[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร
เขียนโดย Kreota
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
44) [Episode 4 :: Friendly Lover] # Chapter 4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Episode 4 Friendly Lover
:: Chapter 4 ::
“ผมว่า...ถึงอยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องให้วิลล่ามาคุยด้วยนี่ครับ เพราะยังไงวิลล่าก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว” ดงอุนพูดขึ้นมา
จริงสินะ...ฉันไม่ได้ไปจูบกับพวกเขานี่ จะเกี่ยวได้ยังไง Y_Y;
“ไม่เกี่ยว! ทั้งที่วิลล่าอาจจะเป็นคนถ่ายหรือสมรู้ร่วมคิดกับคนที่ถ่ายยังงั้นหรอ!” ยัยลีซาซาควับไปหาดงอุน คำพูดของยัยลีซาซาทำเอาคนทั้งห้องอึ้งฉันก็อึ้งเหมือนกันที่ยัยนี่ช่างคิดเรื่องแบบนี้ได้!
“มากไปแล้วนะ!” พี่ณัชก้าวไปยืนข้างหน้าฉันด้วยท่าทางเหมือนจะเอาเรื่อง แต่พี่ฮยอนซึงที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เข้ามารั้งต้นแขนเอาไว้
“ใจเย็นหน่อยสิ” พี่ฮยอนซึงปรามพี่ณัชเบาๆ
“ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอกซาซ่า พี่มั่นใจ” พี่มะนาวพูดเสริมอีกแรง (ซาซ่าเป็นชื่อในวงการของ ลีซาซาค่ะ)
ส่วนฉันจุกจนพูดไม่ออก ยัยนี่เอาสมองส่วนไหนคิดว่าฉันเป็นคนถ่ายหรือว่าสมรู้ร่วมคิดอะไรแบบนั้น ฉันจะทำไปทำไมในเมื่อดงอุนก็เป็นเพื่อนร่วมค่ายของฉัน แถมเราก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ฉันไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ๆ!
“ฉันว่าเรื่องใครถ่ายแล้วค่อยคุยดีไหม มาคุยเรื่องงานแถลงข่าวพรุ่งนี้ก่อนดีกว่า” พี่นาบีพูด ทำให้ศึกขนาดย่อมสงบลง พี่ณัชสะบัดแขนออกจากพี่ฮยอนซึงแรงๆ ก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปเป็นคนแรก
“ไปเถอะ” พี่เภตราเข้ามาโอบไหล่ฉัน ก่อนที่เราจะเดินออกจากห้องประชุมพร้อมๆ กัน
“มีอย่างที่ไหนมาพูดว่าวิลล่าเป็นคนถ่าย เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะตัวเองแท้ๆ ดันดึงคนอื่นเข้าไปรับเคราะห์ด้วย ทุเรศที่สุด!” พี่ณัชสบถออกมาดังๆ เมื่อเดินมาถึงห้องซ้อมห้องประจำของเรา
“ว่าแต่เธอเถอะ ไปทำอีท่าไหนถึงได้ไปอยู่ในเหตุการณ์กับเขาด้วย” พี่ณัชหันมาถามฉัน พี่ๆ ทุกคนก็หันมามองฉันกันหมด
“เอ่อ...” ฉันอึกอัก ถ้าฉันบอกว่าวันนั้นฉันไปเห็น 2 คนนั้นกำลังกอดจูบกันอยู่หน้าห้องน้ำ แล้วลีซาซาก็เห็นว่าฉันอยู่ตรงนั้นด้วยแต่ไม่ได้ทำอะไร พี่ณัชต้องโกรธกว่าเดิมแน่ๆ ที่ยัยนั่นตั้งใจจะแกล้งฉันให้เดือดร้อนไปด้วย
“คือ...”
“ว่าไงล่ะ อ้ำอึ้งอยู่ได้” พี่ณัชเท้าสะเอวมองฉัน Y_Y;
“เฮ้ย! ใจเย็นๆ ณัช” พี่เภตราที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันช่วยปราม
“เอ่อ...วิลขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” ฉันบอกแล้วออกมาจากห้องซ้อมทันที เฮ้อ...ฉันอึดอัดจนหายใจไม่ออกแล้ว ไม่รู้ทำไมฉันถึงลำบากใจที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนักทั้งๆ ที่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันเลย
ทำไม...?
“นี่น่ะหรอห้องน้ำ?” พี่เภตราเดินออกมายืนจ้องฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“เอ่อ...กำลังจะไปค่ะ” ฉันบอก แล้วเดินออกมาจากข้างกรอบประตูห้องซ้อม โดยมีพี่เภตราเดินตามมาเงียบ
“ไปล็อบบี้กันไหม” อยู่ๆ พี่เภตราก็ชวนขณะที่เดินเกือบจะถึงห้องน้ำอยู่แล้ว พี่เขาคงรู้ว่าฉันไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำเท่าไหร่
ใช่...ฉันแค่อยากจะหาที่เงียบๆ อยู่กับตัวเองเท่านั้นแหละ
“ไปสิคะ” ฉันรับคำ ก่อนที่เรา 2 คนจะเปลี่ยนเส้นทางลงไปที่ล็อบบี้ของตึกและหามุมเงียบๆ นั่งกัน
“พี่คิดว่า คู่พวกเธอจะแฮปปี้ซะอีกน่ะ” อยู่ๆ พี่เภตราก็พูดขึ้น โดยที่สายตายังเหม่อมองผ่านกระจกใสๆ ของตึกออกไปมองผู้คนที่เดินผ่านไปมาด้านนอก ฉันมองตามสายตานั้นไปก่อนจะยิ้มกับตัวเองเบาๆ
พี่ๆ ของฉันมี 6 คนก็ 6 แบบ คนหนึ่งรู้ทันฉันไปซะหมดแต่ไม่มีทักษะการพูดคุย บางคนก็ทำให้ฉันยิ้มและหัวเราะเสมอเมื่ออยู่ใกล้ บางคนก็สอนทุกอย่างตอบคำถามได้ทุกเรื่องที่อยากรู้ แต่คนนี้สมแล้วที่ได้เป็นลีดเดอร์...ทั้งเก่ง เข้าใจ และพูดคุยเกลี้ยกล่อมเป็นเลิศ...
“พี่คิดว่าพวกเธอสองคนจะคบกันก่อนพี่กับดูจุนซะอีก...แต่ที่ไหนได้ ดราม่ากว่าคู่พี่ซะงั้น” ประโยคสุดท้ายพี่เภตราหันมายิ้มบางๆ ให้ฉัน ก่อนจะหันไปมองด้านนอกตามเดิม
“ทีแรก วิลก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้หรอกค่ะลีดเดอร์ วิลคิดว่าที่เรามีความรู้สึกดีๆ ให้กันเพราะเราเป็นคนที่สนุกสนานเหมือนกัน เฟรนลี่เหมือนกัน มองโลกเหมือนๆ กัน ก็เลยสนิทกัน...แต่มันเปลี่ยนไปตอนไหนก็ไม่รู้” ฉันพูดแล้วก้มลงมามองมือตัวเองที่ประสานกันแน่นโดยไม่รู้ตัว
“ความใกล้ชิดนี่มันน่ากลัวจริงๆ เลยนะ...”
“นั่นสิคะ มันน่ากลัวมาก...ลีดเดอร์รู้ไหม ว่าทันทีที่วิลเห็นดงอุนกับผู้หญิงคนนั้นตอนอยู่หน้าห้องน้ำ วิลจุกจนพูดอะไรไม่ออกเลย มันเจ็บแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน...วิลไม่รู้จะทำอะไรต่อวิลก็เลยเดินออกมา ทั้งที่ปกติถ้าวิลเห็นอะไรขัดใจนิดหน่อยวิลก็จะวีนแล้ว แต่...”
“แต่ทำไม่ได้...” พี่เภตราช่วยเสริมในพยางค์สุดท้าย
ใช่...ฉันทำแบบนั้นไม่ได้
“ทำไมคะ? วิลทำไมเปลี่ยนไปขนาดนี้ วิลไม่เคยจะเสียใจกับผู้ชายคนไหนแบบนี้เลยนะ!”
“แล้วคิดว่าทำไมล่ะ?” พี่เภตราตอบคำถามด้วยคำถามที่ทำให้ใจฉันว่างเปล่าไปชั่วขณะแล้วคำๆ หนึ่งก็ผุดขึ้นมา
...ความรัก
“วิล...ไม่รู้” ฉันตอบออกไป ทั้งที่คำๆ นั้นมันยังเด่นชัดมากในตอนนี้
“ตอนนี้ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร...แต่อย่าปล่อยให้ความไม่รู้มันทำลายความเป็นตัวของตัวเองล่ะ เพราะคนที่เจ็บไม่ได้มีแค่วิล แต่เป็นพี่ๆ ทุกคนด้วย...พวกเราเห็นวิลเป็นแบบนี้แล้วไม่สบายใจเลย...พี่ไม่ได้หวังให้วิลเปลี่ยนเป็นคนเดิมในตอนนี้หรอกนะ พี่แค่อยากเตือนในฐานะที่วิลเป็นน้องสาวของพี่ พี่ไม่อยากเห็นน้องสาวตัวเองต้องจมกับความรู้สึกแบบนี้นานเกินไป”
“วิลจะพยายามค่ะ...” ฉันตอบทั้งที่ยังมองมือของตัวเองอยู่ ฉันไม่รู้ว่าจะทำได้ไหมแต่ฉันพยายามทำให้ได้ พยายามกลับมาเป็นคนเดิม เป็นแบบของฉันในตอนที่ยังไม่เจอกับดงอุน!
“แล้วที่ลีซาซาบอกว่าวิลอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แสดงว่าเขาเห็นวิลอยู่ตรงนั้นหรอ?” พี่เภตราถาม หลังที่เงียบไปสักพัก
“ชะ ใช่ค่ะ”
“ยัยนั่นจงใจอยากเป็นข่าวรึไงนะ ทำไมเห็นวิลแล้วยัง...” พี่เภตราละไว้ก่อนจะหันมามองหน้าฉัน
“วิลก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ พอยัยนั่นเห็นวิลก็ยังจูบกับดงอุนต่อเฉยเลย” ฉันพูดออกมาโดยที่ไม่กระดากปากเลยสักนิด คงเพราะภาพนี้มันติดตาตรึงใจฉันมาเป็นอาทิตย์แล้วล่ะมั้ง
“อ้าว! เจอตัวจนได้นะ” อยู่ๆ เสียงของลีซาซาก็ดังอยู่ใกล้ๆ ฉันหันไปมองตามต้นเสียงก็เห็นยัยนั่นเดินมาจะถึงตัวฉันอยู่แล้ว
“มีอะไรหรอคะ” พี่เภตราดันตัวลุกขึ้นยืนพร้อมกับถามอย่างสุภาพ ไม่รู้จะสุภาพด้วยทำไมนะคะพี่เภ อายุก็เท่ากับพี่ไม่ใช่หรอ -_-?
“ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากจะถามวิลล่าหนูน้อยหน่อยว่าใครถ่าย แต่มันอยู่ตรงมุมที่เธอยืนพอดีเลยนะ” ลีซาซาพูดพร้อมกับจิกตามาที่ฉันอย่างดุเดือด
“ฉันไม่ได้เป็นคนถ่าย” ฉันตอบห้วนๆ แต่ยัยนั่นเหมือนจะพยายามยัดข้อหาให้ฉันให้ได้ เลยไม่ยอมไปไหน
“ขอทางด้วยนะคะ ฉันกับวิลล่าต้องขึ้นไปซ้อม” พี่เภตราพูดแล้วลากฉันออกมาจากมุมนั้น แต่ยัยลีซาซากลับดึงแขนอีกข้างของฉันเอาไว้แน่น
“ไม่ต้องมาทำเป็นเดินหนี! ฉันมองตาก็รู้แล้วว่าเธอคิดยังไงกับดงอุน เธอแค้นฉันก็เลยทำแบบนี้ใช่ไหม!” ลีซาซาแผดเสียงลั่น จนพนักงานที่เดินผ่านไปมาในล็อบบี้เริ่มหันมามองพวกเรา
“นี่ยัยซาซ่า สงบสติอารมณ์หน่อยสิ เป็นข่าวหน้าหนึ่งยังดังไม่พอใช่ไหม จะเพิ่มอีกข่าวมาให้ฉันตามเช็ดอีกรึไง!” ผู้หญิงที่มากับลีซาซาวิ่งเข้ามาห้ามกลางวง
“ปล่อยแขนน้องเขาได้แล้ว!” พี่เขาพยายามแวะมือยัยลีซาซาออกจากแขนฉัน แต่ยัยนั่นกลับกำมันแน่นขึ้น
“ไม่ ฉันจะคุยกับมันให้รู้เรื่อง!”
“ฉันว่าคุณก็ได้คำตอบไปแล้วนะคะ ช่วยปล่อยแขนวิลล่าด้วย” พี่เภตราพูดเสียงเรียบ
“มันโกหกจะให้ฉันปล่อยมันได้ยังไง!”
“ฉันไม่ได้โกหก!!” ฉันสวนขึ้นมาทันควัน ฉันไม่ยอมรับผิดในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำหรอกนะ!
“อย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ!” ลีซาซาบีบแขนฉันแน่นจนมือสั่น ความรู้สึกโกรธมันพุ่งพล่านขึ้นมาจนมันกลบความเจ็บที่แขนฉันเป็นปลิดทิ้ง ฉันสูดหายใจเข้าออกเร็วๆ พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ปกติฉันไม่เคยยอมให้ฉันมาตะโกนใส่หน้าฉันแบบนี้เลยนะ!
“กรุณาปล่อยวิลล่าด้วย!” พี่เภตราพูดเสียงเข้ม ยัยนั่นก็ยังไม่ยอมปล่อยและยังคงมองหน้าฉันอยู่อย่างนั้น
“ฉันบอกให้ปล่อยน้องฉัน!!!” พี่เภตราตะโกนลั่น จากเสียงซุบซิบของพนักงานที่อยู่ในล็อบบี้กลายเป็นเงียบกริบทันที ลีซาซาละสายตาจากฉันไปมองพี่เภตราแป๊บหนึ่งก่อนจะยอมปล่อยแขนฉันโดยดี
“ฉันจะสืบให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ ระวังตัวไว้ให้ดีวิลล่า!” ยัยลีซาซาส่งสายตาคาดโทษมาให้ฉันก่อนจะเดินกระแทกไหล่ฉันผ่านไป
“ขอโทษจริงๆ นะคะ พอดีซาซ่ากำลังเครียดน่ะค่ะ ขอโทษจริงๆ นะคะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับก้มศีรษะขึ้นลง 2-3 ครั้งก่อนจะวิ่งตามลีซาซาไป
“โอเคไหมวิล” พี่เภตราถามฉันเบาๆ ฉันจึงพยักหน้าแทนคำตอบเพราะมัน...พูดอะไรไม่ออกจริงๆ
เราเดินไปรอลิฟต์กันเงียบๆ ทั้งฉันและพี่เภตราต่างคนก็ต่างไม่ได้คุยกัน แต่พี่เขาจับมือฉันไว้ตลอดเวลาที่เรายืนอยู่ ฉันรู้สึกหมดเรี่ยวแรงไปหมดแล้ว...อะไรต่างๆ มากมายมันเข้ามาพร้อมกันเกินไป มันมืดแปดด้านจนฉันไม่รู้จะจัดการยังไงดี
ติ้ง!
เสียงลิฟต์ดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ถูกเปิดออก ดงอุนตาเบิกโพลงทันทีที่เห็นฉัน
“วิลล่า! เธอเป็นอะไรรึเปล่า! ซาซ่าทำอะไรเธอไหม?” ดงอุนรีบเดินออกมาจากลิฟต์เพื่อถามสารทุกข์สุกดิบของฉัน ฉันเลยถอยหลังออกมา 1 ก้าว เพื่อเว้นช่องว่างระหว่างเราไว้
“ไปเถอะค่ะลีดเดอร์” ฉันหันไปบอกพี่เภตราโดยที่ไม่สนใจจะตอบดงอุน พี่เภตราเลยพาฉันขึ้นมาในลิฟต์ตัวเดียวกับที่ดงอุนใช้ พอเข้ามาได้ปุ๊บฉันก็รีบกดปิดทันที ดูเหมือนว่าฉันจะใจร้ายมากแต่แค่นี้มันยังน้อยไปสำหรับความเจ็บที่ฉันได้รับ!
“หนีออกมาแบบนี้ไม่เป็นไรแน่หรอวิล” ออสตินถามเป็นครั้งที่ 5 หลังจากที่ฉันให้พามานั่งคลายเครียดที่ผับใกล้ๆ กับคอนโดของขวัญ จะว่าไปยัยของขวัญก็ช้าจริงๆ เลย โทรไปตั้งนานแล้วคอนโดก็อยู่ใกล้ๆ นี่เอง
“เฮ้อ...ฉันก็บอกแล้วไงออส ถ้านายไม่อยากมาก็มาส่งฉันเฉยๆ ก็ได้”
“ใครจะยอมล่ะ! เกิดมีคนฉุดเธอทำไง ยัยขวัญเอาฉันตายน่ะสิ อีกอย่างเธอก็เป็นนักร้องดังแล้วนะไม่กลัวคนอื่นจำได้รึไง”
“ก็ช่างสิ” ฉันลอยหน้าลอยตาตอบก่อนจะยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่ม ยิ่งคิดยิ่งแค้นนายเป็นใครกันดงอุน! ทำไมนายมาทำให้ฉันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ อ๊ากส์ ฉันกำลังจะเป็นบ้าาา >_<!
“เกี่ยวกับไอ้...เอ่อ นายดงอุนนั่นรึเปล่า ที่มีข่าวกับซาซ่าอ่ะ” อยู่ๆ ออสตินก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมา โอ้ยพระเจ้า! ฉันอุตส่าห์หนีออกมาจากหอเพราะเรื่องนี้ ทำไมต้องมีคนมาพูดถึงเรื่องเฮ็งซวยนี่อีกนะ!
“ไม่เกี่ยว! ไม่เกี่ยวอะไรกับหมอนั่นทั้งนั้นแหละ ถ้ายังอยากนั่งอยู่ตรงนี้ล่ะก็ห้ามพูดเรื่องนี้เด็ดขาดเลย!”
“โอเคๆ ไม่พูดก็ได้” ออสตินยกแก้วตัวเองขึ้นดื่มบ้าง อยู่ๆ ของขวัญก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาที่โต๊ะที่ฉันกับออสตินนั่งอยู่
“โทษทีนะ พอดีวันนี้ฉันไม่ได้อยู่คอนโดกว่าจะถึงเลยนานหน่อย” ของขวัญพูดไปหายใจหอบไปปานจะขาดใจ ดูจากสภาพก็รู้แล้วว่ารีบขนาดไหน นี่ฉันทำร้ายเพื่อนรึเปล่าเนี่ย -_-;
“เอ้อๆ ไม่เป็นไร ดื่มหน่อยไหมเหมือนจะเหนื่อยมากเลย” ฉันพูดพร้อมกับยื่นแก้วของตัวเองให้ของขวัญดื่ม
“ขอบใจ” ของขวัญรับแก้วจากฉันไปแล้วดื่มทีเดียวหมด
“เธอมาก็ดีแล้ว ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน” ออสตินพูดแล้วลุกออกจากโต๊ะไป
“เป็นไงมาไงถึงได้หนีออกมาแบบนี้ จุนฮยองโทรจิกจนโทรศัพท์ฉันจะไหม้อยู่แล้วว่าแกอยู่กับฉันรึเปล่า” ของขวัญพูดไปไล่นิ้วบนจอมือถือไป
เอ้อ! ลืมไปเลยว่ายัยของขวัญเป็นแฟนกับพี่จุนฮยอง =_=
“แล้วแกตอบเขาไปว่าไง”
“ก็ตอบไปว่าไม่รู้น่ะสิ แกคิดว่าถ้าฉันบอกว่าแกอยู่ที่ไหนแกจะได้นั่งดริ้งอยู่ตรงนี้หรอ”
“เฮ้อ...โล่งอกไปที” ฉันถอนหายใจออกมายาวๆ ด้วยความโล่งอก ถึงแม้ว่าฉันจะไว้ใจของขวัญ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนของฉันอาจจะใจอ่อนยอมบอกแฟนก็ได้ ถ้าเกิดพี่จุนฮยองรู้ฉันมั่นใจว่าพี่เภตราต้องมาถึงผับนี้ก่อนที่ของขวัญจะมาถึงแน่นอน -_-;
...นอวา นาเย ชอ ฮานึลรึล กอมเก มุลดึลริน ชอ อีบยอลรีล ออซอ จีวอชวอ~ [เพลง Shadow : Beast]
อยู่ๆ ริงโทนเพลง Shadow ของ Beast ก็ดังขึ้น ของขวัญจึงรีบยกมือถือของตัวเองขึ้นมาดู แหมๆ เพื่อนเพิ่งจะออกซิงเกิ้ลแทนที่จะใช้ริงโทนเพลงของเพื่อน ดันใช้ริงโทนเพลงของแฟน (แอบเคืองเล็กๆ =_=)
“ฮัลโหลออสติน โทรมาทำไมเนี่ย?...อะไรนะ! ตอนนี้อยู่ไหน!...ไม่ต้องเลย บอกมาตอนนี้อยู่ไหน...รู้แล้วๆ...” การสนทนาที่ดุเดือดของยัยขวัญกับออสตินจบลงอย่างรวดเร็วและเร่งรีบ ดูจากท่าทางทำยังกับจะไปตีใครยังงั้นแหละ -_-;
“อะไรหรอ” ฉันถามพร้อมกับมองของขวัญที่ล้วงเงินออกจากกระเป๋ามาวางไว้บนโต๊ะอย่างรีบร้อน
“ออสตินมันมีเรื่องน่ะสิ ไปเร็ว!” ว่าแล้วคุณเธอก็ลากฉันลอยลิ่วออกมาจากผับทันที เรื่องแบบนี้นี่ถนัดเชียวนะเพื่อนเรา =_=
ของขวัญพาฉันวิ่งออกมาที่ลานจอดรถหน้าผับ ก็พบผู้ชายประมาณ 10 กว่าคนวิ่งสวนกันวุ่นวายเหมือนกำลังพยายามหาอะไรสักอย่างอยู่ -_-;
“แกรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันหาทางช่วยออสตินก่อน” ของขวัญพูดแล้วทำท่าจะเดินออกไปจากมุมมืดที่เรากำลังยืนอยู่
“เดี๋ยว! แล้วแกจะไปสู้กับผู้ชายเป็นสิบคนเดียวเนี่ยนะ” ฉันรั้งของขวัญเอาไว้ เท่าที่ฉันรู้พี่จุนฮยองสั่งห้ามเรื่องชกต่อยพวกนี้เด็ดขาดแล้วไม่ใช่หรอ?
“ฉันไม่ได้ไปตีใครหรอกน่า ฉันจะหาวิธีที่ไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อต่างหาก” พูดจบของขวัญก็วิ่งออกไป เฮ้อ...ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าวิธีที่ไม่เสียเลือดเสียเนื้อที่เธอพูดมาเนี่ยมันเป็นยังไง =_=
“รอใครอยู่จ้ะสาวน้อย” อยู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังพร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งอยู่รอบๆ ตัวฉัน
“เฮ้ย!” ฉันอุทานออกมา เมื่อหันไปมองกลับพบแผงอกกว้างของใครก็ไม่รู้อยู่ในระยะประชิด
“ไปกับพี่ดีกว่านะ อย่ารอมันเลย ^^” ผู้ชายคนนั้นยังคงก้าวเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ (ทั้งๆ ที่ไม่มีที่จะให้ก้าวแล้ว) พร้อมกับมือที่เริ่มจะเข้ามารุ่มร่ามที่เอวฉัน อ๊ากส์! ไอ้กระทิงถึก อย่าเข้ามานะ >_<!
“ถอยออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” ฉันกลั้นใจผลักหน้าอกกระทิงถึกตัวโตให้ออกห่างจากตัว แต่ไม่ไหวอ่ะ มันถึกเกินกว่าที่เรี่ยวแรงอันกระจ้อยร่อยของฉันจะสู้ไหว T^T
“แหมๆ ไม่ต้องเขินหรอกนะ มามะ -3-“ พูดจบไอ้กระทิงมันก็ยื่นปากบานๆ แตกๆ ของมันเข้ามาหาฉัน อ๊ากส์!!!
“อึก!” อยู่ๆ ร่างของไอ้กระทิงถึกก็ถูกกระชากคอเสื้อจากด้านหลัง จนมันเซถลาลงไปนอนกองกับพื้น ดูเหมือนคงจะเมามากเพราะพอมันล้มลงไปก็ลุกไม่ขึ้นอีกเลย เห็นสภาพแล้วฉันนึกเต่าที่เขาจับมันหงายท้องแล้วลุกไม่ขึ้น สภาพเดียวกันกับกระทิงตัวนี้เลย -_-!
“เมาแล้วก็กลับบ้านสิลุง!” ผู้ชายเจ้าของแรงควาย...เอ่อ...แรงมหาศาล (-_-;) หันไปพูดกับไอ้กระทิงถึกด้วยท่าทีสบายๆ เหมือนเมื่อกี๊ไม่ได้ทำอะไรไว้
“ขอบ...เอ๊ะ!” แค่นี้แหละค่ะที่ฉันสามารถพูดได้ เพราะผู้ชายที่มาช่วยฉันคือ จองยองกวาง นักร้องนำวงร็อคสุดเท่ห์ C.N.B เชียวนะ *O*
“เจอกันอีกแล้วนะ...วิลล่า” ในประโยคที่เรียกชื่อฉัน พี่ยองกวางก้มตัวลงมาจนได้กลิ่นน้ำหอมผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆ ลอยเข้ามาในจมูก >.,<//
แต่เอ๊ะ! อีกแล้ว...งั้นหรอ?
“คะ?” ฉันส่งเสียงออกไปเป็นเชิงถาม งงจนลืมเขินเลย ไปเจอพี่เขาตอนไหนกันยัยวิลล่า >///<
“อ้าว อาทิตย์ก่อนไงเจอกันที่ผับ Q น่ะ” พี่ยองกวางพูด ฉันพยายามนึกภาพตามที่พี่เขาเล่าและแล้วก็ตรัสรู้...
“อุ้ย! ขอโทษค่ะ” ฉันหันไปขอโทษผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันเพิ่งจะชนเขาไปเมื่อกี๊ เหมือนจะเหยียบเท้าเขาด้วยนะ =_=;
“ไม่เป็นไรครับ” ผู้ชายคนนั้นหันกลับมาขอโทษฉัน
เอ๊ะ! ทำไมหน้าคุ้นๆ นะ เคยเจอกันที่ไหนรึเปล่าเนี่ย -?-
“เราเคยเจอกันที่ไหนรึเปล่าคะ หน้าคุ้นๆ” ฉันหรี่ตามองผู้ชายคนนั้นท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ ในผับ
“หรอครับ แต่ผมไม่เคยเจอคุณนะ” ผู้ชายคนนั้นพูด โห...พูดตัดเยื่อใยคนสวยๆ แบบนี้ได้ยังไง หล่อซะเปล่า -*-! (ดีกรีเริ่มออก -_-;)
“งั้นหรอคะ งั้นคุณก็คงเป็นดาราไม่งั้นก็นักร้องสินะฉันถึงเคยเจอคุณฝ่ายเดียว -_-!” ฉันพูดเหน็บ แต่หมอนั่นดันหัวเราะเฉยเลย ตลกอะไรเนี่ย! เป็นนักร้องจริงๆ หรือไง
...คิดซะเห็นภาพ U_U;
น่าอายชะมัดเลยยัยวิลล่า เมาแล้วรั่วตลอดยัยคนนี้ T^T!
“จำได้แล้วใช่ไหมว่าเจอกันที่ไหน ^_^” พี่เขายิ้มกว้างจนเห็นฟันด้านหน้าทั้ง 8 ซี่เลย อ๊ากส์! ยิ้มละลายใจเป็นบ้า นี่ฉันไม่ได้เมาจนมโนไปเองหรอกใช่ไหม >////<
“แล้วเห็นหน้าชัดๆ แบบนี้ จำได้รึยังว่าเป็นดาราหรือนักร้อง ^^” พี่ยองกวางพูดพร้อมกับยื่นหน้าใสๆ ไร้เมคอัพมาให้ดูใกล้ๆ
โอ้ยๆๆ ใจเอ๋ยใจเรา อย่าเต้นแรงนักสิเดี๋ยวมันจะวายเอา o>/////<o
*****************************
อัพแล้วค่า รีดเดอร์ทุกๆ คน
อ่านแล้วเป็นยังไงบ้าง อย่าลืมคอมเม้นกันนะ ^O^
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าจ้า
_______________
อ้อ!! เกือบลืม พอดีส่งประกวดเรื่องสั้น เกี่ยวกับพ่อน่ะค่ะ ^_^
ฝากไปอ่านแล้วก็ติชมกันได้นะคะ
เรื่อง พ่อ คือ...?
******************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ