รักครั้งใหม่ของยัยขี้แย

5.3

เขียนโดย LemonCake

วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 03.16 น.

  5 ตอน
  2 วิจารณ์
  9,546 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ตอนที่1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        มะม่วง สาวน้อยน่ารักวัย 18 ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เธอมีรูปร่างตัวเล็กและบอบบางน่าทนุถนอม ผิวขาวหยวกกับใบหน้าที่เรียวยาว รวมถึงดวงตาที่คมโต กับ ปากเล็กๆสีชมพู และ เธอยังมีผมสวยๆที่ไม่ค่อยดำเท่าไหร่นัก สไลด์ยาวลงมาจนเกือบถึงกลางหลัง ทำให้เธอช่างดูโดดเด่นและเป็นที่สะดุดตาของคนที่พบเห็นอยู่เสมอ  นอกจากนี้ การที่เธอมีครอบครัวที่แสนอบอุ่นบวกกับการเลี้ยงดูมาอย่างดี ทำให้เธอมีบุคลิกที่สดใส ยิ้มง่าย และมองโลกในแง่ดี แต่ในทางตรงกันข้าม เธอนั้นออกจะพูดน้อยและยังขี้แยอีกด้วย เพราะจากการที่สมาชิกในบ้านของเธอ คอยทนุถนอมมาอย่างดีทั้งคำพูดและการกระทำที่แสดงออกทำให้เด็กสาวนั้น มักจะอ่อนไหว เมื่อเห็นเหตุการณ์หรือเจอคำพูดที่สะเทือนใจ แต่ไม่ว่าใครที่อยู่ใกล้ ก็มักจะหลงเธอโดยไม่รู้ตัว

 

        กริ๊งงงงงงง!!! เสียงกริ่งของโรงเรียนดังขึ้นในเวลา16นาฬิกา นักเรียนชั้น ม.6/2 เริ่มส่งเสียงคุยกันดังราวกับนกกระจอกแตกรัง เว้นไว้แต่เพียงสาวน้อยที่เคยยิ้มน่ารักสดใสสมวัย ที่วันนี้ เธอได้แต่นั่งเงียบๆ และเก็บของใส่กระเป๋า เพื่อที่จะไปหาคนที่เพิ่งส่งเมสเสจมาหาเธอเมื่อสิบนาทีที่แล้วว่า "มาเจอกันที่เดิมนะ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย"

"มะม่วงงงงง!!!"โมจิ สาวน้อยผมสั้นดำสนิท เธอมีผิวขาว สูงกว่าชั้นเล็กน้อย และร่าเริงสดใสเป็นที่สุด รวมถึงออกจะพูดเก่งอีกด้วย โมจิเป็นเพื่อนที่ชั้นสนิทที่สุดเสียงแหลมๆรวมถึงการที่เธอชะโงกหน้าเข้ามาใกล้กับใบหน้าของชั้นทำให้ชั้นถึงกับสะดุ้ง

"ตกใจหมดเลย โมจิ"

"เป็นอะไรรึเปล่า เห็นนั่งเหม่ออยู่ตั้งนาน ชั้นเรียกตั้งหลายครั้งก็ไม่หัน" น้ำเสียงที่แสดงถึงความห่วงใยของโมจิทำให้ชั้นต้องพยายามฝืนยิ้มออกมา แม้ตอนนี้หัวใจของชั้น จะอยากร้องไห้แล้วก็ตาม 

"แล้วนี่ แกจะไปไหนต่อรึเปล่าอ่ะ มะม่วง"

"อื้อ เปล่าหรอก แต่ว่า เอ่อ..พี่ซันบอกว่าจะรอที่เดิม.."

 

พี่ซัน ชายหนุ่มที่มีอายุมากกว่าชั้นเพียง 1ปีเศษ เรารู้จักกันตั้งแต่ตอนที่เขาเรียนอยู่ที่เดียวกันกับชั้น วันนี้เขาไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยแล้ว รูปร่างที่สูงขาว และบุคลิกดี รวมถึงหน้าตาที่ดูดี ทำให้เขา เป็นผู้ชายที่มีสาวๆหลงใหลอยู่พอสมควร และผู้ชายคนนี้ ก็เป็นคนรักของชั้นเองแต่นั่นก็ไม่เคยทำให้ชั้นต้องถึงกับเป็นกังวล เพราะชั้นเชื่อมั่นในตัวเขาเสมอ

 

"ให้ชั้นไปเป็นเพื่อนมั๊ยแก!!" โมจิที่รู้เรื่องทุกเรื่องเกี่ยวกับชั้น รวมถึงสถานการณ์ทุกอย่างระหว่างชั้นกับพี่ซันดี พูดน้ำเสียงที่เป็นห่วงมาก และสายตาที่ไม่ค่อยสบายใจนัก

"ไม่เป็นไรจ๊ะ ชั้น..ชั้นไหว" ชั้นตอบด้วยน้ำเสียงที่แอบเป็นกังวล

"งั้น มีอะไร โทรหาชั้นได้ตลอดเวลาเลยนะ"

"จ๊ะ ขอบใจนะโมจิ งั้น..ชั้นไปก่อนนะ"

 

            ที่โต๊ะม้าหินใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้ามกันกับโรงเรียนของชั้น ที่ที่ชั้น มักจะมานั่งอยู่เป็นประจำ เพื่อมาดูพี่ซันซ้อมฟุตบอล แต่วันนี้ วันนี้ชั้นไม่ได้มาเพื่อมาดูพี่ซันซ้อมอะไรทั้งนั้น

"เอ่ออ..พี่ซันค่ะ"

"มาช้านะ" พี่ซันหันมาพูดกับชั้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย และห่างเหินกันมาก ทั้งที่เราสองคนคบกันมาเกือบสามปี ไม่เพียงเท่านั้น  ยังมีผู้หญิงตัวพอๆกันกับชั้น ผิวขาว หน้าตาน่ารักทีเดียว นั่งมองชั้นด้วยสายตาดูถูกนิดๆ นั่งอยู่ข้างหลังพี่ซันอีกด้วย ซึ่งตอนนี้ พี่ซัน ที่เมื่อสักครู่ กำลังนั่งคุยกับสาวน้อยคนนั้นอย่างอารมณ์ดี ได้เปลี่ยนเป็นลุกขึ้นมายืนอยู่ระหว่างชั้น กับ ผู้หญิงคนนั้น

"มะม่วง.."

"เอ่อ..ค่ะ พี่มี..อะไรจา..บอกค่ะ"

"มะม่วง.."

"...."

 "มะม่วงก็พอรู้ใช่มั๊ย ว่าพี่มีคนอื่น"

"...."

" พี่ไม่ผิดใช่มั๊ย"

"...."

"ถ้าวันนี้พี่จะบอกกับมะม่วงตรงๆว่า"

"...."

"พี่รักกอหญ้า!!!

"...."

"เรา.. เราเลิกกันเถอะ!!!"

"...."

"พ พ พ..พี่...ซัน..น"ชั้นเรียกพี่ซันด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

"ไม่ใช่ความผิดของพี่นะมะม่วง.."

"...."

"เธออยากเชื่อเพื่อนบ้าๆของเธอเอง" พี่ซันพูดเบาๆกับชั้นเหมือนไม่อยากให้ผู้หญิงที่ชื่อกอหญ้าจะได้ยินประโยคนี้ และเธอเองก็กำลังมองมาที่ชั้นด้วยสายตาที่ยิ้มแบบเย็นชาราวกับจะบอกให้ชั้นรู้ว่าเธอเหนือกว่า ก่อนที่พี่ซันจะหันไปจูงมือเธอและเดินจากไป ทิ้งให้ชั้นยืนอึ้งกับเหตุการณ์ที่แสนเจ็บปวดอยู่ตรงนี้เพียงลำพัง ทำไมทุกอย่างช่างรวดเร็วโดยไม่ให้ชั้นได้ตั้งตัวเลยละ ทำไมพี่ซันถึงพูดแรงขนาดนั้นนะ ความรู้สึกของชั้นตอนนี้ ยากที่จะอธิบาย มันทรมานไปหมด ร่างกายของชั้นนิ่งเฉยราวกับคนไม่มีความรู้สึก ชั้นทำผิดอะไร ทำไมต้องทำกับชั้นถึงขนาดนี้ ภาพเก่าๆที่พี่ซันเคยแสนดีกับชั้น ยิ้มให้ชั้น หัวเราะกับชั้น และมักทำให้ชั้นยิ้มและหัวเราะได้เสมอ เริ่มทยอยเข้ามาในหัวของชั้น น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้อยู่นาน เริ่มหยดลงมาที่ละหยด สองหยด จนในที่สุด ก็เริ่มไหลลงมาเป็นทางอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว ชั้นจะทำยังไงดี ชั้นจะไม่มีเขาอีกต่อไปแล้ว แล้วถ้าต่อไปชั้นต้องเจอกับเขา ชั้นจะทำหน้ายังไงดี..

         ชั้นเดินกลับมาถึงบ้านด้วยความรู้สึกที่เหนื่อยล้า และไม่มีแรง ทั้งที่ทุกวันชั้นสามารถเดินกลับบ้านได้อย่างสบายๆ เพราะระยะทางจากบ้านชั้นถึงโรงเรียน ห่างกันไม่มากนัก แต่วันนี้ ชั้นเหนื่อย เหนื่อยเหลือเกิน..

         เมื่อสามวันก่อน ระหว่างที่ชั้นนั่งทำการบ้านกับเพื่อนในห้องอย่างอารมณ์ดี เพื่อนที่ชั้นรักมากที่สุดเพราะสนิทกันตั้งแต่เด็ก เราเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตลอดและแม่ของเธอก็เป็นเพื่อนสนิทกันกับแม่ของชั้น ทำให้เราสนิทกันมากและพูดคุยกันในทุกเรื่อง โมจิ โมจิกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาชั้นอย่างรีบร้อน ทำให้เพื่อนคนอื่นพลอยตกใจและเป็นห่วงไปด้วย

"มีอะไรโมจิ รีบร้อนแบบนี้เดี๋ยวก็ล้มหรอก"

"มะม่วง เอ่อ ชั้นบอกตรงๆเลยนะ แก..เอ่อ..แกไปดูเลยดีกว่า" 

"ดูอะไร แล้ว ทำไมต้องรีบร้อนแบบนั้นละ"

"มะม่วง ชั้นรู้นะว่ามะม่วงต้องเจ็บมากถ้ารู้เรื่องนี้ แต่.."

"...." 

"เอ่อ.. ชั้นไม่อยากเห็นเพื่อนรักของชั้นโดนหลอกอีกต่อไปแล้ว"

"ชั้นไม่เข้าใจ แต่ ชั้นเชื่อเธอนะโมจิ" ชั้นที่กำลังรู้สึกหวั่นใจกับสิ่งที่จะได้เห็น พูดด้วยความรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หลังจากนั้นโมจิก็จูงมือชั้น กึ่งเดินกึ่งวิ่งอย่างรีบร้อน แล้วเราทั้งสอง ก็มาหยุดอยู่ที่รั้วของโรงเรียน และโมจิ ก็บอกให้ชั้นมองไปยังมหาวิทยาลัยที่อยู่ตรงข้าม รถที่ถนนวิ่งสวนกันไปมาในจำนวนที่ไม่มากนั่ง ทำให้ชั้นเห็นชายหญิงคู่หนึ่ง ยืนจับมือคุยกันอย่างสนิทสนมและใกล้ชิด ภาพเพียงแค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ชั้นรู้แล้วว่า พี่ซันและผู้หญิงคนนั้น คงไม่ใช่เพื่อนกันแน่

"มะม่วง.. มะม่วงง!!"

"อื้มม.."

"แกอย่าเสียใจนะ ชั้น ชั้นขอโทษที่บอกแกตรงๆ แต่ว่า ชั้นเห็นหลายครั้งแล้ว แต่ ไม่รู้จะบอกยังไงอ่ะ"

"อื้มม..ชั้นโอเค" ชั้นฝืนยิ้มบางๆให้โมจิ แม้ความรู้สึกของชั้นจะกลัวในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นก็ตาม

       ชั้นมองไปที่นาฬิกา ตอนนี้ก็สี่ทุ่มครึ่งแล้ว ซึ่งก็เลยเวลาที่ชั้นจะต้องโทรหาพี่ซันมาพักหนึ่งแล้ว แต่ทุกครั้ง เมื่อชั้นยังไม่โทไป พี่ซันก็มักจะเป็นฝ่ายโทรมาเสมอ แต่วันนี้ กลับไม่มีเสียงโทรศัพท์ของชั้นเลยแม้แต่น้อย จนในที่สุดชั้นก็ตัดสินใจโทรหาพี่ซันหลังจากที่จะโทรหลายครั้งแต่ก็วางทุกครั้ง

"ตื๊ดดดดดดดดดดดดดด..ตื๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด.....ฮัลโหล พี่ซันรับสายชั้นด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปเป็นนิ่งเฉยจนชั้นไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักนิด

"มะม่วงงงง!!"

"...."

"มะม่วงงงงงงงงงง!!!"

"เอ่อ...ค่ะพี่ซัน..น"

"แล้วจะเงียบทำไม โทรมาแล้วเงียบ ทีหลัง ไม่ต้องโทรมานะ เปลือง!!" น้ำเสียงปนรำคาญของพี่ซันยิ่งทำให้ชั้นกลัวยิ่งขึ้นไปอีก ชั้นต้องพยายามเก็บความรู้สึกเจ็บปวดทั้งหมดเอาไว้ พยายามไม่ให้พี่ซันรู้ว่า ตอนนี้ น้ำตาของชั้น กำลังไหลลงมาอย่างไม่สามารถหยุดไว้ได้ ยังไม่ทันที่ชั้นจะถามอะไร พี่ซันก็ได้ประโยคหนึ่งขึ้นมาว่า

"เมื่อกลางวัน ยัยโมจิไปบอกอะไรเธอฮะมะม่วง"

"เอ่...อ"

"ชั้นเห็นยัยเพื่อนบ้าของเธอมายืนมองชั้นอยู่ แล้วไม่นาน ชั้นก็เห็นยัยนั่นพาเธอมา อยากรู้อะไรหรอ ฮะ พี่ถามหน่อย มะม่วงมาเพื่อดูอะไร"

"เอ่ออ..มะม่วงง โมจิ.." ชั้นอึกอัก กลัว เสียใจ ทำไม ทำไมพี่ซันถึงดูน่ากลัวอย่างนี้ละ คนที่เคยอ่อนโยนกับชั้นหายไปไหน

"มะม่วงงงงงง!!" พี่ซันตะคอกชั้นด้วยน้ำเสียงโมโหมาก ชั้นไม่เข้าใจว่าทำไม ทำไมพี่ซันต้องโมโหชั้นขนาดนี้ ทั้งที่ชั้น ควรจะเป็นฝ่ายโมโหเองมากกว่า

"พี่ซันค่ะ"ชั้นตัดสินใจพูดออกมาจนได้"โมจิบอกว่าพี่มีคนอื่น แต่..แต่ไม่กล้าบอกมะม่วง วันนี้โมจิเลย..เลยย"

"เลยพาเธอมาดูให้เห็นกับตา งั้นสิ!!"

"ค่ะ.."ชั้นตอบด้วยน้ำเสียงแหบพล่า ชั้นไม่สามารถปิดบังความรู้สึกนั้นได้อีกแล้ว และพี่ซันเองก็คงได้ยินแล้วว่า ชั้นเริ่มร้องไห้อย่างหนัก

"มะม่วง..มะม่วงจำไว้นะ ถ้ามะม่วงอยากคบกับพี่ อย่า รื้อ อย่า ค้น อย่าอยากรู้อะไร ทั้ง นั้น เอาไว้ เราค่อยคุยกันดีกว่า พี่ว่าวันนี้มะม่วงไปนอนได้ละ ดึกแล้ว"

ตื๊ดดด...ตื๊ดดด ในที่สุดพี่ซันก็วางไป ส่วนชั้น ก็ทำได้เพียงร้องไห้ ร้องไห้ อย่างหนัก

          ชั้นทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยความรู้สึกทรมาน น้ำตาของชั้นไม่รู้มาจากที่ไหนมากมาย ชั้นจำได้ว่า ตั้งแต่เด็กจนโต ชั้นมักจะร้องไห้ได้กับทุกเรื่อง แต่ครั้งนี้ช่างเป็นความรู้สึกที่เจ็บที่สุดเลย ชั้นหลับตาและฟุบลงไปบนโต๊ะทำการบ้าน และร้องไห้จนในที่สุดก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

ก๊อก..ก๊อก..ก๊อกก!!!

"ตัวเล็ก..ตัวเล็กพี่เองงง" ชั้นเงยหน้าตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ยังมีคราบน้ำตาอยู่ พี่เป้ง พี่ชายคนเดียวของชั้น หน้าตาดี เรียกว่าจัดอยู่ในกลุ่มหนุ่มฮอตของโรงเรียน ผิวขาว และสูงเหมือนคุณพ่อ เคาะห้องเรียกชั้นด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นตามเคย พี่ชายของชั้นคนนี้มักจะเป็นคนที่เช็ดน้ำตาให้ชั้นเสมอ ชั้นมองไปยังนาฬิกาที่วางอยู่มุมโต๊ะด้านหน้า หกโมงเย็นแล้ว พี่เป้งคงจะมาเรียกชั้นไปทานข้าวเย็นอีกตามเคย

"ตัวเล็ก.."

"ค่ะ พี่ ตัวเล็กจะลงไปเดี๋ยวนี้คะ"

ชั้นรีบปาดน้ำตา แล้วเช็ดหน้า ก่อนที่จะเปิดประตู แล้วก็เห็นพี่เป้งยังคงยืนรอชั้นอยู่และมองชั้นอย่างเป็นห่วง

"เป็นอะไรไปตัวเล็ก บอกพี่ได้น่ะ พี่เห็นเราเงียบไปตั้งแต่กลับมาแล้ว ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า"

"ตัวเล็กก..ปวดหัวนิดนึงคะพี่ เลยรีบขึ้นมาทานยาแล้วนอนพัก"

"ทีหลังเป็นอะไรต้องบอกพี่นะตัวเล็ก พี่เป็นห่วงนะ ไปทานข้าวแล้วทานยาดีกว่าปะ"

"ค่ะพี่" ชั้นยิ้มบางๆเพื่อให้พี่เป้งสบายใจและหายห่วง แล้วก็ลงไปทานข้าว ซึ่งความรู้สึกของชั้นตอนนี้ ชั้นไม่อยากแม้แต่จะลืมตาด้วยซ้ำ ชั้นฝืนทานข้าวในจานให้หมดซึ่งข้าวในจานของชั้นวันนี้เยอะกว่าทุกวัน เพราะพี่เป้งเป็นห่วงชั้นมากกลัวว่าชั้นจะป่วย จึงอยากให้ชั้นทานเยอะๆจึงตักข้าวให้ชั้นเยอะกว่าปกติ ด้วยความหัวใจของชั้นตอนนี้ ทุกข์ทรมานอย่างหนักจึงใช้เวลาในการทานข้าวนานกว่าที่เคย ลิ้นของชั้นไม่รับรู้ถึงรสชาติของอาหารเลยด้วยซ้ำ

          หลังจากที่ชั้นทานข้าวเรียบร้อยแล้ว จึงเดินขึ้นไปบนห้องและหมดแรงหลับไปในที่สุด

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา