[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร
เขียนโดย Kreota
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
72) [Episode 6 :: Lie Lover] # Chapter 4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Episode 6 Lie Lover
:: Chapter 4 ::
“เหม่ออะไรอยู่เนี่ย” กีกวังถามพร้อมกับเก็บขยะที่เกลื่อนอยู่บนพื้นเข้าถุงดำทีละชิ้น อ้าว! เขาจ้างฉันมาทำความสะอาดไม่ใช่หรอ แล้วเขาไปเก็บขยะทำไมกันน่ะ -_-?
“อ๋อ ก็...หลายเรื่องอ่ะ”
“อ๋อ” เขาพยักหน้ารับเบาๆ แล้วเก็บขยะไปเงียบๆ ฉันไม่รู้ว่าเขาเข้าใจฉันมากน้อยขนาดไหน แต่ที่เขารู้เกี่ยวกับตัวฉันมันก็มากเกินพอแล้ว ทั้งเรื่องโดนแกล้งตอนถ่ายรูปและเรื่องที่มีมาเฟียไล่ตามเรื่องหนี้ก้อนโตอีก
ฉันนั่งมองเขาเดินเก็บขยะไปรอบห้องอย่างเพลิดเพลินเจริญใจ เขาต้องเหนื่อยกับการเต้นและต้องฉีกยิ้มให้แฟนคลับมาทั้งวันแล้ว แต่เขาก็ยังมีน้ำใจมาช่วยแม่บ้านจอมเหม่อลอยอย่างฉันอีก ดีไปไหนห๊ะนายน่ะ
“ถ้าเจ็บแล้วก็มาช่วยกันหน่อยสิ มองฉันอยู่ได้” อยู่ๆ กีกวังก็เงยหน้าขึ้นมาบอกฉัน อ้าว! เขารู้หรอว่าฉันแอบมองอยู่ -..-?
กีกวังช่วยฉันทำความสะอาดจนเสร็จ โดยไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้อยู่คนเดียวเลย ทีแรกก็นึกว่าเขาเป็นคนใจดีชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าเขายังไม่ไว้ใจฉันมากกว่า =_=
“ขอบใจนะที่ช่วยจนเสร็จเลย” ฉันบอกเมื่อกีกวีงเดินออกมาส่งฉันที่ประตูห้อง
“ไม่เป็นไร ไว้เจอกันใหม่อาทิตย์หน้าแล้วกัน...อ่ะ! นี่กุญแจ” กีกวังยื่นกุญแจดอกหนึ่งมาให้ฉัน
“อื้ม” ฉันรับมันมาแล้วเดินออกมาจากหน้าประตู
เฮ้อ...เวลาของฉันเหลือไม่มากแล้วนะ!
“เดี๋ยวๆ ฉันยังไม่ได้ขอเบอร์ติดต่อเธอเอาไว้เลย เผื่อจะได้โทรเรียกอ่ะ” กีกวังวิ่งตามมาพร้อมกับยื่นมือถือมาให้ฉัน เฮ้ๆ นายจะขอเบอร์ฉันง่ายๆ แบบนี้เลยหรอ เห็นฉันเป็นแบบนี้ฉันก็หยิ่งเหมือนกันนะยะ -_-//
“อ๋อ ได้” ฉันรับมือถือเขามาแล้วกดเบอร์ตัวเองก่อนจะกดโทรออกเสร็จสรรพ
“แล้วเธอชื่ออะไรล่ะ ฉันลืมถาม”
เออ...นั่นดี อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน ไม่รู้จักชื่อกันได้ไง =_=;
“ฉันชื่อปลายฝน”
“อ้าว! คนไทยหรอ”
“ใช่ พอดีฉัน...มาอยู่กับลุงป้าที่นี่น่ะ”
“อ๋อ โอเคแล้วเจอกัน ^^” กีกวังยิ้มให้ฉันแล้วเดินกลับเข้าห้องไป
ฉันต้องหาทางมาที่นี่อีกให้ได้!!
วันรุ่งขึ้น
ฉันก็กลับมายืนอยู่หน้าห้องของบีสท์อีกครั้ง วันนี้ฉันไม่แน่ใจว่าจะเข้าไปได้ง่ายดายเหมือนเมื่อวานรึเปล่าเพราะยังไม่มีเหตุผลดีๆ ที่จะมาอ้างเลย ถ้าเจอกีกวังอีกก็คงดีสินะอะไรต่อมิอะไรคงจะง่ายขึ้น -_-
“อ้าว เธอมาทำไมอีกเนี่ย” อยู่ๆ เสียงของคนที่ฉันกำลังนึกถึงก็ดังขึ้นจากด้านหลัง (อีกแล้ว) ฉันรีบหันควับไปมองเขาทันที แต่คราวนี้เขาไม่ได้มาคนเดียวเขามาพร้อมกับดูจุนและนักร้องอีกคน ถ้าฉันจำไม่ผิดน่าจะชื่อเภตรานะ ฉันสงสัยมานานแล้วว่าทำไม 2 วงนี้ชอบไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่เรื่อย
“เอ๊ะ! อ๋อ ฉัน...ฉันมาทำความสะอาดน่ะ” ฉันหลุดปากออกไป อ้าวกรรม! เขาจ้างฉันอาทิตย์ละครั้งนี่หว่า O_o!
“เมื่อวานเพิ่งจะทำไปเองไม่ใช่หรอ” ดูจุนถาม
เออ ก็จริง U_U;
“ฉัน...รับจ้างทำหลายห้องน่ะ ^^;”
“แล้วทำไมมาทำลับๆ ล่อๆ แถวนี้ล่ะ อย่าบอกนะว่าจำเลขห้องไม่ได้อีก” กีกวังถาม เอาแล้วไงเขาต้องเริ่มสงสัยฉันแล้วแน่ๆ เลย T^T (ร้อนตัว -_-)
“ฉันรับจ้างทำความสะอาดหลายห้องน่ะ พอดีทำห้องอื่นเสร็จแล้วก็เลยว่าจะแวะมาถาม...เผื่อว่า....เผื่อว่าจะมีอะไรให้ทำรึเปล่าจะได้ไม่ต้องมาหลายรอบไง” ฉันเถสุดฤทธิ์ เอ่อ...รู้สึกสีข้างมันแสบๆ ชอบกลนะ =_=;;
“อ๋อ ยังไม่มีอะไรหรอก ถ้ามีก็คงอีกสัก 2-3 วันถึงจะเริ่มรกใหม่”
“อ๋อ...งั้น...ฉันกลับล่ะ ไปนะคะ” ฉันพูดพร้อมกับโค้งให้ทั้ง 3 คนรวดเดียวจบ ก่อนจะเดินออกมา อ๊ากส์ >_<! ทำยังไงดีๆ ฉันต้องรีบคิดแล้วว่าจะเข้าไปยังไง ถ้าเกิดพรุ่งนี้ฉันมาที่นี่อีกมุขนี้คงใช้ไม่ได้ผลแน่! >O<!!!
ฉันสูดหายใจเข้าและออกยาวๆ 2-3 ครั้งเพื่อรวบรวมสติ แล้วในที่สุดสติฉันก็บังเกิด ฮึๆๆๆ -_+
“โอ๊ย!” ฉันร้องออกไปทันทีที่สมองของฉันสั่งการ มันสั่งให้ฉันปวดท้องกระทันหันน่ะ =_=
“อ้าว เป็นไรล่ะน่ะ” เสียงของดูจุนดังขึ้นก่อนที่ทั้ง 3 คนจะเดินมาหาฉันที่หน้าลิฟต์
“เธอเป็นอะไรรึเปล่า” เภตราเข้ามาถามฉันด้วยท่าทางตกใจ
“ฉัน...ฉันปวดท้องน่ะ สงสัย...สงสัยอาหารเป็นพิษแน่เลย เมื่อคืนก็ท้องเสียทั้งคืนเลย T^T” ฉันพูดพร้อมกับทำหน้าให้บิดเบี้ยวที่สุดเท่าที่จะทำได้
“อ้าว งั้นรอแป๊บนะ เดี๋ยวฉันไปตามเพื่อนมาดูอาการเธอให้ เพื่อนฉันเป็นหมอ” พูดจบนางก็วิ่งลิ่วเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่งที่อยู่ข้างๆ กับห้องบีสท์ทันที
อ้าวเวรล่ะ! เป็นหมอเลยหรอ? อย่าบอกนะว่าจะไปเรียกเฝ้าฝันมาดูฉันน่ะ ไม่นะ TOT
อาจจะงงว่าฉันทำไมรู้จักไอดอลทุกคนขนาดนี้ อิอิไม่อยากจะคุย ^^ ที่ฉันรู้จักพวกเขาเพราะว่าฉันจะได้ระบมอบหมายให้จดจำหน้าตาพวกเขาให้ได้เพื่อไม่ให้ถ่ายรูปออกมาซ้ำกันน่ะสิ ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนกันไหม แต่ฉันรู้สึกว่ามองพวกเขาผ่านๆ แล้วมันหน้าตาคล้ายๆ กันหมดจนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร ยัยเจ๊ยอซูก็เลยมอบหมายให้ไปนั่งท่องชื่อแล้วก็จับคู่เข้ากับหน้าตาของนักร้องเกาหลีทุกคนเพื่อป้องกันการทำงานพลาดนั่นเอง
“โอ๊ย!! ฉันไม่ไหวแล้ว ขอเข้าห้องน้ำได้ไหม นะๆๆๆ” ฉันพูดรัวๆ แล้วปาดเหงื่อป้อยๆ เพื่อให้พวกเขารู้ว่าตอนนี้ข้าศึกบุกมาจนถึงปากประตูเมืองแล้ว ถามว่าฉันทำแบบนี้อายไหม? ขอตอบตรงนี้เลยว่า ‘อายมาก’ แต่ฉันต้องทำเพื่อความอยู่รอด ฮึบ!! >_<o
“เออๆ งั้นไปเข้าห้องน้ำก่อนก็ได้” กีกวังพูดออกมาในที่สุด
“เฮ้ย!” ดูจุนร้องค้านแต่ฉันไม่สนใจ ทันทีที่กีกวังพูดจบฉันก็วิ่งฉิวเข้าไปในห้องพักของพวกเขาทันที ดีที่สมาชิกคนอื่นๆ ของบีสท์ยังนอนอยู่ในห้องนอน ทำให้ไม่มีใครมาขัดขวางปฏิบัติการของฉัน
ฉันเข้ามาในห้องน้ำก็ทำทีเป็นกดชักโครกแล้วนิ่งไป ขณะเดียวกันก็กวาดตามองไปทั่วห้องน้ำแคบๆ นี้ ในนี้มันจะมีอะไรน่าขโมยนะ สบู่หรอ?...หรือแปรงสีฟัน?...คนที่ซื้อไปคงจะต้องลองดมพิสูจน์กันหน่อยนะว่าของใครเป็นของใคร -..-
แล้วในที่สุดก็เหมือนมีแสงสปอร์ตไลท์ส่องมาจุดหนึ่งในห้องน้ำ มันคือเสื้อค่ะ >.<!! เสื้อใครเนี่ยทำไมมาถอดวางไว้ตรงนี้ มีกลิ่นกายตุๆ ติดมาด้วยแสดงว่ายังไม่ซัก -.,-
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ปลายฝน เธอเป็นไงบ้าง” เสียงของกีกวังดังเข้ามาในห้องน้ำ เอาแล้วไง! เสียงนี้มันทำให้ฉันหมดอารมณ์ในการดม เอ่อ...ในการขโมยของจริงๆ พับผ่าสิ -_-!
“อ๋อ โอเคๆ ยังไหว” ฉันตะโกนกลับออกไปและพยายามดัดเสียงให้ดูเหนื่อยที่สุด
ในนี้ก็มีแค่เสื้อตัวนี้แหละที่พอจะมีค่าสำหรับแฟนคลับบ้าง แต่ติดที่มันเป็นของใครแล้วก็จะเอาออกไปยังไงนี่สิ =_=;
“งั้นเขาออกจากห้องน้ำแล้วค่อยไปเรียกฉันอีกทีแล้วกันนะ” เสียงของผู้หญิงอีกคนดังเข้ามา ฉันเดาว่าคงเป็นเสียงของเฝ้าฝันนะ
นั่นไง! ปัญหาใหญ่อีกเรื่อง ฉันต้องโกหกหมอหรอเนี่ย -_-; ว่าแล้วฉันก็รีบเข้า Google เพื่อหาอาการของอาหารเป็นพิษทันที เปิดตำราขนาดนี้ไม่มีทางจับได้แน่คุณหมอ -_+
หลังจากที่มีความรู้เต็มเปี่ยมและหาที่ยัดเสื้อปริศนานั้นได้แล้วฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำ กีกวังและเภตรายังยืนรออยู่หน้าห้อง นี่พวกเขาสนิทกันจนเข้ามาในห้องพักของอีกฝ่ายได้ด้วยหรอเนี่ย ฉันว่า 2 วงนี้ต้องมีตื้นลึกหนาบางแหงๆ ต้องสืบๆ +_+
“เป็นไงบ้าง” เภตราถามพร้อมกับเข้ามาพยุงฉัน เธออย่าทำดีกับฉันมากนักสิ แบบนี้ฉันรู้สึกผิดนะ Y_Y
“ก็เหนื่อยนิดหน่อย เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนเลย T^T”
“ท้องเสียทั้งคืนเลยสิ” เฝ้าฝันเดินเข้ามาในห้องพอดีกับที่เภตราพาฉันมานั่งในห้องนั่งเล่น เอาแล้วไงนาทีระทึกใจ -_-;;
หลังจากเฝ้าฝันซักประวัติฉันเรียบร้อยแล้ว เธอก็วินิจฉัยว่ามันคืออาการของอาหารเป็นพิษ ฮึๆๆ เป็นไปตามคาดสินะ -_+
“งั้นฉันจะเขียนชื่อยาให้ไปซื้อแล้วกันนะ แต่ถ้ากินแล้วไม่ดีขึ้นให้รีบไปโรงพยาบาลเลยนะ เข้าใจไหม” เฝ้าฝันสั่ง
“อืม” ฉันรับคำสั้นๆ ระหว่างนั้นเฝ้าฝันก็เขียนขยุกขยิกใส่กระดาษสักพักก่อนจะส่งมันมาให้ฉัน
“เอาไปให้เภสัชในร้านขายยา แล้วเขาจะจัดยาให้เธอเอง”
“ขอบคุณนะคะ” ฉันรับมันมาแล้วมองเฝ้าฝันอย่างซาบซึ้งเต็มหัวใจ แล้วก็ขอโทษพวกเธอด้วยที่ฉันต้องโกหก ฉันจำเป็นจริงๆ Y_Y
เมื่อจบเรื่อง ฉันก็เดินออกมาจากห้องของบีสท์อย่างรวดเร็ว หวังว่าเราคงไม่ได้พบเจอกันอีกนะ ขออโหสิกรรมให้ฉันด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ T^T
“ไม่มีประโยชน์แล้วสิ” ฉันพูดกับใบยาที่เฝ้าฝันเขียนให้ก่อนจะปล่อยมันปลิวไปตามลมที่พัดผ่านมา เรื่องคงจะจบแค่นี้แหละ
ฉันเดินมายืนรอรถเมล์ที่ป้ายไม่ไกลจากหอบีสท์ด้วยความรู้สึกหลากหลายทั้งรู้สึกดีใจที่จะได้กล้องคืน...รู้สึกหดหู่ เสียใจกับการกระทำของตัวเองถ้าฉันเป็นแบบนนี้ต่อไปสมองฉันคงจะระเบิดออกมาสักวันแน่ๆ
“นี่เธอ...” ระหว่างที่ฉันกำลังเหม่อมองออกไปบนถนน ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังอยู่ข้างๆ
“เธอทำไมชอบเหม่อจัง”
ฉันหันไปมองคนที่เข้ามาคุยกับฉันเหมือนว่าเขารู้จักฉันดีอย่างนั้นแหละ แล้วก็เป็นเขา...ลีกีกวัง!
“นาย!” ฉันร้องออกมาจนเกือบจะตกเก้าอี้แต่ยังดีที่กีกวังคว้าแขนฉันเอาไว้ได้ก่อน
“ชู่~ เงียบๆ สิ คนอื่นเขาหันมามองเราใหญ่แล้ว เดี๋ยวก็มีคนจำฉันได้หรอก” กีวังทำท่าจุ๊ปากเอาไว้ ขณะที่คนที่ยืนรอรถอยู่แถวนั้นเลิกสนใจฉันแล้ว
“นายมาที่นี่ทำไม”
“ก็เธอลืมนี่นี่นา” กีกวังยื่นมือถือมาให้ฉัน อ้าว! ฉันลืมมือถือไว้ในห้องน้ำหรอกหรอ ฉันนึกว่าเขาจับได้แล้วว่าเสื้อในห้องน้ำหายไป =_=; (ร้อนตัวอีกละ -_-)
“อ๋อ ขอบใจนะ” ฉันรับมันมาถือไว้
“แล้วเธอก็ทำนี่หล่นด้วย” กีกวังยื่นกระดาษสีขาวๆ ที่คุ้นตามาให้
ฉันไม่ได้ทำหล่น ฉันตั้งใจทิ้งต่างหากย่ะ >_<
“ไม่สบายขนาดนี้ยังไม่เก็บไว้ดีๆ อีก อยากนอนโรงพยาบาลหรอ” กีกวังพูดพร้อมกับยัดมันใส่มือฉัน
“ขอบใจ”
“เธอยังต้องขอบใจฉันอีกเรื่อง” กีกวังพูดต่อ
อะไรอีกล่ะ? ฉันมั่นใจว่าฉันไม่ได้ทิ้งอะไรเรี่ยราดอีกแน่ -_-!
“อ่ะ” กีกวังยื่นถุงอะไรสักอย่างมาให้ฉัน
“มันคือ...?”
“ยาไง เมื่อกี๊ฉันเดินผ่านร้านขายยาพอดีเลยแวะซื้อมาให้ ^_^” กีกวังบอกพร้อมรอบยิ้ม ถึงเขาจะสวมแว่นกันแดดและหมวดแก๊ปปิดบังใบหน้าเอาไว้ แต่ฉันเดาได้เลยว่าเขาต้องยิ้มจนตาหยีแน่ๆ -////-
“ขอบใจนะ” ในที่สุดฉันก็ต้องพูดคำว่า ‘ขอบใจ’ เป็นครั้งที่ 3 ให้กับเขาจริงๆ
พวกเขาดีกับฉันจนอยากจะล้วงเอาเสื้อยืดตัวนั้นออกมาคืนเลยแฮะ นี่ฉันกำลังทำบาปมหันต์อยู่ใช่ไหมที่ขโมยของของผู้มีพระคุณ T^T
“หน้าซีดเชียวเธอไหวรึเปล่าเนี่ย ฉันไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไร ฉันยังไหว”
“อ๋อ โอเค”
“งั้น...ฉันไปนะ ขอบใจมากสำหรับทุกๆ อย่าง” ฉันบอกแล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถเมล์ที่มาจอดทันที ไม่รู้รถเมล์สายไหนก็ขอขึ้นไว้ก่อนแหละต้องรีบๆ >_<
ฉันมาหาเจ๊ยอซูพร้อมกับเสื้อยืดที่มีกลิ่นกายสุดเซ็กซี่ติดมาด้วย แต่ยัยเจ๊กลับไม่ยอมคืนกล้องให้กับฉันโดยอ้างเหตุผลว่ามันกิ๊กก๊อกเกินไป =_=
“แล้วแกจะทำไงล่ะ เสื้อก็ไม่เอาแล้วยังเจ๊นั่นจะเอาอะไร” ซังมิถามเสียงดังขณะที่นั่งรอมื้อเย็นในร้านอาหารข้างทางใกล้ๆ กับที่ทำงาน ยัยนั่นเขี่ยเสื้อยืดตัวนั้นไปมาจนฉันเริ่มคิดเหมือนยัยเจ๊ยอซูแล้วว่ามันกิ๊กก๊อกจริงๆ =_=
“ไม่รู้สิ ฉันไปที่นั่นบ่อยๆ ไม่ได้ซะด้วย” ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาเมื่อคิดถึงหนทางที่ยากลำบากเบื้องหน้า
“ไอ้เสื้อตัวนี้ก็ไม่รู้จะขายได้กี่ตังค์ พวกแฟนคลับถึงจะคลั่งนักร้องขนาดไหนแต่เขาคงไม่โง่ซื้อของที่เชื่อถือไม่ได้หรอก” ซังมิพูดจาตอกย้ำความล้มเหลวของฉันเข้าเต็มเปา T_T
“อุ้ย!...โทษที” ซังมิยิ้มแหยๆ เมื่อเงยหน้ามามองฉัน
“ไม่เป็นไร U_U”
“แล้วแกจะเอาไงกับเสื้อตัวนี้อ่ะ”
“คงทิ้งอ่ะ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร” ฉันพูดแล้วหยิบเสื้อตัวนั้นขึ้นมาเพื่อที่จะไปทิ้งถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ แต่...
แกร็ง!!
เสียงโลหะหนักๆ หล่นลงบนโต๊ะเหล็กที่ฉันนั่งอยู่ ต่างหูลักษณะเป็นห่วงหนาๆ สีเงินมันหลุดออกมาจากเสื้อที่ฉันขโมยมา...ทำไมก่อนหน้านี้ฉันไม่เห็นมันล่ะ?
“เฮ้ย!” ซังมิร้องลั่น ตาเบิกโพลงเหมือนเจอของล้ำค่าที่หามา 500 ปี =_=
“ตกใจอะไร แค่ต่างหู?”
“มันไม่ใช่ต่างหูธรรมดาน่ะสิ >O<” ซังมิหยิบมันขึ้นมาจากโต๊ะอย่างเบามือ “มันเป็นต่างหูของยงจุนฮยอง”
“ห๊ะ!”
“ของรักของจุนฮยองเลยนะ รับรองขายได้ราคาดีแน่เลย >[]<!!”
“เดี๋ยวๆ แค่ต่างหูเนี่ยนะ แถมมีข้างเดียวอีกต่างหากจะได้ราคาสักเท่าไหร่กันเชียว”
“ใช้คำว่า ‘แค่ต่างหู’ ไม่ได้นะ! มันเป็นต่างหูที่จุนฮยองสั่งทำพิเศษ มีคู่เดียวในโลกเลย >O<!!”
“จริง? O_O”
“จริงสิ >O<”
ฉันรีบหยิบมันมาจากมือซังมิแล้วมองมันอย่างมีหวัง ฉันรอดแล้ว! ฉันรอดแล้วววววววววว!!...>[]<
‘เธอเป็นอะไรรึเปล่า’ อยู่ๆ เสียงของเภตราก็ดังเข้ามาในสมอง
‘อ้าว งั้นรอแป๊บนะ เดี๋ยวฉันไปตามเพื่อนมาดูอาการเธอให้ เพื่อนฉันเป็นหมอ’ แน่ะ เสียงของเภตรายังคงตามหลอกหลอนฉันอย่างต่อเนื่อง อย่าบอกนะว่าฉันแอบชอบผู้หญิงน่ะ >_<!!
‘ปลายฝน เธอเป็นไงบ้าง’ ระหว่างที่เสียงของเภตรายังไม่จางหายไป เสียงของกีกวังก็ดังเข้ามาแทนที่
‘ยาไง เมื่อกี๊ฉันเดินผ่านร้านขายยาพอดีเลยแวะซื้อมาให้ ^_^’ แน่ะ! คราวนี้มาทั้งภาพและเสียง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉ้านนนน T^T
“ฝน...ปลายฝน!! เธอเป็นอะไรไป เหม่อตั้งนานสองนาน”
“อ๋อ!! เปล่าๆ...ไม่มีอะไร”
“แกรีบเอาไปให้เจ๊ยอซูเลยนะ รับรองยัยเจ๊นั่นยอมเอากล้องคืนแกแน่ เผลอๆ จะจ่ายให้แกอย่างหนักๆ เลยแหละ ^O^”
“ต่างหูนี่มัน...สำคัญกับจุนฮยองขนาดนั้นเลยหรอ” ฉันเสี่ยงๆ ถามออกไป ทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่าต้องสำคัญมากแน่ๆ ซังมิถึงได้บอกว่าฉันจะได้ลาภก้อนโตจากยัยเจ๊ยอซูถ้าหากเอาไอ้นี่ไปให้
“ก็ใช่น่ะสิ วงในเขาลือกันให้แซ็ดว่าจุนอยองเอาอีกข้างให้แฟนตัวเองใส่ แต่ฉันก็ยังไม่เห็นว่าใครได้ใส่สักทีนะ ได้ยินเขาพูดมาอีกทีน่ะ”
“หรอ...” ฉันพยักหน้ารับรู้ แล้วกำต่างหูอันนั้นไว้ในมือ ถ้าเกิดเป็นอย่างที่ซังมิบอกจริงๆ ต่างหูอีกข้างต้องไร้คู่และรู้สึกโดดเดี่ยวมากแน่ๆ ที่คู่ของมันไปอยู่กับใครก็ไม่รู้...การพลัดพราก มันเป็นความทรมานที่โหดร้ายที่สุดอย่างหนึ่งบนโลกเลย...เรื่องนี้ฉันก็รู้ดีที่สุด
...แต่จุนฮยองยังไม่มีแฟนนี่นา อีกข้างก็น่าจะยังอยู่กับเขานั่นแหละ คงไม่เดือนร้อนเท่าไหร่หรอกมั้ง
“อะไร? เดวิลกับเอนเจิลในสมองกำลังรบกันอยู่รึไง”
แน่ะ! ยัยนี่รู้ทัน =_=;
“ก็...”
“เอาน่า แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวแหละที่แกจะต้องทำผิดแบบนี้ อย่าคิดมากเลย” ซังมิปลอบแล้วอาหารก็มาเสริฟทำให้ซังมิหยุดพูดเรื่องต่างหูไป
ใช่สินะ...แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว!
*****************************
ไรท์รู้ตัวค่ะว่าหายไปนาน Y_Y
แต่ยังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งกานน้าาาา TOT
*****************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ