Destiny ด้ายแดงสื่อรักแห่งพรหมลิขิต

8.7

เขียนโดย ChiaraCastiglione

วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 20.10 น.

  11 ตอน
  25 วิจารณ์
  16.20K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558 13.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

10) มาทันเวลาพอดี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 หลังจากที่ฟางอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้โทโมะฟัง โทโมะก็มาส่งเธอที่บ้านประจวบเหมาะที่แก้วกลับมาจากญี่ปุ่นแล้วมาหาฟางที่บ้านเช่นกัน

 

 

 

 

“แก้ว..” ฟางเรียกชื่อลูกพี่ลูกน้องของเธอแล้วเดินเข้าไปกอดอย่างคิดถึง นี่ก็ครบปีแล้วสินะที่ไม่ได้เจอกัน

 

 

 

 

“ฟางเป็นไงบ้างสบายดีไหม?” แก้วถามฟางด้วยความคิดถึง

 

 

 

 

“อื้อ..” สาวน้อยร่างเล็กพยักหน้าแล้วยิ้มให้กับเพื่อนสาวของเธอ

 

 

 

 

“แก้ว!?...” โทโมะที่ลงมาจากรถก็ตกใจที่เห็นแก้วยืนอยู่ตรงหน้าเช่นกัน

 

 

 

 

“ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยเราไม่ใช่ผีนะ” แก้วหันไปพูดกับโทโมะ

 

 

 

 

“ป่าวเราไม่ได้คิดแบบนั้นแต่เรา..ดีใจ”โทโมะตอบแค่นั้นแล้วยิ้มให้กับแก้วแล้วแก้วก็ยิ้มให้เช่นกัน ขณะที่ทั้งคู่มองหน้ากันอยู่นั้นสาวน้อยร่างเล็กมองทั้งสองคนที่ยิ้มให้กันแล้วคิดถึงเรื่องที่โทโมะชอบแก้วแล้วต้องหน้าเศร้าลงทันที แก้วที่หันมาเห็นฟางหน้าซึมก็ถามขึ้น

 

 

 

 

“ฟางเป็นอะไร ไม่ดีใจเหรอที่เรากลับมา”

 

 

 

 

“ดีใจสิมากด้วยเราเหงาตั้งนานกว่าจะกลับมานึกว่าลืมเราไปแล้วซะอีก” แก้วเห็นทีท่าเหมือนฟางจะงอนก็ขยี้ผมของเพื่อนสาวแล้วดึงเข้าไปกอดปลอบ

 

 

 

 

“โอ๋ๆไม่ร้องนะ”แก้วปลอบเพื่อนสาวขี้งอน “แก้วหิวแล้วอ่ะ มีอะไรให้ทานบ้าง” แก้วผละฟางออกแล้วถาม

 

 

 

 

“อื้อ..แก้วอยากทานอะไรล่ะ เอางี้เดี๋ยวฟางทำให้ทานเอง” พูดจบสองสาวก็จูงมือกันเข้าบ้านโดยมีโทโมะเดินตามมาด้วย

 

 

 

 

 

เช้าวันต่อมา....

ติ๊งต๊อง...ติ๊งต๊อง...

 

 

 

 

 

“ใครมากดกริ่งหน้าบ้านแต่เช้าเนี้ย” แก้วที่รดน้ำต้นไม้ที่หน้าบ้านก็พูดขึ้น แก้วมาอยู่กับฟางที่บ้านเมื่อได้ยินข่าวจากฟางว่าแม่ของฟางที่จริงเป็นป้าของเธอได้เสียไปแล้วแก้วเลยต้องย้ายมาอยู่กับฟางเพราะกลัวว่าอยู่คนเดียวมันอันตราย

 

 

 

 

 

 

แก้วเดินออกไปหน้าบ้านเมื่อมีใครมาบางคนมาบีบแตร เธอมองร่างสูงอย่างประหลาดใจ “มาหาใครค่ะ” แก้วถามชายหนุ่ม

 

 

 

 

 

“ฟางอยู่ไหมครับ” ป๊อปปี้ลงจากรถแล้วถามแก้ว

 

 

 

 

 

 

“อ๋อ สักครู่นะคะ” แก้วบอกป๊อปปี้แล้วเดินเข้าไปในบ้านเรียกฟาง “ฟางมีคนมาหาอ่ะ” หญิงสาวร่างเล็กวิ่งลงมาจากข้างบน

 

 

 

 

 

 

“ใครเหรอ”

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาแต่งตัวดีมากถือว่าหล่อทีเดียว” แก้วบอกเพื่อนสาวที่ชะเง้อมองออกไปข้างนอก

 

 

 

 

 

 

“ไม่ต้องชะเง้อมองขนาดนั้นก็ได้คอยาวเหมือนยีราฟแล้ว” ร่างสูงถือวิสาสะเดินเข้ามาในบ้านของฟาง ฟางที่เห็นว่าเป็นป๊อปปี้ก็แปลกใจ

 

 

 

 

 

 

“คุณมาทำไม”

 

 

 

 

 

 

“ผมมารับคุณไง” ป๊อปปี้ตอบพลาดยิ้มให้สาวน้อยร่างเล็ก

 

 

 

 

 

 

“ฉันไปทำงานเองได้ คุณไม่ต้องมารับฉันหรอก” ฟางพูดหน้านิ่ง

 

 

 

 

 

“ฟางจะไปทำได้ยัง” โทโมะที่มารับฟางก็พูดขึ้นแล้วเดินมาหยุดข้างๆป๊อปปี้ “อ้าวแก้วทำไมมาที่นี้แต่เช้าจัง” พอโทโมะเห็นแก้วก็หันไปถามแก้ว โดยไม่สนใจคำตอบของฟาง

 

 

 

 

 

ป๊อปปี้ที่ยืนอยู่ก็มองทั้งสามคน อย่างเข้าใจสถานการณ์ เขารู้เลยว่าคนที่โทโมะพูดขึ้นวันนั้นก็คือแก้วคนนี้นี่เอง สักพักป๊อปปี้หันไปมองสาวร่างเล็กที่กำลังมองแก้วกับโทโมะอย่างซึมๆก็แสยะยิ้มมุมปาก

 

 

 

 

 

“อ๋อแก้วมาอยู่กับฟางน่ะ” แก้วตอบโทโมะแล้วยิ้มหวานให้

 

 

 

 

 

 

“ดีจัง.....” ฟางที่เห็นโทโมะกับแก้วคุยกันไปยิ้มไปก็เลยเดินไปดึงมือป๊อปปี้

 

 

 

 

 

 

“คุณมารับฉันไม่ใช่เหรอ..งั้นก็ไปกันเถอะ” ป๊อปปี้มองสาวร่างเล็กที่พูดกับเขาแต่เธอไม่หันมามองเขาเลย แถมยังดึงมือของเขาให้เดินตามเธอไปอีก โทโมะกับแก้วที่คุยกันก็หันมามองฟางอย่างงงๆ

 

 

 

 

 

 

 ระหว่างทาง...

“ทำไมเป็นอะไร เห็นเขามีความสุขแล้วโกรธเหรอ” ป๊อปปี้ถามฟางที่นั่งเงียบมาสักพัก

 

 

 

 

 

 

“ป่าว...”

 

 

 

 

 

 

“แล้วทำไมต้องหน้างอด้วยล่ะ” ป๊อปปี้ยังกวนประสาทฟางไม่เลิก ฟางหันหน้าไปมองร่างสูงที่ขับรถแล้วขึงตาใส่แต่เธอก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร ป๊อปปี้ขับรถไปสักพักฟางที่นั่งอยู่มองตามทางก็แปลกใจที่ไม่ใช่ทางไปบริษัท

 

 

 

 

 

 

“นี่คุณจะไปไหนทางเส้นนี้มันไม่ใช่ไปบริษัทนะ” ฟางหันไปมองร่างสูงอย่างงงๆ ป๊อปปี้ไม่ได้หันมามองตอบแต่กลับพูดขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

“ก็ผมเห็นคุณหน้างออยู่แบบนี้ ถ้าขืนคุณสอนงานผมแล้วทำหน้าดุไปผมคงจะมีความสุขกับการทำงานแหละ” ฟางที่ได้ยินถอนหายใจ ก็จะกลับสู่สภาพปกติ

 

 

 

 

 

 

“โอเค ฉันไม่ได้หน้างอแล้ว งั้นคุณก็พาฉันกลับไปทำงานได้แล้ว”

 

 

 

 

 

 

“ไม่ ผมไม่กลับ..ในเมื่อผมตัดสินใจจะทำอะไรแล้วผมจะไม่มีวันเปลี่ยนใจเด็ดขาด” ป๊อปปี้พูดขึ้นแล้วเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นกว่าเดิม 3 ชั่วโมงผ่านไป

 

 

 

 

 

“สวนนงนุช!?” ฟางพูดขึ้นเมื่อรถมาจอดอยู่ตรงป้ายใหญ่ แล้วหันไปมองหน้าป๊อปปี้เพื่อเอาคำตอบ “คุณพาฉันมาที่นี้ทำไม”

 

 

 

 

 

 

“พาคุณมาผ่อนคลายไง เจอธรรมชาติจะได้รู้สึกดีขึ้น”

 

 

 

 

 

“แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้วนะ..” ฟางพูดยังไม่ทันจบ ป๊อปปี้ก็เปิดประตูรถลงไปซะแล้ว

 

 

 

 

ฟางมองไปรอบๆแล้วต้องยิ้มกับดอกไม้ที่สวยสะดุดตา ป๊อปปี้ที่เห็นฟางยิ้มก็ยิ้มตามที่เห็นฟางยิ้มออกมา ฟางกวาดสายตาไปรอบแล้วหันมาเจอหน้าป๊อปปี้ที่ยืนยิ้มอยู่ก็ถาม

 

 

 

 

 

“คุณยิ้มอะไร”

 

 

 

 

 

“ฉันเห็นเธอยิ้มออกฉันก็ดีใจ” ป๊อปปี้พูดเสียงเบาเลยทำให้ฟางต้องถามซ้ำอีกครั้ง

 

 

 

 

 

“อะไรนะคะ?” ฟางจ้องหน้าป๊อปปี้อีกครั้งทำให้ชายหนุ่มตั้งสติได้ก็แก้ตัว

 

 

 

 

 

” ป่าว เห็นดอกไม้แล้วรู้สึกสดชื่นน่ะ” ป๊อปปี้โกหกฟาง ฟางพยักหน้ารับแล้วหันไปมองต่อ ทั้งคู่เดินชมสวนดอกไม้ไปเรื่อยป๊อปปี้เห็นฟางร่าเริงก็อดที่จะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายไม่ได้

 

 

 

 

 

 

 

“ขอบคุณนะคะที่มาส่งฉันแล้วขอบคุณที่พาฉันไปดูดอกไม้” ฟางยิ้มให้กับป๊อปปี้นี่เป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่หญิงสาวยิ้มให้กับฟางหนุ่มอย่างอ่อนโยน

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่เป็นไร งั้นผมกลับแล้วนะ”ป๊อปปี้บอกฟางก่อนจะเดินไปขึ้นรถ ระหว่างที่กำลังขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

“ขับรถดีๆนะคะ” ฟางบอกป๊อปปี้ ป๊อปปี้พยักหน้าแล้วยิ้มขึ้นรถไป หญิงสาวร่างเล็กยืนมองรถที่แล่นออกไปจนสุดสายตาก่อนจะเดินเข้าบ้านของตัวเอง

 

 

 

 

 

ติดตามตอนต่อไปจร้า.......

 

 

 

 

เป็นไงบ้างนุกไม่นุกเม้นได้นะ.....

         

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา