ลืมรัก...ใยเสน่หา

9.3

เขียนโดย WATIDA

วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 03.35 น.

  3 ตอน
  2 วิจารณ์
  9,303 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ความจำที่หายไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

   “น้ำ....ขอน้ำ” เสียงแหบแห้งเอ่ยขึ้นหลังจากรู้สึกตัว เธอกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับภาพตรงหน้าให้ชัดขึ้น นางพยาบาลชุดขาวกำลังนำน้ำมาให้เธอดื่ม ลำคอที่แห้งผากมันเกินกว่าจะพูดถามอะไรได้อีก เธอนอนหลับไปอีกครั้งด้วยความเพลีย

 

   “เธอเป็นอย่างไรบ้างครับ” เสียงบุคคลที่เพิ่งเดินเข้ามาถามพยาบาลสาวอย่างเบาๆเพื่อไม่ไปรบกวนคนที่นอนอยู่บนเตียง

 

   “อ้อ เมื่อตะกี้เธอเพิ่งรู้สึกตัวเองนะค่ะ ก่อนหน้าคุณจะมานิดเดียว ส่วนอาการตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ แต่ก็ต้องรอตรวจอีกรอบหนึ่งเมื่อเธอฟื้น” พยาบาลคนสวยยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร เธอชื่นชมเขาอยู่ในใจว่าเขาเป็นคนที่หน้าตาดีมาก ซึ่งก็เหมาะกับผู้หญิงสวยๆอย่างภรรยาของเขา เธอหันไปมองหญิงสาวบนเตียงอีกครั้งก่อนจะขอตัวออกไป ในใจเพียรนึกว่าทำไมหญิงสาวคนนี้ช่างคุ้นหน้ายิ่งนัก ดูคล้ายใครบ้างคนที่เธอเคยเห็น แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก

 

   “ตื่นแล้วหรอครับ ...”นายแพทย์ที่รับผิดชอบเอ่ยถามขึ้นเมื่อเขาเข้ามาตรวจอาการเธออีกครั้งก่อนจะออกเวร

 

   “ฉัน...ทำไมถึง.....อยู่ที่นี่” เธอมองคนตรงหน้าที่ยิ้มอบอุ่นให้เธอ ก่อนจะบอกว่าเธอประสบอุบัติเหตุ สามีเธอจึงพามาที่โรงพยาบาลนี่

 

   “สามี!....ฉัน.... จำไม่ได้...จำไม่ได้ ...คุณ โอ๊ย ปวดหัว....ฉันปวดหัว” สีหน้าที่ยิ้มแย้มของหมอหนุ่มเปลี่ยนแปลงทันที เมื่อคิดว่าคงมีอะไรสักอย่างกับระบบประสาทของเธอ

 

   “พาคนไข้ไปห้องเอ็กซเรย์นะ เดี๋ยวหมอจะไปรออยู่”

 

 ...................................

 ...................................................

 

           ก่อนหน้านั้น ................................

 

   “เฮ้ย!!!!! ซวยจริง วันนี้มันจะซวยอะไรขนาดนี้ว่ะเนี่ย” ชายหนุ่มที่ขับรถบนถนนที่โล่งว่างเหยียบรถจนมิดกลับเบรครถกะทันหัน เมื่อเบื้องหน้ามีคนร่างเล็กกำลังล้มลง เขามองอย่างน่ากลัวเมื่อทั้งตัวเธอมีแต่เลือด ก่อนจะตัดสินใจช่วยเหลือเธอ เขานำเธอมาส่งโรงพยาบาล เมื่อมองไม่เห็นว่ารถคันไหนที่ชนเธอ หรือรถที่จอดมีอุบัติเหตุอยู่

 

   “เธอเกิดอุบัติเหตุนะครับ” ชายหนุ่มที่อุ้มร่างบางมาก่อนที่พนักงานจะรีบเข็นรถมาให้เขาว่างตัวเธอลง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดช่างน่าสงสารและน่ากลัว การแต่งตัวของเธอก็ดีมากเกินกว่าจะมาเดินให้รถชน

 

   “อุบัติเหตุแบบไหนค่ะ” พยาบาลสาวทำหน้าที่ของเธอ

 

   “เอ่อ.....รถชนครับ” เขาตอบออกไปทั้งที่ไม่รู้อะไรเลย เขามองพยาบาลคนหนึ่งเอาที่ช่วยหายใจมาใส่ให้เธอ ก่อนจะหันมาอย่างตกใจเมื่อพยาบาลคนหนึ่งบอกให้เขาทำอะไรบางอย่าง

 

   “เดี๋ยวคุณช่วยกรองประวัติภรรยาคุณตรงนี้นะค่ะ แล้วก็เซ็นต์รับรองเป็นชื่อคุณตรงนี้” พยาบาลตรงหน้าอธิบายให้เขาฟัง ก่อนจะยื่นแผ่นกระดาษกับปากาให้เขา

 

  “เอ่อ...ผมไม่”

 

  “กรุณารีบด้วยนะค่ะ ดิฉันต้องรีบทำทะเบียนประวัติ และถ้าหากคุณไม่เซ็นต์คนไข้จะเข้ารับการรักษาไม่ได้ค่ะ”

 

  “ทำไมรับการรักษาไม่ได้ล่ะครับ ถ้าผมไม่เซ็น”เขาถามอย่างสงสัย คนมันจะตายก็ตอนนี้ล่ะ มานั่งเซ็นลายเซ็นกันอยู่

 

   “เนื่องจากเคสนี้เป็นอาการสาหัส จึงต้องมีการเซ็นรับรองของบุคคลในครอบครัวหรือสามีภรรยา เพื่อเป็นการยอมรับต่อการรักษาค่ะ ในกรณีที่ต้องมีการตัดสินใจของแพทย์ที่มีผลต่อชีวิตของผู้ป่วย ขอความกรุณาคุณรีบกรอกด้วยนะคะ” เธอพูดอธิบายบอกเขาจนชายหนุ่มพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะลงมือกรอกใบทางโรงพยาบาลให้เขาได้ทำการรักษาเธอคนนั้น โดยเขาเป็นเจ้าของไข้ และในช่องฐานะเขาใส่ไปว่าเธอเป็นภรรยาของเขา..................

.......................ลงชื่อ ชินภัทร อิศริยะศวร

 

   ........................................................................................

 

 

   “ความจำเสื่อมหรอครับ จริงหรอครับ” ชายหนุ่มถึงกับตกใจ แล้วก็ไม่อยากเชื่อ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เขาจะทำอย่างไรกับเธอล่ะ

 

   “ครับ ภรรยาคุณ เธอได้รับความกระทบกระเทือนอย่างมากที่ศีรษะ ในตอนแรกหมอคิดว่าเธออาจจะแค่หัวแตก แต่เหมือนว่าตอนเกิดอุบัติเหตุศีรษะเธอคงกระแทกกับอะไรอย่างแรงนะครับ ความจำเธอจึงหายไป แต่อาการนี้ต้องดูไปเรื่อยๆนะครับ ในพื้นฐานผู้ป่วยที่เป็นแบบนี้จะหายหรือไมไม่สามารถตอบได้ แต่หมออยากแนะนำให้คุณพาเธอไปในที่ๆคุณเคยไปด้วยกันบ่อยๆ ไปที่ๆคิดว่าผู้ป่วยจะจำอะไรได้บ้าง” แพทย์หนุ่มยิ้มให้เขาอย่างให้กำลังใจ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนนี้เขารู้สึกอย่างไรในเมื่อเขากับเธอไม่เคยรู้จักกันด้วยซ้ำ ไปในที่ที่เธอจำได้ ........

 

   “คุณ.....” หญิงสาวบนเตียงพยายามจะลุกขึ้น แต่พยาบาลคนสวยก็จับนอนลง

 

   “อย่าเพิ่งลุกเลยนะค่ะ คุณยังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร เดี๋ยวจะปวดหัวนะค่ะ” เธอยิ้มให้คนป่วยก่อนจะทำท่าเดินออกไป แต่ก็โดนเรียกเอาไว้ซะก่อน

 

  “คุณค่ะ!! ฉัน...จำอะไรไม่ได้เลย ฉันชื่ออะไรหรอค่ะ” พยาบาลสาวยิ้มอย่างเห็นใจเธอก่อนจะเดินเข้ามาใกล้เพื่อพูดคุยกับเธอ

 

  “คุณชื่ออินลดา อิศริยะศวร ค่ะ”

 

  “อินลดา....ขอบคุณค่ะ”

 

  “คุณลดานอนพักก่อนนะคะ อีกเดี๋ยวสามีคุณก็คงจะมาแล้ว เขาไปพบคุณหมออยู่นะค่ะ” พยาบาลพูดบอกหญิงสาวบนเตียงเหมือนเธอเป็นเด็กน้อย

 

  “สามีหรอค่ะ” เธอยังอยากถามต่อก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่เดินเข้าห้องมา พยาบาลคนนั้นขอตัวออกไปแล้ว ก่อนที่เขาจะเดินเขามาใกล้เตียงเธอ เขายิ้มให้เธอ ก่อนจะถามว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง

 

   ชินภัทรต้องยอมรับกับตัวเองเลยว่าเธอสวยเอามากๆ แม้ว่าจะเป็นตอนนี้ที่เธอกำลังป่วย ปากเล็กที่ซีดเซียวกลับเรียกความเซ็กซี่ให้เกิดขึ้นได้ ดวงตากลมโตจ้องเขาตอบกลับมาอย่างเป็นคำถามมากมาย

 

  “ฉันสบายดีค่ะ คุณเป็นใครหรือค่ะ” เธอเอียงหน้าถามเขา ก่อนจะเห็นเขาเดินมารินน้ำให้เธอ ผู้หญิงอะไรวะ น่ารักเป็นบ้าเลย

 

   “ทำไมคุณลืมผมง่ายจัง ผมเป็นสามีคุณนะ” เขายิ้มแกล้งเธอ ก่อนจะหัวเราะเมื่อเธอทำตาโตกับคำตอบที่ได้ มือหนายื่นน้ำให้เธอก่อนจะเล่าให้เธอฟังว่าก่อนหน้านั้นเขากับเธอทะเลาะกัน แล้วเธอก็โกธรเขามากจึงขับรถหนีออกมาจนเกิดอุบัติเหตุ

 

   “จริงหรอค่ะ แล้วคุณชื่ออะไร เราทะเลาะกันเรื่องอะไรหรอค่ะ” เขายิ้มละมุนให้เธอก่อนจะนั่งลงบนเตียงใกล้ๆเธอ เขาจับมือบางของเธอมาวางไว้ที่แก้มของเขา

 

   “ผมชื่อเมฆไงครับ ที่รัก” เขายิ้มหวานให้เธอ จนเธออายรีบชักมือกลับทันที

 

  “เอ่อ...คุณพยาบาลเขาบอกกับฉันว่า ฉันชื่ออินลดา นามสกุล...อิศร..”

 

  “อิศริยะศวร!! ผมชื่อชินภัทร อิศริยะศวร เป็นสามีของคุณอินลดา อิศริยะศวร โอเคไหมครับ” เขายิ้มบอกเธอก่อนจะให้เธอนอนพักผ่อนได้แล้ว ไม่อย่างนั้นจะไม่คุยกับเธอ

 

  “เราแต่งงานกันแล้วหรอค่ะ” เธอถามออกไปอย่างอายๆ ก่อนจะอายหนักกว่าเก่าเมื่อเขาก้มลงจูบหน้าผากเธอ ก่อนจะดึงผ้าขึ้นมาห่มให้ เขาส่ายหัวน้อยๆว่าจะไม่ตอบอะไรทั้งนั้น และถ้าเธอยังไม่หลับตาเขาก็จะจูบเธอเดี๋ยวนี้

 

  “ฝันดีนะครับลดา” แม้ว่าเธอจะรีบหลับตาลงแล้ว แต่เขาก็จูบแก้มเธออยู่ดี ชินภัทรปล่อยให้เธอนอนหลับไป ก่อนที่เขาจะไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล

 

    ............สัมผัสบางเบาที่หน้าผาก กับที่แก้มใสนั้น มันเป็นสิ่งที่เธอไม่คุ้นเคยเลย  เธอลืมตามองรอบๆห้องเมื่อเขาผละออกไปข้างนอก เขาพูดจริงหรือเปล่าเธอไม่รู้ แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะทำร้ายเธอ และภาวนาให้สิ่งที่เธอคิดเป็นจริง เมื่อเธอยอมรับกับเรื่องนี้ได้ สิ่งเดียวที่จะทำคือเธอต้องรักเขา ในฐานะสามี

 

   ..........................

   ..................................

    ............................................

 

    เรือลำใหญ่แล่นเขามาใกล้ฝั่ง ก่อนจะดับเครื่องลง ชินภัทรกระโดดลงมาก่อนจะมองไปยังบ้านหลังใหญ่ข้างหน้าที่มีคนชุดดำยืนอยู่สองสามคน

 

   “ยัยตัวแสบมาแน่ๆเลย” เขายิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงหน้าคุณหนูเอาแต่ใจอย่างน้องสาวเขา เขายกให้น้องสาวเขาเป็นที่หนึ่งเลยเรื่องเอาแต่ใจเนี่ย แต่จะไม่ให้เอาแต่ใจก็ไม่ได้ในเมื่อทุกคนที่อยู่รอบข้างก็มักจะเอาใจ และตามใจเธออยู่เสมอรวมถึงตัวเขาด้วยเช่นกัน บอดี้การ์ดที่เห็นก็เป็นของน้องเขา เนื่องจากความดื้อและชอบหนีเที่ยวของเธอทำให้พ่อกับแม่ถึงกับปวดหัวจึงสั่งคุมโดยให้บอดี้การ์ดตามติดเธอไม่ว่าเธอจะไปไหนก็ตาม

 

     ชินภัทรเดินเข้าบ้านอย่างรีบเร่ง เมื่อนึกได้ว่าอะไรที่สำคัญกับเขาในตอนนี้ เขานึกถึงใบหน้าหวานของคนป่วยที่เป็นภรรยากำมะลอของเขา เขากลับมาบ้านที่เกาะเพื่อเก็บเสื้อผ้าไปนอนเฝ้าเธอที่โรงพยาบาล โดยเขาได้ลืมไปเลยว่าน้องสาวสุดสวยของเขาจะมาหา และตกลงว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน

 

   “ไปไหนมาค่ะ!!” เสียงใสพูดขึ้น ก่อนที่คนได้ยินจะสะดุ้งตกใจเมื่อคิดอะไรเพลินๆอยู่

 

   “ยัยตะวัน!! จะเสียงดังทำไม พี่ตกใจหมด” ชินภัทรหันมาเอ็ดน้องสาวตัวดีของเขา ก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดไปอย่างไม่สนใจ

 

      สาวเจ้าที่ทักพี่ก่อนเลยอารมณ์ขึ้นทันทีที่ถูกพี่ชายเมิน เธอวิ่งตามเขาขึ้นมาก่อนจะเห็นท่าทางเร่งรีบของเขากำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าสองสามชุด เหมือนจะไปค้างที่ไหน บ้านก็ออกจะหลังใหญ่

 

   “พี่เมฆจะไปไหนหรอค่ะ” เสียงเล็กถามขึ้นก่อนจะมองหน้าพี่ชาย

 

   “พี่จะไปนอนบ้านเพื่อนนะ” เขาตอบส่งๆไปโดยไม่มองหน้าน้องตัวเองสักนิด ว่าเธอจะสงสัยขนาดไหนในเมื่อชินภัทรเพิ่งกับจากอังกฤษ เพื่อนพี่ชายก็ไม่มีใครอยู่ที่จังหวัดนี่สักหน่อย

 

   “พี่จะไปนอนบ้านเพื่อนที่ไหนค่ะ นี่มันเป็นเกาะส่วนตัวของเรานะ แล้วตะวันล่ะ พี่จะทิ้งตะวันให้อยู่บ้านคนเดียวหรอ ไม่เอานะ!!” เธอโวยพี่ชายของเธอยกใหญ่เมื่อเธอวางแผนจะไปเที่ยวกับเขา จะพานำเที่ยวในช่วงปิดเทอมของเธอพอดี อีกอย่างเธอก็ไม่ค่อยจะไปไหนต่อไหนได้นัก ถ้าไม่ไปกับครอบครัวเธอก็จะมีการ์ดส่วนตัวไปด้วยจึงทำให้เธอค่อนข้างเบื่อ

 

    “คนเดียวที่ไหนกัน บอดี้การ์ดเธอก็อยู่ พี่ไม่ได้กลับมาไทยตั้งนาน ให้พี่ไปเจอเพื่อนก่อนแล้วกัน ตะวันน่ะเป็นน้องสาวพี่เจอเมื่อไรก็ได้ แต่เพื่อนพี่เขาว่างแค่วันนี้ อย่างอนพี่เลยนะเด็กดี พี่สัญญาว่าครั้งหน้าพี่จะตามใจตะวันทุกอย่างเลย” มือหนาเข้าไปบีบแก้มน้องเบาเบาก่อนจะหอมหน้าผากส่งท้าย

 

  เขาเดินลงบันไดมาแล้ว แต่เธอก็ยังไม่วายตามมาอีก

 

   “แล้วพี่เมฆจะกลับวันไหนหรอค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตะวันก็ต้องกลับกรุงเทพแล้วนะ” เธออ้อนเขาอีกครั้ง กอดที่เมฆจะเดินเข้ามากอดเธอ

 

   “เดี๋ยวพี่ตามกลับไปแล้วกัน ไม่นานหรอกนะเด็กดี บอกพ่อกับแม่ด้วยว่าพี่คิดถึง” เขาพูดจบก่อนจะรีบขึ้นเรือไป เขาขับเรือออกมาแล้วแต่ก็หันกลับไปมองที่บ้าน...

 

    “ลดาจะอยู่ได้ไหมนะ เธอจะลำบากหรือเปล่า” เขาคิดถึงเรื่องของหญิงสาวที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร เขาคิดถึงเธอตลอดเวลา ทั้งทีในชีวิตของเขา เขาไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนเลยด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะแรงกดดันทางครอบครัวที่เขาต้องเป็นผู้สานต่อแทนพ่อของเขา กิจการทั้งหลายมีมูลค่ามหาศาลและคนอีกหลายครอบครัวที่เขาต้องมารับผิดชอบ มาบริหารงานทุกอย่าง เขาจึงไม่เคยคิดถึงเรื่องหนุ่มสาวหรือความรักไร้สาระ

 

  .......คุณเป็นใครกันนะ

 

  .......คุณสวยมากจนผมต้องคิดถึงตลอดเวลา หรือคุณน่ากลัวมากจนคิดได้ว่าถ้าหากอนาคตคุณจดจำอะไรได้ ผมกลัวจะเสียคุณไป

 

  .......คุณอาจเชื่อคำโกหกของผมในวันนี้  ผมอาจหลงรักคุณ และเป็นคนเลวที่จะยอมโกหกคุณไปตลอดชีวิต

 

  ........คุณอาจรักผมได้ในตอนนี้ แต่เพียงแค่คุณจำทุกอย่างได้ ผมจะกลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับคุณ

 

  ........ทุกอย่างมันไม่มีคำตอบที่ดีเลย ถ้าเพียงแค่เขารักเธอ

 

         ..................................................

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา