Bad Boy & Girl ... ภารรักภารกิจร้าย

7.1

เขียนโดย zomii

วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 21.03 น.

  35 บท
  144 วิจารณ์
  52.01K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) เวลาแห่งการเป็นจริง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

        เช้าวันหยุดที่แสนจะสดใสทำให้จิตใจของฉันเบิกบานอย่างน่าประหลาด สงสัยเมื่อวานได้ออกกำลังมั้ง ^O^

               

        "แม่คะ...วันนี้ทำอะไรทานเนี่ยห๊อมหอม" ผู้เป็นแม่อมยิ้มน้อยๆ เมื่อลูกสาวคนเดียวยื่นหน้าเหนือหม้อข้าวต้มไก่

               

        "ว้าว! ข้าวต้มไก่ ตาลกำลังจะบอกแม่อยู่เชียวว่าเบื่อทะเลแล้ว อืม หอมๆ แล้วไงตาลของไข่2ฟองนะคะ" ฉันหันไปจุ๊บแก้มแม่อ้อนเสียงใสประจบ

               

        "อ้อนเอาอะไรอีกล่ะเราน่ะ" เสียงของพี่ต่อดังขึ้นทางด้านหลัง ก่อนเจ้าตัวจะโผล่ออกมาขยี้หัวฉันเบาๆอย่างเอ็นดู

               

        "เปล่าอ้อนซักหน่อย ตาลก็แค่ของไข่เพิ่มเป็น 2ฟองต่างหาก" ฉันรีบพูดแก้ตัว ทำปากเชิดให้พี่ชาย แล้วจึงเผ่นหนีทันที ฟิ้วววว~

               

        "เรานี่ ฮ่าๆๆ" ตัวต่อส่ายหน้าอย่างเอ็นดูเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมอยู่ให้ทำโทษ "ยังไงก็ไม่โตซักทีนะครับแม่" ผู้เป็นแม่หันมองหน้าลูกชายคนโตพลางอมยิ้ม

               

        "ไม่โตที่ไหนล่ะ อีกหน่อยก็มีแฟนได้แล้วมั้ง" พูดขัดขึ้นอย่างหยอกๆ เพราะรู้ว่าลูกชายทั้งสองคนทั้งห่วงทั้งหวงน้องสาวเพียงคนเดียวแค่ไหน

               

        "ไม่ได้หรอกฮะแม่!" อย่างเข้มดังขัดขึ้นทันควัน แต่ไม่ใช่ของตัวต่อนะแต่เป็นต้นกล้าที่บังเอิญผ่านมาได้ยินเข้า "ต้นยังหาแฟนไม่ได้เลย จะให้ยัยเปี๊ยกมีก่อนได้ไงเสียเชิงหมด!” คนได้ยินถึงกับหัวเราะออกมา

               

        "แม่ว่าถ้าต้นจะจริงจังกับผู้หญิงซักคน ลูกคงมีแฟนไปนานแล้ว จริงมั้ย" ต้นกล้ามองผู้เป็นแม่ ก่อนจะโผเข้ากอดเอวหลวมๆ

               

        "ก็ต้นยังไม่พบคนที่ใช่นี่ฮะ เอาไว้ถ้าต้นเจอเมื่อไหร่จะบอกแม่คนแรกเลยฮะ" คนฟังหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีตบมือลูกชายเบาๆ ก่อนจะหันไปคนหม้อข้าวต้ม

               

        "แล้วต่อล่ะลูก เรียนก็ใกล้จะจบแล้วไม่คิดมีแฟนกับเค้าบ้างหรือไงกัน" ถามอย่างติดลมไม่ทันได้สังเกตท่าทางไหวตัวของลูกชายคนโตต่อคำถามนั้น

               

        "ก็เรื่อยๆ แหละครับแม่" ตอบเพียงเท่านั้นก็เดินออกไป

               

        "สงสัยจะใกล้ถึงวัยทองแล้วมั้งฮะแม่...พี่ต่ออะ" ต้นกล้าที่เห็นท่าทางนั้นมองอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะสะดุ้งโหยงเผ่นออกจากห้องครัวแทบไม่ทันเมื่อแม่สุดที่รักเงื้อมทัพพีเตรียมเขกกะบาลอยู่ลอมล่อ

               

        "พ่อเห็นเครื่องซ้อมเต็มหลังบ้านไปหมดของต้นหรอลูก" ผู้เป็นพ่อถามขึ้นขณะนั่งทานข้าวเช้ากันพร้อมหน้าพร้อมตา

               

        "เปล่าฮะ...ของไอ้ตาลมัน" ต้นกล้าส่ายหน้าปฏิเสธก่อนโยนให้น้องสาวแทน

               

        "ตาลกลับมาซ้อมอีกแล้วหรือลูก" ฉันส่งค้อนให้ไอ้พี่บ้าวงหนึ่งก่อนจะหันไปพยักหน้ารับคำถามของพ่อ

               

        "ค่ะ พอดีว่าพี่ต้นเค้าใจดีไปเอามาให้" ฉันได้ทีสวนกลับพร้อมยักคิ้วยียวนให้อีกตลบ

               

        "เป็นไงล่ะคุณ...ทีนี้ยังคิดส่งลูกไปเรียนเต้นอีกมั้ย” คนเป็นลูกทั้งสามคนเริ่มขมวดคิ้ว หันมองพ่อทีแม่ที

               

        "คุณก็ ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ" แม่พูดพร้อมหันมาทางฉันที่เริ่มขยับตัวอย่างร้อนรน

               

        "เอ่อ...ตาลขอบายนะคะ คือตาลอยากทุ่มเทกับเทควันโดมากกว่าค่ะ" ฉันต้องรีบขวางทัพก่อนจะโดนจู่โจม คนเป็นแม่ที่มองออกจึงได้แต่ส่ายหน้า

               

        "พ่อครับแม่ครับ" อยู่ๆ พี่ต่อก็เอ่ยเรียกพ่อกับแม่ สีหน้าดูเป็นงานเป็นการ

               

        "ว่าไงเรา" พ่อถาม

               

        "คือต่อจะขออนุญาตไปทำวิทยานิพนธ์แถวภาคเหนือ 2–3 เดือนน่ะครับ” ฉันกับพี่ต้นมองหน้ากันก่อนจะหันไปมองหน้าพี่ต่อ

               

        "สองสามเดือนเชียว แล้วจะไปจังหวัดไหนล่ะ แล้วไปกันกี่คน” แม่รัวคำถามราวปืนกล 

              

        "...ว่าจะไปที่แม่ฮ่องสอนหรือไม่ก็คงจะดอยไหนซักดอย คือต่อทำเรื่องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชนเผ่ากับเพื่อนสิบกว่าคนครับ”

               

        แม่พยักหน้ารับรู้

               

        "แล้วใบอนุญาตทางมหาลัยเค้าออกให้มั้ย" คราวนี่ตาพ่อบ้าง

               

        "วางไว้บนโต๊ะทำงานพ่อแล้วครับ"

                               

        "พี่ต่อจะไปตอนไหนล่ะคะ" ฉันถาม

               

        "คงจะอาทิตย์หน้า...พี่ต้องไปคุยกับเพื่อนอีกทีน่ะ" ฉันพยักหน้ารับ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานต่อ

               

        วันนี้ทั้งวันฉันจึงนั่งเคลียการบ้านของอาทิตย์นี้ให้เสร็จ ก็กินเวลาเกือบทั้งวัน พอตกเย็นก็ไปซ้อมกับไอ้พี่ต้นต่อ รู้สึกแช่มชื่นขึ้นเยอะจากการได้ออกกำลังกายอย่างนี้ถึงแม้ว่าสภาพของพี่ต้นจะดูไม่จืดทุกครั้งเลยก็ตามที จึงทำให้ลืมเรื่องประกวดดาวโรงเรียนไปเสียสนิท

               

        แต่แล้วเวลาแห่งความเป็นจริงก็มาถึง ในระหว่างที่กำลังทานอาหารเย็นที่อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนเมื่อเช้าอยู่ๆ แม่ก็พูดขึ้นว่า

               

        "ตาล...เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่จะพาไปหาคุณอาศิรีนะลูก"

               

        ฉันขมวดคิ้วน้อยๆ เมื่อจำได้ว่าคุณอาศิรี หรือศิรีรินทร์ดีไซเนอร์ชื่อดังแห่งวงการบันเทิงที่เป็นเพื่อนของแม่นี่หว่า?

               

        "ไปทำไมคะ?"

               

        "นั่นน่ะสิคุณ ถ้าจะตัดชุดออกงานใหม่เอาแถวบ้านก็ได้ไม่ต้องไปรบกวนศิรีเค้าหรอก" พ่อถามขึ้นอีกคนอย่างสงสัย เพราะส่วนมากคุณอาศิรีเค้าจะตัดชุดที่ดูทันสมัยมากกว่าชุดไหมอย่างที่แม่ใส่

               

        "ไม่เป็นไรค่ะคุณ ฉันโทรคุยกับศิรีเค้าแล้ว...เห็นตื่นเต้นใหญ่เลยที่รู้ว่าหลานสาวเป็นตัวเต็งในการประกวดดาวโรงเรียน"

               

        -พรวดดดด!-

               

        น้ำพุ่งออกจากปากของสองพี่น้องต้นกล้าและลูกตาลแทบพร้อมกัน ส่วนตัวต่อถึงกับทำน่องไก่หลุดมือลงไปนอนแอ้งแม้งบนจานข้าว ทางพ่อนั้นไม่ต้องพูดถึงเกิดสำลักน้ำลายกะทันหันเช่นกัน สรุปไม่มีใครไม่อึ้งกับสิ่งที่แม่พูด! จากนั้นเสียงไอค็อกแค๊กๆ ของทุกคนก็ประสานกันอย่างพร้อมเพรียง แล้วไอ้พี่ต้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาจนน้ำหูน้ำตาไหล

               

        "ฮ่าๆๆ นี่แม่จะบอกว่า อุ๊บ ฮ่าๆๆ" พูดได้เพียงแค่นั้นก็กลับไปหัวเราะอีก -*-

               

        "นี่ตาต้น! มากไปแล้วนะ ผิดหรอที่น้องจะลงประกวดดาวโรงเรียนน่ะ เป็นตัวเต็งเชียวนะ อีกอย่างน้องก็เคยลงประกวดนางงามหมู่บ้าน แล้วก็ได้รางวัลชนะเลิศ..." น้ำเสียงแม่ดูภาคภูมิใจ ส่วนคนถูกว่ากลับหัวเราะหนักขึ้นอีก และฉันน่าเจือสนิทออกจะชาๆ ด้วยซ้ำ เหอะๆ เท่าที่ฉันจำได้ตอนนั้นฉันอายุ 3ขวบ ตอนประกวดก็ดึกมากคู่แข่งของฉันจึงทนไม่ไหวหายไปทีละคนสองคนเหลือฉันกับเด็กผู้หญิงตัวอ้วนๆ อีกคน ให้ตาย! ถ้าฉันไม่ได้ก็พูดไม่ออกแล้วแหละ -_-

               

        ทุกคนรู้ว่าแม่อยากได้ลูกผู้หญิงขนาดไหนตอนท้องแรกก็เฝ้าหวังแทบเป็นแทบตายว่าจะได้ลูกผู้หญิงกลับออกมาเป็นผู้ชาย เลยต้องปั๊มใหม่ก็ยังเป็นผู้ชายอยู่ดี จึงลองปั๊มอีกรอบถึงได้ออกมาเป็นฉันอย่างทุกวันนี้แหละ ตั้งแต่เด็กๆ แม่ชอบแต่งตัวฉันเป็นตุ๊กตาอยู่เสมอจนคนแถวบ้านเรียกฉันว่าบาร์บี้แทนชื่อจริงๆ แต่แม่ก็ต้องเกือบเป็นลมเมื่อรู้ว่าฉันแอบไปฝึกเรียนเทควันโดกับพี่ต้นแถมยังแอบลงแข่งอีก มารู้ความจริงก็ตอนที่ฉันเอาเหรียญทองมาอวดน่ะแหละ และนี่คงจะทำให้แม่เป็นปลื้มมากแน่ๆเฮ้อ~ ฉันลืมเรื่องนี้ได้ไงเนี่ย นับถือเจ๊จานเอมมิกาแกจริงเลย T^T

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา