The Esper : Evolution of collapse

-

เขียนโดย ขนนกแดง

วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 02.32 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,793 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 เมษายน พ.ศ. 2556 00.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) อนาคตที่ตื่นขึ้น part 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          เจรัสตกใจตื่นแล้วพบว่าอิริกกำลังเขย่าตัวเขาอยู่ "ตื่นได้แล้วเจรัส เกิดเรื่องใหญ่แล้ว"

          "อะไร..?"เจรัสยังไม่เข้าใจสิ่งที่อิริกพูด แต่อิริกมีท่าทีจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อตั้งสติได้เจรัสก็ได้ยินเสียงเด็กๆกำลังร้องไห้ เสียงสัญญาณเตือนภัยที่ดังมาจากด้านนอก เสียงปืนและเสียงการต่อสู้ต่างๆ ทุกอย่างกำลังวุ่นวายไปหมด "นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ?"

          "ผมก็ไม่รู้ แต่ฟังจากเสียงสัญญาณเตือนภัยแล้วน่าจะเป็นคำสั่งให้อพยพฉุกเฉิน เสียงปืนดูเหมือนจะดังมาจากทางเดินหลัก แล้วผมก็ได้ยินเสียงร้องแปลกๆด้วย" อิริกมีท่าทีกังวน

          "เดี๋ยวนะๆ หมายความว่ายังไงให้อพยพ จะให้เราไปไหน ไปยังไง พวกเจ้าหน้าที่กับคนอื่นๆล่ะ แล้วตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...." เจรัสเกิดคำถามมากมาย

          "ใจเย็นๆนะเจรัส ผมเองก็ยังไม่รู้อะไรพอๆกับเจรัสนั่นแหละ ผมพยายามติดต่อเจ้าหน้าที่แล้วแต่ไม่มีใครตอบเลย ดูเหมือนพวกเขาก็หนีกันไปแล้ว" มือของอิริกจับบ่าเจรัสไว้แน่น เจรัสรู้สึกได้ทันทีว่ามือนั้นกำลังสั่นอยู่ อิริกกำลังกลัว

          "เรารีบไปกันเถอะ อยู่ที่นี่คงไม่ปลอดภัย" เจรัสพูดขึ้นในที่สุด

          "งั้น ผมจะไปตามพวกเด็กๆนะ" อิริกพูดจบก็วิ่งออกไป

          เจรัสไม่ได้หยิบอะไรติดตัวมานอกจากเครื่องฉายภาพของเขา เมื่ออิริกพาพวกเด็กๆมารวมกันครบแล้ว พวกเขาก็พากันออกจากห้อง เมื่อเปิดประตูออกมาด้านนอก เขาก็พบกับความโกลาหล ผู้คนต่างพากันวิ่งไปยังประตูทางออก "มันเกิดอะไรขึ้นครับ" เจรัสพยายามตโกนถาม แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจ

          เจรัสกับทุกคนวิ่งไปกับฝูงชนอย่างยากลำบากจนมาถึงประตูเขตที่พัก มันถูกเปิดทิ้งไว้เพื่อให้ทุกคนอพยพ มีพนักงานรักษาความปลอดภัยกว่าสามสิบคนคอยควบคุมสถานการณ์อยู่ อาวุธที่พวกเขาแต่ละคนถืออยู่ตอนนี้ดูจะอันตรายกว่าปืนพกที่เจรัสเห็นอยู่เป็นประจำหลายเท่า มันไม่สำคัญว่าพวกเขาเอามาจากไหน แต่พวกเขาเอามันมาใช้กับอะไรต่างหาก เจรัสยังสังเกตเห็นด้วยว่ามีหกถึงเจ็ดคนที่สวมกำไลข้อมือหน้าตาแปลกๆไว้ด้วย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าพวกเขาคือเอสเปอร์

          "ทุกคนไปที่เวิร์ ให้เร็วที่สุด ตรงนี้ไม่ปลอดภัย เราจะอพยพภายใน 30 นาที" เจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยตะโกนออกคำสั่ง ทุกคนรีบวิ่งไปตามทางเดินหลักตรงไปยังส่วนของสถานีขนส่งของศูนย์วิจัยให้ทันเวลา

          เวิร์มเป็นชื่อที่ทุกคนใช้เรียกยานพาหนะสำหรับเดินทางใต้พื้นดิน มันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการเดินทางระหว่างโซนต่างๆ ซึ่งจะถือว่ามันคือสิ่งที่ช่วยชีวิตเจรัสยังไว้เลยก็ว่าได้ เพราะถ้าไม่มีมันเขาคงมารับการรักษาที่นี่ไม่ทัน มันจุคนได้หลายร้อยคน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่อยู่ในสถานีวิจัยนี้แน่ๆ

          เสียงปืนยังคงดังอย่างต่อเนื่องจากอีกฟากของทางเดินหลัก สลับกับเสียงร้องแสบแก้วหูของตัวอะไรสักอย่าง ขณะที่ทุกคนกำลังชุลมุนกันอยู่อิริกก็เข้ามากระตุกเสื้อของเจรัส "แย่แล้วเจรัส" อิริกมีท่าทีตกใจ

          "จะมีอะไรแย่กว่านี้อีกล่ะเนี่ย" เจรัสหายใจหอบ

          "ยูอา...ยูอาหายไป ผมไม่เห็นเขาเลย" อิริกตอบด้วยเสียงที่เหนื่อยหอบเช่นกัน

          "ห๊ะ!! ยัยเปี๊ยกหายไป เป็นไปได้ไง ตอนออกมาฉันยังเห็นอยู่เลย" เจรัสสับสน

          "ปีเตอร์บอกว่าเห็นยูอาวิ่งกลับไปทางเดิม ผมว่าเธอต้องกลับไปที่ห้องแน่ๆ"อิริกตอบ

          "ฉันจะกลับไปดูเอง นายไปดูพวกเด็กๆให้ดีนะ" เจรัสพูดขึ้น

          "แต่มันอันตรายนะ ให้ผม...."

          "ไม่.. นายต้องอยู่กับเจ้าพวกนั้น ฉันจะไปเอง" เจรัสยื่นคำขาด

          "แต่..."

          ก่อนที่อิริกจะทันได้คัดค้านเจรัสก็รีบออกวิ่งสวนทางกับผู้คนกลับไปที่เขตที่พักโดยไม่มีใครสังเกตหรือสนใจ เขาพยายามวิ่งกลับไปที่ห้อง แต่ด้วยความจำที่พึ่งพาไม่ค่อยได้บวกกับความรีบร้อน เจรัสก็ต้องเสียเวลาไม่น้อยไปกับการหลงทาง เขาใช้เวลาอยู่หลายนาทีกว่าจะหาห้องของตัวเองเจอ เขาเปิดห้องเข้าไปด้วยอาการที่เหนื่อยจนแทบยืนไม่ไหว "ยะ... ยัยเปี๊ยก.. ทะ...เธออยู่ไหน.. " เจรัสพยายามตะโกนเรียกด้วยเสียงขาดๆหายๆจากอาการหอบ "ออก... มาได้... แล้ว...นะ นี่.. ฉันเจรัส..เอง..."

          ยูอาวิ่งออกมาจากที่ซ่อน ในมือถือตุ๊กตาหมีสีชมพูไว้แน่น เธอร้องไห้แล้ววิ่งเข้ามากอดเจรัส "พี่เอรัดหนูกลัว..ฮื่ออออๆๆ"

          "ฉะ...ฉันชื่อ เจรัส.. ต่างหาก.." เจรัสพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดต่อ "เราต้องรีบหนี แล้วนะ... อยู่ที่นี่ ไม่ได้...มันอันตราย.."

          "ฮื่ออออ..แต่ หนูกลัวนี่" เด็กหญิงสะอื้น

          เจรัสสูดหายใจเข้าลึกๆอีกครั้ง "ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่ทั้งคน ไม่มีใครทำอะไรเธอได้หรอก"เขาพยายามทำท่าทางให้ดูมั่นใจสุดๆ ซึ่งนั่นไม่จริงเลย ฉันเองก็กลัวเหมือนกันแหละ

          ยูอาดูจะสบายใจขึ้น แต่เจรัสรู้ดีว่าตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว เขาต้องรีบไป เสียงปืนกับเสียงร้องฟังดูใกล้เข้ามา เขารีบพายูอาวิ่งออกมาทันทีแม้ว่าเขาจะยังไม่หายเหนื่อย โชคดีที่ครั้งนี้เขาไม่ได้หลงทาง เจรัสพายูอาวิ่งมาถึงประตูเขตที่พักอีกครั้งซึ่งตอนนี้ไม่มีผู้คนแล้ว ดูเหมือนทุกคนจะไปที่สถานีขนส่งกันหมดแล้ว เหลือเพียงพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ตั้งแนวป้องกันอยู่

          มีคนหนึ่งเห็นเจรัสกับยูอาเข้า "เธอสองคนมัวทำอะไรอยู่น่ะ รีบไปเดี๋ยวนี้เลย เขาจะเริ่มอพยพกันแล้วนะ ไปเลย รีบเลย เดี๋ยวจะไม่ทัน" พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นตะคอกไส่ เจรัสไม่ได้ตอบอะไร เขาเหนื่อยเกินกว่าจะพูดด้วยซ้ำ เจรัสกัดฟันพายูอาวิ่งต่อไป เพื่อไปสถานีขนส่งให้ทันเวลา ซึ่นนั่นก็เป็นระยะทางที่ไม่น้อยเลย

          "พวกมันมาแล้ว!!!" เสียงพนักงานรักษาความปลอดภัยอีกคนตะโกนขึ้นด้านหลัง ตามด้วยเสียงปืนที่กระหน่ำยิงจากปืนกว่าสามสิบกระบอก แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับเสียงร้องคำรามของเจ้าสิ่งนั้น มันฟังดูโกรธเกรี้ยวและหวยหวนอย่างที่สุด เมื่อได้ยินเสียงนั้นในระยะที่ใกล้แบบนี้ เจรัสก็ถึงกับตกใจและหกล้ม เขาพยายามจะลุกขึ้นแต่ด้วยอาการเหนื่อยหอบที่เป็นอยู่ เขาแทบจะขยับตัวไม่ได้

          "เธอ.. รีบ... ไปก่อนเลย... เดี๋ยวจะไม่ทัน.." เจรัสบอกกับยูอาที่กำลังหันกลับมา

          "กรี๊ดดดดด!!!" เด็กหญิงมีอาการช็อกสุกขีด เธอร้องให้แล้ววิ่งเขามากอดเจรัสไว้ทันที ด้วยสัญชาตญาณเจรัสรีบหันกลับไปมองสิ่งที่ยูอาเห็น แล้วมันก็ทำให้เขาช็อกไม่ต่างกับยูอาเลย

          มันมีแขนและขาอย่างละสองข้างไม่ต่างจากมนุษย์ เพียงแต่มันไม่มีทางเป็นมนุษย์ได้ มันมีทั้งหมดสี่ตัว เจ้าตัวแรกที่เจรัสเห็นสูงกว่าสามเมตร แขนขาใหญ่โตจนผิดรูปผิดร่าง เล็บของมันยาวอย่างน่ากลัว ส่วนที่ดูเหมือนจะเป็นกล้ามเนื้อปริแตกจนเห็นเส้นเลือด ส่วนหัวของมันคืออะไรที่น่าเกรียดที่สุดเท่าที่เจรัสเคยเห็นมา มันดูบิดเบี้ยวไปหมด จมูก หู และตาก็ดูจะอยู่ผิดที่ผิดทางอย่างน่าประหลาด ปากไม่มีกรามล่างลิ้นของมันจึงลงมาห้อยอยู่อย่างน่าเกรียด ส่วนตัวอื่นๆก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเลยสักนิด ร่างของพวกมันเต็มไปด้วยรอยแผลจากกระสุนปืน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็วิ่งฝ่าเข้ามาราวกับไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ

          พวกที่เป็นเอสเปอร์เริ่มจะใช้พลังจิต มีคนหนึ่งก้มลงแล้วใช้มือทาบไปบนพื้น มันดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อเจ้าตัวประหลาดนั่นวิ่งเข้ามาใกล้ เท้าของพวกมันก็จมลงไปในพื้นทันทีราวกับที่พื้นนั้นเป็นบ่อโคลนดูด มันพยายามดึงเท้าขึ้นแต่ก็ยิ่งจมลงไปมากกว่าเดิม เจรัสคิดว่าคงเป็นความสามารถในการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นหรืออะไรสักอย่าง(Masskinesis) พวกคนที่เหลือระดมยิงไส่เจ้าสัตว์ประหลาดอย่างต่อเนื่อง เอสเปอร์อีกคนปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาช็อตเจ้าตัวประหลาดทันที (Electrokinesis)พวกมันสงเสียงร้องที่ปวดแก้วหูยิ่งกว่าเดิม

          เจรัสพยายามตั้งสติแต่ภาพที่เขากำลังเห็นอยู่นี้ก็ไม่ใช่อะไรที่เขาจะเข้าใจได้ง่ายๆเลย ยูอายังเอาแต่ร้องไห้แล้วกอดเจรัสไว้แน่น

          เอสเปอร์อีกคนใช้ปืนยิงไปที่เพดานหลายนัด น้ำปริมาณมากทะลักลงมาจากท่อส่งน้ำข้างบน แต่น้ำที่ทะลักออกมากลับไม่ได้ตกลงพื้นอย่างที่ควรจะเป็น มันรวมตัวกันและหมุนวนรอบตัวชายคนนั้น เขาใช้พลังควบคุมมัน(Aquakinesis) น้ำปริมาณมากถูกบีบอัดให้เป็นก้อนกลมๆขนาดเท่าลูกฟุตบอล จากนั้นเขาก็ควบคุมให้มันพุ่งเข้าใส่เจ้าตัวประหลาด ในจังหวะเดียวกันเจรัสก็รู้สึกถึงอุณหภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ลูกบอลน้ำกระแทกเข้าที่ไหล่ของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง มันระเบิดออกทันที และเหมือนว่ามันจะรุนแรงพอที่ทำให้แขนอันใหญ่โตของเจ้าสัตว์ประหลาดขาดกระเด็น ทันใดนั้นน้ำปริมาณมากที่ระเบิดออกมาก็กลายเป็นน้ำแข็งทันทีจากการใช้พลังจิตของเอสเปอร์อีกคน(Cryokinesis) ในชั่วพริบตาเจ้าสัตว์ประหลาดทั้งหมดก็ถูกจับแช่แข็งโดยที่อีกครึ่งตัวจมอยู่ในพื้นซีเมนต์ พวกเขาจัดการได้แล้ว หรืออย่างน้อยมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น

          ไม่มีใครหันมาสนใจเจรัสกับยูอา จนกระทั่งเสียงปืนหยุดลง และแน่นอนเจ้าพวกสัตว์ประหลาดก็เงียบสนิท ที่เหลืออยู่จึงมีเพียงเสียงร้องไห้ของยูอา พนักงานรักษาความปลอดภัยทุกคนหันมามองพร้อมกัน "เฮ้ย! นี่เธอสองคนยังอยู่อีกเหรอ จะบ้ารึไง เดี๋ยวก็ได้ตายหรอก" คนหนึ่งพูดขึ้น "ออกไปจากตรงนี้ซะ ไป!!.." ชายคนนั้นไล่

          เจรัสเข้าใจดีว่าเขาไม่ควรจะมาอยู่ตรงนี้ เขาพยายามรวบรวมสติและเรี่ยวแรงที่ยังเหลืออยู่ ต้องรีบไปแล้ว "หยุดร้องได้แล้วยัยเปี๊ยก พวกมัน เอ่ออ...ตายแล้ว" เจรัสหันไปมองเจ้าสัตว์ประหลาดอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ ซึ่งตอนนี้พวกมันก็ได้กลายเป็นก้อนน้ำแข็งไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย "รีบไปหาพวกอิริกกันเหอะ" ทั้งสองพากันลุกขึ้นวิ่ง เพื่อจะไปให้ทันการขนย้าย

          "เดี๋ยวก่อน...ตุ๊กตาของหนู.." ยูอาพูดขึ้นด้วยเสียงที่สะอื้น เธอชี้ไปที่ตุ๊กตาที่ตกอยู่ห่างออกไป เจรัสมองไปที่พวกพนักงานรักษาความปลอดภัย ตอนนี้พวกนั้นกำลังยุ่งอยู่กับการตรวจสอบตัวประหลาดแช่แข็ง เจรัสถอนหายใจ

          "ok เดี๋ยวฉันไปเอามาให้ รออยู่ตรงนี้นะ" ถึงเจรัสจะไม่อยากเสียเวลาแต่เขาก็จำเป็นต้องกลับไปเอาตุ๊กตาเพราะรู้ดีว่ายูอารักมันมาก เด็กหญิงปาดน้ำตาแล้วพยักหน้ารับ

          เจรัสรีบวิ่งกลับไป เขาก้มลงเก็บตุ๊กตา จังหวะนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเอะอะของพวกพนักงานรักษาความปลอดภัย เจรัสนึกว่าเขาจะโดนด่าอีกรอบ แต่เมื่อเจรัสหันไปมองทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก น้ำแข็งที่ใช้ขังเจ้าตัวประหลาดระเปิดออก เศษน้ำแข็งกระจัดกระจายไปทั่ว แรงกระแทกทำให้พนักงานรักษาความปลอดภัยหลายคนบาดเจ็บหนัก และหลายคนตายทันทีรวมถึงเอสเปอร์คนที่ทำพื้นเป็นโคลนด้วย เอสเปอร์อีกคนใช้พลังสร้างเกราะป้องกันขึ้งมาได้ทันทำให้พวกเขาส่วนหนึ่งไม่ได้รับอันตราย (Barrier)

          พวกตัวประหลาดเป็นอิสระจากการแช่แข็ง มันร้องคำรามด้วยความโกรธแค้น ดวงตาที่อยู่ผิดที่ผิดทางเป็นสีแดงกล่ำ มีควันลอยขึ้นตามตัวราวกับมันเป็นเครื่องทำความร้อน มันทุบพื้นจนแตกเป็นแนวยาวและดึงตัวเองขึ้นมาได้สำเร็จ การต่อสู้เริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พวกพนักงานรักษาความปลอดภัยดูท่าจะเสียเปรียบ พวกตัวประหลาดดูจะคลุ้มคลั่งหนักกว่าเดิม พวกมันวิ่งเข้าใส่พวกพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งนั่นมันก็ทางเดียวกับที่เจรัสอยู่ตอนนี้นั่นเอง และมันก็ห่างออกไปเพียงไม่กี่สิบเมตรเท่านั้นเอง เจรัสอาจจะคิดไปเองแต่เขารู้สึกว่าพวกมันตัวโตขึ้นแถมยังมีรูปร่างแปลกไปจากเดิมอีก

          แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องนั้น สัญชาตญาณบอกเจรัสว่า หนีให้เร็วที่สุด ไม่งั้นตาย!!.. เจรัสคว้าตุ๊กตาแล้วออกวิ่งทันที "วิ่งงงงง!!!.." เจรัสตะโกนบอกยูอาสุดเสียง เธอดูมีอาการหวาดกลัวสุดขีดและเริ่มร้องไห้อีกครั้ง แต่ก็รีบวิ่งหนีตามที่เจรัสบอก

          เสียงปืนที่ดังถี่เริ่มจะแผ่วลง เสียงร้องอย่างบ้าคลั่งของเจ้าตัวประหลาดสลับด้วยเสียงร้องที่ฟังดูเจ็บปวดทรมานของมนุษย์ เจรัสไม่กล้าหันกลับไปมอง แต่เขาก็ตระหนักดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร เขาทำได้เพียงวิ่งให้สุดชีวิต ยูอาวิ่งนำหน้าเขา และเจรัสมั่นใจว่ามีพวกมันตัวหนึ่งกำลังวิ่งตามหลังเขา และมันก็ใกล้เข้ามาแล้วจากเสียงร้องและเสียงฝีเท้าของมัน

          จะหนีทันไหมเนี่ย.. ในใจเจรัสคิดว่าเขาคงไม่รอดแล้วแน่ๆ มีอะไรบางอย่างลอยเฉียดหัวของเจรัสไป ถ้าดูไม่ผิด มันคือแขนที่สวมกำไลข้อมือของเอสเปอร์สักคนแถมเจ้าแขนนั่นยังไมยอมปล่อยปืนที่ถืออยู่เลย ยังไม่ทันได้ตกใจ เท้าของเจรัสก็ลอยขึ้นจากพื้น เขาลอยอยู่กลางอากาศสามถึงสี่วินาที ก่อนที่ตัวเขาจะกระแทกเข้ากับผนังอย่างแรง เจรัสรู้สึกราวกับโดนรถบรรทุกสักสิบคันชนเข้าอย่างจัง เขาจุกจนสำลัก หัวของเขาแตกจากการกระแทกกับผนัง ผมหยักศกสีดำของเขาเต็มไปด้วยเลือด

          "พี่เอรัดดด.." ยูอาหันกลับมา

          "น่ะ..หนีไป... เร็ว!!... รีบหนีไปเซ่ยัยบ้า!!!..... " เจรัสพยายามตะคอกไล่ยูอา ทั้งที่เขายังมีอาการมึนอยู่

          "แง่ๆๆๆๆ...." ยูอาร้องให้เธอดูสับสน แต่ก็ยอมวิ่งหนีไปอีกครั้ง

          เจ้าตัวประหลาดเดินตรงเข้ามาหาเจรัส มันยกกำปั้นขนาดมหึมาขึ้นแล้วทุบลงมาตรงที่ที่เจรัสอยู่ ด้วยสัญชาตญาณเจรัสกลิ้งตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด หมัดของเจ้ายักษ์กระแทกเข้ากับกำแพงจนพัง มันเหวี่ยงแขนอีกข้างใส่เจรัสทันที และโชคร้ายที่ครั้งนี้เขาหลบไม่ทัน เจรัสยกใช้แขนขึ้นมากันเอาไว้ เป็นอีกครั้งที่เจรัสต้องกระเด็นไปไกล เขาไถลไปตามพื้นหลายเมตรกว่าจะหยุดลง แขนของเขาปิดงอผิดรูป ดูเหมือนมันจะหักและนั่นก็รวมถึงกระดูกซี่โครงอีกหลายซี่ด้วย เจรัสกระอักเลือดออกมาและร้องด้วยความเจ็บปวด

          เจ้าตัวประหลาดวิ่งเข้ามาหาเจรัสอีกครั้ง เจรัสรู้สึกว่าสติของเขาเรือนลางไปทุกที เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้วด้วยซ้ำ ทุกอย่างมันอื้ออึงไปหมด แต่เขาก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถหนีได้อีกแล้ว เขาจึงพยายามคว้าอะไรก็ตามที่พอจะเป็นอาวุธได้ แม้เขาจะคิดว่ามันเป็นเพียงการดิ้นรนโง่ๆครั้งสุดท้ายก็ตาม

          เจรัสหยิบตุ๊กตาหมีของยูอาขึ้นมา มันเป็นสิ่งเดียวที่เขาหาเจอ "กะ..แก อย่า...เข้ามา...นะ..." เจรัสพูดอย่างยากลำบากพร้อมกันยกตุ๊กตาหมีขาดๆขึ้นมาขู่ แต่แน่นอนว่ามันไม่มีผลอะไรกับเจ้าตัวประหลาดเลย มันวิ่งเข้ามาเร็วขึ้นด้วยซ้ำ

          "ฉะ...ฉัน... เตือน...แกแล้วนะ.." เจรัสยังพยายาม เขารู้ดีว่ามันดูงี่เง่า แต่จะให้เขาตายโดยไม่ยอมทำอะไรเลยมันก็เป็นสิ่งที่เขารับไม่ได้จริงๆ อย่างน้อยเขาก็ต้องขู่มันไว้ก่อน

          เจ้าตัวประหลาดวิ่งเข้ามา มันจับข้อเท้าของเจรัสแล้วเหวี่ยงเขาขึ้นไปในอากาศโดยที่เจ้าหมีสีชมพูไม่ได้ช่วยอะไรเลย เจรัสกระแทกเข้ากับเพดานอย่างแรงแล้วตกลงมากองที่พื้น สภาพของเจรัสตอนนี้แทบไม่ต่างจากกองผ้าขี้ริ้วที่ไม่มีชีวิต เลือดไหลอาบเต็มหน้า ความรู้สึกต่างๆดูเรือนลางไปทุกทีแม้แต่ความเจ็บปวด เจรัสพยายามลืมตาแต่เขาก็มองเห็นได้รางๆเท่านั้น เขาเห็นเจ้าตัวประหลาดยกเท้าขึ้นกำลังและกำลังจะกระทืบเขา

          วาระสุดท้ายกำลังจะมาถึง เจรัสหลับตาลงอย่างยอมจำนน เขาไม่อยากจะมาตายแบบนี้เลนจริงๆ เพราะมันไม่เท่เอาซะเลย เขายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่อยากทำ แต่ตอนนี้เขาคงไม่มีโอกาศแล้ว หวังว่าพวกอิริกคงปลอดภัยนะ.... เจรัสคิด เขาจำอะไรได้ไม่มากเกี่ยวกับครอบครัวจริงๆของตัวเองและพวกนั้นก็ไม่อยู่แล้ว ที่เขาห่วงอยู่ตอนนี้จึงเป็นพวกเด็กๆทุกคนที่อยู่ด้วยกันที่นี่ ซึ่งเจรัสถือว่าพวกเขาเป็นครอบครัวที่สองของตัวเอง ยัยเปี๊ยกยูอาจะหนีทันรึป่าวนะ..ขอโทษนะที่ฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้...ฉันมันไม่เอาไหน...ฉันขอโทษจริงๆ... เจรัสรู้สึกผิดและสมเพศในความไม่เอาไหนของตน แต่ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว เขากำลังจะตาย

          แต่น่าแปลก!! ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจรัสไม่ได้ถูกเหยียบ รึเราตายไปแล้ว....ไม่น่าใช่.. เจรัสพยายามลืมตาขึ้นอีกครั้ง ภาพยังคงพล่าเลือน เขาเห็นรางๆว่าเจ้าตัวประหลาดหันหลังกลับไป มีอะไรบางอย่างดึงดูดความสนใจของมัน เจรัสพยายามมองแต่ก็เห็นเพียงเงารางๆขออะไรสักอย่างที่เจ้าตัวประหลาดกำลังพุ่งไปหา เขาพยายามเรียกสติที่เหลืออยู่ของตัวเองกลับมา เขาพลิกตัวและใช้แขนข้างที่ยังดีอยู่ยันตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก เสียหายใจยังคงแผ่วเบา

          ความเจ็บปวดก่อตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมๆกับสติที่เริ่มกลับคืนมา เจรัสรู้สึกราวกับตัวของเขาจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่มันไม่สำคัญ เพราะเมื่อสายตาของเขาพอจะมองเห็นได้ สิ่งที่เขาเห็นคือ ยูอา!! ยูอาไม่ได้หนีไปอย่างอย่างที่เขาคิด เด็กหญิงล้มหงายหลังอยู่กับพื้น ข้างๆมีปืนของพนักงานรักษาความปลอดภัยตกอยู่ ถ้าเป็นไปอย่างที่เจรัสคิดก็คือ ยูอาพึ่งจะใช้มันยิงเจ้าตัวประหลาดไป เลยทำให้มันหันไปสนใจเธอแทนที่จะเป็นเขา ยัยบ้าเอ้ย!!...เธอทำอะไรลงไปเนี่ย!!.....

          เจรัสไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ายัยเปี๊ยกขี้แยอย่างยูอาจะกล้าทำอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในอันตราย เจรัสพยายามจะเข้าไปช่วย แต่พอเขาขยับตัวความเจ็บปวดก็ถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นยักษ์ที่ซัดใส่ จนเขาต้องล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง ไม่นะ!..รีบหนีไปสิยัยเปี๊ยก...รีบหนีไป!!

          ยูอายันตัวเองลุกขึ้น เธอมีอาการมึนงงเพราะแรงถีบของปืน และเมื่อเธอเริ่มรู้สึกตัว"แง้ๆๆๆๆ..."เธอร้องไห้ออกมาทันที "อย่าทำเขา...แง้ๆๆๆ...อย่าทำพี่เอรัด....อย่าทำพี่เอรัดของหนูนะ...แง้ๆๆ" ยูอาเอาแต่พูดซ้ำๆทั้งที่ยังร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ลืมหูลืมตา

          เจ้าตัวประหลาดใกล้ถึงตัวยูอาแล้ว เจรัสพยายามจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่เขาก็เจ็บหนักเกินกว่าจะขยับตัวได้ เขาถึงกับกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง โถ่เว้ย!!!.. เขาทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง 

          แล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่เจรัสทำได้เพียงแต่มอง ภาพที่เขาได้เห็น จะเป็นสิ่งที่เขาไม่มีวันลืมมันไปตลอดชีวิต.........

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา