[So hot!]หล่อวายร้าย กระชากหัวใจยัยสุดฮอต

9.2

เขียนโดย weLOVEkamikaze

วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 18.58 น.

  10 ตอน
  37 วิจารณ์
  13.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559 15.54 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) วันวุ่นๆ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

"ทำอะไรกันน่ะ!!" ชายหนุ่มและหญิงสาวที่กำลังปนเปรอกันหันไปมองต้นเสียงก็ชะงัก

 

 

 

 

"แม่!!!" ป๊อปปี้มองหญิงมีอายุข้างหน้าอย่างตกใจก่อนจะหันไปบอกหญิงข้างกายให้ออกไปก่อน

 

 

 

 

"พิมคุณออกไปก่อน" ป๊อปปี้บอก

 

 

 

 

"ค่ะ" พิมรับคำจึงเดินออกไป สายตาสบเข้ากับสายตาอำมหิตจากผู้เป็นนายอย่างน่าเกรงกลัวจนเธอหลบสายตาแทบไม่ทัน

 

 

 

 

"เมื่อไหร่แกจะเลิกนิสัยแบบนี้สักทีตาป๊อป!" คุณหญิงสุวรรณแม่ของป๊อปปี้เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงข่มอารมณ์

 

 

 

 

"ผมก็เป็นอย่างนี้ตั้งนานแล้วแม่ก็รู้" ป๊อปปี้ตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัวเลยสักนิด

 

 

 

 

"แต่แกกำลังจะหมั้นกับหนูฟาง แกไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้" คุณหญิงสุวรรณยื่นคำขาด

 

 

 

 

"ผมไม่สนแม่บังคับผม ผมไม่ได้รักยัยนั่นซะหน่อย" ป๊อปปี้พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่ก็แอบหวั่นๆ ไม่ได้รัก ใช่ผมไม่ได้รักเธอซะหน่อยแค่สนใจไม่ได้แปลว่ารัก

 

 

 

 

 

"ป๊อปปี้!!" มารดาตระหวาดอย่างเหลืออด

 

 

 

 

"ผมจะเป็นของผมแบบนี้ถ้ายัยนั่นทนได้ก็ทนเอา!" เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เขาขึ้นเสียงใส่แม่เพราะเรื่องยัยเด็กนั่น เธอนี่มัน... 

คุณหญิงสุวรรณส่ายหน้าเหนื่อยใจกับลูกชายก่อนจะเดินออกไป

 

 

 

 

 

 

 

 

          

"ฆ่าฉันเถอะ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นใช่มั้นจินนี่!" ฉันยกมือเสยผมสีน้ำตาลประกายทองที่ถูกดัดลอนใหญ่ๆ ตรงปลายซึ่งบัดนี้มันคงยุ่งจนแทบไม่เป็นทรง ก่อนจะนวดเบาๆที่หัวคิ้วเพื่อไล่อาการปวดหัวตุบๆ ที่กำลังเล่นงานข้างในศรีษะ

 

 

 

 

"(ในเวลาที่โคตรรีบนี่แกคิดว่าฉันมีเวลามาล้อเล่นกับแกรึไงฟาง...)" จินนี่ย้อนเสียงเครียด

 

 

 

 

"(ลุกจากเตียงแล้วเอางานบนโต๊ะทำงานลงมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะจอดรถที่หน้าประตูคอนโดนะ)"

 

 

 

 

"ให้ตายเถอะ" ฉันพึมพำแค่นี้ก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

 

 

 

 

"(อย่าช้าล่ะไม่งั้นฉันโดนตัดสิทธิ์สอบวิชานี้แน่)" จินนี่ไม่ฟังที่ฉันพูดเลยใช่มั้ยเนี่ยฟังๆดูแล้วยัยนางแบบลูกครึ่งหน้าหวานสุดฮอตก็ต้องให้ฉันเอางานลงไปให้ได้สินะ

 

 

 

 

"แล้วเจอกันนะ"

 

 

 

 

     Shit...

ฉันสถบในใจ ปัดผ้าห่มออกแล้วพริกตัวเองลงจากเตียง จากนั้นก็เดินไปที่โต๊ะทำงานมุมหนึ่งในห้องนอนของยัยจินนี่อย่างเสียไม่ได้ มันเป็นความซวยของฉันเองแหละที่เลือกมาค้างคอนโดยัยนั่นหลังปาร์ตี้เมื่อคืน จะถ่อไปคอนโดของตัวเองก็ยังตบแต่งไม่เสร็จ

 

 

 

 

"ปาร์ตี้ถึงตีสาม นอนเกือบตีสี่ และตื่นตอนหกโมงเช้า...ขอบคุณพระเจ้า!" ฉันพูดประชดพรางหางานของยัยขี้ลืมนั่นด้วย ถูกปลุกทั้งๆที่พึ่งหลับได้ไม่กี่ชั่วโมงนี่มันหงุดหงินที่สุดเลยนะ

 

 

 

 

          อ้อ...ขอเล่าหน่อยนะฉันกับจินนี่เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากกกกยัยนั่นรู้จักกับครอบครัวฉันด้วย เธอเป็นคนเก่งมากๆหาเงินส่งตัวเองเรียน และใช้ชีวิตอย่างสวยหรูตั้งแต่ขึ้นปีหนึ่งแล้วล่ะ  แต่ยังไงยัยจินนี่ก็ต้องรับงานถ่ายแบบเดินแบบจน'ตัวเกลียวเป็นน็อต' เพื่อหาเงินเรียนต่อ ผ่อนคอนโด ผ่อนรถ และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอยู่ดี

         

 

           ถ้ายัยจินนี่ตัดสินใจไปเรียนต่อที่เมกากับฉันคงจบพร้อมกันแล้วล่ะยัยบ้า

     

 

     ฉันจะแกล้วไม่สนใจปล่อยให้ยัยนี่กลับขึ้นมาเอาเองก็ได้ถ้าไม่ติดว่าคอนโดจินนี่อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยค่อนข้างมากและถ้าออกจากคอนโดสายรถต้องติดมากจนเข้าเรียนไม่ทันแน่ๆ

         

 

          ลงไปทั้งอย่างนี้แหละ

 

 

     ตอนกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้อง ฉันก็เห็นภาพตัวเองสะท้อนในกระจกขนาดใหญ่สูงเท่าตัว ฉันอยู่ในชุดนอนแบบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวความยาวคลุมต้นขาที่ดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ เผยให้เห็นช่วงขาเรียวยาวกับผิวสีน้ำผึ้งอ่อนใสที่ดูฮอตเวอร์ๆ แต่เมื่อคิดว่ายัยจินนี่จะมาถึงในสองนาทีนี้ และถ้าฉันไปสายจะต้องโดนยัยนี่บ่นจนหูชา บวกกับความขี้เกียจของฉันทำให้ตัดสินใจที่จะเปิดประตูลงไปทั้งอย่างนี้แหละ

 

 

          ไม่เป็นไรหรอก นี่เพิ่งจะหกโมงเช้านิดๆเท่านั้นเอง

 

 

     ฉันคิดในใจขณะเดินไปที่ลิฟต์และเอามือปิดปากหาวไปด้วย เหอะ ใครจะตื่นออกไปทำงานหรือมีเรียนตั้งแต่ไก่โห่เหมือนยัยจินนี่ล่ะ จริงมั้ย ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ฉันก้าวขาเข้าไปในลิฟต์ตอนนั้นฉันจึงได้เหลือบมองตัวเองในกระจกตรงประตูลิฟต์อีกครั้งพร้อมกับเสยผมไปด้วย

 

 

 

 

"หวังว่าเช้าขนาดนี้คงไม่มีใครมาเจอฉันลงลิฟต์ไปในสภาพนี้หรอกนะ" ฉันพึมพำพรางมองบอดี้แบบเอสไลน์ในชุดเสื้อเชิ้ตธรรมดากับผมยุ่งๆที่สะท้อนในกระจกในลิฟต์ ฉันไม่ได้อยากจะชมตัวเองให้หน้าหมั่นไส้หรอกนะ แต่มันเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันนั้นเซ็กซี่ขนาดไหน ฮิฮิ

 

 

 

 

     ติ๊ง!

 

 

 

 

          สัญญาณเตือนบอกว่าลิฟต์หยุดที่ชั้นห้าประตูเปิดออก พร้อมๆกับที่โสตประสาทฉันได้ยินเสียงฝีเท้าคนกำลังวิ่งมา ทว่า..ฉันไม่ใช่คนที่มีน้ำใจขนาดนั้นหรอกนะ ขอโทษด้วยนะ...แต่จะให้ฉันลงลิฟต์ไปกับใครสักคนในสภาพที่ฉันอยู่ในชุดแบบนีัก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะถ้าเป็น...ผู้ชาย

 

 

 

 

"รอด้วยครับ" คนที่กำลังเร่งฝีเท้ามาให้ทันลิฟต์ตะโกนบอก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอโทษที่ปล่อยให้รอนานนะจ้าาวันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะจุ๊บๆ กำลังจะแต่งอีกเรื่องทั้งๆที่เรื่องนี้ยังไม่จบแหะๆฝากติดตามด้วยน้าาาา เดี๋ยวจะมีตัวละครใหม่มาเพิ่มอีกเยอะฝากด้วยๆ

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา