บทเพลงรักสะกิดใจ นายสุดฮอต!!
เขียนโดย Namizz
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20.37 น.
แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558 09.57 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) ~ 14 ~
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
~~~ทำไปโดยไม่คิด ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้ ฉันคิดว่าคง ไม่ทำ เธอคงแคร์ฉันมาก เพราะอย่างนั้นใช่ไหม จึงทำให้เธอ เจ็บช้ำ
*ให้รู้ว่าฉันเช่นกัน แค่เห็นเธอเป็นอย่างนั้น โลกนี้ก็พลัน มืดมน ฉันจะเป็นเช่นไร ถ้าบนโลกใบนี้ ไม่มีเธออยู่ สักคน
**จะไม่ทำอีกแล้วได้ไหม (จะไม่ทำอีกแล้วได้ไหม) ต่อไปฉันจะไม่ทำ อย่างนั้น (ต่อไปฉันจะไม่ทำ อย่างนั้น)เพียงสักครั้งให้เธอ ได้โปรดฟังคำนี้
*** ฉันอยากจะขอโทษ อย่าโกรธฉันเลยได้ไหม ฉันอยากจะขอโทษ แค่เธออภัยให้ฉัน
ฉันอยากจะขอโทษ ใช่เพียงพูดไปเท่านั้น คำว่าขอโทษ นั้นมาจากใจ ~~~
เสียงเปียโนดังไปทั่วบริเวณอาคารซึ่งทำให้บุคคลที่ชอบมาที่นี่เป็นประจำต้องหยุดฟังเสียงเพลงนั้นด้วยสายตาอ่อนโยน ชายหนุ่มยืนหลบอยู่ที่หลังประตูเพราะไม่อยากให้คนในห้องเห็น รอยยิ้มพรุดขึ้นมาจากปากของเต็งหนึ่งอย่างเงียบงัน 'นี่เธอมาเพื่อเขา ใช่ไหม เธอมาขอโทษเขาใช่หรือเปล่า’ ความคิดต่างๆนานาของเต็งหนึ่ง ทำให้เจ้าตัวดีใจ แต่เมื่อเสียงของเปียโนเงียบลงเขาจึงก้าวออกจากที่นั่นทันที โดยที่ไม่รู้ตัวว่ามีของสิ่งหนึ่งหลุดออกจากกระเป๋ากางเกง...
ฉันหยิบกระเป๋าบนโต๊ะมาสะพายหลังจากที่ได้บรรเลงเพลงที่แสนอ่อนหวานจบลงไปขณะที่กำลังจะปิดประตู ก็ได้เหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งตกอยู่ข้างประตู ฉันจึงหยิบขึ้นมาแต่เผอิญว่าแบตฯของมันหมดจึงเปิดเครื่องไม่ได้ ‘ของใครกันนะ รุ่นใหม่ล่าสุดซะด้วย’ ในใจคิดได้แค่นั้นก็เลยยัดมันใส่กระเป๋า แล้วเดินออกจากโรงเรียนไป
“เฮ้อ! ดีนะที่แม่ฉันก็ใช้รุ่นนี้เหมือนกันไม่งั้นคงไม่มีแบตฯให้ชาร์ตแหงๆ” เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฉันก็รีบไปค้นหาที่ชาร์ตแบตฯของแม่ทันที เพื่อที่จะได้ให้เจ้าของติดต่อกลับมา
~ ~ ติ๋งหน่อง ติ๋งหน่อง ~ ~
เสียงออดประตูหน้าบ้านดังขึ้น ฉันจึงเลิกสนใจโทรศัพท์ในมือแล้วเดินไปเปิดประตูบ้าน
“อ้าว...กลับมาแล้วเหรอ กินอะไรมาหรือยังล่ะ” เมื่อเปิดประตูต้อนรับ แขกที่มาเยือนนั้นไม่ใช่ใครน้องชายฉันเอง
“อืม...กินแล้ว แต่เหนื่อยอยากพัก” แพทพยักหน้ารับ แต่สีหน้าดูซีดเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง ขาที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดชะงัก แพทหันกลับมาแล้วพูดว่า
“พี่นียา...ช่วงนี้พ่องานยุ่งมากแม่ต้องอยู่ช่วยพ่อเครียงาน กว่าจะกลับก็คงจะต้นปีหน้า ค่าใช้จ่ายแม่จะส่งเข้าบัญชีพี่ทุกเดือน...แม่ฝากบอกว่า...ดูแลตัวเองด้วย” พูดจบแพทก็เดินขึ้นห้องไปทันที
“อีกแล้วเหรอ...เมื่อไหร่จะมีคนสนใจความสึกของฉันบ้างนะ” ฉันพูดกับตัวเองก่อนที่จะเดินขึ้นห้องไปอีกคน
ตลอดทางกลับบ้านของเต็งหนึ่ง เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังมีความสุขกับสิ่งที่ได้เห็นวันนี้ เธอคนนั้นมาเพื่อที่จะขอโทษเขา อย่างน้อย...เขาก็อยู่ในสายตาของเธอบ้าง ถึงแม้จะน้อยกว่าใคร...ก็ช่าง ขอแค่เธอสนใจเขา พูดคุยกับเขา ยิ้มแย้มให้เขา แค่นี้ก็พอใจแล้ว เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านหญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีเดินเข้ามาถามลูกชายของตน
“แม่โทรติดต่อกับลูกไม่ได้เลยนะเต็งหนึ่ง โทรศัพท์แบตฯหมดหรือลูก” น้ำเสียงห่วงใยของผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้น
“เหรอครับแม่ สงสัยแบตฯหมด งั้นผมขึ้นห้องก่อนนะครับ... แก้มแม่ยังหอมเหมือนเดิมเลย"เต็งหนึ่งหอมแก้มแม่ของตนเองแบบอ้อนๆแล้วเขาก็วิ่งขึ้นชั้นบนของบ้านทันที
"ไปอารมณ์ดีมาจากไหนกันนะ ลูกคนนี้...."สายตาอ่อนโยนมองตามหลังลูกชายก่อนที่จะสนใจผักที่อยู่ในจาน
แสงไฟจากเพดานทำให้ห้องของเต็งหนึ่งสว่างขึ้นทันตา เขาวางกระเป๋าไว้บนเตียงและกำลังจะเตรียมตัวอาบน้ำแต่เมื่อเขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงกลับพบแต่กระเป๋าเงิน
"หายไปไหนว่ะ" ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะรื้อกระเป๋านักเรียนทั้งใบ แต่ก็หาไม่เจอ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนเย็นเขาก็คิดออกทันที
"ปานนี้คงอยู่ที่บ้านของทานตะวัน...."ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อคิดถึงดอกทานตะวัน...ดอกไม้ที่เขาและเธอชื่นชอบ...แต่เขาในสายตาของเธอ... เขาคงเป็นเพียงดอกหญ้าดอกเล็กๆที่ไร้ค่า.....
"โอ๊ย!โอ๊ย! โอ๊ย!ๆๆคิดยังไงก็คิดไม่ออก ฉันอยากจะบ้าตายอยู่แล้ว" ฉันร้องโอดครวญให้เพื่อนในก๊วนฟัง ในขณะที่ตอนนี้ทุกคนได้นั่งอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งข้างๆโรงเรียนรวมถึงฉันด้วย
"ใจเย็นๆสิ นียา ค่อยๆคิดก็ได้ ยังพอมีเวลา" โซดาเอ่ยขึ้นก่อนที่จะตักข้าวจานที่3 เข้าปาก
"แกจะบ้าเหรอ ฉันคิดมาตั้ง4-5วัน ยังไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรเลย นี่ก็ใกล้จะถึงวันงานเข้ามาทุกทีแล้วนะ ฉันอยากจะบ้าตาย" ฉันมองหน้าเพื่อนอย่างเศร้าสร้อยเพราะจนปัญญาจริงๆ
"มีดีอยู่ที่ตัว...ทำไมไม่เอามันออกมาใช้ล่ะ"ลูกปลาพูดขึ้นโดยที่สายตายังคงสนใจอยู่กับหนังสือ....มีดี...เรามีดีอะไร เอ๊ะ!!!
"ขอบใจมากนะลูกปลา!เธอทำให้ฉันพบแสงสว่างที่แท้จริง ซึ้งจัดเลยเพื่อน^0^" ฉันชูสองนิ้วขึ้นทำสัญลักษณ์ลิพโพ สู้ตายค่ะ!! ให้เพื่อนๆก่อนที่พวกนั้นจะหัวเราะกับท่าทางของฉัน
"น้อยๆหน่อย นียา เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อนนะเจ๊ ฮ่าๆๆๆๆ" สิ้นสุดประโยคของเฟิร์น หนังสือคณิตเล่มหนาก็ลอยละลิ้วไปกระทบกับหัวคนพูดทันที
"โห!!เล่นของเลยเหรอว่ะ.....ฮือๆๆๆๆ ยอมแล้วจร้า~~~" เฟิร์นยกมือขึ้นเพื่อยอมแพ้ฉัน
"ใจเย็นๆนียา งานน่ะฉันว่าถ้าแกตั้งใจทำ ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้แกต้องคิดโปรเจ็คการแสดงออกแน่ เชื่อฉัน" โซดาเงยหน้าขึ้นมาพูดกับฉันอย่างจริงจัง หลังจากที่ซัดน่องไก่ชิ้นสุดท้ายในจานหมดไปแล้ว
"ฉันก็หวังให้มันเป็นอย่างนั้น กินเสร็จหรือยังว่ะโซดา รอแกคนเดียวเลยนะ รีบกลับบ้านเถอะ ฝนกำลังจะตกแล้วนะ"ฉันเร่งให้โซดารีบยัดน่องไก่ลงท้อง และเดินไปจ่ายค่าอาหารกับป้าแมวที่หน้าร้าน
ท้องฟ้าที่ควรจะเป็นสีส้มอ่อนๆ บัดนี้ ได้กลายเป็นสีครึ้มดำไปเรียบร้อยแล้ว ร่างบางเงยหน้ามองท้องฟ้าเพื่อคำนวณเวลากลับบ้าน ‘น่าจะทัน อย่าพึ่งตกเลยนะจ๊ะฝนจร้า~~'เมื่อคิดได้เท่านั้นนียาก็รีบวิ่งขึ้นรถเมล์ทันที... อันที่จริงนียาจะกลับพร้อมเป้ยทุกวัน แต่พอมารู้ทีหลังว่าตารางสอนมันไม่ตรงกันเพราะเป้ย อยู่ห้อง 6 บางวันเป้ยก็เลิกก่อนบางวันนียาก็เลิกก่อนทั้งสองจึงตกลงกันว่าถ้าใครเลิกเรียนก่อน ก็ให้กลับบ้านได้เลย
===============
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ