Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

9.7

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.

  45 ตอน
  590 วิจารณ์
  87.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

20)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

 

ตอนที่๒๐

 

           ภาณุนั่งเครียดอยู่บนโต๊ะอาหารที่ดูเหมือนมารดาของเขากำลังมีความสุขกับการดูแล

เอาใจใส่ลูกสะใภ้กำมะลออย่างดีที่สุด มันยิ่งเป็นการกดดันให้เขาต้องรีบพูดความจริงก่อนที่มารดา

จะถลำตัวหลงรักหลานที่ยังไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ไปมากกว่านี้

 

 

 

“แม่ครับ”เขาตัดสินใจเอ่ย

 

 

 

“ว่าไง...หนูฟางทานผักด้วยสิลูก หลานแม่จะได้แข็งแรง นี่แม่ให้แม่แฟงต้มน้ำเต้าหู้ไว้ให้ด้วยนะ

เขาบอกว่าคนท้องต้องดื่มนมมากๆ เออตาป๊อป นมวัวที่เราชอบเอาให้น้องดื่มน่ะทิ้งไปเลยนะ คน

ท้องเขาไม่ให้ดื่มนมวัวรู้ไหม”เขาถอนหายใจเมื่อมารดาไม่ได้สนใจเขาสักนิด แล้วอย่างนี้จะทำ

อย่างไรเล่า

 

 

 

“แม่ครับ”

 

 

 

“อะไรตาคนนี้ เห็นไหมว่าทานข้าวอยู่ ดูทำหน้าเข้า ถ้าเป็นเรื่องเครียดๆเอาไว้คุยกันหลังทานข้าว

ได้ไหม”เขาก้มหน้าลงถอนหายใจ ให้ตายสิ...คนจะสารภาพผิดนี่มันน่าอึดอัดจริงๆ ไม่กล้าพูดอยู่

แล้ว แต่มารดากลับยิ่งไม่สนใจคำสารภาพของเขาอีก เขาอยากจะบ้าตาย!

 

 

 

 

           หลังมื้ออาหารเย็นที่น่าอึดอัดที่สุดในชีวิตของภาณุผ่านพ้นไป เขาก็ตรงเข้าห้องนอนเพื่อ

ทำใจก่อนจะสารภาพบาป ชายหนุ่มกระโดดลงบนเตียงนอน ก่อนจะคำรามเสียงห้าวอย่างอัดอั้นตัน

ใจโดยมีหมอนใบใหญ่เก็บเสียงเขาไว้

 

 

 

“จะเอาไงล่ะทีนี้”เขาพลิกตัวนอนหงาย ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นมองคนตัวเล็กที่นั่งเก็บเสื้อผ้าของตัว

เองอยู่

 

 

 

“เอาไงล่ะ แม่ไม่ฟังผมเลย ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี”

 

 

 

“ก็บอกเลยสิ ออกไปบอกตอนนี้เลย”

 

 

 

“จะบ้าหรอคุณ ขืนบอกไปโทงๆแม่เอาผมตายแน่ๆ”เขาว่าอย่างกลุ้มใจ

 

 

 

“สมน้ำหน้า”คนตัวเล็กว่าให้เขา ก่อนจะเธอจะรูดซิปกระเป๋าเดินทางใบเล็กของเธอ

 

 

 

“แหม ให้กำลังใจกันจังเลยนะแม่คู้ณ”

 

 

 

“แน่นอนย่ะ แบร่”เขาเดินไปหาคนตัวเล็กที่นั่งขัดสมาธิแลบลิ้นปลิ้นตาให้อย่างอยากจะกลั่นแกล้ง

ขึ้นมาครามครัน

 

 

 

“ทำหน้าแบบนี้ มันน่า...”เขายื่นหน้าไปใกล้คนตัวเล็ก ก่อนจะฉุดร่างเล็กที่นั่งอยู่ในลุกขึ้นยืน หญิง

 

สาวที่ยังไม่ทันตั้งหลักเซถลาเข้ามาในอ้อมกอดของเขา และแน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ

 

แน่นอน...

 

 

 

“ทำอะไร! ฉันร้องจริงๆนะเว้ย”ดวงหน้าหวานท้าทาย แถมคำพูดคำจาที่ไม่น่ารักทำให้เขานึกอยาก

 

จะสั่งสองคนตัวเล็กขึ้นมาจริงๆ หากไม่ติดคำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอล่ะก็เขาจะสั่งสอนให้ปากเจ่อ

 

จริงๆด้วย

 

 

 

“ถ้าพูดวะ วะ โว้ย เว้ย อีกคำเดียวผมผิดสัญญา จับคุณจูบขึ้นมาแล้วห้ามมาโทษผมนะ”

 

 

“คนบ้า อี๋”มือเล็กนิ่มดันใบหน้าของเขาออกห่าง ก่อนจะดิ้นขลุกขลักไป-มาในอ้อมกอดของเขา

 

อย่างเอาเป็นเอาตาย

 

 

 

ก๊อก ก๊อก

 

 

 

 

“ตาป๊อป หนูฟาง เปิดประตูให้แม่ทีลูก”

 

 

เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นตามมาด้วยเสียงของมารดาทำให้เขาต้องจำใจปล่อยธนันต์ธรญ์ออกจาก

อ้อมกอดอย่างเสียดาย กลิ่นหอมละมุนของเธอยังติดอยู่ที่ปลายจมูกของเขาอย่างไม่รู้หายไป...

 

 

 

        ธนันต์ธรญ์สะบัดออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มอย่างแรง ก่อนจะโหม่งเข้าที่ปลายคางของ

ตาแก่ตัณหากลับเพื่อแก้แค้น เธอส่งยิ้มให้เขาอย่างผู้ชนะ ก่อนจะเดินนวยนาดไปเปิดประตู

 

 

 

“แม่เอาน้ำเต้าหู้มาให้ ขอแม่เข้าไปข้างในหน่อยได้ไหมจ๊ะ”

 

 

“ค่ะ”เธอถอยหลังเพื่อให้มารดาของชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้อง นึกชมภาณุที่ปรับตัวได้เร็วราวกับ

 

กิ้งก่า ก็ชายหนุ่มนั่งยิ้มแป้นบนโซฟาตัวยาวอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทั้งๆที่เธอก็ยังเห็นว่าปลายคาง

 

บึกบึนยังแดงเป็นวงใหญ่

 

 

 

“ดื่มก่อนสิลูก”เธอยื่นมือไปรับแก้วน้ำเต้าหู้อุ่นๆจากมือของคุณพรพิมลมาดื่ม

 

 

 

“เป็นไง เก็บของเรียบร้อยดีหรือยังลูก”

 

 

 

“เกือบเสร็จแล้วล่ะครับ”

 

 

 

“ดีจ้ะ ถ้านั้นแม่ไม่รบกวนแล้วนะ ขอตัวไปนอนก่อน เราสองคนก็รีบนอนล่ะ พรุ่งนี้เดินทางแต่เช้า”

 

 

 

“เดี๋ยวครับแม่...”เธอหันหน้าไปมองชายหนุ่มอย่างรู้ดีว่าเขากำลังจะเอ่ยอะไร

 

 

 

“ผมมีเรื่องอยากจะบอก”

 

 

 

“แม่ง่วงแล้ว ไว้คุยกันพรุ่งนี้นะ”เธอได้แต่อ้าปากค้างกลางอากาศเมื่อร่างท้วมของคุณพรพิมลเดิน

 

จากไป ก่อนจะหันไปทางชายหนุ่มที่มีอาการไม่ได้แตกต่างจากเธอนัก

 

 

 

“เอ่อ...ใจเย็นนะคุณ พรุ่งนี้ค่อยบอกก็ได้”เธอตบไหล่ชายหนุ่มเบาๆอย่างให้กำลังใจ

 

 

 

“ผมจะไม่บอกแล้ว”

 

 

 

“อะไรนะ!”

 

 

 

“ผมจะไม่บอกแล้ว เรื่องนี้ช่างหัวมันไปก่อน ถ้าแม่อยากรู้ผมก็จะบอก แต่ถ้าไม่...ผมก็ไม่บอก”เธอ

อ้าปากค้างกับความง่ายที่เขาพูด เขาจะบ้าไปแล้วหรือยังไง หากไม่บอกความจริงไป แล้วเธอกับ

เขาจะต้องอยู่ด้วยกันไปแบบนี้น่ะหรือ แล้วไหนจะลูกอีก มันมีแบบสำเร็จรูปขายในห้าง แค่อุ่นใน

ไมโครเวฟ กลืนลงท้องแล้วมันจะท้องจริงๆหรือไง...บ้าจริง!

 

 

 

“แล้วฉันล่ะ”

 

 

 

“ตอนนี้ผมจีบคุณอยู่ และผมก็โคตรแน่ใจว่าจะต้องได้คุณแน่ๆ เอาล่ะ ถ้าคุณไม่สบายใจ ผมก็จะ

 

บอกคุณอีกรอบว่าผมจริงใจและจริงจังกับคุณ”

 

 

“ฉันไม่เชื่อ คุณจะหลอกฟันฉันใช่ไหม บอกมาซะดีๆ”

 

 

ภาณุมองดวงหน้าหวานที่ยื่นเข้ามาพูดด้วยอย่างสุดจะทน ใครมันเป็นคนปลูกฝังความคิดบ้าบอนี้

 

ให้กับเธอกันวะ...หูมันถึงได้หนัก จนหนักเกินไป พูดอะไรถึงไม่เคยเชื่อกันสักที

 

 

 

“ผมสามสิบสองแล้วนะคุณ ไม่มีเวลามาฟันผู้หญิงเล่นๆอีกแล้ว และผมก็พอจะรู้ว่าคุณยังเด็กเกิน

ไปที่จะมีใคร หรือว่าแต่งการแต่งงาน แต่ไม่ต้องห่วงผมไม่ได้เข้าใจยากเกินไปสำหรับคุณหรอก”

 

 

 

“ฉันว่าคุณน่ะเป็นผู้ชายที่เข้าใจยากที่สุดในชีวิตฉันเลยย่ะ!”เขาดึงแขนร่างเล็กที่ยืนเถียงฉอดๆทั้ง

ที่เขาจริงจังอยู่ให้เดินตาม ก่อนจะดึงเธอนั่งลงบนตัก ยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ดวงหน้าหวานที่หันมา

มองเขาอย่างหวาดระแวง

 

 

 

“ห้ามเถียงผมอีก ถ้าคุณเถียงอีกคำเดียว ผมจะจับกดแน่”

 

 

“ไอ้บ้า ฉะ...”คนตัวเล็กหุบปากฉับเมื่อเขาถลึงตาใส่

 

 

“ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้วว่าจะจีบคุณ”เขาถามข้างใบหน้าบอบบางของคนตัวเล็กจนเจ้าตัวย่นคอหนี

 

 

“ไม่รู้”เขามองเสี้ยวหน้าหวาน ก่อนจะหยิกแก้มนิ่มของคนชอบกวนประสาทอย่างอดไม่ได้

 

 

 

“ทำไมคุณมันถึงดื้อพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ฮะ”

 

 

 

“อะไรที่บอกว่าฉันพดไม่รู้เรื่อง คุณต่างหากที่ทำอะไรหวังผล”

 

 

 

“หวังผล แล้วคุณคิดว่าผมจะต้องหวังอะไรฮึ”เขาถามแม่ตัวดีกลับ

 

 

 

“คุณหวังจะฟันฉัน เสร็จแล้วก็ทิ้ง ไม่มีใครหรอกที่บอกว่าจะจริงจังกับคนที่รู้จักกันไม่ถึง

 

อาทิตย์”เขาโกรธจนลมออกหู โกรธจนจะงับหูของคนพูด

 

 

 

“แล้วใครที่คุณว่ามันเป็นใคร ผมจะบอกอะไรให้นะ ผมจะฟันคุณก็ต่อเมื่อเราแต่งงานกันเท่านั้น

 

แล้วการที่ผมรู้จักคุณไม่ถึงอาทิตย์มันจำเป็นหรอที่คุณต้องเอามันมาตัดสินผมว่าผมจริงใจกับคุณ

 

หรือเปล่า จริงอยู่ที่ผมเป็นผู้ชายและไม่ใช่พระอิฐพระปูน การที่ผมอยู่กับคุณในห้องนี้กับคุณ มัน

 

ทำให้ผมต้องการคุณ แล้วคุณไม่คิดบ้างหรอว่าเพราะอะไรถึงทำให้ผมไม่ทำอะไรคุณ”เขาว่าอย่าง

 

เหลืออด เธอระแวงเขามากเกินไปจนน่าโมโห

 

 

 

“ฉันไม่อยากรู้ ปล่อยฉันลง”ว่าแล้วเธอก็ดิ้นขลุกขลัก

 

 

 

“หยุด!”เขาตวาดเสียงดัง ก่อนจะยกร่างที่เบาราวกับตุ๊กตายัดนุ่นให้หันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับ

 

เขา ดวงหน้าหวานก้มหน้างุด ริมฝีปากอิ่มของเธอเม้มแน่นเป็นเส้นตรง

 

 

 

“ผมให้เกียรติคุณนะฟาง”เขาเชยคางมนขึ้นสบตาเขา ดวงตากลมโตของเธอสั่นระริก แต่ก็มิวาย

หลบสายตาเขา

 

 

 

“...”

 

 

 

“ผมไม่รู้เลยว่าตอนนี้คุณคิดยังไงกับผม แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมคิดจริงจังกับคุณมาก”เขาว่าด้วย

น้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะรั้งท้ายทอยของหญิงเข้ามาใกล้ เขามองดวงตากลมโตที่มองเขาอย่างตื่น

ตระหนก

 

 

 

“ผมจะไม่จูบคุณ จนกว่าคุณจะจูบผม ผมจะไม่ขืนใจคุณ จนกว่าคุณจะขืนใจผมเอง เพราะผมเชื่อ

ว่าถ้าคุณกล้าจะทำแบบนั้น นั่นแปลว่าคุณได้รักผู้ชายคนนี้มากพอ แต่ผมไม่สัญญาว่าผมจะไม่หอม

แก้มนุ่มๆของคุณ”เขาฝังจมูกโด่งลงบนแก้มนุ่มนิ่มของหญิงสาวอย่างห้ามใจไม่อยู่ สูดกลิ่นหอม

 

ละมุนของคนตัวเล็กเข้าเต็มปอด ก่อนจะเลื่อนขึ้นจูบปลายจมูกโด่งรั้นและหน้าผากมนตามลำดับ

 

 

 

 

 

                                                   ...สายลมแห่งตะวัน

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา