FICTION หล่อวายร้ายกับนายน่ารัก [WONKYU]

9.3

เขียนโดย LuckyLovery

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.02 น.

  23 chapter
  1 วิจารณ์
  37.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 20.16 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) chapter 36 ด้วยความคิดถึง...เลยจัดหนัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

               ร่างสูงนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาหลังจากวางสายจากพี่ชาย หน้าตายู่ยี่ รู้สึกงุ่นง่านไปหมด ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ 

 

               “เป็นอะไร พี่ทึกว่าไงบ้าง”ร่างบางเดินมาจากในครัว วางน้ำส้มลงบนโต๊ะถามขึ้น เมื่อเห็นแบบนั้น

 

               “เฮ้อ...นี่คยู ฉันต้องกลับเกาหลีซักอาทิตย์นึง อยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย”ร่างบางเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ แต่ก็พยักหน้ารับ

 

               “ทำไมล่ะ งานมีปัญหาเหรอ”ร่างสูงพยักหน้ารับหงึกหงัก

 

               “พี่ทึกไม่สบายน่ะ ไม่มีคนดูแลงานในบริษัท เยซองก็ไม่ว่าง”

 

               “อ้อ กลับไปทำงานเถอะ ฉันอยู่ได้”ร่างสูงมีสีหน้าเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด เพราะกลัวว่าจะอยู่ไม่ได้ ไหนจะต้องเรียน ไหนจะลูกอีก คยูฮยอนยิ้มหวานให้

 

               “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ช่วงไปเรียนเดี๋ยวฉันพาเด็กๆไปฝากคุณอานาริก็ได้”

 

               “กลับบ้านเถอะ”ร่างสูงว่า จะให้ร่างบางกลับไปด้วย

 

               “จะบ้าเหรอ ฉันต้องเรียนนะ คิดอะไรของนาย ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันดูแลตัวเองได้ ไปแค่อาทิตย์เดียวไม่ใช่เหรอ แค่นี้สบายมากๆ”ร่างบางย้ำเพื่อไม่ให้ซีวอนต้องห่วง เพราะดูห่วงแล้วห่วงจนเกินไปเหมือนเขาเองเป็นเด็กๆที่ทำอะไรไม่เป็นเสีย อย่างนั้น

 

                “จะไม่ให้ห่วงได้ไง ไหนจะเรียน ไหนจะลูกอีก เหนื่อยนะ”

 

                “รู้ได้ไงว่าเหนื่อย ไม่เหนื่อยหรอก”

 

                “ไม่เหนื่อยอะไร เลิกเรียนกลับมาก็นอนหลับทุกที ปลุกก็ยาก...หยุด ไม่ต้องเถียง”ร่างสูงว่าเมื่อร่างบางกำลังจะอ้าปากพูด เพราะร่างบางต้องทำทุกอย่างในบ้าน ทั้งเลี้ยงลูก งานบ้าน เรียน แล้วไหนจะต้องมาคอยรับอารมณ์ของเขาอีก ถึงแม้จะมีแทคกับนาริที่คอยช่วยดูแลเด็กๆให้บ้าง แต่ก็เหมือนเวลามันไม่พออยู่ดี เขาเองก็อยากจะช่วย แต่ช่วงนี้ต้องไปทำงานทุกวัน ตั้งแต่เช้ายันมืด เพื่อศึกษางาน กว่าอะไรๆจะลงตัวก็คงอีกเป็นเดือน

 

                “นี่...นี่นายกล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอ”ร่างบางลุกขึ้น จ้องหน้าบูดบึ้ง

 

                “ปล่าวจ้าที่ร๊ากกก....เฮ้ย..อะไรเนี่ย นายนั่นแหละกล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอ”ร่างสูงอ่อนลงในตอนแรก แต่ก็นึกอยากจะแกล้งร่างบางเลยขึ้นเสียงใส่อีกรอบ คยูฮยอนยืนกระทืบเท้าปึงปึงเหมือนเด็ก จิ๊ปากอย่างขัดใจ

 

                “ทำไมจะไม่กล้า นายเป็นผัวฉันนะไม่ใช่พ่อ”

 

                “ก็เพราะว่าฉันเป็นผัวนายไง แล้วฉันก็อายุมากกว่า เคารพกันบ้าง”

 

                “ขอโทษคร้าบบ”ร่างบางก้มศีรษะน้อยๆ แต่พอนึกขึ้นได้ก็ดิ้นเร่าๆ กัดฟัน ทำหน้าบู้บี้ ดันไปตามอารมณ์ซะได้ ซีวอนหัวเราะออกมาอย่างนึกสนุก “ไอ้ฉ่อย”

 

                 “อะไร? เรียกดีๆนะ ไม่งั้นจูบ”ร่างสูงว่า เดินเข้าหาร่างบางทำท่าจะคว้ามาจูบ แต่ร่างบางหลบทัน

 

                “ไอ้ฉ่อย ทำไมจะเรียก มีปัญหาอะไร”ร่างบางท้า ก่อนจะหลบมือใหญ่ที่คว้ามาจะจับ

 

                “ก็จะจับทำเมียซะให้เข็ดน่ะสิ่ แน่จริงอย่าหนีสิ่”ร่างสูงว่า ก่อนจะเล่นวิ่งไล่จับกันไปทั่วห้อง

 

                “อย่านะ ถ้านายทำ ฉันจะให้งดทั้งปีเลยคอยดู”ร่างบางขู่ แต่ก็ไม่ได้ผลซักเท่าไร เพราะซีวอนเล่นจะจับอย่างเดียว ร่างบางวิ่งอ้อมโซฟา ร่างสูงก็อยู่อีกฝั่ง มือใหญ่คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็ก ก่อนจะดึงร่างบางให้เข้าหา แต่ก็โดนสบัดหลุด ร่างสูงเลยหน้าคว่ำกับโซฟาทันที คยูฮยอนหัวเราะอย่างสะใจ มือเล็กกุมท้องเพราะหัวเราะเสียปวดท้องน้ำตาเล็ด และด้วยความเผลอเลยโดนร่างสูงคว้ามาทั้งตัว

 

                “เสร็จฉันล่ะ จะจับทำเมียทั้งคืนเลย คอยดูสิ่”ว่าจบก็พาคนที่อยู่บนบ่าเข้ามาในห้องนอน ร่างบางดิ้นเร่าๆอยู่อย่างนั้น มือเล็กทุบแผ่นหลังกว้าง  

 

                “อ๊า....ปล่อยนะ ไอ้ฉ่อยปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ”

 

                “พูดจาไม่เพราะ โดนดีแน่ๆคยูฮยอน”เสียงทุ้มเอ่ย ก่อนจะโยนร่างบางลงบนเตียงอย่างสวยงาม ร่างบางถดตัวเองจนพิงหัวเตียง

 

                 “ไม่เอาไม่เล่นแล้ว เหนื่อย”ร่างบางบอก หอบหายใจเหนื่อย เพราะมัวแต่วิ่งหนี แล้วเอนตัวลงนอน

 

                “เรื่องอะไรจะหยุด พูดจาไม่เพราะเลย พูดใหม่ซิ”ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งขอบเตียง ดึงร่างบางให้มานอนใกล้ๆ พูดกระซิบจนติดหู

 

                “ขอโทษครับพี่ซีวอน ผมจะไม่พูดจาไม่เพราะแล้วครับ”ร่างบางลืมตาขึ้นมาบอก เลยโดนหอมแก้มไปหลายฟอด

 

                “ดี แบบนี้สิ่ ค่อยน่ารักหน่อย”ร่างบางลุกขึ้นนั่ง นิ้วเรียวดีดปากห้อยๆของร่างสูงไปหนึ่งที

 

                “น่ารักแต่เกิดแล้ว”

 

                “เหรอ ^^”

 

                “อื้ม ^0^”

 

                “หลงตัวเอง”

 

                “พอกันนั่นแหละ”ร่างบางว่า ก่อนจะหอมแก้มร่างสูงคืนบ้าง พลัดกันไปพลัดกันมา จนร่างสูงทนไม่ไหว มือใหญ่ทั้งสองข้างประคองแก้มนวลก่อนจะจูบหนักๆที่ริมฝีปากบางไปหนึ่งที

 

                “อื้อ..พอแล้ว”คยูฮยอนประท้วง ดึงมือใหญ่ออกจากแก้ม มองร่างสูงยิ้มๆ ซีวอนเองก็ยิ้ม ก่อนจะหงายหลังเงิบไปเพราะร่างบางกระโจนเข้าใส่ไม่ยั้งแรง กอดฟัดนัวเนียกันอยู่อย่างนั้นจนผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่

 

                “คิกๆ...อ๋า..ซีวอนจั๊กจี้”ขาสี่ข้างเกี่ยวคล้องกันจนไม่ยอมแยกออก หน้าหล่อซุกไซร้ซอกคอขาว ไล้จมูกโด่งไปตามตัวของร่างบางทั้งหน้าทั้งคอ ลงมาที่อกอีก มือก็ไม่อยู่สุข

 

                “หอมจัง เมียใครวะ”

 

                “เหม็นจัง ผัวใครวะ”ร่างบางย้อน มองหน้ากันแล้วหัวเราะกันเอง เพราะปกติจะเล่นกันแบบนี้อยู่แล้วถ้าลูกไม่อยู่บ้าน พูดจาโผงผางใส่กันบ้างเมื่อมีคนเริ่มก่อน ไม่ได้จริงจังอะไร เล่นกันสนุกๆ หาอะไรทำยามว่าง

 

                “พูดไม่เพราะอีกแล้ว จูบซะ”ว่าแล้วก็จูบจริงๆ

 

                “พูดไม่เพราะเหมือนกันนิ่ เอาเปรียบกันชัดๆ”

 

                “ขอโทษครับคนสวย จูบอีกที”ว่าจบก็จูบอีก ร่างบางมุ่ยหน้าใส่ ทั้งที่อยู่ในท่าล่อแหลม แต่พอสนุกขึ้นมาก็ลืมเรื่องๆหื่นไปเสียหมด

 

                “เอาเปรียบอีกแล้วนะ”

 

                “แหมที่รัก ใครๆเขาก็อยากจะได้จูบจากคนน่าตาดีอย่างสามีของที่รักทั้งนั้นแหละ แล้วนี่เห็นมั้ย ได้จูบฟรีๆไม่คิดตังค์เลยนะ ไม่ต้องรอคิวด้วย”

 

                “ขอบคุณนะที่ไม่ต้องให้รอคิว แต่ไม่ทราบว่าไปจูบใครมาครับคุณผัวที่รัก”ร่างบางว่าจบก็ฟาดผลั่วะเข้ากลางหลัง

 

                “ซี๊ดดด...แสบสันต์ ไม่ได้จูบใครเลยคุณเมียที่รัก แค่คุณผัวที่รักของคุณเมียที่รักเนี่ย อยากมีคนจูบด้วยมากมาย เพราะความหล่อมันเจิดจรัส”ร่างบางทำหน้าแหวะเล็กน้อย แขนเรียวก็ยังโอบกอดร่างสูงไม่ปล่อยเหมือนที่ซีวอนเองก็ไม่ได้ปล่อยเช่นกัน

 

                 “หลงตัวเอง”

 

                 “พอกันนั่นแหละ”

 

                “ย้อนเหรอไอ้คุณผัว....สุดหล่อ”

 

               “ย้อนสิ่ครับไอ้คุณเมีย....สุดสวย”ว่าจบก็จูบอีก ไม่รู้โดนไปกี่รอบแล้ว แต่ร่างบางก็ไม่ได้ปฏิเสธกลับตอบรับอย่างดี

 

               “อื้อ..พอก่อน หายใจไม่ออก เริ่มร้อนรึยัง รู้สึกเหมือนแอร์มันไม่เย็นเลยเนอะ”ร่างบางว่า หันซ้ายหันขวา ซีวอนเองก็ปล่อยออก แล้วดึงร่างบางลุกขึ้นมานั่ง

 

                “สงสัยกอดนานไปหน่อย คึคึ”ร่างสูงบอก หัวเราะพิลึกใส่ร่างบางอีก คยูฮยอนมองหน้าทำจมูกบานใส่ แล้วลุกขึ้น ดึงร่างสูงให้ลุกเดินออกจากห้องนอน มือใหญ่จับมือเล็กทั้งสองข้างให้ร่างบางหันหน้าเข้าหา ร่างบางยิ้มรับ ก่อนจะเอ่ยออกมาพร้อมกัน

 

                “ขอโทษนะ/ขอโทษนะ”ทุกครั้งที่เล่นกันแบบนี้ มักจะขอโทษกันทุกครั้งเช่นกันเพราะพูดจาไม่เพราะ แรกๆก็เป็นร่างบางที่พูดขอโทษพร้อมกับก้มศีรษะเล็กน้อย แต่ด้วยความที่ซีวอนไม่เข้าใจว่าขอโทษทำไมและตกใจที่อยู่ๆร่างบางมาก้มศีรษะ ให้เขาแบบนั้น ร่างบางจึงต้องบอกเหตุผล ให้เหตุผลว่าซีวอนอายุมากกว่าและเป็นสามีของเขา ต้องเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน   

 

                 “อ่า..เหนื่อยจัง นอนดีกว่า”ร่างบางบอกเมื่อเดินมาถึงโซฟา ทิ้งตัวลงนอนแผ่หราไม่เกรงใจว่าสามีจะเกิดอารมณ์

 

                “นอนดีๆสิ่ อ้าขาแบบนี้ได้ไง น่าเกลียด”

 

                “อ้าว...ก็อ้าขารออยู่เนี่ยมาสิ่”ร่างบางพูดขึ้น ก่อนจะมองหน้าร่างสูงแล้วต่างคนต่างก็หัวเราะออกมาอีก ซีวอนเองก็รู้ว่านอนแบบนี้เพราะเมื่อยขา จึงไม่ได้เกิดอารมณ์พิศวาสอะไรขึ้นมา นั่งลงข้างๆจับขาร่างบางให้วางดีๆ มือใหญ่หยิบรีโมทขึ้นมาเปิดหนังดูไปเรื่อยเปื่อย

 

 

 

                                     ...................................

 

 

 

 

                     อีทึกที่ไม่สบายจึงต้องหยุดงานมานอนเหี่ยวอยู่ที่บ้านสองวันแล้ว ซีวอนเองก็รีบกลับมาจากอเมริกามาดูพี่ชายก่อนที่จะเข้าบริษัท ฝากร่างบางไว้กับชินดงเพราะไม่ยอมให้อยู่ตามลำพังกับเด็กๆ

 

            “ไปหาหมอรึยังครับพี่”ถามด้วยความเป็นห่วง อีทึกพยักหน้ารับ

 

             “กลับมาเมื่อไร ไหนดูซิ หายดีแล้วใช่มั้ย”ถามเสียงแหบน้อยๆ ร่างสูงช่วยประคองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง

 

             “เมื่อเช้าน่ะครับ หายดีแล้ว ดูสิ่ พี่ไม่ต้องห่วงนะ”ร่างสูงบอก อีทึกพยักหน้ารับยิ้มๆ รั้งน้องชายมากอดด้วยความคิดถึง

 

              “ผมขอโทษนะครับที่ปล่อยให้พี่ทำงานคนเดียว”อีทึกส่ายหน้า

 

             “ไม่เป็นไร นี่มันเป็นบริษัทของพวกเรานะ ต้องช่วยกันสิ่”ร่างสูงเองก็รู้สึกผิดที่ทิ้งงานให้พี่ชายทำอยู่คนเดียว เพราะอีทึกต้องทำที่โรงแรมด้วย แล้วยังต้องมานั่งบริหารที่นี่อีก ลำพังเลี้ยงลูกก็เหนื่อยแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้มีเวลาให้ลูกบ้างหรือปล่าว

 

              “ยองซูล่ะครับ”ถามหาหลานเพราะเห็นคังอินทำข้าวต้มมื้อกลางวันอยู่ในครัวแต่กลับไปเห็นหลานชายตัวเล็ก

 

              “เรียวอุคพาไปเที่ยวโรงเรียนกับอึนจองน่ะ หลานเข้าโรงเรียนแล้วนะ”อีทึกบอก ซีวอนหัวเราะเบาๆ นึกถึงตอนที่ไอ้ตัวแสบเข้าโรงเรียนใหม่ๆก็นึกขำ

 

              “โตแล้วสิ่นะ แปบเดียวก็เข้าโรงเรียนซะแล้ว”อีทึกยิ้มอ่อนๆ

 

 

 

 

                 นั่งคุยตามประสาพี่น้องกันซักพักร่างสูงก็กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อไปเข้าบริษัทดูงานต่อ คังอินยกข้าวต้มร้อนๆมื้อกลางวันมาให้บนห้อง

 

            “พี่ครับ ทานข้าวก่อนนะครับจะได้ทานยา”

 

             “ทานข้างล่างก็ได้คังอิน ไม่ต้องยกขึ้นมาบนห้องหรอกนะ”อีทึกบอกเพราะเขาแทบไม่ต้องเดินไปไหนเลย ไม่ได้ออกกำลังกายบ้างก็ไม่หายซักที คังอินวางถามอาหารก่อนจะช่วยประคองร่างเล็กให้ลุกขึ้น

 

              “จะไปไหนครับ”

 

             “ไปห้องน้ำแปบนึง”อีทึกบอกจบก็เดินไป เขาไม่ได้ป่วยหนักขนาดนั้น เดินเหินสะดวกไม่ได้ติดขัดอะไร คังอินนั่งรอปลายเตียง เปิดโทรทัศน์ให้ห้องไม่เงียบจนเกินไป

 

             “คังอิน ไม่หิวเหรอ ไม่ทานข้าวกันพี่ล่ะ”อีทึกเดินออกมาจกาห้องน้ำถามคนที่นั่งดูข่าวอยู่

 

              “ไม่เป็นไรครับ พี่ทานก่อนนะ”อีทึกส่ายหน้าไม่ยอม คังอินจะป้อนก็ไม่ยอม จนร่างหนาต้องลงไปยกข้าวของตัวเองขึ้นมานั่งกินเป็นเพื่อนให้เห็นว่าตัวเอง ก็กินข้าวเหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไม อีทึกป่วยมาสองวัน เอาแต่ใจตัวเองจนเขาแทบจะเอาใจไม่ถูก หรือเป็นเพราะอีทึกจะเอาแต่ใจเฉพาะช่วงที่ป่วยกันแน่ ต่างกับน้องชายราวฟ้ากับเหว รายนั้นเอาแต่ใจได้ตลอดเวลา

 

              “ผมทานแล้วนะ เพราะฉะนั้นพี่ก็ทานได้แล้วครับ”คังอินบอก มือก็คอยป้อนให้ร่างเล็กด้วย ทั้งที่อีทึกบอกว่ากินเองได้ แต่ก็จำเป็นต้องอ้าปากรับเพราะคังอินเองก็ใช้มาตรการเอาแต่ใจบ่งนิสัยเอาแต่ ใจของอีทึกเหมือนกัน

 

 

 

            นั่งกินข้าวกันจนหมด คังอินก็ส่งยาให้ อีทึกรับมาอย่างว่าง่าย ก่อนจะนอนหลับไปเพราะฤทธิ์ยา คังอินที่นั่งเฝ้าจนอีทึกหลับก็ยกถาดลงไปเก็บในครัว พอดีกับที่แม่บ้านเดินมาจึงฝากไปแล้วกลับเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนคนป่วยในห้อง เหมือนเดิม

 

 

 

                 เสียงรถเข้ามาที่หน้าบ้านทำให้คังอินต้องออกมาดูทางระเบียง เห็นเรียวอุคมาส่งเจ้าลูกหมีก็ยิ้มน้อยๆ เดินลงไปรับข้างล่าง

 

             “เป็นยังไงบ้างลูก สนุกมั้ยครับ”

 

             “ซาหนุกคั๊บคุณพ่อ”ยองซูร้องบอกเสียงใส

 

             “เข้าบ้านก่อนป่ะ เรียวอุค”คังอินชวนเรียวอุคให้มานั่งคุยด้วยกันก่อน แต่ร่างเล็กก็ต้องปฏิเสธเพราะให้มิยองคอยดูแลร้านคนเดียว เดี๋ยวจะเหนื่อยเสียก่อน

 

             “ไม่เป็นไรครับคุณคังอิน เดี๋ยวผมต้องกลับร้านก่อนน่ะครับ ทิ้งคุณมิยองเอาไว้คนเดียว”

 

             “อ้องั้นเหรอ ขอบใจมากนะ พรุ่งนี้เจอกัน”เรียวอุคยิ้มรับ บอกลาก่อนจะกลับร้าน เจ้าลูกหมีมองตามอึนจองที่เดินตามแรงจูงของเรียวอุคอยู่ทำให้คังอินอดยิ้ม ไม่ได้ สงสัยจะได้ลูกสะใภ้ซะแล้วล่ะม๊างงง

 

             “ยองซู ไปหาคุณแม่กันดีกว่านะครับ”

 

             “คั๊บ”เจ้าลูกหมีรับคำเสียงหนักแน่น จับมือร่างหนาแล้วลากขึ้นชั้นสองของบ้าน

 

             “เดินดีๆสิ่ลูก เดี๋ยวตกบันไดนะครับ”

 

 

 

               กว่าจะมาถึงหน้าห้องยองซูก็มัวแต่เล่นมาตลอดทุกขั้นบันได คังอินเปิดประตูเข้าไปให้เจ้าลูกหมีเข้าไปก่อน

 

             “ยองซูๆ”เจ้าลูกหมีหันมาตามเสียง

 

             “เบาๆครับ คุณแม่หลับอยู่”มือหนาทาบปากให้ดูว่าไม่ให้ส่งเสียงดัง ยองซูก็ทำเป็นเดินย่อง จนคังอินแอบขำ ทำได้เหมือนที่เคยสอนจริงๆ

 

             “คุณพ่อ”ยองซูหันมาเรียกร่างหนาที่เดินตามหลังอยู่

 

             “อะไรครับ”คังอินเดินเข้ามาใกล้ๆ นั่งลงกับพื้น อุ้มเจ้าลูกหมีนั่งตัก ยองซูเอื้อมไปหยิบสมุดภาพการ์ตูน พร้อมกับสีกล่องใหญ่ คังอินก็รู้ทันที

 

              “เอาหน้าไหนลูก เปิดเลย”คังอินวางสมุดลงกับพื้น และเปิดกล่องสีกล่องใหญ่วางลงข้างๆ ยองซูลุกขึ้นเดินไปนั่งลงตรงข้ามกับร่างหนา

 

             “คุณพ่อ หน้านี้”มือป้อมๆเปิดขวับๆ แล้วชี้ไปหน้าตัวการ์ตูนยักษ์

 

             “หมีเนี่ยนะลูก”คังอินถาม มองหน้าลูกตัวเองแล้วหัวเราะออกมา แต่ก็พยักหน้ารับ มือหนาหยิบสีใส่มือป้อมแต่ยองซูส่ายหน้าไม่เอา

 

            “ม่ายสวยยย”บอกแล้วหยิบอันใหม่ คังอินมองสีที่ลูกหยิบแล้วก็เบ้หน้า

 

             “หมีอะไรสีแดงล่ะลูก หมีต้องสีนี้ครับ”มือหนาส่งสีน้ำตาลเข้มและสีดำไปให้ แต่ยองซูส่ายหน้าไปยอมรับสีในมือนั้น

 

             “ไม่อาว”บอกพร้อมกับส่ายหน้าไปมา คังอินยู่หน้าเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มออกมา เจ้าลูกหมียัดแท่งสีใส่มือหนา

 

             “คุณพ่อ ทำตรงนี้”มือป้อมจิ้มไปก้นใหญ่ๆของหมียักษ์ คังอินพยักหน้ารับ

 

             “ครับๆ คุณลูก” มือหนาลงมือระบายสีตามคำสั่ง ระบายไม่เท่าไรก็นั่งมองลูกทำเฉยๆ จินตนาการลูกสูงจริงๆ หัวสีเขียว ตัวสีเหลือง ก้นสีแดง ...หมีอะไรวะเนี่ย?

 

 

 

 

 

 

 

                  อีทึกที่นอนมาได้สองชั่วโมงสลึมสะลือตื่นขึ้นมา ก็เห็นสองพ่อลูกนั่งเล่นกันอยู่ที่พื้นห้อง จึงลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง

 

             “คังอิน ทำอะไรน่ะ”เสียงหวานๆที่ตอนนี้ติดจะแหบเล็กน้อยถามขึ้น ร่างหนาหันมามองก่อนจะลุกขึ้นเดินมาหาร่างเล็ก

 

              “ระบายสีตัวการ์ตูนน่ะครับ”บอกแล้วยื่นแก้วน้ำให้ อีทึกรับมาก่อนจะดื่มจนหมดแก้ว

 

              “ยองซู เอาหมีมาให้คุณแม่ดูสิ่ครับ”ร่างหนาร้องบอกเจ้าลูกหมี ยองซูลุกขึ้นทันที คว้าสมุดมาด้วย พร้อมกับยื่นให้อีทึกดู

 

              “คุณแม่สวยมั้ย?”อีทึกดึงสมุดออกมาดูก็หัวเราะออกมาเบาๆ ดึงเจ้าลูกหมีเข้ามากอด หอมแก้มให้อีกที

 

              “สวยมากครับ คนเก่ง” คังอินดึงยองซูไปนั่งตัก แล้วให้อีทึกดูรูปที่ลูกชายได้ทำเอาไว้ทุกรูป นั่งกันอยู่บนเตียงสามคน ดูรูปไปเรื่อย อีทึกก็ชมทุกรูปเช่นกัน ยองซูเองก็ชอบใจ ตบมือเสียงดังหัวเราะคิกคัก

 

 

 

                                 .......................................

 

 

 

 

 

 

                 ร่างสูงนั่งยู่หน้าอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่เอนหลังพิงพนัก ขายาวไขว่ห้าง ศอกตั้งกับพนักวางแขน มือขวาเท้าคาง มืออีกข้างหมุนไอโฟนเครื่องหรูบนโต๊ะไปมาๆ ก่อนนิ้วยาวจะกดจิ้มๆไปเรื่อย

 

             ‘ฮัลโหล ซีวอนว่าไง’อยู่ๆก็มีเสียงปลายสายดังขึ้น ร่างสูงสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะมองหน้าจอ

 

             “อ้าว โทษทีนะคยู มือมันไปโดนน่ะ“

 

             ‘อย่างนั้นเหรอ นึกว่าตั้งใจโทรมา...’เสียงปลายสายจากที่ดีใจเมื่อครู่อ่อนลงจนร่างสูงรู้สึกได้ ซีวอนอึกอักๆ เพราะกลัวร่างบางเสียใจ

 

            “อ่ะๆๆ...เอ่อ..พอดีฉันไม่มีไรทำเลยโทรหา ทำอะไรอยู่เหรอ”

 

             ‘อ่านหนังสือน่ะ จะสอบแล้ว ถึงนานรึยัง อย่าลืมกินข้าวนะ รีบๆกลับมานะ’ร่างบางถามรัว จนร่างสูงหัวเราะออกมาเบาๆ

 

              “ถึงครึ่งวันแล้วล่ะ  คิดถึงอ่ะเด้...แต่ไม่อยากกินข้าวเลย ไม่เห็นหน้านายฉันก็กินอะไรไม่ลงเลยล่ะ”

 

              ‘แหวะ กินข้าวด้วยนะ อ้อ...พี่ทึกเป็นไงบ้าง’ร่างบางนึกขึ้นได้ว่าอีทึกป่วย จึงถามขึ้น

 

              “ดีขึ้นแล้วหล่ะ อีกสองสามวันคงทำงานได้เหมือนเดิม นี่ ห่วงแต่คนอื่น ตัวเองน่ะ อย่าหักโหมอ่านหนังสือล่ะ นอนให้ตรงเวลา กินข้าวให้ตรงเวลาด้วย เดี๋ยวจะปวดท้องนะ”ร่างสูงบอกอย่างเป็นห่วง แค่ไม่ได้เจอหน้าหลายๆวันก็คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว กลัวร่างบางจะหักโหมจนเกินไปไม่สบายไปอีกคน

 

             “ครับๆสุดหล่อ ซีวอน ฉันขออ่านหนังสือก่อนนะ ตั้งใจทำงานนะ บ๊ายบาย”ร่างบางบอกแถมจุ๊บให้อีกทีก่อนจะวางสาย ร่างสูงอมยิ้มจนแก้มปริ นิ้วยาวเคาะโต๊ะอย่างอารมณ์ดี

 

 

 

                 เสียงเคาะประตูดังขึ้นร่างสูงจึงอนุญาตให้เข้ามา ยองอามองเจ้านายอย่างแปลกใจ ว่าอะไรทำให้ยิ้มได้ขนาดนั้น แถมยังยิ้มอารมณ์ดีเผื่อมาถึงเขาอีก

 

 

 

                                                  .....

 

 

 

                  คิบอมมาหาฮีชอลที่บ้าน พอฮีชอลเห็นแบบนั้นก็ตกใจที่เห็นน้องหน้าตาซีดเซียว ดูโทรมจนเปลี่ยนเป็นคนละคน

 

             “ไอ้บอมแกไปทำอะไรมาวะ”

 

             “พี่....”คิบอมเห็นพี่ชายก็เดินเข้าไปหา กอดร่างโปร่งร้องไห้ออกมาอย่างหมดกำลังใจ ฮีชอลได้แต่งง มือเรียวลูบหลังเบาๆปลอบใจ

 

             “เกิดอะไรขึ้น ทำไมเป็นแบบนี้ได้”ดึงให้น้องชายไปนั่งคุยกันที่ห้องรับแขก คิบอมนั่งก้มหน้า มือใหญ่กุมหน้าซ่อนน้ำตาไม่ให้ไหลอีก ฮีชอลมองแล้วก็ส่ายหน้าไปมา

 

             “ผมกับด๊อง...เราเลิกกันแล้วครับพี่”ฮีชอลที่กำลังจะอ้าปากถามอีกรอบ ถึงกับอ้าปากค้าง

 

             “ทำ...ทำไมล่ะคิบอม ทะเลาะกันรุนแรงเหรอ”ฮีชอลถามเพราะตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน พรางมองหน้าน้องที่หนวดเคลาขึ้นเขียว ผอมลงอย่างเห็นได้ชัด คิบอมส่ายหน้า

 

             “ปล่าวครับ เราไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ผมผิดเอง...”ร่างโปร่งเริ่มคิ้วขมวด ไม่เข้าใจ

 

             “หมายความว่ายังไงคิบอม พี่ไม่เข้าใจ ช่วยอธิบายเพิ่มหน่อยซิ”ฮีชอลว่า มองหน้าน้องรอฟัง

 

              “ผม...กำลังจะมีลูกกับ...คนอื่น”คิบอมบอกเสียงเบาไม่รู้จะพูดยังไง ฮีชอลนิ่งเมื่อยินแบบนั้น ซองมินที่ลงมาเอานมให้ลูกได้ยินเข้าก็ปรี่เข้ามาหาคิบอมทันที ดึงคิบอมขึ้น

 

             “คิบอม ทำไมทำแบบนี้ คิบอมทำแบบนี้กับด๊องได้ยังไง ผมเสียใจแทนเพื่อนจริงๆ ไม่น่าไว้ใจคิบอมให้ดูแลเพื่อนเลย”ซองมินว่าเสียงสั่น เพราะดงเฮเป็นเพื่อนกับเขาตั้งมัธยม และก็มีฮยอกแจอีกคน...ฮีชอลตกใจ เข้ามาดึงซองมินออก

 

             “มินนี่พอๆ เดี๋ยวคิบอมมันตายซะก่อน”

 

             “พี่ปล่อยเค้านะ ก็ดูน้องพี่ทำกับเพื่อนเค้าสิ่”

 

             “ใจเย็นๆมินนี่ นี่มันไม่ใช่เรื่องของเรานะ เราตัดสินอะไรแทนไม่ได้”ฮีชอลบอก ซองมินนิ่งลง ก่อนจะเดินหนีเข้าครัวไปอย่างไม่พอใจ

 

             “ซองมินคงโกรธผมมากสิ่นะครับพี่”ฮีชอลถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วนั่งลงเหมือนเดิม

 

             “แกทำใครท้องวะคิบอม แกพลาดได้ยังไง”

 

            “เธอชื่อนาบีน่ะครับ เป็นเพื่อนสมัยเรียนที่อเมริกา ผมไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเกิดขึ้น เธอเองก็จะเอาเด็กออก เพราะไม่พร้อม แต่ผมปล่อยให้เธอทำไม่ได้”มือเรียวตบบ่าน้องชายเบาๆให้กำลังใจ

 

             “แล้วตอนนี้ดงเฮกับลูกล่ะ”

 

             “หลังจากเลิกกันดงเฮก็พาลูกย้ายกลับไปอยู่บ้านคุณแม่น่ะครับ”คิบอมพูดไป น้ำตาก็จะไหล ไม่ได้เห็นหน้าลูกมาเป็นอาทิตย์แล้ว ความคิดถึงมันมีมากมาย แต่เขาไม่กล้าไปเจอดงเฮ

 

             “ปัญหามันต้องมีทางออกน่าคิบอม ใจเย็นๆ ตอนนี้ก็ดูแลแม่นาบีอะไรนั่นไปก่อน ยังไงดงเฮก็ไม่ได้ตัดความสัมพันธ์ไปเลยไม่ใช่เหรอ”คิบอมพยักหน้ารับ

 

             “รอให้ดงเฮใจเย็นให้เวลาน้องมันหน่อย แล้วค่อยไปคุยกันใหม่ อะไรๆมันอาจจะดีขึ้น เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาไม่มีใครยอมรับได้ง่ายๆหรอกนะคิบอม  แกเองก็ดูแลตัวเองหน่อยสิ่ ปล่อยตัวให้โทรมแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน”อดที่จะต่อว่าไม่ได้กับสภาพสารรูปของ น้องชายแล้ว  ซองมินที่เดินออกมาก็สบัดหน้าหนีอย่างไม่พอใจ

 

             “กลับบ้านไปดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ แล้วยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ตั้งใจเลี้ยงลูกที่จะเกิดมาให้ดี เมื่อมีโอกาสก็ปรับความเข้าใจกับดงเฮซะ แกต้องทำให้ดงเฮยอมรับแกให้ได้ ดงเฮไม่ใช่คนใจแข็ง พี่เชื่อว่าแบบนั้น”ฮีชอลบอก ดันหลังให้น้องชายต่างสายเลือดลุกขึ้น ไปแปลงโฉมตัวเองเสียใหม่ เห็นสภาพพแบบนี้แล้วก็อดที่จะถอนหายใจไม่ได้ คิบอมกอดฮีชอลเพื่อขอบคุณก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป

 

            “ก็เป็นซะแบบนี้ ด๊องมันจะทำใจได้ยังไงเนี่ย เฮ้ออออ”ร่างบางโปร่งถอนหายใจยาวกว่าปกติ แล้วหนุมตัวกลับเข้าบ้านก็เห็นซองมินยืนหน้าบูดอยู่ที่บันไดขั้นสุดท้าย

 

            “อย่าคิดมากเลยมินนี่ คิบอมมันไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนั้น”

 

             “คำก็ไม่ได้ตั้งใจ สองคำก็พูดเหมือนเดิม มันก็อ้างได้อยู่แล้วว่าไม่ได้ตั้งใจ น่าจะหาเหตุผลที่ดีกว่านี้ไม่ใช่เหรอครับ”ซองมินว่าจบก็เดินหน้าบูดเข้าครัว ไปอีกรอบ

 

             “มินนี่ ทำอะไรให้พี่กินหน่อยสิ่ หิ๊ว หิว”ร่างโปร่งเดินตามศรีภรรยาเข้าครัว ซองมินพยักหน้ารับ ก่อนจะลงมือสำรวจของสดในตู้เย็น

 

             “เค้าอยากไปหาด๊อง พี่พาเค้าไปหน่อยนะ”ซองมินหันมาบอก ฮีชอลพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนจะช่วยกันทำมื้อกลางวัน

 

 

 

 

 

 

                                             ......................................

 

 

 

 

 

 

                 ร่างสูงเร่งทำงานให้เสร็จกลับบ้านไปพักผ่อน เป็นอย่างนี้อยู่เป็นอาทิตย์จนล่วงเวลาเกือบเดือนที่ต้องอยู่เกาหลี เป็นห่วงคนที่อยู่ไกลๆแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่โทรคุยกันเท่านั้น ความรู้สึกงุ่นง่านทำงานไม่ได้จนอีทึกที่หายป่วยกลับมาทำงานได้เหมือนเดิมอด ที่จะบ่นไม่ได้เพราะน้องทำเสียงาน เขาเองก็หายป่วยนานแล้ว แต่มีปัญหาเรื่องานเลยจำต้องอยู่ต่อ พองานหมดก็เก็บกระเป๋ากลับอเมริกาทันทีไม่รอช้า

 

             “คยูอยู่ไหน”เสียงทุ้มเอ่ยถามคนปลายสายที่คาดว่าอยู่ที่คอนโด

 

             ‘อยู่ห้อง ทำไมเหรอ’ร่าง สูงยิ้มกริ่มก่อนจะเสียบคีย์การ์ดเข้าห้อง ประตูเปิดออกก็ทำให้ร่างบางหันมามองทันที ร่างสูงวางสายลงยิ้มกว้างปากจะฉีกถึงรูหู ร่างบางมองอย่างตกใจรีบลุกขึ้นมาหาตรงเข้ามากอดคนที่คิดถึงอยู่ทั้งเดือน

 

             “คิดถึงจัง”ร่างสูงบอก กอดร่างบางแน่น

 

             “จะมาทำไมไม่บอกจะออกไปรับ”ร่างบางถามขึ้น สำรวจหน้าตาแปลกๆไปของคนตัวสูง คิ้วเรียวขมวดติดกัน

 

             “ขับรถมา เป็นยังไง หล่อขึ้นมั้ย”ร่างสูงเก็กหน้าหล่อหันซ้ายขวา ร่างบางหัวเราะคิกพยักหน้ารับ

 

              “หน้าเด็กขึ้นนะ แต่มันสั้นไปหน่อยมั้ย”ร่างบางจับผมร่างสูงดู มันสั้นเหมือนเด็กม.ปลายไม่มีผิด ก่อนจะช่วยยกกระเป๋าเข้าไปเก็บแต่ก็โดนร่างสูงดักเอาไว้ จับมือเล็กพาเดินเข้าไปในห้องแทนที่จะให้ช่วยยกกระเป๋า

 

              “จะมาก็ไม่บอก จะให้เอาการ์ฟิลด์มาด้วย”

 

             “อ้าวเหรอ การ์ฟิลด์อยู่บ้านเรียวอุคน่ะ...แล้วนี่เด็กๆไปไหน”ร่างสูงถามขึ้นเมื่อเห็นห้องเงียบๆ ไม่มีเสียงเด็กรบกวนเลย

 

             “ไม่ยอมกลับเลย เพราะนายน่ะพาไปอยู่บ้านคุณอา ตัวติดกับแทคทั้งวัน”ร่างบางบอกยู่หน้า เพราะเขาเองกลับมาอยู่คอนโดคนเดียวสองวันแล้ว

 

             “หึ งั้นก็ดีสิ่ ไม่ได้เจอตั้งหลายวัน คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว”มือเล็กตีอกแกร่งเบาๆ ริมฝีปากบางพูดเบาว่า...บ้า...ใบหน้าหวานระเรื่อเล็กน้อย

 

             “คิดถึงเหมือนกัน”เสียงหวานเอ่ยขึ้น ร่างสูงยิ้มกริ่ม ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆที่ริมฝีบางเบา หลายครั้งย้ำๆ หน้าหวานเงยขึ้นรับจูบ แขนเรียวคล้องคอแกร่งรั้งลงมาเล็กน้อยให้ถนัดถนี่ แขนล่ำโอบเอวบางมือก็ลูบแผ่นหลังไปมา ก่อนจะถอนจูบออก มองหน้าหวานให้เต็มตา

 

              “กี่โมงแล้ว”อยู่ๆร่างสูงก็หยุดแล้วถามแปลกๆ ร่างบางมองนาฬิกาที่ข้อมือ

 

              “อืม...สี่โมงเย็นแล้ว”เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามร่างสูงว่าทำไมหรือ ปากหยักยกยิ้ม

 

              “หิวรึปล่าว”

 

              “ยังไม่หิวเลย กินขนมเข้าไปน่ะ”เพียงเท่านั้นร่างสูงก็ก้มลงจูบริมฝีปากบางหนักหน่วงแค่ กลัวว่าร่างบางจะหิวกลางครันเสียก่อน ถ้ายังไม่หิวตอนนี้จะได้ทำอะไรได้ถนัดถนี่

 

                      (เอ็นซีอยู่ไหนก็ไม่รู้ ขอไปหาก่อนนะคะ แล้วจะมาแก้ไข หุหุ)

 

 

 

 

 

 

 

                 ร่างบางขยับตัวยุกยิกๆในอ้อมแขนล่ำๆของร่างสูงที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ ข้างๆ ลืมตาขึ้นกระพริบถี่เพื่อปรับสายตา ก่อนจะมองนาฬิกาที่ฝาผนังก็ตกใจลุกขึ้นพรวดทำให้แขนของร่างสูงหลุดออกจากที่ กอดอยู่

 

             “สี่โมงเย็น สี่โมง ลูก...ตายๆๆ”ร่างบางรุกรี้รุกรนลุกขึ้นจากเตียงแต่ก็ต้องขาอ่อนเปรี้ยไร้เรี่ยวแรง ล้มตัวลงนั่งทันที

 

              “โถ่เอ๊ย...”สบทออกมาเบาๆแล้วพยายามลุกขึ้นจากเตียงก้าวเดินออกไปข้างนอก ห้องช้าๆเพื่อไปอาบน้ำแล้วออกไปรับลูกที่บ้านชินดง ร่างสูงที่นอนไม่รู้เรื่องก็พลิกตัวคว้าได้แต่หมอนที่ร่างบางเอามาอุดไว้แทน ตัวเองที่ออกไปอาบน้ำ

 

                ร่างบางอาบน้ำเสร็จก็รีบแต่งตัวให้เรียบร้อยและคิดว่ามิดชิดที่สุดเพราะ....ไอ้รอยแดงๆนี่แหละตัวปัญหา!!! แต่ง ตัวเรียบร้อยเตรียมออกไปข้างนอกก็ไม่ลืมเขียนโน๊ตแปะเอาไว้ที่หัวเตียงเผื่อ คุณสามีตื่นขึ้นมาไม่เจอจะได้ไม่โวยวาย แล้วออกไปทันทีไม่รอช้า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                   ร่างบางกดออดหน้าบ้านชินดงก่อนจะเห็นแม่บ้านเดินออกมาเปิดประตูให้ก็ก้ม ศีรษะทักทายแล้วก้าวเข้าไปในบ้าน เสียงหัวเราะสนุกสนานดังออกมานอกบ้านให้ได้ยิน

 

             “เด็กๆเล่นอะไรกันอยู่เหรอครับ”ร่างบางหันไปถามแม่บ้านที่เดินตามหลังมา

 

             “น้องซองอึนแกล้งคุณแทคน่ะค่ะ”แม่บ้านบอก ร่างบางอ้าอากเหวอทันที แล้วรีบเดินเข้าไปในบ้านก็เห็นเจ้าตัวแสบหัวเราะเสียงดังด้วยความชอบใจ

 

              “ซองอึนหัวเราะอะไรลูก”ร่างบางร้องถาม เจ้าตัวเล็กหันมาเห็นร่างบางก็รีบวิ่งเข้ามาหา โถมตัวเข้าใส่จนร่างบางเซเล็กน้อย

 

              “คุณแม่ น้าแทคตลก”มือป้อมชี้ไปที่ร่างสูงของแทคยอนให้ร่างบางดู คยูฮยอนเห็นหน้าน้องชายก็ขำก๊ากออกมาทันที

 

              “ฮ่าๆๆๆ แทคไปล้างหน้าสิ่ มานั่งให้หลานแกล้งอยู่ได้”ร่างบางว่าเพราะหน้าน้องชายมีแต่รอยเขียนปากกา แทคยอนยู่ปากใส่เจ้าตัวเล็กแล้วลุกออกไป

 

              “น้องไปไหนล่ะลูก” ร่างบางถามหายัยตัวเล็กที่เข้ามาในบ้านยังไม่เห็นหน้าเลย

 

               “น้องโซอึนอยู่กับคุณยายคั๊บ”เจ้าตัวเล็กบอก ร่างบางรั้งเข้ามากอดด้วยความคิดถึงแถมหอมแก้มไปฟอดใหญ่

 

               “ซองอึน ป่ะป๊ากลับมาแล้วลูก”ร่างบางบอก เพราะรู้ว่าเจ้าตัวเล็กคิดถึงร่างสูงมาก เคยขอให้เขาพากลับไปส่งที่เกาหลี แต่ก็ไปไม่ได้

 

               “จริงเหรอคั๊บ แล้วปาป๊าอยู่ไหน”

 

               “ป่ะป๊าอยูบ้านลูก แต่ว่าป่ะป๊าหลับอยู่ แม่ก็เลยมาคนเดียว กลับบ้านดีกว่าเนอะ”ร่างบางบอกแล้วยิ้มอบอุ่นไปให้ เจ้าตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงักด้วยความดีใจ โผเข้ากอดร่างบางแน่น

 

               “อ้าว น้องคยู มานานแล้วเหรอลูก”คุรยายนาริอุ้มยัยตัวเล็กออกมาจากครัวเห็นร่างบางก็ถาม ขึ้น คยูฮยอนลุกขึ้นก้มศีรษะทักทายผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม

 

                “มาเมื่อกี้นี่เองครับ ผมขอโทษด้วยที่พาเด็กๆมารบกวนอยู่หลายวัน”นาริส่ายหน้า แล้วส่งยัยตัวเล็กที่ร้องหาร่างบางเมื่อเห็นหน้าไปให้ คยูฮยอนอุ้มกลับมาหอมแก้มฟอดใหญ่เช่นกัน

 

                “ไม่รบกวนอะไรหรอกลูก เด็กๆมาอยู่ที่นี่ บ้านก็ไม่เงียบเหงาดี อาชอบ”นาริบอก ร่างบางยิ้มหวาน

 

                “ผมคงต้องขอตัวกลับแล้วล่ะครับคุณอา ทิ้งซีวอนเอาไว้ที่คอนโคคนเดียวเดี๋ยวหาไม่เจอจะโวยวายเอาน่ะครับ”

 

                “อ้าวเหรอลูก ไม่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนเหรอจ๊ะ”

 

               “ไม่รบกวนดีกว่าครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

 

                “ให้น้องไปส่งสิ่ลูก”ร่างบางทำท่าลังเลแต่นาริไม่รอช้า เดินไปเรียกลูกชายสุดที่รักในห้องน้ำ แล้ลากออกมา แทคยอนหน้ายู่  ซองอึนหัวเราะคิกคักที่เห็นแบบนั้น

 

               “ไอ้ตัวแสบไม่ต้องมาหัวเราะ น้าล้างหน้าไม่ออก วันนี้ไม่ต้องกลับบ้านเลยนะ”แทคยอนบอก นาริมองลูกชายก็ส่ายหน้า

 

               “ก็ไปนอนหลับให้หลานเขียนแล้วก็มาโวยวาย ไปเลยลูก ไปส่งพี่เขาเดี๋ยวนี้เลย”

 

               “แม่~ แต่หน้าผมมัน..”แทคยอนทำท่าจะไม่ไป เพราะอายถ้าต้องออกไปไหนแบบนี้

 

              “เอ่อ คุณอาครับ ไม่ต้องให้แทคไปส่งก็ได้ครับ ผมนั่งแท็กซี่กลับท่าจะดีกว่า”ร่างบางยิ้มแหยส่งไปให้ นาริส่ายหน้าคิ้วย่น

 

                “ไม่ได้ลูก แทคออกไปส่งพี่เขาเลย อยู่แต่ในรถจะอายอะไรไม่มีใครเห็นหรอกน่า ไปเร็วๆลูก อย่าอิดออด”นาริดันหลังลูกชายออกจากบ้านให้ไปส่งร่างบาง คยูฮยอนส่งยิ้มเก้อให้เล็กน้อย แทคยอนหันมายิ้มเหลือกตาให้แล้ววิ่งไล่ไอ้ตัวแสบออกไปนอกบ้าน ซองอึนก็วิ่งหนีขึ้นรถไปก่อน

 

              “งั้นผมลานะครับ”

 

               “จ้ะ พาเด็กๆมาบ้านบ่อยๆนะลูก อาอยู่บ้านคนเดียวก็เหงา”ร่างบางรับปากก่อนจะออกไป นาริยืนส่งอยู่หน้าบ้านก็ส่งยิ้มที่แสนจะอบอุ่นให้ ยิ่งร่างบางมองก็ยิ่งนึกถึงแม่ อยู่กับนาริก็ทำให้ร่างบางมีความสุขเหมือนได้อยู่กับแม่เหมือนกัน คยูฮยอนจับมือโซอึนให้โบกมือบ๊ายบายคุณยายที่ยืนอยู่หน้าบ้านพร้อมรอยยิ้ม ก่อนรถจะออกตัวไป...

 

 

 

 

 

                                                     ........

 

 

 

 

 

                   มาถึงคอนโด แทคยอนก็งอนไม่ยอมขึ้นมาเหมือนปกติ ร่างบางก็ไม่ได้ว่าอะไร รอจนน้องขับรถออกไปแล้วจึงขึ้นลิฟท์กลับห้อง เปิดประตูห้องมาก็ยังเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่ร่างบางก็สงสัย จึงปล่อยให้โซอึนอยู่กับซองอึนที่โซฟา แล้วเข้าห้องไปดูคุณสามีที่ยังนอนอยู่

 

            “ซีวอนๆ”มือเล็กเขย่าร่างสูงเบาๆ แต่ก็ไม่ยอมขยับ

 

             “.....”

 

             “ซีวอน ตื่นได้แล้ว เย็นแล้วนะ”ร่างบางเรียกอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับ ก็คิ้วขมวดมุ่น หันไปดึงโพสอิทออกทิ้งถังขยะ

 

              “.....”

 

              “นี่ ตื่นได้แล้วคุณสามี”ร่างบางดึงหูร่างสูงเบาๆแล้วตะโกนใส่ให้พอสะดุ้งตื่น ร่างสูงพลิกตัวหลบเล็กน้อย ไม่ยอมลุกขึ้น

 

              “ซีวอน ตื่นขึ้นมากินข้าวก่อนสิ่”ร่างบางเรียกอีกรอบ ร่างสูงงัวเงียลืมตาขึ้น แต่ก็ต้องเอามือทาบอกเอาไว้เพราะอยู่ๆหัวใจก็เต้นแรง

 

             “เป็นอะไรรึปล่าว”ร่างบางถามด้วยความเป็นห่วง ร่างสูงส่ายหน้าว่าไม่ แล้วลุกขึ้นนั่ง

 

              “ไม่เป็นอะไรหรอก สงสัยใช้กำลังหักโหมเยอะไปหน่อย”ร่างสูงบอกเพราะเขาเองยังออกกำลังกายมากๆ ไม่ได้ พอเหนื่อยหัวใจก็เต้นเร็ว หายใจไม่ทัน

 

              “ลุกขึ้นไปกินข้าวก่อนนะ แล้วค่อยนอนต่อ”ร่างบางบอกแล้วช่วยประคองร่างสูงให้ลุกขึ้นนั่งดีๆ เดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาให้ใส่ แล้วพาออกมานอกห้อง

 

              “ปาป๊า”เสียงเรียกของเจ้าตัวเล็กทำให้ร่างสูงต้องเงยหน้าขึ้นมอง ปากหยักยกยิ้มกว้างทันทีที่เห็นเด็กๆนั่งอยู่ที่โซฟา ซองอึนรีบกระโดดลงจากโซฟาเข้ามาหาร่างสูงทันที กระโดดกอดหมับ

 

              “ปาป๊า ซองอึนคิดถึงปาป๊า”ว่าแล้วก็โน้มคอร่างสูงลงมาหอมแก้มจนพอใจ แล้วร่างบางจึงพาไปนั่งที่โซฟา

 

              “คิด..เถิง........ป๊า”เสียงยัยตัวเล็กดังขึ้นติดๆขัดๆ มาพร้อมรอยยิ้มโชว์ฟันซี่ขาว ร่างสูงยิ้มออกมาแล้วอุ้มมานั่งตัก ทั้งกอดทั้งหอมเหมือนที่ทำกับซองอึนเมื่อครู่

 

              “ป่ะป๊าก็คิดถึงทั้งซองอึน โซอึนเลยลูก”ว่าจบก็กอดเด็กทั้งสองอย่างรักใคร่ ร่างบางเห็นแบบนั้นก็เดินออกไปพร้อมรอยยิ้มเพื่อเข้าครัวไปเตรียมอาหารเย็น ปล่อยให้พ่อลูกเขาคิดถึงกันให้พอ........

 

 

 

 

            

 

 

 

.................................................................................................................

 

จบตอนแรก

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา