เกาะ D

-

เขียนโดย LittleBlue

วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.17 น.

  6 ตอน
  0 วิจารณ์
  7,366 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558 19.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) ปีศาจกินคน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ


หัวหน้าทหารคนเดียวกันกับคนที่อยู่ที่ท่าเรือมองคนทั้งสี่และสภาพหุ่นทหารที่ยับไม่เป็นท่ากับคนที่นอนเมือบไม่ได้สติด้วยสีหน้าเย็นชาก่อนจะออกคำสั่งกับนายทหารทั้งหลายในที่นั้น “พาพวกเขาไปห้องของเจ้าปีศาจจอมเขมือบคน”

คนทั้งสี่ไม่ตอบโต้ ชายผมทองมีสีหน้านึกสนุกและอยากรู้อยากเห็นเช่นทุกครั้ง ส่วนชายหนุ่มใส่แว่นก็สั่นไม่หยุดเหมือนลูกแมวตกนำ้ ในขนะที่จินได้แต่มองมินาโกะไม่วางตาด้วยความที่ยังคาใจเรื่องของ ‘คนอื่น’ ที่มินาโกะไม่ยอมพูดถึง มินาโกะมองท่าทีของทุกคนอย่างสงบและพยายามหลีกเลี่ยงสายตาของจินที่ดูเหมือนจะมองเธอทะลุปรุโปล่ง พวกเขาทั้งสี่ถูกทหารจี่ไปยังห้องที่เกือบจะมืดสนิทและถูกขังเอาไว้ในนั้น

“พวกเขาล๊อกประตู จะทำไงดีเราจะโดนเขมือบไหม?!” ชายหนุ่มเจ้าของแว่นสายตาพูดอย่างหวาดหวั่น

ชายหนุ่มผมทองยักไหล่ก่อนจะพูดขึ้นอย่างอารมดี “จะว่าไปไหนๆเราทุกคนก็ถูกขังด้วยกันแล้วทำไมเราไม่ทำความรู้จักกันไว้สักหน่อยละดีไหม?” ไม่มีไครตอบคำถามของเขาชายหนุ่มจึงพูดต่อ “ฉันชื่อยูกิ ไคโตะ ยินดีที่ได้รู้จัก”

“ผ...ผมชื่อไอดะ ซาโตรุ” ชายหนุ่มร่างเล็กใส่แว่นเอ่ยตอบสั่นๆ ไคโตะพยักหน้ารับก่อนจะหันไปทางสองคนที่ยังคงเงียบกริบและเป็นจินที่เอ่ยก่อนทำรายความเงียบนั้น

“คาซารากิ จิน”

“มินาโกะ” หญิงสาวคนเดียวในห้องเอ่ยตอบคนสุดท้ายเมื่อเห็นว่าจินได้ตอบไปแล้ว ไคโตะยกมุมปากขึ้นแต่ก่อนที่จะเอ่ยอะไรออกมาก็เกิดเสียงกรีดร้องของคน มันเป็นเสียงที่ฟังดูทรมาราวกับสัตว์ที่กำลังถูกเชือด

“อ่าาาาาา ช่วยด้วย! อ่าาาา” เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือนั้นลุดออกมาจากปากของคนที่ทุกคนไม่คิดว่าจะมาอยู่ที่นี่ นั่นก็คือทาทาร่า แต่สิ่งที่น่าแปลกใจมากกว่าคือส่วนร่างกายที่หายไปของทาทาร่า ทั้งท่อนล่างและช่วงบริเวณรำตัว แววตาของซาโตรุเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวและความตกใจจนถึงขีดสุด ทุกคำพูดที่ได้ยินเกี่ยวกับห้องนี้ระหว่างที่เดินมากลับมาอย่างรวดเร็ว ‘ปีศาจกินคนนั่นรู้สึกว่าจะอาละวาดกินไปอีกสองไม่นานนี้เอง...’ ไคโตะกัดฟันตัวเองหนึ่งเพราะความตกใจแต่อีกหนึ่งเพราะไม่อยากจะสู้สักเท่าไหร่ ‘มันยังไม่ถึงเวลาที่ฉันจะใช้พลังของฉัน..ยังก่อน..’ หญิงสาวมองคนทั้งสองด้วยสายตานิ่งๆ เธอไม่มีความตื่นอกตกใจเผยให้เห็นบนสีหน้า สายตาของเธอไม่ได้เหลียวแลทาทาร่าที่ร้องโวยวายแม้แต่น้อยเพราะมันกำลังจับจ้องอยู่กับสีหน้าอันเรียบเฉยของชายคนสำคัญสำหรับเธอ จินมองทาทาร่าจากนั้นก็เลื่อยสายตาไปทางด้านหลังที่มืดมิดเพราะไร้ซึ่งแสงไฟ

“มีคนอยู่ตรงนั้น” คำพูดหลุดออกจากปากจินในขนะที่จินเดินเข้าใกล้บริเวณนั้นโดยไม่ได้สังเกตแม้แต่น้อยถึงประกายน้อยๆในดวงตางดงามของหญิงสาวคนเดียวในห้อง มินาโกะรู้ตั้งแต่ที่ได้ก้าวเขามาในห้องนี้แล้วว่ามี่คนอื่นอยู่ด้วยและเธอเชื่อว่าจินก็คงรู้สึกเหมือนกันต่างกันแค่ว่าเธอรู้แน่ชัดว่าคนผู้นั้นใช้พลังอะไรและใช้มันเมื่อใด ร่างของจินอยู่ๆก็หายไปทั้งหมดไม่ต่างจากทาทาร่าราวกับโดนปีศาสกินเข้าไปทั้งตัว ไคโตะและซาโตรุต่างก็อยู่ในความตกใจสุดขีดเพราะต่างก็รู้ดีจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ว่าจินนั้นไม่ใช้แค่ผู้ใช้พลังธรรมดาแต่เป็นผู้ใช้พลังระดับเอสและการที่คนที่เก่งขนาดนั้นจะถูกกลืนกินหายไปง่ายๆแบบนี้นั้นมีอยู่ความหมายเดียวเจ้าสัตรูที่มองไม่เห็นนี้อันตราย ไคโตะตั้งท่าเตรียมพร้อม ถึงเขาจะไม่อยากเผยไต๋ออกมาตอนนี้สักเท่าไร่แต่เขาจะไม่ยอมตายจนกว่าเป้าหมายของเขาจะสำเร็จลุล่วง แต่ก่อนที่ไคโตะจะทำอะไรเสียงของหญิงสาวผมทองชมพูก็แซกเข้ามาเสียก่อน “เดี๋ยวก่อน” นำ้เสียงของมินาโกะราบเรียบแต่เฉียบขาดทำให้ชายหนุ่มหยุดการกระทำได้ทันที ไคโตะสบตากับดวงตาใสสีทองอันสงบนิ่งอย่างถามไถ่ หญิงสาวไม่ตอบแต่กลับหันสายตากลับไปยังจุดที่จินหายตัวไป ไคโตะที่เห็นอย่างงั้นก็มองไปยังทิศทางเดียวกันเช่นกัน

จากนั้นนำ้เสียงบางเบาก็หลุดออกมาจากปากบางอมชมพู “กลับมาแล้ว” มินาโกะพูดไม่ทันขาดคำร่างของจินก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเด็กหญิงตัวน้อยท่าทางน่ารักไร้เดียวสาในวงแขน ไคโตะที่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นนั้นตอนนี้กลับมาสงบอย่างเดิมและเลิกคิ้วด้วยใบหน้าทะเล้นไปยังเด็กน้อย “เอ๋ใครเนี่ย?”

ซาโตรุเมื่อได้ยินคำถามก็เหมือนเพิ่งกลับมามีสติอีกครั้งเลยเอ่ยถามออกไปเช่นกันแต่เพราะความกลัวและความตกใจก่อนหน้านี้นำ้เสียงจึงค่อนข้างสั่น มินาโกะเดินเข้าไปหาจินและตอบคำถามคนทั้งสองด้วยคำพูดสั่นๆ “ทั้งหมดเป็นฝีมือเด็ก” จากนั้นเธอก็ก้มตัวลงไปหาเด็กน้อยที่ดิ้นไม่หยุดในออม้อกของจินก่อนจะส่งยิ้มที่สามารถทำให้ดอกไม้เบ่งบานไปหาเด็กหญิง “ไม่เป็นไรแล้วนะ” นำ้เสียงใสออน่นุ่มออกจากปากที่ยิ้มเป็นรูปสวยและเป็นไปอย่างที่หญิงสาวหวังเด็กน้อยหยุดดิ้นและหันมามองเธอตาแป๋ว จินเห็นอย่างนั้นก็เอ่ยพร้อมลูบหัวเด็กน้อย “เธอไม่ใช่ปีศาจ” จากนั้นก็วางเด็กน้อยลง ได้ยินอย่างงั้นเด็กหญิงเริ่มสะอึกสะอื้นงอแง

มินาโกะย่อตัวลงไปพูดนำ้เสียงสดใสกับเด็กน้อย “ปีศาจอะไรร้องไห้เป็นด้วย แบบเนี้ยไม่ใช่แน่” เด็กหญิงตาโตจากนั้นก็พยักหน้าหลายทีก่อนที่ร้อยยิ้มน่ารักจะผุดขึ้นบนใบหน้า จินที่มองอยู่เมื่อได้ยินนำ้เสียงสดใสของหญิงสาวคนสนิทที่เอ่ยกับเด็กน้อยก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ‘นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้ยินนำ้เสียงสดใสแบบนี้จากปากน้อยๆอมชมพูนั้น...คิดถึง’ แต่รอยยิ้มนั้นก็อยู่ได้ไม่นานก่อนที่ชายหนุ่มจะกลับไปตีหน้านิ่งเพราะนึกถึงท่าทางของหญิงสาวเมื่อเขาถามถึงคนอื่นๆ

มินาโกะไม่ได้รู้เลยว่าชายหนุ่มข้างตัวเธอมีท่าทางหรือสีหน้ายังไงเพราะตอนนี้เธอกำลังให้ความสนใจกับเด็กหญิงตรงหน้าอยู่ “ชื่ออะไรหรือจ๊ะ?”

“มิคะ” เด็กน้อยตอบเสียงเบามือก็กำกางเกงของจินแน่น มินาโกะเห็นท่าทางแบบนั้นก็อดเอ็นดูไม่ได้จึงส่งยิ้มงามๆไปให้ ซาโตรุเห็นอย่างนั้นก็โล่งอกและก็เกิดอาการเอ็นดูเด็กน้อยเช่นกัน ส่วนไคโตะที่มองอยู่เงียบๆไม่ส่งเสียงก็ได้แต่ไร่สายตามองรอยยิ้มบนใบหน้านวลสวยของหญิงสาวผมทองชมพู ‘อย่างกับคนละคนกับคนเงียบขรึมเหมือนผีดิบคนนั้นเลย’ ไคโตะคิดอย่างแปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวเบื้องหน้าแต่แล้วความสงสัยและความคิดทั้งหมดก็ชะงักเมื่อสบเข้ากับดวงตาคมเข้มของผู้ใช้พลังระดับเอส

“แล้วพลังที่ใช้เนี่ยมันอะไรงั้นหรอ?” ชายหนุ่มเส้นผมสีพระอาทิตย์ถามขึ้นอย่างต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของคนที่จ้องเขาไม่วางตา จินที่มองไคโตะไม่วางตาไม่ตอบ มินาโกะที่เห็นท่าทีแปลกๆของชายหนุ่มจึงเอ่ยตอบแทน “มันเป็นพลังคล้ายๆกับการพาร่างคนไปยังอีกมิติหนึ่ง ที่เราเห็นร่างกายที่หายไปนั้นไม่ใช่เพราะถูกกินแต่เพราะมันถูกนำไปอีกที่หนึ่ง อย่างที่เห็นจินยังอยู่ครบและนั้นเพราะร่างของเขาไม่ได้หายไปแค่ถูกย้ายไปไว้ที่อื่น ก่อนจะถูกย้ายกลับมา” อธิบายจบหญิงสาวก็รู้สึกแปลกใจกับตัวเอง วันนี้ทั้งวันเธอพูดมากกว่าเวลาหลายปีที่ผ่านมา ‘เพราะได้เจอจิน เพราะไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว’ มินาโกะคิดพร้อมร้อยยิ้มน้อยๆที่มุมปาก จากนั้นเธอก็นึกถึงใบหน้าผู้ชายอีกคนที่สำคัญพอๆกับคนตรงหน้ารอยยิ้มหายไปเล็กน้อย สายตาสลดลง จากนั้นสายตาเปลี่ยนเป็มมุ่งมั่น ‘เขาก็ต้องยังไม่ตาย’ เสียงของเจ้าของแว่นดึงความคิดเธอกลับมา เธอหันไปสนใจการโต้ตอบของเด็กน้อยคนเดียวในห้อง

“ยอดไปเลย” ซาโตรุเอ่ยอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินถึงความสามารถที่เด็กตัวเล็กนิดเดียวสามารถทำได้ เมื่อถูกชมใบหน้าของเด็กน้อยจึงมีสีขึ้นเล็กน้อย ปากบึ้งตึงเหมือนไม่ยอมรับคำชมนั้นแต่ดวงตาโตสีดำกลับเปล่งประกายเป็นสุขอย่างยินดี

ไคโตะเห็นอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซว “เด็กอะไรปากแข็งจริงๆ” มิคะขมวดคิ้วกับคำกล่าว “เปล่านะ!” เธอเถียงเสียงเบาแต่แฝงไอหงุดหงิดเต็มที่ ไคโตะยักไหล่ยิ้มๆแบบกวนๆ มิคะเห็นอย่างนั้นจึงตั้งท่าจะใช้พลังโดยเอาปลายนิ้วประกบกันแต่ก่อนที่เธอจะได้ถูปลายนิ้วทั้งสองเสียงแผ่วเบาแต่หนักแน่นของจินก็ขัดขึ้นซะก่อน “มิคะ อย่าใช้ทำร้ายคนอื่นโดยไม่จำเป็น” มิคะมีดวงหน้าบูดบึ้งขึ้นมาทันทีแต่ก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย มินาโกะเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆ ‘สมเป็นจิน ทำให้เด็กน้อยเชื่องเร็วขนาดนี้’ ดวงหน้าเปื้อนยิ้มอยู่ได้ไม่นานเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชิวิตอีกคนที่แอบเข้ามาในห้องนี้ เธอไร่สายตาไปรอบๆตามกำแพงก่อนจะหรี่ตาลงเมื่อเจอจุดที่มีไอพลังนั้นออกมา มินาโกะมองจุดๆนั้นไม่วางตาเมื่อคนๆนั้นยังไม่ยอมประกฏตัวเธอจึงออกเสียงเรียก

“ออกมาซะ” เป็นคำพูดที่สั้นแต่เต็มไปด้วยอำนาจ ไคโตะและซาโตรุได้ยินอย่างนั้นจึงหันไปมองเป้าหมายที่มินาโกะมองไม่วางตาอย่างระแวง มิคะเบิกตาโตแล้วขยับไปจับขากางเกงของจินเอาไว้แน่น สีหน้าจินไม่เปลี่ยน สายตาไม่ให้ความรู้สึกใดๆนอกจากความรู้สึกของผู้ที่กำลังมองเหตุการอยู่นอกฉาก

ซาโตรุเริ่มรนราน ความกลัวกลับมาที่ดวงตา “คุณมินาโกะใครหรือครับ” ซาโตรุอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อมองที่กำแพงเท่าไหร่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรออกมา

มินาโกะไม่ตอบคำถาม เธอยังคงจ้องมองไปยังจุดเดิมแต่ครั้งนี้สายตาของเธอนั้นเย็นชา มันเป็นสายตาของผู้ที่สามารถฆ่าคนโดยไม่ลังเล “ขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย ออกมาซะ ไม่อย่างนั้นก็ตายซะ”
เสียงของมินาโกะนั้นไร้ซึ่งปราณี มันเป็นนำ้เสียงที่ใครฟังก็รู้ว่าเธอทำตามที่พูดแน่นอน ไคโตะได้ยินนำ้เสียงนั้น เห็นสายตานั้นก็รู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงตรงหน้าเขามีประสบการณ์ในการฆ่าคน ‘เธอมีอดีตแบบไหนกันนะ?‘ ความสงสัยของเขาอยู่ได้ไม่นานเมี่อร่างของคนๆหนึ่งโผล่ออกมาจากกำแพง

“นี่อย่าพูดแบบนั้นสิ ฉันแค่จะมาช่วยสักหน่อยแค่นั้นเอง” นำ้เสียงเหมือนกำลังสนุกเร็ดรอดออกมาจากร่างเปรยเปล่าของผู้หญิงที่อยู่ๆก็โผล่ออกมาเมื่อครู่ มินาโกะมองบุคคลเบื่องหน้าโดยไร้ซึ่งความแปลกใจใดๆทั้งสิ้นต่างกับชายสองคนเบื่องหลัง ซาโตรุเบือนหน้าหนีในขนะที่ไคโตะมองอย่างไม่วางตาพร้อมรอยยิ้มเล็กที่มุมปาก จินได้แต่ปิดตาส่วนเด็กน้อยมิคะได้แต่หน้าแดงแจ๋ หญิงสาวแปลกหน้ามองการกระทำที่แตกต่างกันของทุกคนด้วยรอยยิ้มแปลกๆ

“คือว่าเสื้อผ้า..” ซาโตรุพูดอย่างติดขัดโดยไม่หันไปมอง หญิงสาวยิ้มก่อนจะตอบ “ช่วยไม่ได้ถ้าฉันไม่ถอดเสื้อผ้าฉันก็ทะลุสิ่งของไม่ได้”

“เธอต้องการอะไรกันแน่” หญิงสาวอีกคนขัดขึ้น

“ฉันก็บอกแล้วไงว่ามาหาทางออกให้พวกเธอ” หญิงสาวเจ้าของร่างเปรยเปล่าตอบง่ายๆ จากนั้นก็เกิดเสียงระเบิดขึ้น ทั้งห้องสั่นสะเทือน “จริงสิดูเหมือนข้างบนจะมีปัญหาด้วยละ เรือจะจมอะไรซักอย่างนะ” หญิงสาวพูดต่อ

“ออกไปกัน” คนที่ไม่ได้พูดอะไรเลยเอ่ยขึ้น มินาโกะมองคนสำคัญสำหรับเธอก่อนจะพยักหน้า จากนั้นหญิงสาวร่างเปรยคนนั้นก็ยื่นกุญแจให้มินาโกะก่อนจะจากไปผ่านกำแพงพร้อมทิ้งคำพูดรั้งท้ายเอาไว้ “ท่าพวกเธอผ่านทุกอย่างไปได้เราคงได้เจอกันอีกครั้ง บาย” มินาโกะไม่สนใจคำพูดของคนที่เธอไม่รู้จักแล้วเปิดประตู จินเป็นคนแรกที่เดินออกไปตามด้วยคนอื่นๆ จินเดิมมุ่งไปตรงห้องบังคับการ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา