[ChanBeak]-Love you only

10.0

เขียนโดย Metoric_soul

วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 11.58 น.

  15 chapter
  14 วิจารณ์
  22.79K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 เมษายน พ.ศ. 2557 12.25 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) กลัว...นายเปลี่ยนไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

วันนี้หลังจากกลับมาจากดูหนังกะว่าจะไปค้างบ้านแบคฮยอนเพื่อเครียล์การบ้านให้เสร็จ แต่ว่าดูท่าวันนี้แบคดูแปลกๆไป ทั้งเงียบลง เอาแต่ทำหน้าเครียดแถมยังเหม่อมองหน้าผมบ่อยๆ ถ้าคนอื่นทำผมคงขนลุกละแต่นี้ผมกลับรู้สึกห่วงอย่างบอกไม่ถูก

 

“เราว่าพักกันก่อนดีกว่า ออกไปซื้อไอติมกันมั้ย”

 

“อ่า ตอนนี้ก็ทุ่มกว่าๆ...จะไปก็ได้” ว่าแล้วแบคก็เก็บหนังสือลวกแล้วเดินนำออกไป ผมเลยเก็บให้เรียบร้อย แบคเป็นคนแบบนี้ตลอด ชอบทำอะไรลวกๆจนผมอดเป็นห่วงไม่ได้ แบบบางครั้งถ้าเขาจริงจังกับอะไรสักอย่างแบคจะเต็มที่กับมันเสมอ เนี่ยแหละ...ผมถึงหลงรักเพื่อนคนนี้ไง

 

“ว่าแต่พรุ่งนี้มีเรียนพิเศษนิ ให้ไปส่งมั้ย” แบคหันมาถาม

 

“อืม...ว่างหรอ”

 

“แล้ววันๆนายเห็นฉันทำอะไรบ้างละ” ผมถึงกับหลุดหัวเราะเพราะใบหน้าออกเซ็งๆ นั้น

 

“ตอนเช้ากะจะออกไปทำธุระให้ญาติด้วย งั้นตอนเย็นค่อยมารับละกันเดี๋ยวจะพาไปดูอะไรด้วย”

 

“อ่าเค”

 

23:42

 

ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว แล้วแบคก็ไม่ใช่พวกชอบนอนดึกด้วย เผลอแปปๆก็หลับไปแล้ว ผมเดินไปนั่งบนเตียงขางแบคหลังจากเก็บของเสร็จหมดแล้ว ใบหน้าตอนหลับของแบคผมว่าก็เหมาะกับที่ชานยอลเรียกนะ หมาน้อยงั้นหรอ...น่ารักดีแฮะ

 

“ฝันดีนะ...แบคฮยอน”

 

Baekhyun Part’s

 

ตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงกว่า ซึ่งตามจริงผมคงสิงสถิตอยู่ที่สนามของโรงเรียน แต่ว่าวันนี้ไม่ได้ออกไปส่งดีโอไปเรียนพิเศษเลยไม่ได้แวะไปโรงเรียน ไปไหนดีละเนี่ยเหลือเวลาอีกตั้งสองชั่วโมง

 

ครืด.....

 

“ฮัลโหล”

 

(ไงแบค กินไรยัง)

 

“อ่าเรียบร้อยแล้ว เป็นไงบ้าง”

 

(ก็เหมือนเดิมไม่ได้เรียนไรมาก นี้ตอนมารับฝากซื้อนมมาด้วยได้มั้ย)

 

“อ่าได้ๆ”

 

(เค บาย) แล้วปลายสายก็กดวางไป ซื้อนมไปทำไมนะ ช่างเถอะคงอยากกินระหว่างกลับบ้านละมั้ง ยิ่งต้องการความสูงด่วนๆอยู่นิทั้งผมทั้งดีโอเลย =____=

 

“อ้าวหมาน้อย” อ่ะจ่ะ เสียงคุ้นๆ - -

 

“ไอ้หยะ...ชานยอล?”

 

“อ่า ไม่ได้อยู่ที่สนามหรอกหรอ” หา ? แล้วมันรู้ได้ไงว่าปกติผมอยู่ที่สนามบาสของโรงเรียน ผมชักจะไม่ไว้ใจมันมากขึ้นทุกวันละนะ รู้เกี่ยวกับผมไปซะทุกเรื่อง อย่าบอกนะว่ามันรู้ที่อยู่ผมด้วย (อันนั้นรู้ก็ซวยละแบค)

 

“นะ...นายรู้ได้ไง”

 

“ฉันก็มีเรียนพิเศษที่โรงเรียนนะ อีกอย่างเฮียก็ต้องไปทำงานประธานนักเรียนด้วย” จริงด้วย พี่น้องคู่นี้มันนักกิจกรรมเลยนิหว่า เรียนดีกีฬาเด่นเน้นระเบียบวินัย ที่สำคัญ หน้าตายก็จัดว่าหล่อใช่ได้ ทั้งพี่ทั้งน้องแค่อาจจะหล่อคนละสไตล์ คนพี่จะออกแนววิชาการมากกว่าแต่กีฬาก็ใช่ย่อยงานกีฬาก็เคยแข่งบาสกับพี่เขาอยู่เจ๋งใช่เล่น ส่วนคนน้องก็ออกแนวกิจกรรมเล่นกีตาร์เก่ง แถมยังเป็นแร็ฟเปอร์ด้วย แต่ผมว่าหน้ายังมันไปเปิดคณะตลกมากกว่านะ - -“

 

“แล้วนายวันนี้ไม่ได้ไปที่สนามบาสหรอกหรอ”

 

“ไม่ละ ไมได้ไปส่งดีโอไปเรียนพิเศษเลยไม่ได้แวะไป”

 

“นายตาโตนะหรอ นี้ ว่างมั้ยละ”

 

“ไม่ก็ว่างก็ไม่มายืนคุยกับนายหรอก” ถามมาได้

 

“เห็นพี่ลู่ซ้อมบอลคนเดียว ไปเล่นเป็นเพื่อนพี่เขาหน่อยคงได้ใช่มั้ย” พี่ลู่ทำไมวันหยุดยังซ้อมอยู่อ่ะ ไม่รู้จักหยุดจักหย่อนบ้างรึไง ผมละกลัวร่างบางๆนั้นจะเกิดอาการชำรุดนะเนี่ย แต่แปลกทั้งๆที่เป็นนักกีฬาแต่ผิวกลับขาวเนียนยิ่งกว่าผู้หญิงขนาดนั้น

 

“ว่าไง”

 

“ก็ได้”

 

@สนามบอล

ผมเดินตามไอ้หยอยนี้เข้ามาสนามบอลที่กว้างกว่าสนามบาสที่ผมเล่นอยู่บ่อยๆ ตรงกลางมีร่างสูงโปร่งเตะบอลอัดกำแพงจนเป็นรอย

 

ปัง ! ปัง ! ปัง !

 

เฮ่ยๆๆๆพี่ลู่ใจเย็น ไปโกรธใครมาเนี่ย เตะอัดเอาๆแบบนั้นขาไม่เป็นไรหรอนั้น ตอนนี้เสื้อยืดสีขาวชุ่มไปด้วยเหงื่อเมื่อแนบกับเนื้อก็เห็นผิวขาวไปถึงทรวงใน  บนใบหน้าที่มีเหงื่อเม็ดเล็กผุดเต็มไปหมดทำให้หน้าหวานๆนั้นดูเซ็กซี่ขึ้นเป็นร้อยเท่า ขนาดผู้ชายกันเองอย่างผมยังหวั่นไหวเลย ตาที่ดึงดูดมากที่สุดคงจะเป็นนัยน์ตาที่เป็นประกรายวิบวับเหมือนท้องฟ้าตอนกลางคืนที่มีดาวเต็มไปหมด....สวยจังแฮะ

 

“หมาน้อย มองพี่ลู่ไม่วางตาเลยนะ”

 

“ก็พี่เขา...สวยขนาดนั้น” เสียงผมถูกกลืนไปเพียงเพราะนัยน์ตากับร่างบางนั้น

 

“แน่ละ”

 

“ละ...แล้วซ้อมรุนแรงขนาดนั้นไม่เป็นไรหรอ”

 

“พี่เขาซ้อมตั้งแต่ ม.ต้น แล้ว แค่นี้ก็คงจิ๊บๆแหละ”

 

“โฮ...” ผู้ชายคนนี้...สุดยอดเลย ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอพี่เขาก็สร้างความประทับใจให้ผมได้ขนาดนี้ สุดยอดเลยแฮะถ้าสักวันผมตกหลุมรักพี่เขาจริงๆก็คงไม่แปลก

 

“อ้าว! ชานยอล แบคฮยอน”

 

“สวัสดีฮะ/ครับ พี่ลู่”

 

“ครับๆ มาทำอะไรกันละ” ร่างสูงวิ่งมาคว้าผ้าชัดหน้าซับเหงื่อพลางส่งยิ้มให้ ละลายละเว้ยงานนี้

 

“เห็นพี่ซ้อมคนเดียว หลังจากนี้ผมกับหมอนี้ก็ว่างเลยกะจะมาขอเล่นด้วยนะครับ” ไอ้หยอยพูดยิ้มๆก่อนจะชี้มาที่ผม

 

“อ่าได้...ตามสบายเลยนะ” พี่ลู่ใช้ขาเขี่ยบอลมาไว้ตรงกลางได้อย่างพอดีเป๊ะ ก่อนจะเริ่มเขี่ยให้ชานยอลสองคนนั้นผลัดกันเลี้ยงลูกไปมา ตอนนี้คนที่ดึงดูดสายผมไม่ใช่พี่ลู่เหมือนเดิมแต่เป็น...ชานยอล รอยยิ้มที่แสดงออกจากสีหน้านั้นคือของจริงไม่ใช่แบบเดียวกับตอนที่เอาไว้ล่อสาวๆเหมือนที่ผ่านมาหรือเวลาสร้างภาพบนเวที เหมือนกับร้อยยิ้มที่หัวเราะผม เหมือนกับรอยยิ้มเวลาที่อยู่กับผม มันแตกต่างกัน เพราะรอยยิ้มนั้นเหมือนกับมืออุ่นๆที่คอยกุมมือผมไว้และช่วยผม

 

“แบค ! ระวัง”

 

“หะ ? อั่ก!!”  ผมมัวแต่คิดมากเลยไม่สนใจเลยว่าตอนนี้ผมกำลังเล่นบอลกับใคร เพราะมัวแต่เหม่อ บอลที่กระเดนเข้าหน้าทำเอาผมลงไปนอน เจ็บโว๊ยยยยย

 

“แบค!พี่ขอโทษ” พี่ลู่วิ่งเข้ามาหาผมด้วยใบหน้าตื่นไม่แพ้กับชานยอลที่ยืนไม่เหวออยู่ไกล ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาหาอีกคน

 

“เป็นไรมากมั้ย”

 

“นะ...นิดหน่อยฮะ”

 

“พี่ลู่หลบหน่อยครับ” ชานยอลพอวิ่งมาถึงก็ช้อนตัวผมขึ้นมือข้างนึงที่ช้อนตรงต้นแขนผมกำแน่น ตอนนี้ผมได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นเร็วมาก ชานยอลพอผมว่างตรงม้านั่งใกล้ๆ ก่อนจะเริ่มสำรวจร่างกายผมอย่างละเอียดแล้วลากสายกลับขึ้นมาจ้องผมอีกครั้ง

 

“เจ็บตรงไหนรึเปล่า”

 

“แบค...” เสียงพี่ลู่อ่อนลงจนกลายเป็นน่าสงสารไปเลยคราวนี้ ผมลืมส่ายหน้าเบาๆแล้วยิ้มให้แต่พี่เขากลับชิงพูดซะก่อน

 

“พี่ขอโทษ ไม่เป็นไรมากใช่มั้ย” คนอะไรจะสำนึกผิดได้ขนาดนั้น นัยน์คู่สวยนั้นกำลังทำให้หัวใจผมละลายนะ มือที่กำแน่นจนเริ่มมีเสียงเอี๊ยดทำให้ผมเริ่มผวา

 

“ผะ...ผมไม่เป็นไรจริงๆฮะ แค่นี้สบายมาก ^ ^” พี่ลู่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะหันไปถามชานยอล

 

“เป็นไงบ้าง”

 

“ถลอกนิดหน่อยครับ” พอสินเสียงพี่ลู่ทำให้หน้าโล่งอกสุดๆนี้ เป็นห่วงรุ่นน้องขนาดนี้เลยหรอเนี่ย สุดยอด ใครได้เป็นแฟนนี่ได้ละลายไปข้างนึงแน่ๆ ขนาดผมไม่ใช่ยังแทบร้องอือเฮือก

 

“เดี๋ยวพี่ทำแผลให้”

 

“รบกวนเวลาซ้อมพี่เปล่าๆครับ เดี๋ยวผมจัดการเองดีกว่า” ว่าแล้วชานยอลก็เดินไปที่กล่องพยาบาลหน้ากล่องเขียนชื่อพี่ลุ่หานไว้ ที่พกนี้แสดงว่าตัวเองกคงบาดเจ็บบ่อยเหมือนกันละมั้ง ไม่แปลกซ้อมขนาดนั้น

 

“แต่พี่เป็นคนเตะนะ” พี่ลู่เขาไม่ยอมครับ - -

 

“อย่าเลยครับเชื่อผม”

 

“แต่พี่รู้สึกผิดจริงๆนิ”

 

“แต่ผมขอทำให้เพื่อนผมเองเถอะครับ”

 

“แต่ว่า...”

 

“ผมทำเองก็ได้ฮะ” ถ้าผมไม่พูดคงเกียงกันยันแผลหายแน่ๆ - - อีกคนก็ห่วงเพื่อนเกินส่วนอีกคนจะรู้สึกผิดไปไหนเอาซะผมละอายเลยที่เคยเตะบอลโดนเด็กอนุบาลแล้ววิ่งหนี -//////-

 

“งั้นขอตัวเดี๋ยวมาฮะ” ผมคว้ากล่องพยาบาลจากมือชานยอลแล้วมุ่งไปยังห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด อ่ามันใกล้กับห้องเรียนพิเศษของดีโอด้วยนิหว่า ทำเสร็จแล้วแอบแวะไปจ๊ะเอ๋ซะหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

 

“ระ...รุ่นพี่อื้มๆ ๆ ๆ” สะ...เสียงใครวะ อ่อ...เดี๋ยวนี้มีคู่รักหวานแหววสวีทวี๊ดวี้(อย่าต่อนะ!!)กันในห้องน้ำชายของโรงเรียนแล้วหรอเนี่ย แหม่...สงสัยผมต้องไปเข้าอีกตึกเพื่อไม่เป็นการรบกวน เอิ่ม...เห็นทีคงไม่ได้ละ เลือดเริ่มซิบๆแล้วเนี่ย คงต้องทำให้เสียอารมณ์กันสักนิดละนะ ขอโทษนะคร๊าบบบ...พอดีแบคเจ็บจริงๆ

 

แอ๊ด~

 

.............

 

ดีโอ...

 

“แบค....”

 

กับพี่คริส.......

 

“อ้าว แบคฮยอน....สภาพดูไม่ได้เลยนะ”

 

“แบคฟังเราก่อนนะ คือ...”

 

“เงียบไปเลย...”

 

D.O. Part's

 

แบค...

 

เมื่อกี้ผมเผลอตกใจรุ่นพี่คริสที่อยู่ๆก็วิ่งพรวดเข้ามาในห้อง ผมเกือบแหกแล้วถ้าพี่คริสไม่เอามือปิดปากผมไว้ แต่ที่โชคร้ายกว่านั้นคือร่างบางมีเลือดไหลซิบๆบนใบหน้าที่กล่องพยาบาลเข้ามาหลังจากนั้น พี่สินเสียงกล่องสีฟ้าใสก็ร่วงลงสู่พื้น นัยน์ใจที่เจ็บปวด สับสัน กลัว แล้วก็ตกใจ ปนเปกันไปหมด

 

“โอ๊ะโอ นี้ฉันสร้างความร้าวฉานในเพื่อนกันเองรึเปล่าเนี่ย”

 

“ระ...รุ่นพี่” ยัง ยังไม่สำนึกว่าทำอะไรลงไป ทำให้แบคเข้าใจผิดหนักเข้าไปใหญ่แล้ว ผมใช้แรงที่มีผลักรุ่นพี่เงิงเฮงซวยนี้แล้วฉุดมือแบควิ่งจากตรงนั้นทันที ร่างสูง(กว่าผมไม่กี่เซน)ยอมวิ่งตามเหมือนคนไม่มีแรงจนพ้นตาผู้คนที่แตกตื่น เพราะใบหน้าที่ว่างเปล่ากับเลือดของแบคแน่ๆ

 

“แบค...ขอร้องฟังเราก่อน”

 

“....”

 

“แบค” เสียงผมเริ่มสั่น ขอร้องฟังกันบ้างเถอะ

 

“ว่ามา...” แบคสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วปล่อยออกมาเป็นคำพูดสั่นๆ

 

“คือเมื่อกี้เราเข้าห้องน้ำแล้วอยู่ๆรุ่นพี่คริสก็วิ่งเข้าเพราะเราขี้ตกแบคก็รู้ เราเกือบแหกปากแล้วแต่รุ่นพี่เขาเอามือปิดปากเราไว้ แล้วก็เป็นแบบที่แบคเห็นแค่นั้นเอง” ผมพยายามเล่าด้วยสีหน้าที่ทำให้แบคเชื่อที่สุด

 

“นาย...จะไม่เปลี่ยนไปใช่มั้ย”

 

“?”

 

“นาย...ยังยิ้มให้ฉันคนเดียวเหมือนเดิมใช่มั้ย”

 

“แบค...” แบคฮยอนดึงผมเขาไปกอดก่อนที่ผมจรู้สึกว่าน้ำอุ่นใสจะหยดลงบนไหล่ของผม

 

Chanyol Part’s

 

สองคนนั้น...มีความรู้สึกแค่เพื่อนแน่หรอ

 

ผมไม่ได้ต้องการคำตอบที่อาจจะทำให้ผมใจหายวูบ แต่การกระทำของที่ผมลากสายไปมองเฮียคริสราวกับอยากรู้คำตอบข้อนี้เหลือเกิน เฮียคริสฉีกยิ้มบางๆก่อนจะหันหลังแล้วเดินกลับไป เฮียทำไปเพื่ออะไรผมไม่รู้ แต่ถ้าเพราะคิดแค่จะแก้เผ็ดแบคฮยอนผมคงยอมไม่ได้แล้ว เพราะครั้งนี้ผมว่ามันรุนแรงเกินไป

 

เพราะอะไร...ผมถึงไม่อยากให้หมาน้อยร้องไห้นะ...

 

“มันเพราะอะไรกัน...หมาน้อย...”

__________________________________________________________

เริ่มละ...มันกำลังมาละ...

ฉากเรียนน้ำตา มา ในตอนสุดท้าย~~// ไม่ใช่!!

หวังว่ายังคงติดตามกันอยู่นะคร๊าบบบ

THx.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา