[FIC BEAST] BAD LOVE...ผู้ชายเลว!

10.0

เขียนโดย doraaung

วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 17.50 น.

  45 ตอน
  5 วิจารณ์
  68.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 17.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

21) ความรู้สึกอะไรกัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

[FIC BEAST] BAD LOVE…ผู้ชายเลว!

Chapter 21

ความรู้สึกอะไรกัน

 

 

 

 

“เฮ้อ”

 

 

ตุบ!!

 

 

กีกวังล้มตัวลงนอนบนโซฟาทันทีที่กลับมาถึงบ้าน ฮยอนซึงส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินไปหยิบน้ำมาให้น้องชายที่รักความสบายเป็นที่สุด

 

 

“ทำไมไม่ไปอาบน้ำก่อนล่ะกีกวัง”

 

 

อึกๆๆ

 

 

กีกวังยกแก้วน้ำที่ฮยอนซึงถือมาให้ขึ้นดื่มทันที

 

 

“อ่า ค่อยยังชั่วหน่อย”กีกวังยิ้มให้กับฮยอนซึง รอยยิ้มนั่นทำให้ฮยอนซึงอดที่จะยิ้มตามไม่ได้

 

 

“อย่าไปยิ้มแบบนี้ให้ใครเห็นนะ”

 

 

“ง่า ทำไมอ๊ะ มันตลกเหรอ”

 

 

“เปล่าหรอก แค่อย่าไปยิ้มให้ใครเห็นก็เป็นพอ”

 

 

“ชิส ไม่มีเหตุผลอีกและ ตั้งแต่เรื่องของดงอุนที่ค่าย ทำไมพี่ต้องไปทำร้ายเขาแบบนั้นด้วยล่ะ”รอยยิ้มของฮยอนซึงที่มีในตอนแรกหายไปในทันที

 

 

“อย่าพูดชื่อหมอนั่นให้พี่ได้ยินอีกนะ แล้วก็อย่าไปยุ่งกับมันด้วย”

 

 

“ทำไม พี่บอกเหตุผลให้ผมรู้ได้ไหม ไม่งั้นก็คงทำให้ไม่ได้”ฮยอนซึงมองหน้ากีกวังอย่างลำบากใจ เขาได้แต่กำหมัดแน่นเพราะเขาไม่มีแรงมากพอที่จะเล่าเรื่องราวอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเขาให้กีกวังได้รับรู้

 

 

“ว่าไงพี่ฮยอนซึง ทำไมถึงไม่ให้ไปยุ่ง พี่ไม่ถูกกันเหรอหรือยังไง”ฮยอนซึงฝืนยิ้มบางๆให้กับกีกวัง

 

 

“ประมาณนั้นแหละ”

 

 

“แล้วเรื่องอะไร ร้ายแรงมากเลยเหรอ”

 

 

“ก็คงงั้น”

 

 

“เรื่องอะไรล่ะ พอจะบอกได้ไหม”

 

 

“ไม่ต้องรู้หรอก แค่เชื่อพี่ก็พอ หมอนั่นนิสัยไม่ดี”

 

 

“ตรงไหน เขาออกจะดี ดีมากด้วยซ้ำ”กีกวังเผลอพูดชมดงอุนโดยไม่รู้ตัว ฮยอนซึงได้แต่มองน้องชายตัวเองอย่างอึ้งๆ

 

 

“พี่บอกว่าอย่าไปยุ่งกับมัน ทำให้พี่ไม่ได้เหรอกีกวัง”

 

 

“ทำอ่าทำได้ แต่พี่ต้องบอกเหตุผลมา ไม่งั้นผมก็คงทำให้ไม่ได้”ฮยอนซึงได้แต่มองกีกวังอย่างลำบากใจ เขาไม่อยากให้น้องชายมารับรู้เรื่องราวที่ไม่น่าจดจำของเขา ในเมื่อห้ามคนหนึ่งไม่ได้ ก็ต้องเป็นอีกคน ฮยอนซึงยิ้มออกมาบางๆ

 

 

“งั้นก็แล้วแต่เราเถอะ พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ เมื่อยยังไงก็ไม่รู้”

 

 

“เอ๊า อะไรเนี่ย งงหมดเลย”กีกวังได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างมึนงงกับท่าทีแปลกๆของฮยอนซึง

 

 

ติ๊ดๆๆ

 

 

“เอ๋”กีกวังมองมือถือที่มีเบอร์แปลกๆกำลังโทรเข้ามา

 

 

“โหล”กีกวังรับอย่างงงๆมึนๆ

 

 

(นี่ใช่กีกวังหรือเปล่าครับ)

 

 

“ใครเหรอ”

 

 

(ถ้าคุณคือกีกวัง ผมอยากจะบอกคุณว่า คุณคือผู้โชคดีได้รับประทานอาหารฟรีที่ร้าน@#$%ในตอนเย็นคืนนี้ กินได้ไม่อั้น)

 

 

“ฮะ อะไรนะ ว่าอะไรนะ โหย สุดยอดไปเลยอ๊ะ ฉันจะต้องชวนเพื่อนไปเยอะๆสินะ”

 

 

(เอ่อ ทางเราต้องขอโทษนะนะครับ พอดีคุณสามารถมาได้คนเดียว)

 

 

“อ่าว จริงเหรอเนี่ย ว๊า แย่จังเลย ผมคงจะไปไม่ได้แล้วล่ะครับ”กีกวังพูดอย่างเสียดายเต็มที่

 

 

(กินได้ไม่อั้น ตลอดทั้งคืน แน่ใจนะครับว่าไม่สน)น้ำเสียงปลายสายทำให้กีกวังเกิดความสับสน

 

 

“เอาว่ะ ตกลงครับ ผมจะไป ขอบคุณมากนะครับ”

 

 

ติ๊ด

 

 

“มึงคุยกับใครวะ”จุนฮยองถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองนั่งอมยิ้มหลังจากที่วางโทรศัพท์ไป

 

 

“เรื่องของกู แล้วไอ้ดูจุนไปไหนเนี่ย”

 

 

“ไปส่งโยซอบ”

 

 

“โอ้โหแฮะ เดี๋ยวนี้พัฒนาจังเลย ทีเมื่อก่อนผลักไส แต่ดูตอนนี้สิ”

 

 

“มึงก็พูดไปเถอะ”

 

 

“เออๆ แล้วทำไมห้องมึงเงียบๆ อูยองไม่อยู่เหรอ”

 

 

“หมอนั่นไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะ กลับพรุ่งนี้”

 

 

“รู้ดีจริงนะ เอ๊อะ ลืมไป ก็มึงรักเขานี่หว่าก็ต้องรู้ดีเป็นธรรมดา”

 

 

“เออน่า เรื่องของกู”จุนฮยองมองหน้าเพื่อนเล็กน้อย

 

 

“มึงเป็นอะไรหรือเปล่า ดูหน้าเครียดๆนะ”

 

 

“นิดหน่อยอ่า”

 

 

“เรื่องอะไร เด็กมึงเหรอ”

 

 

“บ้า เขาไม่ใช่เด็กกูซักหน่อย”ดงอุนพูดอย่างยิ้มๆ

 

 

“ดูเหมือนมึงสนใจเขานะ เด็กปากหมาของมึงอ่า”

 

 

“เอ๊ะ ไอ้นี่ ใครบอกกันว่ากูสนใจ แค่อยากจะเอาชนะก็เท่านั้นแหละ”

 

 

“ให้มันแน่เถอะ มึงไม่เคยยุ่งกับใครเกินหนึ่งอาทิตย์ แต่เด็กปากหมานี่เกินแล้วนะ ยังไม่สำเร็จอีกเหรอวะ”

 

 

“เขาเหมือนคนอื่นๆที่ไหนกันเล่า”

 

 

“พูดยังกับรู้จักเด็กปากหมาดีอย่างนั้นแหละ”

 

 

“เขาชื่อ กีกวัง ไม่ใช่เด็กปากหมา เลิกเรียกแบบนั้นเสียทีดิวะ”

 

 

“ไม่เอา ไอ้เด็กนั่นมันปากหมาใส่กู กูจะเรียกแบบนี้แหละ”

 

 

“ทำไม ถูกใจหรือไง ก็แน่แหละ พี่น้องกันนิสัยเหมือนกันไม่มีผิด”

 

 

“พี่น้อง มึงหมายถึงใคร”

 

 

“ฮยอนซึงกับกีกวังไง”พอพูดมาถึงตรงนี้ดงอุนก็มีแววตาเศร้านิดๆ

 

 

“นี่ไอ้เด็กนั่นเป็นน้องของฮยอนซึงงั้นเหรอ”

 

 

“อื้อ”

 

 

“งั้นมึงอย่าไปยุ่งเลย หมอนั่นไม่มีทางให้มึงได้สมหวังหรอก”

 

 

“ทำไมจะยุ่งไม่ได้ ก็ไม่ได้คิดอะไรซักหน่อย บอกแล้วแค่อยากจะเอาชนะ”

 

 

“ชิส ไอ้ปากแข็ง มึงเพื่อนกูนะเว๊ย แค่นี้มึงคิดว่ากูโง่หรือไง ดงอุน”

 

 

“เรื่องของกู มึงจะคิดยังไงก็ช่าง แต่กูแค่อยากจะเอาชนะ แค่อยากจะให้หมอนั่นมาสนใจกูอย่างที่คนอื่นๆสนใจ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น”จุนฮยองมองอย่างไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่นัก

 

 

“เดี๋ยวหมอนั่นเสร็จกูปุ๊บ ก็เป็นอันจบ”ดงอุนยักคิ้วให้จุนฮยอง เขาได้แต่ส่ายหน้า

 

 

“แล้วกูจะคอยดู”

 

 

“คอยดูก็แล้วกัน กูไปดีกว่า เดี๋ยวต้องไปเตรียมการอีก คืนนี้หมอนั่นเสร็จแน่ อิอิ”จุนฮยองส่ายหน้าเล็กน้อย

 

 

“ให้มันแน่เถอะ ไอ้ดงอุน ชิส”แล้วห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบที่มีเพียงจุนฮยองที่นั่งอยู่ เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วมองเตียงนอนของตัวเองเล็กน้อย ภาพในวันนั้นได้ปรากฏขึ้นมาให้เขาได้เห็น ภาพที่มีเขากับฮยอนซึงนอนอยู่บนเตียง ภาพที่ของนอนกอดฮยอนซึง จุนฮยองมองเตียงนิ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วเดินไปหยิบกุญแจรถทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“บ้านโยไม่เปลี่ยนเลยนะ”

 

 

“อ่า จะให้เปลี่ยนยังไงล่ะ เค้าก็อยู่คนเดียว อยู่แบบนี้ก็ดีจะตาย”โยซอบยิ้มหวานให้กับดงอุน

 

 

“เดี๋ยวเค้าไปเอาน้ำมาให้นะ พี่นั่งรออยู่นี่แหละ”แล้วโยซอบก็เดินเข้าไปในห้องครัว ดูจุนมองดูรอบๆบ้านก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ทุกๆอย่างยังคงเหมือนเดิม มีมีอะไรเปลี่ยนเลยสักนิด

 

 

“น้ำได้แล้ว โอ๊ะ!!”

 

 

ตุบ!!

 

 

“อ๊า น้ำหกหมดเลยอ่า”

 

 

“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงทำแก้วล้มล่ะ”โยซอบส่ายหน้าบางๆ เขาเพียงแค่รู้สึกปวดหัวจึงทำให้ตกใจจนทำน้ำหก

 

 

“เดี๋ยวเค้าไปเอามาให้ใหม่นะ”

 

 

“ไม่ต้องหรอก กินแก้วเดียวกับโยก็ได้”โยซอบยิ้มก่อนจะนั่งลงข้างๆดูจุน

 

 

“พี่ดูจุน คือ เค้ามีเรื่องอยากจะถามอ่า”

 

 

“ว่ามาสิ”

 

 

“เรื่องของขวัญ พี่ยังไม่ลืมใช่ไหม”ดูจุนยิ้มออกมาบางๆก่อนจะจับโยซอบให้มานอนบนตักตัวเองแล้วก็ลูบหัวเบาๆ

 

 

“ยังไม่สิบปีเลยนะ”

 

 

“แต่ก็ใกล้แล้ว อีกแค่….”

 

 

“สองอาทิตย์”ดูจุนพูดแทรกขึ้นมาแทน โยซอบได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกลับยิ้มออกมา

 

 

“จำได้ด้วยเหรอฮะ”

 

 

“ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องลืมนี่”โยซอบสบกับดวงตาของดูจุนเล็กน้อย

 

 

“ใบ้ได้ไหมว่าคืออะไร เค้าอยากรู้มากๆเลย ทุกครั้งที่ถึงวันเกิดก็ได้แต่นั่งมองกล่องเปล่าๆของพี่”

 

 

“แล้วมีความสุขหรือเปล่าล่ะ”

 

 

“มีสิ มากด้วยแหละ นั่งมองกล่องเปล่ายังกับคนบ้าเลย”

 

 

“งั้นเหรอ เลิกพูดดีกว่า เดี๋ยวโยอยากรู้มากกว่าเดิม อดทนรอหน่อยนะ”

 

 

“สำคัญมาหรือเปล่าฮะ”

 

 

“มากสิ มากที่สุดเลยแหละ มันเป็นสิ่งที่อยู่กับพี่มานานแล้ว”

 

 

“งั้นก็ต้องสำคัญกับพี่มากสิ แล้วพี่จะเอามาให้เค้าทำไมอ่า”

 

 

“เถอะน่า”

 

 

“ก็ได้ๆ ถ้าจูบหน้าผากเค้าเบาๆเค้าจะเลิกคิด”โยซอบยักคิ้วให้กับดูจุน เขายิ้มแล้วก็ส่ายหน้าเล็กน้อย

 

 

“ได้สิ อยากทำมานานและ”ดูจุนค่อยๆก้มลงไปจูบหน้าผกโยซอบ แต่พอจะถึงเขาก็เปลี่ยนไปจูบปากโยซอบแทน

 

 

“อื้อๆ”ดูจุนหัวเราะออกมาเบาๆที่ได้แกล้งโยซอบเล่น

 

 

“ขี้โกงนี่”

 

 

“เปล่านะ ก็บอกให้จูบปาก”

 

 

“หน้าผากต่างหากเล่า”

 

 

“อ้าวเหรอ งั้นเอาใหม่นะ”ดูจุนยิ้มบางๆก่อนจะจูบหน้าผากโยซอบอีกครั้ง แต่ก็เหมือนเดิมเขาก็เปลี่ยนไปจูบปากโยซอบแทน

 

 

“อีกแล้วนะ”

 

 

“อืม มันออกเสียงคล้ายๆกันยังไงก็ไม่รู้ หน้าผาก ปาก ผาก ปาก อิอิ งั้นขออีกนะ”แล้วดูจุนก็ก้มลงจูบปากโยซอบอย่างนุ่มนวล โยซอบเองก็รับสัมผัสนั้นอย่างมีความสุขแล้วก็จูบตอบดูจุนเช่นกัน

 

 

“หวานจังเลย”

 

 

“หวานอะไรเล่า”โยซอบดันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ก็ถูกดูจุนจับเอาไว้

 

 

“เค้าเมื่อย อยากนั่ง”

 

 

“ถ้าอยากนั่งจะพาขึ้นเตียงนะ”

 

 

“ง่า พี่ดูจุนพูดอะไรเนี่ย หน้าไม่อายเลย”โยซอบหลบสายตาของดูจุนที่มองมา ใบหน้าของเขาเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆด้วยความอาย ดูจุนขำออกมาเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยให้โยซอบลุกขึ้นนั่ง

 

 

“ล้อเล่นน่า”ดูจุนยีหัวโยซอบเบาๆ

 

 

“เรื่องวันนั้น พี่ขอโทษโยด้วยนะ”โยซอบเม้มปากแล้วก็ยิ้มๆ

 

 

“เรื่องอะไรเหรอฮะ”

 

 

“อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้เลย ต่อไปนี้ห้ามร้องไห้อีกนะ รู้ไหม”

 

 

“ถ้าพี่อยู่กับโยแบบนี้ น้ำตาซักหยดก็จะไม่ไหลจากดวงตาดวงนี้อีก”โยซอบยิ้มให้กับดูจุน เขาคว้าตัวของโยซอบเข้าไปกอดอย่างซึ้งใจในความรักของโยซอบที่มีต่อตัวเอง

 

 

“ขอบคุณนะโย”

 

 

“ไม่จำเป็นหรอกฮะ เค้าเพียงแค่ให้ ไม่ได้ต้องการอะไร แค่พี่รับรู้ก็ดีเกินพอแล้ว”ดูจุนกระชับกอดโยซอบแน่นกว่าเดิม

 

 

“อื้ม พี่รับรู้อยู่เต็มหัวใจ รับรู้มาโดยตลอด แต่ก็ผลักไสโย พี่ขอโทษโยจริงๆ”

 

 

“ลืมมันไปได้ไหมฮะ”

 

 

“เอ๋”ดูจุนผลักโยซอบออกแล้วก็จ้องหน้าโยซอบ

 

 

“ลืมเรื่องที่ไม่น่าจดจำไป ลืมไปให้หมด ตอนนี้มีเพียงพี่กับเค้า แค่สองคนเท่านั้น”ดูจุนพยักหน้าเบาๆก่อนจะกอดโยซอบอีกครั้ง

 

 

“เริ่มต้นใหม่กันดีกว่า เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ขอให้มันพัดผ่านไปกับสายลม”

 

 

“ได้สิ เพื่อโยแล้ว พี่จะทำ”โยซอบยิ้มออกมาอย่างมีความสุขกับความสมหวังที่ได้รับในวันนี้

 

 

ขออย่าให้มีอะไรต้องพรากความรักของผมอีกเลยนะครับ ได้โปรด โอ๊ะ

 

 

โยซอบขมวดคิ้วเข้ามากันเพราะรู้สึกปวดหัวขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ยังคงยิ้มอยู่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เอี๊ยดดดดดดด

 

 

จุนฮยองจอดรถอยู่ที่หน้าบานของฮยอนซึง เขามองเข้าไปในบ้านเล็กน้อย ก่อนจะลงจากรถ

 

 

“ทำไมบ้านเงียบจังเลย”จุนฮยองกำลังจะเคาะประตู แต่ก็เปลี่ยนใจเพราะเห็นว่าประตูปิดไม่สนิท

 

 

“ฉันจะถือว่านายเปิดทางให้ฉันนะ”จุนฮยองยิ้มออกมาบางๆก่อนจะค่อยๆเปิดประตูเข้าไป ในบ้านเงียบสงบเหมือนจะไม่มีคนอยู่ จุนฮยองมองดูนาฬิกาเล็กน้อย

 

 

“ไอ้เด็กปากหมานั่นคงไปที่ร้านแล้ว ว่าแต่นายอยู่ไหน”จุนฮยองเดินตามหาฮยอนซึงทั่วชั้นล่างแต่ก็ไม่พบ เขามองขึ้นไปบันได้ก่อนจะยิ้มออกมาบางๆอย่างเจ้าเล่ห์

 

 

“คราวนี้นายยั่วฉันหนักเลยนะ”จุนฮยองเดินขึ้นชั้นสองอย่างรวดเร็ว เขามองประตูห้องสี่ห้องอย่างงงๆ

 

 

“ห้องไหนกันนะ”จุนฮยองเดินไปเปิดประตูห้องที่ติดกับบันไดก่อนเป็นประตูแรก

 

 

“ไม่ใช่ ห้องไอ้เด็กปากหมาแน่เลย มีหมาอยู่บนเตียง แต่ทำไมหมาถึงมีหัวเป็นแมวล่ะ”จุนฮยองส่ายหน้าอย่างเอือมๆก่อนจะปิดประตูลงอย่างเบามือ แล้วก็เปิดห้องถัดไปที่มีแต่ผ้าสีขามคลุมไว้เหมือนไม่มีใครอยู่ แล้วก็เปิดอีกห้องที่เป็นห้องโล่งๆไม่มีอะไรอยู่เลย จุนฮยองมองไปยังห้องสุดท้ายก่อนจะยิ้มออกมา

 

 

แอ๊ดดดดด

 

 

จุนฮยองชะโงกหน้าเข้าไปในห้องก็พบว่าฮยอนซึงนอนหลับอยู่บนเตียงที่ปูด้วยผ้าสีขาวทั้งหมด จุนฮยองเดินเข้าไปแล้วก็มองห้องที่ถูกจัดอย่างเรียบๆและเป็นระเบียบเรียบร้อย

 

 

“รักสะอาดนี่”แล้วจุนฮยองก็เดินไปดูที่โต๊ะหนังสือของฮยอนซึง เขาหยิบรูปครอบครัวของฮยอนซึงขึ้นมาดูก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเศร้านิดๆ แล้วก็มองไปที่รูปของเด็กผู้ชายสองคนที่ยืนยิ้มกอดคอกันอยู่

 

 

“ทำไมหน้าสวยตั้งแต่เด็กเลยนะ”จุนฮยองละสายตาจากรูปไปมองฮยอนซึงที่นอนหลับอยู่ เขาค่อยๆย่องขึ้นไปบนเตียงของฮยอนซึงอย่างเบาที่สุด เขาสำรวจร่างกายของฮยอนซึงตั้งแต่หัวจรดเท้า

 

 

“ให้ตายเถอะ ขนาดนายหลับไม่รู้ตัวยังทำให้ฉันเกิดอารมณ์เลย”จุนฮยองส่ายหน้าเบาๆกับความหื่นที่มีในตัวเอง ทุกครั้งที่เจอกับฮยอนซึงมันเหมือนมีอะไรมาดึงดูดเขาตลอดเวลา แล้วก็ทำให้เขาคิดถึงแต่เรื่องอย่างนั้น จุนฮยองเอื้อมมือไปปัดผมที่ปิดหน้าผากของฮยอนซึงก่อนจะค่อยๆล้มตัวลงนอนข้างๆแล้วก็มองใบหน้าของฮยอนซึง

 

 

“ตัวนายหอมอีกแล้ว”จุนฮยองเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ซอกคอของฮยอนซึงก่อนจะสูดดมกลิ่นหอมของร่างกายที่ตอนนี้เขาจำได้อย่างแม่นไปเสียแล้ว

 

 

“ทำไมนายถึงตัวหอมแบบนี้นะ ฮยอนซึง”จุนฮยองค่อยๆกอดฮยอนซึงเบาๆก่อนจะแนบหน้าลงบนหน้าอกของฮยอนซึง

 

 

“นิ่มจังเลย”จุนฮยองค่อยๆหลับตาลงช้าๆ

 

 

กอดแบบนี้แล้วคิดถึงอ้อมกอดของแม่จังเลยครับ

 

 

จุนฮยองกระชับกอดฮยอนซึงแน่นเข้าไปอีก ฮยอนซึงขยับตัวเล็กน้อยเหมือนรู้สึกอะไรมาถูกตัว แต่ก็ไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความง่วงและล้าทำให้เขาไม่ได้สนใจอะไร ฮยอนซึงพลิกตัวเล็กน้อย จุนฮยองสะดุ้งนิดๆก่อนจะรีบยกหัวออกจากหน้าอกฮยอนซึง เขามองใบหน้าขาวๆของ   ฮยอนซึงที่ตอนนี้อยู่ใกล้กับใบหน้าของเขาแค่นิดเดียว

 

 

“นายจะหันหน้ามาทางนี้ทำไม”จุนฮยองกระซิบกับตัวเองก่อนจะมองไปที่ริมฝีปากบางๆของฮยอนซึง

 

 

“ก็เลยต้องโดนลักหลับเลย เห็นไหม”จุนฮยองค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปจูบเบาๆที่ริมฝีปากของฮยอนซึงหลายต่อหลายครั้งอย่างไม่รู้จักพอ ส่วน ฮยอนซึงเมื่อหลับแล้วก็หลับเป็นตายเลยทีเดียว

 

 

“ชิส ถ้าเกิดนายเผลอไปหลับที่ไหน แล้วโดนเข้าจริงๆคงจะไม่รู้สึกสินะ”จุนฮยองเอื้อมมือไปจับใบหน้าของฮยอนซึง ก่อนจะกอดฮยอนซึงให้ขยับเข้ามาแนบชิดกับตัวเอง กลิ่นตัวหอมๆ ผิวขาวๆ ตัวนิ่มๆ ช่างทำให้จุนฮยองมีอารมณ์ง่ายเหลือเกิน จุนฮยองกลืนน้ำลายเล็กน้อย

 

 

“เฮ้อ ฉันคงจะบ้ากามจริงๆอย่างที่นายพูดแน่ๆเลย ฮยอนซึง”พูดจบจุนฮยองก็ก่ายขากอดฮยอนซึงแน่น

 

 

“อยู่แบบนี้แล้วกัน เฮ้อ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จองไว้หรือเปล่าครับ”พนักงานหน้าร้านถามกีกวัง เขาทำหน้างงเล็กน้อย

 

 

“พอดีได้รับโชคให้มากินฟรีครับ”พนักงานยิ้มนิดๆก่อนจะพยักหน้า

 

 

“งั้นก็ตามผมมาเลยครับ”แล้วกีกวังก็เดินตามพนักงานหนุ่มไป เขาพากีกวังเดินวกไปวนมาจนตอนนี้คนเอ๋อเหรออย่างกีกวังชักจะมึนงงกับทางเข้าเสียแล้ว

 

 

“ห้องนี้แหละครับ”

 

 

“เอ๋ เป็นห้องเหรอครับ”

 

 

“ใช่ครับ คุณสามารถสั่งอะไรมากินก็ได้ตามใจ ไม่มียั้งครับ”

 

 

“โห เจ๋งไปเลย โยซอบมันต้องอิจฉาแน่ๆ”กีกวังถึงกลับยิ้มกว้าง

 

 

“เชิญครับ”พนักงานหนุ่มเปิดประตูให้ กีกวังเดินเข้าห้องไปทันที

 

 

“โห อาหารเต็มโต๊ะขนาดนี้ ไม่ต้องสั่งก็ได้มั้ง”กีกวังมองอาหารมากมายที่วางอยู่เต็มโต๊ะ ก่อนจะยิ้มแล้วก็นั่งลงอย่างรวดเร็ว

 

 

“ว๊า แล้วจะกินยังไงหมดล่ะเนี่ย”

 

 

“ฉันจะช่วยนายกินเอง ไม่ต้องห่วง”

 

 

กึก

 

 

กีกวังสะดุ้งเมื่อจู่ๆก็ได้ยินเสียงของใครบางคน เขาค่อยๆหันไปมองเจ้าของเสียงอย่างช้าๆ

 

 

ดงอุน!!!

 

 

 

 

 

---------------

28-07-2014

ขอบคุณที่ติดตามและอยู่ด้วยกันนเสมอมานะคะ

 

#ฟิคแบดเลิฟ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา