[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  97.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) [Episode 1 :: Leader Lover] # Chapter 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 1 Leader Lover

:: Chapter 1 ::

 

            “Beast Girl Band!!!...Beast Girl Band!!!”  เสียงร้องเรียกจากผู้คนมากมายที่รอดูการโชว์ของ ‘Beast Girl Band’ วง cover เพลงของ BEAST ที่ทั้งร้องและเต้นสดๆ อย่างพวกฉันดังกระหึ่มในขณะที่พิธีกรกำลังพูดถึงพวกเราที่ยืนแสตนบายรอขึ้นแสดงอยู่ข้างเวที

            “ทำให้ดีที่สุดนะ วันนี้บีสท์มาด้วย”  พี่มะนาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูหวั่นๆ

            “วันนี้บีสท์มาโปรโมทเพลงที่พวกเธอโคฟเวอร์ด้วยนะ”  พี่ฮันนาบี พี่เลี้ยงชาวเกาหลีที่ช่วยสอนร้องสอนเต้นให้พวกเราพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่ดูสบายๆ แต่ฉันแอบสังเกตเห็นความกังวลทะลุผ่านเมคอัพที่สุดแสนจะเป๊ะของคุณพี่นาบีออกมาอยู่ดี =_=

            “แล้วถ้ามีคนถามพวกเธอว่าใครเป็นคนสอน ก็บอกไปเหมือนเดิมว่า...”

            “...พี่มะนาวสอน”  ฉันพูดแทรกขึ้นก่อนที่พี่นาบีจะพูดจบ

            “อื้ม ตามนั้นแหละเภ”  พี่นาบีมองฉัน บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพี่เขาต้องทำตัวลึกลับขนาดนี้ด้วย -_-;

            “เอาล่ะครับ เสียเวลาไปกับพิธีกรพูดมากไปนานแล้วนะ ฮ่าๆๆ ผมมั่นใจมากว่าตอนนี้ทุกคนที่อยู่ที่นี่คงอยากจะเจอกับสาวๆ ทั้งหกคนไม่แพ้กับหนุ่มบีสท์แน่ๆ พวกเธอเป็นใครนะครับ?”  พิธีกรชายเริ่มส่งต่อสคริปไปให้พิธีกรหญิงที่ยืนอยู่คู่กัน

            “บีสท์มาไทยขนาดนี้ เปิดเวทีด้วยวง cover วงไหนไปไม่ได้นอกจากวง... Beast Girl Band!!”  พิธีกรหญิงพูดพร้อมกับผายมือมาทางด้านที่พวกเรายืนอยู่ เมื่อพวกเราก้าวขึ้นบนเวทีเสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องเรียกชื่อวงของพวกเรา...

            เราแสดงตามที่ซักซ้อมกันมาอย่างดีจนกระทั่งถึงท่อนที่เฝ้าฝันต้องร้องในตำแหน่งยังโยซอบเพื่อโชว์พลังเสียง (ตอนแรกที่เจอกัน ฉันไม่นึกเลยว่านักศึกษาแพทย์ที่ดูขึงๆ ถมึงทึงแบบนั้น เสียงจะดีได้ขนาดนี้ =_=) แต่พอยัยฝันเริ่มร้อง ก็มีเสียงคอลัสแปลกๆ ดังขึ้น มันเป็นเสียงผู้ชายที่ฟังดูคุ้นๆ

            “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด”  เสียงกรี๊ดลากยาวอย่างรุนแรงดังกระหึ่มขึ้นแบบที่พวกเราไม่เคยได้รับ ตอนนี้เองที่ฉันเพิ่งจะรู้สึกว่ามีคนตัวสูงๆ มาเต้นอยู่ข้างหลังและเต้นด้วยท่าเดียวกันกับที่ฉันกำลังเต้นอยู่ แต่ไหงบางท่าถึงมาจับเอวฉันได้ล่ะ -*-!

            ถึงท่อนสุดท้ายที่ต้องร้องประสานเสียงกันทั้งหมดก็ปรากฏว่ามีผู้ชายร่างสูงเจ้าของเพลงทั้ง 6 คนมายืนสับหว่างพวกเราทั้ง 6 คน  และด้วยความที่ฉันเป็นลีดเดอร์ของวงฉันต้องพยายามเก็บอารมณ์ให้เป็นเรื่องปกติเพื่อให้เมมเบอร์ทั้ง 5 คนของฉันสบายใจ พวกเราทั้ง 12 คนร้องเพลงประสานกันอย่างลงตัว ทั้งๆ ที่พี่นาบีปรับคีย์ดนตรีให้เข้ากับเสียงผู้หญิงแล้ว แต่พวกเขาก็ยังสามารถร้องได้อย่างสบายๆ จะร้องไม่ได้ได้ยังไงล่ะ ในเมื่อพวกเขาเองที่เป็นเจ้าของเพลง!

            ขณะที่เสียงกรี๊ดยังคงดังอยู่และพิธีกรทั้ง 2 คนกำลังเดินขึ้นมาบนเวที ฉันก็ได้ยินบีสท์พยายามพูดกับพวกเราเบาๆ ว่า ‘ทำได้ดีมาก’ เป็นภาษาเกาหลี คงจะงงล่ะสิว่าทำไมฉันถึงฟังบีสท์รู้เรื่อง นั่นเพราะว่านอกจากพวกเราจะถูกฝึกร้องฝึกเต้นอย่างหนักเหมือนศิลปินที่กำลังรอเดบิวส์แล้ว พี่นาบียังเทรนภาษาเกาหลีให้พวกเราจนพูดคล่องปรื๋อเหมือนเกาหลีมาเองเลยล่ะ เรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องหรอกค่ะ เพราะพอถึงเวลาที่ต้องคุยกับเกาหลีโดยตรง พี่นาบีจะให้พี่มะนาวรับหน้าเป็นล่ามให้ เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันไม่ค่อยเข้าใจพี่นาบี จะสอนภาษาเกาหลีไปทำไมในเมื่อพอถึงเวลาได้ใช้กลับไม่ให้ใช้ =_=;;

            หลังจากที่พิธีกรสัมภาษณ์ BEAST ทั้ง 6 คนพอหอมปากหอมคอแล้ว พวกเขาก็เริ่มมาสัมภาษณ์พวกเราที่ยื่นอยู่ถัดมาจากบีสท์ ซึ่งฉันยืนอยู่ริมสุดติดกับ ยูนดูจุน ลีดเดอร์ของ BEAST

            ดูหมอนี่มองฉันสิ! ตาเยิ้มเชียว อายไลน์เนอร์แทบจะเยิ้มออกมาแล้วน่ะ -///-

            “ผมว่าหลายๆ คนในที่นี้คงรู้จักสาวๆ วงนี้กันหมดแล้ว แต่อยากให้แนะนำตัวเป็นทางการหน่อยครับ”  พิธีกรชายร่างอ้วนกลมพูด ฉันเลยเริ่มแนะนำตัวเป็นคนแรกในฐานะที่เป็นลีดเดอร์

            “สวัสดีค่ะ ชื่อเภ โคฟเวอร์ตำแหน่งยูนดูจุนค่ะ”  พอฉันพูดจบและโค้งให้เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้น ส่วนบีสท์ก็ปรบมือให้ ตามด้วยเมมเบอร์คนอื่นๆ ที่เริ่มแนะนำตัว

            “สวัสดีค่ะ ชื่อเฝ้าฝัน โคฟเวอร์ตำแหน่งยังโยซอบ”

            “สวัสดีค่ะ ชื่อวิลล่า โคฟเวอร์ตำแหน่งลีกีกวังค่ะ”

            “สวัสดีค่ะ ชื่อณัช โคฟเวอร์ตำแหน่งยงจุนฮยอง”

            “สวัสดีค่ะ ชื่อหยา โคฟเวอร์ตำแหน่งซนดงอุนค่ะ”

            “สวัสดีค่ะ ชื่อดอกหลิว โคฟเวอร์ตำแหน่งจางฮยอนซึงค่ะ”

            สิ้นสุดการรายงานตัว ก็มีเสียงกรี๊ดให้พวกเราอีกครั้ง หลังจากนั้นพวกเราลงจากเวทีมาพร้อมๆ กับ BEAST ทั้ง 6 คน

            “จะเก่งขนาดไหนมันก็มือสมัครเล่นล่ะน่า พอพวกเราขึ้นไปก็ทำหน้าเหลอหลาจนเห็นได้ชัด”  เสียงบ่นเป็นภาษาเกาหลีของจุนฮยองดังขึ้นเมื่อเดินเข้ามาถึงห้องแต่งตัวรวม พวกเราหยุดฝีเท้าที่กำลังเดินอยู่แทบจะพร้อมกันและหันไปมองหน้าจุนฮยองเป็นตาเดียว

            ฉันเคยได้ยินว่าจุนฮยองเป็นคนเลือดร้อนและปากร้ายแต่ไม่นึกว่าจะขนาดนี้ เขาคงจะคิดว่าพวกเราฟังเขาไม่รู้เรื่องล่ะสิ =_=!

            “นี่!!...”

            “เอ่อ...เหนื่อยไหมเด็กๆ ^^”  ขณะที่ณัชสาวหล่อเลือดร้อนของวงเรากำลังจะต่อว่าจุนฮยอง พี่มะนาวก็เข้ามาขัดไว้

            “นาบีบอกว่าห้ามพูดภาษาเกาหลีเด็ดขาด”  พี่มะนาวกระซิบขณะที่ทีมงานพา BEAST ทั้ง 6 คนไปพัก พวกเขามองพวกเราด้วยสายตาแปลกใจแต่ก็ยอมเดินตามทีมงานไปโดยดี

            “ทำไมล่ะคะ ถ้าไม่ให้เราใช้แล้วจะสอนพวกเราทำไม คอยฟังคนอื่นนินทารึไง!!”  ณัชขบกรามพูดอย่างเหลืออด ก็จริงอย่างที่ณัชพูดน่ะนะ จะสอนทำไมถ้าจะไม่ให้เราใช้

            “มันยังไม่ถึงเวลา...”  พี่มะนาวพูดแล้วลดสายตาลง ทำให้ณัชดูอ่อนลงนิดหน่อย

            “แล้วพวกเขาขึ้นไปร้องเพลงกับพวกเราได้ยังไงกันคะ ยังไม่ถึงคิวเขาไม่ใช่หรอ”  ดอกหลิวถาม

            “เขาบอกว่าบีสท์อยากทดสอบพวกเธอ...”  พี่มะนาวตอบอย่างลำบากใจ

            “เอาล่ะๆ วิลว่า เราไปหาอะไรกินกันดีกว่า มาโชว์ตัววันนี้คงจะได้ตังค์เยอะใช่ไหมคะพี่มะนาว ^^”  วิลล่าพูดเพื่อไม่ให้บรรยากาศตึงเครียดไปมากกว่านี้ ขอบใจนะวิล เธอช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นเยอะ ขนาดฉันที่เป็นลีดเดอร์เมื่อกี๊ยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้เลย -_-;

          

            พวกเรามาฉลองหลังจากงานใหญ่จบลงที่ผับแห่งหนึ่ง แต่วันนี้เฝ้าฝันมีสอบ เลยต้องอยู่อ่านหนังสือ แบบนี้แหละนักศึกษาแพทย์ มีแต่อ่านกับอ่าน เหนื่อยแทนเลยฉัน -_-

            “ดูยัยวิลสิ เต้นสะบัดกลางฟลอร์จนคนอื่นต้องถอยให้มัน”  ดอกหลิวพูดขณะพยักพเยิดไปที่วิลล่าน้องอายุน้อยที่สุดในวง ที่กำลังวาดลวดลายอยู่กลางฟลอร์

            “หยา แกทำไมไม่ไปเต้นกับวิลล่ะ”  ฉันหันไปถามหยาที่เอาแต่กระดกแอลกอฮอล์แก้วแล้วแก้วเล่าเหมือนว่ามันเป็นแค่น้ำเปล่า เพราะปกติหยาจะไม่พลาดที่จะออกไปเต้น

            “ไม่อ่ะ ไม่ค่อยมีอารมณ์”  หยาตอบแล้วกระดกต่อ

            “มันทะเลาะกับแฟนมา อย่าไปสนใจเลย”  ดอกหลิวกระซิบบอกฉันเบาๆ เฮ้อ...นี่ล่ะน้า คนเรา มีแฟนแล้วก็คลุ้มไปอีกแบบ แต่คนไม่มีนี่สิ...กลุ้มกว่า =_=;

            “คนนั้นคุ้นๆ นะ”  พี่มะนาวพูด ฉันเลยมองตามสายตาของพี่มะนาวไปที่วิลล่าที่กำลังเต้นคลอเคลียกับผู้ชายคนหนึ่ง ดูจากตรงนี้ ผู้ชายคนนั้นหน้าตาดูดีเอาการเลยทีเดียว สันดั้งนี่โด่งได้รูปรับกับรูปหน้าเรียวๆ ได้พอดี ใครกันนะ ฉันก็รู้สึกคุ้นๆ เหมือนกันอ่ะ แต่เขาใส่หมวกบังหน้า เลยมองไม่ถนัด -_-?

            “หึ!”  พี่นาบีปลายตามองแล้วหัวเราะในลำคอก่อนจะกระดกอีกแก้วเข้าปากในช็อตเดียว

            “ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”  ณัชพูดแล้วลุกขึ้นจากมุมมืด ดูหน้าบึ้งๆ คงจะยังอารมณ์ค้างตั้งแต่เมื่อหัวค่ำล่ะมั้ง ฉันเลยไปเป็นเพื่อน

            ฉันทำธุระเสร็จก็เดินออกมาส่องกระจก แต่ยังไม่ทันที่จะได้ส่องก็มีเสียงเอะอะอะไรสักอย่างหน้าห้องน้ำ

            “ก็บอกว่าอย่าถ่ายไงเล่า ฟังไม่รู้เรื่องรึยังไงห๊ะ!!!”  เสียงของณัชเริ่มดังขึ้น ขณะที่ผู้คนก็เริ่มกรูกันเข้ามาดูเหตุการณ์อย่างสนอกสนใจ

            “ณัช เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”  ฉันเข้าไปสะกิดไหล่ณัชที่กำลังปัดกล้องออกให้พ้นจากหน้าผู้ชายคนหนึ่งที่ก้มหน้าก้มตาหลบกล้องอยู่...เอ๊ะ! หรือว่าผู้หญิง? หน้าสวยจัง แต่แต่งตัวเป็นผู้ชายนี่นา งั้นเรียกผู้ชายก่อนแล้วกัน =_=;

            “รีบพาออกไปจากตรงนี้ก่อน แล้วค่อยเล่า”  ณัชพูดแล้วพาผู้ชายคนนั้นเดินออกจากกลุ่มคนตามทางที่ฉันเพิ่งจะแหวกเข้ามา พอเดินมาถึงทางหนีไฟ ณัชก็ล็อคประตูทันที

            “ตึกๆๆ เปิดเดี๋ยวนี้นะ!!”  เสียงผู้หญิงที่ตามถ่ายรูปเมื่อกี๊ทุบประตูหนีไฟจนพวกฉันที่อยู่อีกด้านของประตูแทบจะไม่ได้ยินเสียงเพลงจากผับเพราะเสียงทุบประตูมันดังกลบหมด

            “มันเรื่องอะไรกัน ผู้ชายคนนี้เป็นใคร”  ฉันชี้ไปที่ผู้ชายที่เพิ่งพาเดินฝ่าฝูงชนออกมา

            “I’m sorry.”  ผู้ชายคนนั้นพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนจะถอดหมวกที่ใส่ปิดหน้าออกมา

            “ฮะ...ฮยอนซึง!! OoO!”  ฉันตาค้างทันทีที่เขาถอดหมวกออก ทำไม BEAST ถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ได้เนี่ย OoO!!

            “ทีแรกฉันนึกว่าผู้หญิงถูกรุมตบเพราะมีแต่ผู้หญิงยืนขวางทางเต็มไปหมด ที่ไหนได้เป็นนายหน้าสวยนี่โดนรุมถ่ายรูปอยู่”  ณัชพูด ขณะที่ฮยอนซึงมองฉันกับณัชพูดตาปริบๆ เขาคงจะคิดในใจว่ายัยพวกนี้พูดอะไรกันอยู่น่ะ -_-;

            “เอ่อ...”  ฉันกำลังจะถามฮยอนซึงว่า เพื่อนๆ เขาอยู่ที่ไหนเพื่อจะได้พาไปส่งถูก แต่หน้าของพี่นาบีก็ลอยมาทำให้ฉันพูดภาษาเกาหลีไม่ออก ฮึ่ย! เอาไงล่ะทีนี้ ภาษาเกาหลีก็พูดไม่ได้ -_-*

            “Where are your friends.”  ณัชถามฮยอนซึงด้วยภาษาอังกฤษง่ายๆ ฮยอนซึงชี้เข้าไปในผับ ทำให้ฉันกับณัชถึงกับถอนหายใจเพราะว่าถ้าจะพาออกไปก็ต้องฝ่าฝูงชนที่ยืนรออยู่หน้าประตูนับร้อยให้ได้ ซึ่งไม่ใช่แค่ฮยอนซึงเท่านั้นที่จะโดนจิกโดนทึ้ง ไอ้คนที่พาออกไปมันก็จะโดนด้วยนี่สิที่คิดหนัก =_=;;

            ครืดๆ

            มือถือฉันสั่นได้เวลาพอดี ฉันเลยรีบกดรับสายเพราะว่าวิลล่าโทรมา (เพิ่งจะคิดว่าตัวเองเอามือถือมาด้วย =_=)

            “วิลล่า!..”  ฉันรับสายอย่างรีบร้อน แต่ฟังดูเหมือนปลายสายก็รีบร้อนไม่แพ้กัน

            [ลีดเดอร์! ตอนนี้ลีดเดอร์อยู่ไหน]  วิลล่ารีบพูดจนลิ้มแทบจะพันกัน ฉันบอกยัยวิลหลายครั้งแล้วว่าเลิกเรียกฉันว่าลีดเดอร์ได้แล้วเพราะว่ามันยาว แต่ยัยวิลก็ยังเรียกทั้งๆ ที่กำลังรีบ อย่างเช่นตอนนี้ =_=

            “อยู่ แถวๆ ห้องน้ำ”  ฉันพูดเพื่อรอฟังปฏิกิริยาจากปลายสาย

            [ดีเลย ตอนนี้วิลกับคนอื่นๆ กำลังเดินไปที่บันไดหนีไฟ พี่รีบเดินล่วงหน้าไปก่อนเลยนะ...]  วิลล่าตะโกนแข่งกับเสียงร้องโหวกเหวกข้างๆ จนฉันต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูนิดหน่อยก่อนจะเอากลับมาเพื่อพูดกับปลายสาย

            “มาบันไดหนีไฟทำไม...เดี๋ยว!!”  ฉันร้องใส่โทรศัพท์ทั้งที่วิลล่าตัดสายไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย

            “อ้าว!! ล็อคอ่ะ”  เพียงไม่กี่นาที ก็มีเสียงวิลล่าดังอยู่หน้าประตูบันไดหนีไฟพร้อมกับแสงแฟล็ตสว่างวาบๆ ลอดเข้ามาใต้ช่องประตู

            “วิลนี่”  ณัชหันมาพูดกับฉัน ฉันพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปยืนใกล้ๆ กับบันไดหนีไฟ ก่อนจะกดโทรออกไปหาวิลล่า

            “ฮัลโหลลีดเดอร์!”  เสียงวิลล่ารับโทรศัพท์ดังทะลุประตูเข้ามาให้ได้ยินโดยไม่ต้องเอาหูแนบกับโทรศัพท์เลย

            “ถ้าประตูหนีไฟเปิดปุ๊บ รีบเข้ามาเลยนะ เข้าใจไหม”  ฉันรีบพูดเร็วๆ

            “แล้วมันจะเปิดได้ยังไงล่ะมันล็อคอยู่เนี่ย!!”  เสียงวิลล่าตะโกนทะลุประตูเข้ามาอย่างร้อนรน ฉันไม่ตอบอะไรนอกจากเตรียมจะเปิดล็อคประตูให้วิลล่า แต่ณัชก็พูดขัดขึ้นมาซะก่อน

            “คนข้างนอกเยอะเกินไป ถ้าปลดล็อคประตู ประตูต้องเปิดอ้าซ่าแน่ เราสองคนคงผลักไว้ไม่อยู่แน่”  ณัชออกความเห็น ทำให้ฉันชะงักมือที่กำลังจะเปิดล็อคประตูทันที เออว่ะ...ลืมคิดไปเลยแฮะ

            “เดี๋ยวผมช่วย”  ฮยอนซึงพูด (ภาษาเกาหลี) พร้อมกับเดินมายืนอยู่กึ่งกลางระหว่างฉันกับณัช

            ทันทีที่เราปลดล็อคประตูก็เป็นไปตามคาด ประตูถูกแรงดันดันเข้ามาจนเรา 3 คนแทบจะต้านไม่อยู่ พอพวกเราเข้ามากันครบแล้วเราก็ช่วยกันผลักประตูปิดลงอย่างหวุดหวิด

            “ทำไมลีดเดอร์อยู่ในนี้ล่ะ อ้าว! ฮยอนซึง!!”  วิลล่าอุทานออกมาเมื่อหันไปเห็นฮยอนซึงยืนอยู่ข้างๆ ฉัน

            ฉันว่าฉันควรจะตกใจมากกว่านะวิลล่า เพราะคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอน่ะ BEAST ทั้งวงเลย =_=!

            “แล้วทำไมพวกเขา?...”  ฉันพยักพเยิดไปที่บีสท์ที่ยืนปาดเหงื่ออยู่อย่างงงๆ

            “ก็อย่างที่เห็น พวกเขาหนีออกมาเที่ยวกัน แต่ดันมีคนจำได้เลยเกิดเรื่อง”  พี่มะนาวเล่าอย่างย่อๆ ก็ทำให้ฉันเข้าใจ

            “ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้วุ่นวายกัน”  ดูจุนพูด (ภาษาเกาหลี) พร้อมกับผงกศีรษะลงเล็กน้อยให้กับพี่มะนาว

            “ไม่เป็นไรค่ะ”  พี่มะนาวตอบ (ภาษาเกาหลี)

            ฉันสงสัยจังว่าทำไมทั้งพี่มะนาวและพี่นาบีถึงไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือประหม่าเลยเวลาพูดคุยหรือเจอกับบีสท์เลย...แล้วนี่พี่นาบีไปไหนซะแล้วล่ะ! นับวันยิ่งทำตัวลึกลับนะผู้หญิงคนนี้ -_-?

            “พี่นาบีกลับตั้งแต่เภกับณัชลุกมาเข้าห้องน้ำแล้ว”  ดอกหลิวกระซิบเหมือนอ่านใจฉันออก ขอบใจหลิว -_-

            “แล้วเราจะออกไปยังไงล่ะทีนี้”  หยาพูดขณะมองไปที่ประตูอีกบานที่อยู่ต่อกับลานจอดรถนอกผับ ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยประชาชีสาวไทยเกาะอยู่เต็มประตู ขนาดดื่มมากขนาดนั้นยังมีสติหาทางออกอีก คอแข็งจริงๆ ยัยคนนี้ -_-

            “ฮัลโหล...อืม...อื้ม เข้าใจแล้ว”  พี่มะนาวรับสายเรียกเข้าและคุยอย่างเคร่งเครียดก่อนจะเดินมาคุยกับฉัน

            “เภกับณัชเอารถมาใช่ไหม”  พี่มะนาวถาม ฉันกับณัชมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

            “เราจะแยกเป็นทีม”  พี่มะนาวพูดภาษาเกาหลีกับพวกเราทั้งที่บอกไม่ให้เราพูด “ทีมแรกจะมีเภ วิล ดูจุน ดงอุน ทีมที่สอง...”

            “ทำไมต้องให้ดงดูจุนไปกับเภอ่ะ!”  ฉันถามขึ้นแทรก (ภาษาไทย) ฉันไม่อยากเข้าใกล้นายคนนี้เลย สายตาไม่น่าไว้วางใจ -_+

            “เอาน่าเภ ตอนนี้ไม่มีเวลามาเลือกแล้วนะ พี่แค่อยากให้ช่วยคุ้มกันบีสท์เท่านั้นเอง” พี่มะนาวพูดเป็นภาษาไทยกับฉัน และต่อด้วยภาษาเกาหลีอีกที ฉันพอจะเข้าใจแล้วล่ะ ที่พี่มะนาวพูดภาษาเกาหลีเพราะอยากให้บีสท์เข้าใจด้วย จะได้ไปถูกกลุ่ม

            “ต่อนะ...ทีมที่สองมีณัช  หลิว กีกวัง ฮยอนซึง และทีมสุดท้าย มีพี่ หยา โยซอบแล้วก็จุนฮยอง  จะมีคนแอบขับรถตู้ของบีสท์ออกไป พวกนั้นจะเข้าใจผิดว่าบีสท์กลับไปแล้ว เราจะใช้โอกาสตอนที่พวกนั้นวิ่งตามรถหนีออกไปจากที่นี่ เข้าใจไหม”  พวกเราทั้งหมดรวมทั้งบีสท์พยักหน้าพร้อมกัน บีสท์เงยหน้าขึ้นมาเราอย่างประหลาดใจเมื่อเราพยักหน้ารับกับภาษาเกาหลี มันดูไม่เนียนเลยว่าไหม เด็กเกาหลีขวบเดียวยังรู้เลยว่าพวกฉันฟังเกาหลีออก =_=

            “อยู่รวมเป็นกลุ่มไว้นะ พี่จะหาสวิตส์ดับไฟ พวกนั้นจะได้มองเข้ามาไม่เห็น”  พี่มะนาวยังคงพูดด้วยภาษาเกาหลี พวกเราแยกกันมายืนเป็นกลุ่มๆ และพอไฟตรงช่องทางหนีไฟดับลงไม่กี่นาที เสียงโวยวายที่บ่งบอกถึงความชุลมุนของด้านนอกก็ดังขึ้น และเป็นไปตามแผน แฟนคลับที่เกาะติดประตูอยู่เมื่อกี๊รีบวิ่งตามรถตู้คันหนึ่งไป

            “ตอนนี้แหละ”  พี่มะนาวกระซิบ (ภาษาเกาหลี)

            “ลีดเดอร์ ลีดเดอร์อยู่ไหน”  วิลล่าร้องเบาๆ ขณะย่องออกมาที่ประตูที่ติดต่อกับโรงรถ ฉันเลยกวาดมือสะเปะสะปะไปตามความมืด จนกระทั่งคล้ามือของใครสักคนหนึ่งได้ มันไม่เหมือนมือวิลเลยอ่ะ -?-

            “ใช่วิลล่ารึป่าว”  ฉันถาม

            “เอ่อ...ชะ ใช่ค่ะลีดเดอร์”  วิลล่าตอบอย่างไม่ค่อยมั่นใจ แต่ฉันไม่มีเวลางงได้นานกว่านี้เพราะแฟนคลับบางคนที่วิ่งตามรถไปไม่ทันกำลังเดินกลับมาทางนี้แล้ว O_O!

            “วิ่ง!!”  เสียงของพี่มะนาวดังขึ้น พวกเราเลยออกวิ่งไปที่รถของตัวเองอย่างไว ทำไมยัยวิลล่าหนักงี้ล่ะ ลากวิ่งมาได้ยังไม่ทันไร เหนื่อยซะแล้ว Y_Y

            “คันไหนครับ”  เสียงทุ้มนุ่ม (ภาษาเกาหลี) ของใครสักคนดังขึ้นจากข้างหลังฉัน มันใกล้จนฉันต้องหันไปมอง อ้าว! วิลล่ากำลังวิ่งมากับดงอุน แล้วฉันลากใครมาล่ะ O_O?

            “เฮ้ย!!”  ฉันอุทานออกมาอย่างไทยๆ =_=! คนที่ฉันลากมาเป็นวิลล่าไม่ใช่หรอแล้วทำไมเป็นนายดูจุนนี่ได้ล่ะ TOT! ฉันพยายามสะบัดมือออกจากมือของนายดูจุน แต่นายคนนี่จับไว้ซะแน่น ทำไงล่ะไม่มีเวลามายื้อมือกันเล่นแล้ว เพราะตอนนี้พวกแฟนคลับรู้ตัวแล้วว่าโดนหลอก โกยก่อนแล้วกันนะโยมมม...>_<!!

            “ยัยคนนั้นน่ะ จะพาดูจุนกับดงอุนของเราไปไหน หยุดนะ!!”  เสียงแหลมๆ ของแฟนคลับไทยดังตามหลังมา ฟังดูคงอิจฉาฉันน่าดูที่ได้จูงมือดูจุน แต่ฉันอยากให้เธอเข้าใจฉันหน่อย นายดูจุนของเธอต่างหากที่ไม่ยอมปล่อยมือฉัน T^T

            “บอกให้หยุดไง!!”  สิ้นสุดเสียงแค่ไม่กี่วิ อะไรสักอย่างก็ลอยลิ่วปลิวลมมาชนแขนฉันอย่างจัง

            พลั่ก!!!

            “โอ๊ย!!”  ฉันร้อง แล้วขามันก็หยุดวิ่งอย่างอัตโนมัติ อ๊ากส์ ยัยนั่นเขวี้ยงส้นสูงมาใส่ฉันหรอ TOT ฉันใช้มือที่ว่างขึ้นมากุมบริเวณที่เจ็บแล้วออกวิ่งต่อ และก่อนที่ส้นสูงอีกนับไม่ถ้วนจะลอยมาโดนหัวฉันก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น นั่นก็คือ...นายดูจุนวิ่งมาโอบฉันไว้เพื่อใช้ตัวเองเป็นโล่กำบังแล้วเราก็วิ่งออกไปพร้อมๆ กัน -///-

            “ไม่เป็นไรนะ”  ดูจุนถามฉัน (ภาษาเกาหลี) ขณะออกวิ่ง

            “เข้าไปเร็ว”  ฉันปลดล็อครถด้วยรีโมทเมื่อวิ่งเข้ามาได้ใกล้พอ เราทั้ง 4 คนเข้ามาในรถอย่างหวุดหวิด ก่อนจะออกรถไปอย่างรวดเร็ว

            “วิล โทรถามพี่มะนาวหน่อยว่าไปเจอกันที่ไหน”  ฉันบอกวิลล่าที่นั่งอยู่เบาะหลังคู่กับดงอุน คงไม่ต้องบอกนะว่าใครนั่งคู่กับฉันข้างหน้า -_-

            “อ๋อ พี่มะนาวส่งข้อความมาบอกแล้วค่ะ บอกว่าให้ไปรวมกันที่โรงเรียน”  วิลอ่านข้อความให้ฉันฟัง

            “โอเค”  ฉันรับคำแล้วเร่งเครื่องเต็มกำลังเพราะกองทัพแฟนคลับบีสท์กำลังบึ่งรถตามจี้ก้นมาติดๆ แล้ว

            หลังจากที่พาแฟนคลับบีสท์เข้าตรอกซอกซอยจนหลงเรียบร้อยแล้ว ฉันก็มุ่งหน้าไปที่โรงเรียนดนตรีคังยู ซึ่งเป็นโรงเรียนดนตรีของพี่นาบี โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนดนตรีครบวงจร สอนวิชาการดนตรีทุกแขนงที่ต้องการเรียน การจะเข้าโรงเรียนนี้ได้ต้องออร์ดิชั่นคัดเกรดเข้าเรียน ซึ่งพี่นาบีจะเป็นแค่คณะกรรมการการออร์ดิชั่นเท่านั้นจะไม่สอนให้ใคร

            แต่สำหรับพวกเรา 6 คนเป็นข้อยกเว้น จนคนทั้งโรงเรียนต่างเรียกพวกเราอย่างประชดๆ ว่า ‘ลูกรัก’ อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสงสัย =_=? ทั้งที่พวกเราทั้ง 6 คน ไม่มีพื้นฐานการเต้นและการร้องเลย แถมอยู่ชั้นที่มีเกรดต่ำมากเมื่อสอบเทียบกับรุ่นเดียวกัน แค่มีเสียงเป็นทุนเท่านั้นเอง แต่พี่นาบีก็ขุดพวกเราขึ้นมาสอนๆๆ จนได้ดี ด้วยเหตุผลนี้แหละค่ะถึงไม่มีใครในวงพูดถึงข้อสงสัยที่มีในตัวอาจารย์คนนี้เลย

            “พวกเธอฟังภาษาเกาหลีออกใช่ไหม?”  อยู่ๆ ดูจุนก็พูดขึ้น (ภาษาเกาหลี) หลังจากที่เงียบอยู่นาน ฉันแอบมองวิลล่าผ่านกระจกมองหลัง ซึ่งวิลล่าก็กำลังมองตอบมาเหมือนกัน

            “I don’t understand. ...What did you say?”  ฉันมองถนนข้างหน้าพร้อมกับพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้มีท่าทีพิรุธ

            “งั้นหรอ...ไม่เข้าใจจริงๆ สินะ...แบบนี้น่าจะเปิดสอนตัวต่อตัวแล้วล่ะมั้ง หึหึ”  ดูจุนพูด (ภาษาเกาหลี) พร้อมกับหัวเราะในลำคออย่างร้ายกาจก่อนจะเอื้อมมาจับมือฉันที่วางอยู่ในที่เปลี่ยนเกียร์รถ

            เอี๊ยด!!!

            ฉันเหยียบเบรกกะทันหันกับการกระทำและคำพูดสองแง่สองง่ามของนายดูจุน ก่อนจะหันไปค้อนใส่เขาทีนึง

            “นั่นไงล่ะ ไหนว่าฟังไม่รู้เรื่องไง”  ดูจุนพูด (ภาษาเกาหลี) พร้อมกับหลิ่วตามองฉันอย่างจับผิด

            “ถึงแล้ว!!!”  ฉันพูดก่อนจะเดินลงจากรถ ทำไมฉันต้องหน้าแดงเพราะหมอนี่ด้วยล่ะเนี่ย -///-!

 

 

 

*******************************


ฝากคอมเม้นติชมด้วยนะคะ 

ไว้เจอกันตอนต่อไปค่ะ ^O^

********************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา