สลับขั้วมาลุ้นรัก

9.4

เขียนโดย Water_Fall

วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.31 น.

  14 ตอน
  45 วิจารณ์
  22.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 23.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7) เริ่มงานวันแรก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                        ภายใต้บ้านทรงยุโรปที่ดูจะไม่ใหญ่โตสักเท่าไหร่ ชายหนึ่งและอีกสองสาวกำลังนั่งทานอาหารบนโต๊ะยาวขนาดใหญ่ อาหารหลากเมนูที่ถูกคัดสรรจากวัตถุดิบทั่วทุกมุมโลกถูกเสริฟพร้อมกับน้ำดื่มหลากหลายสีสัน นี่คงเป็นการทานอาหารร่วมกันครั้งแรกระหว่างพี่น้องท้องเดียวกัน ผู้เป็นเสาหลักของตระกูลรู้สึกจะสนุกสนานเป็นพิเศษ หลังจากที่เครียดทั้งเรื่องงานและเรื่องไม่เป็นเรื่องมามาก เธอกินอาหารอย่างมีความสุขพลางดูคู่แฝดต่างเพศทะเลาะกันอย่างสนุกปาก  

 

 

                  "ว่ายังไงนะ นี่เธออยู่กับหมอนั่นสองต่อสองในโรงแรมงั้นเรอะ มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน" ต้นกล้าชายหนุ่มคนเดียวของตระกูลร้องลั่นในขณะที่ข้าวยังเต็มปาก สายตาชวนหงุดหงิดของเขา ทำเอาแฝดพี่ก็หัวเสียไม่แพ้กัน

 

 

                  "เขาไม่ได้ทำอะไรฉันซะหน่อย" กิ่งแก้วพี่สาวฝาแฝดนั้งกอดอกพร้อมกับส่งตาสายตาอำมหิตไปทางน้องชาย ที่ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจเอามากๆที่พี่สาวอยู่กับนักธุรกิจหนุ่มท่าทางไม่น่าไว้ใจคนนั้น 

 

 

                  "ฉันไม่เชื่อหรอก คงจะหลงเสน่ห์หมอนั่นเข้าแล้วล่ะสิ หน้าถึงได้อมส้มอมแดงซะขนาดนั้น" 

 

 

                  "ไอ้ต้นกล้า มากล่าวหากันลอยๆแบบนี้ ไม่กลัวโดนต่อยหรือยังไง" แฝดพี่มองค้อนอย่างเอาเรื่อง ในขณะที่ข้าวฟางก็จ้องบทสนทนาอันไร้สาระนั่นอย่างสนอกสนใจ 

 

 

                 "ใครเชื่อก็โง่แล้วล่ะ นี่คงจะโดนเขา้จูบมาล่ะสิท่า ปากถึงได้ช้ำปานนั้น" 

 

 

                  "จะมากไปแล้วนะไอ้ต้นกล้า รอยช้ำเนี่ยฉันกินกุ้งแล้วอาการมันกำเริบต่างหากล่ะ ปากหมาๆแบบนี้ เดี๋ยวมีช้อนบินนะเว้ย" 

 

 

                  "กลัวตายล่ะ" แฝดน้องยื่นหน้าให้เป็นเชิงท้าทาย 

 

 

                  "เล่นแบบนี้ใช่ไหม เอา-ไป" แฝดพี่โมโหสุดๆจึงตักเนื้อย่างของเกลียดของน้องชายโยนใส่จานของแฝดน้องทันที ทำเอาแฝดน้องแทบควันออกหู 

 

 

                  "ยัยบ้า เธอก็รู้ว่าฉันไม่กินเนื้อย่างอ่ะ" ต้นกล้าพยายามตักเนื้อย่างออกไปจากจานข้าวของตน แต่กลิ่นควันที่ฉุนพร้อมกับซอสที่น่ารังเกียจ ทำเอาเขาแทบจะอ้วกใส่ตรงนั้นซะด้วยซ้ำ

 

 

                 "รู้แล้วจะทำไม" แฝดพี่เยาะเย้ยอย่างซะใจสุดๆ

 

 

                  "อย่าคิดว่าเธอเก่งคนเดียวสิ" ต้นกล้าไม่ยอมแพ้ จึงหยิบกุ้งเผาโยนใส่จานกิ่งแก้วทันที ทำเอาเธอแทบช็อก เพราะตัวเองเกลียดกุ้งเอามากๆ 

 

 

                  "อย่าอยู่เลยไอ้ต้นกล้า" แฝดพี่พูดพร้อมกับลุกจากที่นั่งหมายจะทำร้ายน้องชายตัวแสบ แต่ก็ถูกพี่สาวคนโตห้ามเอาไว้ซะก่อน 

 

 

                  "พอได้แล้วน่าทั้งสองคน" เสียงอันทรงพลังเล็ดลอดออกจากปากของเธอ ทำเอาแฝดทั้งสองต้องหยุดสงครามลงกลางกั้น พลางทำสายตาสำนึกผิดไปที่พี่สาวคนโต 

 

 

                  "ขอโทษครับ/ค่ะ" 

 

 

                  "ว่าแต่ ไหนรูปที่เธอตั้งใจจะวาดให้พี่ล่ะต้นกล้า" เมื่อทุกอย่างสงบลง ข้าวฟางก็ถามถึงของที่เธอสั่ง ซึ่งก็คือรูปภาพของเธอนั่นเอง เพราะรูปที่ติดบนโต๊ะทำงานของเธอมันเก่าแล้ว เธอก็เลยตัดสินใจจะไปถ่ายรูปใหม่ แต่น้องชายตัวดีที่จบทางด้านศิลปะมา จึงขออาสาจะวาดให้ ซึ่งเธอเองก็ใคร่อยากจะเห็นความสามารถของน้องที่อุตส่าเสียเงินไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนามา 

 

 

                  "เอ่อ...." พลันนึกถึงรูป เขาก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น เขาจำได้ว่า ได้ขายรูปให้กับคนๆนึงไปแล้ว 

 

 

                  "ตอบมาเร็วๆเซ่" แฝดพี่คะยันคะยออยากรู้สุดๆ เพราะเธอเกลียดการรอคอยเป็นที่สุด ถึงแม้ตัวเธอเองจะชอบให้คนอื่นรอตลอดก็ตาม  

 

 

                  "คือว่าผม ผมขายไปแล้วน่ะครับ" ต้นกล้าเน้นคำว่าผมอย่างหนักแน่น แต่กลับอ่อนระทวย เมื่อสิ้นสุดประโยคของเขา 

 

 

                  "ว่าไงนะ นายเอารูปพี่ฟางไปขายยังงั้นเรอะ แล้วขายให้ใคร  ตอบมาเดี๋ยวนี้เลยนะ" กิ่งแก้วได้ที ก็เขาไปล๊อคคอน้องชาย 

 

 

                  "โอ๊ย เบาๆหน่อยดิ มันเจ็บ" 

 

 

                  "กิ่งแก้ว ปล่อยน้องเดี๋ยวนี้" เสียงอันน่าเกรงขามดังขึ้น ทำเอากิ่งแก้วต้องหยุดการกระทำนั่นลง

 

 

                  "ค่ะ" 

 

 

                  "ต้นกล้า ไหนลองบอกพี่มาสิว่าขายรูปนั้นให้ใคร" ข้าวฟางถามน้องด้วยน้ำเสียงหวานๆ ทำเอาน้องชายถึงต้องยอมปริปาก

 

 

                  "ก็คนที่ชื่อป๊อปๆอะไรนั่นน่ะ รู้สึกเขาจะเป็นโปรแกรมอะไรสักอย่างด้วยนะ" 

 

 

                  "โปรแกรมเมอร์" กิ่งแก้วตอบคำพูดที่หายไป

 

 

                  "เออ ใช่ๆโปรแกรมเมอร์" ต้นกล้าทวนคำพูดของพี่สาวพลางชี้ไปที่หน้าของเธอ 

 

 

                  "งั้นหรอกเรอะ จริงสิ พรุ่งนี้เธอต้องไปบ้านคุณโทโมะนี่นา รีบเข้านอนซะล่ะกิ่งแก้ว เดี๋ยวตื่นสายพี่ไม่รู้ด้วยนะ แล้วก็ ต้นกล้าพยายามห่างจากยัยกิ่งแก้วเข้าไว้นะ ประเดี๋ยวโดนถีบตกเตียงอีก แล้วจะหาว่าพี่ไม่เตือน" ข้าวฟางพูดเสร็จก็กลับไปห้องทำงานส่วนตัว ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาพักผ่อน แต่ประธานบริษัทอย่างเธอ ก็ต้องมานั่งเคลียร์บัญชีรายรับรายจ่ายทั้งหมด รวมทั้งพิจารณานิสัยของลูกค้าอีก ช่างเป็นงานที่แสนลำบากจริงๆ

 

 

                  "เชอะ" เมื่อพี่สาวจากไป ต้นกล้าก็สะบัดหน้าใส่ ทำเอากิ่งแก้วมองตามอย่างงงๆ

 

 

                  "ไอ้บ้า คืนนี้อย่าหวังว่าจะรอดจากเงื้อมมือมารไปได้เด็ดขาด"

 

 

                    ณ บ้านหลังใหญ่ที่ยังคงสร้างไม่เสร็จ กิ่งแก้วมาตามนัดของนักธุรกิจหนุ่ม ซึ่งตอนนี้ก็จวนจะแปดโมงอยู่แล้ว เธอมองหาคนที่นัดเธอไว้แต่ก็เหมือนจะไม่เห็นหัวของเขาเลยสักนิด อีตานั่น มันคิดจะเบียวหรือป่าวนะ ครั้นรอไปสักพัก รถสีดำดูคุ้นเคยก็เผยโฉมออกมา พร้อมกับชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่เดินลงมาอย่างช้าๆ

 

 

                 "คุณโทโมะ คุณนัดผมมาแปดโมง แต่คุณดันเล่นมาแปดโมงยี่สิบ นี่มันเกินกว่าที่ร้านอาหารอีกนะครับ" กิ่งแก้วมองหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง เพราะเขาทำให้เธอต้องคอยนาน ก็รู้ๆกันอยู่ว่า เธอเกลียดการรอคอยมากแค่ไหน

 

 

                 "เอาเป็นว่าผมขอโทษก็แล้วกัน" ชายหนุ่มพยายามลืมเรื่องพวกนั้นไป เพราะการที่เ้ขามาสาย ไม่ได้เป็นความตั้งใจจริงของเขา เพียงแต่เมื่อคืนที่เขารู้ว่า วันพรุ่งนี้จะต้องเจอกับเด็กหนุ่มที่เขายอมมอบจูบแรกให้ มันเลยทำให้เขานอนไม่หลับทั้งคืน กว่าจะนอนไำด้ก็เล่นเอาสว่าง จึงไม่แปลกที่เขาจะผิดนัดกับเธอ

 

 

                 "ว่าแต่ ไหนงานของผมล่ะ" โทโมะเดินตีคู่กับกิ่งแก้วไปสักพัก พอขึ้นชั้นสอง เขาก็ไม่ลืมที่จะทวงแบบบ้านจากเธอ

 

 

                 "นี่ครับ อุปกรณ์ตกแต่งที่ผมพยายามหามาให้" เช่นเคย หญิงสาวในคราบเด็กหนุ่มยื่น I-Pad ให้กับโทโมะ ก่อนจะลุ้นว่า งานของเธอจะถูกใจเขาหรือไม่

 

 

                 "อืม ไม่เลวนี่ สไตส์โมเดิร์นที่สอดแทรกธรรมชาติยังงั้นเหรอ" ชายหนุ่มยิ้มมุมปากอย่างพอใจ แต่เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้างๆ เขาก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นคนเฉยชาเหมือนเดิม

 

 

                 "เห็นใช่ไหมล่า ฝีมือของผมน่ะ" กิ่งแก้วกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ โดยไม่ทันสังเกตุว่า กำลังถูกสายตาของเขาจับจ้องทุกกระบวนท่า

 

 

                 "คุณนี่ เวลาดีใจก็หลุดโลกเหมือนกันนะครับ"

 

 

                 "อ่ะ ขอโทษครับ" กิ่งแก้วเกาหัวแก้เขิน ก่อนจะเดินตีคู่ไปกับชายหนุ่มเพื่อไปดูส่วนต่างๆที่เหลือ

 

 

 

 

     จบไปอีกตอนแล้วนะครับ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะ  

 

 

 

 

                  

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา