รักใสๆของยัยตัวร้าย...

-

เขียนโดย onnik

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 20.36 น.

  1 ตอน
  1 วิจารณ์
  3,490 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ตอนแรก...คำสารภาพรักอันโจ่งแจ้ง!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

    “นี่...ฉันให้”   เช้าวันหนึ่งในวันวาเลนไทน์ นายอนัสก็เดินเข้ามายื่นดอกกุหลาบช่อนึงให้กับฉัน

     “ขอบใจ แลกกับช๊อกโกแลตวาเลนไทน์สินะ เอ้า”   ฉันรับมาพร้อมกับล้วงหยิบช๊อกโกแลตที่เตรียมไว้ ตามที่ห้องเรานัดกันไว้เมื่อวาน(กึ่งโดนบังคับน่ะ) ว่าผู้ชายกับผู้หญิงเฉพาะคนที่ยังโสดในห้องจะแลกกุหลาบกับช๊อกโกแลตกัน ในวันวาเลนไทน์เพื่อให้รู้สึกมีส่วนร่วมในวันนี้ละมั้ง (ตามประสาคนไม่มีแฟนแต่อยากได้ดอกไม้ หรือช๊อกโกแลตเหมือนคนอื่นๆ เขา เป็นการปลอบใจกันอะไรทำนองนั้น)

     “ว่าแต่นาย ลงทุนไปเปล่าเนี่ย? แค่ตามธรรมเนียมห้อง ไม่เห็นต้องให้เป็นช่อ ห่อซะสวยแบบนี้เลย”  ฉันพูดขณะที่ยื่นช๊อกโกแลตกล่องเล็กๆ ให้

     “นี่ไม่ใช่ดอกไม้ตามธรรมเนียมนะ ฉันให้เฉพาะคนพิเศษ....ฉัน ฉันชอบเธอ”  คำพูดของนายอนัส เล่นเอาฉันอึ้งไปเลย ไม่ใช่แค่ฉันนะ รู้สึกเพื่อนๆ ในที่กำลังคุยเล่นกันอยู่ ยังหยุดนิ่งกันไปหมดเลย

     “ฮะ!...ฮะฮะฮะ อย่าล้อเล่นสีหน้าจริงจังแบบนั้น เล่นเอาฉันตกใจหมด”  ฉันหัวเราะ(แบบฝืดๆ ก็มันไม่ขำอ่ะ)พูดออกไปอย่างไม่ค่อยเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ ก็หมอนี่ปกติเป็นคนขี้เล่นพอสมควรนี่นา นี่คงกะอำกันเล่นในวันวาเลนไทน์ เพราะรู้ว่าฉันยังไม่มีแฟนแน่เลย แต่ขอบอกว่ามุกนี่ไม่ขำนะ รู้สึกอายแทนคนอำด้วย

     “ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันชอบเธอจริงๆ เรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกแบบนี้ ฉันไม่เอามาล้อเล่นหรอก เธอจะคบกับฉันได้มั้ย?”  นายอนัส พูดสีหน้าจริงจัง ไม่มีแววล้อเล่นเลย พอหมอนี่พูดจบ เพื่อนในห้องก็โห่กันใหญ่เลย จะโห่ทำแป๊ะอะไร ฉันอายนะพวกบ้า

     “วิ้ดวิ้ว... พวกเราไอ้อนัสมัน สารภาพรักกับยัยเฟิร์นว่ะ”  นายอาร์ตะโกนเสียงดังเป็นคนแรก ไม่รู้จะประกาศซ้ำอีกทำไม ก็ในเมื่อได้ยินกันหมดทุกคนอยู่แล้ว

     “ร้ายนะยะ ยัยเฟิร์น ไปแอบชอบกันตอนไหน พวกฉันไม่เห็นรู้เลย”  ยัยแจนเพื่อนตัวแสบ เข้ามาแซวฉันด้วย ฉันละหมั่นไส้น้ำเสียงที่ถามกับสายตาหล่อนจัง

     “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”  ฉันตอบออกไปตามตรง

     “แน๊...อย่ามาตีหน้าแบ๊วไม่รู้นะ บอกมาซะดีๆ”  ยัยเพนเริ่มสมทบด้วย

     “วิ้ดวิ้ว...เจ๋งว่ะเพื่อน กล้าบอกรักต่อหน้าทุกคนในห้องด้วยโว้ย”

     “ก็เออสิ พวกแกจะได้รู้ จะได้ไม่มายุ่งกับเฟิร์น คนนี้ฉันจอง”  นายอนัสพูดออกมาได้ไม่เขินปากตัวเองหรือไงนะ

     “โห้...ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะว่ะ”

     “เฮ้ย! แล้วแกว่าไงยัยเฟิร์น”  นายเตอร์หันมาถามหลังจากแซวอนัส

     “จริงด้วย ว่ายังไง? ยัยเฟิร์น เธอยังไม่ได้ตอบอนัส มันเลยนะ”  ยัยแจนหันมาถามฉัน พร้อมกับสายตาอยากรู้คำตอบจากปากฉัน อีกนับสิบๆ คู่ที่มุ่งกันเข้ามา (ไม่ได้เล่นปาหี่นะ จะมุ่งไรนักหนาเดี้ยวก็เก็บค่ามุงซะเลยนี่)

     “อะ..เอ่อ...อา...คือ...”  ฉันพูดน้ำเสียงอึกๆอักๆ เพราะไม่รู้จะพูดไงดี ก็แล้วทำไมฉันต้องมาตอบให้พวกนี้ฟังด้วยล่ะ ดูซิ แต่ละคนยื่นหน้ายื่นหูเข้ามาใกล้ซะ นี่กะจะมุดเข้าไปฟังจากใจฉันเลยหรือไงกันห๊ะ

     “อ้าว? นี่ทำอะไรกันน่ะ ชั่วโมงเรียนจะเริ่มแล้วนะ นั่งที่ให้เรียบร้อยซะ”  เสียงอาจาร์แทรกเข้ามาพอดี เฮ้อ...เสียงระฆังช่วยชีวิตแท้ๆ

     “โหย...จาร์อ่ะ มาช้ากว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง เสียอารมณ์หมด”  เสียงแต่ละคนยบ่นกันอุบ พร้อมกับแยกย้ายกันไปนั่งที่ตัวเอง

     “ถ้ายังไม่อยากตอบ ยังไม่ต้องรีบตอบเราก็ได้ เราแค่อยากบอกความรู้สึกให้รู้ก็เท่านั้นเอง เฟิร์นคิดยังไงกับเราก็บอกเราตรงๆ เลย เราไม่ว่าหรอก”  อนัสหันมากระซิบก่อนเดินกลับโต๊ะตัวเอง

          อืม...ไม่ใช่ว่าฉันรังเกลียดนายอนัสหรืออะไรหรอกนะ ยอมรับเลยว่าความจริงก็แอบรู้สึกดีๆ ด้วยอยู่เหมือนกัน เพียงแต่...การมีแฟน มันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องเก่าๆ ความทรงจำแย่ๆ ขึ้นมา

          ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน ตอนที่ฉันอยู่ม.ต้น (ตอนนี้อยู่ม.ปลายปีสองจ๊ะ) ฉันเคยมีแฟนมาก่อน หมอนั่นชื่อท๊อป เป็นแฟนคนแรกในชีวิตเลย แต่ไม่ใช่รักครั้งแรกหรอกนะ รักแรกเกิดขึ้นนานแล้ว แค่แอบปลื้มแอบปิ้งไม่ได้ถึงขันคบกัน(ตอนประถมน่ะ จะว่าแก่แดดก็ได้ ) เพราะเขาเป็นแฟนคนแรก ก็เลยคาดหวังมากไปหน่อย ไม่คิดว่าหมอนั่นจะเป็นพวกกะล่อน จับปลาสองมือแอบมีกิ๊ก ฉันโดนหลอกอยู่ตั้งนานจนกระทั่งเห็นด้วยตาตัวเองนี่แหละ วันนั้นฉันไปดูหนังกับวิว เหราะหมอนั่นเลื่อนนัด ระหว่างที่รอยัยวิว ฉันก็เห็นเขามาดูหนังกับยัยแนนสาวข้างห้อง พอเห็นฉันหมอนั่นทำท่าตกใจเล็กน้อย ก่อนพูดกับฉัน(เพราะหันมาเจอกันซึ่งๆ หน้าเขาเลยหนีไม่ทัน)

     “อะ อ้าวเฟิร์น ไปไงมาไงเนี่ย? มาดูหนังเหมือนกันเหรอ? บังเอิญจังนะ”  หน้าโรงหนังฉันคงมาว่ายน้ำเล่นมั้ง

     “ไหนบอกว่าวันนี้ไม่ค่อยสบายจะไปหาหมอไง?”   ฉันระงับอารมณ์เอาไว้ ถามออกไปอย่างใจเย็น

     “เอ๊ะ? อ้อ...ใช่ๆ ว่าจะไปหาหมออยู่ แต่พอกินยาพาราฯ ก็หายดีแล้วล่ะ คงไม่ได้เป็นอะไรมาก” 

     “ก็เลยมาดูหนังได้ งั้นสิ”  ฉันแทรกขึ้น

     “เออ..อืม...เฮ้อออ ไหนๆ เฟิร์นก็เห็นกับตาแล้ว เราจะบอกตรงๆ เลยล่ะกัน นอกจากเฟิร์นแล้วเรายังคบกับแนนด้วย แต่ไม่ต้องห่วง กับแนนเราแค่คบกันเล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไร”  ท๊อปเดินเข้ามาจับมือฉันพูด

     “เราอยากให้เฟิร์นเข้าใจ ถึงเราจะเที่ยวเล่นกับผู้หญิงคนอื่น แต่คนที่เราจริงจังด้วยมีแต่เฟิร์นนะ” 

     “หมายความว่า ท๊อปจะเลิกยุ่งกับแนนใช่มั้ย?”

     “เปล่า ท๊อปแค่อยากให้เฟิร์นเปิดใจยอมรับ ว่าท๊อปอาจจะไปเที่ยวกับผู้หญิงคนอื่นบ้าง เป็นบางครั้ง  เฟิร์นคงไม่ว่ากันนะ ยังไงคนที่เป็นแฟนตัวจริงก็คือเฟิร์นอยู่ดี แนนเค้าก็รู้ เขาไม่คิดจะมาแย่งตำแหน่งแฟนกับเฟิร์นหรอก”   ดีเนอะ ยกตำแหน่งแฟนตัวจริงให้ฉัน แล้วตัวเองก็ไปควงคนอื่นเล่นๆ แล้วยังขอให้ฉันยอมรับ แลกกับการครองเบอร์หนึ่งงั้นเหรอ? เห็นแก่ตัวชะมัด

     “ว่ายังไงล่ะ?่ เฟิร์น ท๊อปเคยคุยกับแนนมาก่อนแล้ว เขาว่าเขารับได้ ที่เหลือก็เหลือแต่เฟิร์น เฟิร์นจะว่ายังไง?”   ฉันชักมือกลับก่อนตอบท๊อป

     “โทษนะท๊อป เฟิร์นรับไม่ได้หรอก ถ้าท๊อปจะมีคนอื่นอีก เราก็เลิกกันดีกว่า”  ฉันพูดออกไปแบบระงับอารมณ์สุดๆ ทั้งๆ ที่ใจจริงยังจะ....ฮึ้ย แต่ไหนๆ ก็จะเลิกกันแล้วก็เลยอยากให้มันจบลงด้วยดี (ไม่ใช่แบบเลือดสาด)

     “ทำไมล่ะ!? เฟิร์น  ท๊อปก็บอกแล้วไง ว่ายังไงเฟิร์นก็ยังคงเป็นแฟนท๊อปนะ ท๊อปก็แค่เล่นๆ กับคนอื่นบ้างก็แค่นั้นเอง  ทำไมเฟิร์นถึงรับไม่ได้ ใจกว้างหน่อยสิ ท๊อปไม่อยากเลิกกับเฟิร์นนะ ถึงได้บอกกับเฟิร์นตรงๆ ”   ท๊อปพูดพร้อมกับเดินตามมาดึงมือฉันไว้ แหม...พูดอย่างกับเป็นบุญคุณกับฉันซะเหลือเกิน ที่บอกกันตรงๆ แบบนี้แล้วจะขอให้ฉันยอมรับอีก หมอนี่จะหน้าด้านพูดเอาแต่ได้ไปถึงไหนกันนะ

     “งั้น....ถ้าเฟิร์นยังคบกับท๊อป ให้ท๊อปเป็นแฟนตัวจริง แล้วเฟิร์นก็ไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นบ้าง ท๊อปก็จะไม่ว่าอะไรใช่มั้ย?”  ฉันถามกลับบ้าง

     “......เฟิร์น!! เฟิร์นเป็นผู้หญิงแบบนั้นเหรอ? ท๊อปไม่อยากจะเชื่อว่าเฟิร์นจะเป็นผู้หญิงหลายใจแบบนั้นได้”  หมอนั้นพูดพร้อมกับมองฉันด้วยสายตาเหมือนจะผิดหวัง ฉันละอยากจะจี้ลูกกะตานั่นซะจริง

     “อ้าว? แล้วทีท๊อปยังทำได้เลย แล้วทำไมเฟิร์นทำบ้างถึงไม่ได้ล่ะ?”  ฉันถามออกไป ทั้งที่ใจจริงอยากตะโกนใส่หน้าว่า แล้วสิ่งที่เขาทำไม่เรียกว่าคนหลายใจหรือยังไงกัน

     “ก็ท๊อปเป็นผู้ชายนี่ ผู้ชายเจ้าชู้บ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ผู้หญิงเจ้าชู้เขาจะหาว่าเป็นพวกใจง่าย”  หมอนั่นตอบอย่างภาคภูมิใจมากเลย กับพฤติกรรมแย่ๆ ของตัวเอง

เพี๊ยะฉันตบหน้าหมอนั้นไปอย่างสุดจะทน กับคำพูดของคนเห็นแก่ตัว

     “....เมื่อกี้ท๊อปพูดเกินไปหน่อย เอาเป็นว่า...ที่เฟิร์นตบเมื่อกี้นี้ ก็ถือเป็นการไถ่โทษจากท๊อปก็แล้วกันรวมทั้งที่ท๊อปมาเที่ยวกับแนนด้วย เรากลับมาดีกันนะ”   ท๊อปที่ถูกฉันตบหน้าจนหน้าหัน นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนหันกลับมาพูดราวกับไม่รู้สึกรู้สา

     “เป็นการไถ่โทษ งั้นเหรอ?” 

     “ใช่...ถือว่าเล็กน้อยนะ ถ้าจะทำให้เฟิร์นหายโกรธได้” 

     “แค่ตบทีเดียวน่ะ ไม่ทำให้ฉันหายเจ็บใจได้หรอก”  ฉันโพล่งออกไปพร้อมกับตบหน้าท๊อปเต็มแรงไปอีกสองสามทีอย่างเหลืออด ก่อนผลักท๊อปจนล้มลงไปกอง

เพี๊ยะ เพี้ยะ เพี๊ยะ พลั่ก! ตุบ... 

     “เชิญท๊อปไปมีคนอื่นได้ตามสบาย แต่เฟิร์นไม่ขอเป็นหนึ่งในนั้น”   ฉันตะโกนใส่หน้าเขาที่นั่งจับแก้มที่บวมแดง ด้วยอาการงงๆ ปนอึ้ง โดยมียัยแนนเดินเข้าไปประคองด้วยความเป็นห่วง ฉันไม่สนใจมองอีกต่อไป

     “กะเกิดอะไรขึ้นเหรอ? เฟิร์น มีอะไรกันนะ นั่นท๊อปไม่ใช่เหรอ?”  ยัยวิวที่เพิ่งมาถึงถามฉันใหญ่

     “ไม่มีอะไร เราไปกันเถอะวิว”  ฉันไม่มีอารมณ์จะตอบคำถามดึงมือวิวไปด้วยกัน

     “ดะเดี้ยวสิ เฟิร์น...อ๊ะ! อุอู๊ย...โอ๊ย..โอ๊ย ปะปวด...จังเลย”  ท๊อปที่ทำท่าจะลุกขึ้นจู่ๆ ก็ครางออกมาอย่างเจ็บปวดพลางกุมท้องตัวเอง

     “ว๊าย! ท๊อป.. ท๊อปเป็นอะไรน่ะ เจ็บตรงไหนเหรอท๊อป”   ฉันหันกลับไปดู (ตอนแรกนึกว่าท๊อปแกล้ง) เห็นยัยแนนตื่นตูมสุดๆ สีหน้าท๊อปก็แย่ดูเหมือนจะเจ็บจริงๆ

     “ปวด..ปวดท้องจังเลย เจ็บจะตายอยู่แล้ว...เรียกรถพยาบาลให้ที...โอ๊ย...”  ท๊อปครางออกมาไม่หยุด พลางกุมท้องจนตัวงอ หลังจากนั้นไม่นานก็มีรถพยาบาลมารับ ท๊อปถูกส่งเข้าห้องผ่าตัด เนื่องจากไส้ติ่งแตกกะทันหัน ต้องผ่าตัด....

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา