นว่า “ยัยโรคจิต” แล้วก็เดินหนีเท่านั้นเอง ไม่รู้แม่คุณเค้าจะเก็บไปแค้นอะไรหนักหนา พออาจารย์ฝากงานให้หล่อนถึงได้เอามาให้เธอตอนที่อีกสามวันจะต้องส่ง ใครมันจะไปทำทันฟร่ะ

“ แล้วใครใช้ให้แกไปด่าเ ค้าแบบนั้นหล่ะ  ผู้หญิงเค้ารักแรงเกลียดแรงนะเว้ย”

คนที่ตอบกลับมาไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก หมอนี่ชื่อซิดนีย์เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน ดูสิฉันอาภัพแค่ไหนขนาดฉันกลุ่มอกกลุ่มใจแทบตายคุณเพื่อนสุดที่รักมันยังนั่งโยนขนมใส่ปากหน้าตาเฉย ไม่สนใจกันเลยไอ้เพื่อนบ้า

“ก็ใครใช้ให้ยัยนั่นมารักฉันล่ะ ผู้หญิงด้วยกันหน่ะเว้ยแค่คิดก็สยองแล้ว รอแกมีผู้ชายมาชอบเมื่อไหร่เถอะแล้วแกจะเข้าใจฉัน”

“ช่วยไม่ได้แกอยากเกิดมาหล่อเองนิJ แล้วแกจะเอายังไงกับหนังสือพวกนี้"

“เอาไปพับถุงกล้วยแขกมั้ง ฉันก็ต้องนั่งอ่านนะสิ”

“งั้นก็จงอ่านต่อไปสู้ๆนะเพื่อนรัก”

“ไม่ใช่ฉันคนเดียวซิดแกต้องช่วยฉันทำด้วย”

“เกี่ยวอะไรกับฉันว่ะไอ้โซ  ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเว้ย”

“ซิดนีย์”

ฉันส่งเสียงหวานอ่อนเพื่อนรักอย่างเอาใจไม่รู้ละไม่ว่ายังไงซะอีตาซิดนีย์ก็ต้องช่วยฉัน ไม่อย่างงั้นละก็ฉันกับมันเห็นดีกันแน่

“น้า ถือว่าช่วยเพื่อนสาวตาฟ้าๆคนนี้แกจะใจร้ายปล่อยให้ฉันจมไอ้กองหนังสือบ้านี่ตายหรอ แกจำได้ไหมเวลาแกรถไฟชนกันใครห้ามทัพให้ ใครคอยเช็คชื่อแทนเวลาแกโดด ใครคอยส่งการบ้านให้แก ใคร..”

“พอๆ ช่วยก็ได้ว่ะลำเลิกบุญคุณจริงเลยนะ”

                “เยส น่ารักที่สุดเลย”

                ฉันกระโดดกอดซิดนีย์  ก่อนที่จะรีบปล่อยมืออกเมื่อมีสายตานับสิบคู่มองตรงมาที่พวกเรา เป็นสายตาที่รับรู้ได้ว่าคนมองมีความคิดน่ากลัวอยู่ในสมอง

                “แกดูเคะกับเมะคู่นั้นดิ น่ารักเนอะ”

                เด็กสาวกลุ่มนึงชี้มาทางพวกฉัน  แถมพวกหล่อนยังทำหน้าตาฟินไปถึงฟินแลนด์แล้ว ขอร้องอย่ามาจิ้นฉันกับซิดนีย์ได้ไหมจะอ้วก แล้วเคะกับเมะคืออะไรรรรรรรรรรร

                “แกนี่มัน”

                “เออ ฉันมันผิดหนิที่เกิดมาหน้าเหมือนผู้ชายอ่ะL”

                “โซนาร์ฉันก็มีเรื่องให้แกช่วยเหมือนกันว่ะ”

                “ช่างมันก่อนเถอะ รีบๆปั่นไอ้รายงานบ้านี่ให้เสร็จก่อนเถอะ”

                “ถ้าฉันทำมันให้เสร็จแกจะช่วยฉันใช่ไหม”

                “เออๆๆ ช่วยก็ได้ถ้าแกทำเสร็จนะ”

                “งั้นเอามาหนังสือมาพรุ่งนี้มารอรับได้เลย

                “แกพูดจริงอ่ะ”

                “ถ้าแกตกลงจะช่วยฉัน ฉันก็ช่วยแกwin win กันทั้งสองฝ่าย จะพูดมากทำไมรีบหาข้อมูลเข้าไปสิเดี๋ยวรายงานก็ไม่เสร็จหรอก”

                ซิดก้มหน้าก้มตาทำงาน จนฉันแทบจะไม่ต้องจับคอมพิวเตอร์เลย ซิดพิมพ์ทุกอย่างลงไปในนั้นอย่าง   คล่องแคล่วไม่ต้องสงสัยหรอกว่ามันทำได้ยังไงก็ไอ้เนี่ยมันสอบเข้าได้ที่หนึ่งของมหาวิทยาลัย แค่เปิดผ่านก็ทำงานได้สบายอยู่แล้ว แต่หมอนี่มันจะตั้งอกตั้งใจทำงานเกินไปแล้วนะ ฉันรู้สึกร้อนๆหนาวๆยังไงชอบกล ฉันว่ามันต้องหาเรื่องเดือดร้อนมาให้แก้ไขอีกแน่เลย

                “อ่ะรายงานที่แกขอให้ทำ ฉันทำให้เสร็จแล้ว”

                “ขอบใจมาก เพื่อนรัก”

                “ไม่ต้องขอบใจ แกรีบเอารายงานนี้ไปส่งเถอะแล้วพรุ่งนี้มาเจอกันฉันที่สนามบินเซเรท เข้าใจ”

                “ไปทำไมที่สนามบิน”

                “เถอะน่า แกสัญญาแล้วนะว่าจะช่วยฉัน”

                “ค่ะๆๆๆ ทวงบุญคุณคืนหรอ”

                “แน่นอน คนอย่าซิดนีย์ เซเรททำอะไรต้องมีผลตอบแทน”

                “เหอะ ไอ้คนน้ำใจงาม”

                “ขอบคุณมากที่ชม แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะบาย”

                พอมัน้ดินไปตาขวาฉันก็กระตุกขึ้นมาดื้อๆ แถมยังกระตุกแบบไม่หยุดอีกต่างหาก สงสัยเร็วนี้ต้องมีงานเข้าแน่เลย ช่างเถอะไหนๆวันนี้บอดี้การ์ดฉันก็มาสายแล้วแอบหนีเที่ยวดีกว่า  ฉันขับรถวอลโว่ของตัวเองออกจากมหาลัย  แต่ขับอยู่ดีก็มีหญิงสาววัยกลางคนโดนผลักมาชนหน้ารถ ตามหลักการของคนดีฉันสมควรลงไปดูใช่ไหม

                “เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ“

                ฉันลงไปถามพี่สาวคนนั้นดูเธอกำลังมีเรื่องกับผู้ชายกลุ่มนึงที่กำลังเดินมาทางเรานะ หนึ่งในสองคนนั้นตะคอกใส่พี่สาวเสียงดัง

                “แกจ่ายค่าคุ้มครองมาซะดีๆ ถ้าไม่อยากตาย”

                “ฉันไม่จ่าย”

                “ไม่จ่ายใช่ไหม เพี๊ยะ”

                ชายร่างยักษ์จะเข้ามาตบหน้าพี่สาวคนนี้ ฉันเลยเอาตัวเองขวางไว้โดยอัตโนมัติไม่ใช่คนดีอะไรหรอกนะแต่มันยังไม่ทันคิด ผ่ามือหนาเลยซัดเข้าหน้าฉันเต็มที่แรงตบทำให้หน้าฉันสะบัด ถ้าหน้าฉันเสียโฉมจะทำยังไงอ่ะ แต่ช่างเถอะสนใจสถานการณ์ตรงหน้าก่อนดีกว่า(ช้าไปไหมย่ะ) ตบฉันมาฉันก็เจอชวนกลับด้วยหมัดละกัน

                พลั่ก ก ก

“กล้าดียังไงมาตบหน้าฉัน”

                 “เฮ้ยไอ้หน้าตุ้ดแกกล้าต่อยหน้าฉันหรอ”

                หน้าตุ๊ดงั้นหรอ เจ็บปวดที่สุด Lกับอีแค่หน้าสวยกระเดียดไปทางหล่อทำไมต้องหาว่าฉันเป็นตุ๊ดด้วยนะ พูดแบบนี้นี่คือไม่เคยตายใช่ไหม
                “ถ้าไม่อยากตายก็อย่ามาเรียกฉันมาตุ๊ด”

                “พวกฉันจะเรียกแกจะทำไม หลีกไปซะไอ้หน้าตุ๊ด  ”

                ไอ้พวกนี้วอนหาที่ซะแล้วเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับน้องสาวยากูซ่า ก็ดีมีกันเวลาฝึกเทควันโดทีไรก็มีแต่คนออมมือให้ทีนี้แหละจะได้ฝึกอย่างเต็มที่กับคนจริงๆสักที ฉันแสยะยิ้มด้วยความสงสารไอ้คนพวกนี้นิดหน่อยซวยจริงนะหาเรื่องใครไม่ยักจะหามาหาเรื่องคนอย่างโซนาร์

                พลั่ก พลั่ก ตุ้บ โครมมมมมม ฉันปล่อยหมัดออกไปไม่ต่ำกว่าสิบหมัด แถมยังรัวลูกเตะใส่ไอ้บึกที่พยายามจะเข้ามาล๊อคตัวฉันไว้ให้เพื่อนมันจัดการได้ง่ายๆแต่มันไม่ง่ายอย่างงั้นหรอกจะจับฉันได้ก็ต้องมีความเร็วมากกว่าฉันก่อน ไม่ถึงสิบนาทีร่างของนักเลงสองคนล้มลงไปกองกับพื้น

                “หึหึ แพ้ตุ๊ดนี่มันน่าอายจริงเลยนะ”

                ฉันยิ้มเยาะเย้ยคนตรงหน้า ในขณะที่ฉันกำลังจะไปต่อยมันซ้ำอีกสองสามหมัดมือหนาของใครบางคนก็มากระชากตัวฉันออกไปก่อน ฉันเงื้อมัดขึ้นเตรียมจะสวนกลับแต่ก็ต้องชะงักกับใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ของอีกฝ่าย สายตาดุดันแต่อ่อนโยนแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ยูกิซัง เพื่อนสนิทพี่ชายฉัน

                “เกิดอะไรขึ้นครับ โซนาร์”

เสียงทุ้มเอ่ยถามแบบไม่สบอารมณ์ เวรล่ะรู้ได้ไงฟร่ะว่าฉันอยู่แถวนี้ นี่คงไม่ได้แอบฝังชิพสัญญาณไว้ในสมองฉันหรอกนะ น่ากลัวไปแล้วนะยูกิซัง

                “ยูกิซัง*ตามมาได้ไงอ่ะ”

                “เรื่องนั่นมันไม่สำคัญหรอกครับ ตอบมาก่อนดีกว่าว่าหน้าเธอไปโดนอะไรมา”

                “ตอบก็ได้ ทำไมยูกิซังต้องทำหน้าโหดใส่ฉันด้วยล่ะT^T”

                “ก็ตอบมาสิครับ อย่าบอกว่ามาจากคนพวกนี้”

                “ทำนองนั่น”

                “ว่าไงนะ พวกแกจัดการ”

                ยูกิซังหันไปพยักเพยิกกับคนที่ติดตามมา เฮ้ยจะร้อนไปไหนแค่นี้พวกมันก็เกือบตายแล้วนะ  ด้วยความที่เป็นคนดี(เหรอ)ฉันเลยเข้าไปขวางก่อนที่จะเกิดเรื่องวุ่นวายมากกว่านี้

                “ใจเย็นสิคะ ยูกิซัง”ฉันเดินเข้าไปเกาะแขนเขา

                “โซจัง อย่าบอกนะครับว่าจะห้ามพี่”

                “ง่า อย่ามีเรื่องกันเลยนะ ฉันไม่อยากให้มันวุ่นวายไปมากกว่านี้กลับบ้านกันเถอะนะคะ”

                “โซนาร์”

                “นะคร้าาาา”

                ดูเหมือนครั้งนี้ถ้าฉันแค่ทำเสียงออดอ้อนคงไม่พอ ฉันเลยจัดเต็มทั้งหน้าตาท่าทางแทบจะเอาหน้าถูแขนเค้าอยู่แล้ว เพราะมั่นใจว่าทำแบบนี้แล้วคนตรงหน้าต้องยอมตามใจเหมือนทุกครั้งและดูเหมือนครั้งนี้ก็ด้วย

                 “เฮอะ อย่างนี้ทุกที”

                ยูกิซังพูดเสียงหน่ายๆ แต่ก็ยอมทำตาม เขาหันไปสั่งให้ลูกน้องให้หยุดหลังจากกระทืบต่อมาพักนึงแล้ว แต่ก็มิวายขู่ไอ้พวกนั้นพี่ชายฉันนี่เท่ห์ซะมัดเลยอ่ะ ปลื้มม>///<

                “จำใส่หัวพวกแกไว้นะอย่ามายุ่งกับคนของฉันอีก แล้วก็ลืมไสหัวไปไกลๆก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”

                จบคำพูดยูกิซังพวกนั้นก็รีบเผ่นแนบไปเลย ฉันเลยก้มลงเก็บของที่ตกอยู่บนพื้นส่งคืนให้พี่สาวคนนั้น พี่สาวคนนั้นทำท่ากล้ากล้ากลัวกลัวแต่ก็เดินเข้ามารับของคืน มีอะไรน่ากลัวตรงไหนหรอ??(ใครไม่กลัวแกก็แปลกแล้ว)

                “พี่ขอบคุณหนูมากนะ ถ้าไม่ได้หนูพี่คงแย่แน่ๆเลย”

                “ไม่เป็นไรหรอกคะ”

                “แต่พี่อยากจะตอบแทนหนูจ๊ะ”

                “ตอบแทนหนู  ยังไงหรอคะ”

                “เอาอย่างงี้เดี๋ยวพี่ดูดวงให้เอาไหม พี่เป็นหมอดู”

                “ก็ดีคะ”ฉันยกมือขึ้นพี่สาวคนนั้นยกมือฉันขึ้นมาดู

                “ไร้สาระ”ยูกิซังพูด

                “หึพวกโลกแคบ”

พี่สาวพูดตอกกลับ สองคนนั้นจ้องตากันอย่างฟาดฟันนี่จะทำสงครามเย็นกันหรือไงเนี่ย ฉันเลยต้องทำอะไรเพื่อทำลายสถาณการณ์น่าอึดอัดตอนนี้

                “เออ ฉันว่ายูกิซังไปรอในรถก่อนดีกว่าไหม”

                “ดี พี่ก็ไม่อยากฟังอะไรแบบนี้หรอก”

                ยูกิซังกำลังจะเดินไปขึ้นรถ พี่หมอดูคนสวยก็ตะโกนไล่หลังด้วยคำที่ทำให้ยูกิซังหยุดชะงัก แล้วหันกลับมามองด้วยสายตาเอาเรื่อง

                “หรอ นายไม่อยากรู้หรอว่าน้องสาวคนนี้จะเจอเนื้อคู่เร็วๆนี้”

                “แล้วไง”

                “ข่าวดีก็คือมันไม่ใช่นายยังไงล่ะ เออช่วงนี้หนูมีดวงได้เดินทางไกลนะ ถ้ามีเหตุการณ์ที่ทำให้หนูได้ไปต่างที่พี่แนะนำให้หนูตกลงทันทีเพราะมันจะทำให้หนูพบเจอสิ่งดีๆในชีวิตไม่ต้องมาจมอยู่กับบางอย่างแย่ๆแถวนี้ ความซวยมันจะได้หมดไปจากชีวิตหนูสักทีนะ”

                มีแอบแขวะยูกิซังด้วย ตอนนี้เชื่อเลยว่าตอนนี้ยูกิซังคงโกรธจนฆ่าคนได้แล้วละ ถึงฉันจะอยากพายูกิซังกลับก่อนที่จะฆ่าใครตายแต่ฉันอยากรู้มากกว่าว่าใครที่เป็นเนื้อคู่ฉัน เออฉันก็แอบเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่นิดหน่อย

                “เนื้อคู่หรอคะ แล้วรูปร่างหน้าตาเค้าเป็นยังไงคะ”

                “เค้าก็....”

                ~Today I don't feel like doing anything I just wanna lay in my bed ~ ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู สงสัยถ้ากลับบ้านช้าอีกนิดนึงพี่เชต้องอาละวาดบ้านแตกแน่เลย

                “อ่า โทษทีนะคะหนูคงต้องกลับบ้านแล้ว”

                “น่าเสียดายจัง โชคดีนะจ๊ะ”

                ยูกิซังให้คนขับรถฉันกลับแล้วให้ฉันไปนั่งในรถตัวเอง ตอนแรกฉันก็ยืนยันที่จะขับรถกลับบ้านเองอ่ะนะแต่พอเห็นสายตาฟาดฟันของเขา ฉันก็เลยทำได้แต่เงียบแล้วยอมเดินตามไปแต่โดยดี ต้องขอบคุณยูกิซังที่อดทนไม่ดุฉันต่อหน้าลูกน้องตัวเองแต่พออยู่บนรถกันสองคนเหอะ พี่แกเปิดฉากบ่นไม่ยั้งเลย

                “ทำไมไม่รอให้คนขับรถมารับครับ”

                “ขอโทษคะ ก็ใครมันจะไปรู้หละว่าวันนี้ยูกิซังจะมา”

                “ถึงพี่จะมาหรือไม่มาโซก็ควรกลับพร้อมบอดีการ์ดนะครับ ไม่ใช่อยากจะกลับก็กลับมันอันตรายรู้ไหมถ้าเกิดโซเป็นอะไรขึ้นมาเชกับพี่จะทำยังไงครับ”

                “คร้าบ แต่ฉันก็ไม่เป็นไรนี่คะ”

                “ไม่เป็นไรแล้วแผลปากละ จะให้พี่อธิบายกับพี่ชายเราว่าไงหึ”

                “ก็บอกว่าฉันสะดุดยอดหญ้าหน้ามหาวิทยาลัยก็ได้นี่”

                “โซคิดว่าเชมันโง่นักหรอ คิดว่าเชมันแยกแผลหกล้มกับโดนตบไม่ออกหรอครับ”

                “ ก็ถ้ายูกิซังช่วยยืนยันยังไงเชนี่ซัง*ก็เชื่อ ยูกิซังช่วยฉันหน่อยนะ”

                “แล้วพี่ควรช่วยโซโกหกหรอครับ”

                “นะคะ ฉันสัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่ดื้อไม่ซนเชื่อฟังยูกิซังทุกอย่าง”

                “แน่ใจนะว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่โซหาเรื่องเจ็บตัว”

                “สัญญาค่ะ ตกลงว่ายูกิซังจะไม่บอกเชนี่ซังแล้วใช่ไหมค่ะ”

                “อืม แล้วพี่เคยขัดใจเด็กดื้อแบบโซได้หรอ”ยูกิซังมองฉันแล้วระบายยิ้มออกมา

                “รักยูกิซังที่สุดเลย”

                เอี้ยดดดดดดดดดดด จู่ยูกิซังก็เหยียบเบรกกะทันหัน ฉันพูดอะไรผิดหรอก็พี่ชายฉันน่ารักขนาดนี้ฉันจะไม่รักได้ยังไง ทำไมต้องทำหน้ากระอักกระอ่วนใจขนาดนั้นด้วย เอ๊ะทำไมยูกิซังถึงได้หน้าแดงขนาดนั้นนะอากาศร้อนหรอ ฉันว่าตอนนี้มันออกจะหนาว

                “ฉันพูดอะไรผิดหรอค่ะ ก็ยูกิซังออกจะเป็นพี่ชายที่น่ารัก”

                “ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่ตกใจนิดหน่อย”

                “แต่ฉันว่ายูกิซังหน้าแดงมากๆเลยนะ ไม่สบายหรือเปล่าค่ะ”

                “ช่างเถอะ พี่ว่าเรารีบกลับบ้านก่อนที่ไอ้เชมันจะอาละวาดดีกว่า”

                “เอางั้นก็ได้คะ”

                ยูกิซังตั้งใจจะตัดบทการสนทนาหุบปากก็ได้ชิ  พี่ชายคนนี้ก็แบบนี้อ่ะอยากพูดอะไรเขาจะพูดออกมาเอง โดยที่ฉันไม่ต้องซักไซ้แต่ถึงบทที่ไม่อยากจะพูดต่อให้ฉันแง้มปากยังไงเค้าก็ไม่บอกหรอกเพราะงั้นอย่าเปลืองน้ำลายเลยดีกว่า  

*โอนี่ซัง – พี่ชาย หรืออาจใช้ชื่อของผู้ชายแทนคำว่า โอ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา